ในกรุงเทพ มีตรงไหนพอหลบภัยได้บ้าง

พอดีคิดถึงคนเฒ่าคนแก่ คนไม่มีรถ ถึงเวลานั้นเค้าจะเดินทางยังไง

พอจะมีที่ไหนที่มีโครงสร้างแข็งแรงพอหลบภัยสัก 2-3 คืน รอให้คนมาช่วยก่อนบ้างมั้ย

แล้วพระเจดีย์ภูเขาทองพอจะพักชั่วคราวได้มั้ยคะ

บอกตามตรงว่า กลัวว่าถ้าถึงเวลาจริงๆแล้วหนีไม่ทันอ่ะ

 

ตอนนี้เราลองเล็งที่ใกล้ๆดู

คิดว่าที่นี่คาดว่าจะปลอดภัย พอติดเกาะอยู่ได้(อ่านจากคุณอัญญาสิทธิ์)

อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี ห่างจากกรุงเทพ 100 กิโล

ส่วนตัวไม่เคยไป แต่ว่าว่างๆจะลองไปดู ยอดสูงสุด 1,000 กว่าเมตร


เหยียบ

 

อนุโมทนาสาธุ ดีเลยทีเดียวแต้ผู้คนจะแออ้ดยัดเยียดกันหน่อย

 

คิดจะปหลบภัยที่ อช. พุเตย ด่านช้าง.....

ต้องรีบไปตีซี้กับกะเหรี่ยงแถวบ้านตะเพินคี่ไว้ก่อน นะครับ
จะได้มีของกินไม่ต้องอดอยาก.......อิอิอิอิ

แถวนั้นฤดูนี้มีเห็ดโคนป่าขึ้นเยอะ ชาวบ้านชาวเมืองขึ้นไปเก็บกันมาก
โดยเฉพาะบริเวณที่เครื่องบินเลาด้าร์แอร์ตกเมื่อหลายสิบปีก่อน
มีเห็ดขึ้นชุกชุมเป็นพิเศษ

แต่ขอบอกไว้นิดนึง......ด้วยความปรานารถดี
ผีเลาด้าร์นี่ดุไม่แพ้ผีไทย นะครับ
ไม่เชื่อไปถามคนเก็บเห็ดดูเอาเอง.....55555555555 :'( :'( :'(

 

คุณ nirvana เคยไปสำรวจแล้วเหรอคะ

พอดีแค่คาดเดาเฉยๆ ยังไม่เคยไปเหมือนกัน แต่รู้สึกสัตว์ป่าจะเยอะ (จะรอดมะเนี่ย - -")

 

ถ้าเชื่อมั่นในพระศรีรัตนตรัยและพระเจ้าแผ่นดิน ไปหาวัดที่ใกล้ที่สุดที่พระองค์ท่านเคยเสด็จ

 

ถ้าเป็นพายุใหญ่ๆเข้ากรุงเทพฯ แบบจัดหนัก หรือมีความรุนแรงระดับพายุโซนร้อนขึ้นไปถึงไต้ฝุ่น

ผมแนะนำว่าควรอพยพก่อนพายุจะเข้า ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี เพราะรถจะติดมากๆครับ
ไม่ควรตัดสินใจอยู่ แม้จะมีตึกสูงอาศัย มีเสบียงพอเป็นเดือนๆก็ตาม เพราะกรุงเทพฯมีคนอาศัยอยู่มาก ถ้าจะรอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
ก็คงรอไม่ไหว เพราะกำลังคนทางราชการจะไม่พอ ถ้าติดอยู่ในกรุงเทพฯตอนน้ำท่วมจากพายุใหญ่จะลำบากมากครับ

ผมเองมีแนวคิดจะไปหลบภัยพิบัติใหญ่ในช่วง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ถึงอ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตอนนี้ผมกำลังเช็คหาที่เหมาะๆอยู่ครับ ถ้าหาที่ได้สำเร็จแล้วจะตั้งหมู่บ้านสำหรับหลบภัยพิบัติขึ้นมา ถ้าสนใจก็ติดตามอ่านที่กระทู้ข้างล่างนี้ดูนะครับ อีกสักพักผมจะตั้งกระทู้เฉพาะกิจสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะอีกทีครับ

http://palungjit.org/threads/รวมพลคนสู้ภัยพิบัติ.337576/page-3

 

ลองศึกษาข้อมูลของ "ธรณีสูบ...มหันตภัยล้างโลก...หลักฐานสำคัญ..." บนกระดาน"ภัยพิบัติและการเตรียมการ" บางทีอาจได้ความคิดอะไรใหม่ๆ ก็ได้ครับ

 

ต่อไปต้องหากินแบบที่คนพื้นเมืองเขาทำกันแล้วค่ะ เช่น หาหน่อไม้ ผักงอ รังมดแดง ฯลฯ

 

เห้นด้วยครับ เรื่องรถติดกรุงเทพฯ ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องออกนอกเมืองก็ไม่ควรรีรอ เปิดวิทยุ จส 100 ไว้ครับ มีแผนที่ไว้ทางไหนติด จะเลี่ยงไปอย่างไร อาหารน้ำและสิ่งจำเป็น ควรติดไว้ในรถด้วย

 

ขออนุโมทนาครับ คุณARUNN ผู้มีจิตใจงาม คิดถึงผู้ที่ช่วยตนเองได้ยากเช่น คนเฒ่าคนแก่ แค่น้ำท่วมครั้งที่แล้ว คนเฒ่าคนแก่น่าสงสารมากครับ นอกจากนี้ยังมีสัตว์เลี้ยงเจ้าของปล่อยไว้ตามยถากรรม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องวางแผนการ ประสานไปยังอำเภอ ตำบล หมู่บ้านให้ดี น้ำท่วมครั้งที่แล้ว ไม่น้อยที่ไปอาศัยโรงเรียน เรื่องสำคััญคือปัจจัยที่จำเป็นเพื่อความอยู่รอดต้องมีให้เพียงพอ ถ้าทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันทำคนละไม้ละมือก็เป็นสิ่งดีครับ และจะได้กุศลมีผลบุญด้วย

 

เอาภาพตัวอย่างที่สหรัฐโดนพายุเฮอริเคนแคทริน่าเข้าไป จะทำให้มองเห็นภาพชัดขึ้น
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่ต้องถึงกับเป็นพายุระดับนั้น แค่ฝนตกหนักนานๆเพียงแค่ระดับดีเปรสชั่นที่ถล่มภาคใต้จนน้ำป่าไหลท่วมเมือง ถ้าเกิดในกรุงเทพฯก็คงย่ำแย่แน่ครับ

AMAZING RAW VIDEO Hurricane Katrina roof top flooding St Bernard La - YouTube

 

รถติดบนทางด่วนเป็น ชั่วโมงๆ เคยทำงานที่พันทิพย์ ไป ติดบนทางด่วน เกือบ 2 ช.ม
ไปทำงานสาย งานเข้า 11 โมง ไปถึงป้าย 8 โมง เช้านิดๆ กว่าจะถึงที่ทำงาน 11 โมง
15-30 งง เลย

 

สถานที่ที่พอนึกออก...ครับ

1. สนามบินทั้งสองแห่ง...ชั้น 2 เป็นต้นไป...พอหลบภัยได้...พื้นที่กว้างขวาง

- ดอนเมือง...มีสะพาน (ถนน) เชื่อมต่อกับโทลเวย์
- สุววรณภูมิ...มีสะพาน (ถนน) เชื่อมต่อมายังมอเตอร์เวย์

สะพาน (หรือถนน) เหล่านี้ก็พอที่จะพักพิง หรือใช้ประโยชน์ได้ด้วย...นอกจากตัวอาคาร
การนำ ฮ. หรืออากาศยานมารับ....ก็สะดวก

2. อาคารสนามกีฬาต่างๆ...เช่น ศูนย์กีฬารังสิต หัวหมาก ปทุมวัน...มีสนามให้ ฮ.ลงได้

3. อาคารจอดรถ / ตึกขนาดใหญ่ ที่ดาดฟ้ากว้างพอที่จะให้ ฮ.ลงได้...ส่วนชั้นถัดลงมาก็ใช้พักอาศัย หลบภัย (ไม่ควรเป็นตึกสูง)

4. จากบทเรียนที่ผ่านมาช่วงน้ำท่วม...ทางด่วนสามารถใช้สัญจรไปมา และหลบภัยได้...ยกเว้นกรณีแผ่นดินไหว

5. โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถานศึกษา....ที่มีสนามฟุตบอลกลางแจ้ง

.

 

ที่น่ากลัวกว่าภัยที่เกิดในขณะนั้นคือหลังจากนั้น
ในกรุงเทพไม่มีแหล่งอาหารของตัวเอง
เพราะต้องส่งอาหารเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ
ถ้าระบบการส่งอาหารนี้ ขาดช่วงไปคนกรุงเทพจะอยู่ได้กี่เพลา
ไม่สามารถตอบได้ ขนาดนำมันพืชขาดตลาดคนยังตบกันเลยครับ
ถ้าเกิดดภาวะหิวโหย จะรุนแรงกว่านี้มาก
แต่จะแรงขนาดใหนก็แล้วแต่ว่าในวงที่เราอยู่นั้นจะเลวมากน้อยต่างกัน
และน่าเป็นห่วงคือคนที่คิดว่าชีิวิตสิ้นหวังแล้ว
โลกจะแตกแล้ว คนเหล่านี้จะทำอะไรคาดเดายาก

ส่วนสถานที่ตรงใหน จะปลอดภัยที่สุดบ้าง
ไม่มีใครการันตรีได้หรอกครับ
นอกจากไปหาที่เสี่ยงน้อยที่สุดสำหรับตัวเองครอบครัวเท่านั้นเองครับ

 

เผื่อว่าช่วงนั้น เราอาจจะต้องไปอบรมที่ กทม. ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ^^

 

ถ้าอยู่ไกล้ภูเขาทอง คิดว่าอยู่ทำเลดีมากนะ เช่น ความสูง และที่พักบังด้วย แข็งแรงด้วย และมีพระธาตุของจริงให้เคราพบูชาด้วย

ขออนุโมทนาสาธุ เจ้านี้เขาฉลาดนะเข้าใจคิด เรามีข้อมูลเตือนสำคัญคือระวังเรื่องไฟดูด น่าทำให้คนตายง่ายและเร็วด้วย ต้องระวังให้มากเพราะภัยธรรมชาติพอจะหลบหลีกได้หรือภัยธรรมชาติจะเกิดเป็นเฉพาะที่ๆ เราสามารถหลบหลีกก็พอจะพ้นภัยได้แล้วในระดับหนึ่ง
ที่แรกเห็นว่า กระทู้เขียนว่ากทม คงยากไม่จำเป็นต้องเข้ามาดู แต่มาดูแล้วก็มีเหตุผลดี (คงต้องรวมคนทุกวัยด้วยแล้วล่ะ เด็ก และ ผู้หญิง ผู้ชาย และสัตว์ต่างๆเท่าที่จะช่วยได้ด้วยนะ ถ้ามีที่ให้พักผ่อนก่อน ก็จะมีเวลามานั่งคิดอะไรต่อไปได้ก็คงจะดีไม่น้อยเพราะการหนีออกไม่ทันย่อมจะมีอยู่แน่)
คุณzz พูดถูก เป็นสถานที่น่าสนใจนะ พวกเราอาจจะมองข้ามไป แต่ต้องระวังอย่างหนึ่งคือการมีคนมาอยู่กันมากก็ต้องระวังการมาแย่งอาหารและน้ำกันด้วยนะ
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ZZ
สถานที่ที่พอนึกออก...ครับ

1. สนามบินทั้งสองแห่ง...ชั้น 2 เป็นต้นไป...พอหลบภัยได้...พื้นที่กว้างขวาง

- ดอนเมือง...มีสะพาน (ถนน) เชื่อมต่อกับโทลเวย์
- สุววรณภูมิ...มีสะพาน (ถนน) เชื่อมต่อมายังมอเตอร์เวย์

สะพาน (หรือถนน) เหล่านี้ก็พอที่จะพักพิง หรือใช้ประโยชน์ได้ด้วย...นอกจากตัวอาคาร
การนำ ฮ. หรืออากาศยานมารับ....ก็สะดวก

2. อาคารสนามกีฬาต่างๆ...เช่น ศูนย์กีฬารังสิต หัวหมาก ปทุมวัน...มีสนามให้ ฮ.ลงได้ (ดีตรงที่เป็นที่มั่นแข็งแรงและอยู่ขึ้นไปในความสูงพอประมาณด้วย
ไม่มีอุปกรณ์สำนักงานให้หนักตึกเหมื่อนตึกทั่วๆไป ทำให้รับลมพายุได้และแผ่นดินไหวได้มากโอกาสพังลงมาก็ยาก)

3. อาคารจอดรถ / ตึกขนาดใหญ่ ที่ดาดฟ้ากว้างพอที่จะให้ ฮ.ลงได้...ส่วนชั้นถัดลงมาก็ใช้พักอาศัย หลบภัย (ไม่ควรเป็นตึกสูง)(ดีตรงที่เป็นที่มั่นแข็งแรง ไม่มีอุปกรณ์สำนักงานให้ตึกหนักหรือเป็นตึกทั่วไปมันก็แบกน้ำหนักไว้มากแล้ว กรณีรับลมพายุหรือแผ่นดินไหวทำให้ตึกทั่วไปอยู่ลำบากกว่า ลานหรืออาคารจอดรถแน่)

4. จากบทเรียนที่ผ่านมาช่วงน้ำท่วม...ทางด่วนสามารถใช้สัญจรไปมา และหลบภัยได้...ยกเว้นกรณีแผ่นดินไหว

5. โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถานศึกษา....ที่มีสนามฟุตบอลกลางแจ้ง

เพิ่ม ข้อ 6.ทางด่วน ,ทางรถไฟฟ้า หรือ สถานนีรถไฟ เช่น สถานนีคลองตัน ก็อยู่ สูงดีพอประมาณ หลายเมตร อย่างน้อยก็หนีน้ำกันไฟฟ้าซ็อตดูดได้

 

คำตอบที่ให้นี้...ใช้ได้กับภัยธรรมชาติอย่างเช่น น้ำท่วม พายุถล่ม...เพื่อแสดงถึงแนวทางในการเอาตัวรอด...และไม่ panic (ถามมา...ก็ตอบไป)

ส่วนเรื่องภัยพิบัติ.....ระดับล้างโลก....ช่วง 2012-2013 นั้น...ยังไม่มีสัญญาณชัดเจน...จนกว่านักวิทาศาสตร์จะออกมายืนยัน

ดังนั้น...ขอให้สมาชิกอยู่ในโหมด....เฝ้าระวัง...เท่านั้นครับ

 

ฟังที่คุณอรุณโพสต์ข้างบนมานี่.....ลำบากใจแทนจริงๆ ครับ

ถ้าคุณยังไม่เคยไป อช.พุเตย ได้แต่อ่านจากในหนังสือหรือดูคลิปวีดีโอ
แล้วจะตัดสินใจหนีภัยไปอยู่ที่นั่น นับว่าใช้จินตนาการตัดสินอนาคต นะครับ
หรือพูดง่ายๆก้คือ ไปตายเอาดาบหน้า (ซึ่งมีเปอร์เซนต์ไปตายสูงเช่นกัน)

เพราะส่วนตัวของ Nirvana ไม่เชื่อว่า ญ. 1 คน กับ รถ 1 คัน และข้าวของติดตัวเล็กน้อยจะอยู่รอดได้หลายเดือนในดินแดนแบบนั้น (ที่ไม่เคยไปมาก่อน)

คำแนะนำคือ อยากให้รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนผู้ที่เชื่อเรื่องภัยพิบัติจริงๆปรึกษากันว่าจะมุ่งไปตั้งมั่นอยู่ที่ไหน ใช้ทรัพยากรร่วมกันให้ได้ประโยชน์มากที่สุด อย่าหวังพึ่งบุคคลภายนอกมากเกินไป มีขั้นตอนการอพยพที่ชัดเจนแน่นอน สะสมปัจจัยสี่ไว้แต่เนิ่นๆ

หมายเหตุ. คนไทยไม่ค่อยชอบรวมตัวกันเพื่อทำงานบางอย่าง ชอบอิสระ
นี่เป็นข้อด้อยและทำให้ขาดพลังในการทำงานให้บรรลุผล

อีกประการหนึ่งที่ Nirvana อยากจะฝากท่านสมาชิกที่ได้อ่านกระทู้ในห้องภัยพิบัตินี้ว่า

ถ้าท่านเชื่อว่าภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงมีจริง
- ภัยนั้นจะเป็นภัยธรรมชาติ
- หรือมหาภัยพิบัติที่จะรุนแรงขนาดเปลี่ยนยุคเปลี่ยนอารยธรรมของ โลกใบนี้

ถ้าท่านไม่สามารถตัดสินได้ว่าจะเป็นภัยชนิดไหนและรีรอหรือไม่ได้คิดแผนการตั้งรับที่ถูกต้อง ท่านจะโดนภัยนั้นกลืนหายไปกับกาลเวลาแน่นอน

อธิบายสรุปง่ายๆก็คือ หลายท่านคงคิดว่าภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นภัยจากน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง ซึ่งอาจจะใหญ่หลวงกว่าปีที่แล้ว จึงคิดได้แต่เรื่องน้ำท่วม

แต่ถ้าภัยพิบัตินอกจากน้ำจะท่วมแล้ว ยังจะต้องเผชิญมหาภัยอีกหลายรายการที่เข้าคิวกันมาถล่มโลกมนุษย์ ซึ่งท่านอาจจะรอดจากภัยน้ำท่วม แต่ต้องไปจอดไม่ต้องแจวกับภัยอื่นๆที่ตามมานั่นเอง :'''(

 

ท่านครับ

จะให้ออกตัวว่า...มีภัยพิบัติถึงขั้นเปลี่ยนยุคเปลี่ยนอารยะธรรม...เราก็ต้องมีเหตุมีผลมีหลักฐานชัดเจน

เพราะเราเตือนคนหมู่มาก...หลักฐานต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย

ส่วนท่านใด...เชื่อ 50% 100%...ไปแล้ว...ก็จะไม่ก้าวก่ายแต่อย่างใด...เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตน

ดังนั้น...เรื่องภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ....ประเด็นนี้จะทำให้สังคมเกิดการตื่นตัวเฝ้าระวัง...ทำให้การเตรียมตัวรับภัยใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องหนัก

เกิดหรือไม่เกิดไม่ใช่ประเด็น...เพราะมันคือการเตรียมตัว...ไม่ใช่อยากให้เกิด

ทั้งนั้น...ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่าน...ครับ