งงครับธรรมะเป็นของความธรรมดาธรรมชาติหรือของพระพุทธเจ้า

ผมดูการ์ตูนมิลินท ปัญหา พระนาคเสนบอกว่าธรรมที่เราสอนอยู่เป็นของพระพุทธองค์

ผมเลยสงสัย พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของธรรมนั้นๆเหรอ พระพุทธเจ้าไม่ใช่ ผู้บอกทาง ทําให้อวิชชาหายไป เป็นผู้ดับราคะ โทสะ โมหะ กิเลศ เพราะเป็นสิ่งที่สมควรดับ

 

................. ต้องไปหาความหมาย ของคำว่า ธรรม ก่อน................แล้วอย่า งง กับ กาละเทศะ(เวลา สถานที่)ในบัญญัติ นั้นนั้น

 

พระพุธเจ้า เป็นผู้ ที่เห็น ธรรม ที่มันอยู่ใน ธรรมชาติ

เเล้วก็ตีความออกมาเป็นคําสอน ให้น้อมไปเห็นถึง ธรรม ที่ มันเป็นธรรมชาติเเต่เดิมของมัน

 

จะไป งง ทำไม

มันก็เหมือน E = MC2 นั่นแหละ อันนี้มันเป็น กฏที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ

ไอนสตน์เป็นผู้ลงนามว่า ค้นพบ

เวลาเราเรียน ใครบ้างจะไม่กล่าวแบบให้เกรียติผู้ค้นพบ ใครจะมีใจเนรคุณ
ได้ลงคอ

จริงๆ ธรรมเป็นของกลาง พระพุทธองค์ก็กล่าวไว้ แต่ สาวก เขาก็มีอินทรีย์
ย่อหย่อน มองยังไง ก็ของพระพุทธองค์อยู่เต็มหัวใจ ถือเป็น ข้อวินัย ไป

และอีกอย่าง คือ สาวก เขาจะดิ้นสร้างคำสอนใดขึ้นมา ถ้าคำสอนนั้น
เป็นของผู้สิ้นกิเลสแล้ว เขาก็เห็นตรงกันว่า พระพุทธองค์ครอบคลุม
ไว้หมดแล้ว ไม่มีที่ พระพุทธองค์จะไม่ได้กล่าวไว้

* * *

นี่อย่าบอกนะว่า กำลัง จะมาปล้นพุทธเกษตร

 

อ้อ บอกก่อนว่า คุณ bamrung นั่น เขาสาย จิตจักรวาล

เขามอง คำสอนพระพุทธเจ้าเป็น ส่วนหนึ่งของ ปรัชญาจักรวาล

เวลาไปคุยกับเขา หาก ศรัทธาต่อพระพุทธเรามีไม่พอ เขาก็
ลากไปเป็นนู้นเลย เป็นพวก จิตจักรวาล คำสอนของพระพุทธ
องค์กลายเป็น ปรัชญาชีวิต เท่านั้น

ก็บอกไว้ เผื่อเอาไว้ ช่วยวิเคราะห์บทสนทนา

 

ไม่ๆ ผมดันไปเข้าใจผิดว่า

ถ้าพระพุทธเจ้าเป็นของธรรม พระพุทธเจ้าก็คือผู้สร้างธรรมเหล่านั้นมาแล้วก็มาสอนคนอื่น นึกว่าพระพุทธเจ้าคือพระเจ้าสร้างธรรมเลยสอนคนอื่น ตอนนี้เข้าใจแล้วหละ

 

สาวก เขาก็มีอินทรีย์ย่อหย่อน

อันนี้เขาหมายถึง พระอรหันต์สาวกทั้งหมด

สาวก เขาจะดิ้นสร้างคำสอนใดขึ้นมา

อันนี้เขาหมายถึง สาวกคนใดก็ไม่รู้ ที่พยามสร้างคำสอนขึ้นมาว่า ธรรมมะเป็นธรรมชาติ

------------------------------------
มีสาวกท่านหนึ่งกล่าวว่า ธรรมะเหนือธรรมชาติ เพราะธรรมชาติ คือวัฏถะจักร

กับสาวกอีก..หนึ่งพยายามกล่าวว่า ธรรมะคือธรรมชาติ

จขกท ก็พิจารณาดูเอาเอง ก็คงจะพอเห็นได้ว่าท่านใดเห็นธรรม

 

จริงๆ ธรรมเป็นของกลาง พระพุทธองค์ก็กล่าวไว้ แต่ สาวก เขาก็มีอินทรีย์
ย่อหย่อน มองยังไง ก็ของพระพุทธองค์อยู่เต็มหัวใจ ถือเป็น ข้อวินัย ไป
-------------------------------


บนนี้มีความหมายว่าอย่างไร ก็ความหมายว่าไอ้หมอนี่ เขาไม่ได้มองว่าธรรมมะเป็นของพระพุทธเจ้า เพราะเขามีอินทรีย์ดีกว่า พระอรหันต์สาวกทั้งหลาย

คนมันบ้า ก็ดูลายเซ็นมันเอาละกัน เป็นหนึ่ง ชัดเจน+ คนดีปรกติธรรมดา ไม่หลงตัวเองเขาไม่ประกาศยกหางตนเองว่า เป็นหนึ่งหรอก มีแต่คนหลงตัวเอง กับคนบ้าเท่านั้นละ(ไม่ต้องมาอ้างหรอกว่ามึงหมายถึงธรรมมะ)

คนดีจริงแท้ ที่จะบันลือสีหนาท ประกาศความเป็นหนึ่งมีแค่คนเดียวเท่านั้น คือ พระพุทธองค์

แต่ก็อย่างที่รู้ๆกัน ว่า มันคิดว่ามันเป็นพระพุทธเจ้า

 

สังเกตไหม

เวลาไปคุยกับ พวกจิตจักรวาล มะนาวต่างดุด เมตตระตรอน อะไรนี่

เราจะถูกหว่านล้อมเข้าไปเห็นว่า คำสอนของพระพุทธองค์เป็นเพียง ปรัชญา
ชีวิต กรณีเป็นพวก เจตจำนงเสรี แต่ถ้าไปเจอพวกเทวะโองการ ก็จะกลาย
เป็นการ สร้างกฏขึ้นมา ให้เราเล่นการค้นหา การเข้าถึง

แล้วถ้าไปเจอเพื่อคอมมูนนิตี้ ก็จะกลายเป็นเพียง วินัยของการอยู่ร่วมของ
สังคม

อาการที่เราไปคุย แล้วถูกล้อมกรอบความคิดให้คล้อยตาม พระพุทธท่าน
บัญญัติอรรถรส(วิถีจิตแล่นไป)ว่า ตาข่ายทิฏฐิ พอโดนล้อมกรอบแล้ว
ก็เหมือน ปลาที่ติด ตาข่าย หาทางออกไม่เจอ เว้นแต่จะหยุดสนทนากับ
พวกคนเหล่านี้

ตรงนี้ จะเห็นว่า คล้ายการใช้ สงสัย เพื่อแสวงหา มรรค

แต่จริงๆ เราต้องดูวิธีการออก เวลาเราเจอ ตาข่ายทิฏฐิ เราจะไปย่อย
เอาความจริง มันก็จะยิ่งติด การออกจึงต้องเป็นการทำอะไรที่เหนือกว่า

ปลาบางตัว มันก็กระโดดออกมาจากอวน คือ เลิกเสวนากับพวกนั้นไป
ก็ สิ้นเรื่อง

ลองสังเกตดูนะ การนำข่ายทิฏฐิออกนั้น เขาใช้อุบายอย่างไรนำออก

ระหว่าง เขาไปค้นคว้าเพิ่ม หรือ ลุกออกมา เลย

 

งงครับธรรมะเป็นของความธรรมดาธรรมชาติหรือของพระพุทธเจ้า
-------------------------------------------------------


ตอบ...ธรรมะคือธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

แต่พระธรรม คือคำสั่งสองของพระพุทธเจ้าครับ

 

บัวมีสี่เหล่าคุณเป็นเหล่าใหน

 

กระผมจะพยายามตอบตามความรู้ที่มีแต่โดยสัมมาทิฏฐินะครับ

1.ธรรมทั้งปวงเป็นไปเพื่อระงับแลดับกิเลส ธรรมทั้งปวงเป็นตัวแทนแห่งองค์พระบรมศาสดาองค์สมเด็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นพระพุทธองค์
2.สรรพสิ่งเป็นไปตามเหตุแลปัจจัย หากไม่มีปัจจัยที่มหาบุรุษผู้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมที่รอบ๓ มีอาการ๑๒ ทรงรู้แจ้งแทงตลอดในพระอริยสัจ๔ แลพระองค์ทรงดับเพลิงกิเลสกองทุกข์ข้ามวัฏฏะสงสารสิ้นเชิงจนสำเร็จเป็นองค์พระบรมศาสดาองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าแลทรงตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เองแลทรงพระกาศพระธรรมนำเวยไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏแล้วไซร้ ก็จักไม่มีเหตุแห่งพระไตรปิฎก ๘๔000 พระธรรมขันธ์จะบังเกิดขึ้นมาบนโลกนี้
3.ในหลักวิทยาศาตร์ หากไม่มีพระมหาบุรุษ เห็นเทวทูตทั้ง๔แลเห็นทุกข์ จึงทรงตั้งสมมุติฐาน แลจึงทรงค้นคว้าหาความดับไปของทุกข์ แลจึงทรงทดลองจนสำเร็จพระอนุตรสัมมาโพธิญาณอันยอดเยี่ยมที่มีรอบ๓ มีอาการ๑๒ทรงรู้แจ้งแทงตลอดในพระอริยสัจ๔จนสำเร็จเป็นองค์พระบรมศาสดาองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมเจ้า แลทรงสรุปผลในการประกาศพระธรรมนำเวยไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พระธรรมในพระไตรปิฎกก็จักเป็นใบลานเปล่าหรือกระดาษเปล่าๆ๓ กองหรือ๘๔000 ใบเช่นนั้นเอง
4.ที่เรียกว่าองค์สมเด็จพระสัมมา คือพระองค์ทรงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองเป็นพระองค์แรก อุปมาเหมือนโลกใบหนึ่งมีมนุษย์สัตว์ประเสริฐ ๖000 ล้านคนที่ไม่มีองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา ก็ไม่มีไครในโลกนั้นรู้ได้เองซึ่งพระธรรมในพระไตรปิฎก ๘๔000ใบเช่นนั้นเอง
5.สรรพสิ่งเกิดมาเป็นคู่อาศัยปัจจัยแลเหตุเสมอ หากไม่มีองค์สมเด็จพระอรหัตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วไซร้ พระไตรปิฎก ๘๔000พระธรรมย่อมไม่มีในโลกนี้เป็นที่สุด
ขอบคุณมากครับผมขอให้ท่านเจ้าของกระทู้สุขกายสุขใจเจริญใน อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดนิรันดร์ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานครับผม จากปุถุชนผู้หนาอยู่ด้วยกิเลสครับ
เพราะฉะนั้นพระธรรมทั้งปวง เป็นตัวแทนแห่งองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงไว้ซึ่งพระปัญญาธิคุณ พระวิสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ผุ้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นพระพุทธองค์

 

นราสภา.... พระพุธเจ้า เป็นผู้ ที่เห็น ธรรม ที่มันอยู่ใน ธรรมชาติ เเล้วก็ตีความออกมาเป็นคําสอน ให้น้อมไปเห็นถึง ธรรม ที่ มันเป็นธรรมชาติเเต่เดิมของมัน
สั้นๆแต่ได้ใจความ อิอิ

 

ไม่เข้าใจ

ตอบคําถามให้เจ้าของกระทู้ หรือว่า ตอบคําถามที่เเทนใจตนเอง

อ่านเเล้วก็ งง


ยิ่งงงเพิ่มขึ้นไปอีกพอมาเจอกับ ประโยคส่งท้ายที่ว่า


จขกท ก็พิจารณาดูเอาเอง ก็คงจะพอเห็นได้ว่าท่านใดเห็นธรรม __________________
พระพุทธองค์เท่านั้นที่ เป็นหนึ่ง!!

ไม่ได้อยากจะเข้ามา จุ้นจ้าน อะไรหลอกน่ะจ๊ะ
เเค่อ่านเเล้วมันไม่ได้ อะไรเลย มีเเต่ โมหะ กับ โทสะ ปนอยู่เเน่นไปหมด
เกิดใครเขามาเห็น มิอายเขาหรือไร
เดี๋ยวเขาจะกล่าวหาเอาได้ว่า ผู้ปฎิบัติ ทําได้เเค่นี้เองหรือ
ยับยั้ง เเละ ช่างใจ
อะไรควรก็ใส่ไป อะไรที่ ใส่ไปเเล้วทําให้ใจตัวมันถดถอย ก็ อย่าใส่ลงไป

เจริญในเจริญจ๊าาาาาาาา

ใจร่มๆ น๊าาาาาา (k)(k)

 

ธรรมะ มีอยู่ พุทธเจ้าจะอุบัติหรือไม่ ก็ยังคงอยู่อย่างนั้น

ช่วงที่พุทธเจ้าอุบัติ จึงเป็นของยาก เราได้เกิดช่วงที่ศาสนาท่านยังอยู่ถือว่า เป็นของดีของประเสริฐ ครับ

จงตั้งใจปฎิบัติตามสิ่งที่พระองค์ค้นพบแล้วบอกเถอะ ครับจะได้หลุดพ้น ครับ

อย่าเถียงกันเลย

 

ธรรมชาติที่มีอยู่ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่เราเห็น แต่ธรรมชาติที่ว่าด้วยสิ่งที่เราเห็นเหมาะสมควรแก่การนำมาใช้ประโยชน์เพื่อพิจารณาความไม่สิ้นไปแห่งสังสารวัฏ เพราะธรรมชาติมันมีมากมายเหลือเกินแต่ธรรมชาติของการเกิดขึ้นมีอยู่ของสัตว์ในห้วงแห่งจักรวาลทั้งหลายนั้นน่าพิจารณามาก เพื่อไม่ต้องเดินทางไกลๆ มันมีของมันอย่างนั้นอยู่แล้วไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดในธรรมชาติต่างๆอันมีอยู่ภายนอกแต่ธรรมชาติอันมีอยู่ภายในมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด พระศาสดาเห็นแล้วจึงทรงชี้บอก
สาธุคั๊บ

 

ตอนแรกอ่านหลายๆคอมเม้น ผมเริ่มเขวเองล่ะ

แต่ย้อนมาคอมเม้นนี้ ว่าธรรมคืออะไร อ่อ เลย

 

อนุโมทนาสาธุครับ..................