บทสวดมนต์ 3 ร่มโพธิ์ศรี

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย Ajarn Pithak, 21 กรกฎาคม 2010.

  1. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    [​IMG]

    [​IMG][​IMG] บทสวดมนต์ 3 ร่มโพธิ์ศรี
    [​IMG][​IMG]


    สามร่มโพธิ์ฅุณ สามร่มโพธิ์แก้ว สามร่มโพธิ์ศรี
    ๑. สามปลายคุณ
    พุทธะฅุโณ โลกาณัง สัจจัง ธัมมะฅุโณ โลกาณัง สัจจัง สังฆฅุโณ โลกาณัง สัจจัง​
    ๒. สามกกที่พึ่ง
    พุ ทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ๓. สามเหง้าหล่อเลี้ยง
    พุทธาณุภาเวณะ มหัพพราหมณะ ธาระณะ​
    ธัมมาณุภาเวณะ มหัพพราหมณะ ธาระณะ​
    สังฆาณุภาเวณะ มหัพพราหมณะ ธาระณะ​
    ๔. สามต้ณอาศัย
    พุทโธ เมณาโถ ธัมโม เมณาโถ สังโฆ เมณาโถ​
    ๕. สามยอดยิ่งชีวิตจิตใจ
    พุทธัง อายุวัจจะณัง เตชีวิตะ ชีวิตัง มรณะ มรณัง ยาวะณิพพาณัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ธัมมัง อายุวัจจะณัง เตชีวิตะ ชีวิตัง มรณะ มรณัง ยาวะณิพพาณัง สะระณัง คัจฉามิ​
    สังฆัง อายุวัจจะณัง เตชีวิตะ ชีวิตัง มรณะ มรณัง ยาวะณิพพาณัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ๖. บทสวดสามแก้วสว่างไสวรุ่งเรือง
    พุทธะ รัตณะ ติณณัง รัตณาณัง อาราธณาณัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ธัมมะ รัตณะ ติณณัง รัตณาณัง อาราธณาณัง สะระณัง คัจฉามิ​
    สังฆะ รัตณะ ติณณัง รัตณาณัง อาราธณาณัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ๗. บทสวดสามยิ่งกำแพงโอบรักษา
    พุทธัง สัตตะ รัตณะหาปะการัง อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ธัมมัง สัตตะ รัตณะหาปะการัง อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ​
    สังฆัง สัตตะ รัตณะหาปะการัง อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ​
    ๘. บทสวดร่มโพธิ์ฅุณ สามร่มโพธิ์ศรี
    พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทโธ พุทธัง อะระหังพุทโธ อิติปิโส ภะคะวา ณะโมพุทธายะ​
    ณะมะพะธะ จะพะกะสะ อิติสิจะ ณะมะอะอุ ทุกขัง อณิจจัง อณัตตา​
    ธัมมะ ธัมมา ธัมเม ธัมโม ธัมมัง อะระหังธัมโม สวากขาโต ภะฅะวะตาธัมโม​
    ณะโมธัมมายะ ณะมะพะธะ จะพะกะสะ อิติสิจะ ณะมะอะอุ มะอะอุ ทุกขัง อณิจจัง อณัตตา​
    สังฆะ สังฆา สังเฆ สังโฆ สังฆัง อะระหังสังโฆ สุปะฏิปัณโณ ภะฅะวะโต​
    สาวะกะสังโฆ ณะโมสังฆายะ ณะมะพะธะ จะพะกะสะ อิติสิจะ ณะมะอะอุ มะอะอุ ทุกขัง อณิจจัง อณัตตา​
    ๙. บทสวดสามหณ่อผุดกำเณิดเกิดขึ้ณ
    พุทธัญจะ พุทโธ โหมิ ธัมมัญจะ ธัมโม โหมิ สังฆัญจะ สังโฆ โหมิ​
    ณะมามิหัง ภัณเต ภะฅะวา โหตโณ ภัณเต ภะคะวา ณะมามิ​
    พุทธัญจะ พุทโธ โหมิ ธัมมัญจะ ธัมโม โหมิ สังฆัญจะ สังโฆ โหมิ​
    สะระณัง ฅะโต สะมีมะหัณตา ฐิณณะ ขัณธุกา ธาตุกา พุทธิกา ธัมมิกา สังฆิกา​
    สาสะปะมัตตา​
    เอวังธาตุ เอวังขัณตุ เอวังโหตุ โหตุโณภัณเต ภะคะวา ณะมามิ​
    สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิกาลัง ตะถาฆะตัง กัญเจวะ สัมภะวัง สิทธิปุญญัง​
    สิทธิ ศีลัง กะตังปุญโญ สิทธิธาณัง กะตังปุญญะ สิทธิลาภัง ชะญังณิจโญ​
    สิทธิลาโภ ชะโญณิจจัง สิทธิเตชัง มหัพพราหม ณุภาเวณะ สิทธิกัมมัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเมโหตุ​
    บทอธิษฐาณ
    ข้าพเจ้าอารา ธณาพระบริสุทธิฅุณ พระกรุณาธิฅุณ พระปัญญาธิฅุณ พระวิริยาธิฅุณ​
    พระศรัทธาธิฅุณ พระแก้ว ณ หรฅุณ ณ บารมี พระธัษสะทศพล พระสมติงสะ​
    พระบุพเพณิวาศา พระกตปุญญะกตา พระปุญญะธาณัง พระปุญญะสีลัง​
    พระกตปุญญัง พลังมัยหัง กตปุญโญ สุขโขโหมิ​
    อุกาสะ อิ มิณา ปุญญะเตเชณะ อาณุภาเวณะ ด้วยเตชะบุญ ผลาอาณิสงฆ์ บุญชาติวาสณา ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญสร้างสาสะสม เต็มถ้วณดีแล้ว ให้ได้ผกผัณพลิกฟื้ณกายกลับ สลายร้ายใจดี รอดบ่วง พ้ณมาร ผกผัณพลิกฟื้ณกายกลับ กลายเป็ณณ้ำณมทิพย์ กลายเป็ณทิพยมณต์ กลายเป็ณทิพย์โอสถ กลายเป็ณโอสถทิพย์ กลายเป็ณดวงแก้วฉัพพรรณรังสี เป็ณแก้ว ณ บารมีถ้วณประการ เป็ณแก้วกัลป์พฤกษ์ เป็ณแก้วสรรพณึก เป็ณแก้วเณรมิต สารพัดสรรพสิ่ง เป็ณเงิณฅำกำแก้ว แก้วแหวณเงิณทอง เพชรณิลจิณดา แก้วสาวาสิ่ง ทรัพย์สิณศฤงฅาร บริพารพร้อมพรั่งเต็มเดียรดาษภาคพื้ณมากมี เป็ณเสบียงคลังเก็บ เป็ณเครื่องหล่อเลี้ยงรำเรียงส่ง เป็ณหยาดเยื่อสายใญ หยาดใญ สายเยื่อ ใณข่ายพระญาณแห่งบรมโพธิญาณแก้ว แห่งมรรฅผล มรรฅญาณ เป็ณญาณวิถี ฉัพพรรณรังแสงเปล่งรัศมี ฉัพพรรณรังสี ประสาทประสิทธิฅุณ สู่ธาตุ สู่ขัณธ์ สู่จิต สู่ใจ สู่รูปกายธาตุขัณธ์อิณทรีย์ ชีวิตจิตใจ แห่งมวลหมู่สรรพเวไณย์ เป็ณมิจฉาทิฐิ ให้ผัณพลิกเป็ณ สัมมาทิฐิถ้วณหณ้า เสวยชาติภูมิประเสริฐใณแดณมณุษย์เลิศ ประสาทประสิทธิฅุณถึงพร้อมใณมณุษย์สมบัติ ได้ครองสมบัติมณุษย์ เสวยทิพยสุขส่วณสาม ใณความสมมั่งสมมี สมบูรณ์ สมเต็ม สมเพียง สมพอ สมมา สมให้ สมกิณ สมใช้ สมเหลือ สมเก็บ สมก่อ สมสร้าง สมสา สมสะ สมสม สมจริง สมแท้ สมดี สมใจ สมจิตรจำณงฅ์ สมจิตรประสงฅ์ สมเจตณา สมปราถณา สมถ้วณประสงฅ์ สมใณสรรพสิ่ง สำเร็จเป็ณสม​
    อุดมเป็ณสม ปรากฏเป็ณสม โดยเร็วฉับพลัณ โดยพลัณทัณที ดังวาจาณี้เทอญ​

    อุกาสะ ไปใณชาติภพเวียณว่ายตายวณกำเณิดใณภพกำเณิดส่วณสาม ให้ข้าพเจ้าถือกำเณิดขึ้ณใณพระศาสณาแห่งองฅ์บรมพระสัมมา ให้มีจิตรู้รฤกสำณึกฅุณณอบณ้อม กตเวฑิตา กตัญญูสัตย์ซื่อ ทำดีลดละกิเลสตณ อดทณระงับกลั้ณ อภัยเลิกแล้ว​
    อโหสิ วางไว้ ประมาธเว็ณเสีย ผกผัณพลิกฟื้ณกลายกลับ สลายร้ายใจดี​
    รอดบ่วงพ้ณมาร บูชาสัมมาจริญา ใจใสเบิกบาณ ญิณดียิ่งเลิษ ฤแก้วณฤพาณเธอญ

    ที่มาจาก http://punjalee.com/?p=559&cpage=1#comment-57 [ ออนไลน์ 21/07/53]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  2. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    <table class="MsoNormalTable" border="0" cellpadding="0" height="25" width="760"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]วิถีอนุตตรธรรม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    [FONT=&quot][/FONT]​
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ความเป็นมาอนุตตรธรรม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]...ความสัมพันธ์ระหว่าง "อนุตตรธรรม" และ "ศาสนา"[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]"อนุตตรธรรม มิใช่ศาสนาหรือลัทธิศาสตร์ใดๆ แต่เป็นสัจจธรรมของฟ้าดิน เป็นธรรมอันเที่ยงแท้เป็นหลักหรือรากฐานของทุกชีวิต

    วิถีอนุตตรธรรม จึงเป็นทางเดินที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ศาสนาใด เด็กหรือผู้ใหญ่ พึงได้รับการถ่ายทอดให้รู้ความเป็น ความจริงแห่งชีวิตตน จะได้บำเพ็ญเพื่อการหลุดพ้นโดยตรง หรืออย่างน้อยก็เพื่อมิให้จิตใจหลงใหลเสื่อทรามลง"[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]จากหนังสือสามโลกในธรรมกาลยุคขาว[/FONT][FONT=&quot]
    โดย ศุภนิมิต[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    </td> </tr> </tbody></table> ​
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]บทนำ[/FONT][FONT=&quot]
    อนุ ตตรธรรมและศาสนาแตกต่างกันอย่างไร? ข้าพเจ้าเชื่อว่าคำถามนี้คงจะติดอยู่ในใจของผู้ที่ได้รับ "วิถีธรรม" ดัง นั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้ที่รับวิถีธรรมแล้ว ควรทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างอนุตตระรรมและศาสนา เราทั้งหลายทราบแล้วว่า "อนุตตรธรรม" หมายถึง "หนทาง" หรือ "วิถี ทาง" ที่ทุกสิ่งในโลกต้องดำเนินต่อไป

    อนุตตรธรรม คือ บ่อเกิดและอวสารของสรรพสิ่งในจักรวาล
    อนุตตรธรรมนี้ สูงส่งที่สุด แต่ดูเรียบง่ายที่สุด
    อนุตตรธรรม ไร้รูป ไร้รส ไร้เสียง แต่ไม่มีวันหมดสิ้น
    ในตัวมนุษย์ "สัจจธรรม" ที่ให้เราสัมผัสได้ก็คือ "มโนธรรม" ได้แก่ ความสามารถแยกแยะระหว่างความถูกและความผิด ดีและชั่วเป็นต้น สัจจธรรมที่อยู่ในตัวมนุษย์เป็นพลังซึ่งไม่อาจมองเห็นได้ แต่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตเติบโตและพัฒนาจนถึงที่สุด ฉะนั้นอนุตตรธรรมจึงดำรงรักษาและสัมพันธ์กับทุกสรรพสิ่งในจักรวาล

    เพื่อ ที่มนุษย์จะบรรลุถึงจุดสูงสุด มนุษย์ต้องนำเอา "จิตพุทธะดั้งเดิม" ออกมาใช้ ได้แก่ ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจกัน ความสัตย์ซื่อ ฯลฯ แท้จริงแล้วคุณธรรมความดีเหล่านี้ ตราตรึงอยู่ในตัวคนเรามาโดยธรรมชาติ ซึ่งก็คือ "สัจจธรรม" อันเป็น "ราก" ของทุกศาสนา

    จากอดีต จนถึงปัจจุบัน ศาสนาเกิดขึ้นจากการเทศนาสั่งสอนหลักธรรมของบรรดาพระศาสดาผู้เป็นบรมครูแห่ง ปราชญ์และอริยะทั้งหลาย ได้แก่ พระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเยซูคริสต์ ท่านนบีมุฮัมมัด ท่านเหลาจื้อ ท่านขงจื้อ เป็นต้น

    ทุกพระองค์เปรียบ เสมือน "มงคลประทีป" ที่ส่องแสงสว่างนำทางแก่มนุษย์ทั้งหลาย ให้ได้รู้จักศีลธรรมจรรยาและทรงแนะวิธีค้นหาสัจจธรรม ที่มีอยู่ในตัวเองให้พบ

    ปัจจุบันชาวโลกก็ยังคงมีโอกาสได้รู้จักศาสนา ใหญ่ๆ ของพระบรมศาสดาทั้ง 5 พระองค์ ได้แก่
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]1. ศาสนาพุทธ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ของ พระพุทธเจ้า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]2. ศาสนาคริสต์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ของ พระเยซูคริสต์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]3. ศานาอิสลาม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ของ ท่านบีมุฮัดมัด[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]4. ลัทธิเต๋า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ของ ท่านเหลาจื้อ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]5. ลัทธิยู้ (ขงจื้อ)[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ของ ท่านขงจื้อ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]
    เนื่อง จากอำนาจอิทธิพลของโลกวัตถุเข้าครอบงำ ความมีเมตตากรุณาอันเป็นธรรมชาติเดิมแท้ที่มีในตัวมนุษย์ก็ลบเลือนหายไป สิ่งไม่ดีต่างๆ ได้แก่ความละโมภ อยากร่ำรวยไม่รู้จักพอ ความอยากมีชื่อเสียง อยากมีอำนาจ ฯลฯ ก็เริ่มเข้ามาครอบงำความคิดของคนเรา มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงโลกที่เคยมีแต่ความสุขให้กลายเป็นโลกแห่งการย่ำยีเข่น ฆ่าประหัตประหารซึ่งกันและกัน

    ด้วยเหตุนี้พระอริยะเจ้าทั้งหลายใน อดีต หลังจากที่ทรงค้นพบ "สัจจธรรม" ที่เป็นรากเหง้าของ "จิตวิญญาณ" เมื่อได้บรรลุธรรมแล้วพระศาสดาทั้งหลายก็ต่างเทศนาสั่งสอน ปลุกจิตวิญญาณชาวโลกให้ตื่นขึ้นจากความเสื่อมทราม หลงงมงายอยู่ในสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่พวกเราได้กระทำ[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ท่านขงจื้อได้สอนเกี่ยวกับคุณสัมพันธ์ [/FONT][FONT=&quot]5 และคุณธรรม 8[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]คุณ สัมพันธ์ [/FONT][FONT=&quot]5[/FONT][FONT=&quot] ได้แก่[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]1. บิดามารดาและบุตร[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]พ่อแม่ต้อง ดูแลลูกๆ และลูกๆ ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]2. พี่กับน้อง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]พี่น้องต้องรักใคร่สามัคคีปรองดองซึ่งกันและกัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]3. สามีกับภรรยา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ทั้งสองฝ่ายต้องให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]4. เพื่อนต่อเพื่อน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ต้องมีความซื่อสัตย์จริงใจในมิตรภาพ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]5. ผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครอง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]ผู้ปกครองจะต้องมีความเมตตากรุณา เอื้ออาทรต่อผู้ใต้ปกครอง ผู้ใต้ปกครองก็ต้องมีความภักดีและซื่อตรงต่อผู้ปกครอง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]คุณธรรม[/FONT][FONT=&quot] 8[/FONT][FONT=&quot] คือ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]1. กตัญญูต่อพ่อแม่[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]5. มารยาทดีงาม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]2. สามัคคีปรองดอง [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]6. บริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]3. จงรักภักดี [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]7. ซื่อตรงต่อหน้าที่[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]4. สัจจวาจา [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]8. ละอายเกรงกลัวต่อบาป[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]พระ ศากยมุนีพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเกี่ยวกับ "อริยสัจจ์ [/FONT][FONT=&quot]4" และ "อริยมรรค 8"

    อริย สัจจ์ 4 ได้แก่

    1. ชีวิต คือ ทุกข์
    2. ความโลภ โกรธ หลง เป็นเหตุแห่งทุกข์
    3. การขจัดความโลภ โกรธ หลง จะนำไปสู่ การสิ้นทุกข์
    4. อริยมรรคมีองค์ 8 จะเป็นหนทางให้หลุดพ้นจากความ ทุกข์

    อริยมรรค 8 ได้แก่[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]1. ความเห็นชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]5. อาชีพชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]2. ความคิดชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]6. ความเพียรชอบ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]3. วาจาชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]7. สติชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]4. การงานชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> [FONT=&quot]8. สมาธิชอบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]ใน คัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ สอนถึงพระบัญญัติ [/FONT][FONT=&quot]10 ประการ
    ศาสนาอิสลาม สอนหลักธรรมตามพระคัมภีร์อัลกุรอาน

    พระบัญญัติ 2 ข้อที่ถือเป็นพระบัญญัติล้ำค่าของชาวคริตได้แก่
    ข้อแรก กล่าวว่า "ท่านทั้งหลายจะต้องรักพระเจ้าของท่านจนหมดหัวใจ ด้วยจิตใจและวิญญาณทั้งหมด"

    ข้อที่สอง กล่าวว่า "ท่านทั้งหลายจะต้องรักเพื่อนบ้านและทุกชีวิตเหมือนกับที่ท่านรักตัวของท่าน เอง" ท่านเหลาจื้อได้สอนผู้คน ให้ดำเนินชีวิตอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติที่สุด โดยรู้จักพอใจถ่อมตน สงบ เยือกเย็นและเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน

    ถึงแม้ว่าพระอริยะและนักปราชญ์ ทั้งหลายมีชีวิตอยู่ในที่ซึ่งแตกต่างกันบนโลก แต่ทุกๆ ท่านก็สามารถค้นพบ "หลักธรรม" ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้

    ในคำสอนของพระศาสดา ทั้งหลาย แม้จะใช้ถ้อยคำที่แตกต่างกันอันเนื่องมาจากเพื่อความเหมาะสมกับกาลเวลา ภูมิประเทศและพื้นฐานจิตใจของผู้คนในสมัยนั้นๆ แต่คำสอนของทุกพระองค์ล้วนนำพาผู้คนให้มุ่งไปสู่จุดหมายเดียวกันคือ สามารถเข้าถึง "พระเจ้า" (สัจจธรรมอันสูงสุด)

    ลำธารน้อยใหญ่ ทั้งหลายที่แยกมาจากแม่น้ำสายเดียวกัน อาจมีจุดเริ่มต้นและเกิดขึ้นในเวลาที่ต่างกัน มีชื่อเรียกต่างกันออกไป แต่ก็ยังคงบรรจุน้ำที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน ฉะนั้นสิ่งที่มนุษย์ต้องการและได้รับคุณประโยชน์คือ "น้ำ" ไม่ใช่ "ชื่อ" ของแม่น้ำลำธารทั้งหลาย

    บรรดานักปราชญ์และพระอริยะทั้ง หลายผู้จาก "แดนนิพพาน" ลงมาจุติในโลกมนุษยื ก็เพื่อประทานคำชี้แนะและบอกถึงความจำเป็นที่มนุษย์ทุกคนจะต้องค้นหา "ราก เดิม" และ "สัจจธรรมอันสูงสุด" เพื่อจะได้กลับคืนสู่ "นิพพาน" โดยพร้อมเพรียงกันทั้งหมด

    ในเวลาที่เหลืออยู่ไม่มากทุกๆ คนต้องร่วมใจกัน ปฏิบัติภาระกิจของตนๆ โดยอาศัยหลักสัจจธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เลิกเห็นแก่ตัว ละทิ้งความคิดที่ไม่ดีและกิเลสต่างๆ ให้ได้

    ความลับของ "อนุตตร ธรรม" ถูกซ่อนเร้นไว้ในพระคัมภีร์พระสูตรต่างๆ เพื่อรอการเปิดเผยเมื่อเวลามาถึง ในพระสูตรของพุทธศาสนาบทหนึ่งได้กล่าวว่า ครั้งนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงถือดอกบัวไว้ในมือแล้วชูขึ้นตรง หน้าพระพักตร์

    พระสงฆ์สาวกทั้งหลายที่มาประชุมกันต่างฉงนสงสัยเป็น อย่างมาก มีเพียงพระมหากัสสปะเท่านั้นที่รู้ถึงปริศนาซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดง ท่านจึงยิ้มออกมาเป็นการรับรู้พุทธประสงค์

    พระบรมศาสดาจึงเปล่ง ธรรมกถาขึ้นว่า
    "ตถาคตมีธรรมอันซ่อนอยู่ภายในดวงตา "นิพพาน" สถิตอยู่ในใจของทุกคน สัจจธรรมนี้ไร้รูปลักษณ์และไม่สามารถบอกกล่าวเป็นคำพูด ตถาคตได้ถ่ายทอดสัจจธรรมอันสูงสุดนี้ให้แก่พระมหากัสสปะแล้ว"

    จาก เรื่องราวในพระสูตรนี้ เราพึงรู้ไว้ว่าสัจจธรรมสูงสุดไม่มีรูปลักษณ์ให้เราเห็นได้หรือเขียนอธิบาย ได้ แต่ละคนจะสัมผัสได้ด้วย จิตที่บำเพ็ญมาดีแล้วทั้งนั้น

    ท่าน ขงจื้อได้กล่าวว่า "ได้รับรู้วิถีธรรมในตอนเช้า เย็นตายไม่ห่วงเลย" ดังนั้นนับว่าเราทั้งหลายโชคดีมากและเป็นวาสนาสูงส่งที่ได้มีโอกาสรับรู้ "วิถีธรรม" นี้ เพราะคุณงามความดีและบุญกุศลทั้งของบรรพบุรุษและของตัวเราองที่ได้สร้างสม ไว้ในอดีตชาตินั่นเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]ความแตกต่างระหว่างอนุตตรธรรมและศาสนา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top"> <table class="MsoNormalTable" style="" border="0" cellpadding="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]อนุตตรธรรม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    [FONT=&quot]ศาสนา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]​
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]อนุตตรธรรม เป็นรากของทุกศาสนา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]ศาสนาเป็นกิ่งก้านสาขาใน ลำต้นของ [/FONT][FONT=&quot]"อนุตตรธรรม"[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]อนุตตรธรรมเป็น [/FONT][FONT=&quot]"มโนธรรมสำนึกอันบริสุทธิ์"[/FONT][FONT=&quot] คือ [/FONT][FONT=&quot]"พุทธ จิตธรรมญาณดั้งเดิมของเรา"[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]ศาสนาเป็น หลักธรรมคำสั่งสอนเพื่อชี้นำทาง ไม่ให้เราหลงออกนอก "มโนธรรม" ของ เรา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]อนุตตรธรรมสำแดงให้มนุษย์ได้ประจักษ์แจ้ง ใน [/FONT][FONT=&quot]"สัจจธรรม"[/FONT][FONT=&quot] ด้วยตนเองและนำพามนุษย์เข้าสู่ [/FONT][FONT=&quot]"ชีวิตนิรันดร์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]ศาสนาอบรมสั่งสอนหลักปฏิบัติให้มนุษย์รู้จัก สร้างสมคุณความดีในชีวิตไปตามลำดับขั้น เพื่อชีวิตหน้า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]อนุตตรธรรมเผยแพร่หลักสัจจธรรมเที่ยงแท้ออกไป อย่างกว้างไกลในเวลาที่มหันตภัยคืบคลานใกล้เข้ามา ด้วยพระเมตตาของเบื้องบนที่ต้องการคุ้มครอง ฉุดช่วยสาธุชนผู้ประพฤติดีให้รอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]ศาสนายังคงเผยแพร่คำสั่งสอน เพื่อช่วยให้ผู้คนมีหลักธรรมในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]อนุตตรธรรมจะถ่ายทอดแก่คนที่มีรากบุญ โดยพระวิสุทธิอาจารย์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]ศาสนา : ทุกคนสามารถเลือกปฏิบัติ และบำเพ็ญตนในศาสนาใดก็ได้ตามที่เราศรัทธา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]การตัดสินว่า "อนุตตรธรรม" ควรอุบัติขึ้น เมื่อไหร่และถ่ายทอดลงสู่ผู้ใดเป็นพระวินิจฉัย ของพระองค์ธรรมมรดา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]การตัดสินว่าหลักธรรมคำสั่งสอนในศาสนา ควรจะเผยแพร่ออกไปเพียงใดขึ้นอยู่กับ บรรดานักบวชสาวกทั้งหลายในศาสนานั้นๆ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]สัจจธรรมอันสูงสุดจะสำแดงให้ปรากฏขึ้นเมื่อ ถึงกาลอันควรถือเป็น[/FONT][FONT=&quot] "บุญวาระ" [/FONT][FONT=&quot]และการบำเพ็ญธรรมอย่างถูกเต้องย่อม เกิดขึ้น ตามมาภายหลังที่คนผู้นั้นได้รับรู้ "วิถีธรรม" แล้ว [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> <td style="padding: 0.75pt;" valign="top">
    • [FONT=&quot]ศาสนาอยู่เคียงข้างผู้คนเพื่อชี้แนะให้คนทั้งหลายเดินไป สู่ "อนุตตรธรรม" แต่ไม่อาจเปิดเผย "อนุตตรธรรม" ได้ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]สรุป[/FONT]

    [FONT=&quot] เรา สามารถกล่าวได้ว่า ศาสนาทุกศาสนาได้ตระเตรียมจิตวิญญาณของเรา ให้พร้อมที่จะได้รับ "วิถีอนุตตรธรรม" อันเป็นเส้นทางเดินในช่วงสุดท้ายของการบำเพ็ญธรรมเพื่อกลับคือ "สภาวะเดิมแท้" คือ "นิพพาน" เหตุนี้เองที่ทำให้เราทั้งหลายได้รับรู้วิถีแห่ง "อนุตตรธรรม" อยู่ในขณะนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

    ที่มาจากเว็บ http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=83399.0 [ออนไลน์ 21/07/53]
    </td> </tr> </tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2010
  3. keawwichian

    keawwichian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +200

แชร์หน้านี้

Loading...