ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

อ้าว จำชื่อรุ่นผิด แซยิด93ครับ ที่กล่องเขียนไว้ไม่ได้อ่าน

 

100 ปีชาติกาลหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข พระอมตะเถราจารย์ แห่ง วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม

พระมงคลสิทธิการหรือหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข
พระอมตะเถราจารย์แห่งวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม



ชื่อนี้ประจักษ์ในฐานะพระเกจิอาจารย์อันดับต้นๆของประเทศไทย
และนับเป็นสุดยอดพระผู้ยิ่งใหญ่ด้วยเมตตาบารมี เป็นเนื้อนาบุญอันไพศาล

ชีวิตของท่านอุทิศแล้วในพระพุทธศาสนา
ด้วยแรงกายแรงใจช่วยเหลือผู้ยากไร้มิเคยขาด
ที่สำคัญท่านพ้นแล้วซึ่งวังวนของกิเลสและตัณหา
มุ่งแผ่เมตตาธรรมโดยถ้วนหน้า แก่ทุกชีวิตที่เข้ามาพึ่งใบบุญโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

สายตาของท่านมองทุกคนด้วยความเท่าเทียมกัน
ทุกคนจึงได้รับความเมตตาจาก หลวงพ่อพูล เป็นอย่างดีมาโดยตลอด

หลวงพ่อพูล เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก
และด้วยความสมถะท่านจะนิ่ง พูดน้อยจนได้รับสมญา "ของจริงต้องนิ่งใบ้"



ประวัติโดยย่อของ "พระมงคลสิทธิการ"
หรือ หลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข วัดไผ่ล้อม นครปฐม


หลวงพ่อพูลท่านเกิดในสกุล "ปิ่นทอง"
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ย. 2455 ปีชวด (ร.ศ.131)
เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน

บิดาชื่อ "นายจู ปิ่นทอง" มารดาชื่อ "นางสำเนียง ปิ่นทอง"
ณ บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.ดอนยายหอม นครปฐม
จบการศึกษาระดับชั้นประถม 4 ที่โรงเรียนวัดห้วยจระเข้
จังหวัดนครปฐม เมื่อปีพ.ศ. 2471

จากนั้นท่านจึงได้ฝึกอ่านเขียนอักษรขอม
และ วิชาแพทย์แผนโบราณจาก "โยมปู่แย้ม ปิ่นทอง" โยมปู่แท้ๆ ของท่าน และยังได้รับการถ่ายทอดวิชา คาถาอาคมจาก
หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ
หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
หลวงปู่กลั่น วัดพระประโทนเจดีย์
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

ในวัยหนุ่ม หลวงพ่อพูลท่านชอบวิชาการต่อสู้ของลูกผู้ชาย
จึงฝึกและศึกษาวิชามวยไทย และที่สำคัญท่านเคยเป็นนักมวยฝีมือฉกาจ
จนเมื่อมีอายุครบวัยเกณฑ์ทหาร ท่านจึงได้ทำหน้าที่พลเมืองดีของชาติ
ด้วยการเป็นทหาร สังกัดทหารม้า
เป็นทหารรักษาพระองค์ กองบัญชาการเดิมอยู่ที่สะพานมัฆวาน กรุงเทพฯ

ซึ่งตรงกับช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
โดย หลวงพ่อพูลได้รับยศเป็นนายสิบตรี ซึ่งท่านมีความภาคภูมิใจในการรับใช้ชาติเป็นอย่างมาก

หลังจากปลดประจำการแล้ว ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2480 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 12 ค่ำ ปีฉลู
ณ พัทธสีมาวัดพระงาม อ.เมือง จ.นครปฐม
โดยมี พระครูอุตตการบดี (หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ)
เจ้าคณะ อ.เมือง เจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้ เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังบวชแล้ว ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ.2482

ในระหว่างนี้เองหลวงพ่อพูลท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิต ฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคมต่างๆ
จึงทำให้ท่านศึกษาถ่ายทอดมหาพุทธาคมได้อย่างรวดเร็ว
และที่วัดพระงามนี้ ท่านได้มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม

ในกระบวนพระเกจิอาจารย์ที่เป็นบูรพาจารย์ของ หลวงพ่อพูล นั้น

หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นหนึ่งในบูรพาจารย์ที่ท่านให้เคารพเป็นอย่างสูง
ท่านได้รับคำแนะนำสั่งสอน ในเรื่องการเจริญสมาธิภาวนา
การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล และวิชาอาคมต่างๆ
โดยหลวงพ่อเงินเมตตาถ่ายทอดวิชาต่างๆ อย่างไม่ปิดบัง

ซึ่งเมื่อหลวงพ่อพูลได้รับคำแนะนำจนเป็นที่มั่นใจแล้ว
ท่านจึงออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรเพื่อฝึกฝนสมาธิจิต

และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสปกครองวัด
เนื่องจากว่าเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานก็ต้องลาสิกขาไป
หลวงพ่อพูลจึงย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม
พร้อมกับได้ทำการก่อสร้าง และพัฒนาวัดเรื่อยมา

ตลอดเวลาท่านพยายามมุมานะในการศึกษาด้านการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
และวิชาอาคมต่างๆ เพื่อที่จะนำไปใช้ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ที่เดือดร้อน ด้วยความเท่าเทียมกันทุกคนเสมอมา

 

ขอบารมีหลวงพ่อทวด หลวงปู่ดู่ และ เกจิ อาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก ทุกรูป สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลาย
ได้โปรดคุ้มครองเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฎิบัติหน้าที่ขอให้ปลอดภัยทุกท่านครับ.

และขอ อนุโมทนา กับทั้งสองท่านแล้วก็ผู้เกี่ยวข้องทุกๆท่าน.ด้วยคนครับ

 

สาธุ อนุโมทามิครับผม

 

555 จะเลื่อนไปไหนอีกครับคุณพลศิริ.(smile)

 

เมื่อไหร่จะได้ชมพระหลวงปู่ทวดสวยๆจากกรุคุณ motana บ้างน๊าาาาาาา??????

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พลศิริ
เห็นข้อความคุณ Norragate สุดหล่อแล้ว และของพี่มีสุดสวยแล้ว
ขอ copy cat หน่อยเด้อ เผื่อเสี่ยใจอ่อนอีกมั่ง

เสี่ยล้างคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ......
อยากได้สร้อยจัดสร้อยพระ เซต"เลื่อนสมณศักดิ์"ให้เข้าชุดสัก3องค์จังเลยคร้าบบบบบบบ...
(อีกเพียงสามเหรียญก็เป๊ะเลยยยยย)... 5555 ^__^

ใจอ่อนมั่งเปล่าเนี่ย5555555555555555
</TD></TR></TBODY></TABLE>

555 ผมว่าเสี่ยล้างใจมาเป็นแกนนำสร้างเลื่อนสมณะศักดิ์ รุ่น 3 เองเลยดีกว่าครับ...จะได้มีเลื่อนฯไว้แขวนกันถ้วนหน้า..ฮ่าๆ ^__^

 

​

 

สวัสดียามเย็นครับอ.จงอาง....
ขอนแก่นฝนตกหนักมากครับ.......ทางนู้นอากาศร้อนมากมั้ยครับ.งดูแลสุขภาพด้วย... (^__^)

 

เสี่ยล้างใจเคยมากราบหลวงปู่ทวด วัดห้วยมงคล อ.หัวหินมั้ยเอ่ย... ^__^

 

เลื่อนไปเรื่อย ๆ ครับเสี่ย หยุดตรงที่พอใจพุ้นแหละครับผม

 

เม็ดแตง....น่ารักๆ ^__^

 

ผมว่ารุ่นที่เราคุยๆกัน เป็นรุ่น3นะครับ....
เพราะรุ่น2ผมว่าคือรุ่นนี้ ฮาฮาฮา

 

โห เสียดายแท้
ผมอุส่าห์ไปถึงวัดแล้วแต่ไม่ได้เช่าองค์บูชา53มาซักองค์ ..:'(



...

 

ไม่เคยไปเลยจ้า แฟนคุณนอร์ซ้ายหรือขวา.ครับ..

 

อ้าวไม่ยอมแวะลอนดอน จะได้มีโอกาสเป็นเกียรติเชิญ อ.จงอาง ทานอาหาร :'(

 

สัทธา ทานัง อนุโมทามิ

 

ทั้งคู่ค่ะเสี่ย เฮีย Norragate แกเป็นโรครักพี่เสียดายน้องค่ะ

อ้าวคุยตั้งนานลืมสวัสดีกัลยาณมิตรค่ะ
สวัสดีัค่ะ อ.จงอาง, เสี่ยล้าง, ท่านรอง, คุณ nuanpan, เฮีย Norragate, คุณchongkasem, คุณพลศิริ, คุณwatchdog, คุณmotana, อ.ช้าง, คุณธรรมประทีป และศิษย์หลวงปู่ทวดทุกๆท่าน..

 

ไปเที่ยวก็ไม่บอก จะฝากบูชาไม้กางเขนเงินแบบมีพระเยซู จากอิตาลี มาซักองค์

สมัยตอนเด็กๆบาทหลวงที่โรงเรียนเขาแจกให้แต่ทำหาย...ยังอยากได้มาจนถึงทุกวันนี้


เม ไอ แฮ้ป อะคูส สิ ฟิก วัน พีสสสสสส

 

เพียงแค่เสี้ยววินาที...ผมอาจไม่ได้มานั่งพิมพ์อยู่ตรงนี้แล้วล่ะครับ....

หลังจากโพสล่าสุดเมื่อตอนเย็น..พอฝนหยุดตกผมก็ขับมอไซด์ออกไปรับแฟนช่วงเลิกงาน
ระหว่างขากลับบ้าน ต้องเลี้ยวยูเทิร์นกลับรถซึ่งช่วงเย็นวันศุกร์รถจะเยอะมาก พอผมกลับรถมาได้สัก100เมตรก็ยังขับอยู่เลนส์ขวาสุด เพราะรถบนถนนมิตรภาพช่วงขาเข้าจะขับเร็วมาก ผมก็อาศัยขับชิดขวาบนไหล่ทางมาได้ประมาณ1กม.กว่าๆ ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ,กระจกหมวกกันน๊อกก็มืดจึงมองอะไรไม่ค่อยเห็นบวกกับเม็ดฝนที่ปะทะเข้ามาที่หน้ากระจกหมวกกันน๊อก(คนขับมอไซด์กลางฝนจะททราบดี เพราะไม่มีที่ปัดน้ำฝนเหมือนรถยนต์) จู่ๆผมก็เห็นกิ่งไม้ขนาดใหญ่ขวางหน้าบนไหล่ทางของเลนส์ขวาในระยะกระชั้นชิด(น่าจะเกิดจากช่วงที่ฝนตกหนักตอนบ่ายของพายุฤดูร้อนจึงทำให้กิ่งไม้หักลงมา) แค่เสี้ยววินาทีที่ผมจะตัดสินใจ2อย่างก็คือขับชนกับเบี่ยงออกซ้าย (เพราะหากเบี่ยงขวาสุดก็ตกลงเกาะกลางถนนแน่นอน..ลึกด้วย)และเสี้ยวนาทีตัดสินใจที่จะเบี่ยงออกซ้ายนั้นผมก็เหลือบไปเห็นกระจกข้างว่ามีรถกระบะสีขาววิ่งมาด้วยความเร็วสูง,ในใจตอนนั้นหากจะเบี่ยงออกซ้ายเยอะๆเพื่อให้พ้นกิ่งไม้ ก็จะต้องโดนรถกระบะเฉี่ยวไปครึ่งคันแน่ๆ จะเบรกก็ไม่ได้ ถนนลื่นมาก,อีกแค่ไม่กี่เมตรก็จะชนอยู่แล้วผมจึงตัดสินใจหักออกเพียงนิดเดียวเพื่อไม่ให้โดนรถกระบะข้างหลังเฉี่ยวชนแต่ก็ไม่พ้นกิ่งไม้ใหญ่นั้นอยู่ดี..จึงได้ชนปลายๆของกิ่งไม้ใหญ่นั้น จนเกิดเสียงดังเพราะกระทบกับบังโคลนฝั่งเหยียบเบรกเท้าขวาของผมอย่างจัง..(ตอนนั้นบิดแค่60 ยี่ห้อ Wave ) แฟนผมนั่งนิ่งและเกาะเอวไว้แน่นมากๆแต่เธอก็ไม่ได้เอะอะตกใจอะไรมากมาย รถมอไซด์จึงทรงตัวได้โดยไม่ล้มและขับต่อไปได้...แต่วินาทีนั้นใจหล่นไปอยู่ตะตุ่มเลยครับ เพราะเป็นนจังหวะที่รถกระบะคันนั้นแซงผมพอดี ซึ่งอีกแค่ไม่กี่เซ็นติเมตรก็จะโดนเฉี่ยวแล้ว...ขับมาได้สักพักเกิดรู้สึกชาบริเวณเท้าและหน้าแข้งด้านขวามากๆเพราะกระแทกกับกิ่งไม้ในตอนนั้น พอจอดรถดูก็พบว่าเลือดไหลและมีเศษกิ่งไม้ที่ฝังอยู่ในหัวแม่โป้งเท้าและบริเวณหน้าแข้ง..ก็เป็นเพียงเศษเล็กๆสีดำๆ ผมจึงแคะด้วยเล็บออกมา เท่านั้นล่ะครับ เลือดไหลปรี๊ดเลยยย...แต่ก็ประคองขับไปแวะซื้อน้ำล้างแผลจากเซเว่นและแปะปาสเตอร์ยากันข้างทางเลย,จากนั้นก็ให้แฟนช่วยขับกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยครับ........โชคดีมากครับที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้...
สุดท้ายอยากบอกว่ามีเพียงองค์เดียวที่แขวนตอนนั้นคือหลวงปู่ทวดรุ่น M.16 ครับ...ถือเป็นประสบการณ์แรกเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนตั้งแต่ที่ได้แขวนรุ่นM.16มาตลอด1สัปดาห์เลยครับ...( แฟนผมแขวนหลวงปู่ทวดติดตัวเสมอเช่นกัน แต่เป็นองค์ลอยเล็กๆของวัดช้างไห้ ที่ไม่ทราบประวัติการสร้าง)


ลูกขอกราบหลวงปู่ทวดด้วยใจเคารพยิ่ง,ที่ช่วยคุ้มครองให้ลูกแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง,หรือผ่อนหนักให้เป็นเบาครับ...


นะโมโพธิสัติโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโมโพธิสัติโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโมโพธิสัติโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา