คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยในช่วงภัยพิบัติ..

คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยในช่วงภัยพิบัติ..

....ข้าพเจ้าขอประมวลคำแนะนำที่คิดว่า จะเป็นประโยชน์แก่ตัวท่าน ครอบครัวของท่าน ญาติสนิทมิตรสหายที่ท่านรักและผูกพัน สามารถอยู่รอดปลอดภัย ผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายดังกล่าวไปได้ด้วยดี แต่ ถ้าไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น จากปัจจัยใดๆก็ตาม สิ่งที่แนะนำไปนี้ มีแต่ทำให้ท่านมีความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านร่างกาย และ จิตใจในการดำเนินชีวิตต่อไป จะไม่เป็นการสูญเปล่าอย่างแน่นอน

• ประการแรก เราควรที่จะตระหนักรู้ในปัญหา ไม่ตื่นตระหนกในทุกข่าวสาร มีความกรุณา หรือ ให้ความสงสารแก่ผู้เดือดร้อนให้พ้นจากความทุกข์ เตรียมทั้งสติ และ ปัญญาให้พร้อม ย่อมบรรเทาปัญหาลงได้ ขอให้ทุกคนตั้ง ใจในการละชั่ว ทำดี และ ทำจิต ให้สงบเย็น ทำความดีให้มากๆ หรือ ทำบุญให้มาก บุญนั้นจะช่วยจัดสรรผลดีให้ ประหนึ่งยิ่งให้ ก็ยิ่งได้นั่นเอง กรรมดีมีมาก ระหว่างให้ผล กรรมชั่วย่อมวิ่งตามมาไม่ทัน

• กรรมดี จะปรากฏในรูปเทพสังหรณ์ ผ่อนหนักเป็นเบาได้ เหมือนมวลน้ำจะมาท่วมบ้านเราแน่ ก็จะทำให้เราเกิดสัมมาทิฐิ รีบขนย้ายทรัพย์สินไปไว้ในที่ปลอดภัยมากกว่าก่อนที่น้ำจะมาถึง และ อพยพทุกชีวิตในบ้าน ทั้งคนและสัตว์ ให้ไปในสถานที่ปลอดภัยก่อนที่น้ำจะท่วม หรือ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว ก็จะเห็นบรรดาสัตว์ที่มีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด แสดงปฏิกิริยาให้สังเกตเห็นได้ชัด สามารถอพยพทุกชีวิตในบ้าน ทั้งคนและสัตว์ ให้ไปในสถานที่ปลอดภัยได้ก่อนเกิดแผ่นดินไหว หรือไฟกำลังไหม้จะถึงบ้านเรา ปรากฏว่ามีฝนห่าใหญ่ตกลงมาดับไฟไป หรือ ส่งผลให้เกิดความสำเร็จสมหวังในการพูด ในการคิด และในการกระทำต่างๆ ส่วนกรรมชั่วนั้น หากมาตามทัน ก็จะเป็นตัวตัดรอน ตัวบั่นทอน ในขณะที่จะประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดความไม่สำเร็จไม่สมหวัง หรือ เกิดความล้มเหลว พวกเราที่เชื่อเรื่องบุญบาป เรื่องกฎแห่งกรรม

เรื่องชาตินี้ชาติหน้า ดีกว่าการไม่เชื่อแน่นอน หากชาติหน้ามีจริงก็ได้ไปสวรรค์ หรือ พรหม อย่างเลว ก็เกิดเป็นมนุษย์ที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติรูปสมบัติบริวารสมบัติ และมีสุขภาพที่ดี

• หากไม่มีชาติหน้า ชาตินี้อย่างน้อย เราก็จะมีความสุข ยามบุญมาวาสนาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่มีทุกข์ก็คลาย

• อย่างน้อยที่สุด ที่ท่านต้องฝึกฝน คือ ต้องมีสติ เพื่อระวังและป้องกัน ต้องรู้เท่าทันเพื่อตระหนักในปัญหา เอาไว้แก้ปัญหา และ มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

• ทุกข์ คือ ตัวปัญหา เราต้องรู้เท่าทัน ต้องตระหนักรู้ อย่าหนีปัญหา อย่าหลบปัญหา

• สมุทัย คือ รู้เหตุแห่งปัญหา หากรู้ว่าภัยพิบัติจะเกิดที่ไหน ก็อย่าไปอยู่ในที่นั้น ๆ

• อย่าทำตัวเป็นนกกระจอกเทศ ไม่รับรู้ปัญหา เมื่อมีปัญหา มันจะเอาหัวซุกลงในพื้นทราย จะได้ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ในที่สุดก็ต้องตายอย่างน่าอนาถ

• อย่าทำตัวเป็นกบ ที่ทำตัวตามสบายไปวันๆ ไม่สนใจรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของโลก เมื่อตกลงไปอยู่ในหม้อต้มน้ำที่เริ่มต้ม ก็ดูอุ่นสบายดี จึงชะล่าใจ ต้องไปดิ้นรนเรื่องอื่นทำไม แต่พอน้ำร้อนเดือด หมดแรงกระโดด ก็ต้องตายไปอย่างน่าเวทนา

• พวกเรา จำเป็นต้องเตรียมกาย และ เตือนใจ รับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เราต้องมีความพร้อมที่จะละจากโลกใบนี้ไปในที่ซึ่งดีกว่า มีความสุขมากกว่า เพราะเราตอบได้ว่า เรามีคุณความดีมากพอพร้อมแล้ว ปิดประตูอบายภูมิสนิทแล้ว ทุกๆวัน เราต้องตอบตัวเองได้ว่า เรามีแต่คิดดี พูดดี และทำแต่ความดีตลอดเวลากับทุกชีวิตที่เราเกี่ยวข้อง อีกทั้ง มีจิตใจที่ผ่องใสทุกเวลา ก็ถือว่าหมดห่วงได้แล้วจริง

• หากไม่แน่ใจ เราจำเป็นต้องเร่งฝึกกาย วาจา ใจของเราให้มากขึ้น อย่างน้อยต้องฝึกไม่โกรธใครๆ วางเฉยในสิ่งที่เราไม่พอใจ ข้องคับใจ ไม่สบายใจ ให้อภัยในความไม่ดีของคนอื่นรู้เท่าทันในเรื่องต่างๆอย่างมีสติ มีจิตใจที่สงบ จะแก้ปัญหาต่างๆได้ด้วยปัญญา

• หากเรา สามารถเตรียมหาสถานที่อยู่ที่มีความปลอดภัย มากกว่าในปัจจุบันเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคตได้ ก็ควรเร่งหาไว้ ซื้อไว้ ปลูกไว้ หากทรัพย์สินไม่มากพอ ลองทบทวนดูว่ามีญาติพี่น้องที่จะขอไปพักอาศัยชั่วคราวสัก 3 เดือน ในพื้นที่ภาคอิสานน่าจะปลอดภัยมากกว่าที่ภาคอื่น หรือหาวัด หรือโรงเรียน ที่พอจะมีที่พักกให้ใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ใดได้บ้าง เตรียมการเรื่องอาหารการกิน ในยามเกิดวิกฤตใิห้พร้อม จะต้องไม่ประมาทในเรื่องต่างๆ ต้องควบคุมดูแลค่าใช้จ่ายให้รัดกุม หากมีเงินทุน ต้องกระจายความเสี่ยงไปในหลายๆสถานที่ อย่าไปกระจุกตัว ที่ใดที่เดียวนับแต่วันนี้เป็นต้นไป

• จะต้องเตรียมกระเป๋าเดินทางไว้หลายๆใบ เพื่อใส่สิ่งของจำเป็นให้มากที่สุด เช่น สิ่งของเพื่อการยังชีพ อาทิ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ถุงนอน ยารักษาโรค อุปกรณ์เดินป่า เช่น ไฟฉาย เชือกเส้นใหญ่ น้ำดื่มสะอาด อาหารกระป๋อง ฯลฯ ส่วนทรัพย์สินมีค่าต่างๆ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ ใบหุ้น โฉนดที่ดิน เงินสด ทองคำ ของรักของหวง แยกใส่กระเป๋าอีกใบ

• จะต้องรู้จักการลงทุนข้ามภพชาติ เพื่อปิดประตูนรก เปิดประตูสวรรค์ สะสมบุญบารมีประกอบคุณความดีในช่วงที่เรายังมีลมหายใจอยู่

• จัดสรรเวลาทำบัญชีทรัพย์สิน รวบรวมให้อยู่ในจุดที่เรา และ คนในครอบครัวสามารถหยิบฉวยได้เร็วและง่าย แต่อยู่ในที่ปลอดภัย เมื่อมีภัยพิบัติมา ใครที่อยู่ใกล้หยิบฉวยไปได้เลย ผู้ที่อยู่ไกล ห้ามกลับเข้าบ้านในปัจจุบันที่มีภัยพิบัติ โดยเดินทางไปที่จุดหมายปลายทางที่นัดพบทันที โดยควรเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกได้จะดีที่สุด แนะนำให้ไปดูงานที่โรงเรียนสัตยาไสย ที่ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี ที่ศ.ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เป็นผู้บริหารสูงสุด และ ท่าน ศ.ดร.อาจองฯ จะจัดเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยพิบัติใินอนาคตด้วย

• เมื่อมีภัยพิบัติร้ายแรงเกิดขึ้น ขอยํ้าว่า ห้ามท่านเดินทางกลับที่พักปัจจุบันที่มีภัยพิบัติ ิ มิฉะนั้น ถนนทุกสายจะแน่นไปด้วยรถที่วิ่งไม่ได้ จะเดินทางออกจากบ้านไม่ได้ รถจะติดแบบวินาศสันตะโร ให้ทุกคนในครอบครัว หาทางไปที่จุดหมายปลายทางโดยเร็วที่สุด หรือ นัดพบจุดที่ ,2,3,….ระหว่างทาง เป็นต้น นอกจากนั้น สิ่งที่ท่านควรดำเนินการทันทีในวันนี้ มีดังนี้

1. ถามตัวเองทุกวันว่า วันนี้เราละเว้นในการคิดชั่ว พูดชั่ว และทำความชั่ว ทุกอย่างแล้วใช่ไหม

2. วันนี้ เรามีแต่ตั้งใจที่จะคิดดี พูดดี และทำความดี สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคมไทยแล้วใช่ไหม เราไม่พูด หรือ กระทำการใดๆ ให้เกิดความเกลียดชังกัน ไม่อิจฉาริษยาใครๆทั้งสิ้น ไม่ส่งต่อข้อมูลที่จะไปสร้างแรงโกรธเกลียดผู้ใดในสังคมไทยทั้งสิ้น ใครสร้างความเดือดร้อน ความไม่พอใจให้เรา เราคิดแต่การให้อภัยกันเท่านั้น ใช่ไหม

3. วันนี้เราตั้งใจฝึกจิต ให้สงบเย็น และบริสุุทธิ์ผ่องใส นึกถึงบุญ หรือ กรรมดีของเราทุกคืนก่อนนอน และ ทุกเช้าก่อนลุกจากที่นอนแล้วใช่ไหม เราต้องตั้งใจเริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฝึกให้ชำนิชำนาญ นึกปุ๊บเห็นปั๊บได้ ท่านปิดประตูนรก เปิดประตูสวรรค์แน่นอน

4. ท่านต้องการพูดอะไร ทำอะไร ให้อะไร แก่คุณพ่อคุณ แม่ สามี/ภริยา บุตรธิดา ลุงป้ าน้าอา ปู่ย่าตายาย เพื่อนสนิทมิตรสหาย ผู้ที่เคยมีบุญคุณแก่ท่าน ให้เขามีความสุข มีความพอใจ ให้รีบแสดงความกตัญญูกตเวทีโดยทันทีที่สามารถกระทำได้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง รวมทั้งผู้ที่ท่านเคยสร้างความทุกข์ร้อนให้แก่เขา จงไปขอโทษเขา ขออโหสิกรรมต่อกันโดยเร็ว และ

5. ท้ายที่สุด คือ ท่านต้องการทำภารกิจสุดท้ายในเรื่องใดให้แก่ตัวท่านเอง หรือ ต้องการสภาวะจิตสุดท้ายในรูปอาสันนกรรมใด เพื่อเป็นพลังขับส่งจิตวิญญาณท่านไปสู่ภพภูมิใดก็ให้ลงมือทำในวันนี้ทันที ทำทุกวัน จนกว่าวันมหันตภัยจะมาถึง ซึ่งไม่น่าจะนานมากนักแล้ว

• ในทุกๆคืนก่อนนอน ท่านต้องฝึกทำจิตให้สงบเย็น สะอาด สว่าง ตัดภาระความกังวลทั้งปวง หายใจเข้า– ออก ยาวๆลึกๆ จนหลับไป

• เราต้องตั้งใจเร่งสร้างอริยทรัพย์ เพื่อเป็นสะพานเชื่อมโยงไปสู่ภพหน้าให้ได้มากที่สุด จิตของเราต้องมีสติมั่นคงอยู่กับร่างกายของเรา ไม่ต้องรับรู้เหตุการณ์ภายนอกทั้งสิ้น

• ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ท่านต้องรักษาศีล 5 ให้ได้ ในเบื้องต้นนั้น อย่างน้อยที่สุด เมื่อท่านละสังขารในชาตินี้ ท่านจะมีมนุษยสมบัติเต็ม ไม่ว่ารูปสมบัติ ธนสารสมบัติ โภคยสมบัติ ปฏิภาณสมบัติ และบริวารสมบัติ

• แต่ถ้าโอกาสเปิดช่องให้เรามีชีวิตรอดอยู่ต่อไป ก็ขอให้ท่านตั้งใจปฏิบัติตามภารกิจก่อนการเกิด มหนัตภัยในครั้งนี้ รับรองได้ว่าชีวิตในอนาคตของท่าน จะมีแต่ความเจริญในทางธรรมอย่างแน่นอน ยืนยันได้ว่าชีวิตหลังความตายของท่านนั้น ท่านจะได้สิ่งต่าง ๆ มากกว่าที่ท่านเคยได้รับมาในชาติปัจจุบัน หลายร้อยเท่าอย่างแน่นอน ท้ายที่สุด

• ไม่น่าเชื่อว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ภายใต้สถานการณ์ที่เรามีเวลาเหลือก่อนที่จะเกิดมหนัตภัย เราได้ทำอะไร ๆ ดีกว่าทุกช่วงของชีวิตที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่าง เต็มไปด้วยกุศลกรรมที่ดี ๆ ทั้งนั้น ซึ่งบุญกุศลที่ท่านได้คิด ได้พูด ได้ทำ เป็นกองบุญใหญ่มากกว่าบริจาคเงินสร้างวัด 7 วัด สร้างโบสถ์ 7 หลัง รวมกัน ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญมากในชีวิต เพราะเป็นการปฏิบัติธรรมขั้นอุกฤษณ์ มีทั้งการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ของลูก มีการให้อภัยทาน มีการทำสมถภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา รวมทั้งกุศลกรรมต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง

ขออนุญาตย้ำว่า ถ้าท่านต้องการอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไป

• ท่านต้องฝึกหัดกินพืช ผัก ผลไม้ให้มากขี้น แทนการกินแต่เนื้อสัตว ์ เพื่อให้ร่างกายคุ้นเคยกับอาหารประเภท พืชผัก ซึ่งจะกลายเป็นอาหารหลักในช่วงมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ในรอบ 13,000 ปี เพราะสัตว์ที่เป็นอาหารของคน ก็อยู่รอดได้ยากในช่วงนั้น ๆ เนื่องจากหาพืชกินไม่ค่อยได้ จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ขอให้ทุกท่าน “จงตั้งใจทำทุกภารกิจในทุกหน้าที่ที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องในปัจจุบันขณะให้ดีที่สุด”

• “จงรู้หน้าที่ของตน ที่ต้องรับภาระในแต่ละเวลา แต่ละสถานที่ หากเป็นพ่อ ต้องเป็นพ่อที่ดีที่สุด หากเป็นแม่ ต้องเป็นแม่ที่ดีที่สุด หากเป็นลูก ต้องเป็นลูกที่ดีที่สุด หากเป็นพี่ ต้องเป็นพี่ที่ดีที่สุด หากเป็นน้อง ต้องเป็นน้องที่ดีที่สุด หากเป็นหวัหน้า ต้องเป็นหวัหน้าที่ดีที่สุด หากเป็นเพื่อน ต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด หากเป็นลูกน้อง ต้องเป็นลูกน้องที่ดีที่สุด ฯลฯ]โดยต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ตามความรู้ความสามารถ ที่เราสามารถกระทำได้ในช่วงเวลานั้น ๆ”

• “หากจะมีอะไรเกิดขึ้น ขนาดฟ้าถล่ม ดินทลายก็ตาม เราต้องพร้อมจะตอบได้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้พยายามทั้งการคิด การพูด และการกระทำในเรื่องต่างๆที่เป็นกุศล ที่ประกอบไปด้วย ความมีเมตตา ปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข ประกอบไปด้วยกรุณา ปรารถนาให้คนอื่นพ้นจากความทุกข์ ยินดีกับทุกคนที่ได้ดี กระทำทุกอย่างที่เป็นสิ่งที่ดี อย่างดีที่สุดแล้วใช่หรือไม่ เพียงไร หากยังไม่ใช่ เราจะต้องคิดใหม่ ทำใหม่ และ พูดใหม่ให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่เรามีสติระลึกได้”

• ขอพลังแห่งความดีงาม การประกอบกรรมดีของประชาชนคนในชาติทุกหมูเหล่า รวมด้วยช่วยกัน ช่วยกันสวดมนต์ทำสมาธิ แผ่เมตตา ตั้งจิตที่มีความปรารถนาดีต่อกันและกันขอให้มีความรักในเพื่อนบ้าน เพื่อนในชุมชน เพื่อนในสังคม เพื่อนร่วมชาติ และเพื่อน ร่วมโลกให้มากว่าที่เคยรู้สึก ที่เคยกระทำ ขอให้มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้มากกว่าเดิม มวลความดี จะเป็นพลังทิพย์ช่วยให้ครูบาอาจารย์และผู้มีฤทธิ์เพิ่มฤทธิ์การช่วยเหลือมนุษยชาติไิด้มากขี้น ภัยพิบัติจะได้ลดลง และเลื่อนเวลาออกไป อาจประสบผลสำเร็จได้ไม่มากก็น้อย ยังดีกว่ามือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ

• ขอกราบเรียนว่า ข้อแนะนำทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง เรื่องต่างๆดังต่อไปนี้ ไม่ว่าเรื่อง ด.ช.ปลาบู่ เรื่อง ของลุงพระเชียงใหม่ หรือ คำพยากรณ์ต่างๆ ตามลำดับต่อไปนี้ ท่านจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อก็ได้ซึ่งท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อนนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่า ไม่สำคัญเพียงแต่ขอให้ท่านเป็นคนดีในสังคมดำเนินชีวิตตามที่ได้แนะนำไว้ ท่านมีแต่กำไรชีวิต เมื่อละสังขารไปแล้ว รับรองได้ว่า ท่านไม่เสียชาติเกิดอย่างแน่นอน และ มีสุคติภพรองรับแน่นอน และ ข้าพเจ้าก็ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วย

• ขอให้ทุกท่านมีความปลอดภัย มีความสุข สงบ สำเร็จ สมหวัง และ มีสันติในจิตใจของทุกท่าน

ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ..

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

http://palungjit.org/threads/แผ่นดิ...ว่างปี-2560-2563-อ-มงคล-กริชติทายาวุธ.321697/

http://palungjit.org/threads/เจาะลึ...ิใ-ห้เป็นทางรอด-เพื่อต้อนรับปี-2012-a.321658/
…………………………………………………………………………………………………………………<O</O

ที่มา คัดมาจากบางส่วนของบทความอาจารย์มงคล กริชติทายาวุธ " รวมคาดการณ์ภัยพิบัติใหญ่ในปี 2012 – 2014 (พ.ศ. 2555 – 2557)" http://mongkoldham.com/text/sanRMC_941.pdf

 

อ่านแล้วรู้สึกเป็นพระคุณอย่างสูง
เท่าที่ดิฉันเคยอ่านบทความของ นายมงคล กริชติทายาวุธ..
เป็นคำแนะนำที่สมเหตุสมผลมากเลยทีเดียว นำไปปรับใช้ได้เหมาะกับปัญหาปัจจุบัน
ขอบคุณคนฝั่งโขง ผู้นำมาโพสกระทู้

 

ขอบคุณพี่มากเลยนะค่ะ ที่มาโพสต์หกระทู้ดีๆให้เราได้อ่านกันค่ะ

 

ทำต่อไปนะ สิ่งดีๆ จะเข้ามาสู่เราและครอบครัว ขอให้เจริญในธรรม

 

เคยสนมนากับคุณมงคลมาบ้าง.....

เพราะเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า....ครับ
ท่านศึกษาเรื่องนี้และปฏิบัติธรรมมานานพอสมควรจนถึงกับรู้เห็นความเป็นไปในโลกอนาคต จึงรวบรวมมาให้เราท่านได้ศึกษาวิเคราะห์

ส่วนตัวไม่มีความสงสัยในบทความนี้ เพราะก็ทราบมาว่าอนาคตก็จะเป็นไปในทำนองเดียวกัน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีผู้คนทั่วไปรู้เรื่องนี้ไม่ถึงครึ่งของคนทั้งประเทศ
ในจำนวนนั้นทราบและเชื่อว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

แต่ที่น่าตระหนกก็คือ มีผู้คนเพียง 1% เท่านั้น ที่เชื่อแล้วเตรียมการรับมืออย่างใช้สติปัญญา

คำถามที่ตามมามีอยู่ว่า แล้วผู้คนที่เหลือในที่สุดจะไปอยู่ที่ไหนกันหมด

 

เข้ามาสนับสนุนคนดีๆครับ

ขอบพระคุณมากสำหรับคำแนะนำของท่าน ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขมากๆ

คนดีๆจงออกมาสนับสนุนคนดีกันนะครับ. อย่าปล่อยคนชั่วเพ่นพ่านฝ่ายเดียว

 

รู้ และ ติดตามมา 5-6 ปี
ตอนแรกก็พยายามเตรียมความพร้อมหลายๆ อย่าง

แต่ตอนนี้ ข้อมูลที่รับมา มันร้ายแรงกว่าที่คิดมาก
ทั้งโลกเอียง โลกพลิก ระเบิดพายุสุริยะ
โลกสวิง หมุนกลับทิศ
เปลือกโลกระเบิด ดินไหวรุนแรง
สึนามิ ระดับ 200 เมตร
โลกเย็นจนหนาวและแข็ง
etc....

ตอนนี้ทำใจแล้ว เพราะคิดว่าร่างกายเราอ่อนแอเกินกว่าจะรับได้
ยอมแล้วครับ

 

ทุกปัญหาข้างต้นที่บอกมา มีทางแก้ไขได้

ไม่จำเป็นต้องไปยอมแพ้ หรอก ครับ

อย่างน้อยเราเกิดในดินแดนพระพุทธศาสนา
มีพระรัตนไตรเป็นที่พึ่งสูงสุด มีปัญญา มีกัลยาณมิตรธรรมช่วยเหลือ
ถ้าตั้งใจจริง ไปรอด ครับ

 

พระมหาชนก คือทางออก สุดกำลังสุดความสามารถ.....ลองพิจารณาครับ

 

ขอบคุณมีสาระในการดำเนินชีวิตไม่ว่าจะเกิดอะไรหรือไม่ขอบคุณฮะ

 

ผมก็ติดตามบทความของอาจารย์มงคล ทราบว่าท่านปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย บทความและข้อความของท่านมีประโยชน์มากๆ ผมอยาก
จะช่วยนำเผยแพร่อีกทางหนึง เพื่อให้ท่านที่ทราบได้เตรียมความพร้อมไว้บ้าง โดยเฉพาะทางใจ ซึ่งสำคัญมากๆ ขอบคุณท่านNirvana ที่ช่วยให้ข้อมูลครับ

 

นอกจากการเตรียมพร้อมในทางโลกแล้ว การเตรียมพร้อมในทางธรรม
ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ เมื่อเราทำความดีและสะสมบุญบารมีพอ
สมควรแล้ว เราจะมีพระรัตนไตรเป็นที่พึ่ง อะไรจะเกิดเราก็ไม่หวั่นไหว
ทุกอย่างมีเกิด และดับทั้งสิ้น แม้แต่ตัวเรา..กำลังใจต้องเข็มแข็งนะครับ
อย่าท้อ...เรารับรู้ข้อมูลเพื่อเตรียมกายเตรียมใจ ใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์
ขอให้โชคดีครับ