จงส่งพลังจิตของท่านสู่เครือข่ายตัวตนของท่านเอง บางสิ่งกำลังดึงพลังของท่านไป?

ธรรมชาติอีกประการหนึ่งคือ ในคนที่มีพลัง
ด้านหนึ่งมากๆ ถึงจุดหนึ่ง มันจะตีกลับได้
เช่น จากคนที่เย็นเยือก จะร้อนเป็นไฟ หรือ
คนที่มีไฟมาก กลายเป็นคนเย็นชาได้ กรณี
นี้เกิดจาก ดุลยภาพภายในตีกลับย้อนทิศ


อย่างคุณมะขามฯ เวลาระบบพลังงานภายใน
เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ตีกลับกลายเป็นตรงข้าม
กันได้เหมือนกัน คือ มันไปถึงที่สุดในธรรมชาติ
แบบหนึ่งจนไปต่อไม่ได้แล้ว มันจะตีกลับครับ

 

-ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อความวันนี้ ค่ะ:z15



ขอบ่นตัวเองนิดนึง ว่าแต่ก่อนตัวเองเป็นคนสัมผัสพลังงานไม่ได้ เวลาเจอ user ไหน
ก็จะรู้สึกแค่ ชอบ ไม่ชอบ (อาจมีรังเกียจเป็นบาง user) แต่ตอนนี้เหมือนมันอ่อนไหว
ด้านพลังงาน ผ่านบาง user ขนาดรีบกดผ่านไปเร็วๆ ยังรู้สึกมีอะไรหมุนกระจาย
แบบไร้ทิศทาง มันคลื่นมันเวียนยังไงไม่รู้ ไม่ชอบอะไรที่เกิดกับตัวเองแบบนี้เลย

ที่จริงนี้การใช้ user มันสามารถสร้างสรรค์บ่งบอก พลัง ได้เหมือนกันนะ บาง user
รู้สึกดีตั้งแต่แรกเห็นเลย บาง user ต้องสัมผัสก่อน บาง user ต้องห่างไกล

เรื่องเล็กๆ อย่าง user นี่ พอตั้งขึ้นแล้ว ผสมกับการปรุงแต่งการแสดงออกแล้ว มันก็
ไปดึงดูงพลังงานอะไรแบบนั้น มาสะสมไว้ที่ตัวได้เหมือนกันนะ

บ่นตัวเองหน่ะ

 

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์เผื่อเพื่อนๆ นะครับ
ช่วงนี้ "พลังจักรวาล" เปิดฟรีมาก ไม่ถูกปิดผนึก
ง่ายต่อการสัมผัสและฝึกพลังจิต ผ่านช่วงโอกาส
ทองไป จะหาฝึกได้ยากแล้ว เพราะพลังงานจะถูก
กักเก็บไว้ สงวนไว้เฉพาะบางท่าน ไม่ฟรีขนาดนี้ครับ

 

นางแก้ว กับคู่ของเขา


มันจะเข้ากันได้อย่างอัศจรรย์
อย่างพลังภายใน ก็เหมือนกัน
มันต้องเป็น หยิน-หยาง กันยิ่ง
เข้าคู่กัน ยิ่งเก่งทั้งคู่ ยิ่งพัฒนา
ทั้งคู่ ไม่เหมือนเข้าคู่กับคนอื่น
อันนั้นคือ สิ่งที่เราพอสังเกตุได้
อย่างหนึ่ง ว่าเขาคือ คู่ของเรา

 

ธรรมชาติของพลังจิตแต่ละคนต่างกัน
บางคนถูกมองหาว่าบ้า แต่เขาอาจมี
พลังจิตในอีกแบบหนึ่ง ก็ได้


เมื่อเรียนรู้ เข้าใจธรรมชาติในระดับพลังงาน
ของตนเอง ฝึกใช้ให้เกิดประโยชน์ มันก็จะไม่
ใช่ความบ้า อีกต่อไป มันคือ สิ่งใหม่ๆ ที่โลก
กำลังรอคอยอยู่ ที่สามารถแก้ปัญหาให้โลกได้
ในอีกวิถีหนึ่ง แบบใหม่ ก็ได้ครับ

 

แสดงว่ากลับปกติละ
ระบบดึงดูดพลังดำ
ทำงานตามปกติ

 

อย่างแรกคือ มนุษย์ทุกคนมีธรรมชาติ
ที่แตกต่างกัน จะเอาคนอื่นมาวัด มา
เป็นแบบอย่างว่าถูกผิด ไม่ได้ เราจำ
ต้องเข้าใจธรรมชาติของแต่ละคนว่า
เขามี "ปกติเป็นอย่างไร" ก่อน จึงจะ
ไม่ทำลายธรรมชาติดั้งเดิมของเขา


จากนั้น จึงช่วยให้เขาใช้ธรรมชาติที่
เขามีอยู่ในทางสร้างสรรค์ได้ต่อไป
ซึ่งแต่ละท่านก็มีวิถีที่แตกต่างกันครับ

 

อันนี้แสดงว่ายังนั่งที่เดิม
ยังไม่ยอมลุกไปละ

 

เราว่าคุณต้นมะขามนี้แหละ พระเจ้าตัวจริง พระเจ้าจริงๆ จะไม่กลัวพระเจ้า ดีกว่าพวกมิติแสงสว่างทั้งหลายที่วันๆ เอาแต่รับใช้พระเจ้าเบื้องบน ดีใจที่มาเจอ ต้นมะขามพระเจ้าตัวจริง รอดูว่าความรักของพระเจ้าจะยังรักคน ที่กล้าท้าพระเจ้าหรือปล่าว ท้าทายดีครับ เป็นการทดสอบความรักอันไร้เงื่อนไขของพระเจ้า

 

ก็นั่นปะไร คุณว่ามั้ยล่ะ

แต่ผมไม่ใช่พระเจ้าหรอก อย่าได้เอาไปเปรียบกับท่านเลย

 

แล้วไอ้พวกแสงสว่างนี่แหละตัวดี พอมันทำอะไรพลาดไป มันก็เอาความขี้ขลาด กลัวของพวกมัน มาหาข้ออ้างอย่างนู้น อย่างนี้อีก แล้วก็มาโทษว่า ภาคมืดนั่นแหละ อย่างนั้น อย่างนี้ เอาดีเข้าตัวตลอด ปลอบใจตัวเอง เลียแผลตัวเองไปวันๆ โถๆๆๆ

 

ไม่เคย อ่านเจอแบบ คุณต้นมะขามมาก่อน ทึ่งมากๆๆ ส่วนตัวเราเคยคิดอะไรคล้ายๆกันเลย พวกแสงสว่างกลัวพระเจ้ากันจ้าละหวั่น พยายามรับใช้พระเจ้า เพื่อไปโลกยุคทอง บางทีมันขัดๆๆ ยังไงไม่รู้ เราว่ายิ่งคนท้าทายความรักอันไร้เงื่อนไขมากเท่าไหร่ มันเป็นการพิสูจน์ความรัก ของพระเจ้าเองนะเราว่า เราว่าคุณต้นมะขามรู้เข้าถึงพระเจ้ามาก แต่ไม่รู้ว่าอะไร พลังแห่งความท้าทายและไม่กลัว แบบนี้แหละพระเจ้าชอบและรักสุดๆๆไปเลย เราอยากได้พระเจ้าแบบนี้แหละ รักคนดี คนชั่วเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าลูกคนนั้นจะเกเรเกตุงไปถึงนั้น มันเป็นการฉีกความรักอันไม่ที่สิ้นสุดของพระเจ้าเอง สุดยอด!!!

 

เราเคยถามแสงสว่างพวกสื่อสารโลกมิติว่ารู้ว่าเป็นแสงสว่างได้ไง โดนต่อว่าปรามาสพระเจ้าเสียแล้ว เราว่าไม่มีความมืด แสงสว่างก็ไม่มีเหมือนกันนะ เราเคยคิดเล่นๆว่าบางทีแสงสว่างและความืดคือพระเจ้ าแอบมาเล่นทั้งสองบทเลย พวกแสงสว่างและความมืดเป็นแค่ตัวละครของพระเจ้า ว่าม๊ะ บางทีเราเริ่มเบื่อทั้งความสว่างและมืดนะ เราอยากรู้ว่ามีอะไรเหนือกว่าแสงสว่างและความมืด เผื่อทีเราอยากเป็นผู้ดูอย่างเดียว ดุละครมันกว่าเป็นตัวละคร 555

 

<SCRIPT type=text/javascript>document.getElementById("is_wg_img-1337844497064021300").src=(""=="")?"http://a.imageshack.us/img96/4009/38715167.gif":"http://a.imageshack.us/img96/4009/38715167.gif?"</SCRIPT>

 

rabbit_heartrabbit_heart

 

ถ้าคุณอยากเป็นผู้ดูอย่างเดีียว คุณต้องสำเร็จอรหันต์

จะทำยังไง ก็ลองพิจารณารูปกายของเราดูสิครับ ดูสิว่ามันน่าปรารถนามากแค่ไหน ที่เค้าเรียกว่า พิจารณาอสุภะยังไงกันล่ะครับ จากนั้นก็จะเกิดความเบื่อหน่ายๆมากๆเข้า ก็มีโอกาสบรรลุธรรมได้นะครับ

แต่ต้องระวัง การบรรลุธรรมย่อมมาคู่กับการชำระกรรมครับ เพราะการบรรลุธรรม จะย่นย่อภพชาติให้เกิดน้อยลงได้ครับ เรียกว่า ไม่ต้องมาอยู่ในวงจรของการ continue เกิดมาอีกแล้ว เกิดอีกต่อไป

ถ้าถึงตอนที่เริ่มเบื่อโลก เบื่อชีวิต คือมันไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากจะเอาอะไร เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกกิจกรรมในโลกมันเป็นทุกข์ไปหมด นั่นแหละ แสดงว่าจิตคุณเริ่มจะเข้าใจธรรมมะ หรือธรรมชาติของการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั่นแหละครับ

แล้วคุณก็จะิเริ่มเบื่อโลกได้แล้วครับ พอถึงตอนนั้น คุณก็เริ่มไปบวชได้แล้วครับ

เพราะชีวิตหลังการบรรลุอรหันต์นั้น (หรือนิพพานจริงๆแล้วคือกายเนื้อตายไปจริงๆ จิตออกจากร่างจริงๆ) คุณก็จะเหลือแค่ตัวรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วแหละครับ รู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง รู้เห็นทั้งมนุษย์ เทวดา และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่ามี สุขและทุกข์ปะปนกันไป

นั่นแหละ คุณเข้าถึงภาวะแห่งการ ไม่เกิดอีก และไม่ดับแล้วแหละคับ

คือนิพพานจริงๆนั่นแหละครับ

 

นั่นแหละ ถ้าเป็นพวกแสงสว่างจริง ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองได้จริง ว่าดีจริง อะไรประมาณนั้น แต่นี่อะไร แค่สงสัยยังไม่ได้เลย เราว่าอ่านะ พวกนี้อ่านะ แย่ยิ่งกว่าพวกมืดเสียอีก

ไม่รู้จะเรียกว่าพวกอะไรดี เพราะมันไม่มีสังกัด 55555

แล้วคุณรู้ป่ะว่า พวกนี้น่ะ เคยทำอะไรที่มัน.....มาบ้างน่ะ เยอะเชียวแหละคุณเอ้ยยยย 555

 

พวกเขาอ่านะ มีดีก็แค่บอกว่า "แค่เฝ้าดู และฟังมันเท่านั้น" แต่เราว่าอ่านะ มันคือการฟังแบบ "หูซ้ายทะลุหูขวาต่างหาก" มันจะบ่มเพาะจิตของความไม่รับผิดชอบขึ้นมาเล็กๆน่ะ แล้วพอตัวเองทำอะไรผิดพลาดขึ้นมาอ่่านะ พวกเขาก็โบ้ยความผิดไปที่อื่น หรือไม่ก็แบบว่า อ้างโน่น อ้างนี่ เนี่ยน่ะเหรอ พวกแสงสว่างน่ะ (เอ เราจะเข้าภาคมืดดีมั้ยยน๊าา 555)

 

อีกหน่อยอานะ พอหนักข้อเข้า พอเวลาเกิดเรื่องร้ายแรงเข้ากับตัวเองและคนรอบข้างอ่านะ เราอยากจะรู้จริงๆเลยว่า พวกเขาจะเข้าไปช่วยเหลือ หรือว่าทำอย่างไรต่อไป หรือพวกเขาจะบอกกับตัวเองว่า "เราแค่เฝ้าดูและฟังมันไปเฉยๆ" 5555

อยากรู้จริงๆเลยเนาะว่าเวลาที่มีคนได้รับอุบัติเหตุไปต่อหน้าต่อตา พวกเขาจะเข้าไปช่วยเหลือสมกับทีเ่ป็นแสงสว่างบ้างมั้ย หรือแค่ว่า "เราแค่เฝ้าดูและฟังมันไปเฉยๆอีกอ่า" 5555

 

ขอบคุณค่ะ