พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=75464

    <TABLE class=tborder id=post530228 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">24-03-2007, 11:33 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_530228", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:15 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2006
    อายุ: 34 ปี
    ข้อความ: 25 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 75 ครั้ง ใน 13 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_530228 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ต้องการขายด่วนมีจำนวนจำกัด สนใจติดต่อด่วน 0868765548 ราคาอยู่ที่ 5000 สนใจต่อรองกันได้
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    หมายเหตุ ในกระทู้นี้ยังมีอีกเยอะครับ ลองติดตามชมกัน
    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=75460

    <TABLE class=tborder id=post530187 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">24-03-2007, 11:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_530187", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:15 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2006
    อายุ: 34 ปี
    ข้อความ: 25 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 75 ครั้ง ใน 13 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_530187 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระสมเด็จเกศไชโยหกชั้นอกตัน
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ต้องการขายด่วนเดือดร้อนเรื่องเงิน 0868765548 ไห้บูชาองค์ละ 30000 เท่านั้น
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=62538

    <TABLE class=tborder id=post413709 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">12-12-2006, 05:38 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_413709", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:15 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2006
    อายุ: 34 ปี
    ข้อความ: 25 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 75 ครั้ง ใน 13 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_413709 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411 และพระธาตุพนม 2401
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ต้องการเปิดไห้บูชาราคากันเองมีจำนวนจำกัด ติดต่อได้ที่ 086-8765548
    สนใจต้องการชมรูปองค์พระติดต่อส่งเมลมาที่ jatasig@hotmail.com
    โพสรูปลงโชวในนี้ไม่ได้ทำไม่เป็น
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอเก็บรูปพระพิมพ์ที่คุณเชน นำมาขายก่อนครับ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, chaipat, nongnooo, ก้อง_ฉัตรชัย, นายสติ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    วันนี้ฮอตแต่เช้าครับ

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาคลายเครียดกันครับ ไม่รู้ว่ามีใครได้รับเมล์นี้หรือยัง อ่านแล้วขำๆดีเหมือนกัน

    ที่มา fwd mail ครับ

    พยากรณ์อากาศ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอถึงฤดูใบไม้ผลิพวกอินเดียนแดงในเขตสงวนแห่งหนึ่งถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ว่า
    ''ฤดูหนาวปีนี้จะหนาวจัดหรือเปล่า...''
    หัวหน้าเป็นคนสมัยใหม่ไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาอ่านลมฟ้าอากาศจากบรรพบุรุษ
    แต่ด้วยความกลัวเสียฟอร์มหัวหน้าเผ่า
    จึงทำทีแหงนมองฟ้าแล้วบอกว่าปีนี้จะหนาวทารุณ
    ''ขอให้คนในเผ่าเตรียมฟืนไว้ก่อไฟผิงให้มากๆ...''
    เมื่อตอบแล้วหัวหน้าเผ่าก็แอบโทร.ไปถามกรมอุตุฯ
    เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศตอบว่า ''ท่าทางจะหนาวจัด''
    หัวหน้าเผ่าจึงย้ำให้คนในเผ่าเร่งหาฟืนเพิ่มขึ้น...
    สองสามวันต่อมาหัวหน้าเผ่าโทร.ถามกรมอุตุฯให้แน่ใจอีกครั้ง
    เจ้าหน้าที่ตอบว่า ''ปีนี้ต้องหนาวแน่นอน''
    หัวหน้าเผ่าจึงสั่งให้คนในเผ่าเก็บเศษไม้ทุกชิ้นที่หาได้...
    พอใกล้ฤดูหนาวหัวหน้าเผ่าโทร.ไปถามที่กรมอุตุฯ อีกครั้ง
    "แน่ใจ100 เปอร์เซ็นต์นะว่าปีนี้จะหนาวจัด"
    "100 เปอร์เซ็นต์คับ" เจ้าหน้าที่ตอบหนักแน่น
    หัวหน้าเผ่าถาม "ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น"
    กรมอุตุฯตอบ "พวกอินเดียนแดงพากันออกหาฟืนไม่หยุดเลยครับ!!!<O:p</O:p
     
  8. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    มาให้กำลังใจคุณหนุ่ม
    ขอทำบุญสร้างเจดีย์ชัยผาผึ้งถวายพระอาจารย์หลวงพี่นิล
    อีก 2,000 บาท
    (มีคนฝากมาค่ะ) โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบ
    ยินดีให้หลอกต่อไปเรื่อยๆค่ะ
    อุเบกขานะคะ
     
  9. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    สิ้นเดือนนี้ คงมีเฮนะครับ
    บอกเขาไปกันหลายๆ คน
    เดี๋ยวผม List ไปให้ ทาง PM นะครับ
    ขืนบอกกันหมดเก็บตังค์ทั้งวันแน่
    จะทยอยบอกกันไปเดือนนี้คนนั้นทีหนึ่ง คนนี้ทีหนึ่ง
    ให้ทุกคนนั้น ได้บุญกันให้เต็มที่ พยายามบอกคนดีๆ ครับ
    เท่าที่ได้รู้ ได้เห็นเขา แต่ไอ้ที่ไม่เห็น ไม่รู้นี่สิ ตอบไม่ได้ครับ

    ตัวเล็กๆ ตัวน้อยๆ ช่วยกันสร้าง
    สาธุ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปลวกตัวเล็กๆ ยังสร้างรังปลวกที่มีขนาดใหญ่ได้เลยครับ เราๆท่านๆก็ตัวเล็กๆกัน ก็สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง หรือสำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทองกันได้ครับ

    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ
     
  11. teerachaik

    teerachaik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +435
    คุณ sithiphong

    ไม่ต้องใส่ใจมากครับ กรรมอยู่ที่การกระทำ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระเครื่องบางส่วนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ที่ไม่มีให้บูชาแล้ว
    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=79499&page=6

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    <TABLE class=tborder id=post573297 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:17 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #52 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_573297", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:20 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 538 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 7,123 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,784 ครั้ง ใน 534 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 540 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_573297 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ก่อนจะเฉลยลองมาอ่านตรงนี้กันก่อนดีไม๊ครับ..

    ที่มาของพระอริยสงฆ์รูปขวามือเป็นพระสายวิปัสสนาธุระ...

    พระพุทธศาสนามีธุระสำคัญ ๒ ประการ คือ <O:p</O:p
    ๑. คันถธุระ ได้แก่การศึกษาเล่าเรียนพระคัมภีร์ ให้มีความรู้พระธรรมพระวินัย เพื่อดำรงรักษาตำราไว้มิให้ เสื่อมสูญ จะได้เป็นแบบแก่ผู้ต้องการปฏิบัติ<O:p></O:p>

    ๒. วิปัสสนาธุระ ได้แก่การศึกษาอบรมจิตใจตามหลักสมถะและวิปัสสนา เพื่อให้รู้แจ้งธรรมและกำจัดกิเลส ออกจากจิตใจ<O:p></O:p>

    ธุระทั้งสองนี้ได้มีมาตั้งแต่แรกตั้งพระพุทธศาสนาพระบรมศาสดาได้ทรงแสดงธรรมและบัญญัติวินัยขึ้นแต่อย่างใด พระสาวกย่อมเอาธุระจดจำและสังวัธยาย บ่อยๆขณะเดียวกันก็เอาธุระปฏิบัติตามพระธรรมวินัยนั้น จนสามารถรู้แจ้งธรรม และกำจัดกิเลสจากจิตใจได้เด็ดขาด โดยเอกเทศบ้าง โดยสิ้นเชิงบ้าง<O:p</O:p

    ท่านผู้กำจัดกิเลสได้เด็ดขาดสิ้นเชิงแล้ว เรียกว่าพระอรหันต์ ย่อมเอาธุระจดจำพระพุทธวจนะ และช่วยพระ บรมศาสดาทำการอบรมสั่งสอนประชาชน<O:p</O:p
    ครั้นพระบรมศาสดาเสด็จปรินิพพานแล้ว พระอรหันต์ทั้งหลาย มีพระมหากัสสปะเถระ เป็นต้น จำนวน ๕๐๐ รูป ล้วนแต่ผู้สำเร็จอภิญญา และปฏิสัมภิทาญาณได้ชุมนุมกันรวบรวมพระธรรม พระวินัยที่พระบรมศาสดาทรงแสดงและทรงบัญญัติไว้ มาร้อยกรองจัดเข้าระเบียบ หมวดหมู่ สำเร็จเป็นคัมภีร์พระไตรปิฏก เป็นตำราของพระพุทธศาสนานำสืบกันมาจนตราบเท่าปัจจุบันนี้
    <O:p</O:p
    พระพุทธศาสนาได้มาประดิษฐานในประเทศของเรา เมื่อประมาณ พ.ศ. ๓๐๐-๔๐๐ โดยการนำของพระเถระ ๒ รูป คือ พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ สมณวงศ์ในประเทศของเรา ไม่เคยปรากฏว่าขาดสูญ พระมหากษัตริย์ทรงเอาพระราชธุระ บำรุงพระพุทธศาสนาตลอดมาทุกสมัย ครั้นปรากฏว่าสมณวงศ์ในประเทศอื่นประพฤติดีงามน่าเลื่อมใส ก็เอาพระราชธุระอาราธนา มาซ่อมแปลง สมณวงศ์ในประเทศให้ดีงามขึ้นเช่น ในสมัยสุโขทัย พระร่วง เจ้าทรงอาราธนาพระสงฆ์ชาวลังกามาไว้ในพระราชอาณาจักร กุลบุตรผู้เลื่อมใสก็ได้บรรพชาอุปสมบทในพระสงฆ์ชาวลังกา แม้พระภิกษุสามเณรบางองค์ ก็ได้บวชแปลง ใหม่ในพระสงฆ์ลังกาด้วย ในสมัยอยุธยาก็เช่นเดียวกัน ปรากฏว่าพระสงฆ์แบบลังกา ได้รับพระราชูปถัมภ์ไว้ในพระราชอาณาจักร มีกุลบุตรเลื่อมใสศรัทธาบรรพชาอุปสมบทในคณะสงฆ์นั้นสืบมา ตั้งแต่แรกตั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงเสียกรุง<O:p</O:p

    การคณะสงฆ์ในสมัยโบราณของประเทศเรา ได้แบ่งงานออกเป็นสองฝ่าย คือ <O:p</O:p

    ฝ่ายคันถธุระ เรียกว่า คามวาสี เอาธุระทางศึกษาเล่าเรียนพระคัมภีร์ มีพระสังฆราชเป็นประมุข และมีสังฆนายก ผู้รับสนอง พระบัญชาบริหารหมู่คณะในฝ่ายนั้น <O:p></O:p>

    ส่วนฝ่ายวิปัสสนาธุระ เรียกว่า อรัญญวาสี บ้าง วนวาสี บ้าง เอาธุระศึกษาอบรมทางสมถะ และวิปัสสนา มีพระสังฆราชเป็นประมุข และมีสังฆนายกผู้รับสนองพระบัญชาบริหารหมู่คณะในฝ่ายนั้นเช่นเดียวกัน<O:p</O:p

    ระเบียบนี้ได้ดำเนินมาจนถึงสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาจึงเปลี่ยนแปลงให้มีพระสังฆราชเพียงองค์เดียว แต่คงให้มีสังฆนายกสองฝ่าย คือ ฝ่ายคามาวาสีและอรัญญวาสี หรือเรียก อีกอย่างว่าฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย ต่างก็รับสนองพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชไปบริหารงานในฝ่ายของ ตน<O:p</O:p

    ระเบียบนี้ได้มีมาถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (กรุงเทพฯ)เพิ่งเลิกล้มไปเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๕ทรงออกพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ (พ.ศ. ๒๔๔๕)โดยจัดการปกครองอนุโลมฝ่ายบ้านเมือง เจ้าคณะผู้บริหารการคณะในท้องถิ่น ย่อมมีหน้าที่บริหารทั้งทางคันถธุระทั้งทางวิปัสสนาธุระเมื่อความเปลี่ยนแปลงทางฝ่ายบริหารเป็นอย่างนี้ ธุระทั้ง ๒จึงได้รับความเอาใจใส่ไม่เท่ากันงานฝ่ายคันถธุระได้เจริญก้าวหน้าไปมากแต่งานฝ่ายวิปัสสนาธุระได้ซบเซาลงการที่ยังคงมีอยู่ก็โดยอุปนิสัยของพระเถรานุเถระผู้เห็นความสำคัญของงานฝ่ายนี้ ได้เอาใจใส่ปฏิบัติแนะนำศิษยานุศิษย์ในทางนี้สืบๆกันมา ภิกษุสามเณรในคณะธรรมยุติกาชั้นแรก เอาธุระทั้งสองอย่างหน้าฝนซึ่งเป็นฤดูกาลจำพรรษา ได้เอาธุระศึกษาเล่าเรียนพระคัมภีร์พอตกหน้าแล้งมักเอาธุระทางวิปัสสนา ออกแสวงหาที่วิเวกบำเพ็ญสมณธรรม แม้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าผู้ทรงสถาปนาคณะธรรมยุติกาขณะยังทรงผนวชอยู่ ก็ทรงเอาธุระทาง วิปัสสนาด้วยได้เสด็จธุดงค์ไปถึงหัวเมืองเหนือ เช่น เมืองสุโขทัย เป็นต้น

    <O:p>พระเถระผู้ใหญ่ในคณะธรรมยุติการุ่นแรก มีชื่อเสียงทางวิปัสสนาธุระหลายรูป เช่น<O:p></O:p>
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ศรี) วัดสัมพันธวงศ์ พระนคร
    พระอมรา ภิรักขิต (เกิด) วัดบรมนิวาส พระนคร
    พระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน) วัดเทพนิมิตร ฉะเชิงเทรา
    ญาท่านพระพนฺธุโล (ดี) วัดสุปัฏน์ อุบลราชธานี
    และญาท่านพระเทวธมฺมี (ม้าว) วัดศรีทอง อุบลราชธานี
    รุ่นต่อมามีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ญาท่านเจ้า (เขียว) วัดราชาธิวาส และสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ) วัดโสมนัส พระนครเป็นต้น


    คัดลอกข้อมูลบางส่วนจาก:- กองทัพธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดย พระญาณวิศิษฎ์(สิงห์) พระอริยคุณคุณาธาร(เส็ง ปสโส)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE class=tborder id=post573459 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 04:08 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #54 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_573459", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:20 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 538 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 7,123 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,784 ครั้ง ใน 534 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 540 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_573459 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ต่อครับ...


    สมเด็จพระวันรัต(ทับ พุทธสิริ)

    สมเด็จพระวันรัต(ทับ พุทธสิริ)วัดโสมนัสวิหารเป็น สมเด็จพระวันรัตองค์ที่ 12 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ท่านเป็นมหาเถระองค์หนึ่งในจำนวนพระมหาเถระ 10 องค์ผู้เป็นต้นวงศ์ธรรมยุติกนิกายเป็นเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายใต้เป็นพระมหาเถระที่มีความ รู้แตกฉานในพระไตรปิฎก เป็นนักกรรมฐานที่ชอบธุดงค์ เป็นผู้ที่มีปฏิปทามุ่งพระนิพพาน และเป็นนักปฏิบัติที่เคร่งครัด ต่อพระธรรมวินัยมากท่านมีอาจารสมบัติที่ประทับใจ น่าเลื่อมใสและเป็นสมเด็จที่ทรงเกียรติคุณควรแก่ การเคารพบูชามากองค์หนึ่งของประเทศไทย
    ชาติภูมิ
    สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร มีนามเดิมว่า ทับ มีฉายาว่า พุทฺธสิริ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2349 ในรัชกาล ที่1 ณ. หมู่บ้านสกัดน้ำมันปากคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งตะวันออก ใกล้วัดเทวราชกุญชร กรุงเทพมหานคร โยมบิดาชื่อ อ่อน ผู้คนนิยมเรียกว่าท่านอาจารย์อ่อน โยมมารดาชื่อคง ท่านเป็นบุตรคนโตในตระกูล นี้ กล่าวกันว่าครอบครัวของท่านเป็นชาวกรุงเก่า แต่เมื่อกรุงศรีอยุธยา เสียแก่พม่าเมื่อพ.ศ. 2310 ก็ได้อพยพเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ
    การศึกษาเมื่อปฐมวัย
    ในรัชกาลที่ 2 เมื่อท่านมีอายุ 9 ขวบ ได้เข้าเรียนอักษรสมัยอยู่ที่วัดภคินีนาถแล้วต่อมาได้ เข้าเรียนบาลีโดยเรียนสูตรมูลกัจจายน์ อยู่ที่วัดมหาธาตุ คือได้เรียนบาลีตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้บวช ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงพอพระราชหฤทัยในตัวท่านจึงทรงให้อุปการะใน การเล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม ของท่าน ทรงจัดสอบความรู้ผู้ที่เรียนสูตรเรียนมูลที่วังเนื่องๆ ท่านได้ไปสอบถวาย โปรดทรงประทานรางวัล จึงได้ทรงเมตตาในตัวท่านแต่นั้นมา
    การบรรพชาอุปสมบท
    ท่านได้บรรพชาเมื่ออายุเท่าไร ยังไม่ปรากฎหลักฐาน ทราบแต่ว่าท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสังเวชวิศยาราม บางลำภู ครั้นได้ บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว รัชกาลที่3ในสมัยที่ยังดำรง พระยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้ทรงโปรดให้ท่านไปอยู่ที่วัดราชโอรส อันเป็นวัดที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ครั้นเมื่ออายุครบอุปสมบทแล้ว คุณโยม ของท่านจึงให้ท่านมาอุปสมบทที่วัดเทวราชกุญชรอันเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้ บ้านเดิม ท่านจึงได้อุปสมบทเมื่อปีจอ พ.ศ. 2369 ที่วัดเทวราชกุญชร โดยมีพระ ธรรม วิโรจน์ (เรือง) วัดราชาธิวาส เป็นอุปัชฌาย์ พระพุทธโฆษาจารย์(ขุน) วัดโมกฬีโลกยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระวินัยมุนี(คง) วัดอรุณราชวราราม เป็นพระอนุกรรมวาจาจารย์ เมื่อบวชแล้วก็ได้อยู่ในสำนัก พระธรรมวิโรจน์ที่วัดราชาธิวาส ตั้งแต่นั้นมาท่านได้ไปอยู่และศึกษาเล่า เรียนในสำนักอาจารย์ นพรัตน์ ที่วัดไทรทอง (วัดเบญจบพิตร) บ้าง ที่พระมหาเกื้อวัดชนะสงครามบ้างเนืองๆ
    สอบได้เปรียญ 9 ประโยค
    ลุถึงปีวอก พ.ศ. 2379 เมื่อท่านมีพรรษา 11 อายุ 31 ปี ยังเป็นพระอันดับอยู่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอาราธนาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะที่ทรงผนวช) เสด็จไปครอง วัดบวรนิเวศวิหารและในสมัยนั้นพระสงฆ์วัดราชาธิวาสมีทั้งพระมหานิกายและพระธรรมยุตอยู่ด้วยกัน แต่อธิบดี สงฆ์เป็นมหานิกายจึงได้โปรดให้ท่านอยู่ครองฝ่ายธรรมยุตที่วัดราชาธิวาส ครั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหารเรียบร้อยแล้ว จึงโปรดให้ท่านเข้าแปลพระปริยัติธรรมในสนามหลวง ครั้งแรกท่านแปลได้ถึง ๗ ประโยค แล้วท่านไม่แปลต่อ รอมาอีกระยะหนึ่งจึงเข้าแปลได้อีก ๒ ประโยค รวมเป็น ๙ ประโยค หลังจากท่านเป็นเปรียญ ๙ อยู่ไม่นาน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงแต่งตั้งท่านเป็นพระราชาคณะที่พระอริยมุนีและท่านคงอยู่ที่วัดราชาธิวาสต่อมา
    เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดโสมนัสวิหาร
    หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงลาผนวชและขึ้นครองราชย์ในปี ๒๓๙๔ แล้ว พระองค์ได้ทรงสร้างวัดโสมนัสวิหารขึ้น ด้วยพระราชทรัพย์ของพระนางโสมนัสวัฒนาวดี อัครมเหสีของพระองค์ ได้พระราชทานนามว่า วัดโสมนัสวิหาร โดยทรงวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๓๙๖ ทรงสร้างเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชั้นราชวรวิหาร ในเนื้อที่ ๓๑ ไร่เศษ ครั้งสิ่งก่อสร้างสำเร็จลงบ้าง พอเป็นที่อาศัยอยู่จำพรรษา ของภิกษุสามเณรได้บ้างแล้ว ใน พ.ศ. ๒๓๙๙ พระองค์ก็ได้ทรงอาราธนาสมเด็จพระวันรัต ในสมัยที่ยังเป็นพระอริยมุนี จากวัดราชาธิวาส พร้อมด้วยคณะสงฆ์ประมาณ ๔๐ รูป โดยขบวนแห่ทางเรือ ให้มาอยู่ครองวัดโสมนัสวิหาร ท่านจึงได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดนี้ ท่านปกครองวัดโสมนัสวิหารมาจนกระทั่งได้ถึงมรณภาพลงเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๔
    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post573511 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:17 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #56 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_573511", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:20 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 538 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 7,123 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,784 ครั้ง ใน 534 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 540 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_573511 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ความถูกต้องคือ เป็นสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธสิริ) วัดโสมนัสวิหาร และพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ครับ...

    ความเชื่อคือ เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตราราม และรัชกาลที่ 5 พระพุทธเจ้าหลวง

    การสร้างพระของลูกศิษย์เพื่อถวายหลวงพ่อเป็นการสร้างด้วยความเชื่อ กอปรกับคนไทยส่วนมากมีความผูกพันกับสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และเสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 ค่อนข้างมาก

    แต่อย่างไรก็ตามหากความเชื่อนั้นไม่ค่อยถูกต้อง เราคงต้องช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้องแม้จะใช้เวลาอยู่บ้างก็ตาม กรณีนี้อาจเป็นตัวอย่างให้กับกรณีอื่นได้หากเหตุการณืนั้นมีความเป็นประวัติศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เช่นนั้นประวัติศาสตร์อาจถูกบิดเบือน การสืบทอดแนวทางที่ถูกต้องควรมีศรัทธาจริต ควบคู่ความรู้ปัญญาญานครับ...

    ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะครับ ต่างความเห็นแต่ก็ยังสามารถร่วมอุดมการณ์เดียวกันได้ครับ...
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>



    **************************************************

    [​IMG]

    กราบนมัสการสมเด็จพระวันรัต(ทับ พุทธสิริ)
    กราบ กราบ กราบ

    [​IMG]
    กราบกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ท่านผู้ซึ่งนับได้ว่าเป็นปราชญ์คนหนึ่งแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ครับ
    กราบ

     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd Mail ครับ

    วิ่งอย่างไรไม่ให้ปวดเข่า

    การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย และประหยัดแต่การวิ่งก็เป็นการออกกำลังกายที่เจ็บตัวได้ง่ายเช่นกัน <O:p</O:p
    โดยเฉพาะอาการปวดเข่า ซึ่งถ้าเรารู้วิธีป้องกันก็จะช่วยให้อาการเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นกับคุณ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1. ยืดกล้ามเนื้อรอบเข่าและข้อเท้าให้เพียงพอ<O:p</O:p
    ควรยืดช้า ๆ ค้างไว้ 10-15 วินาทีต่อครั้ง ทำประมาณ 5-10 ครั้ง <O:p</O:p
    เน้นการยืดกล้ามเนื้อน่อง <O:p</O:p
    กล้ามเนื้อกลางสะโพก <O:p</O:p
    กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและด้านหลังเป็นหลัก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    2. วอร์มอัพให้เพียงพอ<O:p</O:p
    โดยเริ่มจากการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะ ๆ ก่อนที่จะวิ่งเต็มที่ <O:p</O:p
    เพื่อให้มีการปรับตัวของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการออกกำลังกาย <O:p</O:p
    ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบการหายใจ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3. รองเท้าวิ่งควรมีพื้นกันแรงกระแทกที่เพียงพอและมีความกระชับพอดีเท้า<O:p</O:p
    เวลาเลือกซื้อควรบอกพนักงานว่าคุณตองการวิ่งแบบไหน <O:p</O:p
    ถ้าตองการวิ่งออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ ไม่ใช่การวิ่งสปรินท์ <O:p</O:p
    ให้เลือกรองเท้าแบบ Cross training<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    4. ตรวจดูลักษณะเท้าว่าผิดปกติหรือไม่<O:p</O:p
    ส่วนใหญ่ที่พบคือ ภาวะเท้าแบน ซึ่งเวลาวิ่งนาน ๆ <O:p</O:p
    อาจทำให้มีแรงปฏิกิริยาจากพื้นกระทำต่อข้อเท้า <O:p</O:p
    และข้อเข่าอย่างผิดปกติทำให้เกิดอาการปวดเข่า <O:p</O:p
    หรือข้อเท้าเรื้อรังได้ <O:p</O:p
    ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา <O:p</O:p
    หรืออาจลองซื้อแผ่นยางเสริมอุ้งเท้าที่มีขายสำเร็จรูปมาติดภายในรองเท้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5. บริเวณที่วิ่งควรเป็นพื้นที่เสมอกันไม่ควรวิ่งบริเวณที่เป็นพื้นเอียง <O:p</O:p
    หรือบริเวณที่มีการหักเลี้ยวอย่างฉับพลัน พื้นวิ่งที่ดีที่สุดคือ พื้นยางสังเคราะห์ <O:p</O:p
    เพราะมีความนุ่มและเก็บพลังงานเพื่อเปลี่ยนเป็นแรงส่งตัวได้ดีคุณอาจวิ่งบนพื้นดิแทนก็ได้ และถ้าจะวิ่งบนพื้นคอนกรีตควรเลือกรองเท้าที่รับแรงกระแทกอย่างเพียงพอ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    6. ไม่ควรก้าวเท้ายาวเกินไป หรือยกเขาสูงเกินไป<O:p</O:p
    เพราะเข่าต้องงอมากเกินความจำเป็น <O:p</O:p
    ส่วนแขนก็ควรงอเพียงเล็กน้อยและแกว่งข้างลำตัว <O:p</O:p
    ไม่ควรแกว่งมือเลยแนวกลางของลำตัว <O:p</O:p
    ในกรณีที่มีปัญหาปวดหลังหรือน้ำหนักตัวมากควรแกว่งแขนค่อนมาทางด้านหลัง <O:p</O:p
    เพื่อไม่ให้ลำตัวก้มไปข้างหน้ามากเกินไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    7. ควรวิ่งโดยลงน้ำหนักที่ ส้นเท้า<O:p</O:p
    การวิ่งโดยลงน้ำหนักที่ปลายเท้านาน ๆ <O:p</O:p
    จะทำให้เกิดแรงกระชากพังผืดฝ่าเท้า ปวดกล้ามเนื้อน่อง <O:p</O:p
    และยังเกิดแนวแรงผิดปกติที่ผ่านต่อข้อเข่า ทำให้ต้องงอ <O:p</O:p
    เข่ามากขึ้นขณะวิ่งอาจทำให้ปวดเข่าด้านหน้าได้การวิ่งลงนาหนักที่ปลายเท้าจะทำได้ในกรณีวิ่งสปรินท์หรือสำหรับนักกีฬาที่มีความฟิตเพียงพอ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    8. ไม่ควรวิ่งขึ้นลงเนิน <O:p</O:p
    ถ้าคุณมีปัญหาที่ข้อเข่าบ่อย ๆ<O:p</O:p
    จะวิ่งขึ้นเนินให้เอนลำตัวไปด้านหน้าก้าวเท้าให้สั้นลง มองตรงไปข้างหน้า <O:p</O:p
    ไม่ควรแหงนหน้าขึ้นถ้าจะวิ่งลงเนินพยายามให้ลำตัวตั้งตรง <O:p</O:p
    และควรก้าวเท้าให้ยาวขึ้น เร็วขึ้นกว่าปกติ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    9. ระยะทางที่วิ่งต้องเหมาะสมถ้าจะเพิ่มระยะทางควรเพิ่มช้า ๆ ในแต่ละสัปดาห์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    10. เมื่อใกล้จะหยุดวิ่ง <O:p</O:p
    ค่อยลดความเร็วลง อย่ารีบวิ่งเต็มฝีเท้า<O:p</O:p
    ควรเดินต่ออีกสักพักเพื่อให้ร่างกายได้ชะเอากรดแลคติกออกไปจากกล้ามเนื้อบ้าง ทำให้ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังวิ่งในวันรุ่งขึ้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    11. หมั่นออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขา<O:p</O:p
    โดยการเหยียดเข่าตรงและเกร็งค้างไว้ 5 วินาทีต่อครั้ง <O:p</O:p
    ทำประมาณ10-20 ครั้งต่อวัน <O:p</O:p
    หรืออาจเข้ายิมเล่นเวธเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง <O:p</O:p
    สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะสาว ๆ <O:p</O:p
    ที่มีละโพกกว้างซึ่งมีแนวโน้มเกิดปัญหา <O:p</O:p
    Patellofemoral pain ได้ <O:p</O:p
    การออกกำลังกายดังกล่าวจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อที่ช่วยรั้งกระดูกสะบ้าเข้าด้านใน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในระยะยาว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    12. ถ้าคุณมีข้อเข่าเสื่อมอย่างชัดเจน<O:p</O:p
    ควรเลือกออกกำลังกายดัวยวิธีอื่น <O:p</O:p
    เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แล้วการวิ่งจะไม่ทำให้คุณมีปัญหากับเข่าอีกต่อไป<O:p</O:p
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พึ่งได้รับFwd mail มาครับ

    ไม่รู้ว่าจริงหรือรายการถ่ายทำ แต่ถ้าเป็นจริง ก็เยี่ยมจริงๆ
    เบาะๆก็สลบ ดีไม่ดีคอหัก

    [​IMG]


    ******************************************

    ขอแถมเรื่องวิตามินครับ



    วิตามินกินอย่างไร

    --------------------------------------------------------------------------------

    วิตามินที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เรากิน เข้าไปค่ะ และส่วนหนึ่งร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเอง วิตามินที่ดีจึงต้องสกัดจากอาหาร ถึงอย่างไร เราก็ไม่กินวิตามินแทนอาหารนะคะ และวิตามินไม่ใช่ยา แต่เป็นสารสกัดจากสิ่งมีชีวิต (Organic) ที่จำเป็นสำหรับร่างกาย มีหน้าที่ช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ถูกต้อง และช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะถ้าขาดวิตามินแล้วร่างกายจะหยุดทำงานค่ะ
    ในที่นี้จะขอเล่าถึงวิตามินบางตัวที่มีความสำคัญต่อภ ูมิชีวิต (Immune System) เรา ซึ่งที่น่ารู้จักก็คือ วิตามินในกลุ่มแอนติออกซิแดนท์ ได้แก่ A C D และE และกลุ่มวิตามินB ชนิดต่างๆวิตามิน A : พบในน้ำมันตับปลา ผักสีต่างๆ เช่น แครอท ผักโขม และหัวบีทรู้
    ประโยชน์
    * ช่วยบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน
    * ช่วยให้กระดูก ผม ฟัน และเหงือกแข็งแรง
    * สร้างความต้านทานให้แก่ระบบหายใจ
    * ช่วยสร้างภูมิชีวิตให้ดีขึ้น และทำให้หายป่วยเร็วขึ้น
    * ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ลดอาการอักเสบของสิว ช่วยลบจุดด่างดำ และจุดวัยสูงอายุ
    * ช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับไทรอยด์

    ปริมาณที่แนะนำ
    *
    # ผู้ชายควรกินอาหารที่มีวิตามินA 1,000 R.E. หรือเท่ากับ 5,000 I.U. ต่อวัน ผู้หญิงควรกินอาหารให้ได้วิตามิน A 800 R.E. หรือ
    4,000 I.U. ต่อวัน
    # หากกำลังตั้งครรภ์ควรกินเพิ่มเป็น 1,000 R.E. หรือ 5,000 I.U. ต่อวัน
    # สำหรับการกินวิตามิน A เป็นอาหารเสริมควรกินวันละ 10,000 I.U.

    วิตามิน C
    ประโยชน์
    * เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
    * ช่วยแผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
    * ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
    * ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (MUTATION)
    * ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตาย (SIDS) ในกรณีเด็กอ่อน
    * ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
    * ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
    * ช่วยคลายเครียด

    ปริมาณที่แนะนำ
    * ในรายที่ขาดวิตามิน C ควรกิน เสริม วันละ 1,000 mg
    วิตามิน D : พบมากในเนย นม เนยแข็ง และในแดด ดังนั้น เราจึงควรตากแดดวันละ 2-3 ชั่วโมง
    ประโยชน์
    * ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มพลังงาน และช่วยรักษาสิว ทั้งนี้หากกินร่วมกับวิตามินB6 ในขนาดสูงๆ จะช่วยรักษาข้ออักสบ และโรคเรื้อนกวาง (สะเก็ดเงิน) ได้
    ปริมาณที่แนะนำ
    * ควรกินวิตามิน D เสริม วันละ 1,000 I.U.
    วิตามิน E
    ประโยชน์
    *
    # หน้าที่สำคัญที่สุดของวิตามิน E เป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ คือทำให้เกิดการเผาผลาญ (OXIDATION) โดยมีตัวออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือด ช่วยต้านการแข็งตัวของเลือด ช่วยลอความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด และลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอ งและหัวใจ
    # บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมากมาย
    # ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ
    # บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมากมาย
    # ช่วยให้ผิวหนังสดใส และช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกให้หายเร็วขึ้น
    # ช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น และไม่อ่อนเพลียง่าย

    ปริมาณที่แนะนำ
    * ควรกินวิตามิน E เสริม ขนาดเม็ดละ 400 I.U. วันละ 2 เม็ด เช้า-เย็น
    * ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดความดันโลหิตสูงได้ในบางราย วิธีแก้อาการดังกล่าวคือ ควรกินในปริมาณ 100



    I.U. ก่อน แล้วจึงเพิ่มปริมาณเป็น 200 I.U. และ 400 I.U. ตามลำดับ

    * หากกินเหล็กและวิตามินE พร้อมกัน จะเกิดภาวะที่ร่างกายไม่สามารถดูดวึมวิตามินE ได้ วิธีแก้คือ ควรแยกกินวิตามินE ก่อนธาตุ

    เหล็ก 8-12 ชั่วโมง
    วิตามิน B1 หรือ Thiamin
    ประโยชน์
    *
    # จำเป็นต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท ระบบย่อย หัวใจ และกล้ามเนื้อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CAXOZI39.gif
      CAXOZI39.gif
      ขนาดไฟล์:
      797.5 KB
      เปิดดู:
      461
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2007
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “กรรมหนัก”...เรื่องหนักๆ ใกล้ตัวที่ไม่รู้ไม่ได้....
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=566160#post566160

    <TABLE class=tborder id=post556494 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">24-04-2007, 07:10 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>rinnn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_556494", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 04:38 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    ข้อความ: 8,531 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 4,369 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 19,024 ครั้ง ใน 4,831 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2760 [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_556494 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->“กรรมหนัก”...เรื่องหนักๆ ใกล้ตัวที่ไม่รู้ไม่ได้....
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->พระพุทธเจ้าตรัสถึงกรรมหนัก
    ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ไปเกิดในอบายไว้
    โดยทรงลำดับความรุนแรงแห่งการให้ผลไว้ดังนี้ คือ


    ๑. นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม
    เป็นกรรมที่รุนแรงที่สุด และให้ผลก่อนกรรมอื่นๆ ทั้งหมด

    ๒. อนันตริยกรรม ๕ ประการ
    โดยความรุนแรง รองจาก นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม
    โดยทรงตรัสว่า ในอนันตริยกรรม ๕ อย่างนี้
    เริ่มต้นแต่ สังฆเภทกรรม ซึ่งเป็นกรรมที่หนักที่สุด,
    รองมาคือ ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต,
    รองมาคือ ฆ่าพระอรหันต์,
    รองมาคือ ฆ่ามารดา และสุดท้ายคือ ฆ่าบิดา

    ๓. อัตตวินิบาตกรรม
    ได้แก่ การฆ่าตัวตาย ซึ่งมีผลรุนแรงมาก รองจาก อนันตริยกรรม

    กรรมชั่วหรือกรรมไม่ดีหรืออกุศลกรรม
    หรือการกระทำที่เป็นอกุศลที่จะทำให้ได้รับผลกรรมนั้น
    (ที่เรียกว่าเสวยผลของกรรม) ทันทีที่ตาย
    โดยไม่มีกรรมอื่นๆ มาแทรกได้เลย
    เรียกว่า มิจฉัตตนิยตธรรม


    มิจฉัตตนิยตธรรม
    คือ สิ่งที่เป็นสิ่งไม่ดี การกระทำหรือความคิดที่ไม่ดี เป็นความชั่ว
    และจะทำให้ผู้กระทำได้รับผลหรือต้องเสวยผลของกรรมนั้นทันที
    ที่ตายลง (คือ ไปอบาย) โดยไม่มีกรรมไม่ว่าชั่วหรือดีแค่ไหนก็ตาม
    อย่างอื่น มาคั่นกลางหรือแทรกระหว่างได้เลย

    มิจฉัตตนิยตธรรม มี ๒ อย่างคือ
    (๑) นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม
    (๒) ปัญจานันตริยกรรม


    - นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม -
    นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม มี ๓ อย่างคือ

    (ก) นัตถิกทิฏฐิ
    คือ การมีความเห็นว่าสัตว์ทั้งหลาย ที่จะได้รับความดีความชั่ว
    ที่จะได้มีความสุขหรือความทุกข์ ฯลฯ ในภพข้างหน้านั้น
    ไม่ได้เป็นผลสืบเนื่องไปจากการกระทำอันเป็นบุญหรือเป็นบาป
    ของตนเองที่ตนทำไว้ในชีวิตปัจจุบัน

    (ข) อเหตุกทิฏฐิ
    คือ การมีความเห็นว่าความดี ความชั่ว ความสุข ความทุกข์ ฯลฯ
    ที่สัตว์ทั้งหลายได้รับอยู่ในชีวิตปัจจุบันนี้
    ไม่ได้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำอันเป็นบุญหรือเป็นบาป
    ของตนเองในภพก่อน

    (ค) อกริยทิฏฐิ
    คือ มีความเห็นว่าการกระทำของสัตว์ทั้งหลาย
    ถึงแม้ว่าจะทำดีก็ไม่ชื่อว่าเป็นบุญ
    ถึงแม้กระทำชั่วก็ไม่ชื่อว่าเป็นบาป
    แต่เชื่อว่าการกระทำไม่ว่าดีหรือไม่ดีก็แค่เป็นไปตามธรรมดา
    ไม่เชื่อบุญไม่เชื่อบาป

    -ปัญจานันตริยกรรม -
    ปัญจานันตริยกรรม มี ๕ คือ

    มาตุฆาต - ฆ่ามารดา
    ปิตุฆาต - ฆ่าบิดา
    อรหันตฆาต - ฆ่าพระอรหันต์
    โลหิตุปบาท - ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนห้อพระโลหิต
    สังฆเภท - ยุให้พระสงฆ์แตกหมู่แตกคณะกัน


    อันนี้ ท่านอธิบายว่า อกุศลกรรมทั้ง ๘ ประเภทนี้
    (นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม ๓ และปัญจานันตริยกรรม ๕)
    ถ้าหากใครกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งในนี้แล้ว
    เมื่อสิ้นชีวิตก็จะต้องได้รับผลของกรรมนั้นทันที
    ถึงแม้ว่าก่อนตายจะสร้างบุญใหญ่บุญดีเลิศขนาดไหน
    บุญทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่อาจช่วยให้พ้นไป
    จากการต้องรับผลกรรมชั่วเหล่านี้ทันทีที่ตายลงได้เลย

    ถ้าหากใครได้กระทำกรรมไว้ทั้งสองอย่าง
    คือ ทั้งปัญจานันตริยกรรมข้อใดข้อหนึ่ง
    กับนิยตมิจฉาทิฏฐิกรรมข้อใดข้อหนึ่ง ในชีวิตนั้นแล้ว
    กรรมจากนิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม
    จะเป็นกรรมที่ส่งให้ได้รับผลทันทีที่ตาย

    นี่ก็แสดงว่า กรรมจากความเห็นผิดทั้ง ๓ ประการ
    อันเห็นผิดถาวร เห็นผิดอย่างมั่นคง
    ปักใจอย่างแน่วแน่ ใน ๓ ประการข้างบนนี้ เป็นกรรมหนักที่สุด
    หนักยิ่งกว่าปัญจานันตริยกรรม

    ความเห็นผิด จึงน่ากลัวนัก
    และนอกจากนี้ เมื่อเห็นผิดแล้ว ก็จะทำให้คิดผิด เชื่อผิด
    กระทำอะไรต่ออะไรผิดๆ
    เช่น เมื่อไม่เชื่อบาปบุญ ก็เลยไม่ทำบุญ
    ไม่เชื่อบาป ก็เลยทำบาปได้
    ไม่เชื่อกรรมและผลของกรรม ก็จะทำได้ทั้งดีและไม่ดี
    เพราะว่าไม่เชื่อว่าความดีจะส่งผลเป็นสิ่งทีดี
    เพราะไม่เชื่อว่าความชั่วจะส่งผลเป็นสิ่งที่ชั่ว
    ชีวิตก็จะมีแต่ตกต่ำดิ่งลึกลงไปในหุบเหวแห่งความเห็นผิด
    และการกระทำกรรมไม่ดี ยิ่งๆ ขึ้นไปได้
    ไกลออกไปทุกทีจากกรรมดี จากเส้นทางแห่งปัญญา
    และจากการชำระจนให้มีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์
    เปี่ยมไปด้วยปัญญา ไกลออกไปยิ่งๆ จากแสงสว่างทางธรรม
    ไกลออกไปจากการพ้นทุกข์


    ตามที่ได้เล่าไว้ว่าโดยหลักการแล้ว
    หากบุคคลใดละเมิดกรรมทั้งสองอย่าง
    คือกระทำทั้งนิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม
    และปัญจานันตริยกรรม ในชีวิตนั้นๆ
    กรรมที่จะส่งผลก่อนเพราะถือเป็นกรรมหนักกว่า
    ก็คือกรรมจากนิยตมิจฉาทิฏฐิ

    สิ่งที่จะมาขอเพิ่มเติมให้ครบถ้วนก็คือ
    ในกรณีนี้ เมื่อนิยตมิจฉาทิฏฐิกรรมให้ผลไปก่อนแล้ว
    แต่กรรมที่กระทำอนันตริยกรรม
    (คือ กระทำปัญจานันตริยกรรมข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อ)
    ก็ยังคงอยู่ ไม่ได้หายไปไหน
    ไม่ได้กลายเป็นอโหสิกรรมไป แต่อย่างใด
    ตรงกันข้าม อนันตริยกรรมที่ได้กระทำไปนั้นๆ
    จะรอส่งผลต่อๆ ไปเรื่อยๆ ขณะใดก็ตามที่มีโอกาส


    คัดลอกจาก...คุณเนาว์สถิตย์

    http://gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-070327223508190
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    สบายใจแระได้ปลดปล่อย ขอไห้อยู่ดีมีความสุขกันทั่วหน้านะครับ กะไว้แล้วเชียวว่า ต้องนำกระทู้เดิมของผมมาลงไห้ท่านอื่นได้อ่าน 5555 นิ่งไว้เสีย ตำลึงทอง นี่นะหรือ นักปฏิบัติ.......................................กรรมหนอ

    เชนจ้า
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตนเองไม่ได้ ????? หรือว่าโกหกตนเองได้ !!!!!!

    ผมอยากให้กลับตัวกลับใจนะครับ ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) พระองค์ท่านบอกว่ากรรมหนักครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ถ้ายังทำต่อไป ยังจะขายพระ(ไม่ว่าจะเป็นพระแท้หรือพระเก๊)กินระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บจะตามมาอยู่เรื่อยๆ หนักๆเข้าจะเป็นอัมพฤก อัมพาตนะครับ

    พระองคุลิมาลยังกลับตัวกลับใจ และเป็นพระอรหันต์ได้ครับ

    โมทนาสาธุล่วงหน้าครับ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมมีเรื่องสำคัญมากมาเตือนทุกท่าน(ทั้งท่านที่เป็นสมาชิกและท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกทุกๆท่าน ซึ่งสามารถนำไปช่วยกันแจ้งบุคคลที่รู้จักกับท่านได้ให้รู้ถึงพิษภัยต่างๆเหล่านี้ครับ)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องแรกคือเรื่องบัตรประชาชน <O:p</O:p
    เวลาที่ทุกๆท่านได้นำสำเนาบัตรประชาชนไปติดต่อไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ ,สถาบันการเงินทุกประเภท ,หรือในกรณีอื่นๆ ต้องเซ็นชื่อบนสำเนาบัตร และเขียนลงบนสำเนาบัตรทุกครั้งว่า ใช้เพื่อทำอะไร ส่วนบัตรประชาชนควรเก็บให้ดีๆ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นนำไปถ่ายเอกสารครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องที่สอง หากท่านใดได้รับหนังสือหรือโทรศัพท์ว่า เป็นผู้โชคดีในเรื่องต่างๆ ให้พึงสังวรไว้ก่อนว่า ถูกหลอก ขั้นต่อมาควรตรวจสอบเรื่องในจดหมายหรือเรื่องที่รับโทรศัพท์ให้ถ้วนถี่เสียก่อน อีกทั้งถ้าเป็นไปได้ให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ด้วย เพราะว่าในที่สุดจะมีการให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร และส่วนใหญ่จะให้ใช้ภาษาอังกฤษซึ่งหลายๆท่านไม่ค่อยเข้าใจในภาษาอังกฤษที่แสดงบนตู้เอทีเอ็ม<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องที่สาม กรณีที่มีบุคคลอื่นให้ท่านไปเปิดบัญชีแทน โดยเป็นการไหว้วานหรือการจ้างให้เปิดบัญชีแทน ให้พึงสังวรไว้ว่า อาจจะตกเป็นเครื่องมือของพวกมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงให้บุคคลอื่นโอนเงินเข้าบัญชี การเห็นแก่เงินเพียงเล็กๆน้อยๆ อาจส่งผลที่ต้องเป็นคดีความใหญ่ๆได้ครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องที่สี่ บัตรเครดิตทุกประเภท เวลาที่เราใช้นั้น ควรทราบอยู่ตลอดเวลาว่า พนักงานผู้ที่นำบัตรเครดิตของเราไปชำระเงินนั้น นำบัตรเครดิตของเราไปที่ไหนบ้าง ปัจจุบันมีเครื่องถอดข้อมูลขนาดเล็กแล้ว อีกทั้งถ้าเป็นร้านเล็กๆ หรือดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ ไม่ควรใช้บัตรเครดิต และควรตรวจสอบค่าใช้จ่ายกับจดหมายแจ้งค่าใช้บริการของบริษัทบัตรเครดิตต่างๆให้ถูกต้องด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องที่ห้า เรื่องการโอนเงินทางอินเตอร์เน็ต ควรตรวจสอบบัญชีของเราเองอยู่เสมอ ถ้าเราไม่ได้สมัครการทำธุรกรรมการโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตนั้น ควรตรวจสอบกับธนาคารเจ้าของบัญชีว่า บัญชีของเรามีเรื่องการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตหรือไม่ ส่วนท่านที่สมัครใช้แล้ว ควรตรวจสอบบัญชีของท่านอยู่เสมอๆนะครับ ส่วนบัญชีที่ท่านไม่ได้ใช้แล้ว ควรปิดบัญชีนั้นๆเพื่อป้องกันเหตุอื่นๆที่จะตามมาครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ด้วยความห่วงใยทุกๆท่าน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...