นิทาน เรื่อง "พญานาค"

อะ เล่าเรื่องบวงสรวงต่อแล้วกัน เผื่อว่ามีคนสนใจไปทำ

เมื่อจัดของทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประพรมน้ำเสกให้ของทั้งหมดเป็นของบริสุทธิ์แล้ว
น้ำที่เราใช้จะเป็นน้ำที่สวดด้วยบทที่เราสวดองค์แม่ประจำ

แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าองค์ของตัวเองเป็นใคร ก็ให้เสกด้วยบทอิติปิโสแล้วกันนะ

จุดเทียนหอม จุดกำยาน
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วก็สวดบทชุมนุมเทวดา สัคเค กาเม จะรูเปฯ
เปิดเพลงเทพด้วยนะ (หาซื้อได้ที่ร้านสังฆภัณฑ์)

อ้อ...ดอกดาวเรืองฉีกฝอย+กลีบกุหลาบ+ดอกรัก ให้เก็บบางส่วนไว้ เผื่อโปรยที่ของบวงสรวงระหว่างพิธี

ทำอารตีด้วยเทียน วนซ้ายตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ แล้ววางไว้ที่หน้าของบวงสรวง

รอจนกำยานหมด ก็ลาผลไม้ กลั้นใจหยิบพร้อมทั้งอธิษฐาน แล้วนำมารับประทานให้หมด
มะพร้าวแก่ นำมาต่อยเอาน้ำไปราดที่ทางเข้าบ้าน หรือตรงประตูบ้าน ห้ามกิน
เนื้อมะพร้าวและกะลามะพร้าว ดอกไม้ หญ้าคา ผงกำยาน เทียนหอม ให้นำไปลอยน้ำ
มะพร้าวอ่อนกินได้

ลองถ่ายภาพเก็บไว้ดูนะ อาจได้เห็นอะไรดีๆ ถ้าจะให้ดีไม่ต้องเปิดไฟในห้องพิธีเพราะจุดเทียนแล้ว

 

โห...อะไรจะขนาดนั้นคะ...คุณนุ๊กกกกก

ต่างกับมิกลิบลับเลยอ่ะ มิกไม่ค่อยเน้นพิธีกรรมอ่ะ กราบพระ 3 ครั้ง
(พุทธังรักษา ธรรมมังรักษา สังฆังรักษา) แค่นี้อ่ะ แล้วก็นั่งสมาธิเลย
ยกเว้นวันพระ ที่มีสวดมนต์

 

ทำไมถึงต้องใช้กำยาน
เพราะกำยานทำมาจากเปลือกไม้กฤษณา เชื่อว่าใช้ล้างอาถรรพ์สิ่งอัปมงคลได้

ทำไมจึงนำน้ำมะพร้าวไปราดหน้าบ้าน
เพราะว่าน้ำมะพร้าว ถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์เมื่อราดไปบริเวณใด บริเวณนั้นก็จะบริสุทธิ์
เมื่อเสร็จพิธีนี้ เหล่าเทพเทวาจะเสด็จมายังสถานที่แห่งนั้น เพื่ออำนวยอวยพร ภูติผีปีศาจจะไม่มารบกวนอีกค่ะ

 

จริงๆ เราก็ไม่ใช่คนมีพิธีรีตองอะไรมากมาย
แต่พิธีบวงสรวงเนี่ยไม่ได้เลย เพราะเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์และท่านก็เสด็จมาจริงๆ
ต้องเนี๊ยบทีเดียวเชียว เทพนะจ๊ะ ไม่ใช่อย่างเราๆ ยังไงก็ได้

 

น้ำมะพร้าวเนี่ย ใช้ได้สารพัดเลยนะ บางครั้ง บางคนก็เรียกว่า "น้ำสวรรค์" นะ
(แม้แต่วาระสุดท้าย ก็ยังต้องใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าเลยอ่ะ)

ปล. ตอนเราเอาข้อมูลเรื่องงูมาลงน่ะ มันมีความรู้สึกแวบขึ้นมา (เหมือน
คราวที่เราถามเรื่องเทพีที่มีปีกเป็นนกอ่ะ ^^)

*** ท่านประธานแวบหายอีกแระ (ประท้วงซะเลยดีมั้ยเนี่ย) ***

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 16 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>mukmik, nouk </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปล่อยเค้าเถอะ ตอนนี้ยังไม่เต็มร้อย หมายถึง...ต้องรีบไปตามความเรียกร้องของหัวใจอ่ะ

***************
โอเช...งั้นพรุ่งนี้ลาป่วย มะรืนนี้ลากิจ มะเรื่องโน้นลาพักร้อน

 

งั้นคืนนี้เราไปก่อนนะ ยื่นใบลาพักร้อนเลยละกัน บายจร้า...

 

ทำไม่ได้ถึงกับต้องไปเกิดใหม่เลยหรอ ผมคิดว่าถ้าจะสื่อสารกันได้เดี๋ยวก็ได้เองละ ผมก็ทำไปตามแบบฉบับของผม จริง ๆ ในใจไม่ได้จดจ่ออยากจะเจอเลย แต่คิดอยากไปเที่ยวสวรรค์มากกว่า (คิดอยากไปชั้นดาวดึง)

 

สวดส่ง..!

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/EVe7YfVoMy4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

งามมาก.. . เลยค่ะ ท่านหน่อนรคุณ เป็นบุญตาที่ได้ชม

 

สะบายดีเพื่อนสมาชิก..ในเช้าวันพุธ..ที่ 23 พฤษภาคม 2555 ครับ

...

 

สวัสดี..ชาวเมืองคุรุวาโร ทุกท่านค่ะ เข้ามาเยี่ยมเยียนลำบากหน่อย .. เน็ตที่โรงแรมอืด
ที่สุดในจักรวาล ขอให้สดชื่น เบิกบาน สำราญกายใจ ทุกทุกคนนะคะ ...ดาว*

 

สวัสดีค่ะทุกท่าน

เข้ามาติดตามอ่านได้ 2-3 วันแล้วค่ะ
พอดีกระทุ้คุณโพธิ์คู่ตรวจสอบให้ว่าดิฉันมีพ่อปู่ศรีสัตตพญานาคดูแลอยู่. .เป็นองค์บารมีหลัก
แต่ดิฉันไม่เคยทราบเลยค่ะ และไม่รู้สึกพิเศษใดๆกับพญานาคเลยค่ะ..
อย่างนี้แล้ว ถ้าดิฉันมีท่านจริง ถือว่ามีความผิดหรือลบหลู่ท่านไหมคะ..
และหากเป็นจริงแล้ว ดิฉันควรเริ่มต้นศรัทธาหรือระลึกถึงท่านอย่างไรคะ
ขอท่านลูกหลานพญานาคชี้แนะด้วย ขอบคุณค่ะ..

 

สวัสดีค่ะ คุณ ณปภัช (วันนี้ขอมาทักทายแทนเพื่อนนะไปไหนไม่รู้)

เล่าเรื่องราว ที่น้องเคยพบและมีประสบการณ์ มาให้เพื่อนๆฟังนะคะ

เดี๋ยว ท่านประธาน (คุรุวาโร) จะเข้ามาตอบข้อสงสัยให้ค่ะ...

 

สวัสดีค่ะคุณhuten
ไม่เคยพบ ไม่เคยฝัน ไม่เคยรู้สึกกับพญานาคเลยค่ะ
นึกย้อนกลับไป เมื่อ 7 ปีก่อนค่ะ ครั้งแรกในชีวิต
ที่จะเริ่มต้นนั่งสมาธิค่ะ นั่งหน้าหิ้งพระ รู้สึกว่าตัวเองเหวี่ยงมากๆๆค่ะ
มันเหวี่ยงเหมือนพญานาคที่กำลังขดตัวเป็นชั้นๆมั้งค่ะ ไม่ค่อยแน่ใจเพราะกำลังนึกย้อนกลับไปวันนั้น เหวี่ยงอยู่สักพักใหญ่ค่ะ..
จากนั้นจึงนั่งสมาธิได้ค่ะ เป็นอยู่ 3 วันติดกันค่ะ
หลังจากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดที่รู้สึกว่าเกี่ยวเนื่องกับพญานาคเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีชาวเมืองคุรุวาโรทุกคน เล่าเหตุการณ์สมัยเด็กดีกว่า ตอนนั้นเป็นฤดูหนาวเริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ผมจับได้งูมาตัวหนึ่งรู้สึกจะเป็นงูดั้งแห(ภาษาอีสาน)บ้านผมเมื่อตีมันตายเสร็จผมก็เอาไปย่างไฟพอดีงูมันท้องด้วยซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจเรื่องบุญบาปหรอกนะ ผมก็เอาไข่งูไปเผาไฟอ่อนพอสุกก็กินไข่งูเวลามันสุกมันจะไม่เหมือนไข่ไก่ไข่เป็ดหรอกมันจะฟูๆเหมือนเผือกมันที่เราเอาไปเผาไฟนั่นแหละกินไปใหม่ๆก็อร่อยพอกินเยอะชักติดใจกินไปกินมาเริ่มเมาคือวิงเวียนหน้ามืดตาลายจะอ้วก พ่อต้องไปหายาให้กินคือยาพื้นเมืองพวกรากไม้มาฝนให้กินจึงค่อยยังชั่วนับตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดเดี๋ยวนี้ขึ้นชื่อว่างูผมไม่แตะเลยเข็ดจนวันตาย

 

มาทวงสัญญา ..ท่านประธานค่ะ

เมื่อคืนนี้ ที่บึงกาฬ รั้งนอนอยู่ที่บ้านทรงไทย

ในขณะที่ ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น ได้ยินเสียง คนเรียกชื่อ ค่ะ

แต่ไม่ใช่ชื่อในปัจจุบัน แต่รู้ว่าเป็นชื่อเรา อยากสอบถาม ท่านประธานค่ะ

เป็นใครกันค่ะ..

 

[FONT=&quot]เมื่อสองวันก่อนฝันเห็นตัวเองเหมือนจะไปหาปลา หาไปเรื่อยจนไปเห็นร่องน้ำแห่งหนึ่งมองไปกลับเห็นพญานาคชูคออยู่เป็นนาครุ่นๆลำตัวสีเขียวปนแดงเป็นลายทางเป็นป้องๆใจหนึ่งก็รุ้สึกกลัวแต่ก็ฝืนใจลองเสี่ยงถามดูบรรยากาศตอนนั้นเหมือนสลั่วๆแต่ก็หงอนและลำตัวสีเขียวปนแดงที่กระทบแสงที่พอมีไม่มากนั้น ระยิบระยับเป็นประกาย[/FONT]

[FONT=&quot]สวยงามมากจากนั้นพญานาคเข้ามาไกล้ตัวเองแต่เมื่อไรไม่รู้กลับมีหมาสีดำตัวหนึ่งวิ่งมาจะกัดพญานาคนั้นเลยเอาช้อนที่ตักปลาปิดปากหมาตัวนั้นไว้เห็นพญานาคนั้นแลบลิ้นไปมาอยู่ไกล้เลยยกมือขึ้นทั้งกล้าทั้งกลัวลูบหัวเขาเบาๆเลยถามเขาไปว่าเขาเป็นลูกใคร เขาตอบว่าเป็นลูกปู่ศีรสุทโธ เลยถามเขาต่อไปว่าปู่ศีรสุทโธมีลูกกี่คนหรือ เขาตอบเหมือนไม่ค่อยเต็มใจอยากตอบคำถามนี้เท่าไรเขาว่ามีเยอะแยะมากเลยจากนั้นไม่ได้ถามเขาต่ออีกเลยชวนเขาว่าไปอยู่ด้วยกันไหม
[/FONT]

[FONT=&quot](ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย)จากเขานั้นก็ปรากฎตัวเป็นหญิงสาวสวยงามมากหุ่นสูงได้สัดส่วนผิวขาวเนียนสวยเลยที่เดียวเลยอุ้มเขาไว้ที่ไหล่ขวาเอามือกอดตรงต้นขาแล้วเอาตัวเขาพาดบนไหล่ข้างขวาแล้วพาเดินมาสักพักเห็นคนที่บ้านพวกผู้ชายหลายคนเลยเดินตามมาเขาเห็นคนสวยแล้วชอบเลยอยากตามมาดูเลยบอกเขาไปว่าเธอไม่ใช้คนแต่พวกเขากับไม่ยอมเชื่อเลยวางเธอลงแล้วให้เธอกลับร่างให้พวกเขาดูคนเหล่านั้นจึงยอมจากไป จากนั้นเหมือนว่า[/FONT]

[FONT=&quot]พาเธอไปดูการแสดงอะไรสักอย่างดูได้พักเดียวใบหน้าเธอกลับมีน้ำคล้ายเป็นน้ำเหลืองไหลลงมาก็เลยชวนเธอกลับ....พอตื่นเช้ามาไปนั่งเล่นอยู่ข้างบ้านไม่รู้มีงูจากไหนตัวสีเผือกไม่ใหญ่วิ่งมาแล้วเลื่อยเข้าข้างๆบ้านพอดีมีรูอยู่ที่นั้นจากนั้นก็โผ่หน้าออกมาจ้องดูเรา เลยถามในใจงูตัวนั้นเล่นๆแต่กลับขนลุกตั้งทั้งตัวเลยแถมยังมีพลังเข้าทางหูด้านซ้ายอีก แต่ไม่รู้หรอกว่าคำตอบนั้นงูตัวนั้นตอบว่าอะไรเห็นจ้องอยู่นานเลยหันหน้าหนีพอหันกลับมาอีกทีก็ไม่เห็นแล้วไม่รู้มุดลงรูหรือ[/FONT]

[FONT=&quot]หนีไป สายๆไปในตัวเมืองพอกลับมาถึงบ้านก็เย็นแล้วเลยออกไปนั่งเล่นหน้าบ้านตรงนั้นมีต้นเสาที่เขาไม่เอาแล้ววางอยู่เป็นเสาปูนพอนั่งลงแค่นั้นละงูน่าจะเป็นพันเดียวกันกับที่เจอตอนเช้าวิ่งมาไกล้ๆเราแล้วก็เลื่อยเข้าไปตรงไก้ลๆแต่ก็ไม่ได้ลุกไปไหนเห็นว่าเป็นงูไม่ค่อยมีพิษก็แปลกดีเหมือนกันครับ....[/FONT]

 

สวัสดีค่ะทุกท่านแอบอ่านนิทานอยู่นาน
ตั้งใจว่าจะเข้ามาขอบคุณทุกท่านที่มีนิทานสนุกๆมาให้อ่าน
ตอนนี้ตามอ่านถึงแค่กะทู้หน้า199อยู่เลยค่ะ
แว้ปปมาขอบคุณแล้วกลับไปอ่านต่อก่อนนะค่ะ....
ปกติเป็นคนกลัวงูค่ะ....ขออ่านนิทานหน่อยนะคะอย่าฉกหนูเลย:'(

 

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน