เทวพาณิชย์"จตุคามฯหมื่นล้าน" วิกฤตศรัทธาพุทธศาสนา?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 2 พฤษภาคม 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    [​IMG]ปรากฏการณ์ "จตุคามรามเทพ" ที่แผ่ขยายไปทั่วทุกหัวระแหงในสังคมไทย ทำให้หลายฝ่ายที่จับตาถึงกับ "อึ้ง"

    เพราะจตุคามรามเทพทำให้แวดวงเครื่องราง ของขลัง หรือพระเครื่องที่เคยซบเซากลับคึกคักขึ้นในพริบตา ทั้งยังมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในธุรกิจประเภทนี้นับหมื่นล้านบาท

    พร้อมไปกับกระแสความนิยมและศรัทธาต่อ "เทพ" หนึ่งคำถามสำคัญก็เกิดขึ้น

    "ทำไมจตุคามรามเทพจึงกลายเป็นที่พึ่งของคนไทยในยุคนี้"

    คำตอบอาจไม่มีตายตัว แต่การพยายามอธิบายปรากฏการณ์ "จตุคามรามเทพ" เป็นเรื่องน่าสนใจ

    "ฉลอง สุนทราวาณิชย์" อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องที่กำลังร้อนนี้ในงานเสวนา "จตุคามรามเทพ สังคม ศรัทธา และมูลค่าการตลาด" จัดโดย นิตยสารศิลปวัฒนธรรม เมื่อ 26 เมษายน ไว้ว่า

    ดูเหมือนว่าสังคมไทยเป็นสังคมเดียวในโลกที่เครื่องรางกลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง และยกระดับขึ้นถึงขั้นเป็นอุตสาหกรรม กลายเป็นกลุ่มของระบบเศรษฐกิจในประเทศไปโดยปริยาย

    ทั้งยังเป็นสังคมเดียวในโลกที่มีคู่มือดูเครื่องรางว่าแบบไหนแท้หรือไม่แท้ มีฤทธานุภาพด้านใด รวมถึงมีตำราดูว่าเครื่องรางแต่ละอย่างเหมาะสมกับการทำกิจกรรมหรือกิจการแบบใด

    สำหรับจตุคามรามเทพนั้น ถึงตอนนี้คาดว่ามีการผลิตออกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 300 รุ่น มีจำนวนราว 30-60 ล้านชิ้น

    อาจารย์ฉลองพูดต่อว่า องค์จตุคามรามเทพที่ครั้งหนึ่งเป็นเพียงเทพที่รักษาองค์พระธาตุ วันนี้กลายมาเป็นเจ้าของฤทธานุภาพบนเหรียญหรือบนเครื่องรางที่ผลิตขึ้นมา ขณะที่แต่เดิมพื้นที่บนเหรียญเป็นของเกจิอาจารย์ในศาสนาพุทธ

    "จะมองปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ในจตุคามรามเทพว่าเป็นเรื่องเหลวไหล เพ้อเจ้อไร้สาระ งมงาย ก็เป็นสิ่งที่ง่าย แต่อีกด้านสามารถอธิบายได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่าเป็นเรื่องที่คนเข้าถึงได้ เข้าถึงในความหมายของการที่มีคนเคยรอดตายหรือประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะบูชาจตุคามรามเทพ
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    "เรื่องของอำนาจหรือความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องงมงายแต่เป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึง เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าวิธีคิดแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย" อาจารย์ฉลองบอก

    ส่วน "นิธิ เอียวศรีวงศ์" นักวิชาการอิสระ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ให้ความเห็นว่า

    ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาจตุคามรามเทพเป็นคนชั้นกลาง ประกอบไปด้วยคน 3 ประเภท คือ พวกวิชาชีพ เป็นพวกเอาความรู้ไปประกอบอาชีพ พวกพ่อค้านายทุนที่อยู่ในตลาดการผลิตอย่างเข้มข้น และกลุ่มภาคบริการ อย่างเสริมสวย ร้านอาหาร ฯลฯ

    ลัทธิจตุคามรามเทพตอบสนองต่อชีวิตคนชั้นกลางอย่างยิ่ง ดูจากอุดมการณ์หรืออุดมคติของจตุคามรามเทพที่ออกไปในทางทำมาค้าขาย เห็นได้จากชื่อรุ่นอย่าง รุ่นทรัพย์วิเศษ รุ่นทวีโภคทรัพย์ รุ่นมหาโชค เป็นต้น

    เมื่อชื่อรุ่นแสดงถึงความร่ำรวย จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนบูชาจตุคามรามเทพกันมาก

    "จตุคามรามเทพมีพื้นฐานความเชื่อด้านบริโภคนิยม มีความเชื่อที่ขัดกับหลักพุทธศาสนา ศาสนาพุทธสอนว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน การไม่พึ่งตนเองแต่หันไปพึ่งจตุคามรามเทพจึงขัดกับหลักศาสนาอย่างยิ่ง

    "อีกแง่หนึ่งปัจจุบันคนชั้นกลางห่างวัดขาดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ จตุคามรามเทพจึงกลายเป็นสิ่งที่เคารพนับถือ เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่าคิด คือ เกิดอะไรขึ้นกับพุทธศาสนาของไทย ทำไมถึงไร้ความหมายและอ่อนแอถึงขนาดนี้

    "เราในฐานะชาวพุทธจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อเพิ่มพลังของพระพุทธศาสนาให้กลับคืนสู่สังคม" อาจารย์นิธิตั้งคำถามฝากให้คิด

    ด้านนักสื่อสารการตลาดที่มาร่วมเสวนาด้วยอย่าง "ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ" ใช้มุมมองทางการตลาดวิเคราะห์กระแสจตุคามรามเทพ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    เวทีเสวนา "จตุคามรามเทพ สังคม ศรัทธา และมูลค่าการตลาด"

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ธีรพันธ์อธิบายว่า สาเหตุที่ทำให้จตุคามรามเทพได้รับความสนใจจากประชาชนมาก เป็นเพราะมีการสร้างรูปลักษณ์ที่แปลกออกไปจากเครื่องรางของขลังหรือพระเครื่องที่มีอยู่ทำให้เป็นที่สะดุดตา ประกอบกับมีเรื่องราวประวัติความเป็นมาให้ศึกษา

    ระบบการผลิตก็มีส่วนอย่างมาก ยิ่งใช้มวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากเท่าใดยิ่งดี หากทำพิธีที่ศาลหลักเมืองหรือวัดมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้คนจะยิ่งให้ความสนใจ

    "การแขวนจตุคามรามเทพทำให้คนอื่นเห็นได้ง่าย เป็นการโฆษณาได้ทางหนึ่ง ราคาของจตุคามรามเทพมีให้เลือกมากมาย ช่องทางการเช่าก็มีมากขึ้นทั้งผ่านแผงพระ สถานที่ปลุกเสก หรือจองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ความนิยมในจตุคามรามเทพสูงขึ้น" ธีรพันธ์สรุป

    ส่วน "พิศาล เตชะวิภาค" อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย ที่แม้ไม่ได้ร่วมวงเสวนา แต่ความเห็นดูจะไม่ต่างกันนัก

    พิศาลเล่าว่า การที่จตุคามรามเทพมีการหาเช่าในราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้วัดอื่นต้องการสร้างขึ้นบ้าง บวกกับเสียงร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้คนรู้จักจตุคามรามเทพในวงกว้าง

    เมื่อก่อนพระเครื่องจะมีการเช่าหาเฉพาะกลุ่ม การขยายตลาดก็ค่อยเป็นค่อยไป แต่จตุคามรามเทพสามารถขยายตลาดที่ไม่ใช่นักสะสมพระอย่างที่ผ่านมา เปลี่ยนเป็นผู้บริโภคทุกชั้น แม้แต่คนที่ไม่เคยเช่าพระเครื่องก็ยังสนใจ

    ส่วนการที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะความต้องการของตลาดมากขึ้น เมื่อผู้เช่ามีมากกว่าผู้ค้า ราคาก็เป็นไปตามกลไกตลาด

    อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยยังบอกอีกว่า กระแสจตุคามรามเทพเป็นการตลาดที่มีความซับซ้อนกว่าการตลาดของพระเครื่องแบบเดิม

    การตลาดของพระเครื่องแบบเดิมจะสร้างหรือรวบรวมรุ่นที่ต้องการประชาสัมพันธ์ จากนั้นค่อยสร้างกระแสขึ้นมา อาจเป็นด้านพุทธคุณหรือฤทธานุภาพต่างๆ "ปั่น" จนราคาในท้องตลาดสูงขึ้น ถึงจุดหนึ่งก็เลิก

    แต่การตลาดของจตุคามรามเทพซับซ้อนกว่ามาก มีการสร้างกระแส มีสินค้าที่เปลี่ยนแบบ (รุ่น) อยู่ตลอดเวลา และยังมีการบอกต่อกันอยู่สม่ำเสมอ ทำให้กระแสที่กำลังจะลงกลายเป็นลอยตัวได้ในระยะยาว

    "แม้แต่ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการยังคาดเดาได้ยากว่า กระแสจตุคามรามเทพจะหมดลงเมื่อใด"

    ข้อมูลของกระทรวงการคลังระบุว่า ปรากฏการณ์นี้มีเงินสะพัดทั้งระบบกว่า 22,000 ล้านบาท และเมื่อสิ้นกลางปี 2550 เชื่อว่าจะสูงถึง 30,000 ล้านบาท

    เป็นเงินจำนวนมหาศาล ถึงขั้น ศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร เกิดความคิดจัดเก็บและตรวจสอบภาษีบรรดาร้านค้า แผงพระเครื่อง และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเช่าบูชาจตุคามรามเทพ แต่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวัดที่ทำการปลุกเสก แล้วนำรายได้เข้าวัดเพื่อประกอบศาสนกิจภายในวัดแต่อย่างใด

    เรื่องนี้ พิศาลมีแนวโน้มไปในทางไม่เห็นด้วย

    "การเก็บภาษีสามารถเก็บได้ แต่เป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการซื้อขายด้วยแรงศรัทธาซึ่งมีช่องว่างหลายด้าน

    "การเก็บภาษีต้องมีการประเมินที่ยุ่งยาก เพราะไม่มีราคาเช่าบูชาที่ตายตัว และไม่ได้เป็๋นราคาที่กำหนดโดยรัฐบาลที่ห้ามขายเกินราคา หากจะเก็บภาษีจริงๆ ต้องสร้างกลไกให้รัดกุม เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของต้นทุน" พิศาลบอก

    ไม่ว่า "กระแสจตุคามรามเทพ" จะเป็นไปอย่างไร

    สิ่งหนึ่งที่สังคมต้องช่วยกันขบคิด คือ "เกิดอะไรขึ้นกับความเชื่อมั่นของผู้คนต่อศาสนา"
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra01020550&day=2007/05/02&sectionid=0131
     
  2. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    อาชีพทำเงิน ยุคจตุคามรามเทพ

    โดย วนิดา เกตุประสาท



    [​IMG]อาชีพเกี่ยวเนื่องกับจตุคามรามเทพที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอยู่ตอนนี้ คงหนีไม่พ้น อาชีพ "ปัดทอง" "ทำกรอบ" "ทำสร้อย" "วาดภาพ" และ "ถ่ายภาพ"

    สมชาย โสรตานนท์ ช่างปัดทอง เล่าว่า วันหนึ่งรับปัดองค์จตุคามรามเทพเกือบ 20 องค์ หากเป็นองค์เล็กคิด 100 บาท องค์ใหญ่ 300-400 บาท แต่ถ้าให้ปัดเงินแท้หรือทองแท้อยู่ที่ราคา 500 บาท

    "ผมทำอาชีพปัดทองมา 2 ปีกว่าแล้ว เมื่อก่อนรับปัดพระวันหนึ่งได้เพียง 200-300 บาท แต่ปัจจุบันมีรายได้ถึง 2,000 บาท" สมชายเล่าโดยแทบไม่ละมือจากการปัดทอง
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    กานต์ ท่าพระจันทร์ อาชีพขายกรอบพระย่านท่าพระจันทร์ บอกว่า กรอบใส่จตุคามรามเทพที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีตั้งแต่ราคา 50 บาท ไปจนถึง 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นพลาสติค สแตนเลส ทอง หรือเงินแท้

    วันหนึ่งๆ มีคนมาหาซื้อกรอบเป็นจำนวนมาก จนได้กำไรตกวันละ 2,000 กว่าบาทแล้ว

    อาชีพขาย "สร้อยเชือกถัก" ทำรายได้ให้ สมเกียรติ หลาวทอง ที่ก่อนหน้าประกอบอาชีพขายผลไม้ แต่เมื่อกระแสจตุคามรามเทพมาแรงอย่างฉุดไม่อยู่ จึงเปลี่ยนมาขายสร้อยเชือกถัก โดยขายได้ถึง 1,500 เส้นต่อวัน คิดเป็นเงินหลายพันบาท <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ภาพวาด" เป็นอาชีพที่ไม่น่ามองข้าม ประเสริฐ ศรีรัตน์ชัชวาลย์ เจ้าของร้านรับวาดรูปสีน้ำมันย่านงามวงศ์วาน เล่าว่า ตั้งแต่ต้นปี 2550 มีผู้ว่าจ้างให้วาดภาพจตุคามรามเทพเป็นจำนวนมาก ถึงตอนนี้มี 10 กว่ารูปแล้ว ใช้เวลาวาด 20-30 วัน

    รูปขนาด 1x1.5 เมตร ราคาประมาณ 70,000-80,000 บาท แต่หากรายละเอียดของรูปเยอะราคาจะอยู่ที่100,000 บาท

    ด้าน ตี๋ วังทอง เจ้าของร้านรับถ่ายภาพพระแถวลาดพร้าว บอกว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาภาพเกือบทั้งหมดที่ถ่าย คือ จตุคามรามเทพ วันหนึ่งมีมาเป็นร้อยๆ องค์ ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

    ส่วน ไก่ โพธิ์ทอง เจ้าของร้านให้เช่าบูชาจตุคามรามเทพย่านงามวงศ์วาน บอกว่า ยังมีอาชีพขายเสื้อยืดพิมพ์ลายจตุคามรามเทพ หลายสี หลายขนาด หลายเนื้อผ้า อาชีพขายสติ๊กเกอร์

    หรือกระทั่งอาชีพจำหน่ายคาถาบูชาจตุคามรามเทพก็มีให้เห็น
     
  3. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    จะแขวนพระ แขวนเทพ องค์ไหน ถ้าไม่ขยันทำมาหากินก็ไม่รวยหรอก และก็กันตายไม่ได้เหมือนกัน เพียงแต่ถ้าถือศีลมีความศรัทธาจริง อาจจะป้องกันหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้ แต่ถ้าถึงคราวตายจริงๆ จิตนึกถึงก็ไปสู่สุคติครับ
     
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ความนิยมและศรัทธา เป็นเรื่องห้ามกันไม่ได้
    แต่ถ้าความนิยมและศรัทธานั้น ไม่ประกอบไปด้วยปัญญา
    ความหลงในวัฏฏะ ก็ยังมีอยู่ไม่จบสิ้น
    พูดง่ายๆ คือ หาหนทางแห่งนิพพาน ไม่เจอ
     
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    มนุษย์เรานี่แปลก...เมื่อตัวหลงเข้าครอบงำแล้ว
    มักจะทำอะไรไปได้โดยขาดเหตุผล และความไตร่ตรองโดยละเอียด

    อย่างเช่นจตุคามรามเทพ รุ่นราชันย์ดำ
    ของแท้ผ่านพิธี แบบธรรมดา ลูกละ 1,500.-บาท เข้าไปแล้ว
    ไม่รู้ว่าตอนให้จองราคาเท่าไร

    แต่พอของเลียนแบบออกมา ชัดมาก แทบไม่แตกต่างของจริง
    วางจำหน่าย 99.- ไม่มีคนซื้อ บอกว่าปลอม
    พอเปลี่ยนราคาเป็น 300.- คนซื้อคว้ามับ บอกว่า
    นี่ซิของแท้....เวรกรรม ๆ
     
  6. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    นั่นนะสินะ
     
  7. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,595
    ค่าพลัง:
    +6,346
    เคารพกราบไหว้พ่อแม่ดีและองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระฆง "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
     
  8. satie

    satie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +383
    ต้องช่วยตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน.... อย่างที่เขาว่ากันว่า "พระเครื่อง เครื่องรางของขลังน่ะ เขาช่วยเราแล้วตั้งครึ่ง ที่เหลือก็แล้วแต่เราแล้วล่ะ..."
     
  9. wudiman

    wudiman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,333
    ทุกอย่างมีเหตุและผล มนุษย์ติดอยู่กับกิเลสกันตั้งแต่เกิดแล้ว ธรรมดาที่จะมีสิ่งใดก็ตามที่จะทำให้ร่ำรวยได้ ไม่ว่ารู้แบบไหนก็จะเป็นที่นิยมและบูชากัน พระเครื่อง ของขลังทั้งหลายก็เป็นอีกหนึ่งในการยึดเหนี่ยวของคนในสมัยนี้ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องเตือนสติให้กระทำความดี ละเว้นความชั่วได้ในระดับหนึ่ง มีองค์จตุคามรามเทพไว้บูชาก็ไม่เสียหายอะไรถ้าคุณต้องการที่พึงทางใจ แต่ถ้าจะหลุดพ้นก็ต้องละสิ่งสมมติทั้งหมด แล้วดำเนินตามธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น.............นี้ละจริงแท้แน่ที่สุด
     
  10. surapong chot

    surapong chot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,212
    การที่คนนิยมกันมาก นั้น อาจเป็นเพราะบารมีของท่านที่ได้บำเพ็ญมาในอดีตชาติก็ได้ เพราะพระพุทธเจ้าของเราพระองค์ท่านก็ได้บำเพ็ญตนมาไม่ใช้น้อยก่อนที่ พระองค์ท่านจะได้มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ดังนั้นเราไม่ควรกล่าวในสิ่งที่.....ต่อองค์ท่านนะครับ สำหรับผมแล้วคิดว่าอย่างน้อย พระองค์ท่านก็ช่วยให้เศรษฐกิจของเมืองคอน และทั่วประเทศ ได้หมุนเวียนได้ ในระดับหนึ่ง ช่วยให้คนเป็นคนดีได้มากขึ้น เพราะการมีองค์ท่านไว้แล้ว จะต้องทำดีด้วยท่านจึงจะช่วยได้....เป็นสำคัญ....สิ่งสำคัญท่านอาจจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ไดพระองค์หนึ่งก็ได้ในอนาคตข้างหน้า...ผมเคยอ่านเจอไม่รู้ว่าจริงเปล่าว่า หลังกึ่งพุทธกาล เหล่าเทพเทวดา จะมีส่วนร่วม ในการ
    ทนุบำรุงพระพุทธศาสนาเอาไว้ให้ครบ 5000 ปี ตามพุทธทำนาย คอยดูกันต่อไปนะครับ...
     
  11. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,254
    บูชาวัตถุเพื่อเป็นพุทธานุสสติ เป็นเทวตานุสสติ เป็นกรรมฐาน ด้วยความมีสติก็น่าอนุโมทนาครับ

    แต่อย่าบูชา ในลักษณะที่มุ่งไปในทางโลภ ขาดสติเลย ไม่เอาแบบ รวยไม่มีเหตุผล โคตรมหาเศรษฐี หรืออะไร ๆ ทำนองนี้ ดูจะเพิ่มกิเลสเพิ่มวัตถุนิยมในสังคมนี้มากกว่ามุ่งเน้นจิตใจที่ดีงาม สงบ สันติสุข เอาแต่พอดี ๆ ละกันนะครับ
     
  12. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    เฮ้อ ไม่รู้จะพูดว่ายังไงเหมือนกันครับ เกี่ยวกับเรื่องนี้...
     
  13. Nu_Bombam

    Nu_Bombam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,030
    ค่าพลัง:
    +4,914
    ถ้าเป็นผมนะ ผมจะใช้เป็นเทวตานุสสติ มากกว่านะ แบบว่า พอขออะไรท่าน ท่านให้ เราก็นึกขอบคุณท่านแล้วก็นึกถึงความดีของท่าน เกิดเป็นเทพช่วยเหลือชาวบ้านชาวช่องดีจริงๆ แต่เกิดเป็นมนุษย์มันทุกข์ซะจริงๆ หาเช้ากินค่ำไปวันๆ ถ้าชาตินี้ไม่เข้านิพพาน ก็ขอให้ชาติหน้าได้เกิดเป็นเทพ เทวดาด้วยเถิด ชาตินี้ขอเป็นชาติสุดท้ายที่เป็นมนุษย์ พอไปเป็นเทพ เทวดาก็คอยช่วยเหลือมนุษย์สะสมบารมี ต่อยอดข้างบน

    แต่ผมว่าคงจะมีน้อยยยยยยยยยยยยยยยยยคนที่คิดแบบนี้ เหอะๆ ขอแล้วท่านให้ ก็โลภอีก มนุษย์นี่โลภไม่สิ้นสุด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แน่นอนที่ซู้ดดด แต่ในใจผมก็ชอบอธิษฐานให้พระรัตนตรัย พรหม เทวดา ช่วย อิอิ อย่างว่าอ่ะเนอะ มนุษย์มันต้องมีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจ หุหุ
     
  14. Padmapani_AM

    Padmapani_AM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +158
    เมื่อกลไกของการดำรงชีวิตไม่สามารถทำให้มนุษย์มีความยึดมั่นในตนเองได้
    เมื่อวัตถุนิยมได้ถูกพัฒนาประชาสัมพันธ์ให้มีความน่าเชื่อถือที่จะสามารถทำให้การดำรงชีวิตดีขึ้น
    มนุษย์จึงนำวัตถุนิยมมาไว้กับตนเองเพื่อสร้างความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากยิ่งขึ้น
    ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานกาลแล้ว หากแต่ผลสุดท้ายสังคมดีขึ้นหรือไม่ ชีวิตดีขึ้นหรือไม่ ทุกคนคงทราบดีและมีคำตอบของแต่ละคน
     
  15. max77

    max77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +493
  16. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    นี่คิดแบบกลางๆนะ การที่เรากราบไหว้"เทวดา"ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าเองยังสอนเลย 1 ในอนุสติพระกรรมฐาน คือ"เทวานุสติพระกรรมฐาน" จริงๆมันอยู่ที่"ปัณญาของ"คน"มากกว่า ถ้าห้อย"จตุรคาม" แล้วระลึกถึงเทวนุภาพเทวนุสติ แล้วรู้จักมี" หิริ-โอตัปปะ "(ความดีที่เป็นปัจจัยให้เกิดเป็นเทวดา) ก็หน้าจะเป็นมงคลกับตัวเองมากกว่าจะมาติมาติงให้เป็นอัปมงคลเดี๋ยวจะเข้าตัวป่าวๆ.....อีกอย่างนี่อาจจะเป็น"ยุคเป็นสมัย"ของท่านที่จะมาช่วยงาน"พระศาสนาทำนุบำรุงพระศาสนา"ช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกได้ยาก"ก็เป็นได้ เพราะในตำนานท่านเป็น"พุทธภูมิ" ที่สำคัญที่สุดคือ"เจตนา"ของผู้สร้างอันนี้สำคัญจริงๆว่ามีเจตนาในส่วนไหน????? ทำเพื่อตัวเองหลือว่าเพื่อพระศาสนา.......????? ข้อนี้ต้องคิดหนัก!!!!! แต่ส่วนตัวเราชื่อว่านี้เป็น"ยุค"ของท่านที่จะมาบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกได้ยากเพื่อสร้างบรามีก็เป็นได้ ถ้าไม่จริงผู้คนเค้าคงไม่ห่อยกันทั้งบ้านทั้งเมืองหลอก ผู่คน"ส่วนใหญ่คงจะได้อะไรดีๆในชีวิตบางหละจากการ"อธิฐาน"ถึงท่าน .......
     
  17. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    จะเล่านิทานให้ฟัง....สมัยก่อนมีพระอยู่รูปนึง พระสงฆ์รูปนี้ชอบว่า"เทวดา ว่าพระภูมิ ว่าคนที่กราบไหว้เทวดา ว่าเป็นคน"โง่" ชอบจาบจ่วง"พระอริยเจ้า"โดยเฉราะ"พระอรหันที่ทรงอภิญญาต่างๆ" ในที่สุดพระสงฆ์รูปนี้ก็ไม่มี"สำนัก"ที่จะอยู่ เพราะถูกเค้าเอาไป.........ได้ข่าวว่านี่เป็นเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นสมัยไหนยุคไหน? ตอนพูดมันสนุกปาก แต่ผลที่ตามมามัน"ไม่สนุกเลย.....จริงๆนะกับการที่ล้อเล่นกับสิ่งที่ไม่เห็นด้วย"ตาเนื้อ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2007
  18. Tana5

    Tana5 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +53
    ทำดี ความดีจักค้มครอง ทำชั่ว ความชั่วจักสนอง ถ้าไม่หมั่นทำความดี องค์เทพไหนๆก็ช่วยท่านไม่ได้ หมั่นทำแต่ความดี ถึงแม้ท่านไม่ได้แขวนองค์เทพหรือพระ แต่ความดี ก็จะคุ้มครองท่านเองเพราะความดี ก็คือ พระ ที่จะอยู่ในใจของท่านตลอดเวลา
     
  19. rosey

    rosey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,345
    (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467

แชร์หน้านี้

Loading...