จุดสุดท้ายของการเรียนไสยศาสตร์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย manforlove, 25 พฤษภาคม 2012.

  1. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    การเรียนไสยศาสตร์ทุกประเภทมีจุดจบสองทาง
    1.มืดมิด
    2.สว่าง
    เพราะท้ายที่สุดของจุดจบมีสองด้านคือ การวางทุกสิ่งที่ร่ำเรียนมาเพราะรู้แล้วสู่ความเป็นกูรู หลุดพ้นจากพันทนาการ เพราะ จะเข้าถึงพุทธศาสตร์ได้โดยเส้นทางที่มีอยู่
    เส้นทางนี้ เข้าง่ายออกยาก แต่เรียนรู้และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ใคร เรียนได้ อยู่บนความไม่ประมาทและไม่ปราบใคร
     
  2. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
  3. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    ถ้ารู้ลึกจริง ๆ ก็น่าจะทราบด้วยว่า ถึงจะเก่งกาจจนสุดด้านไสยฯขาว แต่ถ้าตายก็ต้องลงนรกก่อนอยู่ดี อันนี้รู้มาจากคนที่เล่นไสยฯขาวที่เก่งกาจมาก ผมเองก็เกือบจะได้รับถ่ายทอดวิชา แต่เพราะไม่เอาเองก็เลย โชคดีรอดนรกไป
     
  4. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ไสยขาวเป็นอย่างไรครับช่วยอธิบายและยกตัวอย่างให้ฟังหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  5. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    ก็ทั้งวิธีพิธีการจะเป็นอีกด้านของไสยฯ ดำครับ คือจะมุ่งแก้คนหรือของที่มาจากคุณไสยฯ ดำ ซึ่งจะใช้วิชาในระดับเดียวกันกับไสยฯ ดำ ซึ่งจะไม่มีส่วนที่เป็นการอาราธนาบารมีพระ หรือพุทธคุณเลย ดังนั้นจะวัดหรือสู้กันด้วยพลังจิตของแต่ละคนโดยเฉพาะเลย ถ้าพลังจิตสูงกว่าก็แก้ได้ และสามารถแก้กลับไปทำร้ายฝ่ายสายดำได้ด้วย

    ก็มีไม่น้อยนะครับที่ไปเข้าใจว่าเรียนวิชาพวกนี้ได้บุญ แต่บุญที่ได้มันน้อยกว่าบาป เพราะไม่ได้แก้ด้วยพุทธคุณ แรกๆ อาจจะสามารถแก้ได้ผลเห็นทันตา แต่ก็เป็นการส่งจิตที่ไม่ดีออกไป เหมือนกับเราเป็นทหารกำลังปกป้องประเทศก็ต้องฆ่าศัตรู บาปที่ฆ่าเขาก็ส่วนนึงบุญที่ปกป้องประเทศก็ส่วนนึง นี่ก็เหมือนกัน แต่ต่างกันที่มันจะขาดทุนเพราะเราช่วยเฉพาะคน แต่สร้างเวรอีกนับไม่ถ้วน

    ที่บอกว่าต้องลงนรกก่อน เพราะเขานับเกณฑ์เดียวกันหมดคือ นับเป็นเดรฉานวิชา ซึ่งเป็นวิชาที่มุ่งร้ายต่อกัน ไม่ว่าจะทรงฌานเก่งแค่ไหน ถ้าเกิดตอนตายพลาดไม่ได้เกาะกุศลหรือทรงฌาน เขาไม่ต้องให้ผ่านสำนักพญายม เขาให้ลงนรกไปก่อนเลย ไม่สนว่าคุณจะช่วยคนทำความดีมาแค่ไหน เว้นแต่บุญกรรมฐาน บุญที่เกิดจากการปฎิบัติธรรม ถ้าแบบนี้พอคุยกันได้ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะรอด

    คือปู่ของเพื่อนผมที่เขาเล่นสายขาว เขาเก่งมากแก้คุณไสยฯ ช่วยคนได้เยอะมาก ๆ โชคดีว่าตอนตายทรงฌานได้ เลยไปเป็นพรหมแล้วลงกลับมาบอกหลานซึ่งเคยถ่ายทอดวิชาไว้ตอนแกยังมีชีวิตอยู่ คือเพื่อนคนนี้เขาถอดจิตคุยกับผีเทวดาได้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะปู่เขาฝึกมาเข้มมาก เขาก็มาเล่าให้ผมฟังอีกทีเพราะรู้ชะตาตัวเองว่าตายไปแล้วจะไปไหนก่อน ก็มาเล่าปรับทุกข์ให้ฟังน่ะครับ
     
  6. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ขอบคุณมากครับ ตอบมาละเอียดเลย ผมมีเรื่องเทคนิคการทำบุญหรืออนุโมทนาบุญให้ได้บุญมหาศาลมาฝากครับ เป็นเรื่องที่ อ.suwi เล่าไว้จากประสบการณ์ตรง ถ้าสนใจก็มาอ่านได้ที่นี่ครับ

    http://palungjit.org/threads/ปรึกษา...ใช้พลัง-ปราณยาม-ในการรักษาโรค.110817/page-133
     
  7. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    การแก้ก็อาศัยพุทธคุณครับ คนที่เก่งมากๆท่านไม่ได้ถอดถอนคุณไสยเลย แค่ท่านทรงธรรมเท่านั้น คนที่เข้ามาหามีผีมีจิตวิญญาณ ก็ออกไปหมด โดยที่ไม่ต้องสวดใดๆ หรือสวด ก็เป็นภาษานั้นๆให้เขาได้ทราบ(เทศ)เป็นการเทศสอนและปลดปล่อยจิตที่ถูกผูกด้วยอาคมและสอนไม่ให้ผูกกรรมเวรปล่อยกันและกันให้ไปเกิดใหม่ การถอดคือ ไม่ต้องถอด ระลึกถึงพระรัตนไตร อาราธนาพุทธคุณ แล้วน้อมใจด้วยศรัทธา แล้วแผ่บุญ คือการถอดที่ดีกว่าการสวดถอดใดๆ
     
  8. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    เมื่อจะหลุดพ้นได้ต้องถ่ายทอดต่อ คายของเก่าให้คนอื่นตัวเองก็หลุดพ้น คนอื่นๆต้องมาเรียนรู้เช่นเดียวกันเป็นเส้นทางการหลุดพ้นชนิดหนึ่งแต่เสี่ยงมากและมีบททดสอบมหาศาลกว่าปกติเท่านั้นเอง คนเหล่านี้จึงเป็นครูที่ดีได้ และพระพุทธองค์เองก็ศึกษาศาสตร์เหล่านี้หลายภพนับชาติแม้แต่ชาติสุดท้ายก็เรียน เรียนหลายศาสตร์มากแต่ก็หาทางหลุดพ้นได้ด้วยพระองค์เอง ดังนั้นถ้ามีสัมมา นำหน้าแล้วความปลอดภัยในศีลธรรม การรอดนรกนี้มี สำหรับเหรียญสองด้าน เลือกให้ถูกด้านก็แล้วกัน
     
  9. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ทางที่ไม่เสี่ยงคือ อยู่ตรงกลางให้ได้ ไม่ยุ่ง ไม่หมิ่น ไม่ตกลงไปทั้งสองด้านของเรียน นั้นคือพุทธะศาสนาที่แท้จริง
     
  10. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    ผมว่า ไสยศาสตร์ก็คือ วิทยาศาสตร์ที่ยังไม่ถูกค้นพบน่ะ ทั้งดำทั้งขาว
     
  11. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    พระพุทธองค์ว่า เจตนานั่นแหละเป็นตัวกรรม เช่นนี้แล้ว เจตนาดีจะลงนรกได้อย่างไร

    เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้
     
  12. Maria Amari

    Maria Amari สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +14
    ไสยศาสตร์ คือวิชาแห่งความ ไม่รู้
    ไม่ใช่ทางแห่งการพ้นทุกข์ มีแต่สุขเพิ่มขึ้นกับ ดำดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดของทุกข์ที่เต้นบนกองไฟอย่างมีความสุข

     
  13. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    ไม่มีอะไรเสียหาย หากจะหอบฟางซักหอบ และวางฟางเหล่านั้นซะ เพียงแต่จะวางในกองไฟ หรือจะวางเพื่อเป็นปุ๋ยดิน
     

แชร์หน้านี้

Loading...