"ความเกิดเป็นทุกข์" สมเด็จพระสังฆราชเทศน์สอนสมเด็จพระเทพ ฯ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 2 เมษายน 2012.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    [​IMG]
    พ่อหลวงฟังธรรมจากสมเด็จพระสังฆราช​

    [​IMG]
    พ่อหลวงและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี​

    [​IMG]
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี​


    เรียนกัลยาณมิตรชาวพลังจิตดอทคอมทุกท่าน

    เนื่องด้วยวันที่ ๒ เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เว็บพลังจิตดอทคอมจึงขออาราธนาพระธรรมเทศนาที่สมเด็จพระสังฆราช ฯ รับพระราชทานถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ มาให้ทุกท่านได้รับฟังและพิจารณาธรรมครับ

    พระธรรมเทศนา "พุทธุปปัตติกถา"
    ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ ๓ รอบ
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
    ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
    วันอังคาร ที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔ เวลา ๑๖.๓๐ น.
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    รับพระราชทานถวาย

    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพทธฺธสฺส
    ยทา จ พุทฺธา โลกสฺมึ อุปฺปชฺชนฺติ ปภงฺกรา
    เตมํ ธมฺํ ปกาเสนฺติ ทุกฺขูปสฺมคามินนฺติ.

    ...อันพระพุทธเจ้านั้นทรงเป็นผู้ทำความสว่างให้แก่โลก ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่รับพระราชทานยกไว้เป็นบทอุเทศ แปลความว่า
    "เมื่อพระพุทธเจ้าผู้ทำความสว่างเกิดขึ้นในโลก พระองค์ย่อมทรงประกาศธรรมสำหรับดับทุกข์"​

    ท่านผู้ไกลกิเลสแล้วสิ้นเชิง คือ สิ้นโลภสิ้นโกรธสิ้นหลงทั้งหมดแล้ว มีพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ พร้อมพระอรหันต์พุทธสาวกทั้งนั้น เมื่อล่วงพ้นโลกไปแล้ว ย่อมไมเกิดอีก ส่วนผู้มีกิเลสทั้งหลาย เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมต้องเกิดใหม่ จักในภพภูมิใดย่อมแล้วแต่กรรมที่ตนเองได้กระทำไว้ ย่อมเป็นตามกรรม กรรมดีย่อมนำไปสู่ภพภูมิที่ดี กรรมไม่ดีย่อมนำไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดี และทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี ที่จะนำให้ต้องเกิดในภพภูมิที่ดีและที่ไม่ดี มิใช่สิ่งที่พึงปรารถนาสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ความเกิดเป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดด้วยกรรมดีหรือไม่ดี คือ เกิดในภพภูมิที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม ทรงแสดงว่าเป็นทุกข์ทั้งสิ้น ไม่มีความสุขในการเกิดด้วยกรรมใดในภพภูมิใดทั้งสิ้น เหตุผลที่เห็นได้ชัดเจนที่ขอรับพระราชทานถวายได้ดังนี้​

    เมื่อมีความเกิด ย่อมมีความเจ็บไข้ ย่อมมีความแก่ ย่อมมีความตาย และความเจ็บ ความแก่ ความตายนั้น ทุกคนย่อมยอมรับว่า เป็นความทุกข์ของทุกคนจริง เมื่อเผชิญกับความเจ็บทุกคนทุกข์ เมื่่อเผชิญกับความแก่ทุกคนทุกข์ เมื่อเผชิญกับความตายทุกคนทุกข์ ไม่เพียงเท่าที่เป็นความแก่ความเจ็บความตายของคนเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปทั่วถึงความแก่ความเจ็บความตายของผู้อื่นอีกด้วย โดยเฉพาะผู้อื่นซึ่งเป็นที่รัก เมื่อเกิดแล้วไม่เจ็บไม่ตายไม่มี​

    นั่นก็คือ เมื่อเกิดแล้วก็ต้องมีทุกข์ต้องเป็นทุกข์ รับพระราชทานสรุปได้เป็นสัจจะ ตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ว่าทุกชีวิต ไม่ว่าคนหรือสัตว์ มีทุกข์ครอบงำอยู่ในปัจจุบัน มีทุกข์ที่จะต้องเผชิญอีกต่อไปในเบื้องหน้า ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าเป็นความสว่าง ยังให้เป็นที่รู้กันว่าความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์ ความแห้งใจร่ำไรรำพันเป็นทุกข์ ความชอกช้ำใจเสียใจเป็นทุกข์ ความไม่สบายกายไม่สบายใจเป็นทุกข์ ความประจวบสิ่งที่ไม่ชอบใจเป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักเป็นทุกข์ ความไม่สมปรารถนาเป็นทุกข์​

    ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่ พระพุทธองค์จึงมิได้ทรงชี้ให้รู้จักความทุกข์เท่านั้น ได้ทรงประกาศธรรมสำหรับดับทุกข์ด้วย ดังพุทธศาสนาสุภาษิตที่รับพระราชทานยกไว้ป็นบทอุเทศแปลความแล้วข้างต้น...​

    ที่มา : คัดลอกจากหนังสือพระมงคลวิเสสกถาและพระธรรมเทศนาในการพระราชกุศล หน้า ๕๕๐ - ๕๕๑
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • king-raja-01.jpg
      king-raja-01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.5 KB
      เปิดดู:
      2,330
    • king602.jpg
      king602.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.8 KB
      เปิดดู:
      2,400
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2012
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    [​IMG]
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เป็นพระราชธิดา ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายนพ.ศ. 2498พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (พระราชอุปัชฌาย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) เป็นผู้ถวายพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์"

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2520 ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการสถาปนาพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ เฉลิมพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี" นับเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงพระองค์แรก ที่ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์ที่ “สยามบรมราชกุมารี” แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

    พระองค์มีพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านอักษรศาสตร์และดนตรีไทย ซึ่งพระองค์ได้นำมาใช้ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และให้การอุปถัมภ์ในด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ จากพระราชกรณียกิจในด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ พระองค์จึงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายพระสมัญญาว่า “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วิศิษฏศิลปิน” นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม โดยทรงมีโครงการในพระราชดำริส่วนพระองค์หลายหลากโครงการ ซึ่งโครงการในระยะเริ่มต้นนั้น มุ่งเน้นทางด้านการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิ่นทุรกันดาร และพัฒนามาสู่การให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาบุคคลอย่างสมบูรณ์

    พระราชประวัติ

    พระราชสมภพ

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายนพ.ศ. 2498 (ตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม สัปตศก) ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์ เป็นผู้ถวายพระประสูติกาล และได้รับการถวายพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลยโสภาคย์ พร้อมทั้งประทานคำแปลว่า นางแก้ว อันหมายถึง หญิงผู้ประเสริฐ และมีพระนามที่ข้าราชบริพาร เรียกทั่วไปว่า ทูลกระหม่อมน้อย[1][2]

    พระนาม "สิรินธร" นั้น นำมาจากสร้อยพระนามของสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ซึ่งเป็นพระราชปิตุจฉา (ป้า) ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

    สำหรับสร้อยพระนาม "กิติวัฒนาดุลย์โสภาคย์" ประกอบขึ้นจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบรมราชบุพการี 3 พระองค์ ได้แก่ "กิติ" มาจากพระนามาภิไธยของ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ" สมเด็จพระราชชนนี (แม่) ส่วน "วัฒนา" มาจากพระนามาภิไธยของ "สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า" (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) สมเด็จพระปัยยิกา (ย่าทวด) และ "อดุลย์" มาจากพระนามาภิไธยของ "สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก" สมเด็จพระอัยกา (ปู่)

    การสถาปนาพระอิสริยศักดิ์

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลยโสภาคย์ ทรงได้รับความสำเร็จในการศึกษาอย่างงดงาม และทรงได้บำเพ็ญพระองค์ให้เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองเป็นอเนกปริยาย โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ อยู่เสมอ ในด้านการพัฒนาบ้านเมือง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาและช่วยเหลือกิจการโครงการตามพระราชดำริทุกโครงการ พร้อมทรงรับพระบรมราโชบายมาทรงดำเนินการสนองพระเดชพระคุณในด้านต่าง ๆ นับเป็นการดูแลสอดส่องพระราชกรณียกิจส่วนหนึ่งต่างพระเนตรพระกรรณ ในด้านการพระศาสนา มีพระหฤทัยมั่นคงในพระรัตนตรัยและสนพระหฤทัยศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นอย่างแตกฉาน ในส่วนราชการในพระองค์นั้น ก็ได้สนองพระเดชพระคุณในพระราชภารกิจที่ทรงมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระองค์นี้ กอปรด้วยพระจรรยามารยาท เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติแห่งขัตติยราชกุมารีทุกประการ เป็นที่รักใคร่นับถือ ยกย่องสรรเสริญพระเกียรติคุณกันอยู่โดยทั่ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศและพระอิสริยศักดิ์ให้สูงขึ้น ให้ทรงรับพระราชบัญชาและสัปตปฎลเศวตฉัตร (เศวตฉัตร 7 ชั้น) พร้อมทั้ง เฉลิมพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2520[4]

    ในการสถาปนาพระอิสริยยศสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ตั้งแต่เริ่มตั้งกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน การสถาปนาพระยศ "สมเด็จพระ" นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการสถาปนาพระยศของสมเด็จพระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง สมเด็จพระบรมอัยยิกาเธอ พระวิมาดาเธอ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ในรัชกาลต่าง ๆ แต่การสถาปนาในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า ขึ้นเป็น "สมเด็จพระ" จึงเป็นพระเกียรติยศที่สูงยิ่ง[9]
    <SUP></SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP>ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย คลิก</SUP>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2012
  3. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  4. อุกฤษ

    อุกฤษ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +1
    ทรงพระเจริญ

    ขอพระองค์ทรงพระเจิญ มีพระวรกายแข็งแรง
     
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ...
     
  6. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  7. keawwichian

    keawwichian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +200
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ......
     
  8. tarh2o

    tarh2o เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +168
    ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
     
  9. นกยูงเงิน

    นกยูงเงิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  10. packmilan

    packmilan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  11. Unlimited Indy

    Unlimited Indy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,228
    ค่าพลัง:
    +803
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  12. Pandhaka

    Pandhaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +458
    ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของประชาชนตลอดไป
     
  13. JigSawJit

    JigSawJit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +47
    กราบอนุโมทนาสาธุด้วยจิตคารวะอย่างสูงสุด และ ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...