พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ตอบเป็นท่านที่สอง

โมทนาสาธุครับ

.

 

มาแจ้งความคืบหน้าการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง โดยคุณsira ครับ

<TABLE class=tborder id=post568012 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:18 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #599 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568012", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:54 PM
วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 33 ปี
ข้อความ: 30 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 146 ครั้ง ใน 22 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_568012 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ไปทำบุญผ้าป่า สมทบทุนหล่อพระพุทธรูปที่จะเอาไว้ในพระเจดีย์ และสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.50 ยอดเงินที่คณะผุ้ร่วมบุญ ผมและญาติพี่น้องได้ร่วมกันถวายในครั้งนี้ได้ 99,988.50 บาท
และได้ถวายพระในสำนักสงค์ผาผึ้งอีก 2,100 บาท
ขอพระบารมี พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ อำนวยอวยพรให้ผู้ที่ได้ร่วมบุญทุกท่าน
เป็นผู้ที่มีความสุข โชคดีมีลาภสุขภาพแข็งแรง มีปัญญาเข้าถึงกระแสพระธรรม เข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยกันทุกท่านทุกคน
และผมได้ถ่ายภาพบริเวณที่สร้างพระเจดีย์และบริเวณสำนักสงค์มาด้วยจะพยายาม
Uplond มาให้หมู่คณะได้ดูเพิ่มเติม เพราะ net ค่อนข้างจะช้า
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post568043 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 11:23 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #600 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568043", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:54 PM
วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 33 ปี
ข้อความ: 30 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 146 ครั้ง ใน 22 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_568043 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->บริเวณที่สร้างพระเจดีย์จะต้องเดินขึ้นไปจากศาลาอีกพอเหนื่อยนิดหน่อย
เป็นบริเวณเนินผา เป็นลานพอที่จะสร้างพระเจดีย์พอดี ครูบาอาจารย์ท่านเล่าว่า บริเวณตรงนี้ก็เคยเป็นพระเจดีย์เก่ามาก่อน และมีสิ่งสำคัญที่อยู่ภายใต้ลานหินนี้
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post568058 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 11:38 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #601 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568058", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:14 PM
วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 33 ปี
ข้อความ: 30 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 149 ครั้ง ใน 25 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_568058 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เป็นภาพที่พักคนงานที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่ แทนผู้รับเหมารายเก่าที่มีปัญหา
และหนีงานไป กำลังจะเริ่มทำการก่อสร้างต่อจากเดิมที่ค้างไว้
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post568103 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:43 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #602 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568103", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:14 PM
วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 33 ปี
ข้อความ: 30 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 149 ครั้ง ใน 25 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_568103 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->และภาพบริเวรภายในสำนักสงค์ผาผึ้ง
เป็นที่ที่เหมาะสำหรับการปฎิบัติภาวนา
เงียบสงบดีครับ ผมก็เพิ่งจะได้มาเป็นครั้งแรกนี่เหละครับ
คงจะเป็นวาระที่บุญจัดสรรค์ให้มาร่วมเป็นคณะที่จะได้สร้างพระเจดีย์ที่นี่
ก็ขอให้พี่ๆ น้องๆ ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยกันเป็นกำลังให้พระศาสนา
ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และคุณบิดามารดา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ และให้เราสร้างพระเจดีย์ได้สำเร็จไปได้ด้วยดี
มีน้อย มีมากก็ทำตามกำลัง ทำตามศรัทธา ให้มีส่วนร่วมแห่ง
ให้ได้บุญร่วมกันเสมอกันด้วยกำลังใจของแต่ละคนนะครับ
ก็ขอให้ได้ร่วมอนุโทนาร่วมกันทุกๆคนครับผม
หากมีโอกาสจะได้ร่วมเดินทางไปผาผึ้งร่วมกัน จนกว่าพระเจดีย์จะเสร็จคงจะได้ไปด้วยกันอีกครับ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post568154 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 01:56 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #603 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568154", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:14 PM
วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 33 ปี
ข้อความ: 30 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 149 ครั้ง ใน 25 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_568154 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->และเมื่อถอดผ้าป่าเสร็จแล้วได้ไปส่งพระอาจารย์นิล ที่วัดเขาสมโภชย์ จ.ลพบุรี
ที่ใต้โบสถ์ วัดเขาสมโภชย์ ได้ไปดูและช่วยทำพระพิมพ์ที่จะนำไปบันจุใน
พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งที่ จ.ชัยภูมิ ตอนนี้ทำได้ แสนกว่าองค์แล้ว ก็ใก้ลที่จะเสร็จงานส่วนนี้แล้วครับ พระพิมพ์บางส่วนได้เข้าพิธีอธิฐานจิตแล้ว
ในวันเสาร์ที่ 7เม.ย.50 ที่ผ่านมา
ซึ่งจะทำจนกว่ามวลสารจะหมด ก็เหลืออีกไม่เท่าไหร่แล้วครับ ผู้ที่มาช่วย
ทำพระ ก็พรัดกันมาทำ เหนื่อยก็พัก ทำกันด้วยมือจริงๆ ครับ ทั้งตำมวลสาร
ทั้งกดพิมพ์พระ ทั้เก็บลายละเอียด ท่านว่าทำด้วยใจ ด้วยมือของเราเอง
ได้บุญด้วยได้อานิสงค์ด้วย ทำใจสบายๆ ภาวนาไปทำไป เรื่อยๆ
เท่าที่เห็นและได้ช่วยทำบ้าง ก็เหนื่อยเอาการเหมือนกันครับกว่าจะได้แต่ละองค์
ได้กราบสรีระหลวงพ่อคง แล้วจึงลาพระอาจารย์กลับครับ
มีอะไรเพิ่มเติมแล้วผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ ลาไปทำงานก่อนครับ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอแทรกความรู้นะครับ

ที่มา http://www.manager.co.th/dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9500000050641

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มณฑา ดอกไม้ทิพย์แห่งสวรรค์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 พฤษภาคม 2550 14:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>มณฑา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าTalauma candollei Bl. อยู่ในวงศ์ Magnoliaceae ซึ่งเป็น วงศ์เดียวกับพวกจำปา จำปี และยี่หุบ เป็นไม้พุ่ม สูงราว 3-10 เมตร เปลือกสีเทา ใบเป็น ใบเดี่ยวเรียงสลับ มีขนาดใหญ่ รูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบหนา มักเป็นคลื่น หรือเป็น ลอน ดอกมีขนาดใหญ่ เป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ หรือส่วนยอดของลำต้น มีสีเหลืองนวล มี กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน 3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบดอกค่อนข้าง หนา แข็ง ดอกมีกลิ่นหอม และส่งกลิ่นไปไกล โดยเฉพาะในตอนเช้าตรู่ จะส่งกลิ่นหอมแรงมาก และออกดอกตลอดปี ส่วนผลรูปรี ออกเป็นกลุ่ม และเนื่องจากมณฑามีดอกสวยและกลิ่นหอมจึงนิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ
ดอกไม้ทิพย์แห่งเมืองสวรรค์ที่ชื่อมณฑา หรือ มณฑารพ นั้น ในพระไตรปิฎก กล่าวไว้ว่า ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จปรินิพพาน ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า
“ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปราย ลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า ก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต
ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแล จะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคต ด้วยการบูชาอย่างยอด เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ดังนี้ ฯ”
ในเวลาที่พระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ทุกหนแห่งในเมืองกุสินาราเต็มไปด้วยดอกมณฑารพ
“...สมัยนั้น เมืองกุสินาราเดียรดาษไปด้วยดอกมณฑารพโดยถ่องแถวประมาณแค่เข่า จนตลอดที่ต่อแห่งเรือน บ่อของโสโครกและกองหยากเยื่อ ครั้งนั้นพวกเทวดาและพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา สักการะ เคารพ นับถือ บูชาพระสรีระพระผู้มีพระภาค ด้วยการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคม มาลัยและของหอม ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์...”
หลังจากพระพุทธองค์เสด็จสวรรคตแล้ว พระมหากัสสปะเถระ ซึ่งอยู่ที่เมืองปาวา ได้ทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับที่เมืองกุสินาราหลายวันแล้ว จึงตั้งใจจะไปเฝ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์บริวาร 500 รูป ขณะที่กำลังเดินทางไปเมืองกุสินาราอยู่นั้น ได้หยุดพักหลบแสงแดดอยู่ใต้ร่มไม้ข้างทาง ได้เห็นนักบวชนอกศาสนาคนหนึ่งซึ่งมาจากเมืองกุสินารา ถือดอกมณฑารพเดินสวนทางมา พระมหากัสสปะซึ่งเวลานั้น ยังไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ก็นึกสังหรณ์ใจ เพราะดอกมณฑารพเป็นดอกไม้ทิพย์ ที่ไม่มีในโลกมนุษย์ และจะปรากฏเฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า เช่น ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน วันจาตุรงคสันนิบาต วันที่ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นต้น ซึ่งเทพเทวดาจะบันดาลให้ดอกมณฑารพตกลงมาจากเทวโลก พระมหากัสสปะจึงได้สอบถามข่าวคราวของพระพุทธองค์จากนักบวชผู้นั้น ซึ่งได้รับคำตอบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จสู่ปรินิพพานมา 7 วันแล้ว และดอกมณฑารพนี้ก็ได้มาจากสถานที่ที่พระองค์ปรินิพพานนั่นเอง เมื่อได้ยิน ดังนั้นพระมหากัสสปะจึงรีบเร่งนำพระภิกษุสงฆ์ออกเดินทางไปยังเมืองกุสินารา
นอกจากนี้ มณฑายังเป็นดอกไม้ของนางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดีที่มีนามว่ากิริณีเทวี

(จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 78 พ.ค. 50 โดยเรณุกา)

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD vAlign=top width=21 height=19></TD><TD class=hit align=left height=19>ข่าวอื่นๆ ในหมวด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>ข้างธรรมมาสน์</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>ปฏิทินธรรม</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>ตะเคียนที่สิงสถิตของนางไม้</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>คุณยายผม...ดีที่สุดในโลก ตอกย้ำความรักความผูกพันของยายกับหลาน</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19></TD><TD align=left height=19>ข้างธรรมาสน์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณหนุ่มผมนำพระพุทธชินราชลง post ไว้ให้นะครับ

 

ร่วมสนุกด้วยครับ คุณหนุ่ม

รับโทรศัพท์ปั๊บผมก็เข้าไปดูเลย ดูแล้ว มันรับไม่ได้เลยครับ โหดร้ายมาก ให้น้องๆที่บริษัทดู แต่ละคนดูแล้วเบือนหน้าหนีกันเป็นแถว รับกันไม่ได้เลย ยิ่งช่วงตอน"ถลกเสื้อ" มันสะเทือนใจมากทำได้ยังไง??? จิตใจทำด้วยอะไร กฎของกรรมจะสนองกับคนทุกคนทุกชาติแน่นอนที่ทำชั่ว ไม่จำกัดว่าจะนับถือพุทธหรือไม่

"คน"อาศัยความได้เปรียบทั้งกำลังกาย สติปัญญา(ที่คิดค้นเครื่องทุ่นแรง) มากระทำต่อสัตว์ และการกระทำนั้นก็ไม่ได้กระทำเพื่อความหิวโหย หรือนำเอามาเป็นอาหารเลย แต่เป็นการทรมานด้วยความมันส์ในอารมณ์ตามสันดานดิบเดิมๆนั้น หดหู่ใจครับที่ได้เห็นภาพเหล่านั้น จะเรียกว่า"ฆ่า" ก็ยังน้อยเกินไป การ"ย่ำยี"ในสิทธิ์ของการมีชีวิตอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ก่อนการฆ่านั้นโหดร้ายนัก การถือสิทธิ์เหนือชีวิตๆหนึ่งนั้นมักจะเกิดกับบุคคลที่คิดว่ามีอำนาจ ดูแล้วหวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ช่วง 14 ตค 2516 ได้ยังไงไม่รู้นะครับ มันค่อนข้างคล้ายกันมาก

 

ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=77376&page=54

<TABLE class=tborder id=post568644 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:54 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#540 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พรหมประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568644", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:54 AM
วันที่สมัคร: Jun 2006
สถานที่: ราชบุรี
ข้อความ: 685 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 17,072 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 6,891 ครั้ง ใน 676 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 766








</TD><TD class=alt1 id=td_post_568644 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Pattana
เรื่องนี้เกินวิสัยที่ผมจะตอบได้ครับ เพราะไม่มีความรู้จริงๆครับ อีกอย่างพระสมเด็จทรายทองผมเองไม่มีครับ ผมมีแต่องค์ที่เหมือนคล้ายกับของคุณณรงค์
คิดว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุแต่ไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ แต่เคยฟังพี่วิเชียรเล่าให้ฟังว่า มีคนเรียกว่าพระธาตุเกร็ดขาวครับ





</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผมเคยได้มาเหมือนกันครับ จากที่ทำบุญที่สนส.บ่อเงินบ่อทองกับคุณสิทธิพงศ์
รู้สึกว่าตอนนั้น จะต้องทำบุญ 2,000 - 3,000 บาท จึงจะได้รับไว้บูชา
ผมเคยเรียนถามพระอาจารย์ชยางกูร วัดป่าโนนจ่าหอม จ.อุบลฯ ท่านบอกว่าเป็นพระธาตุของพระอรหันต์หลายๆองค์มารวมกันครับ
แต่ว่าที่กระทู้นี้ทำไมพี่วิเชียรถึงได้ให้บูชาถูกจังครับ (สงสัยไปเจอกรุ ใหญ่มา อิ..อิ..ไม่ทราบว่าจะเป็นที่เดียวกันกับที่คุณพัฒนา ไปแอบเจอมาหรือเปล่าหน๊อ)
<!-- / message --><!-- sig -->




</TD></TR></TBODY></TABLE>
*************************************************

ผมขอตอบคุณพรหมประกาศิตในกระทู้นี้ครับ

การดูพระพิมพ์นั้น ต้องดูที่เนื้อหาทรงพิมพ์และพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์ประกอบกันไป ปัจจุบันนี้พระธาตุมีขายกันมาก มีทั้งพระธาตุที่เป็นของจริงและของปลอม ดังนั้น จะบอกไม่ได้ว่าเหมือนกันหรือไม่จนกว่าจะตรวจสอบโดยท่านที่รู้จริงแล้วเท่านั้น

อีกประการหนึ่งก็คือ การที่ผมได้รู้ได้เห็นผู้ที่ทำเณร(พระปลอม)นั้น เขาพูดว่าจะทำอย่างไรก็ได้ จะให้มีเนื้ออย่างไร จะให้เก่าอย่างไรทำได้ทั้งนั้น ซึ่งผมและคณะผมบางท่านได้เข้าไปเห็นกับตา ได้ฟังกับหูของตนเอง ได้สัมผัสกับมือของตนเอง อีกทั้งมีพี่ที่ผมเคารพพาไปและพี่ท่านนี้สามารถตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระเป็น(ไม่ใช่แค่ตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระได้)มาแล้วครับ




.

 

ตอบเป็นท่านที่สาม

โมทนาสาธุครับ

.

 

ตอบเป็นท่านที่สี่

โมทนาสาธุครับ

.

 

ขอแสดงความเห็นด้วยครับ(ขออนุญาติสละพระพิมพ์ให้ท่านอื่นจะได้มีผู้เข้ามาให้ความเห็นมากๆ)
ต้องยอมรับเลยครับว่าได้ดูคลิปแค่ถลกหนังของเจ้าไม่ทราบใช่แรกคูนหรือเปล่า ก็ทำใจดูต่อไม่ได้แล้ว มนุษย์เราในปัจจุบันผมว่าจิตใจมันช่างเสื่อมทรามลงโดยตลอดพวกเราอาจรู้สึกเป็นเรื่องที่โหดร้ายรับไม่ได้แต่คนที่ทำกลับไม่รู้สึกใดๆอาจจะสนุกกับการกระทำด้วยซ้ำ ผมไม่ได้คิดแค่ว่าเขามีความจำเป็นต้องเอาขนมันมาขายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ เพราะถ้าจำเป็นจริงๆก็ควรจะฆ่ามันให้ตายก่อน ชำและขนมันออกมา ผมกลับคิดว่าเป็นความสนุกสะใจในการกระทำของผู้ที่มีกำลังเหนือกว่าสุดท้ายมันก็จะเป็นความเคยชินอย่างเช่น เราเจอกันในสังคมปัจจุบัน มนุษย์กลับเป็นสัตว์ที่น่ากลัวที่สุดจริงๆ โมทนาสาธุผมขอให้ความเลวร้ายเหล่านี้จงหมดลงแค่รุ่นชีวิตผมเถอะ สาธุ

 

ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

<TABLE class=tborder id=post568339 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 07:03 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#604 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sira<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568339", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 07:03 PM
วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 33 ปี
ข้อความ: 31 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 164 ครั้ง ใน 27 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0



</TD><TD class=alt1 id=td_post_568339 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ที่วัดเขาสมโภชณ์ บนเขามีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่งเรียกว่าถ้ำอรหันต์เป็นที่ที่หลวงปู่ทองดีละสังขาร
เป็นพระอรหันต์ที่อธิฐานร่างไว้บนพระแม่ธรณี ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุเหมือนหินรูปคนครึ่งท่อน
พระท่านเล่าให้ฟังว่าที่เหลือร่างอยู่ครึ่งท่อนบน มีศรีษะและลำตัวนั้นเพราะว่าท่านสละร่างกาย
ให้เสือที่หิวโหยกินเป็นทานจึงเหลือร่างของท่านเพียงเท่านี้(ท่านอาจเห็นกรรมที่ผูกพันกันมากับเสือตัวนี้)
หลวงพ่อคง ธุดงค์มาพบท่าน หลวงพ่อคงบอกชื่อท่านว่าหลวงปู่ทองดีศรีสว่าง(พระณาญจรณเถระ)
ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับหลวงปู่เทพโลกอุดร (ผมก็ยังไม่รู้ลายละเอียดซักเท่าไรเพียงแต่ฟังท่านเล่ามาผิดถูกอย่างไรขอขมาด้วยนะครับ)
หากได้มีโอกาสไปที่วัดก็ควรจะไปกราบสรีระหลวงพ่อคงบนศาลา และสรีระของหลวงปู่ทองดีบนถ้ำกันนะครับ
<!-- / message -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

**************************************************

หลวงปู่ทองดี (พระณาญจรณเถระ) ท่านเป็นลูกศิษย์ในคณะพระโลกอุดร ท่านสำเร็จพระอรหันต์เป็นพันๆปีมาแล้วครับ

ในช่วงที่สร้างพระพิมพ์ที่วัดเขาสมโภชย์(ลพบุรี)นั้น หลวงปู่ทองดีท่านได้มาควบคุมการสร้างพระพิมพ์ ซึ่งได้สร้างไว้ไม่น้อยกว่าหนึ่งแสนสามหมื่นองค์ จุดประสงค์ในการสร้างพระพิมพ์ จะนำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งทั้งหมด แม้แต่ผู้ที่สร้างพระพิมพ์นั้น ก็ยังไม่มีสิทธิ์เก็บไว้ได้เลยครับ

โมทนาสาธุกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมกันสร้างพระพิมพ์ไว้เพื่อทนุบำรุงและสืบทอดอายุพระศาสนาด้วยครับ

.

 

ตอบเป็นท่านที่ห้า

โมทนาสาธุครับ

มีสองท่านที่เสียสละพระพิมพ์ที่สมควรจะได้รับ ขอโมทนาสาธุครับ ดังนั้นยังมีอีกสองท่านที่ยังตอบได้อยู่ครับ

ขอบคุณครับ

.

 

ผมขอมอบพระพิมพ์นี้ให้เพื่อนท่านอื่นที่เข้ามาตอบกระทู้นี้ของคุณหนุ่มครับ...

 

โมทนาสาธุครับ

ยังคงมีอีกสามท่านนะครับที่ยังตอบกันได้อยู่

(verygood)

.

 

เรื่องของพลังอิทธิคุณกับกรอบพลาสติกนั้น พลาสติกไม่กี่มิลลิเมตรจะปิดกั้นอำนาจของผู้ปลุกเสกได้ ผมจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบนะครับ เช่นก้อนแร่รังสีปรมนู ถ้านำไปเก็บไว้ในที่เก็บ รังสีจะออกมาได้หรือไม่ และทำอันตรายกับผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นได้หรือไม่หรือเพียงแต่นำเอาตะกั่วแผ่นบางๆ หุ้มก้อนแร่รังสีปรมณูไว้ รังสีสามารถออกมาทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตรอบข้างได้หรือไม่ แต่ถ้านำออกมาวางไว้กลางแจ้ง ผู้คนที่อยู่รอบข้างจะได้รับรังสีหรือไม่ เฉกเช่นเดียวกับพลังจิตของผู้ที่ปลุกเสกพระครับ หรือเปรียบเทียบกับสายไฟฟ้าภายในบ้าน ถ้าเราเปิดไฟ กระแสไฟฟ้าก็จะวิ่งมาตามสายไฟ ซึ่งมีฉนวนหุ้มอยู่ เราสามารถจับสายไฟเส้นนั้นได้ แต่ถ้าเราลอกฉนวนออก เราก็ไม่สามารถจับสายไฟเส้นนั้นได้ ใช่ไหมครับ เรื่องของพลังจิตนั้น เป็นนามธรรม เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ แต่สามารถสัมผัสได้หากบุคคลผู้นั้น ได้ปฎิบัติธรรมมาจนถึงในระดับหนึ่งนะครับ <O</O
<O</O

ทุกๆสิ่งในโลกนี้ ย่อมมีของที่กันหรือแก้ในตัวเองอยู่ เพียงแต่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้เท่านั้น<O</O
<O</O

เรื่องของพลังอิทธิคุณ ต้องเดินทางในอากาศธาตุนะครับ เหมือนกับกระแสไฟฟ้าซึ่งต้องเดินบนตัวนำไฟฟ้า แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์ครับ พระพิมพ์หรือวัตถุมงคล ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมานั้น ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น แต่ว่าจะมากน้อยนั้น อยู่ที่ผู้เสกเป็นสำคัญครับ<O</O

เรื่องของการจับพลังพระพิมพ์นั้น มีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่หลายประการ อาทิเช่น <O</O
1.พระพิมพ์บางองค์ เวลาที่กดพระพิมพ์นั้น อาจกดไปโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ ถ้าพระพิมพ์องค์ไหน กดโดนฤกษ์ดอกลูกพิษ ไม่ว่าพระองค์ไหน ก็เสกไม่เข้าทั้งสิ้น ฤกษ์ดอกลูกพิษนั้น มีทุกวัน แต่ว่ามีเป็นช่วงๆ บางครั้งในหนึ่งวัน มีช่วงเดียว บางครั้งในหนึ่งวัน อาจมีหลายช่วงก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น <O</O
2.ในการจับพลังองค์พระพิมพ์นั้น บางวัน พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ก็เป็นได้ การปิดกระแสนั้น พระผู้เสกย่อมทำได้เนื่องจากว่า ระดับของญาณหรืออภิญญาสูงกว่าผู้จับพลังองค์พระพิมพ์ มีเพื่อนผมคนหนึ่ง สามารถจับพลังขององค์พระพิมพ์ได้ มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนผมผู้นี้ได้นำพระพิมพ์องค์หนึ่ง ไปให้อาจารย์ของเขาตรวจพลังให้ แต่ปรากฏว่า อาจารย์ของเขาได้บอกว่า พระพิมพ์องค์นี้ ไม่มีพลัง ไม่มีอะไรเลย แต่เพื่อนผมได้นำพระพิมพ์องค์เดิมไปให้เพื่อนของเขาจับ ปรากฎว่าเพื่อนของเขาจับพลังได้ และยังบอกอีกว่า พลังขององค์พระพิมพ์นั้น แรงมากด้วย ในเรื่องนี้ ความคิดเห็นส่วนตัวผม ผมเห็นว่า พระผู้เสกท่านอาจปิดกระแสไม่ให้อาจารย์ของเพื่อนตรวจพลัง นะครับ <O</O
3.ในบางวัน พระผู้เสก ท่านอาจปิดกระแสขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน<O</O
4.และในบางวัน ผู้ที่ตรวจพลังของพระพิมพ์ เป็นวันที่เบื้องบนไม่ให้ตรวจพลังขององค์พระพิมพ์ ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน <O</O
5.พิมพ์ทุกองค์นั้น เวลาที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว จะมีเทวดารักษาองค์พระพิมพ์ทุกองค์ บางครั้งเทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์อาจจะปิดกระแสก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน <O</O
6.ในบางครั้งพระปลอมก็มีพลังเช่นเดียวกัน ถ้าผู้ทำพระปลอมได้นำพระไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก <O</O
7.หรือบางครั้งผู้ทำพระปลอมได้นำเศษพระแท้ผสมลงไป ก็สามารถมีพลังได้เหมือนกัน เพียงแต่พลังอาจจะน้อยกว่าพระแท้ครับ <O</O
8.การนำพระแท้ไปไว้ในที่ไม่สมควร เทวดาที่รักษาองค์พระพิมพ์ ท่านอาจจะไม่อยู่ครับ และทำให้พลังขององค์พระพิมพ์นั้นเสื่อมได้ครับ ตามหลัก มีเกิดได้ก็มีดับได้นะครับ<O</O
9.พระพิมพ์ที่ปลุกเสกโดยพระคณาจารย์บางองค์นั้น จะเป็นสื่อให้กับพระคณาจารย์หรือเทพเบื้องบน เวลาที่มีเหตุให้ช่วย พระคณาจารย์หรือเทพเบื้องบนบางองค์จะทราบและจะลงมาช่วยเหลือ โดยพระพิมพ์เป็นเพียงสื่อให้พระคณาจารย์หรือเทพเบื้องบนเท่านั้นครับ<O</O

การตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์นั้น ผมแนะนำให้ไปหาผู้ทรงฌานหรือผู้ทรงญาณ หลายๆท่าน(ควรไม่ต่ำว่า 5 ท่าน) นะครับ และผลที่ตรวจได้นั้น ต้องตรงกัน <O</O
<O</O

การตรวจสอบพระพิมพ์นั้น ที่ถูกต้องที่สุดก็คือการตรวจทั้งรูป(เนื้อหาทรงพิมพ์)และนาม(พลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์) การตรวจเฉพาะนาม(เนื้อหาทรงพิมพ์)โดยการส่องกล้องเพียงอย่างเดียวนั้น หากว่าผู้ตำผง (โดยปกติต้องใช้เวลาตำผง 4 ชั่วโมงต่อ 1 ครกนั้น) ตำเพียง 2 หรือ 3 ชั่วโมง เนื้อขององค์พระพิมพ์นั้นก็จะไม่เหมือนกันการตำที่ใช้ระยะเวลา 4 ชั่วโมง หรือบล็อกแม่พิมพ์นั้น มีการสร้างโดยช่างสิบหมู่หลายๆท่าน ในแต่ละท่านอาจมีสัญลักษณ์(ที่เราๆเรียกว่าโค๊ต)ของตนเองก็มีครับ<O</O
<O</O

คนที่ไม่เคยสร้างพระ ,ไม่เคยตำผงพระ ,ไม่เคยลบผง หรือลบผงไม่เป็น ,ไม่เคยเป็นพิธีกรการพุทธาภิเษก ,ไม่รู้เรื่องพิธีพุทธาภิเษก ,ไม่เคยปฎิบัติธรรม ,ไม่เคยศึกษาจากตำราที่น่าเชื่อถือ เช่นหนังสือพงศาวดาร ฯลฯ ,ตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์ไม่เป็น จะรู้ได้อย่างไรว่า พระพิมพ์ที่ตนเองมีนั้น เชื่อได้ว่าเป็นพระแท้ ดูแต่ตา ส่องแต่กล้องเพียงอย่างเดียว ต่อให้ส่องอีก 1,000 ล้านล้านปี ก็ไม่มีวันรู้ไม่มีวันทราบสิ่งที่ถูกต้อง
<O</O
<O
</O
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเอง แล้วแต่ท่านผู้อ่านใช้ว่ามีคิดเห็นกันอย่างไรครับ<O</O
<O</O
<O</O

สุดท้ายผมขอโมทนาในบุญกุศลที่ทุกๆท่านได้ทำด้วยครับ<O</O

 

ความโหดร้าย ทารุณกรรม มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ บางอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เช่นสัตว์ใหญ่ล่าสัตว์เล็กเป็นอาหาร เมื่อจับได้ก็ฉีกเนื้อ ถลกหนัง กิน นี่คือธรรมชาติ แต่สำหรับการกระทำของคนที่กระทำต่อสัตว์อย่างนี้มิใช่เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เป็นเวรเป็นกรรม ดูแล้วผมนึกถึงตอนที่ผมไปบวชอยู่ที่วัดทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ตอนช่วงสิ้นปี 47 ตอนนั้นเป็นการอุปสมบทหมู่ จึงมีพระที่บวชด้วยกันสี่ห้าสิบรูป พอบวชได้วันที่สี่ ก่อนทำวัตรเย็น กำลังนั้งรอหลวงอามานำสวดมนต์ทำวัตรปรากฎว่ามีเพื่อนพระรูปหนึ่งอยู่ดีๆก็เกิดชักกระดุก อาการเหมือนเป็นลมบ้าหมู น้ำลายฟูมปาก ผมและพระเพื่อนๆก็ช่วยกันจับยึดแขนขาและกันไม่ให้กัดลิ้นตัวเอง ซักพักก็สงบ ปรากฎว่าเมื่อฟื้นจากอาการแล้วก็ถามพระเพื่อนๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาไม่รู้ตัวเลย หลวงอาก็เลยบอกให้พาไปพักในปรก คืนนั้นไม่ได้หลับได้นอนกันเลย เพราะพอตกกลางคืนพระที่เป็นลมชักนั้นเกิดอาการหลอนทั้งคืนเดินไปทั่ว ปลุกพระอื่นๆ ที่ปรกนั้นที ปรกโน้นที ขอให้ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัว วันต่อมาก็ต้องสึกเพราะอยู่ต่อไม่ได้ เพื่อนๆก็ถามหลวงอาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลวงอาตอบว่า เจ้ากรรมนายเวรไม่ยอม อีก2-3 วันต่อมาสืบทราบจากเพื่อนพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นญาติกับเขา บอกว่าก่อนจะมาบวชเขามีอาชีพรับจ้างเชือด เชือดสัตว์ใหญ่มาเยอะมาก จึงถึงบางอ้อ