พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โอ้ ไกลเกินนะ ตัวพี่เองยังเอาตัวไม่รอดเลย เดี๋ยวพี่ที่พี่เคารพเข้ามาอ่านแล้วพี่จะโดนซ้ำนะน้องนะ



    (b-oneeye)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2007
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9500000058736

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>101 วิธีการใช้กล้องบนมือถือให้เกิดประโยชน์ : eWorld</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 พฤษภาคม 2550 15:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ถึงแม้โทรศัพท์มือถือจะมีกล้องมาให้ แต่หลายคนมีโอกาสใช้มันก็แค่สัปดาห์แรกที่ซื้อมาเท่านั้น แล้วไม่เคยมีโอกาสใช้ฟีเจอร์นี้อีกเลย ถ้าอย่างงั้น คุณน่าจะลองอ่านไอเดียทั้ง 101 เรื่องนี้ น่าจะมีสักเรื่องที่ถูกใจคุณบ้าง

    นับวันมือถือรุ่นที่ไม่มีกล้องติดมานั้นจะหายากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกล้องถ่ายรูปเหมือนจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่มือถือทุกรุ่นควรจะมี แต่หลายคนก็มีเอาไว้เพียงแค่ประดับโทรศัพท์มือถือให้รู้ว่ามีกล้องเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์มันได้สูงสุด ยิ่งทุกวันนี้ เราสามารถหากล้องความละเอียด 1-2 เมกะพิกเซลได้ไม่ยากนัก รวมกับการ์ดหน่วยความจำที่มีราคาแสนจะถูก ทำให้การถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือกลายเป็นเรื่องง่าย แต่แทนที่จะไปถ่ายในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็หันมาใช้ประโยชน์จากมันจะดีกว่า ยิ่งรุ่นที่มีบลูทูธด้วยแล้ว การใช้งานกับโน้ตบุ๊กจะกลายเป็นเรื่องง่ายมาก แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เราอาจจะใช้บริการ MMS หรือว่าส่งรูปผ่านทาง GPRS หรือ EDGE ไปทิ้งเอาไว้บนเว็บไซต์ต่างๆ ได้เช่นกัน ลองมาดูกันว่ากล้องในมือถือทำอะไรได้บ้าง แต่ใช่ว่าจะทำได้เพียงแค่ที่ผมกล่าวไปเท่านั้น ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นกับว่าชีวิตประจำวันของเรานั้นเป็นอย่างไร และสามารถจะประยุกต์ใช้กับชีวิตเราให้ลงตัวได้อย่างไรบ้างเท่านั้น

    1.ใช้กล้องมือถือเพื่อถ่ายภาพมุมอับใต้รถยนต์ หรือภายในส่วนที่เข้าถึงได้ยาก โดยที่เราไม่ต้องมุดเข้าไปให้เลอะเทอะ เหมาะสำหรับกล้องที่มีแฟลชติดมาให้ด้วยเท่านั้น

    2.ถ่ายรูปเมนูจานด่วนจากร้านฟาสต์ฟู้ดยอดฮิต เวลามาคราวหน้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเลือกอยู่นาน เพราะเลือกไว้ก่อนแล้ว

    3. เมื่อเห็นอะไรที่ชอบในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า ก็ถ่ายรูปเอาไว้ก่อน เวลามีใครมาถามว่าวันเกิดปีนี้อยากได้อะไร ก็ไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย แค่ส่งรูปผ่านทาง MMS ไปให้เท่านั้น

    4.เอากล้องมือถือมาใช้ระบุทรัพย์สินของเราเอง โดยถ่ายรูปทรัพย์สินเก็บเอาไว้ในมือถือ เมื่อเริ่มต้นเดินทาง กรณีที่เกิดปัญหาในการเดินทางหรือทรัพย์สินถูกขโมยจะได้มีภาพอ้างอิง

    5.ใช้ภาพบันทึกระยะทางที่ขับรถจากแผงหน้าปัด และสถานที่จริงเพื่อใช้อ้างอิงเมื่อเดินทางไปติดต่อธุรกิจ จะได้เก็บมาเบิกค่าใช้จ่ายในภายหลัง

    6. ถ้าไปงานแสดงสินค้าหรือกิจกรรม แม้แต่งาน ComWorld ถ้ามีอะไรน่าสนใจก็ถ่ายรูป เก็บรายชื่อติดต่อ และข้อมูลธุรกิจเอาไว้ เผื่อวันหลังจะได้ติดต่อได้ง่าย และจะได้ไม่ลืมหลังออกจากงาน

    7. ถ้าหากไปงานสัมมนาที่สนใจเป็นพิเศษ อาจจะใช้มือถือถ่ายรูปสไลด์พรีเซนเทชันจากเพาเวอร์พอยนต์ที่นำเสนอเก็บเอาไว้เพิ่มเติม

    8. ถ่ายรูปทางแยก ชื่อถนน ชื่อสถานีรถไฟฟ้าหรือตึกใกล้เคียงเอาไว้เวลาไปเที่ยวต่างเมือง หรือต่างประเทศ จะช่วยได้เวลาหลงทาง หรือถ้าอับจนหนทาง ผู้คนรอบข้างก็ยังจะพอช่วยได้เหมือนกัน

    9. ถ้าหากไปเจออะไรก็ตามที่คิดว่าภรรยาที่บ้านอาจจะสนใจ ทำไมไม่ลองถ่ายรูปแล้วส่งเข้ามือถือเขาล่ะ ถามไปเลยว่าสนใจไหมจะได้ขนกลับติดมือมาให้ด้วย

    10. ถ่ายรูปเด็กๆ ที่ไปเที่ยวด้วยเวลาพาไปสวนสนุก หรือห้างสรรพสินค้า(งานกาชาดก็ใช้ได้ ไม่ผิดเหมือนกัน) ถ้าหากมีใครหลงหายไป เราก็จะพอมีรายละเอียดของเด็กๆ มากเพียงพอที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบได้แล้ว

    11. เล่นเกมล่าสมบัติกับเด็กๆ โดยถ่ายรูปของเอาไว้ แล้วให้เด็กๆ ไปค้นหา หรือถ่ายรูปหลายๆ มุมแล้วให้เด็กทำตัวเป็นนักสืบไปหาตำแหน่งที่จะได้ภาพเหมือน แล้วถ่ายภาพกลับมา

    12. ถ้าจะไปเลือกแว่นตา ก็ลองถ่ายรูปตัวเองตอนลองแว่นหลายๆ รุ่นเอาไว้แล้วส่งไปให้ภรรยาดู เพื่อช่วยเลือกว่าแบบไหนเหมาะสมที่สุด

    13. ถ่ายรูปบัตรจอดรถเก็บเอาไว้เป็นดิจิตอลเสียเลย จะได้รู้ว่าครบชั่วโมงตอนไหน แล้วจะได้ไม่พลาดเสียค่าจอดเพิ่มโดยไม่จำเป็น แต่อย่าลืมเผื่อเวลาขับรถออกจากที่จอดด้วยนะ

    14. ถ่ายรูปโปสเตอร์รายการแสดงที่เราสนใจ และไม่อยากพลาดชมเก็บเอาไว้ เพราะนอกจากชื่อรายการแล้ว ยังมีวัน เวลา และสถานที่ระบุเอาไว้ทั้งหมด

    15. ต่ออินเทอร์เน็ตแล้วอัพโหลดวิดีโอจากมือถือ เอาไปใส่ที่ YouTube โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 16. เอาไว้ถ่ายรูปข้อความเท่ๆ ท้ายรถสิบล้อ แต่อย่าเผลอจูบท้ายรถตอนขับเข้าล่ะ เดี๋ยวจะมีใครมาช่วยถ่ายรูปรถเราเสียเอง

    17. ถ่ายรูปสินค้าเก็บเอาไว้เปรียบเทียบราคาแต่ละห้างในย่านที่เข้าไปช็อปปิ้งบ่อยๆ

    18. ถ่ายรูปยาที่มีปัญหารักษาไม่ได้ผล หรือเกิดผลข้างเคียง ไปหาหมอคราวหน้าก็จะมีรูปให้หมอดูได้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

    19. ถ่ายวิดีโองานเลี้ยงสังสรรค์ของออฟฟิศ มั่นใจได้เลยว่าเราจะมีเรื่องสนุกอีกหลายเรื่องหลังจากงานนั้นแน่นอน

    20. ถ้าหากคุณเป็นนักข่าวหรือนักเขียน อย่าลืมถ่ายรูปสถานที่หรือเหตุการณ์ต่างๆ เก็บเอาไว้ เพื่อที่จะเก็บเอาไว้เขียนข่าวในภายหลังได้

    21. เมื่อต้องไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ อย่าลืมถ่ายรูปหมายเลขโทรศัพท์สำคัญเก็บเอาไว้ อย่างเช่น หมายเลขศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติที่เราเข้าไป

    22. ส่งรูปไปข่มเพื่อนทางโทรศัพท์มือถือ เวลาเล่นวิดีโอเกมส์แล้วได้คะแนนสูงๆ เพื่อคุณคงจะแค้นใจ แล้วอีกไม่กี่วัน จะส่งคะแนนสูงกว่ากลับมา

    23. ถ้าจำหมายเลขตลับหมึกพิมพ์อิงก์เจ็ตไม่เคยได้ ก็ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เวลาไปซื้อจะได้ไม่ผิดรุ่น

    24. เมื่อใช้บริการสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง ลองถ่ายรูปร้านที่สนใจเก็บเอาไว้ เพราะนอกจากหมายเลขแล้วยังมีแผนที่และข้อมูลอื่นๆ อีกด้วย

    25. เมื่อจำเป็นต้องซ่อมระบบท่อภายในบ้าน ถ่ายรูประบบเก็บเอาไว้ก่อนที่จะไปซื้ออุปกรณ์ จะได้ไม่มีอุปกรณ์ตกหล่นไปจนต้องกลับไปรองสอง

    26. ถ่ายรูปป้าย "ขาย" ที่ติดอยู่หน้าบ้านหลังที่ต้องการจะซื้อ จะได้ตัดสินใจภายหลังได้ง่าย

    27. อย่าลืมถ่ายรูปค่าเซตติ้งของดิปสวิตช์หรือจัมเปอร์เก็บเอาไว้ก่อนที่จะเล่นอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เวลามีปัญหาจะได้ตั้งค่ากลับได้ถูกต้อง

    28. ถ่ายรูป และเก็บข้อมูล DVD ที่มีอยู่ไว้ มีประโยชน์มากเวลาเอาแผ่นไปแลกกันดูกับเพื่อน

    29. ถ้ามีโทรศัพท์มือถือติดกล้องพกไปไหนมาไหน หากเจอสาวสวย หรือดารา เราก็กลายเป็นปาปารัซซี่จำเป็นได้เหมือนกัน

    30. ถ้าหากคุณไม่เคยจำชื่อเพื่อนได้เลย ทำไมไม่ถ่ายรูปแล้วใส่รูปเพิ่มเข้าไปในรายการติดต่อด้วยล่ะ จำชื่อไม่ได้ เห็นหน้าคงพอจะนึกออก

    *****************
    สำหรับข้อ 31 เป็นต้นไปนั้น ทางทีมงาน eWorld ฝากบอกถึงคุณผู้อ่านที่สนใจว่า สามารถแจ้งความจำนงขออ่านเพิ่มเติมได้ที่ eworld@tagc.co.th แล้วทีมงานจะจัดส่งบทความเต็มเป็นไฟล์ PDF ให้ท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดค่ะ ^^

    ท้ายสุดวันนี้ ทางทีมงาน TAGS ฝากประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ http://www.dnsthailand.net/ ไว้ในอ้อมใจแฟนพันธุ์แท้ไอทีเอาไว้ด้วยอีกเว็บหนึ่งค่ะ โดย DNSThailand.net เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลและข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ สำหรับองค์กร ซึ่งคำว่า คำว่า DNS นั้นมาจากคำว่า Database, Network, Security, Services, Server, Storage, Software และ Solution ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรยุคใหม่จะต้องสัมผัสและรับรู้ความเป็นมาเป็นไป และรู้ให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถคลิกเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    - ไม่ต้องให้เสร็จภาระกิจ สมาธิก็ฝึกกันได้ครับ
    - ตั้งใจกำหนดวันนั้นวันนี้จะเริ่ม กลับไม่ได้เริ่ม
    - ทุกลมหายใจเข้าออก กิน ยืน นอน นั่ง วิ่ง ล้วนเป็นสมาธิ..

    ตัวกระผมทำอยู่ แต่ยังไม่ติดทุกขณะจิต และลมหายใจ (ก่อนอนุบาลอีก)
    ถ้าพี่ท่านนำไปเอาดีก่อน น้องๆ ตามกันเนียน
    หลังจากนั้นไปสร้างความดีกัน เผยแพร่แผ่กันไป ทั้งปฐพีนี้เลยครับ

    ดีหลายๆ ครับ น้องน้อยตัวเล็ก มาทีหลัง ก็ต้องตามพี่นำไป เพื่อเรียนรู้ครับ

    ขอขอบคุณครับ<!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ผมคิดว่าของปลอมที่เขาให้เช่ากันในปัจจุบันมีมาก แต่ในเว๊ปนี้ ผู้ที่นำพระมาให้ทำบุญบูชา เป็นพระที่ได้ผ่านการปลุกเสกจริงๆ ก็เยอะเช่นกัน เป็นเรื่องของบุญบารมีของแต่ละบุคคล ในส่วนตัวผมเคยบูชาพระหลวงปู่ปานที่วัดเสาธงหิน เพราะไปเจอว่านี่คือพระหลวงปู่ปาน เกิดความดีใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพระผงหลวงปู่ จึงเช่าบูชาทันที องค์ละประมาณ 450 พอไปกราบหลวงพี่เล็ก ก็ถามหลวงพี่ หลวงพี่ท่านก็ดู แล้วบอกว่า รุ่นนี้ปลอมกันมาก ท่านก็เงียบชั่วครู่ หลวงพี่อธิษฐานให้ แล้วผมก็นำพระไปไว้ที่องค์หลวงปู่ปานที่โต๊ะหมู่บูชา ขอให้หลวงปู่สงเคราะห์ และก็จะนำเข้าพิธีเสาร์5 เพื่อความสบายใจ อิอิ อันนี้เป็นการสร้างกำลังใจ จากพระที่เขาปลอมขึ้นมา ผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงพี่ หลวงปู่ และพิธีเสาร์5 ก็หมายถึงพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ ท่านสงเคราะห์ให้
    และเรื่องพระกรุ นี้ ได้พบเหมือนกัน คิดว่า เมื่อถึงวาระ ท่านจะมาสงเคราะห์ลูกหลาน ก็ยกตัวอย่างกรุ ที่หลวงพ่อเงินท่านปลุกเสกไว้เมื่อร้อยกว่าปี ก็มาถึงลูกหลานที่เคยเป็นลูกศิษย์ท่าน ในอดีต ก็ได้บูชาเพื่อเป็นปัจจัยในการสร้างฐานะเพื่อที่จะช่วยคน
    ส่วนที่ว่าทำไมต้องบูชาเป็นพัน หรือห้าร้อย อันนี้ ก็เป็นการทดสอบกำลังใจ คนจะได้สิ่งดีๆ ก็ต้องเดิมพันด้วยใจเหมือนกัน 1. อยากจะทำบุญร่วมกับครูบาอาจารย์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา 2.เมื่อจิตคิดดี ย่อมได้สิ่งดีๆ ไว้เป็นมงคล แต่เราก็ต้องไม่เบียดเบียนตัวเองด้วย ไม่ใช่ว่าทำบุญบูชาหมด ไม่มีเงินกินข้าว ใครเคยบ้าง อิอิ
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ทำทั้งบุญหยาบ(ใช้ปัจจัย และแรงกายแรงใจบ้าง) บุญละเอียด(ฝึกสมาธิจิต) ควบคู่กันไป อานิสงค์สูงครับ บุญเสียตังค์กลับได้อานิสงค์น้อยกว่าบุญไม่ใช้ตังค์ครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2007
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    สำหรับพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านอธิษฐานจิต(โดยเฉพาะในรัชสมัยที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านดำเรงพระอิสริยศวังหน้า นั้น มีเป็นจำนวนมาก แต่ผู้คนในสมัยนี้ไม่ยอมรับเนื่องจากผลประโยชน์อันมหาศาล อีกทั้งพระพิมพ์ที่ยังอยู่ในถ้ำที่หลวงปู่ท่านยังไม่เปิดให้เห็นกันก็ยังมีอีกมาก ผมเองมีพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่ในถ้ำที่ภูเขาหิมาลัย ประเทศเนปาลก็มี ผมเรียกพระกรุนี้ว่า กรุเนปาล ที่ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยนำไปให้หลายๆท่านที่ไปร่วมงานผ้าป่า สนส.บ่อเงินบ่อทองเมื่อปี 2549 บูชาและนำเงินถวายหลวงพ่อแผนมาแล้ว

    ผมเองเสียเงินตามเก็บพระชุดนี้ บอกได้แต่เพียงว่าผมสามารถซื้อรถเก๋งแคมรี่ 1.6 ด้วยเงินสดได้สบายๆ แต่ก็เลือกที่จะเก็บพระพิมพ์ครับ

    ผมเองคิดว่าเงินเพียง 300 บาท ที่จะร่วมบุญและขอรับพระพิมพ์เช่นสมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น ผมว่ายังถูกเกินไป พระพิมพ์ที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ)ท่านมีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้นนั้น มีคุณค่ามาก ไม่อาจเปรียบเทียบเป็นราคา เป็นเงินตราได้ครับ

    แต่ก็จะมีให้ร่วมทำบุญองค์ละ 100 บาทด้วยครับ โปรดติดตาม.....

    (verygood)
    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับคุณเพชร

    (verygood) (verygood) (verygood)
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีเรื่องราวดีๆมาฝากกันอีกแล้ว ตามลิงค์นะครับ

    พจนานุกรมพุทธศาสน์
    http://www.dhammathai.org/bd/dictionary.php

    <TABLE width=200 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 width="100%" align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD background=../pics/22orange.gif bgColor=#dddddd height=22>[​IMG] พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>เอกกะ - หมวด ๑</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>ทุกะ - หมวด ๒</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>ติกะ - หมวด ๓</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>จตุกกะ - หมวด ๔</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>ปัญจกะ-หมวด ๕</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>ฉักกะ-หมวด ๖</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>สัตตกะ-หมวด ๗</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>อัฏฐกะ-หมวด ๘</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>นวกะ - หมวด ๙</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>ทสกะ-หมวด ๑๐</TD></TR><TR><TD width=11>[​IMG]</TD><TD>อติเรกทสกะ - หมวดเกิน ๑๐</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 width="100%" align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD background=../pics/22orange.gif bgColor=#dddddd height=22>[​IMG] พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ - ความหมายของคำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 width="100%" align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD background=../pics/22orange.gif bgColor=#dddddd height=22>[​IMG] พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ : ไทย - อังกฤษ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25></TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD></TR><TR><TD width="20%" height=26>
    </TD><TD width="20%" height=26>
    </TD><TD width="20%" height=26>
    </TD><TD width="20%" height=26>
    </TD><TD width="20%" height=26>
    </TD></TR><TR><TD width="20%" height=25></TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25></TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25>
    </TD><TD width="20%" height=25></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 width="100%" align=center bgColor=#cccccc border=0><TBODY><TR><TD background=../pics/22orange.gif bgColor=#dddddd height=22>[​IMG] พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ : อังกฤษ - ไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="20%" height=25>A</TD><TD width="20%" height=25>B</TD><TD width="20%" height=25>C</TD><TD width="20%" height=25>D</TD><TD width="20%" height=25>E</TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>F</TD><TD width="20%" height=25>G</TD><TD width="20%" height=25>H</TD><TD width="20%" height=25>I</TD><TD width="20%" height=25>J</TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>K</TD><TD width="20%" height=25>L</TD><TD width="20%" height=25>M</TD><TD width="20%" height=25>N</TD><TD width="20%" height=25>O</TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>P</TD><TD width="20%" height=25>Q</TD><TD width="20%" height=25>R</TD><TD width="20%" height=25>S</TD><TD width="20%" height=25>T</TD></TR><TR><TD width="20%" height=25>U</TD><TD width="20%" height=25>V</TD><TD width="20%" height=25>W</TD><TD width="20%" height=25>Y</TD><TD width="20%" height=25>Z</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต่อกันด้วยของชอบของใครบางคน รวมทั้งผม

    แต่เอ้ มีใครไม่ชอบบ้างเอ่ย

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เลือกอร่อยกับ "ปลาเค็ม"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 พฤษภาคม 2550 15:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "ปลาเค็ม" เป็นอาหารโปรดของหลายๆ คน อีกทั้งสามารถนำไปประกอบอาหารได้อร่อยหลายอย่าง ไม่ว่าจะทอดกินกับข้าวสวยร้อนๆ ราดน้ำปลาพริกมะนาวเสียหน่อย จะนำไปผัดเป็นคะน้าปลาเค็ม หรือสปาเก็ตตี้ปลาเค็มก็อร่อยไม่น้อย

    แต่การเลือกปลาเค็มนั้นก็ต้องดูให้ดีๆ เพราะหากเราไม่ได้ทำเองกับมือจนมั่นใจว่าสะอาดปลอดภัยแล้ว ก็อาจได้สารพิษแถมมากับปลาเค็มที่เราซื้อมาด้วย วิธีเลือกซื้อปลาเค็มให้ได้ของดีก็คือ ต้องเลือกซื้อปลาเค็มที่ตากแห้งดีแล้ว เพราะหากปลายังมีความชื้นอยู่สูงเนื้อปลาข้างในก็อาจจะเน่าเสียได้ หรือมิฉะนั้นเราก็ต้องนำไปตากแดดต่อที่บ้านเอง เรื่องสีของปลาก็ควรสังเกตเช่นกัน เพราะปลาที่ผ่านการแช่น้ำเกลือมาแล้วก็มักจะมีสีซีดลง ดังนั้นเพื่อให้ปลาเค็มดูน่ากินและมีสีสัน พ่อค้าแม่ค้าจึงใช้วิธีย้อมสีปลาให้สดขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรเลือกซื้อปลาเค็มที่มีแดงสดมากๆ หรือสีเข้มกว่าปกติ

    นอกจากนั้นก็ยังต้องดูเรื่องความสะอาดเป็นหลัก หากมีมดแมลงวันมาตอมกันเต็มไปหมดอันนั้นก็ดูจะสกปรกเกินไป อาจจะมีแมลงวันมาวางไข่ได้ แต่หากไม่มีแมลงวันเข้าใกล้เลย อันนั้นก็น่ากลัวว่าจะใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อป้องกันแมลงวันตอม ดังนั้น เมื่อเราซื้อปลาเค็มมากินที่บ้าน ก็จะต้องล้างน้ำให้สะอาด 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นละออกและสารเคมีทั้งหลาย จะให้ดีก็ต้องล้างจากน้ำก๊อกให้น้ำไหลทิ้งไป อีกทั้งน้ำมันที่ใช้ทอดปลาเค็มครั้งแรกแล้วก็ไม่ควรนำกลับมาทอดซ้ำอีกเพราะอาจจะมีสารพิษตกค้างในน้ำมันได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd Mail ครับ

    <O:p</O:p
    ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ คนไทย ที่ 1 ในโลก<O:p</O:p
    คนไทย คนดี ที่คนไทย ไม่เคยรู้จัก
    อยากให้เผยแพร่ เกียรติประวัติ ให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนไทย
    และเยาวชนไทย ผมได้รับเมล์นี้มา ไม่ต้องมีใครบอกผม
    แต่ผมรู้ว่า ผมควรจะส่งต่อให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ และคนไทย
    ได้รู้จักและชื่นชม ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ คนไทยผู้สร้าง
    ชื่อเสียงและเกียรติประวัติ ระดับโลก ที่สมควรได้รับ
    การยกย่องครับ

    http://www.roorha.com/main/view_joke.php?id=6875 <O:p</O:p

    <TABLE class=MsoNormalTable style="mso-cellspacing: 1.5pt; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellPadding=0 border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #e0dfe3; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #e0dfe3; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #e0dfe3; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top><O:p</O:p
    <TABLE class=MsoNormalTable style="mso-cellspacing: 1.5pt; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellPadding=0 border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #e0dfe3; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #e0dfe3; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #e0dfe3; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top>ได้ดูรายการ "จับเข่าคุย" ช่อง 3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เปิดเจอโดยบังเอิญ แต่ไม่เปลี่ยนช่องเลย ^_^ น่ายกย่องจริงๆ
    <O:p</O:p

    <TABLE class=MsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: 3pt outset; BORDER-TOP: 3pt outset; BORDER-LEFT: 3pt outset; BORDER-BOTTOM: 3pt outset; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" cellPadding=0 border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #e0dfe3; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #e0dfe3; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BORDER-LEFT: #e0dfe3; PADDING-TOP: 0.75pt; BORDER-BOTTOM: #e0dfe3; BACKGROUND-COLOR: transparent">
    เภสัชกรยิปซีไทย ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์(ปัจจุบัน ขณะนี้ ไทยกำลังมีปัญหากับอเมริกา เพราะข้อขัดแย้ง เรื่องราคายา ที่ไทยไม่ยอมอเมริกา เรื่อง สิทธิบัตรยา)

    ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรยิปซีไทย ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ที่เร่ร่อนไปทั่วเเอฟริกาจนเป็นที่รู้จักจนอเมริกานำชีวิตเธอสร้างเป็นละครบรอดเวย์ แต่คนไทยไม่รู้จักเธอ <O:p</O:p
    ชื่อ - ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เป็นคนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีพี่น้อง 2 คน พ่อเป็นหมอ คุณแม่ เป็นพยาบาล
    เรียน - นักเรียนประจำที่ รร.ราชินี ปริญญา คณะเภสัชศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ปริญญาโท สาขาเภสัชวิเคราะห์ ม.Strahclyde ปริญญาเอก สาขาเภสัชเคมี ม.Bath ที่อังกฤษ
    (ฐานะทางบ้าน ก็สบายๆ ญาติพี่น้อง ทำธุรกินโรงแรมที่เกาะสมุย) <O:p</O:p
    ชอบเล่นดนตรี เคยฝันอยากเป็น Conductor <O:p</O:p
    เคยอยากเปลี่ยนสายเรียน ไปเป็น ไบโอเคมี (ชีวเคมี )แต่เห็นว่า คณะที่เรียนอยู่ ในเมืองไทย มีคนเรียน แค่ 5 คน จึงก้มหน้าก้มตาเรียนต่อไป <O:p</O:p
    ปี 2535 เริ่มมีผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก พบในเอดส์ในไทยครั้งแรก ปี 2526 ทำไห้ตัดสินใจศึกษาวิจัยยาต้านไวรัสเอดส์ คิดค้นอยู่ 3 ปี แรกๆทำงานคนเดียวหมด <O:p</O:p
    ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกของโลก ที่ผลิตยาชื่อสามัญว่า ยาเอดส์ ในปี 2538 ได้<O:p</O:p
    โดนคดีขึ้นศาลกับบริษัทยา(ชื่อของอจ. ถูกบรรจุอยู่ในแบล็กลิสต์ของบริษัทยาเกือบทุกบริษัท) จากเรื่องของผลประโยชน์ เพราะถ้า ผลิตยาได้สำเร็จ ยอดขายของผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็ต้องตกแน่นอน เพราะว่า ราคาต่างกันค่อนข้างมาก ถือว่าตัวเองได้ทำหน้าที่ที่ได้ร่ำเรียนมาอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะตบหน้าใคร หรือมาทำให้ยอดขายของบริษัทไหนลดลง (ก็คนกำลังจะตายอยู่แล้ว ไม่มีเงินซื้อยาแพงๆกิน ก็ต้องช่วยกันไป) <O:p</O:p
    คือ ยา ZIDOVUDINE (AZT)- ยาที่ลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก จาก แคปซูลละ 40 บาท เหลือ 7-8 บาท<O:p</O:p
    อีกตัวคือ จากเดิม ขาย แคปซูลละ 284 บาท เหลือ 8 บาท<O:p</O:p
    ยาที่มีชื่อเสียงมาก คือ GPO-VIR สามารถทำให้ยา 3 เม็ดรวมอยู่ในเม็ดเดียว จากต้องทาน วันละ 6 เม็ด เหลือเพียง 2 เม็ดเท่านั้น <O:p</O:p
    รัฐบาลไทย สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ จาก 1000คน เพิ่มเป็น 10000 คนค่ายา จาก คนละ 20,000 เหลือ 1,200 บาท<O:p</O:p
    ปี 2545 ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา เพื่อจะไปช่วยเหลือทางแอฟริกาใต้อย่างเต็มตัว (เห็นว่า เมืองไทย เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ) ไม่มีใคร(รวมทั้งรัฐมนตรี)ยอมเซ็นใบอนุมัติการลาออกให้ <O:p</O:p
    มีการยื่นข้อเสนอ ให้เปลี่ยนตำแหน่งสูงขึ้น และการเอายาของเราไปขายที่แอฟริกาแทน แต่ไม่เอาด้วยเหตุผล <O:p</O:p
    ต้องการให้พวกเขาทำเองให้พึ่งตนเอง เชื่อว่า ถ้าเขาอยากกินปลา เราก็ควรสอนเขาตกปลาเอง ไมใช่ว่าเอาปลาไปให้เขากิน เพราะไม่อย่างนั้น เขาจะไม่มีวันพึ่งตัวเองได้ เมืองไทยไปจำหน่ายได้ มันจะมีประโยชน์อะไร เพราะมันไม่มีความยั่งยืน(ไม่สนเงินเข้ากระเป๋า ว่างั้น)<O:p</O:p
    เดินทางไปคองโก ไปบุกเบิกใหม่หมด วาดแปลนโรงงาน ที่จะผลิตยา ใช้เวลา 3 ปี โรงงานดังกล่าว ผลิต ยาต้านไวรัสเอดส์ ชื่อ AFRIVIR เหมือนเมืองไทยทุกอย่าง ได้สำเร็จ <O:p</O:p
    ปี 2546 ผลิตยาที่ทวีปแอฟริกา ที่ดังมาก และขายดีที่สุดในประเทศแทนซาเนีย คือ ยามาลาเรีย (THAI-TANZUNATE) ยาราคาถูก จาก 360 บาท ผลิตได้ ในราคา 36 บาทเท่านั้น<O:p</O:p
    ประเทศด้วยพัฒนาในแอฟริกายากจนมาก สมมติว่าโรงพยาบาลหนึ่งมีเตียง 150 เตียงแต่มีคนไข้ที่มาแอดมิด 450 คน นั่นหมายถึง ใน 1 เตียง มีคนไข้ 3 คน นอนบนเตียงเดียวกัน 2 คน นอนกลับหัวกลับหางกัน และนอนใต้เตียงอีก 1 คน <O:p</O:p
    เวลาอยู่ที่แอฟริกา ก็ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีหลักแหล่ง บางทีก็มีคนช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทาง บางทีออกเอง เพราะประเทศเขายากจน ไม่มีตังค์ให้หรอก <O:p</O:p
    อุปสรรคชีวิตโลดโผน<O:p</O:p
    เจอเครื่องบินดีเลย์ ไป 24 ชม.
    บางที เครื่องบินก็พาไปลงผิดประเทศ
    เสื้อผ้า ต้องมีติดกระเป๋าสะพายตลอดอย่างน้อย 3 ชุด เพราะชุดในกระเป๋าเดินทางที่โหลดไว้ใต้ท้องเครื่องอาจมาช้า ไม่ก็หายไปเลย
    ที่คองโก นอนอยู่ดีๆ ก็มีแสงสว่างวาบๆขึ้นมา ก็คิดในใจว่า ทำไมถึงสว่างเร็วจัง ปรากฏว่าไม่ใช่แต่เป็น ระเบิดที่เขายิงมา โดยมีเป้าหมายที่บ้านพักของดิฉัน แต่เขากะพลาดไปหน่อย เลยไปตกข้างๆบ้านแทน คิดว่า คงเป็นฝีมือของพวกที่เขาคิดว่าดิฉันเป็นศัตรูนั่นแหล่ะค่ะ <O:p></O:p>
    ตอนไปช่วยเหลือที่ ไนจีเรีย ต้องเดินทางตอนตี 1 จากสนามบิน เข้าสุ่ที่พัก คนเดียว ไม่มีคนมารับ นั่งแท๊กซี่ไป ถูกคนเอาปืนมาจี้ 5 ครั้ง ในคืนเดียว รอดมาได้หมดทุกครั้ง และไม่มีใครเอาทรัพย์สินไปเลยสักคนเดียว ด้วยเหตุผล " ฉันมาช่วยคนในประเทศเธอน่ะ อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เลยไม่มีคนจี้ต่อ แต่เสียเวลาไป 4 ชั่วโมง กับการเดินทาง 20 กฒง เพราะมัวแต่โดนจี้ ไป 5 ครั้ง <O:p</O:p
    สื่อของฝรั่งเศสและเยอรมนี ชื่นชมการทำงานมาก นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ จนได้รับรางวัลจาก เทศกาลหนังเมืองคานส์ 3 รางวัล<O:p</O:p
    เรื่องหนังสารคดี
    A Right to Live
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมลืมเรื่องตอบคำถามไปเลย ไม่มีใครเตือนผมเลย เดี๋ยวผมจะติดหนี้ไปนะ คนแก่แล้ว หลงๆลืมๆบ้างเป็นธรรมดาเน๊อ ใช่ใหมครับคุณเพชร

    ท่านที่ตอบคำถาม ผมจะส่งให้ทุกท่านครับ และจะมอบพระแถมให้อีกท่านละ 1 องค์แต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร รอลุ้นกันเองนะครับ แต่ละท่านอาจจะได้เหมือนกันหรือไม่เหมือนกันครับ

    1. aries2947 <O:p</O:p
    2. littlelucky<O:p</O:p
    3. :::เพชร::: <O:p</O:p
    4. chaipat<O:p</O:p
    5. nongnooo <O:p</O:p
    6. wichitt <O:p</O:p
    7. รัช <O:p</O:p
    8. ขุนท้าว...
    9.กุ้งมังกอน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_570343", true); </SCRIPT>

    แล้วครบทุกท่านหรือเปล่าเนี่ย ถ้าไม่ครบแจ้งให้ทราบด้วยครับ<O:p</O:p

    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเรื่องความโหดร้ายของคนครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    วันนี้ไม่ได้นำมาส่ง ขอเป็นวันพรุ่งนี้นะครับ
    ก็ให้เก็บความสงสัยไว้อีก 1 วันนะครับ รอลุ้นนะครับ
    (b-oneeye)

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">1. aries2947 มอบให้ในวันที่ไปหาท่านอาจารย์ประถมครับ<O:p</O:p
    2. littlelucky ส่งEMS ครับ<O:p</O:p
    3. :::เพชร::: มอบให้ในวันที่ไปหาท่านอาจารย์ประถมครับ<O:p</O:p
    4. chaipat มอบให้ในวันที่ไปหาท่านอาจารย์ประถมครับ<O:p</O:p
    5.
    nongnooo ส่ง EMS ครับ<O:p</O:p
    6. wichitt ส่ง EMS ครับ<O:p</O:p
    7. รัช ส่ง EMS ครับ<O:p</O:p
    8. ขุนท้าว... ส่ง EMS ครับ
    9.
    กุ้งมังกอน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_570343", true); </SCRIPT> มอบพระให้แล้วครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd Mail ครับ
    <O:p</O:p
    ๙ วิธีทำดี ได้บุญ แบบไม่ต้องใช้เงิน <O:p</O:p

    คนไทยเรานั้น ได้ชื่อว่าเป็นพวกที่ชอบทำบุญสุนทานอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความเชื่อที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ซึ่งแม้ปัจจุบัน หลายคนจะรู้สึกกังขาว่า ทำไม คนที่เรารู้สึกว่าชั่วยังคงได้ดิบได้ดี เช่น ยังมีเงินทองและใช้ชีวิตที่สุขสบายกว่าเรา แต่นั่นก็ยังอธิบายได้ว่า เขาทำกรรมเก่าดีหรือยังกินบุญเก่าอยู่ ซึ่งที่เราเห็นด้วยตาว่าเขาสุขสบายก็อาจไม่จริง บางทีเขาอาจกำลังทุกข์ใจ เพราะต้องคอยระแวงปกปิดความผิดของตน กลัวคนไปล่วงรู้อยู่ก็ได้ อย่างไรก็ดี โดยพื้นฐานแล้ว <O:p</O:p
    คนส่วนใหญ่ก็มักจะชอบทำบุญ เพราะเชื่อว่าเป็นการทำความดี และเป็นการสะสมผลบุญที่จะสนองให้เราได้รับสิ่งที่ดีในอนาคตหรือในชาติหน้า ซึ่งโดยแท้จริงการทำบุญนั้น ทันทีที่ทำก็เป็นความสุขแล้ว เพราะ บุญ คือ การทำความดีด้วยวิธีการต่างๆ ที่ทำให้อิ่มเอิบเบิกบานใจ <O:p</O:p
    โดยทั่วไป คนมักทำบุญกุศลด้วยการบริจาคทรัพย์ สิ่งของ หรือให้ทานเป็นโอกาสๆ เช่น บริจาคช่วยผู้ประสบภัยธรรมชาติ ร่วมสร้างศาสนสถาน ทอดกฐินผ้าป่า ช่วยเด็กกำพร้า หรือช่วยซื้อโลงศพ เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เชื่อไหมว่า ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น <O:p</O:p
    เรา มีโอกาสทำความดีหรือทำบุญได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องใช้เงินทองหรือสิ่งของ ถึงแม้เราจะไม่ได้มีอาชีพเป็นแพทย์ พยาบาลที่ต้องช่วยเหลือคนเป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม จะทำได้อย่างไรนั้น กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ขอเสนอแนะ ๙ วิธีทำดี ได้บุญ แบบไม่ต้องใช้เงิน เพื่อเป็นแนวทางให้ท่านได้สะสมกุศลให้เพิ่มพูนขึ้น ดังต่อไปนี้
    <O:p</O:p
    ๑.ตื่น เช้าขึ้นมาก็คิดแต่สิ่งดีๆ ทันทีที่ตื่นนอน หากเราคิดถึงแต่สิ่งที่ดีที่งาม ก็จะทำให้จิตใจเราสดชื่น กระตือรือร้น พร้อมที่จะรับมือกับชีวิตประจำวันด้วยความรื่นเริง ไม่หงุดหงิด โมโห แค่นี้ นอกจากเราจะมีความสุขแล้ว คนรอบข้างเราก็มีความสุขไปด้วย ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง
    <O:p</O:p
    ๒.ยิ้ม แย้มแจ่มใส ในแต่ละวัน หากเราจะรู้จักยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ว่าจะยิ้มกับคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม หน้าตาของเราก็จะดูเป็นมิตร ทำให้คนอยากเข้าใกล้
    <O:p</O:p
    ๓.ทักทาย โอปราศรัย คนบางคน นอกจากจะไม่ยิ้มกับใครแล้ว ยังชอบทำหน้าบึ้งตึงไม่คิดจะพูดจาทักทายใครด้วย ซึ่งถ้าเกิดทำงานด้านบริการ คนมาติดต่อคงรู้สึกเกร็งและกังวลตลอดว่าจะถูกเอ็ดตะโรเมื่อไรก็ไม่รู้ ดังนั้น นอกจากยิ้มแย้มแจ่มใสแล้ว เราก็ควรจะเอื้อนเอ่ยวาจาทักทายผู้มารับบริการก่อน การทักทายปราศรัยกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นผู้มาขอรับบริการ เพื่อนฝูงคนรู้จัก ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือแม้แต่คนที่มาทำงานให้เรา เช่น แม่บ้าน ยาม ฯลฯ จะทำให้เขารู้สึกเป็นมิตร และอบอุ่นใจ ทำให้บรรยากาศในที่นั้นๆดีขึ้น
    <O:p</O:p
    ๔.แบ่ง ปันน้ำใจไมตรี สามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา เช่น ช่วยพ่อแม่จัดโต๊ะอาหาร ล้างถ้วยชาม ลุกให้เด็ก ผู้หญิงท้อง หรือคนแก่นั่ง ช่วยถือของหนักให้คนในรถเมล์ หยุดรถให้คนข้ามถนนหรือรถอื่นไปก่อน ช่วยแบ่งเบาภาระงานให้เพื่อนในที่ทำงาน เป็นต้น การให้ความช่วยเหลือเช่นนี้ เป็นการทำบุญด้วยการลดความเห็นแก่ตัวของเราลง และทำให้เราได้รับมิตรไมตรีสนองตอบกลับมาด้วย
    <O:p</O:p
    ๕. ปลุกปลอบให้กำลังใจช่วยแก้ไขปัญหาหลายๆ ครั้งที่เพื่อนฝูงญาติมิตรอาจประสบปัญหาชีวิตและเกิดความทุกข์ใจแสนสาหัส สิ่งที่ดีที่สุดคือ ความเป็นมิตรและถ้อยคำที่ปลุกปลอบให้กำลังใจ คำพูดดีๆที่มาจากใจจะทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ รู้สึกดีขึ้นและมีพลังที่ต่อสู้ชีวิตต่อไปได้
    <O:p</O:p
    ๖.ให้ คำชมด้วยความนิยมยินดี การกล่าวคำชื่นชมต่อผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ย่อมจะทำให้ผู้รับคำชมรู้สึกปลาบปลื้มยินดี และมีความสุขได้ โดยเฉพาะในเรื่องที่เขาทำสำเร็จ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและจริงใจด้วย
    <O:p</O:p
    ๗.แนะ นำให้คำสอนที่ดี มีคุณค่า ไม่ว่าจะเราจะอยู่ในสถานภาพใด เช่น เป็นลูก เป็นพ่อแม่ ลูกน้อง เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมอาชีพ ฯลฯ หาก เราจะมีเมตตาแนะนำในสิ่งที่ดี มีประโยชน์และคุณค่าต่อผู้อื่น หรือสอนในสิ่งที่เราชำนาญให้แก่ผู้อื่น ก็จะเป็นการช่วยเกื้อกูลสังคมให้ดียิ่งขึ้น และผลก็จะย้อนมาสู่ตัวเราผู้ทำด้วย เช่น สอนงานให้ลูกน้อง ต่อไป เมื่อเขาทำงานเป็นเราก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก และเขาก็จะรู้สึกขอบคุณเรา แนะวิธีออกกำลังกายให้พ่อแม่ ท่านก็แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เราก็สบายใจ หรือแม้แต่การแนะนำให้ความรู้ที่เรามีหรือทราบมาแก่คนไม่รู้จัก อย่างแนะนำหมอ ยาดีๆหรือธรรมะที่ดีแก่คนอื่น ทำให้เขาหายป่วยหรือรู้สึกดีขึ้น เขาก็จะอธิษฐานหรือให้พรเรา ทำให้เราพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต
    <O:p</O:p
    ๘.การ ให้อภัยในความผิดพลาดของผู้อื่น โดยทั่วไปคนเรามักจะให้อภัยตัวเองง่าย และมีข้อแก้ตัวให้ตนต่างๆนานา แต่ถ้าผู้อื่นผิดพลาดแล้ว เรามักเห็นเป็นเรื่องใหญ่และตำหนิติเตียนไม่รู้จักแล้วจบ ดังนั้น เราจะต้องหัดมีเมตตา รู้จักให้อภัยต่อผู้อื่นให้ง่ายเหมือนให้อภัยแก่ตัวเราเอง เพราะการให้อภัย จะทำให้เราไม่ผูกใจเจ็บ ไม่อาฆาตมาดร้าย ไม่ก่อศัตรู แต่ทำให้จิตใจเราสงบเย็น เป็นฝึกจิตพื้นฐานอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่กุศลขั้นสูงอื่นๆต่อไป
    <O:p</O:p
    ๙.ฝึก จิตให้สงบและสบายด้วยการทำสมาธิหรือสวดมนต์ การทำสมาธิ ฟังดูเหมือนยาก แต่จริงๆ เราทำได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่
    <O:p</O:p
    ที่ กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าเป็นการทำความดีที่ไม่ต้องใช้เงินเลย แต่สามารถปฏิบัติในชีวิตประจำวันของเราได้โดยไม่ยากเย็นเข็ญใจจนเกินไป อีกทั้งปฏิบัติแล้วก็เป็นบุญกุศลที่จะเกื้อหนุนให้เราและคนรอบตัวมีความสุข เพราะ"บุญ" ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เครื่องชำระกาย ใจให้บริสุทธิ์ เป็นการทำประโยชน์ให้แก่ตัวเราเอง และผู้อื่น และยังช่วยลดกิเลส ความเศร้าหมองต่างๆได้ เริ่มทำแต่วันนี้เลยนะคะ เพราะมีคนบอกว่า "ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง"<O:p</O:p
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร - เชิญร่วมบริจาคค่าขุดบ่อบาดาล สนส บ่อเงินบ่อทอง
    บัญชีออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง ปริยัติศึกษา บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

    <TABLE class=tborder id=post580262 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:39 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #406 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_580262", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:41 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 2,545 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,830 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 19,330 ครั้ง ใน 2,394 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2301 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_580262 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->โต(กุมารน้อย) เช้าวันนี้ขอนำเอารูปภาพเมื่อ ตอนที่ย้ายออกมาจากที่เดิมใหม่ๆ..เมื่อเมื่อเดือนธันวาคม 2548..เมื่อนับถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 1 ปีกับอีก 4 เดือนกว่า...เมื่อก่อนนี้ก็ใช้ศาลาเมรุเผาศพ เป็นสถานที่เรียน..และที่พักอาศัย...
    ในปัจจุบันสามเณรมีอาคารเรียนอย่างดี..และมีที่พักอาศัย..มีห้องน้ำใช้อย่างสดวกสบาย...และปีนี้สามารถรองรับสามเณรที่เรียนต่อ มัธยมปีที่ 4 ได้อีกด้วย....เพราะอาศัยญาติโยมทุกๆ ท่านที่ได้สงเคราะห์การศึกษาของพระเณรท่าน...ส่งปัจจัยมาสนับสนุน
    เมื่อก่อนคิดแต่เพียงว่า..ต้องการมีอาคารเรียน..มีที่พักอาศัยก็พอแล้ว..แต่ทำไม..หนอ...พระ อ. ท่านต้องการขยายสถานที่...และสร้างอาคารเรียนขึ้นอีก 4 ห้อง...มีโครงการซื้อที่ดินข้างวัดอีก...เพื่อวันข้างหน้า...เราเป็นผู้น้อยก็ไม่เข้าใจท่าน..(กุมารน้อยชอบสันโดด)..เมื่อก่อนก็สงสารท่าน..ช่วงเป็นหนี้มากๆ เห็นท่านกังวล..มีอารมณ์งุดหงิดง่าย ท่านจะโกรธง่ายหายเร็ว...ใจร้อน..ขี้บ่น..แถมด่าเก่งอีกต่างหาก....(นินทาเสียเลย)..สาธุ..สาธุ...สาธุ..

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- attachments --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. wichitt

    wichitt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +4,132
    โมทนา สาธุ กับจิตอันเป็นกุศลครับ
     
  15. mail2wissnu

    mail2wissnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +7,865
    สงสัยเรื่องกาลกิณี นะครับ ทำไมพระบูชาจึงเป็นกาลกิณีได้นะครับ
    ถ้าพระพุทธรูปแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่น่าจะเป็นกาลกิณี นะครับ
     
  16. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    แผนผังสีและพระประจำวันผมจะแย้งหลายทีแต่ก็ไม่ได้ทำ เอาเป็นว่าวันนี้ได้โอกาสที่คุณ mail2wissnu ถามมาก็จะขอตอบตามความรู้ที่มีแค่หางอึ้งครับ
    ข้อแรกคือ พระไม่เป็นกาลีใคร พระอยู่เหนือกฎแห่งโหราศาสตร์ ที่ยังอยู่ในระบบโลกีย์ พระท่านเป็นระบบโลกุตระ เพราะฉนั้นพระปางต่างๆไม่เป็นกาลีใคร แต่สี ที่มีอยู่ในพระใช้ทางโหราศาสตร์ได้เช่นกัน
    ประการที่สองสีที่อยู่ในแผนผังข้างบนนี้อย่างทราบว่า
    1 ดาว 8 คือตัวแทนราหู ทำไมเป็นสีน้ำเงิน ผิดตำราอื่นๆไปมาก
    2 แล้วที่เราท่องว่า อาทิตย์สีแดง จันทร์สีเหลือง อังคารสีชมพู พุธสีเขียว พฤหัสสีแสด ศุกร์สีฟ้า เสาร์สีม่วง แล้วทำไม พฤหัสกลายเป็นสีน้ำตาล เสาร์กลายเป็นสีดำ ไปละครับกระผม
    3 แล้วสีเงิน และสีทอง เป็นคุณสมบัติของวันอะไรครับ มีคนบอกว่าเป็นสีที่ไม่เป็นกาลีกับใครจริงไหมเอ่ย?
    4 พุธกลางคืนเป็นความเชื่อที่พยายามหาที่ให้ราหูอยู่ ราหูไม่ใช่วันเพราะฉนั้นไม่ควรมีพุธกลางคืน ถ้ามีพุธกลางคืนก็ต้องมีจันทร์กลางคืน อาทิตย์กลางคืน
    ไปเรื่อย ราหูเป็นดาวดวงหนึ่งในระบบก็คือโลกนั้นเอง ถ้าพยายามให้ราหูเป็นวันให้ได้ ก็ควรให้ เนปจูน พูลโต เกตุ เป็นวันด้วย พอแค่นี้ก่อนครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ขอบคุณครับคุณโสระ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เรื่องพระพุทธรูป ในความคิดเห็นของผม ไม่เป็นกาลกิณีครับ เนื่องจากสร้างเพื่อเป็นตัวแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    แต่เรื่องสีในแต่ละวัน ผมเองไม่มีความรู้ในเรื่องนี้จริงๆ แต่ก็ใช้ตามที่ครูบาอาจารย์ผมสอนผมมา แต่หากว่าท่านใดมีความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วย แล้วแต่ท่านนะครับ

    ในเรื่องของพระพุทธรูป ในความคิดเห็นส่วนตัวผมเอง ก็คิดว่าไม่ได้มีปางไหนที่เป็นกาลกิณี ผมขอไม่นำมาลงอีกจนกว่าจะมีข้อยุติในเรื่องนี้ ผมจะลองนำเรื่องนี้ไปคุยกันในกลุ่มก่อนครับ

    ขอบคุณมากและโมทนาสาธุครับครับ
     
  19. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ได้รับพระที่ตอบคำถามเรียบร้อยแล้วครับ แต่มีน้องที่ทำงานขอแบ่งองค์ที่แถมให้มาเห็นบอกอยากมีของดีกะเขาบ้าง เลยให้ไปขึ้นคอเรียบร้อยวันรุ้งขึ้นใส่มาโชร์เลย สบายใจคนให้ที่ได้เห็นใส่โชร์ พี่หนุ่มครับ ผมมีรูปถ่ายองค์พ่อจตุคามกรุวังหน้า จะส่งรูปมาถามพี่หนุ่มอะครับ แต่ขัดข้องทางเทคนิคอยู่ยังส่งไม่ได้ครับ ขอถามละกัน จริงๆแล้วมีไม๊ครับ.
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่ององค์จตุคามนั้น คนในสมัยเราเริ่มรู้จักกันประมาณปี 2530 เองนะครับ

    ส่วนทางวังหน้านั้น เท่าที่ศึกษามาไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นว่ามีการสร้างองค์จตุคามเลย ผมเคยไปหามาและลองนำไปตรวจสอบพลังดู ปรากฎว่าเป็นพลังของมวยหมู่(การนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกตามวัดที่มีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธี) บางองค์ก็ไม่มีอะไรเลยก็มีครับ

    ปัจจุบันนี้กระแสองค์จตุคามนั้นแรงจริงๆ ผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับองค์จตุคามนั้น ร่ำรวยไปตามๆกัน ผมคิดว่าน่าจะเป็นการโหนตามกระแสที่เกิดขึ้นครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...