สนทนาสบายๆ ตามประสา

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย ธณต, 8 พฤศจิกายน 2011.

  1. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    แบบที่2 พิมพ์เล็ก พิมพ์นี้โดยมากจะหลุดนะครับบางตู้ตีรุ่นหลังแล้วชี้ตำหนิว่าไม่เหมือนพิมพิ์นี้โดนกันบ่อย พิมพ์นี้หน้าท่านจะเล็กกว่าอย่างค่อนข้างชัด เส้นคอก็จะสอบเข้าเหมือนกันแต่จะชิดกว่าโดยเส้นทางขวาท่านจะเป็นเส้นที่สอบเข้าหูขวาสั้นกว่าซ้ายตักจะต่างกับเเบบแรกไปเลยคือจะหนาทึบเรีบเสมอกันไม่มีส่วนที่นูนออกมีตึ่งที่ด้านขวาเป็นจุดสังเกตุฐานที่5และ6จะชิดกันอย่างชัดเจน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    จริงๆแล้วต้องขออนุญาติเรื่องถามตอบพระเป็นการเจาะจงพระเป็นองค์นะครับเพราะอยากให้เป็นแบบว่าความรู้ทั่วไปที่สามารถนำไปใช้ได้บ้างเวลาเดินสนามนะครับคือถ้ารู้เป็นเกล็ดเล็กน้อยเพื่อจะสกีนพระเบื้องต้นนะครับ เรียกว่าพอรอดตัวไปได้ ถ้าจะถามขอแบบเป็นความรู้ทั่วๆไปนะครับ แบบพระหลวงพ่อนั้นหลวงพ่อนี้มีกี่พิมพ์อะไรแบบนี้นะครับ กระทู้ที่ถามตอบเกี่ยวกับพระโดยตรงเนะนำว่า ที่ http://palungjit.org/threads/@สื่อกลางกระทู้ถาม-ตอบพระเครื่อง-เหรียญ-ดิน-ชิน-ผง@.309181/ ดีกว่าครับเพราะท่านที่เข้ามาตอบเก่งกว่าผมเยอะนัครับไอ้ผมก็ได้แต่โม้ไปวันๆนะครับ แต่เมื่อถามก็ไม่ให้เสียน้ำใจเอาเป็นว่าหลวงปู่ภูมีหลายพิมพ์หลายเนื้อครับเท่าที่เคยเจอยังไม่เคยเห็นพิมพ์นี้ครับ ยังไงก็ขออภัยด้วยไม่โกรธกันนะครับ
     
  3. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    วัดเกศพิมพ์ที่เป็นพิมพ์นิยมมากที่สุดราคาดีที่สุดก็พิมพ์ 7ชั้นนี้ละครับ ก็เหมือนเคยเอาแบบการดูเบื้องต้นในการคัดพระมาเล่าคุยกันเล่นๆ

    อันแรก....ดูว่าหน้าอกช่องท้องที่เป็นเหมือนรากฟันนะครับต้องมีรอยหยักคองอเล็กๆไม่ตรงทื้อเป็นเส้รตรง อันนี้ก็ต้องอยู่ที่เทคนิคส่วนตัวว่าจะจำการคดการพริ้วที่ตรงไหนนะครับถ้าจำติดสมองก็พลาดยากครับหน้าอกสังเกตุดีๆจะยกเหมื่อนเบ่งกล้ามออกจะเอียงทางขวาท่านเล็กน้อยพอสังเกตุเห็น

    อันที่2...แขนแก้วไวน์ดูดีๆนะครับข้างซ้ายใหญ่กว่าพอเห็นด้วยตาครับ

    สุดท้ายขอบต้องมนทั้ง4ด้าน ปกติตามเนื้อจะแตกลานตามพื้น ส่วนมากจริงๆจะไม่ขึ้นถึงองค์พระอาจจะมีบ้างแต่ไม่มาก ของปลอมชอบแบบเเตกเป็นดินระแหงทั้งองค์แม้แต่องค์พระดูดีๆนะครับแยกให้ได้ เนื้อหาก็จะเด่นคือมีจุดดำและจุดน้ำตาลอมเเดงประมาณปลายเข็มหมุด ลอยอยู่ทั่วไปเนื้อสีองค์ก็สวนมากขาวอมนวลเหลืองมีบ้างที่ออกขาว แต่ต้องไม่จั๊วะ

    [​IMG]

    อ้อจุดติ่งล่างนะดูไว้จำได้ก็ไม่เสียหายเพราะปลอมรุ่นเก่าเนื้อจัดมักจะไม่มีหรือไม่เหมือนครับ

    [​IMG]
     
  4. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    วันนี้คุยเรื่องพระกิมตึ๋งนะครับ

    พระกิมตึ๋ง เป็นพระกรุเมืองสุพรรณ เรียกว่าเป็นพระชุดครับมี4องค์ครับคือ พระสี่กร มอญแปลง ประคำรอบ นาคปรก ทำไมเรียกกิมตึ๋งละ ที่ผมได้ฟังผู้เฒ่าเล่าให้ฟังนะครับก็ได้ประมาณว่า ในสมัยก่อนมีการนำเข้าชุดน้ำชาจากเมืองจีน ก็ราวปลายรัชการที่4ต้นรัชการที่5 ในชุดนั้นจะเป็นเครื่องลายครามมีอยู่4ใบ และเป็นที่นิยมกันมาก ประจวบกับที่วัดพลายชุมพล มีพระแตกกรุออกมาจำนวนหนึ่งและมี4พิมพ์ และเป็นที่เรื่องลือกันว่าเป็นพระคงกระพัน นับว่าเป็นของดีคนรุ่นนั้นจึงเรียกว่าพระกิมตึ๋ง ซึ่งแปลว่าของวิเศษดีเลิศ

    แล้วผมจะโม้เรื่องแยกพิมพ์ให้ฟังอีกทีนะครับ
     
  5. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    [​IMG]

    ๑. พระสี่กร
    เป็นพระปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบบนฐานลักษณะคล้ายดอกบัวมีก้าน หรือฐานมีเดือยแบบพระยอดธง พระพาหา และพระกรทั้งสองข้างมีรอยเคลื่อน หรืออาจเกิดจากความจงใจแกะพิมพ์เน้นบริเวณพระกร ทำให้มองเห็นเส้นพระกรเป็นสองเส้นในแต่ละข้าง เป็นที่มาของชื่อพระสี่กร ปีกขององค์พระมีลักษณะคล้ายเบี้ยจั่น ด้านหลังมีรอยบีบตอนถอดพิมพ์ บางองค์อาจมีลายนิ้วมือปรากฏ มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันเล็กน้อย ความกว้างประมาณ ๒.๓ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร พิมพ์นี้พบน้อยกว่าพิมพ์อื่นๆ
     
  6. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    การดูพระสื่กร นอกจากดูพิมพ์ทรงที่ค่อนข้างยากแล้วขนาดก็ยังไม่ค่อยจะเเน่นอนแต่ก็ใช่ว่าจะต่างกันมากมายคนเก่าบอกเล่าว่า น่าจะมีแม่พิมพ์อันเดียวเมื่อใช้ดินกดลงในแม่พิมพ์แล้วตบแต่งด้วยมือ แม่พิมพ์ที่เป็นลักษณะนูนต่ำก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดสังเกตุเลยแต่ค่อนข้างต้องละเอียดและความชำนาญพอดู จุดแรก ที่ข้อศอกมีขีดโค้งอยู่เส้นหนึ่งข้างๆจะมีปุ่มกลมเล็กอยู่ปุ่มหนึ่งเสมอ และที่หัวเข่า ซ้ายจะมีปุ่มนูนเหมือนกัน

    ด้านหลัง บางองค์ก็แบนบางองค์ก็นูน แต่ที่บนยอดมีร่องรอยบีบจับจีบด้วยมือแต่ก็ไม่ทุกองค์นะครับแต่ก็ส่วนใหญ่นะครับ

    เนื้อพระจะเเน่นแข็งแกร่ง มีเม็ดทรายแต่ไม่มาก

    แล้วจะมาต่ออีกสามองค์ครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
     
  7. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆให้ได้อ่านกัน ติดตามอยู่เสมอครับ
     
  8. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    แหม..ว่าถ้าเล่นคนเดียวสักถึง 100 แล้วไม่มีใครคุยด้วยก็ว่าจะเลิกเเล้วเชียว เรื่องที่เอามาลงก็เป็นความรู้จากหนังสือรุ่นเก่าๆ ที่เก็บมาอ่านอีกครั้งแล้วก็วางไม่ลง ผสมกับความรู้ความจำเก่าเอามาโม้ๆสู่กันฟังนะครับ แต่ก็ขอบคุณครับ ถ้ามีอะไรที่คิดว่าไม่ถูก หรือรู้ในส่วนที่ผมไม่รู้หรือเพิ่มเติมก็เชิญได้นะครับ
     
  9. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ขอต่อชุดกิมตึ๋ง

    องค์ที่2เรียกว่า พระมอญแปลงลักษณ์พระคล้าย พระผงใหญ่วัดพระธาตุ มี2พิมพ์คือ พิมพ์เล็ก กับ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็กก็ราวๆ สูง 3ซม.กล้างก็ประมาณ 1.5ซม. พิมพ์ใหญ่ก็ใหญ่กว่านี้มากลักษณะ เป็นพระเศียรโล้น ปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร ลำองค์สูงชลูด ก็เหมือนเดิมละครับคือพระค่อนข้างเลือนและนูนต่ำองค์นี้จะยากกว่าสี่กรตรง ที่มีเนื้อทั้งหยาบเเละละเอียด

    เนื้อละเอียดก็ออกเเนวแน่นนุ่มเเละก็เนียน คล้ายพระผงสุพรรณนะเหละ เนื้อหยาบก็มีเม็ดทรายในเนื้อด้านหลังก็เหมือนพระสี่กรนะละส่วนลายมือด้าน หลังก็มีก็ได้ไม่มีก็ไม่ผิดคือไม่แน่นอนเหมือนผงสุพรรณ ส่วนการดูเบื้องต้นนะครับ ดูไหปลาร้าท่านจะยุบบุ๋มลง ไหล่ยกตัวเป็นเส้นตรงคล้ายกระบอก มือถ้าเห็นนะครับจะเป็นรูปง้ามเล็ก ๆ

    อ้ออีกอย่างนะครับ คือบางคนก็เล่นหาพระพันวสาเป็นพระมอญแปลงซึ่งไม่ใช่นะครับต่างกันค่อนข้างเยอะอาจเป็นเพราะมีผ้าโพกมั้งครับ

    เลยหารูปมาลงให้ทั้งสามอย่างเลยดีกว่าเริ่ใที่ มอญแปลง พระผงใหญ่ และพระพันวสา

    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    มอญแปลงครับ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="PADDING-RIGHT: 20px"><TABLE class=ProductPictureBorder height=150 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    พระผงใหญ่

    [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระพันวสา


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    พระประคำรอบ
    เป็นพระปางมารวิชัยประทับขัดสมาธิราบอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ภายนอกกรอบซุ้มตกแต่งลายเม็ดประคำโดยรอบ จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก พระประคำรอบ พิมพ์ตื้นมาก มีขนาดกว้างประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร สูง ๓.๕ เซนติเมตร


    [​IMG]
    เรื่องการดูติดไว้ก่อนกลับไปจะคุยต่อนะครับ​
     
  11. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    เยี่ยม..เลยครับ..มาเข้าห้องเรียนด้วยคน..
     
  12. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    พระสมเด็จบางขุนพรหมมีจุดตายที่น่าจะเป็นการพิสูจน์ได้ว่าเป็นเก๊มั้ยคือ หางกระเบนในเนื้อพระ ที่เกิดจากการที่องค์พระถูกอบในความร้อนความเย็นสลับกันเป็นเวลานานเกิดการรัดตัวจนเกิดเป็นรอยแตกร่อนเป็นเกร็ดพะเยิบซ้อนกัน มีลักษณะเเข็งมาก ของปลอมจะทำเป็นคลื่นๆเท่านั้นแต่หางกระเบนอาจจะบอกได้ว่าพระองค์นั้นแท้พระของปลอมไม่มีทางทำได้แต่ใช่ว่าพระที่ไม่มีหางกระเบนจะปลอมนะครับ เพียงแต่ถ้าเจอพระที่มีให้รีบกอดไว้

    บทความนี้คุ้นๆเหมือนเคยอ่านจากหนังสทอพระเครื่องรุ่นเก่า หางกระเบน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ขยุ้มปากเพียง อะไรประมาณนี้ใช่ไหมคะ แบบว่าคุ้นๆจะลงไปหยิบหนังสือ ก็เห็นทีจะไม่ไหวแล้ว แต่จำได้คลับคล้ายคลับคลา อยากชมภาพประกอบด้วยจังเลยคะ :cool:
     
  13. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    มาร่วมแจม กับประวัติการสร้างพระขุนแผน อ.ชุม ไชยคีรีครับ

    พระผงบารมีพระธาตุ พิมพ์ทรงขุนแผนเรือนแก้ว ปี 2497 วัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช

    พระขุนแผน พิมพใหญ่ อ.ชุม ไชยคีรี พิธีวัดพระบรมธาตุ ปี 2497
    เนื้อ สีดำ หลังยันต์นะเข้าหา สำหรับพิมพ์ขุนแผนเรือนแก้วนี้มีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ จำนวนสร้างเพียง 2,000 องค์ ปัจจุบันค่อนข้างพบเห็นน้อยมาก

    ตามอุปเท่ห์การใช้ท่าน ว่า ทำเป็นพระพิเศษพร้อมกับพระ 84,000 องค์ แต่หนักไปในทางเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ เพิ่มผงอาจารย์ คง อาจารย์ขุนแผนเมืองสุพรรณบุรี
    วิธีทำและ ปลุกเสก อาจารย์คงได้เข้าทรงบอกวิธีให้คาถาประจำตามตำราของท่าน เสกแล้วทดลองนำพระลงสรงในน้ำมันหอมแล้วเอาน้ำมันทาหนูกับแมว สุนัขกับแมว จนสัตว์ทั้งสองที่เคยเป็นศัตรูกันมา กลับเป็นมิตรดีต่อกันต่อหน้าประชาชน
    นอกจากนั้นก็ยังเป็นพระที่ทรงคุณทางเลิกรบ เลิกเบียดเบียน กันอาวุธทุกชนิดด้วย เมื่อจะใช้ให้ภาวนาคาถานี้

    "นะร้องไห้ๆ นะมาเข้าหา นะจิตตัง มานิมามา จิตตังมานิมามา" 3 จบ ทุกครั้ง

    แล้ว ทำความปรารถนาเอาเองได้ทุกอย่าง แต่ขออย่านำไปใช้ในทางทุจริตผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และห้ามทดลองทำเป็นเล่นขาดความเคารพ จะเกิดโทษนานาชนิด

    พระ เครื่องจากวัดพระบรมธาตุ จ. นครศรีธรรมราช รุ่นที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2497 ในพิธีเดียวกันนี้จริงๆแล้วมีด้วยกันหลายพิมพ์ แต่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำพิมพ์พระนางตราและท่าเรือขนาดใหญ่-เล็ก ออกแจกด้วยตัวท่านเอง พร้อมสมุดอุปเท่ห์การบูชาพระ ผู้คนจึงรู้จักกันว่าเป็นพระของอาจารย์ชุม จำนวนการสร้างนั้นมีพิมพ์ละ 84,000 องค์ พระมีจำนวนมาก ท่านจึงได้นำบรรจุเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ต่อมาปลวกมาทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ

    มวลสารที่รวบรวมมามี พระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497
    ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497
    ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497
    ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

    โดย พิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช
    การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

    <a href="http://pic.free.in.th/id/5d2d873bc0c4bb098e8c930aabf4b822" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ic/user247406_pic91019_1307264960.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    ด้านหลังเป็นตัวยันต์นะเข้าหา

    <a href="http://pic.free.in.th/id/cb992439c5b575a2b6bddac0a333326e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/z/ij/user247406_pic91018_1307264960.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2011
  14. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ขอบคุณ คุณโอ ครับหวังว่าคงมีอะไรเด็ดๆมาให้อ่านเสริมความรู้อีกนะครับ

    และ คุณยาครับ เรื่องที่ผมชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยก็มาจากหนังสือนะครับ ก็เพียงแต่เอาส่วนที่ผมคิดว่าใช่หรือรู้มาว่าเป็นเเบบนั้นนะครับ แล้วบางทีก็เสริมในส่วนที่รู้เข้าไปนะครับ
    ซึ่งจริงแล้วเรื่องที่ผมรู้ส่วนใหญ่ก็อ่านหนังสือมานะครับ ผมย้งแอบหวังว่าคุณยาจะลงไปค้นหนังสือแล้วมาคุยเล่นกะผมอยู่นะครับ ผมยังแอบอ่านเรื่องที่คุณยานำมายังแอบชมว่าเก่งนะ เรื่องรูปแล้วจะเสริมให้นะครับ
     
  15. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    รู้ไหมพระหล่อโบราณมีกี่เนื้อ

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> พระ หล่อโบราณเป็นพระที่มีสูตรในการผสมโลหะที่ชัดเจน อยู่ 5 ชนิดด้วยกัน สูตรผสมโลหะทั้ง 5 ชนิดนี้เรียกกันว่า โลหะเนื้อสัมฤทธิ์ โลหะ สัมฤทธิ์โบราณ ประกอบไปด้วยธาตุบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไปโดยมี แร่ทองคำและเงินเป็นหลัก ถ้าไม่มีจะไม่ถือว่าเป็นสัมฤทธิ์ และที่เป็นหลักอีกอย่างคือทองแดง ซึ่งจะใช้มากเพื่อให้ได้ปริมาณ

    เนื้อ สำริดหรือสัมฤทธิ์ ประกอบด้วยตระกูลของสัมฤทธิ์ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณมีอยู่ 5 ตระกูล คือ สัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช รวมเป็นสัมฤทธิ์ 5 ตระกูล อันมีความพิสดารดังต่อไปนี้

    1. สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง หรือตริยโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ 3 ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม พระพุุุทธรูปสมัยอู่ทองโดยเฉพาะพระพุทธรููปอู่ทองหน้าแก่มักสร้างด้วยเนื้อ นี้

    2. สัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อห้า ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ พระพุทธรูปสกุลช่างสุโขทัยบางยุคและพระเชียงแสน พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพ บางรุ่น และพระกริ่งพระชัยวัฒน์ของท่านเจ้าคุุณศรีสนธิ์บางรุ่นก็สร้างด้วยเนื้อนี้


    3. สัมฤทธิ์ศักดิ์ คือสัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะ เป็นมงคลนามหมายถึง โพชฌงค์ 7 คือ องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี 7 ประการ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา สัมฤทธิ์ศักดิ์เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเจ็ด ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว เงิน และทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะหม่นคล้ำน้อยๆ แต่มีแวววรรณะขาวผสมผสานอยู่ นับถือกันว่าอำนวยผลในด้านอำนาจ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด

    4. สัมฤทธิ์คุณ คือสัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหะ หมายถึงนัยของธรรมอันสูงสุดในพระศาสนา อันได้แก่ นวโลกุตรธรรม อันมี มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สัมฤทธิ์คุณเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดช ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว ชิน จ้าวน้ำเงิน เงิน และทองคำ แต่สัมฤทธิ์ตระกูลนี้แก่ส่วนผสมของเนื้อเงินมากกว่าธรรมดา ฉะนั้น เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน แต่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะถูกไอเหงื่อ จะมีวรรณะคล้ำเจือเขียวเตยหม่นแกมเหลืองอ่อนคล้ำมีแววขาวโดยตลอดเนื้อ สัมฤทธิ์ชนิดนี้อำนวยคุณวิเศษเช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดชทุกประการ

    5. สัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ดังนั้นภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะต้องไอเหงื่อ จะดำสนิท ประหนึ่งนิลดำ เรียกกันว่า "สัมฤทธิ์เนื้อกลับ" โบราณถือว่าสัมฤทธิ์นวโลหะทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ สูตรผสมเนื้อสัมฤทธิ์เดช หรือนวโลหะ ที่เป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ยุคกรุงศรีอยุธยา ตกทอดมาอยู่กับ สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ พระพุฒาจารย์มา ครั้งยังเป็นพระมงคลทิพยะมุนี วัดจักรวรรดิฯ และสมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ ครั้งยังเป็นพระเทพโมลีตามลำดับ


    จะเห็นได้ว่าพระเครื่องต่าง ๆ ที่สร้างในยุคต้น ๆ ประมาณปี 2430-2505 ครูบาอาจารย์ท่านจะสร้างพระเครื่องตามหลักวิชาที่ถูกต้อง ไม่มีการหัวล้านนอกครู การผสมโลหะต่าง ๆ ลงเบ้าต้องเป็นไปตามสูตรอย่างเคร่งครัด ทำให้พระเครื่องต่าง ๆ ที่สร้างออกมามีเนื้อหามวลสารที่สวยงามเป็นธรรมชาติตามสูตรนั้น ๆ เช่น พระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด จะมีสองเนื้อ คือเนื้อเหลืองกับเนื้อแดง เนื้อเหลืองผสมตามสูตรสัมฤทธิ์โชค ทำให้เนื้อโลหะไม่เป็นเนื้อกลับ แต่เนื้อแดงผสมตามสูตรสัมฤทธิ์ผลทำให้้เนื้อของพระเครื่องมีวรรณะออกสีแดงอม เหลือง

    ดังนั้นจะสังเกตุได้ว่าพระเก๊ส่วนใหญ่จะไม่สามารถทำเนื้อให้ออกมาเป็นโซน เดียวกับของแท้ได้ เนื่องจากผสมโลหะไม่ได้ตามสูตรเดิม ๆ นั่นเอง

    ยกเว้นการใช้สีมาทา การเอาไปทำให้เกิดสนิม ต่าง ๆ ฯลฯ แต่ก็ยังทำได้ไม่เหมือนกับพระแท้ ๆ อยู่ดี
     
  16. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ตัวอย่าง พระเนื้อสัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์แดง หรือตริยโลหะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clip.jpg
      Clip.jpg
      ขนาดไฟล์:
      166.1 KB
      เปิดดู:
      240
    • Clip_2.jpg
      Clip_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      158 KB
      เปิดดู:
      209
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2011
  17. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ตัวอย่าง พระเนื้อสัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Pic_603396_1.jpg
      Pic_603396_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.9 KB
      เปิดดู:
      308
    • Clip_8.jpg
      Clip_8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.6 KB
      เปิดดู:
      219
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2011
  18. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ตัวอย่าง พระเนื้อสัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ตัวอย่างพระเนื้อสัมฤทธิ์คุณ สัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 02.jpg
      02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.1 KB
      เปิดดู:
      259
    • 03.jpg
      03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.3 KB
      เปิดดู:
      238
  20. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ตัวอย่าง พระเนื้อสัมฤทธิ์เดช สัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...