ทำไมต้องพิจารณาร่างกาย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Darkever, 22 พฤศจิกายน 2011.

  1. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333

    กิเลศทั้งหลายทั้งปวง คือ ราคะ ความรัก โลภะ ความโลภ โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง ล้วนแล้วแต่หมุนเข้าหาร่างกาย เรามีความรักเพราะอะไร เพราะเราอยากให้กาย มีความสุข มีคนดูแล เราโลภ เพราะอะไร เพราะเราอยากให้ร่างกาย กินอิ่ม นอนหลับ ร่ำรวย เราแต่งตัวสวยงาม เพราะเราอยากให้ร่างกายของเราสว<wbr>ยงาม เราอยากมีรถขับเพราะอะไร ก็เพราะเราไม่อยากให้ร่างกายของ<wbr>รา เมื่อย ไม่ต้องเดิน เป็นต้น ถ้าพิจารณา ให้ดีดีแล้ว จะหยั่งทรายชัด ว่า กิเลศทั้งหลาย หมุนเข้าหา "กาย" ทุกอย่าง กิเลศทั้งหลายทั้งปวง ล้วนแต่มีขึ้น เพื่อตอนสนองต่อความต้องการ ของกาย ทั้งสิ้น เหตุผลนี้แหละ ที่พระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ต่างพากันพิจารณาร่างกาย "ตัดกายตัวเดียว" กิเลศทุกอย่างพังหมด
     
  2. thaijin

    thaijin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +16
    แล้วคุณตัดได้หรือยังครับไม่ต้องการยหรอก ตัดการท่องเน็ตออกเสียจะดีมากไม่หมกมุ่นนะครับส่วนผมยังตัดไม่ได้
     
  3. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ทําไม

    ทําไมถึงคิดว่าการท่องเนต มัน ต้องตัดออกไปล่ะ
    ขนาด พระเถระ ที่บรรลุ ยังต้องศึกษาใน พระไตรปิฏก เลยนะจ๊ะ เเล้วทําไมการท่อง เน็ต มันจึงต้องตัดล่ะ ตัีดเเล้วได้อะไร ไม่ตัดเเล้วได้อะไร ถามไปเเล้วได้อะไร ไม่ถามไปเเล้วจะได้อะไร ว่าเเต่ว่า พี่น่ะต้องการอะไรจากคําถามรุ้เเล้ว ยังจ๊ะ

    ถ้ายังไม่รู้ น้องเเนะว่า ให้ไปหาดูตัวใจที่เริ่มถามดูก่อนว่าต้องการอะไร เช่น ต้องการจะรู้ สับสน สงสัย หรือ กระเเนะกระเเหน่ หรือ มีเหตุใดเจือในคําถามอยู่บ้างไหม ถ้ามี ให้เริ่มตัดตัวนั้นเเหล่ะ ออกไปก่อน (k)(k)(k)(k)(k)
     
  4. ็HEAVEN CEMETERY

    ็HEAVEN CEMETERY Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +26
    สุสานสวรรค์

    อนุโมทนาบุญท่าน Darkever ด้วยครับ
    ขอบคุณธรรมะที่ได้มอบให้กับพวกเราครับ
    ขอบคุณจากใจจริงครับ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ก้อนทุกข์
     
  6. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +348
    อนุโมทนาครับผม กิเลศนี้ ทำให้เกิดภพชาติหน้า ไม่มีสิ้นสุด
     
  7. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,021
    [​IMG]

    "... ธรรมะ คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    พวกเรามองข้ามไปเสียหมด อยู่ที่ตัวของเรานี้เอง มิใช่อื่น
    พุทธะคือผู้รู้ ก็ตัวของเรานี้เอง มิใช่ใครอื่น

    เช่นเดียวกันกับไข่ ไข่อยู่ข้างในของเปลือกไข่
    ทำให้เปลือกไข่แตก เราก็ได้ไข่
    พิจารณาร่างกายของเราให้แตก แล้วเราก็จะได้ธรรมะ ..."


    (หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4307.JPG
      IMG_4307.JPG
      ขนาดไฟล์:
      16.4 KB
      เปิดดู:
      154
  8. tongtorcafe

    tongtorcafe สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +3
    อนุโมทนาครับ ที่ทำให้รู้หนทางดับกิเลสทั้งหลายคือการตัดกาย นี้เป็นผลจากมรรคล้วนๆ
     
  9. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    จริง! อย่างที่นักปฏิบัติกล่าว...

    เห็นด้วยครับ...กับการละสักกายะทิฏฐิ หรือศัพท์ ตกายนั่นแหละ ทำได้ก็อรหันต์ได้ ได้ทั้งพระโสดา, พระสกทา,พระอนาคา และพระอรหันต์ คือในสมัยพุทธกาลมีพระไปถามพระสารีบุตร ท่านก็ตอบตั้งแต่พระโสดาจนถึงอรหันต์ ว่า ตกาย หรือละสักกายะทิฏฐิได้ ละสักกายะทิฏฐิตัวเดียวนี้ได้ก็บรรลุธรรมได้ ได้จนถึงอรหันต์ ส่วนพิจรณากายนั้นเขาเรียกได้ 2 อย่างคือ เจริญอสุภะกรรมฐาน กับเจริญกาคตายสติ เพื่อให้เห็นเป็นไตรลักษณ์ ให้เข้าใจไตรลักษณ์(อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา) เพื่อความไม่หลงใหลในรูปกาย เมื่อเจริญกาคตายสติจะเห็นความปฏิกลในกาย ไม่น่าหลงใหล ใจตนตะหากที่เป็นสมบัติอันเลอค่า เป็นทรัพย์อันประเสริฐ หรือเพื่อให้รู้ทั้งสุภะและอสุภะ คลายยึดทั้งสุภะและอสุภะ หรือไม่ยึดทั้งสวยงามและไม่ยึดทั้งที่ไม่สวยงาม ทำจิตให้สงัด สงัดจากอาสวะกิเลส เห็นสักแต่ว่าเห็น ทั้งสุภะและอสภะมันก็อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เราพิจรณาแล้วปล่อยวาง ทำจิตให้ว่าง ว่างจากอาสวะกิเลส ทำได้โดยการภาวนาหรือโยนิโสมนสิการ ทั้งหมดนี้ก็เป็นมรรค 8 ในอริยสัจจ์สี่ คือ ทาน ศีล ภาวนา (รายละเอียดเชิญท่านอื่นแสดงเถิด...)..........ได้ใจคือได้ธรรม ใจตนนั่นแหละทำให้ประเสริฐ นักปราชญ์ต่างสรรเสริญท่านผู้มีความเพียร วันนี้เราทำให้ดีที่สุด เพื่อที่สุดแห่งทุกข์พระนิพพาน...................
     

แชร์หน้านี้

Loading...