หยุดปลดปล่อยพลังงานเชิงลบสู่บรรยากาศ ด้วยการชำระล้างเสียก่อน!

ที่รัก ยังมีเรื่องหนึ่ง เป็นเทคนิกง่ายๆ ที่ผมอยาก
จะบอกให้คุณช่วยกัน คือ การไม่ปลดปล่อยพลัง
งานเชิงลบออกสู่ชั้นบรรยากาศ จนกว่าคุณจะทำ
การชำระล้างมันเสียก่อน เพราะอะไร? เพราะมัน
จะก่อให้เกิดผลกระทบต่ออะไรมากมาย อย่างที่
คุณคาดคิดไม่ถึงทีเดียว เอาละ งั้นวันนี้เรามาพูด
กันเรื่องนี้ก็แล้วกัน เป็นเรื่องง่ายๆ เบาๆ ไม่ยากนะ

 

อย่างแรกนะที่รัก ข้อความสื่อสารต่างมิติที่มนุษย์โลกได้รับ มีหลายท่าน
แต่ละท่านแตกต่างไปทั้งการรับได้ดี, ได้มาก, ได้ละเอียด หรือไม่เจือปน
ความรู้สึกนึกคิดของตนเองลงไป มีหลากหลายมาก และเราไม่อาจควบ
คุมให้ได้ดั่งใจได้ทั้งหมด ดังนั้น เราจึงต้องยอมรับความจริง ผลที่จะเกิด
ขึ้นจริง อันอาจต่างไปจากเจตนารมย์เบื้องต้น เช่น การสื่อสารเรื่องการ
ปลดปล่อย และการชำระล้าง บางท่านเข้าใจผิด และทำการปลดปล่อย
ที่ผิดพลาดไปแล้ว เช่น การให้คนมาร้องกรีดเสียงหรือระบายความคิดที่
มืดมน, เป็นลบ หรือความทุกข์ความเครียดออกไป ตรงๆ แบบนี้ ผมคิดว่า
หลายท่านอาจเคยทำเอง โดยไม่ต้องฝึกหรือศึกษาอะไรมาก่อนเลย ก็ทำ
ได้ ใช่ไหมครับ เช่น เวลาเครียดก็ร้องดังๆ ระบายออกมา แบบนี้ ไม่ใช่สิ่ง
ที่เราต้องการ ไม่ใช่การปลดปล่อยในความหมายของเรา ที่เราต้องการสื่อ
สารนะครับ เพราะอะไร? เพราะพลังงานเชิงลบที่ออกจากตัวคุณ ทำให้
คุณรู้สึกโล่งเวลาได้ปลดปล่อยแบบนี้ (ซึ่งไม่ใช่วิธีที่เราแนะนำ) ทว่า ผล
ที่เกิดขึ้นตามมาคือ "พลังงานเชิงลบในบรรยากาศมากขึ้น" และส่งผล
เสียต่อมนุษย์โลกโดยรวมต่อมา เช่น อาจส่งผลกระทบให้เกิดภัยพิบัติที่
รุนแรงขึ้นได้ แต่ไม่ใช่โดยตรงนะครับ "มันมีกระบวนการทำให้เกิดอยู่"
ดังนั้น ผมจึงพยายามเตือนคุณว่า "อย่าปลดปล่อยพลังงานเชิงลบออกไป
จนกว่าคุณจะชำระล้างพลังงานนั้นให้สะอาดปลอดภัยดีแล้ว" โอเคไหม?

 

อย่างที่สองที่ต้องการสื่อให้คุณทราบคือ สิ่งที่เราสื่อกับ "ความเข้าใจ"
อาจไม่ตรงกันเสมอไป ดังนั้น ผมจึงไม่ค่อยบอกวิธีการโดยละเอียดมาก
ไปนัก และมักบอกเพียงว่า "คุณจะสามารถทำได้เอง เมื่อเลื่อนระดับแล้ว"
เพราะอะไร? เพราะคุณที่ยังเลื่อนระดับไปไม่ถึง บางท่านพยายามตีความ
ตามความเข้าใจของท่านเอง ซึ่งมันผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป เช่น การเกิด
ใหม่ ถูกตีความผิดไปว่าเป็นการเกิดใหม่แบบตายด้วยสังขารแล้วทำให้ฟื้น
คืนชีพขึ้นมา พวกเขาจึงทดลอง ด้วยการทำให้สังขารนั้นตายเสีย โอ ที่รัก
นั่นอันตรายมาก เราไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลย เป็นความเข้าใจผิดอย่าง
ยิ่ง เรากำลังกล่าวถึง "พลังงาน" ไม่ใช่ระดับสังขารอันหยาบนั้น ในมิติที่
สูงขึ้นของเรา ข้ามพ้นเรื่องสังขารนั้นไม่มากเหลือเกิน ที่รัก เราหมายถึง
การเกิดใหม่ในระดับพลังงานเท่านั้น ซึ่งสิ่งนั้นอยู่ในสังขารอีกที ทว่า มัน
ก็เกิดความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนกันได้ สำหรับเราแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่เรา
ต้องการสื่อสาร แต่สำหรับ "บางสิ่ง" แล้ว นั่นคือ "งานประจำของเขา"
เลยละ เขาทำงานเพื่อให้เกิดหายนะและความตาย เราไม่ได้รู้สึกลบหรือ
รังเกียจเขานะ เราเป็นกลางต่อเขา เข้าใจหน้าที่ของเขา ที่สำคัญต่อสม
ดุลของจักรวาล แต่เพื่อความเข้าใจที่ท่านจะมีต่อเรา เราต้องบอกท่านว่า
นั่นไม่ใช่วิถีของเรา นั่นคือ ความเข้าใจผิด อันนำไปสู่ภัยหายนะต่างหาก

 

อย่างที่สามคือ สิ่งที่เราบอกท่าน ไม่ได้อยู่ในระดับครูและลูกศิษย์ หรือ
การฝึกอะไร ในมิติของเรา ไม่มีการฝึกแล้ว เราผ่านมิตินั้นมาแล้ว และ
เราไม่มีครูหรือลูกศิษย์ ทุกคนในระดับนี้ เท่าเทียมกัน คำว่า "กูรู" ของ
เราไม่ได้หมายถึงการเป็นครู แต่หมายถึง "ระดับของสิ่งที่เขาเป็น" มัน
ก็แค่นั้น ดังนั้น เราจึงไม่ได้ใช้การสอน การสอนนั้นต้องควบคุม, สั่งงาน
และมีตรวจการบ้านใช่ไหม? นี่เราไม่ได้ทำเช่นนั้นเลย เราทำหน้าที่เพียง
สื่อสารเหมือนนักข่าว มากกว่าครู เราไม่ได้รับผิดชอบท่าน ในฐานะศิษย์
เลย ในระดับมิติของเราคือ "เราเป็นแล้ว เราจึงใช้สิ่งที่เราเป็น ทำมันได้"
มันไม่ใช่การฝึก แต่มันคือ "การเป็น" เมื่อคุณเป็นแล้ว คุณเกิดใหม่แล้ว
คุณมีระดับสูงขึ้นแล้ว คุณจึงใช้ได้ ทำได้เอง โดยไม่ต้องไปฝึก มันไม่ใช่
การฝึกนะที่รัก เราแค่แนะนำเทคนิกในการใช้เท่านั้น เมื่อคุณเป็นแล้ว คุณ
ใช่แล้ว คุณคือระดับเดียวกับเราแล้ว คุณก็สามารถทำได้เอง เป็นเอง ไม่มี
การฝึกเพื่อให้เป็น มีแต่ "คุณต้องเลื่อนระดับขึ้นไปให้ถึงระดับนั้นๆ" แล้ว
คุณก็จะสามารถทำได้เอง เข้าใจเอง โดยไม่ต้องฝึกหรือบอกกันเลย แต่ถ้า
คุณไม่ใช่ คุณไม่ได้เกิดใหม่ คุณไม่เป็นอย่างเรา คุณจะทำอย่างนั้นไม่ได้
คือ อยู่คนละระดับมิติกัน จะทำสิ่งที่ต่างกัน ไม่มีใครผิดถูกนะครับ เป็นแค่
ความหลากหลายทางธรรมชาติเท่านั้น เหมือนเราที่เมื่อเลื่อนระดับขึ้นไป
แล้ว เราจะลงไปทำอะไรในระดับที่ต่ำกว่าไม่ได้ เราถูกกำหนดกรอบด้วย
"จรรยาบรรณ" ของเราเอง ในแต่ละระดับ ยิ่งสูงขึ้น ยิ่งมีระเบียบมากขึ้น
ดังนั้น ท่านที่อยู่ในแต่ละระดับ มีธรรมชาติ ที่ทำได้ตามหน้าที่ที่ต่างกันแต่
ถ้าทานต้องการทำได้อย่างเรา ท่านต้องเป็นอย่างเรา ท่านต้องเลื่อนระดับ
ขึ้นมา ไม่ใช่ ท่านเอาไปฝึกแล้วท่านจะทำได้อย่างเรา อย่างนั้น ไม่ใช่ครับ

 

ดังนั้น การเลื่อนระดับ ก็ดี, การกำเนิดใหม่ ก็ดี ฯลฯ ล้วนสำคัญมาก เช่น
เดียวกับการชำระล้าง ทุกกระบวนการเกี่ยวข้องเชื่อมโยงและสำคัญมาก
เท่ากันทั้งหมด ถ้าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง ไม่ผ่าน ก็จะกระทบต่อขั้นตอน
อื่นๆ ด้วย มันเกี่ยวข้องกันทั้งหมด จนไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้
เลย ดังที่ได้อธิบายดังกล่าวข้างต้นแล้ว หวังว่าท่านคงเห็นความสำคัญนี้


กลับมาสู่เรื่อง "การชำระล้างพลังงานก่อนปลดปล่อยออกจากสังขาร"
ของคุณ คุณต้องเห็นภาพรวมให้ได้ก่อนว่ากระบวนการปลดปล่อยนี้ มัน
เป็นอย่างไร? อย่างนี้ครับ เราปลดปล่อยพลังงานจากโลก ที่ถูกปิดผนึก
ไว้นาน (มันปิดผนึกไว้ตลอดกาลไม่ได้หรอกครับ วันหนึ่งวันใดก็ต้องทำ
การปลดปล่อยอยู่ดี) เราปลดปล่อยออกมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการชำระ
ล้าง ซึ่งจะกระทำผ่าน "สังขารมนุษย์" สังขารมนุษย์เป็นเหมือนภาชนะ
สำหรับกระบวนการชำระล้างนี้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกระบวนการ "กำเนิด
ใหม่" ตามมาด้วย เพราะสังขารมนุษย์เป็น "รูปแบบ" (Form) ที่ดีใน
การให้กำเนิดใหม่ เราต้องการให้กำเนิดใหม่ตามแบบมนุษย์ เราจึงต้อง
ใช้สังขารมนุษย์เป็นภาชนะ เป็น "แม่พิมพ์" ให้พลังงานเหล่านั้น นั่นเอง


ดังนั้น การปลดปล่อย จึงไม่ใช่การปลดปล่อยพลังงานเชิงลบในตัวคุณ
ออกไป แต่เป็นการปลดปล่อยพลังงานเก่าของโลกนี้ เข้ามาสู่ตัวคุณและ
เมื่อถึงขั้นตอนนี้แล้ว คุณจึงทำการ "ชำระล้าง" เสีย ไม่ใช่ปลดปล่อยให้
ไปสู่บรรยากาศต่อไป ซึ่งจะส่งผลเสีย และผลกระทบมากต่อสิ่งแวดล้อม
และอาจส่งผลเสียถึงขั้นเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงอย่างไม่คาดคิด ขึ้นได้ด้วย

 

สำหรับการชำระล้างนั้น ท่านสามารถใช้วิธีการใดก็ได้ ที่ทำไปเพื่อ
ชำระภายในให้ใสบริสุทธิ์ ไม่ว่าท่านจะได้รับการจัดสรรตามธรรมชาติ
ให้ไปรับรู้และฝึกมาในวิธีแบบใด ท่านจะมีครูบาอาจารย์อย่างไร ก็ใช้
ไปตามธรรมชาติอย่างนั้น ที่สำคัญคือ "มันใสบริสุทธิ์ขึ้นได้จริงไหม"
ก็เท่านั้น ถ้ามันทำให้ท่านใสบริสุทธิ์ สุขสงบได้ ก็โอเค ทำต่อไป ครับ


อย่างที่ผมได้บอกแล้วว่าผมไม่ได้อยู่ในระดับครู ที่ต้องไปสอนคุณทำ
สมาธิ ผมรอคุณอยู่ในระดับมิติที่สูงขึ้นไปกว่านั้น คุณต้องอาศัย "ครู"
ท่านอื่นๆ ตามธรรมชาติจัดสรร เพื่อชำระล้าง จนกว่าคุณจะเติบโตไป
จนถึงระดับที่สูงขึ้นๆ ไปได้ และผมจะรออยู่ในระดับมิติที่สูงขึ้นนั้นเอง


สิ่งที่ผมทำคือ "การวางป้ายบอกทาง" ระหว่างทางที่คุณจะไต่ระดับ
ขึ้นไป ไม่ใช่การสอน และคุณจะรับรู้และเข้าใจมันได้ เมื่อคุณเดินทาง
มาจนถึง "ป้ายบอกทาง" นั้นแล้ว คุณจะเข้าใจเองว่า "อ๋อ อย่างนี้เอง"
สิ่งที่คุณลังเลและไม่แน่ใจ จะหมดสิ้นไป คุณจะมั่นใจยิ่งขึ้นในทางที่คุณ
ได้เดินมา ซึ่งอาจไม่พบใครเลย เหมือนคุณหลงทางหรือไม่? บ้าอยู่คน
เดียวหรือเปล่า? เมื่อถึงจุดนั้น "ป้ายบอกทาง" ของผม มันจะทำหน้าที่
ไกด์ไลน์ให้แก่คุณ เพื่อให้คุณมั่นใจ หมดความลังเล และเดินหน้าต่อไป

 

การเข้าใจผิดในการสื่อสาร เกิดขึ้นได้เสมอ แต่มันไม่ได้เป็นความผิดหรอก
นะ ทุกอย่าง ล้วนเป็นไปเพื่อเป็นองค์ประกอบย่อยให้แก่ภาพรวมทั้งหมด ก็
เท่านั้นเอง ดังนั้น "ความเข้าใจผิดจากการสื่อสาร" จึงจัดเป็นองค์ประกอบ
หนึ่งของทั้งหมด ทั้งมวล ก็เท่านั้นเอง การเข้าใจผิด ก่อให้เกิดการทำงาน
ของภาคส่วนอื่นๆ แต่นั่นไม่ใช่งานของเรา เป็นงานของผู้ที่คานดุลยภาพ
กับเรา หรือตรงข้ามกับเรานั่นเอง เขาจึงมีเปลือกนอกที่เหมือนเรามากแต่
เพราะ "ความผิดพลาดโดยไม่เจตนาของมนุษย์" นำพาไปสู่ทางตรงข้าม


ที่รัก เราจะไม่โทษว่าใครผิด เราจะไม่บอกว่าเราคือสิ่งที่ถูกต้อง ทุกอย่าง
ล้วนเป็นเพียง "องค์ประกอบย่อยที่สำคัญต่อภาพรวมทั้งหมด" ซึ่งเราจะ
ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้ เราจำเป็นต้องมีทั้งหมดทุกส่วน ดังนั้น จึงไม่มี
ใครที่ผิด หรือถูก ทั้งสิ้น แต่ละท่านทำหน้าที่ต่างกันไปเท่านั้นเอง เราเพียง
แต่เน้นย้ำถึงหน้าที่ของเรา ที่เรารับผิดชอบมาเท่านั้น เพื่อให้ท่านสามารถ
เลื่อนระดับสู่ระดับเดียวกับเราได้ และเมื่อถึงเวลานั้น ท่านจะเป็นเหมือนกับ
เรา ในขณะที่ท่านอื่นๆ ที่เลือกเส้นทางเดินสายอื่น เขาก็จะเป็นอย่างนั้นไป
อย่างที่เราได้บอกแล้วท่านเลือกทางเดินของท่านเองได้ ท่านเลือกที่จะเชื่อ
ใคร หรือไม่ ก็ได้ ท่านเลือกอย่างไร ท่านก็จะได้ จะเป็นอย่างนั้น เท่านั้นเอง

 

rabbit_heartrabbit_heartrabbit_heart

 

25 พ.ค. 2555


"เสียงจากกูรูด้านพลังงาน"
รับสื่อสารโดย


<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->瑠璃王<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6180542", true); </SCRIPT>

 

อยาก เปลี่ยน แปลง ก่ ตั้ง จิต ตั้ง ใจ อธิษฐาน ต่อ.....

สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ ใน ตัว เอง เพื่อ การ เปลี่ยนแปลง

การ ตั้ง ใจ เปลี่ยนแปลง จึง จัก ได้ รับ การ จัด สรร

ให้ เปลี่ยนแปลง หาก นิ่ง เฉย ทุก สิ่ง ก่ จัก นิ่ง เฉย

ไร้ ซึ่ง การ เปลี่ยน แปลง การ คิด และ ตั้ง ใจ เท่า นั้น

จึง จะ เปลี่ยน แปลง สภาวะ .....

เพราะ คิด ว่า นิ่ง มัน ก่ จะ นิ่ง หาก เปลี่ยน แปลง

มัน ก่ จะ เป็น แรง กระเพื่อม ไป สู่ ดวง ดาว

ไป สู่ มิติ อื่น ๆ ที่ พร้อม รับ การ เปลี่ยน แปลง

ใน รหัส ของ ท่าน เอง ... ของ ใคร ของ มัน

 

เปลี่ยนแปลงไปยังไงดีหรือ? ไม่รู้น่ะ

 

ได้ ทั้ง สอง ทาง

ทาง เลว กระแส ลบ ก่ คือ ให้ กระแส ลบ มา หา

ทาง ดี ก่ ให้ กระแส บวก มา หา

ให้ เลือก เอา

มนุษย์ เลือก ได้ เพราะ เป็น แกน กลาง อยู่

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=cKBWXAKmcAk]ล้างใจ : ยุ้ย ณพอาภา feat. เป้ (Mild) [MV HD] - YouTube[/ame]


อ่ะ เพลงนี้ละ

 

จะทำไงดี หากชำระล้างให้ใสบริสุทธิ์ไม่ทัน
เมื่อสติตามไม่ทันอารมณ์

____________________________

 

อยู่ กับ ธรรม ชาติ ดี ที่ สุด ครับ

มนตด ไม่ มี ธรรม ชาติ เพราะ ละ เลย ธรรม ชาติ

จึง ต้อง มา อยู่ กับ เรา

โลก ใบ นี้ ดี ที่ สุด เท่า ที่ มี อยู่

แต่ ใน อนาคต ก่ จะ มี อีก สำหรับ

มนุษย์ พันธ์ ใหม่ .... โยก ย้าย จาก

ที่ นี่ ไป .... เฉพาะ ผู้ ถูก เลือก เท่า นั้น