เชื่อไหมพระไตรปิฏกขัดแย้งกัน พระยามารวสวัสดิมารจะได้เป็นพระพุทธเจ้า?

เขาว่ากันว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้า ต้องไม่เคยเกิดเป็น "พระยามาร"
แต่ว่านิตยโพธฺสัตว์องค์ที่สี่ คือ "พระยามาราธิราช " องค์นี้ละ เป็นวสัวัสดิมารเลยละ


นี่ไง พระไตรปิฏกยังขัดแย้งกันเองไหมละ?

 

http://www.sereechai.com/demo/news.php?no=2152

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=3021

ศึกษาเยอะๆ จะรู้ว่ามันขัดแย้งกันมีจริงๆ แล้วเราเชื่ออะไร?
แน่ใจรึว่าการสังคายนาครั้งแรก พระไตรปิฏกไม่ถูกบิดเบือน?


นี่มันสังคายนามากี่ครั้งแล้ว?

 

อ่านข้อความของคุณมาเยอะแล้ว เข้าใจว่าคุณมีความรู้ระดับนักปราชญ์ ลองเรียบเรียงความรู้ที่คุณว่าผิดมาให้อ่านกันหน่อย อ้อขอพระอรหันต์(แท้ๆ)รับรองข้อเขียนคุณสัก10องค์นะครับ ไม่ต้องเท่ากับการสังคยนาก็ได้

 

มันเรื่องของท่านพระยามาราธิราชนะครับ อย่าไปกังวลกับประเด็นปัญหานี้ มันเป็นอจินไตยคิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ เอาเวลามาตัดกิเลสในตัวเราดีกว่าครับ ได้ประโยชน์มากกว่าครับ

 

ถ้าจำไม่ผิด เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อๆ บอกว่า พระยามารกลัวพระพุทธองค์จะพาสรรพสัตว์ทั้งหลายไปนิพพานหมด ไม่เหลือให้ตนเองสั่งสอน เลยขัดขวาง... ลองหาหนังสือของหลวงพ่ออ่านดูเถอะ แต่ไม่ขอบอกว่าเล่มไหน เพราะจำไม่ได้เหมือนกัน...

 

เขาว่ากันว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้า ต้องไม่เคยเกิดเป็น "พระยามาร"
แต่ว่านิตยโพธฺสัตว์องค์ที่สี่ คือ "พระยามาราธิราช " องค์นี้ละ เป็นวสัวัสดิมารเลยละ


อยากถามว่า "เขาว่ากันว่า" เขาคนนี้คือ ใคร และอยู่ตรงไหนของพระไตรปิฎก

(b-oneeye)

 

มีคนโพสแล้วในเว็บนี้นะฮะ แต่พวกคุณโมทนาแบบ "ไร้สติ" และ "ไร้ปัญญา"
ไม่เคยพิจารณาสิ่งที่เขาโพสไว้ ไปหาเอาเองเหอะ กระผ้มไม่ใช่คนใช้


อารายกาน ต้องให้ป้อนทุกคำเลยรึไง ไปหาเองมั่งซีฮะ

 

เอ้า หาข้อมูลมาให้ใช้ปัญญาถกธรรมกัน ถกกันดีๆ อย่าด่วนยึดละ (ดูสีแดง)
-----------------------------------------------------------------

อานิสงส์ บารมี 30 ทัส ของพระนิยตะโพธิสัตว์
พระนิยตะโพธิสัตว์เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรก จะมีอานิสงส์ 18 อย่าง ตลอดจนได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ได้แก่
1. เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมไม่เกิดเป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
2. ไม่เป็นหูหนวกแต่กำเนิด
3. ไม่เป็นคนบ้า
4. ไม่เป็นคนใบ้
5. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
6. ไม่เกิดในมิลักขประเทศคือประเทศป่าเถื่อน
7. ไม่เกิดในท้องนางทาสี (แต่เกิดในฐานะคนจันทาลได้ ดัง พระโพธิสัตว์ มาตังคะฤาษี ท่านเป็นบุตรคนจันทาล แต่ไม่ได้เป็นนางทาสี)
8. ไม่เป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
9. ไม่เป็นสตรีเพศ
10. ไม่ทำอนันตริยกรรม
11. ไม่เป็นโรคเรื้อน
12 เมื่อเกิดเป็นสัตว์เดียรฉาน มีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และ ไม่ใหญ่ไปกว่าช้าง
13. ไม่เกิดใน ขุปปิปาสิกเปรต นิชฌานตัณหิกเปรต และกาลกัญจิกาสุรกาย
14. ไม่เกิดในอเวจีนรก และโลกันตนรก
15. ไม่เกิดเป็นเทวดาใน กามาพจรสวรรค์ ไม่เกิดเป็นเทวดาที่นับเข้าในเทวดาพวกหมู่มาร
16. เมื่อเกิดเป็นรูปพรหม จะไม่เกิดใน ปัญจสุทธวาสพรหมโลก(พรหมชั้นอนาคามี) และอสัญญสัตตาภูมิพรหม( มีแต่รูปอย่างเดียว)
17. ไม่เกิดในอรูปพรหมโลก
18. ไม่เกิดในจักรวาลอื่น

 

มีบางแห่งเผยแพร่โดยใช้คำว่า "ต้องไม่เคยเกิดเป็นพระยามาร"


เอ้า ใช้สติปัญญาดูหน่อยสิ ว่าเผยแพร่แบบไหนจะเหมาะ....

 

"อานิสงส์ บารมี 30 ทัส ของพระนิยตะโพธิสัตว์
พระนิยตะโพธิสัตว์เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจะมีอานิสงส์ 18 อย่าง ตลอดจนได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า"

นี่เป็นอานิสงส์ของพระนิยตะโพธิสัตว์ที่ได้ รับพุทธพยากรณ์แล้วใช่ มั๊ยครับ
แต่ถ้ายังอยู่ระหว่างการสร้างสมบารมีล่ะ ครับ หมายถึงว่าถ้ายังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ก็น่าจะยังเกิดเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจาก 18 ข้อนี้ได้ หรือเปล่าครับ แต่เมื่อบารมีสมบูรณ์ถึงขั้นพระนิยตะโพธิสัตว์จึงจะได้รับพุทธพยากรณ์ แล้วจึงมีอานิสงส์ทั้ง 18 ประการ
ผมเข้าใจแบบนี้ ไม่ทราบว่า คิดเห็นกันอย่างไรครับ

 

ตามที่อ่านดูข้ออื่นๆ ก็น่าจะรู้นะว่าเจตนารมณ์ของ ข้อ 15 นั้น ควรจะหมายความว่าอย่างไร
12 เมื่อเกิดเป็นสัตว์เดียรฉาน มีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และ ไม่ใหญ่ไปกว่าช้าง
13. ไม่เกิดใน ขุปปิปาสิกเปรต นิชฌานตัณหิกเปรต และกาลกัญจิกาสุรกาย
14. ไม่เกิดในอเวจีนรก และโลกันตนรก
15. ไม่เกิดเป็นเทวดาใน กามาพจรสวรรค์ ไม่เกิดเป็นเทวดาที่นับเข้าในเทวดาพวกหมู่มาร
16. เมื่อเกิดเป็นรูปพรหม จะไม่เกิดใน ปัญจสุทธวาสพรหมโลก(พรหมชั้นอนาคามี) และอสัญญสัตตาภูมิพรหม( มีแต่รูปอย่างเดียว)
17. ไม่เกิดในอรูปพรหมโลก
18. ไม่เกิดในจักรวาลอื่น

และเราคิดว่านะผู้ที่จะบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าได้ในชาติสุดท้ายนั้น ก็มีแต่ผู้ที่เป็นมนุษย์เท่านั้นนะ เพราะเท่าที่ศึกษามาไม่เคยพบว่าผู้ที่เกิดเป็นเทวดา พรหม หรือ สิ่งอื่นๆนอกจากมนุษย์ จะบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้าได้
และถึงแม้ว่าจะเคยเกิดเป็นวสัวัสดิมาร ก็ยังถือว่ายังอยู่ในวัฏสงสารอยู่ดี ก็เหมือนที่เคยเกิด เป็นสัตว์นรกนั่นแหละ ก็ยังอยู่ในกฎของไตรลักษณ์อยู่ คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ ดับไป จนกว่าจะถึงพระนิพาน

 

โอ้ววว เยี่ยมๆๆๆ มีคนใช้ "สติปัญญา" แล้ว


เย้ๆๆ ดีจายๆๆๆ เหมือนถูกหวยเยยย ดีจายจริงๆๆๆ



ครือ ทุกคนหากยังไม่เข้านิพพาน ยังบำเพ็ญเพียรก็พลาดกันได้ทั้งนั้น
การจะจุติเป็นมารเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เมื่อพลาดแล้วก็ได้รับการสอน
จึงละฑิฐิแล้วก็หันมาทางที่ถูกต้อง


ดังนี้แปลว่า พระยามาราธิราชท่านบารมีถึง 30 ทัศแล้วด้วยนาฮะ

 

เป็นคำถามที่น่าสนใจมากมายครับ คำถามนี้เป็นอุภโตโกฏิ มีสองง่ามสองแง่
คล้ายกับคำถามของพระยามิลินท์ที่ถามพระนาคเสน ~~

ครั้งหนึ่งพระยามิลินท์ ถามพระนาคเสนว่า "พระนาคเสน พระพุทธเจ้าตรัสว่า เหตุที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้นั้นมีอยู่ 8 ประการเท่านั้น ถ้าคำนี้เป็นจริงแล้ว อย่างนั้นคำพูดที่ว่า แผ่นดินไหวถึง7ครั้งด้วยมหาทานของพระเวสสันดร นั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่ถ้าแผ่นดินไหวด้วยมหาทานของพระเวสสันดรเป็นจริง คำที่ว่า เหตุแห่งแผ่นดินไหว 8ประการนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะ<WBR>ว่า<WBR>การ<WBR>ให้<WBR>ทาน<WBR>ไม่<WBR>นับ<WBR>เข้า<WBR>ใน<WBR>เหตุอย่างใด<WBR>อย่าง<WBR>หนึ่ง ใน<WBR>เหตุ 8 อย่าง<WBR>ที่ทำให้เกิด<WBR>แผ่น<WBR>ดิน<WBR>ไหว<WBR>นั้น "
พระนาคเสน จึงตอบว่า
<DD>

 

อภิมหาโมทนาขอร้าบบบ ท่าน "ไฟราคะ"


ขอ "อาราธนาท่านผู้เจริญโปรดสัตว์ในเว็บไซต์" นี้ด้วยเถิด เพื่อยังสติปัญญา
ให้เกิดแด่หมู่มวลเวไนยสัตว์ผู้ไม่พ้นซึ่งวัฏกะสงสารอันแสนทุกข์ทรมานนี้


สาธุ สาธุ สาธุ...

 

อยากทราบจุดประสงค์ของพวกคุณจังครับ ต้องการจะบอกว่าพวกเราไม่ควรเชื่อพระไตรปิฏก อย่างนั้นหรือ???

หรือแค่ต้องการจะจับผิดพระไตรปิฏก??? ผมมองว่าส่วนที่ท่านๆยกมานั้นมันไม่ใช่แก่นของพระพุทธศาสนาเลยย

จะเอามาเถียงกันทำอะไรหนอ

 

วัตถุประสงค์...

โอ้ววว เยี่ยมๆๆๆ มีคนใช้ "สติปัญญา" แล้ว



จิตผู้บริสุทธิ์ย่อมเห็นวัตถุประสงค์จึงมีผู้มาตอบด้วยปัญญา
จิตผู้คิดอกุศลก็คิดอกุศล ดังเช่นนั้นแล ดูสิ ดูจิต สติ สติ...

 

พระไตรปิฎกถูกสังคยานา มาหลายครั้ง เนื่องจากบางทีเกิดสงคราม ข้าศึกเผาหรือทำลาย ในสมัยรัชกาลที่ 1 ท่านทรงโปรดให้มีการสังคยานา ผู้ที่จะทำการสังคยานา ล้วนแต่เป็นพระอริยะเจ้าเบื้องสูง ดังนั้นโอกาสที่จะผิดพลาด ไม่มีหรอกจ้า ที่จะผิดก็คือคนจัดพิมพ์ หรือเผยแพร่ ในปัจจุบัน เช่นสำนักพิมพ์ต่างๆ หรือคนที่นำความในพระไตรปิฏกมา พิมพ์ ซึ่งถ้าผิด ก็คงเป็นกรรม ของคนที่อ่าน ซึ่งอาจจะตีความผิดในข้อความที่ตนอ่าน ด้วยปัญญาของแต่ละคนไม่เท่ากัน อิอิ อันนี้กรรมใครกรรมมัน