เรื่องนี้น่าเชื่อแค่ไหน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หลบภัย, 11 มีนาคม 2012.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    สาธุครับ
    อามิตตาพุท _/ _
     
  2. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ไปศึกษามาใหม่

    ธรรมพระพุทธองค์ไม่ขัดแย้งกันเลย

    ทุกอย่างเป็นอาหาร เป็นปัจจัยให้เกิด

    พูดแบบไม่ดูหน้าเสื่อ ไม่ดีหรอก อายเขา ^^
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ได้เวลาอาหาร ไปก่อนคั๊ฟ
     
  4. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    กรรมฐานตูดหมึก สู้ๆ
     
  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ความรู้ที่ผุดขึ้นมา(ญาณ) ในขณะเจริญวิปัสสนา(หรือสมถะวิปัสสนา)
    เป็นนิมิตทางนาม
    คล้ายนิมิตทางรูป คือผุดรู้ขึ้นมาเองก็ดี หรือกำหนดรู้ลงไปก็ดี
    มีสมาธิแนบแน่นกับความคิดนั้นเป็นหนึ่งเดียว ไม่ฟุ้งซ่านหรือซัดส่ายไปเรื่องอื่น
    นิมิตทางรูป เช่น เห็นนรกสวรรค์มีเท่าไหร่กี่ชั้น พรหมเป็นอย่างไร รู้อดีตอนาคต หรือมีอศุภนิมิต..ฯลฯ
    นิมิตทางนาม เช่น รู้ธรรมข้อนั้นข้อนี้เป็นเช่นไร สงสัยอะไรก็เกิดรู้ขึ้นมาอย่างแจ่มชัด ปฏิจสมุปบาทเป็นอย่างไร จิตรับรู้ทีละขณะเป็นอย่างไร.. ฯลฯ

    บางคนเกิดวิปัสสนูได้ หากเข้าไปหมายมั่น เพราะคิดอะไรก็คิดออกไปหมด เกิดความรู้ผุดขึ้นมามากมาย จนไม่เห็นไตรลักษณ์ และความไม่แน่นอนในความรู้นั้น ว่าสุดท้ายก็ดับไป...

    อุปกิเลส 10 อย่าง มีดังนี้

    1) โอภาส จิตกำลังพิจารณาวิปัสสนาญาณอยู่ระดับอุปจารสมาธิ ย่อมเกิดแสงสว่างมาก จงอย่าพึงพอใจว่าได้มรรคผล อย่าสนใจแสงสว่าง ให้ปฏิบัติต่อไป
    2) ญาณ ความรู้เช่นทิพจักขุญาณ จากจิตที่เป็นสมาธิภาวนา สามารถเห็นนรก สวรรค์ พรหมโลก รู้อดีต อนาคต ปัจจุบัน ได้ตามสมควร เลิกทำต่อไป หลงผิดคิดว่าได้ บรรลุมรรคผล ไม่ใช่อารมณ์วิปัสสนาญาณ ควรระมัดระวังไม่ให้หลงผิด
    3) ปีติ ความอิ่มใจ ปลาบปลื้ม เบิกบาน มีขนพองสยองเกล้า น้ำตาไหล กายลอย กายเบา โปร่งสบาย สมาธิแนบแน่น เป็นผลของสมถะ ยังไม่ใช่มรรคผล
    4) ปัสสัทธิ ความสงบระงับด้วยฌานสมาธิ ความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง คล้ายจะไปสิ้น ท่านว่าเป็นอุเบกขาฌานในจตุตฌาน อย่าเพิ่งหลงผิดว่า บรรลุมรรคผล
    5) สุข ความสบายกายใจ เมื่ออยู่ในสมาธิ อุปจารฌานระดับสูง หรือ ฌาน 1-ฌาน4 มีความสุขกาย จิต อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในชีวิต เป็นผลของภาวนา ไม่ใช่มรรคผล
    6) อธิโมกข์ อารมณ์น้อมใจเชื่อโดยไม่มีเหตุผล ไม่ได้พิจารณาถ่องแท้ เป็นอาการศรัทธา ไม่ใช่มรรคผล
    7) ปัคคาหะ ความเพียรพยายามแรงกล้าไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค อย่าเพิ่งเข้าใจว่าบรรลุมรรคผลเสียก่อน เป็นการหลงผิด
    8) อุปัฎฐาน มีอารมณ์เป็นสมาธิ สงัด เยือกเย็น แม้แต่เสียงก็ไม่ได้ยิน อารมณ์ที่กายกับจิตแยกกันเด็ดขาด เป็นปัจจัยให้นักปฏิบัติคิดว่าบรรลุมรรคผล
    9) อุเบกขา ความวางเฉย เป็นอารมณ์ในสมาธิฌาน 4 ต้องระวังอย่าคิดว่าวางเฉยเป็นมรรคผล
    10) นิกันติ แปลว่าความใคร่ไม่อาจมีความรู้สึกได้เป็นอารมณ์ของตัณหา สงบไม่ใช่ตัดได้เด็ดขาด อย่าพึ่งเข้าใจว่าบรรลุมรรคผล กิเลสยังไม่หมดเพียงแต่ฌานกดไว้​
     
  6. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    จากที่พี่ปุณ ยกมา อุปกิเลส 10 จะเห็นง่ายสำหรับคนที่ทำสมถะอย่างสม่ำเสมอ
    อย่างที่พี่ว่าก็ถูกนะ ถ้าไปติดวิปัสณูกิเลส นี่ก็นานเลยจะหาย แต่ก็ไม่รู้หรอกนะคะ
    ว่าคนที่ติดตรงนี้ มานะจะมีมากมายแค่ไหน

    แต่หากบางคนวาสนาดี บำเพ็ญมาตลอด ไม่ขาดอยู่ในทางพุทธวิธี
    วิปัสนาคงไม่อยาก

    เห็นเขาว่าอย่างนั้น
     
  7. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ถ้าไม่อุปาทาน ไม่หมายมั่น ก็ไม่เป็นวิปัสสนูจ๊ะ
    สมถะ ฝึกแล้วดี ทั้งเป็นเครื่องอยู่ของจิต
    และดีต่อสุขภาพค่ะ

    ป้าปุณฑ์ก็ติดแสงจ๊ะ ชอบนั่งอยู่กับแสง
    (แต่ก่อน นั่งทุกเช้า เดี๋ยวนี้ทำฌานยากมาก แต่ก็พยายามทำ)
    คือนั่งเวลาไหนแล้วดี ก็ขอให้ทำเวลานั้น เช้า สาย บ่าย เย็น เลือกที่ชอบ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    โถ่ เห็นกันอยู่หลัดๆ

    "เลือกที่ชอบ" ที่ชอบ ไปซะแล้ว ไม่น่า อุป...ส์ เลย

    (cry)
     
  9. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ป้าปุณนั่งสมาธิเพื่อทำฌานเหรอคะ
    ถ้าเป็นแสง มันเห็นง่ายค่ะ ปกติจะเห็นตอนทำวัตรเช้า
    ถ้าวัตรเย็นจะเห็นภาพนิมิตบ้าง ความคิดที่ไม่ถูกกำหนดบ้าง
    แล้วสมาธิ ป้่่าปุณเป็นไงบ้างคะ
     
  10. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    มีหลายที่ ยังไม่ได้เลือก
     
  11. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ตอนวัยรุ่น ชอบนั่งสมาธิ
    เป็นฌานบ้าง เป็นสมาธิบ้าง
    แต่ที่สนใจเป็นสมาธิเต๋า .. ฝึกปราณ
    แสงมีหลายรูปแบบมาก ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว

    แต่สังเกตนะ เวลาที่เราได้ มันมักจะได้ที่เวลานั้น

    ส่วนเข้ากรรมฐาน อุปกิเลสสิบ มีหมด แต่ไม่ติดใจ
    ตัวไม่ติดใจก้ไม่เป็นอุปกิเลส
    อันไหนติดใจ หมายมั่นอยู่ ก็คงเป็นนะ
    ก็น่าจะเป็นเรื่องแสงนี่เอง แต่ก็ฝึกแบบรู้ตัว (แอบฝึก)
    แต่ไม่กล้าทำ ก็ต้องกลับมาเจริญวิปัสสนา กลัวอาจารย์ทราบ
     
  12. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    มีอาจารย์กับเขาด้วยหรอ ศิษย์พี่ใหญ่

    นึกว่าโดนขับออกจากสำนัก :cool:
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]

    "ถ้าปุณฑ์คิดถึงปู ปูก็คิดถึงเอง"

    เนื้อผงปูพิมพ์นิโยม
     
  14. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    สงสัยค่ะ ทำไม ป้า ต้องกลัวอาจาร์ทราบด้วยล่ะคะ
    อาจารย์ห้ามทำกรรมฐานเหรอ
    เพิ่งรู้ว่าป้า ฝึกกังฟูด้วย เมื่อก่อนก็อยากเป็นจอมยุทธฺเหมือนกัน อิอิ
     
  15. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อาจารย์กรรมฐาน ท่านก็ไม่ธรรมดานะ พระอริยะขั้นต่ำขึ้นไป

    แต่อาจารย์ในนิมิต
    นี่แหละที่ทำให้เข้าใจเรื่องสมาธิของผู้อื่น ที่มีผลต่อเรา
    โดยเฉพาะของคนที่มีบารมีมากๆ เรื่องนี้อาหลงคงไม่ชอบ
     
  16. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก็รู้สึกผิด ถ้ามาแอบเล่นฌาน
    เพราะเราเข้ากรรมฐาน ก็เหมือนต้องเอาจริงด้วยชีวิต
    ไม่งั้นเสียค่าน้ำค่าข้าว ที่เขาเอามาเลี้ยงเราอ่ะจ๊ะ

    แต่ที่บ้าน ก็แบบว่าขี้เกียจเนอะ ไม่ขยัน
     
  17. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ลองเล่าให้ฟังสิ :cool:
     
  18. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ถ้าที่บ้าน รู้สึกว่าจะคล่องกว่าที่วัด ที่วัดนั่งทำเป็นกลุ่มคณะ
    เวลาที่สงบรู้มันมีผัสสะรอบด้านเลย เมื่อก่อนก็ชอบนั่งที่วัด
    หลังๆ ทำที่บ้านมันเงียบกว่าค่ะ
    เหมือนป้าว่าเลย บางทีไปวัดเห็นข้าวชาวบ้านเขาเอามาเลี้ยง
    หนูก็อายค่ะ ถ้ารู้สึกขี้เกียจ ตอนฝึกที่วัด
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    จะอธิบายความต่างให้ดู

    ความรู้ที่ผุดขึ้นมา(ญาณ)
    ตรงนี่ไม่ใช่ญาณ ญาณคือเครื่องรู้
    แต่ความรู้ที่ผุดขึ้นมานี้ เรียกว่า เป็นองค์ วิตก ในสัมมาสมาธิ

    และความรู้ตัวนี้เป็นความรู้ที่ไม่ได้ตั้งใจจิต จะต่างจากตัวที่บอกว่า
    กำหนดรู้ลงไปก็ดี
    ซึ่งจะคนละเรื่องเลย


    ในขณะเจริญวิปัสสนา(หรือสมถะวิปัสสนา)
    เป็นนิมิตทางนาม
    คล้ายนิมิตทางรูป คือผุดรู้ขึ้นมาเองก็ดี หรือกำหนดรู้ลงไปก็ดี
    มีสมาธิแนบแน่นกับความคิดนั้นเป็นหนึ่งเดียว
    ไม่ฟุ้งซ่านหรือซัดส่ายไปเรื่องอื่น

    อันนี้คือ หากผู้ที่มี สติรู้พร้อมกับความคิด
    หรือความรู้ที่ผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัตินั้น จะไม่มีความแนบแน่นในความคิดเป็นหนึ่งเดียว เพราะความคิดมันมีหลายอย่างที่พรั่งพรู ไม่ได้มีความคิดที่เป็นเรื่องเดียว หรือที่เป็นแต่อารมณ์เดียว
    เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วมีแต่รู้ปล่อย รู้ปล่อย
    ปล่อย ด้วยความเป็นอัตโนมัติอีกตังหาก




    นิมิตทางรูป เช่น เห็นนรกสวรรค์มีเท่าไหร่กี่ชั้น พรหมเป็นอย่างไร รู้อดีตอนาคต หรือมีอศุภนิมิต..ฯลฯ

    นิมิตทางนาม เช่น รู้ธรรมข้อนั้นข้อนี้เป็นเช่นไร สงสัยอะไรก็เกิดรู้ขึ้นมาอย่างแจ่มชัด ปฏิจสมุปบาทเป็นอย่างไร จิตรับรู้ทีละขณะเป็นอย่างไร.. ฯลฯ

    อันนี้ก็เหมือนกัน
    หากผู้ที่มีความรู้ที่ผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติมีสติรู้พร้อมเองอัตโนมัติ
    จะไม่เป็นอย่างที่ยกตัวอย่างที่ขีดเส้นใต้มานี้ คนละเรื่องเลย

    หรือกรณี ที่เป็นภาพ จิตจะจดจ่อต่อภาพในส่วนหนึ่งเป็นเครื่องอยู่
    ในอีกส่วนหนึ่ง จะมองมาในภายใน เห็นยินดี ยินร้ายในการกระทบในภายใน
    ที่นำขึ้นด้วยรูปนิมิตร

    เรียกว่า หากเดินลำดับในปฎิภาคนิมิตร ที่เริ่มเข้าองค์ฌาน
    จิตมีรูปนิมิตตั้งเป็นเครื่องรู้ในภายใน สติมีเครื่องระลึกในการกระทบในภายใน
    นั่นคือ จิตที่ยินดี ยินร้าย ต่อการกระทบในภายในที่มีรูปนิมิตเป็นเครื่องตั้ง

    ฉะนั้นที่กล่าวมาตามสี น้ำเงิน เป็นการกล่าว ที่ไม่เคยสัมผัส
    ความรู้ที่ผุดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ และมีสติรู้พร้อมอยู่






    บางคนเกิดวิปัสสนูได้ หากเข้าไปหมายมั่น เพราะคิดอะไรก็คิดออกไปหมด เกิดความรู้ผุดขึ้นมามากมาย จนไม่เห็นไตรลักษณ์ และความไม่แน่นอนในความรู้นั้น ว่าสุดท้ายก็ดับไป...

    ผู้ที่มีสติรู้พร้อมเห็นอยู่ในความเกิดดับ เกิดดับ นั้นแหล่ะ
    ยิ่งเห็นแน่น เห็นมากในการอบรม
    ปัญญาจะเริ่มใกล้เข้าไปเห็น ไตรลักษณ์ ขึ้นมาทุกที





    คำว่า ญาณ ในอุปกิเลส 10
    2) ญาณ ความรู้เช่นทิพจักขุญาณ จากจิตที่เป็นสมาธิภาวนา สามารถเห็นนรก สวรรค์ พรหมโลก รู้อดีต อนาคต ปัจจุบัน ได้ตามสมควร เลิกทำต่อไป หลงผิดคิดว่าได้ บรรลุมรรคผล ไม่ใช่อารมณ์วิปัสสนาญาณ ควรระมัดระวังไม่ให้หลงผิด
     
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก็หลวงปู่มั่น กับหลวงปู่ดู่นี่แหละ
    แต่เป็นเรื่องธรรมที่เราสงสัย ท่านจะมาแก้ให้

    นานๆทีนะ แบบว่าจิตมันวนอยู่กับเรื่องที่สงสัยไม่ไปที่อื่น
    สงสัยจิตมันจะรวมเพราะเรื่องๆนั้น

    เรื่องนิมิตพวกนี้เวลาคนอื่นเล่า ก็ต้องใช้วิจารณญาณมาก
    ระหว่างอุปาทาน กับเข้าไปรู้จริง
    ของตัวเองก็เลยไม่อยากเล่า..
     

แชร์หน้านี้

Loading...