พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01lad03120550&day=2007/05/12&sectionid=0115


    วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10654​

    โอนกันหลอกๆ


    คอลัมน์ ฎีกาชีวต

    โดย รศ.พิศิษฐ์ ชวาลาธวัช



    ชีวิตคู่ระหว่างสามีภริยาหากมีรายได้ทรัพย์สินเกิดขึ้นภายหลังที่อยู่ด้วยกันย่อมถือว่าเป็นสินสมรส หากอยู่กันไม่ตลอดภายหลังหย่าขาดจากกัน ผู้เป็นสามีคิดจะยักย้ายถ่ายเททรัพย์ด้วยการโอนซื้อขายกันหลายทอด หากไม่จริงตามข้ออ้างย่อมตกเป็นโมฆะ ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพเดิมเสมือนหนึ่งไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

    บทพิสูจน์ความซื่อสัตย์สุจริตของมนุษย์เราหากเป็นสามีภริยากัน บทสุดท้ายของการอยู่ร่วมกันอาจเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากการหย่าร้าง จะพบเห็นว่าฝ่ายใดซื่อสัตย์หรือคดโกง มีให้เห็นเป็นข้อเตือนใจ

    ภายหลังจดทะเบียนสมรสระหว่าง นายโกศัลย์ และ นางสาวขวัญพร อยู่ด้วยกันมาช้านานไม่มีลูกไว้สืบสกุลเกิดปัญหาที่จะอยู่ด้วยกันได้ตามปกติสุข ศาลชั้นต้นพิพากษาให้หย่ากันได้โดยให้โจทก์จดทะเบียนหย่าภายใน 1 เดือน และให้โจทก์ผู้เป็นสามีจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินมีโฉนดพร้อมสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 9 แสนบาทให้เป็นของจำเลยภริยาครึ่งหนึ่ง หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ขายทอดตลาดแบ่งเงินให้จำเลยครึ่งหนึ่ง

    ที่สุด ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ทั้งสองฝ่ายเป็นสามีภริยาจดทะเบียนสมรสกันมาหลายปี จนสามีได้กู้เงินสร้างบ้านแล้วเสร็จโอนมาเป็นชื่อของสามีคนเดียว โจทก์ได้ขายที่ดินพร้อมบ้านและภริยารู้เห็นยินยอมเมื่อได้เงินมาก็แบ่งกัน ฝ่ายภริยานำสืบว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่เคยทราบเรื่องนี้ไม่เคยได้รับส่วนแบ่งใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนมีเรื่องมีปัญหาถึงวันนี้เมื่อไม่นานสามียังเคยทาบทามจะขายบ้านพร้อมที่ดินหลังที่อยู่ด้วยกันให้คนอื่นราคา 8 แสนบาท

    ข้อเท็จจริงมีว่า มีสาเหตุที่โจทก์จำเลยต้องมีอันแยกกันอยู่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนฟ้อง ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากที่โจทก์ขายที่ดินพิพาทให้แก่นายถิรเพื่อนบ้านประมาณ 9 ปีมาแล้ว มีข้อสังเกตจากคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยแม้แต่เลขโฉนดที่ดินยังจำไม่ได้ จำเลยจะไปรู้เรื่องการตกลงขายของโจทก์กับคนอื่นได้ยังไงกัน

    จำเลยได้อ้างหลานชายที่ดูแลเลี้ยงดูอยู่ด้วยกันในบ้านกับโจทก์ตั้งแต่ยังเด็กเป็นพยานว่าได้มีการขอให้หลานชายช่วยไปแจ้งความประกาศขายบ้านทางหน้าหนังสือพิมพ์เป็นเงิน 7.5 แสนบาท หากจำเลยขายทรัพย์สินพิพาทตามที่โจทก์อ้างมาว่าจำเลยยินยอมนั้น จะให้หลานช่วยประกาศขายบ้านเมื่อปีที่แล้วได้อย่างไรกัน

    ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า โจทก์ได้ขายที่ดินและบ้านซึ่งเป็นทรัพย์สินพิพาทให้แก่ถิรจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอม และไม่เคยได้เงินส่วนแบ่งตามที่นำสืบ

    มีข้อเท็จจริงต่อไปว่า นายโกศล บุตรชายโจทก์ได้ซื้อทรัพย์สินพิพาทคืนจากผู้ซื้อเดิมคืนเป็นเงิน 9 หมื่นบาทภายหลังอีก 2 เดือนต่อมา แล้วมาจดทะเบียนยกทรัพย์สินพิพาทเป็นสินส่วนตัวของโจทก์ในภายหลัง เห็นว่า การจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างพิพาทระหว่างบุคคลทั้งสามเป็นการจดทะเบียนโอนกันหลอกๆ แสดงเจตนาลวงเพื่อเปลี่ยนทรัพย์สินที่พิพาทจากสินสมรสให้เป็นสินส่วนตัวของโจทก์

    มีข้อสังเกตจากการเบิกความของบุตรโจทก์ที่ว่าขายทรัพย์สินพิพาทเพียง 8 หมื่นบาทให้ผู้ซื้อ และผู้ซื้อขายคืนเพียง 9.5 หมื่นบาท ถ้าเป็นการซื้อขายกันจริงๆ ถิรผู้ซื้อจากโจทก์น่าจะรู้ว่าทรัพย์สินที่พิพาทนั้นควรมีราคาจริงๆ เท่าใด แต่ทำไมผู้ซื้อจึงขายคืนให้แก่ลูกชายโจทก์เพียงแค่ 9 หมื่นบาท

    การโอนทรัพย์สินพิพาทระหว่าง โจทก์ ถิรผู้ซื้อ และโกศลบุตรโจทก์ เป็นโมฆะตามกฎหมาย ซึ่งมีผลเสมือนหนึ่งว่ามิได้มีการโอนเกิดขึ้น ทรัพย์สินพิพาทจึงคงมีสภาพเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยอยู่เช่นเดิม หาใช่เป็นส่วนตัวไม่ ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น

    พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์จดทะเบียนใส่ชื่อจำเลยถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินพิพาท ที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างเขตบางกอกน้อย กทม.ร่วมกับโจทก์คนละกึ่งหนึ่งด้วย

    ข้อมูล : เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 1582/2528
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02spo02100550&day=2007/05/10&sectionid=0219


    วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3895 (3095)​

    แอร์ ตัวร้าย


    คอลัมน์ วาไรตี้เฮลท์

    อากาศแปรปรวนอุณหภูมิแปรเปลี่ยนอย่างนี้ "เครื่องปรับอากาศ" ดูจะมีบทบาทเสียเหลือเกิน

    แต่ใครจะเชื่อว่า ตัวช่วยที่ทำให้เราสบายนั้น กลับกลายเป็นตัวร้ายที่ทำให้คนเราป่วยไข้ได้อย่างนึกไม่ถึง

    เพราะความชื้นในเครื่องปรับอากาศมักกลายเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเหล่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ที่ล้วนแต่เป็นมลพิษ ต่อสุขภาพทั้งสิ้น

    น.พ.ฉัตรชัย เอกปัญญาสกุล แพทย์ ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) องครักษ์ กล่าวว่า "ปัจจุบันคนหันมาติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านกันมากขึ้น แต่ไม่มีใครรู้ใจว่าเครื่องปรับอากาศนั้นแฝงไปด้วยเชื้อโรคและมลพิษที่มีผลต่อสุขภาพ เป็นแหล่งสะสมเพาะพันธุ์อย่างดีของเชื้อโรค เมื่อสะสมมากๆ เข้าเชื้อโรคก็จะหลุดออกมาปะปนกับอากาศเย็นภายในห้อง"

    นี่เองจึงเป็นที่มาของโรคภูมิแพ้ ผื่น ผิวหนังอักเสบ หืดหอบ ปอดบวม วัณโรค สุกใส งูสวัด หัดเยอรมัน โรคเกี่ยวกับระบบทาง เดินหายใจ ฯลฯ

    และจะจับสังเกตว่า ผู้ช่วยทำความเย็นตัวดี เริ่มประสงค์ร้ายต่อเจ้าของได้อย่างไร

    คุณหมอบอกว่า ให้คอยจับสังเกต !

    สังเกตโดย้สำรวจกลิ่นเวลาที่เปิดเครื่องปรับอากาศถ้ามีกลิ่นอับชื้น หรือเริ่มมีอาการคันตา คันจมูก จามบ่อย แน่นจมูก หรือระคายคอ ตอนตื่นนอนแล้วละก็ พึงระวัง

    นั่นเป็นเพราะกลิ่นอับชื้นที่มากับความเย็นนั้น มักมาจากเชื้อโรคที่ออกมาจากช่องระบายความเย็นและแผ่นกรองอากาศส่งให้เกิดอาการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้

    ดังนั้นทางแก้ที่ดีที่สุดคือการล้างทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยควรล้างแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยการฉีดน้ำแรงๆ ไล่ผุ่นออกทางที่ด้านหลัง และควรล้างเครื่องปรับอากาศแบบเต็มระบบอย่างน้อย ปีละครั้งเพื่อรขจัดฝุ่นละออง และเชื้อโรคที่ เกาะติดครื่องและล่องลอยอยู่ในอากาศทิ้งไป และควรเปิดพัดลมระบายถ่ายเทอากาศ และหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดมลพิษในห้อง อาทิ สูบบุหรี่ ปรุงอาหาร

    ที่ลืมไม่ได้ ต้องหมั่นทำความสะอาดกำจัด ฝุ่นและแหล่งเชื้อรา แหล่งเพาะเชื้อ ตามตู้ หิ้ง ชั้น เพดาน ม่าน กำแพง ทุกๆ 2-3 เดือน ไม่ให้เป็นที่อยู่ของแมลงสาบ ละอองเกสรพืช ไรฝุ่น ขนสัตว์ และแมลงอื่นๆ อย่าให้เกิดความชื้นหรือกลิ่นอับในห้องปรับอากาศเด็ดขาด

    นอกจากนี้ ควรควรดูแลสุขภาพตนเองด้วยหลีกเลี่ยงการเข้าห้องปรับอากาศอย่างฉับพลัน

    เป็นการช่วยป้องกันอย่างครบด้าน !!
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02spo06100550&day=2007/05/10&sectionid=0219


    วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3895 (3095)​

    หยูกยาน่ารู้


    มีเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวที่หลายคนมองข้ามจนทำให้เกิดโทษให้กับตัวเองได้ อย่างนึกไม่ถึงมีอยู่มากมาย

    หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการ "กินยา"

    เพราะยาไม่ใช่อาหาร การที่จะซื้อยามาบริโภคเองตามความพอใจโดยไม่ได้คำนึงถึงวิธีการที่ถูกต้องอย่างการมองข้ามการอ่านฉลากยา การซื้อยามากินเอง การใช้ยาผิดวิธี การเลือกใช้ยาผิดประเภท ฯลฯ เหล่านี้กลายเป็นภัยใกล้ตัวที่คาด ไม่ถึง ซึ่งอาจส่งผลร้ายถึงชีวิตได้

    เรื่องสำคัญเช่นนี้จึงทำให้บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ในนามของ "แบรนด์" จับมือกับมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ ร่วมกันรวบรวมบทความดีๆ ของสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) นำมาจัดทำเป็นหนังสือดีๆ ที่ชื่อ "หยูกยาน่ารู้" ขึ้น

    "หยูกยาน่ารู้" จะมีความรู้และข้อแนะนำเกี่ยวกับเรื่องยาในแทบทุกมุมตั้งแต่เรื่องใกล้ตัว อย่าง วิธีการเลือก วิธีการจัด และการดูแลรักษาตู้ยาประจำบ้าน, ประโยชน์ของการอ่านฉลากยา, วิธีการดูวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ, ผลกระทบผลดี ผลร้ายของการกินยาประเภทต่างๆ รวมไปถึงโทษของการกินยาหมดอายุ ทั้งยังมีเรื่องราวของการซื้อยามารับประทานเองอย่างถูกวิธี, วิธีการกินการยาประเภทต่างๆ ยาเม็ด ยาน้ำ ยาผง ยาลดกรด ยาแคปซูล ยาแก้แพ้ แก้ไอ ยาระบาย สมุนไพร ยานอนหลับ แม้กระทั่งยารักษาสิวก็ยังมีเรื่องน่าสนใจ ฯลฯ

    ความรู้ดีๆ นี้ถูกจัดพิมพ์ขึ้น 10,000 เล่ม โดยจะทำการแจกจ่ายกันฟรีๆ ให้กับประชาชนผู้สนใจ เพียงเขียนชื่อที่อยู่ของตัวเองลงบนซองจดหมายขนาด 6x8 นิ้ว หรือใหญ่กว่า พร้อมติดแสตมป์ค่าส่ง 5 บาทมาที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 140-1 อาคารเคี่ยนหงวน 2 ชั้น 15 ถ.วิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หรือสอบถามไปที่โทร. 0-2650-9777 ขอไปได้ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้หรือจนกว่าหนังสือจะหมด

    ทั้งหมดนี้ทำขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา
     
  5. ศ.รุ่งเรือง

    ศ.รุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +719
    ได้รับพระแล้วครับ รู้สึกดีมากๆ ขอบคุณ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2007
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=39549&NewsType=2&Template=1
    [​IMG]
    วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เวลา 17:16 น.

    ประโยชน์ของการดื่มนมเปรี้ยว
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ใครที่ชอบดื่มนมเปรี้ยว รู้ถึงประโยชน์ของนมเปรี้ยวกันหรือไม่ วันนี้เกร็ดความรู้มีมาบอกกัน...
    การดื่มนมเปรี้ยว จะได้รับกรดแลคติก ที่เกิดจากการหมักตัวของจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย ที่กระเพาะมีปริมาณความเป็นกรดลดลง ทำให้อาหารไม่สามารถย่อยได้ดี
    การดื่มนมเปรี้ยวจะช่วยปรับสภาพของกระเพาะอาหารให้เป็นกรดขึ้น และทำให้การดูดซึมอาหารดีขึ้น รวมทั้งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคตัวอื่น ๆ รุกล้ำเข้าไปในระบบย่อยอาหาร และนอกจากนี้จุลินทรีย์ที่เติมในนมเปรี้ยวยังมีส่วนช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย
    การดื่มนมเป็นสิ่งที่ดี ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการดื่มนมเปรี้ยวจึงต้องพิจารณาวัตถุดิบที่นำมาผลิต รวมทั้งราคาเมื่อเทียบกับปริมาณของอาหาร และสารอาหารที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าคิดจะบริโภคเป็นอาหารว่าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนรสชาติบ้างคงไม่เป็นไร
    รู้อย่างนี้แล้ว ลองหันมาดื่มนมเปรี้ยว เพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่า.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์ของการดื่มนมเปรี้ยว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การแชตอย่างปลอดภัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ทำความสะอาดฝักบัว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">เคล็ดลับเช็ดกระจกให้สะอาด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การใช้สายตาอย่างถูกต้อง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">อาหารแคลอรีสูง เสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">หัวหอมใหญ่ป้องกันมะเร็งตับและลำไส้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">เกาลัดคั่วในเม็ดทราย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ดูแลบ้านรับฤดูฝน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=46720

    [​IMG]

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ข้อควรระวังในการใช้ 'โสม' [12 พ.ค. 50 - 00:18]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]กระแสความสนใจดูแลสุขภาพ ทำให้มีการบริโภคผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพหลากหลายชนิดตามมา “โสม” ก็เป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า ระหว่างการบริโภคโสมนั้นก็มีข้อควรระวังเช่นกัน
    ก่อนจะไปถึงเรื่องข้อระวัง คงต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า เมื่อรับประทานโสมสกัดแล้วมีผลอย่างไร นั่นเป็นคำถามที่มีผู้เขียนไปถามคุณพิทักษ์ ตีเหล็ก คอลัมน์ “ข้องใจไถ่ถาม” ใน “อภัยภูเบศรสาร” จดหมายข่าว ของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เดือนเมษายนที่ผ่านมา ให้คำตอบไว้ว่า
    ในรากโสมเอเชีย หรือ Asian ginseng (Panax ginseng C.A.,Meyer)มีสารเคมีหลายชนิด ใช้บำรุงสุขภาพช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย มีกำลังวังชา และทำให้อายุยืนยาว ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาวะต่างๆได้ดี
    แต่ก็มี ข้อควรระวังคือ ห้ามดื่มน้ำชา (มีคาเฟอีน) ขณะใช้โสม และห้ามรับประทานธาตุเหล็ก ซึ่งมีอยู่ในผักใบเขียวเข้ม เพราะจะขัดขวางการดูดซึมของโสม ที่สำคัญไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ไม่ควรใช้เกินครั้งละ 1 เดือน ยกเว้นคนชรา
    เข้าทำนองว่า อาหารหรือยาที่มีประโยชน์นั้น หากใช้เกินความจำเป็นหรือไม่ระมัดระวังอาจกลายเป็นโทษได้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=sponser&content=45423

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">เตือนสติคนไทย อย่าตกเป็นเหยื่อหมอเถื่อนในเมืองจีน [30 เม.ย. 50 - 17:18]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
    เตือนสติคนไทย อย่าตกเป็นเหยื่อหมอเถื่อนในเมืองจีน <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การใช้สมุนไพรในการรักษาโรค เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้เจ็บป่วยและผู้ห่วงใยในสุขภาพของตนซึ่งคนส่วนหนึ่งเชื่อว่าประเทศจีนเป็นดินแดนที่มีสมุนไพรที่ดีมาเป็นเวลานานแล้ว แต่น่าเสียดายที่มีคนจีนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสจากความเชื่อถือดังกล่าว นำไปสู่ขบวนการหลอกลวงโดยอ้างตัวว่าเป็นแพทย์ และอ้างว่าการผลิตสมุนไพรที่นำมาขายนั้นรัฐบาลจีนมีส่วนสนับสนุนอยู่ด้วย เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คนไทยส่วนหนึ่งที่มีโอกาสเดินทางกับบริษัททัวร์ไปเที่ยวเมืองจีน มักจะปรากฏรายการที่บริษัททัวร์จัดไว้รายการหนึ่ง คือการแวะซื้อยาจีน โดยเฉพาะบัวหิมะ ซึ่งเคยมีชื่อเสียงว่าใช้เป็นยาทารักษาอาการทางผิวหนังโดยเฉพาะน้ำร้อนลวกได้ดี การแวะซื้อยาดังกล่าว ถ้าขึ้นกับความสมัครใจตามความเชื่อส่วนบุคคลก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่สิ่งที่พบในขบวนการดังกล่าวคือ ขบวนการจัดฉากหลอกลวง ให้คนเข้าใจว่าสุขภาพของแต่ละคนตกอยู่ภายใต้ภาวะอันตรายมาก หากไม่ได้ซื้อยาจากทางร้านมากิน จะเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ ขบวนการเหล่านี้ไม่แน่ใจว่าบริษัททัวร์จะรู้เห็นด้วยหรือไม่ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขบวนการดังกล่าวเริ่มด้วย บริษัททัวร์จะพาคนไทยไปแวะที่ร้านยาชื่อว่า ร้านเป่า สู้ ถัง ซึ่งทราบว่ามีอยู่ในเมืองใหญ่ของจีน แต่ผู้ที่เขียนไปพบขบวนการนี้เข้าที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งในระยะนี้คนไทยนิยมไปมาก เพราะเมืองนี้อยู่ไม่ไกลนักคือข้ามไปจากฮ่องกงก็ถึงแล้ว เมื่อคนไทยไปถึงที่ร้านจะมีการเปิดห้องที่เตรียมไว้ จากนั้นจะมีคนจีนที่พูดไทยได้ดี อธิบายสรรพคุณของยา สมุนไพรจีนขนานต่างๆ หลายชนิด ยาสมุนไพรขนานที่เน้นมากเป็นพิเศษก็คือ บัวหิมะและดีหมี โดยอ้างสรรพคุณบัวหิมะ ซึ่งคนไทยคุ้นเคยเป็นตัวนำ และตามด้วยการอธิบายสรรพคุณของดีหมีว่าใช้ขับพิษออกจากตับได้ดี โดยอ้างว่าปกติหมีเป็นสัตว์สงวน แต่ทางบริษัทของเราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ให้เอาดีหมีมาใช้ได้ หลังจากอธิบายโฆษณาชวนเชื่อเสร็จสรรพแล้ว ก็จะบอกว่าท่านที่มาแวะร้านเราในวันนี้โชคดีมาก เพราะจะมีหมอจีนผู้เชี่ยวชาญมาจากปักกิ่งพอดี และจะบริการตรวจร่างกายแก่ท่าน จากนั้นจะมีหมอจีนสองคน แต่งการดีดูน่าเชื่อถือ เดินเข้ามาแสดงตัวและชวนคนให้ไปตรวจร่างกายในห้องแต่ละห้องที่จัดเตรียมไว้ เมื่อคนไทยชุดนี้เดินตามไปแล้ว จะมีอีกหลายคนที่อ้างตัวว่าเป็นหมอฝีมือดีมาจากปักกิ่งเช่นกัน เข้ามาแสดงตัวและพาคนไช้ไปตรวจในห้องต่างๆ โดยมีล่ามซึ่งพูดภาษาไทยได้ดีคอยแปลให้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขบวนการหลอกลวงเริ่มต้นขึ้นในห้อง โดยหมอเถื่อนเหล่านี้จะเริ่มจับบริเวณชีพจรหรือบางห้องก็ดูจากใบหน้า ลิ้น ตา และสรุปคล้ายๆกัน แยกเป็นอาการๆไป ส่วนใหญ่จะได้รับการแจ้งและข่มขู่ว่าไตทำงานไม่ดี เลือดผิดปกติ ร่างกายตกอยู่ในภาวะอันตราย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน จะต้องเสียชีวิติ จากนั้นก็จะเสนอขายยาเป็นชุดๆ ส่วนใหญ่บรรจุเป็นแคปซูลรวมทั้งดีหมีซึ่งเป็นผงๆ ราคาแต่ละชุด ถ้าคิดเป็นเงินไทยจะตกหลายพันบาทหรือบางคนก็ถูกหลอกโดยขายยานี้เป็นเงินไทยหลายหมื่นบาท คนที่ร่างกายไม่แข็งแรงหรือเจ็บป่วยอยู่แล้ว จะถูกข่มขู่จนใจเสีย และหลงจ่ายเงินจำนวนมากซื้อยากลับมา แต่สำหรับผู้ที่ยังครองสติได้ก็จะปฏิเสธ หมอเถื่อนเหล่านี้ก็จะเกลี้ยกล่อมต่อไปเรื่อยๆ โดยบอกว่าไม่ห่วงชีวิตหรือ โชคดีมากแล้วที่มาพบเขา คนไทยนั้นโดยอุปนิสัยขี้เกรงใจ บางคนก็ตัดสินใจซื้อบางส่วน แต่สำหรับคนที่ไม่คล้อยตามหมอเถื่อนจะแสดงอารมณ์ไม่พอใจและไล่คนที่ปฏิเสธออกจากห้อง คนไทยหลายคนที่เดินทงไปเมืองจีนมักจะพบขบวนการนี้ ถ้ารู้ไม่ทันก็จะเสียเงินซื้อยาสมุนไพรดังกล่าวและเมื่อกลับมาแล้ว ก็จะปล่อยให้เรื่องแล้วกันไป คนไทยกลุ่มต่อๆไปที่บริษัททัวร์พาไป ก็จะพบกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันอีก <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผู้เขียนเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนและไปพบมาแล้ว เมื่อไม่ได้หลงเชื่อทำให้หมอเถื่อนอารมณ์เสียมาก แต่ก็พบคนไทยส่วนหนึ่งถูกหลอกลวงโดยขบวนการดังกล่าวผู้เขียนจึงขอนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเพราะถ้าไม่มีใครนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะถ้าไม่มีใครนำเรื่องดังกล่าวมาตีแผ่ในวงกว้าง คนไทยที่ขาดประสบการณ์โดยเฉพาะผู้ป่วยก็จะต้องถูกหลอกลวง โดยขบวนการนี้ร่ำไป <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สำหรับบริษัททัวร์ทั้งหลาย ท่านคงรู้แก่ใจท่านเองว่าได้ร่วมมือกับขบวนการหลอกลวงดังกล่าวด้วยหรือไม่ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่พาคนไทยไปพบเหตุการณ์นี้ ถ้ารู้เห็นเป็นใจด้วยก็ควรจะเลิกเสีย ถ้ายังมีจิตสำนึกของความเป็นคนไทยอยู่ ก็ไม่ควรพาคนไทยด้วยกันไปให้ชาวต่างชาติหลอก อีกทั้งการแสวงหาผลประโยชน์ จากความเจ็บป่วยของเพื่อนมนุษย์นั้นถือเป็นบาปอย่างมหันต์ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้าจิตสำนึกที่ดีไม่มีอยู่ คงจะต้องถือเป็นหน้าที่โดยตรงของทางราชการ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวที่จะต้องควบคุมบริษัททัวร์ทั้งหลายไม้ให้พาคนไทยไปเป็นเหยื่อของแก็งต้มตุ๋นต่างชาติเหล่านี้อีก ส่วนรัฐบาลจีนจะตระหนักและดูแลเรื่องนี้อย่างไร ไม่ให้เสียภาพพจน์ของประเทศเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนจะต้องพิจารณาเอง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>

    ศาสตราจารย์แสวง บุญเฉลิมวิภาส​
    <o:p></o:p>
    ผู้อำนวยการกฏหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ <o:p></o:p>
    คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. mail2wissnu

    mail2wissnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +7,865
    ค่อยส่งก็ได้ครับ ผมคิดว่าจะทำบุญรายการอื่นด้วยครับ ค่อยส่งพร้อมๆกันก็ได้นะครับ
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เนื่องจากได้รับทราบจากพี่ๆ และ อ.ประถมที่อยากจะให้ผู้ที่ปฏิบัติธรรมได้ ้มีความรู้แปลกแยกออกไประหว่าง "ฌาน" และ "ญาน" จึง พอที่จะค้นคว้านำบทความในเวบธรรมะลงมาให้ดูถึงนิยามแห่งอาการจิตทั้ง 2 พอสังเขปสำหรับผู้ที่ยังไม่กระจ่างในเรื่องนี้ดังนี้ ส่วนผู้ที่กระจ่างใจแล้ว ขอโมทนาบุญด้วย
    [FONT=&quot]ฌาน...การเพ่งอารมณ์จนใจแน่วแน่ เป็นอัปปนาสมาธิ...[/FONT][FONT=&quot]
    หรือ ..ภาวะจิตที่สงบประณีต โดยมีสมาธิเป็นองค์ธรรมหลัก..
    เช่น ..ฌาน 4 (ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน)

    ญาณ...ความรู้ ปรีชาหยั่งรู้ ปรีชากำหนดรู้
    เช่น ...ญาณ 3

    สัจจญาณ (หยั่งรู้อริยสัจแต่ละอย่าง) ...
    กิจจญาณ (หยั่งรู้กิจในอริยสัจ) ...
    กตญาณ (หยั่งรู้กิจอันได้ทำแล้วในอริยสัจ) ...

    ญาณจริต ...คนที่มีพื้นนิสัยหนักในความรู้ มักใช้ความคิด พึงส่งเสริมด้วย
    การแนะนำให้ใช้ความคิดในทางที่ชอบ (เป็นอีกชื่อหนึ่งของพุทธิจริต)....

    สมาบัติ...ภาวะสงบประณีตซึ่งพึงเข้าถึง..
    สมาบัติ มีหลายอย่าง เช่น ฌานสมาบัติ ผลสมาบัติ อนุปุพพวิหารสมาบัติ

    สมาบัติ ที่กล่าวถึงบ่อย คือ ฌานสมาบัติ กล่าวคือ สมาบัติ 8
    อันได้แก่ รูปฌาน 4 และ อรูปฌาน 4 ...

    ถ้าเพิ่ม นิโรธสมาบัติ ต่อท้ายสมาบัติ 8
    ก็รวมเรียกว่า อนุปุพพวิหารสมาบัติ 9

    เมื่อดูตามนิยามศัพท์แล้ว
    ฌาน-สมาบัติ..จะเป็นเรื่องของ .."สมถะ หรือ สมาธิ"
    ญาณ ..จะเป็นเรื่องของ .."วิปัสนา หรือ ปัญญา".....

    ซึ่งก็อยู่ในไตรสิกขา เรื่อง ศีล ..สมาธิ (ฌาน-สมาบัติ) ..ปัญญา (ญาณ)
    ผู้ปฏิบัติ สามารถเข้าสู่จุดหมายที่ต่อจากปัญญา คือ วิมุตติ..หลุดพ้นกิเลสได้
    ตามแนวทางองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา..นั่นเอง..!

    ร่วมแสดงความเห็นไว้กว้าง ๆ ครับ..
    ส่วนรายละเอียดแบบลงลึกเรื่อง ฌาน ญาณ..มีมากมายยิ่ง..
    ซึ่งฐานะผู้ปฏิบัติ เมื่ออยู่ในทางของไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา..

    ศีล 5
    สมาธิ (ฌาน 4)
    ปัญญา พิจารณาแยกรูป นาม ว่ามีภาวะเป็นไตรลักษณ์ ให้จิตเห็นจริงรู้แจ้ง
    ในความไม่ใช่ตัวตน ให้จิตถอนความยึดมั่นถือมั่นในรูป นาม ทั้งหลาย โดยลำดับ

    ก็ถึง นิพพิทา เบื่อหน่ายในกายนี้ ในจิตนี้ หรือ ในรูปนี้ ในนามนี้..
    ก็จะเข้าสู่ วิราคะ คือจิตจางคลายจากยึดมั่นถือมั่นในสรรพสิ่ง ถอนออกมาจาก
    ความรู้สึก รู้คิด ติดยึดว่า นั่นเป็นเรา นั่นของเรา..!

    จิตถอนความรู้สึกนึกคิดได้เรื่อย ๆ ที่สุด ก็จะเป็นอาการตามธรรมชาติของจิต
    ที่เกี่ยวข้องกับสรรพสิ่ง เพียงสักแต่ว่าต้องเกี่ยวข้อง แต่ใจไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น
    ว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา...

    เมื่อสิ่งทั้งหลาย(รูปนามตน รูปนามผู้อื่น สัตว์อื่น สิ่งอื่น) แปรปรวนไป ..
    ใจก็ไม่เศร้าหมอง เพราะไม่ได้นำใจเข้าไปติดอยู่..

    นี่เองที่ท่านกล่าวว่า "จิตวิมุตติ" ความหลุดพ้นแห่งจิต..
    อันเกิดจากการพิจารณาทางปัญญา หรือ วิปัสนา นั่นเอง..!<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]<o:p> </o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]นำมาจาก [/FONT][FONT=&quot]http://www.dhammathai.org/webboard/view.php?No=1853<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]<o:p> </o:p>[/FONT]
    [FONT=&quot]<o:p> </o:p>[/FONT]
     
  12. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ฆาราวาสหากสามารถฝึกจิตให้มีความสงบและมีอารมณ์เป็นหนึ่งมองตรงเข้าไปในจิตใจได้ก็นับว่ายอดเราขอโมทนา...สาธุด้วยและขอคารารวะ เพราะนั่นคือการเจริญสมาธิที่เกิดปัญญาแล้ว หากมีบุญวาสนาก็สามารก้าวข้ามเข้าสู่ฌานได้
    <O:p
    แต่ตอนนี้เรื่องง่ายๆรักษาศีล 5กันให้มากๆก่อนปัจจุบันภูมิคุ้มกันด้านอารมฌ์ของผู้คนเปราะบางมากสร้างบารมีให้ตัวเองก่อนเบาะๆแค่10ทัศก่อน การเข้าถึงฌานคงจะยากพอกับจะหาโสดาบรรณในปัจจุบันเลย คงอีกหลายแสนโกศอสงไขยกัลป์เชียวละเราเองพยายามรักษาศีล 5และ 8 และทำความดีให้มากที่สุดเพราะกลัวกรรมทั้งเก่าและกรรมใหม่จ้ะ[​IMG]<O:p</O:p
     
  13. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    มีข้อมูลจากธรรมชาติบำบัดเรื่องโยเกริร์ตผสมน้ำผึ้งและมะนาว
    ของ น.พ.บรรจบมาฝากสมาชิก

    <O:p
    โยเกิร์ต เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์สำหรับชาวเอเชีย เหตุเพราะโยเกิร์ตคือผลผลิตของนมวัว ซึ่งคนเอเชียร้อยละ 50-80 แพ้โปรตีนในนม (ตัวเลขของ%แตกต่างตามงานวิจัย) เรื่องนมวัวก่อให้เกิดภูมิแพ้มีงานวิจัยรับรองมาเนิ่นนานนับสิบๆชิ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่นจากชมรมรณรค์เพื่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เปิดเผยว่านมและผลิตภัณฑ์นมวัวทำให้เด็กไทยป่วยเป็นภูมิแพ้จำนวนมาก
    <O:p
    อย่างไรก็ดี การกินโยเกิร์ตทำให้คนกินเกิดการระบายถ่ายท้อง นั่นเป็นของแน่แต่หาใช่เป็นเรื่องดีแต่อย่างไรเพราะนั่นคือปฏิกิริยาจากภูมิแพ้ของผู้บริโภคคนนั้นต่อโปรตีนในนมวัวนั่นเอง พูดง่ายๆคือคนที่แพ้นมวัวกินโยเกิร์ตเข้าไป โปรตีนในนมวัวทำให้เยื่อบุในลำไส้ของคนนั้นเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ขึ้นมาเซลล์เยื่อบุจะเกิดภาวะบวมน้ำ แล้วปล่อยสารคัดหลั่งออกมาเป็นจำนวนมากด้วยความระคายเคืองเกิดเป็นน้ำจำนวนหนึ่งออกมาอยู่ในทางเดินลำไส้ แล้วขับถ่ายเป็นน้ำเหลวๆออกไป<O:p

    ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ให้นึกถึงเยื่อบุตาของเราเวลาโดนควันไฟเราจะแสบตามากแล้วมีน้ำตาไหลพรากออกมา ก็คล้ายกับลำไส้ของคนที่แพ้นมวัวหรือโยเกิร์ตที่เกิดระคายเคืองแล้วหลั่งน้ำแห่งการระคายเคืองออกมานั่นเองเพียงแต่ง่าลำไส้ของเราไม่มีประสาทรับรู้อาการปวดแสบเราจึงไม่รู้สึก แต่ขอให้รู้ว่าโยเกิร์ตกำลังทำความระคายเคืองอย่างแรงกับลำไส้ของคุณอยู่<O:p
    <O:p
    ถ้าหากปล่อยให้การระคายเคืองซ้ำๆอยู่เช่นนั้นเรื่อยๆในที่สุดภูมิต้านทานจะเพี้ยนไป คนที่ท้องผูกก็จะไต่ระดับอาการแพ้จากแต่ลำไส้ระคายเคืองกลายเป็นลมพิษ ผื่นคัน ไปจนถึงหอบหืด หรือเกิดภูมิเพี้ยนกับเยื่อบุลำไส้กลายเป็นโรคลำไส้เรื้อรัง การกินสูตรโยเกิร์ตผสมมะนาวและน้ำผึ้งแล้วระบายท้องเป็นการบิดเบือนประเด็นปัญหาของคนท้องผูก เพราะการแก้ปัญหาท้องผูกต้องกินอาหารที่มีเส้นใยมาก กินข้าวกล้อง ผัก ผลไม้<O:p
    <O:p
    น.พ.บรรจบ ได้ติดตามผลร้ายของการกินโยเกิร์ตผสมมะนาวและน้ำผึ้งมานาน จนกระทั่งมาพบหลักฐานการเกิดผลร้ายอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการตรวจเลือดด้วยแผ่น dark field เรื่องมาจากอดีตกรรมการชมรมอยู่ร้อยปีท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนชอบเรื่องใหม่ได้ตรวจ dark field เช็คผลเลือดปรากฏว่าสัญลักษณ์แสดงผลเม็ดเลือดมีผลที่น่าดีใจว่าเลือดสะอาดปราศจากสิ่งตกค้างต่างๆเหตุเพราะเธอกินข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ และปลาตามธรรมชาติ <O:p
    <O:p
    สัปดาห์ที่แล้วเธอมาเช็คผลเลือดต้องแปลกใจเพราะเลือดของเธอมี chylous หรือคราบไขมันที่กำลังจับตัวเป็นก้อนรวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆมากมาย ผิดกับเลือดที่ตรวจในคร้งแรก เธอบอกว่ากินโยเกิร์ตผสมมะนาวและน้ำผึ้งมาเพราะอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เธอกล่าวว่าโยเกิร์ตผสมมะนาวและน้ำผึ้งกินแล้วทำให้ถ่ายท้องดีแต่ไม่เคยคิดว่าผลเลือดของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวแบบนี้ทั้งๆที่กินอาหารแบบเดิมๆตลอด น.พ.บรรจบได้ถามต่อว่าผลของระดับไขมันในเลือดของเธอเป็นอย่างไร เธอตอบว่า ไขมันจากเดิมต่ำกว่า 200 แต่พอกินสูตรโยเกิร์ตผสมมะนาวและน้ำผึ้งได้เดือนที่สองโคเรสเตอรองของเธอสูง 260 มก.% ซึ่งเชื่อได้จากผลเลือดของเธอ<O:p
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร - เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

    <TABLE class=tborder id=post572025 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:19 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #400 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_572025", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:19 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 2,499 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,819 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 18,867 ครั้ง ใน 2,349 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2250 [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_572025 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->[​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    โต(กุมารน้อย) เมื่อวันอาทิย์ 13/5/50 คณะคุณโยมชูชาติ จ. สมุทรปราการ ได้พากันมาหลายท่านเพื่อถวายหนังสือเรียนแก่พระภิกษุ-สามเณร..เทอมนี้พระ-เณรมีหนังสือเรียนกันครบถ้วน..เมื่อปีที่แล้ว 3-4- รูปเรียนหนังสือเล่มเดียวกัน...จึงขออนุโมทนาบุญ แด่ ..ทุกๆ ท่านที่ได้สงเคราะห์การศึกษาของพระเณร...
    และก็คณะของคุณสิทธิพงษ์ (คุณหนุ่ม) หลายท่านด้วนกันเดินทางมาถวายสิ่งของ..ข้าวสารอาหาแห้งเป็นจำนวนมากพอสมควร...คุณโยมสิทธิพงษ์ ได้ถวายพระ "สมเด็จ" ให้พระ อ. ไว้เป็นจำนวนมากน่าจะ หลายร้อยองค์..เป็นพระเก่า..และได้ถวายมวลสารที่จะมาสร้าง "องค์จตุคาม" อีกด้วย....
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้นำมวลสารไปถวายหลวงพ่อแผนมาเมื่อวานนี้แล้ว มวลสารที่ถวายหลวงพ่อแผนมีดังนี้

    1.ผงพระสมเด็จบางขุนพรหมผสมผงใบลานหลวงพ่ออี๋ (สัตหีบ)

    2.ผงพระวังหน้า


    3.น้ำมนต์พันวัด

    4.มวลสาร 30 อย่าง ดังนี้
    1.ผงพุทธคุณ หลวงปู่อุ้น สุขกาโม วัดตาลกง จังหวัด เพชรบุรี
    2.ผงอิทธิเจ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จังหวัด อุบลราชธานี
    3.ผงกาฝาก 108 หลวงปู่อิงโชติโญ จังหวัด บุรีรัมย์
    4.ผงอิทธิเจ หลวงปู่เหมือน ฐานุตโม จังหวัด สระแก้ว
    5.ผงพุทธคุณ จากวัดมณีชลขันธ์ จังหวัดลพบุรี
    6.ผง 6,000 ปี ปู่ฤาษีกัมปินะ ในถ้ำ จังหวัดลพบุรี
    7.ผงพุทธคุณ วิชาลบผงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
    8.พระผงสมเด็จบางขุนพรหมหัก ปี 2536
    9.ผงพระธาตุสิวลี หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร จังหวัดอุบลราชธานี
    10.ผงงิ้วดำ ผงไพลดำ ผงใบลานเก่า ผงว่านหลวงปู่เทียม พุทธสาโร จ.สระแก้ว
    11.ดินตระไคร้ นครวัดประเทศ กัมพูชา
    12.ผงใบลานเก่าผงพุทธคุณจากหลวงพ่อพูนทรัพย์ วัดอ่างศิลา( มีผงหลวงปู่แก้ววัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี)
    13.ผงคัมภีร์ใบลานหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ
    14.พระผงเก่าหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว
    15.พระผงหลวงปู่พูล วัดไผ่ล้อม
    16.พระผงหลวงปู่มีวัดมารวิชัยรุ่นแช่น้ำมนต์สามไตรมาส
    17.ผงหลวงปู่ทองวัดราชโยธา
    18.ผงหน้าบันโบสถ์วัดธรรมธิดา จังหวัดลพบุรี
    19.พระผงแตกหักหลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว( วังหน้า)
    20.พระผงหลวงปู่เทพโลกอุดร
    21.พระผงสมเด็จ
    22.พระผงนางพญา
    23.พระผงซุ้มกอพระ
    24.ผงสุพรรณ
    25.พระผงพระรอด
    26.พระผงพิมพ์พรหมเล็ก
    27.พระผงพิมพ์จักพรรดิ์ ( หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ วัดสะแก ) จ.อยุธยา( ปี 2512 ) ที่แตกหัก
    29.ผงปูนที่ห่อหุ้มองค์หลวงพ่อพุทธนิมิตร วัดหน้าพระเมรุ อายุกว่า 300 ปี
    30.น้ำมนต์จากวัดประมาณ 1,000 วัดผสมเป็นมวลสาร น้ำมันเก้ากลิ่น และยังมีมวลสารจากคณะคณาจารย์เกือบทั่วประเทศเพื่อนำมาผสมเพื่อสร้าง<O:p</O:p


    ขอขอบพระคุณอ.จเรเป็นอย่างสูงด้วยครับ

    5.มวลสารเป็น 1,000 ชนิดจากพี่ท่านหนึ่ง และผมได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ในการขอบารมีเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ(หรือกุกุธสันโธ) ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    6.แป้งเสกของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า

    7.แร่ทรายทองของคุณยายผีป่า ซึ่งผ่านพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน


    โมทนาสาธุครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น้ำมนต์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรที่ผมให้คุณaries2947 และคุณchaipat ใช้ดื่มได้ครับ เพราะว่าเป็นน้ำสะอาด ผมเก็บมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่เพียงขวดเดียวเท่านั้นเอง

    ส่วนน้ำอธิษฐาน(ของพระอาจารย์รูปหนึ่ง) ซึ่งรวมกับน้ำมนต์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ไว้ไปที่บ้านอาจารย์ประถม แล้วผมจะนำไปให้ทุกๆท่านดื่มกันครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับท่านที่ตอบคำถาม ผมจะจัดส่งพระพิมพ์ไปให้ครับ ผมจะส่งพระพิมพ์เพิ่มไปให้อีกท่านละ 1 องค์แต่ยังไม่บอกว่าเป็นพิมพ์ไหน รอลุ้นนะครับ

    คำตอบของทุกๆท่านครับ

    <TABLE class=tborder id=post568046 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">09-05-2007, 12:26 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4969 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>aries2947<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568046", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 08:44 PM
    วันที่สมัคร: Feb 2007
    ข้อความ: 75 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 5,800 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 421 ครั้ง ใน 68 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 52 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568046 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พี่หนุ่มครับขอร่วมสนุกด้วยคนครับ

    เห็นแล้วน่าสงสารพวกเค้ามากเลยครับที่ต้องมาเป็นสิ่งสนองกิเลสสนองอารมณ์ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้็ประเสริฐผู้ที่สามารถพัฒนาตนเองเป็นคนเต็มคนเป็นมนุษย์นั่นเอง เป็นได้แค่สัตว์ที่อยู่ร่างคน สิ่งเหล่านี้มันเริ่มเกินกว่าปัจจัย4ที่เราควรจะพอเพียง อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่พักอาศัย เราหลงลืมไปว่าเราอุปโภคบริโภคเพื่ออะไร อาหารก็เพื่ออิ่มท้อง<O>:p></O>:p>
    เครื่องนุ่งห่มก็เพื่อปกปิดร่างกายเพื่อกันหนาว เพื่อปกปิดสิ่งที่ควรปกปิด<O>:p></O>:p>
    ยารักษาโรคก็ไม่ใช่ต้องไขว่คว้าสิ่งที่ต้องไปเบียดเบียนผู้อื่น เพื่อให้ตัวเอง<O>:p></O>:p>
    อยู่ยืนยาว ที่พักก็เพื่อหลบแดดหลบฝน จะไขว่ขว้ากันทำไมสุดท้ายก็เหลือแค่เถ้าคืนสู่ผืนดิน สำหรับตัวเองเนื้อสัตว์ใหญ่นี่เลิกรับประทานนานแล้ว ก็เหลือแต่พวกหมูไก่ปลาที่ตอนนี้ตั้งใจว่าเมื่อพร้อมก็อยากจะละให้หมดตอนนี้ยังอยู่ในสังคมโรงงานที่ไม่สามารถเลือกรับประทานได้ครับ<O>:p></O>:p>
    ผมเคยดูเก็บตกที่เอาปลาเป็นๆมาทอดครึ่งนึงคนก็คีบกินปลายังดิ้นสบัดหางอยู่เลย อนาถหนอสังคม<O>:p></O>:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post568129 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">09-05-2007, 02:21 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4970 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>littlelucky<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568129", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 12:30 PM
    วันที่สมัคร: Oct 2005
    ข้อความ: 123 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 11,315 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 705 ครั้ง ใน 102 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 102 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568129 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->จากเรื่องข้างต้น
    ทำให้ผมย้อนระลึกถึงเวลาที่ ตัวเองหงุดหงิด และฉุนเฉียว กับสภาพของโลก โดยลืมไปว่าโลกที่อยู่รอบตัวเป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก เพราะ
    ตัวของผมเอง แยกตัวเองจากทุกสิ่งทุกอย่าง (ความเห็นแก่ตัว) ต่อมาผมได้เห็นอะไรหลายอย่าง ทำให้ฉุกคิดได้ว่า
    สัตว์และพืชกับคนเรามีความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร


    แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่อาจปฏิเสธ "วิญญาณของนักฆ่าหรือล่า"
    ที่อยู่ในสัญชาติญาณ ของ ผม หรือ เพราะมันฝังอยู่สมองของมนุษย์ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์
    การฆ่าล่าของผมนั้นเป็นการล่าเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้
    ยกตัวอย่างเช่น ในวันนี้ เราฆ่าสัตว์ตัวนั้น ผมก็ต้องขอโทษมันที่ต้องตัดชีวิตของมันโดยฉับพลันและแน่นอน ผมได้ทำในสิ่งที่ผมทราบดีว่า สักวันหนึ่งชีวิตของผมก็จะถูกตัดออกในลักษณะใกล้เคียงกันนี้

    ดังนั้น ทั้งหมดตัวเราและสัตว์ตัวนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน
    แต่ผมว่ามีบ่อยครั้งเหมือนกัน ที่ผมละเลยการคิดถึงดุลยภาพนี้
    นั่นแสดงถึงความไม่รับผิดชอบในการอยู่ในโลกหรือการมีชีวิตอยู่ แม้ว่าผมจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว
    เพราะผมมักคิดเสมอว่าชีวิตของผมจะต้องอยู่ ยืนยง คงทน ต่อไป
    พอผมเริ่มตระหนึกได้ทำให้ผมเกิดความกลัวขึ้นมาว่า

    "คนเราทุกคนต้องตาย"

    บ่อยครั้งในการดำเนินชีวิต ผมสังเกตตัวเองพบว่าประพฤติตัวอย่างเดียวกับสัตว์ที่ผมกิน
    แต่เมื่อผมรู้จักตัวเองว่า ผมเองก็เป็นผู้ถูกล่าจากบางสิ่งหรือจากบางคน ผมจึงเลิกใช้ชีวิตเป็นเหยื่อเสียเอง


    บทสรุปคือ ความรู้สึกเบื่อหน่าย ความวิตกกังวลกับ สิ่งต่าง ๆ ในโลก นั้นมาจากการที่เราบงการผู้อื่นหรือ เอาเปรียบ ใช้ คน สัตว์ พืช และเพื่อนร่วมโลกอื่น ๆ ทำให้ ผมคิดว่ามีทางเดียวที่พอจะช่วยได้คือ ควรใช้โลกของเราอย่างประหยัดและใช้มันอย่างอ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ พืช สัตว์ ผู้คนรอบตัว
    และที่สำคัญต้องพิจารณาเห็นความทุกข์ยากแห่งสังสารวัฎและอบายภูมิเบื้องล่าง

    ความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะพื้นฐานของการประพฤติธรรม
    ทั้งหมดนั้นมีความเชื่อในกฎแห่งกรรมเป็นหลัก
    ทำให้ผมคิดว่าควรให้ความสำคัญกับการอุทิศชีวิตจิตใจเพื่อกำจัดอกุศลธรรมและประกอบกุศลธรรม

    แม้ว่า ความรู้ความเข้าใจ ในด้านธรรมะของผมอาจไม่มีมาก
    แต่ผมก็ยึดมั่นในกฎแห่งกรรมอยู่ ทำให้คิดได้ว่า หลังจากที่ผมได้ทำบาปกรรมไว้มาก เราคงไม่มีโอกาสรอดพ้นจากอบายภูมิเบื้องล่างแน่
    ทำให้ผมเกิดความกลัวอย่างมาก

    สิ่งนี้ทำให้ผมเทิดทูนพระพุทธเจ้าและพระธรรม และพระสงฆ์ และตั้งใจสำรวม ฝึกฝนตนเอง เช่นสวดมนต์ไหว้พระ
    ทำสมาธิ เพื่อบรรลุสู่ความหลุดพ้น ซึ่งคิดว่าไม่เหลือวิสัยสำหรับผู้คนธรรมดาที่จะทำตามอย่าง และพิจารณาวิถีปฎิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ผู้บรรลุธรรมแล้ว

    ตระหนักถึงเรื่องกรรม ความทุกข์ยากแห่งการเวียนว่ายตายเกิด คุณค่าอันแท้จริงของชีวิตของผม และการไม่รู้วันเวลาที่แน่นอนที่จะตายจากโลกไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post568498 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 10-05-2007, 12:45 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4980 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568498", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:37 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 522 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 7,073 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,621 ครั้ง ใน 518 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 523 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568498 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ร่วมสนุกด้วยครับ คุณหนุ่ม

    รับโทรศัพท์ปั๊บผมก็เข้าไปดูเลย ดูแล้ว มันรับไม่ได้เลยครับ โหดร้ายมาก ให้น้องๆที่บริษัทดู แต่ละคนดูแล้วเบือนหน้าหนีกันเป็นแถว รับกันไม่ได้เลย ยิ่งช่วงตอน"ถลกเสื้อ" มันสะเทือนใจมากทำได้ยังไง??? จิตใจทำด้วยอะไร กฎของกรรมจะสนองกับคนทุกคนทุกชาติแน่นอนที่ทำชั่ว ไม่จำกัดว่าจะนับถือพุทธหรือไม่

    "คน"อาศัยความได้เปรียบทั้งกำลังกาย สติปัญญา(ที่คิดค้นเครื่องทุ่นแรง) มากระทำต่อสัตว์ และการกระทำนั้นก็ไม่ได้กระทำเพื่อความหิวโหย หรือนำเอามาเป็นอาหารเลย แต่เป็นการทรมานด้วยความมันส์ในอารมณ์ตามสันดานดิบเดิมๆนั้น หดหู่ใจครับที่ได้เห็นภาพเหล่านั้น จะเรียกว่า"ฆ่า" ก็ยังน้อยเกินไป การ"ย่ำยี"ในสิทธิ์ของการมีชีวิตอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ก่อนการฆ่านั้นโหดร้ายนัก การถือสิทธิ์เหนือชีวิตๆหนึ่งนั้นมักจะเกิดกับบุคคลที่คิดว่ามีอำนาจ ดูแล้วหวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ช่วง 14 ตค 2516 ได้ยังไงไม่รู้นะครับ มันค่อนข้างคล้ายกันมาก
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post568693 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">10-05-2007, 06:57 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4983 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>chaipat<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568693", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:53 AM
    วันที่สมัคร: Jan 2007
    ข้อความ: 122 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,189 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 831 ครั้ง ใน 120 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 100 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568693 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องของความโหดร้าย ฯ (และขอละพระท่านให้ท่านอื่นละกันครับ)ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    จากที่เข้าไปดูคร่าวๆไม่ได้ละเอียดนักและอนุมานเอาละกันครับว่า<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    1.คนที่เกิดมาในโลกนี้มาจากการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันมีเชื้อชาติความเชื่อประเพณีนิยมการสืบทอดการปฏิบัติที่แตกต่างกันอาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกันยังผลให้การกระทำบางอย่างสำหรับคนนั้นคนนี้<O:p></O:p>
    ที่แตกต่างแม้แต่คนที่ดูพิจารณาแล้วก็แตกต่างกันไปในแต่ละประเด็น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    2.ทำให้คนบางคนนิยมหรือชอบที่จะกระทำในอย่างนั้นแบบนั้นซึ่งถ้าเป็นมุมของเราก็ว่ามันโหดร้ายมากแต่คนทำเขาคงคิดอะไรหลายๆ อย่าง<O:p></O:p>
    มันก็ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อยจะไปยุ่งอะไรกับเขาและยังมีคนสนับสนุนเขา<O:p></O:p>
    อยู่ด้วย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    3.แต่ถ้ามองในมุมกลับคุณลองเป็นตัวอะไรสักอย่างแล้วถูกกระทำคุณก็ต้องร้องขอเช่นกัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    4.สำหรับท่านที่มีความเมตตาอาจจะเริ่มลดเนื้อสัตว์ที่จะรับประทานทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือปล่อยนก ปล่อยปลาและอื่นๆ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    5.ผมคิดว่าความโหดร้ายที่เขาทำเขาก็ต้องได้รับกลับไปเพราะ<O:p></O:p>
    กรรม In กรรม Process กรรม Output เป็นไปตามกฏของธรรมชาติ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    6.ผมคิดว่าหลายคนที่มีพื้นฐานทางจิตใจใกล้กันหรือในสังคมใกล้ตัว<O:p></O:p>
    เราก็เริ่มเผยแพร่ความคิดที่เป็นสันติสุขวันนี้ก็ดีวันหน้าก็ดีเริ่มไปทีละน้อยเท่าที่ตัวเราจะทำได้มันก็จะแพร่ไปเรื่อยๆเหมือนก้อนหินล่วงลงน้ำ<O:p></O:p>
    วงของน้ำก็จะขยายไปเรื่อยๆแต่จุดสำคัญก้อนหินต้องลงน้ำเรื่อยๆอย่าหยุดเสียกำลังใจตั้งตนอยู่ในกรอบที่ดีเพราะถ้าพลาดจากการทำตัวไม่ดี<O:p></O:p>
    คนเขาจะไม่เชื่อเราสิ่งที่ดีที่เป็นตัวเราแสดงแก่สังคมต่อไปภายหน้าเขาก็จะไม่เชื่อเราแล้วเราที่เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรมันก็เสียคนเสียจริตของตนเกิดความเศร้าแก่ตนเองฉะนั้นกำลังใจต้องเข้มแข็งทำได้ก็ทำ<O:p></O:p>
    ทำไม่ได้เกินกำลังหรือคิดไม่เข้าใจมาพอก็รอและทบทวนก่อนอุเบกขา<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    7.สุขนั้นอยู่ที่ใจของเราแต่ให้เป็นสุขที่คนรอบตัวเรานั้นไม่ร้อนนะไม่ใช่เราสุขหรือสนุกแล้วคนรอบข้างสัตว์รอบตัวทุกข์กันนะท่านพิจารณาได้อยู่แล้วบางครั้งมิต้องมีอะไรก็สุขได้จริงๆนะ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    8.ขอความสุขใจ จงมีแด่ผู้อ่านทุกท่านเทอญ<O:p></O:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post568725 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">10-05-2007, 07:41 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4985 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>nongnooo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568725", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:36 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2006
    ข้อความ: 92 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,389 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 811 ครั้ง ใน 88 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 96 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568725 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอแสดงความเห็นด้วยครับ(ขออนุญาติสละพระพิมพ์ให้ท่านอื่นจะได้มีผู้เข้ามาให้ความเห็นมากๆ)
    ต้องยอมรับเลยครับว่าได้ดูคลิปแค่ถลกหนังของเจ้าไม่ทราบใช่แรกคูนหรือเปล่า ก็ทำใจดูต่อไม่ได้แล้ว มนุษย์เราในปัจจุบันผมว่าจิตใจมันช่างเสื่อมทรามลงโดยตลอดพวกเราอาจรู้สึกเป็นเรื่องที่โหดร้ายรับไม่ได้แต่คนที่ทำกลับไม่รู้สึกใดๆอาจจะสนุกกับการกระทำด้วยซ้ำ ผมไม่ได้คิดแค่ว่าเขามีความจำเป็นต้องเอาขนมันมาขายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ เพราะถ้าจำเป็นจริงๆก็ควรจะฆ่ามันให้ตายก่อน ชำและขนมันออกมา ผมกลับคิดว่าเป็นความสนุกสะใจในการกระทำของผู้ที่มีกำลังเหนือกว่าสุดท้ายมันก็จะเป็นความเคยชินอย่างเช่น เราเจอกันในสังคมปัจจุบัน มนุษย์กลับเป็นสัตว์ที่น่ากลัวที่สุดจริงๆ โมทนาสาธุผมขอให้ความเลวร้ายเหล่านี้จงหมดลงแค่รุ่นชีวิตผมเถอะ สาธุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post568824 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">10-05-2007, 09:09 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4992 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>wichitt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568824", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: 11-05-2007 04:42 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2006
    ข้อความ: 124 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 4,337 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 935 ครั้ง ใน 122 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 114 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568824 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ความโหดร้าย ทารุณกรรม มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ บางอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เช่นสัตว์ใหญ่ล่าสัตว์เล็กเป็นอาหาร เมื่อจับได้ก็ฉีกเนื้อ ถลกหนัง กิน นี่คือธรรมชาติ แต่สำหรับการกระทำของคนที่กระทำต่อสัตว์อย่างนี้มิใช่เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เป็นเวรเป็นกรรม ดูแล้วผมนึกถึงตอนที่ผมไปบวชอยู่ที่วัดทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ตอนช่วงสิ้นปี 47 ตอนนั้นเป็นการอุปสมบทหมู่ จึงมีพระที่บวชด้วยกันสี่ห้าสิบรูป พอบวชได้วันที่สี่ ก่อนทำวัตรเย็น กำลังนั้งรอหลวงอามานำสวดมนต์ทำวัตรปรากฎว่ามีเพื่อนพระรูปหนึ่งอยู่ดีๆก็เกิดชักกระดุก อาการเหมือนเป็นลมบ้าหมู น้ำลายฟูมปาก ผมและพระเพื่อนๆก็ช่วยกันจับยึดแขนขาและกันไม่ให้กัดลิ้นตัวเอง ซักพักก็สงบ ปรากฎว่าเมื่อฟื้นจากอาการแล้วก็ถามพระเพื่อนๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาไม่รู้ตัวเลย หลวงอาก็เลยบอกให้พาไปพักในปรก คืนนั้นไม่ได้หลับได้นอนกันเลย เพราะพอตกกลางคืนพระที่เป็นลมชักนั้นเกิดอาการหลอนทั้งคืนเดินไปทั่ว ปลุกพระอื่นๆ ที่ปรกนั้นที ปรกโน้นที ขอให้ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัว วันต่อมาก็ต้องสึกเพราะอยู่ต่อไม่ได้ เพื่อนๆก็ถามหลวงอาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลวงอาตอบว่า เจ้ากรรมนายเวรไม่ยอม อีก2-3 วันต่อมาสืบทราบจากเพื่อนพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นญาติกับเขา บอกว่าก่อนจะมาบวชเขามีอาชีพรับจ้างเชือด เชือดสัตว์ใหญ่มาเยอะมาก จึงถึงบางอ้อ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post568891 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">10-05-2007, 10:32 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4996 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568891", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:51 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 11,140 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 12,264 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 55,650 ครั้ง ใน 7,920 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 6705 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568891 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ตอบคำถามบ้างครับ


    ผลกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น วันที่ผู้สร้างกรรมได้สร้างกรรมขึ้นมา วันนั้นผลของกรรมยังคงไม่แสดงผล แต่เมื่อถึงวันๆหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็ว ผลกรรมที่ได้ทำไว้นั้นได้ติดตามมาจนแสดงผลได้ วันนั้น ผู้ที่ได้สร้างกรรมไว้ ไม่อาจปฎิเสธผลที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง ต้องก้มหน้ารับกรรมไปตามผลที่เกิดขึ้น <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กรรมคืออะไร มีกี่ประเภทอะไรบ้าง ผมคงไม่ต้องอธิบายให้ฟังแล้วนะครับ ผมคิดว่าทุกๆท่านคงทราบกันดี แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกไว้ก็คือ ปัจจุบันกรรมมาเร็ว แต่ผู้คนเดี๋ยวนี้ไม่กลัวกรรมชั่ว ไม่นิยมทำกรรมดี เมื่อถึงเวลาที่กรรมแสดงผล กรรมนั้นมักส่งผลอย่างรุนแรง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตัวของเราๆท่านๆ ไม่สามารถที่จะไปช่วยเหลือไม่ให้เขาทำกรรมไม่ดีได้ พระภิกษุสงฆ์ท่านเองบางกรณีก็สามารถช่วยเหลือไม่ให้เขาทำกรรมได้ แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือไม่ให้เขาทำกรรมได้ ขึ้นอยู่กับบุคคลคนที่ทำกรรมเอง หากทำกรรมดีก็จะส่งผลให้ตนเองดีขึ้น มีจิตใจเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่หากทำกรรมชั่ว จิตใจก็ไม่แตกต่างจากสัตว์สักเท่าไร มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่สามารถไปสู่จุดสูงสุดในพระพุทธศาสนาได้คือพระนิพพาน แม้แต่พระพุทธองค์ยังทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ไปพระนิพพานไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้น ดั่งคำพุทธภาษิตว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post568904 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">10-05-2007, 10:58 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4997 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>รัช<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568904", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: 10-05-2007 10:58 AM
    วันที่สมัคร: Jan 2007
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 113 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 474 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 714 ครั้ง ใน 118 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 87 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_568904 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ตอบคำถามบ้างครับ


    ผลกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น วันที่ผู้สร้างกรรมได้สร้างกรรมขึ้นมา วันนั้นผลของกรรมยังคงไม่แสดงผล แต่เมื่อถึงวันๆหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็ว ผลกรรมที่ได้ทำไว้นั้นได้ติดตามมาจนแสดงผลได้ วันนั้น ผู้ที่ได้สร้างกรรมไว้ ไม่อาจปฎิเสธผลที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง ต้องก้มหน้ารับกรรมไปตามผลที่เกิดขึ้น <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    กรรมคืออะไร มีกี่ประเภทอะไรบ้าง ผมคงไม่ต้องอธิบายให้ฟังแล้วนะครับ ผมคิดว่าทุกๆท่านคงทราบกันดี แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกไว้ก็คือ ปัจจุบันกรรมมาเร็ว แต่ผู้คนเดี๋ยวนี้ไม่กลัวกรรมชั่ว ไม่นิยมทำกรรมดี เมื่อถึงเวลาที่กรรมแสดงผล กรรมนั้นมักส่งผลอย่างรุนแรง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตัวของเราๆท่านๆ ไม่สามารถที่จะไปช่วยเหลือไม่ให้เขาทำกรรมไม่ดีได้ พระภิกษุสงฆ์ท่านเองบางกรณีก็สามารถช่วยเหลือไม่ให้เขาทำกรรมได้ แต่ในบางกรณีก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือไม่ให้เขาทำกรรมได้ ขึ้นอยู่กับบุคคลคนที่ทำกรรมเอง หากทำกรรมดีก็จะส่งผลให้ตนเองดีขึ้น มีจิตใจเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่หากทำกรรมชั่ว จิตใจก็ไม่แตกต่างจากสัตว์สักเท่าไร มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่สามารถไปสู่จุดสูงสุดในพระพุทธศาสนาได้คือพระนิพพาน แม้แต่พระพุทธองค์ยังทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ไปพระนิพพานไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้น ดั่งคำพุทธภาษิตว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อนุโมทนาบุญครับ
    กรรม เป็น เหตุ เป็นผลครับ โดยเป็นธรรม แต่ผลที่เกิดขึ้นในโลก ที่พบเห็นในปัจจุบัน เช่นในทางร้ายประสบเคราะห์กรรม โดยถูกกระทำดูแล้วไม่เป็นธรรมโดยโลกครับ แต่เป็นธรรมโดยธรรมครับ ในทางดีก็เช่นเดียวกัน เช่น ถูกสลากรางวัล ไม่ใช่เพราะฟลุ๊กครับ แต่เป็นผลดีที่ทำไว้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...