ขอความเมตตาตรวจดวงให้ผู้มีปัญหาชีวิตด้วยครับ

เบื้องต้นคือ ผมตกงาน มาตั้งแต่สิงหา54ครับ จนป่านนี้ก็ยังไม่มีงานที่ไหนต้องการ
เหมือนจะมีงานเข้ามา ดวงเริ่มจะดี ตอน กันยา ตุลา แต่ก็น้ำท่วมซะก่อน พอจะได้งาน ก็จะมีคนอื่นได้แทนไป ครั้งสุดท้ายก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ก่อนหน้าหลายปีก็ออกมาขายของเอง อยู่ได้หลายปีก่อน แต่มันแย่ลงมาเรื่อยๆครับ

ท้อมากครับ เป็นไมเกรนทั้งอาทิตย์รู้สึกแย่ทำให้ ครอบครัวไม่สบายใจ เพื่อนรอบข้างเดือดร้อนเพราะยังไม่มีเงินจะคืนเค้า คนรอบๆก็บอกให้มองโลกในแง่ดี แต่หลังจากมันล้มแล้วล้มอีก มันก็แก้ปัญหาง่ายๆไม่ได้
จริงๆก็ล้มลุกคลุกคลานแล้วยืนได้บ่อยๆ แต่คราวนี้ รู้สึกแย่จน ไม่อยากไปต่อ ทั้งที่ คนรอบข้างก็ให้กำลังใจมากๆ อาจเพราะทำอะไรมันก็แย่ไปหมดตลอด 2-3ปีที่ผ่านมาเหมอนกราฟดิ่งลงเหวครับ

ช่วยดูที ว่ายังพอมีวาสนา ทางไปต่อหรือเปล่า ตอนนี้ผมแทบไม่เห็นตัวเองว่าจะไปทางไหนได้เลยครับ พยายามมองที่เค้าแย่กว่าเรา เค้ายังสู้แต่เรากลับท้อแท้มากเลย เหมือนคนป่วยจริงๆ

เกิด 16กย2517 เกิดบ่าย40 กทม 37ปีแล้วครับ อาจเพราะเริ่มช่วงวิกฤตกลางคนด้วยหรือเปล่า

 

ผมดูหมอไม่เป็นหรอกนะครับ แต่แค่อยากบอกว่า ถ้าคุณดูหมอแล้วทายว่าดีคุณจะทำอย่างไร แล้วถ้ามันไม่ดีจะทำอย่างไร ผมแนะนำว่าคุณลองสวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิดูนะครับ ใจที่นิ่งเมื่ออธิษฐานแล้วอาจจะได้มากกว่าที่คุณคิดนะครับ โดยเฉพาะบทขอขมาพระรัตนตรัยและคาถาเงินล้าน อ๋อ อย่าลืมไปทำบุญด้วยนะครับ ลองดูแล้วกันนะครับ

 

มาเพื่อให้กำลังใจค่ะ อาจไม่ตรงตามจุดประสงค์ที่คุณต้องการนะ แต่ขอบอกว่าอยากให้กำลังใจจริงๆ ทั้งๆ ที่คุณบอกว่ามีกำลังใจจากคนรอบตัวมากมาย
นั่นก็เป็นสิ่งที่บางคนอาจไม่มีแบบคุณนะ อย่างน้อยคุณก็มีมากกว่าคนอื่น 1 อย่างแล้ว

สำหรับตัวเอง ดิ่งมาประมาณเกือบ 15 ปี แล้ว ที่ลุ่มๆ ดอนมาตลอด ปัญหาก็ไม่ต่างจากที่คุณเขียนมา เมื่อก่อนทุกข์นะ ทุกข์มาก เครียด เป็นไมเกรนแบบคุณนั่นแหละ วิ่งดูหมอดูมาไม่รู้ก็รายต่อกี่ราย ทั้งดูฟรี ดูเสียเงิน อยากบอกคุณว่า ไม่มีใครที่ตอบได้แน่นอนว่าจะดีขึ้นเมื่อไร คำตอบที่ได้มา ไม่มีครั้งไหนที่จะถูกต้องสมบูรณ์ ตามที่ใจเราอยากให้เป็นค่ะ อันนี้พูดจากประสบการณ์ที่ผ่านมา

แต่บอกได้เลย ที่คลายทุกข์ได้เพราะธรรมะของพระพุทธองค์ค่ะ ทาน ศีล ภาวนา โดยเฉพาะภาวนา มีผลมากมายต่อจิตใจ ที่ร้อนก็ผ่อนเย็นลง ที่ทุกข์ก็คลาย แต่ไม่ขอบอกว่าสุขนะ มีแต่ทุกข์มากทุกข์น้อย วางได้เมื่อไร จิตใจจะไม่ทุกข์ (เหมือนครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า "ใจเป็นประธาน" ทุกข์มากทุกข์น้อยก็อยู่ที่ใจนี่แหละ) และสิ่งที่ทำให้มองเห็นทุกข์เป็นเพื่อน ขอบคุณความทุกข์คือ ถ้าไม่ทุกข์ ไม่มีปัญหาในชีวิต คงไม่มีเส้นทางให้ได้ไปกราบครูบาอาจารย์ ได้เป็นลูกศิษย์ท่าน ได้รับคำอบรมสั่งสอน พร้อมทั้งให้ปฏิบัติ ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา
ซึ่งเคารพบูชาท่านเสมือนเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด "ให้กำเนิดทางธรรม"

เข้าใจว่าคุณกำลังทุกข์ ความจริงถ้าจะพูดตามที่คุณเล่ามา คุณก็อยู่กับสถานการณ์แบบที่เป็นอยู่มาหลายปีแล้ว แต่สังเกตไหมว่าคุณก็ผ่านมันมาได้
เป็นปีๆ เพราะอะไรนั้นคุณคงจะรู้ตัวของคุณดี แต่ที่ทำให้ทุกข์มากจนเป็นไมเกรนเพราะกำลังทุกข์กับคำถามที่ว่าเมื่อไรจะพ้นจากสิ่งที่เป็นอยู่

ถ้าคุณถามว่าทุกข์ไหม ทุกข์นะเวลาคิดถึงสิ่งที่ต้องเผชิญเวลานี้ แต่พอเริ่มคิดแล้วปล่อย ถ้ายังไม่หยุดคิด ก็คิดถึงความตายเลยว่า เราก็ต้องตายซักวัน ทุกคนต้องตาย แต่วันไหนไม่รู้ หนี้ที่มีอยู่ถ้ามีชีวิตก็ต้องใช้ แต่ถ้าเราตายเมื่อไร (อันนี้ตามธรรมชาตินะ ไม่ได้คิดสั้น) มันก็ต้องจบไปพร้อมชีวิตเรา ถามว่าเป็นลูกหนี้ชั้นเลวหรือเปล่า ก็ไม่นะ ถ้าชีวิตยังอยู่ ถ้ามีก็จ่าย ไม่หลบ ไม่หนี จ่ายทุกบาททุกสตางค์ แต่เมื่อมันยังไม่มีก็ไม่รู้จะทำไง ก็ค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้ เมื่อเกิดความผิดพลาด ก็ไม่รูจะทำอย่างไร ทุกคนอยากมั่งมีด้วยกันทั้งนั้น

แต่ชีวิตแต่ละชีวิต กรรมเก่า กรรมใหม่ อันนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำมาอย่างไรก็ต้องใช้ไปอย่างนั้น ก็ผ่อนบรรเทาเบาบางลงด้วย ทาน ศีล ภาวนา การสวดมนต์ และการแผ่เมตตา ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน

มีบทความของ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล (มีคนส่งมาให้ทางเมล) ตัวเองอ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีก


คนส่วนใหญ่ทุกข์ก็เพราะ ๒ เรื่อง เรื่องที่เป็นอดีตกับเรื่องที่<WBR>เป็นอนาคต

เวลาเราทุกข์เพราะของหาย ทุกข์เพราะถูกตำหนิ ทุกข์เพราะแฟนตีจาก เหตุการณ์เหล่านั้นล้วนแต่เป็<WBR>นอดีต

แต่พอนึกถึงมันก็ทำให้เรา ทุกข์ ถ้าไม่ทุกข์เพราะอดีต ก็ทุกข์เพราะอนาคตหรือเรื่<WBR>องราวที่ยังมาไม่ถึง

เวลาเราทุกข์เมื่อเจอรถติด เราไม่ได้ทุกข์เพราะอากาศร้อน เราไม่ได้ทุกข์เพราะที่นั่งมั<WBR>นแข็งกระด้าง แต่เราทุกข์เพราะกำลังกังวลว่<WBR>าจะไปทำงานสาย ไม่ทันประชุม หรือไม่ก็คอยลุ้นว่า เมื่อไรจะถึง ๆ ๆ ตัวอยู่บนรถ แต่ใจไปอยู่
ที่จุดหมายปลายทางแล้ว ก็เลยทุกข์ อันนี้เรียกว่าทุกข์<WBR>ใจเพราะไปอยู่กับอนาคต แต่ถ้าเรามีสติ รู้ทันจิต
ใจว่ากำลังอยู่กับอดีตและอนาคต สติจะพาเรากลับมาอยู่กับปัจจุบั<WBR>น ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ผ่<WBR>านไปแล้วหรือ
เรื่องที่ยังมาไม่ถึง ทำให้ใจเป็นปกติได้

ทุกวันนี้ผู้คนไม่ค่อยมีความสุ<WBR>ขก็เพราะใจเผลอคิดเรื่องอดีตกั<WBR>บอนาคต แต่ถ้ามีสติเมื่อใด ใจก็จะหวนกลับ
มาอยู่กับปัจจุบัน แล้วเป็นทุกข์เพราะอดีตหรื<WBR>ออนาคตน้อยลง มีเหมือนกันที่บางครั้งเราไม่<WBR>ได้ทุกข์เรื่อง
อดีตหรืออนาคต แต่ทุกข์อยู่กับปัญหาที่เผชิ<WBR>ญหน้าอยู่ในปัจจุบัน เช่นความเจ็บป่วยไข้ อันนี้เป็นเรื่องเฉพาะ
หน้า แต่ขอให้สังเกต เราไม่ได้ทุกข์เพราะความเจ็บป่<WBR>วย แต่เป็นเพราะใจที่ปฏิเสธต่อต้<WBR>านผลักไสความเจ็บป่วยมากกว่า

เมื่อใดที่ใจต่อต้าน ผลักไส อะไรก็ตาม ความทุกข์ก็ตามมาทันที กับงานการก็เช่นกันเราไม่ได้ทุกข์เพราะงาน แต่ทุกข์เพราะใจที่ปฏิเสธต่อต้<WBR>านงานนั้น เรามักคิดว่าเราทุกข์เพราะสิ่<WBR>งที่เผชิญอยู่เฉพาะหน้า ที่จริงไม่ใช่ มันเป็นเพราะเราวางใจไม่ถูกต่<WBR>างหาก พูดง่าย ๆ คือเป็นเพราะใจเรานั่นเอง

เวลาเราเจองานซึ่งไม่ใช่เป็<WBR>นงานของเรา เรากำลังจะกลับบ้านอยู่แล้ว แต่เจ้านายขอให้เราทำงาน ชิ้นหนึ่งซึ่งเป็นของคนอื่น เรารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเลยใช่<WBR>ไหม บ่นอุบอิบหรือตีโพยตีพายว่า มันไม่ยุติธรรมทำไมต้องเป็นฉัน ถ้ามีความรู้สึกแบบนี้<WBR>เราจะทำงานด้วยความทุกข์ ความทุกข์นั้นไม่ได้เกิ<WBR>ดจากงานชิ้นนั้น
แต่เป็นเพราะใจของเราเองที่ต่<WBR>อต้านหรือปฏิเสธงานนั้น ลองมีสติรู้ทัน หรือเลิกบ่นเลิกตีโพยตีพาย ยอมรับงานชิ้นนั้นและทำงานอย่างเต็<WBR>มที่ เราจะไม่ทุกข์เลย ไม่รู้สึกว่างานนั้นยุ่งยากหรื<WBR>อหนักหนาอะไร ทำได้สบายมาก ความทุกข์ที่เกิดขึ้<WBR>นเวลาทำงานนั้น มักเกิดจากใจที่บ่<WBR>นกระปอดกระแปดว่าไม่ไหว ๆ ไม่
ยุติธรรม ทำไมต้องเป็นฉัน ทันทีที่คุณมีความรู้สึกอย่างนี<WBR>้เกิดขึ้น คุณจะเป็นทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์เพราะงาน แต่ทุกข์เพราะใจที่เป็นลบมากกว่า


มีการศึกษาพบว่าเวลาถูกฉีดยา ถ้าคุณกลัวเข็มฉีดยา ทันทีที่ถูกเข็มแทง ความเจ็บจะเพิ่มเป็น ๓ เท่าของคนที่ไม่กลัว อันนี้เป็นเพราะความกลัวในใจ ทำให้ใจปฏิเสธต่อต้านเข็มนั้น แต่ถ้าเราวางใจให้เป็นกลาง ยอมรับมัน ก็จะไม่รู้สึกปวดเท่าไหร่ รู้สึกว่าพอทนได้


ยกตัวอย่างง่าย ๆ ขณะที่เรากำลังนั่งสมาธิ อยู่ มียุงมาเกาะที่แขนเรา จะปัดก็ไม่ได้ แต่ถ้าใจเราปฏิเสธยุงตัวนั้น รู้สึกแขยง หรือกลัวเจ็บ ทันทีที่มันกัดเรา เราจะรู้สึกปวดจนอยากจะปัดหรื<WBR>อตบมันด้วยซ้ำ แต่ถ้าเราทำใจยอมรับมัน รู้ทันคามกลัวหรือความรู้สึกรั<WBR>งเกียจ พอถูกกัดเราจะไม่ค่อยรู้สึ<WBR>กปวดเท่าไหร่ พูดอีกอย่างหนึ่ง จะปวดมากหรือน้อย อยู่ที่ใจเรานั่นเอง

การทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ใจเราสงบลง ไม่ทุกข์อะไรง่าย ๆ แม้บางครั้งสิ่งที่เผชิญนั้นจะอันตรายหรือดูน่ากลัวก็ตาม


มีผู้หญิงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เคยไปว่ายน้ำที่เกาะสมุย ว่ายอยู่ดี ๆ ก็พบว่าตัวเองถูกกระแสน้ำพัดไกลจากฝั่งออกไปทุกที เธอพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่ง แต่ว่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งไกลจากฝั่<WBR>งมากขึ้น เธอตกใจมากร้องตะโกนขอให้เพื่อนช่วย เพราะถูกพัดออกทะเลไกลขึ้นเรื่<WBR>อย ๆ เนื่องจากอยู่กลางกระแสน้ำที่<WBR>เชี่ยวแรงมาก เพื่อน ๆ พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก็พยายามว่ายไปช่วยเธอ แต่พอว่ายได้สักพักก็รู้สึกว่ากระแสน้ำแรงมาก จึงเปลี่ยนใจ พยายามว่ายกลับเข้าฝั่ง

ตัวเธอเองยิ่งว่ายเข้าฝั่ง ก็ยิ่งเหนื่อย แถมไกลฝั่งออกไปเรื่อย ๆ จึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ ตอนนั้นรู้เลย ว่าคงไม่รอดแล้ว แต่แทนที่จะตื่นตกใจ เธอกลับรู้สึกสงบ เพราะทำใจได้ว่า ถ้าจะตายก็ต้องตาย พอทำใจได้เธอก็ปล่อยวาง อยู่เฉย ๆ ลอยคอนิ่ง ๆ ไม่ฝืนว่ายต่อไป ตอนนั้นเธอรู้สึกสงบมาก ผ่านไปพักใหญ่
ก็พบว่าตัวเองถูกคลื่นซัดเข้<WBR>าหาฝั่งทีละน้อย ๆ เพื่อนเห็นเช่นนั้น ก็ว่ายออกมาช่วยเธอ พาขึ้นฝั่งได้ในที่ สุด หลังจากนั้นเธอก็มารู้ว่าตรงที่<WBR>เธอว่ายน้ำนั้ นมีกระแสน้ำเชี่ยวมากที่เกิ<WBR>ดจากคลื่นกระทบฝั่ง ไม่มีใครที่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำได้ ส่วนใหญ่ตายเพราะหมดแรง ที่เธอรอดมาได้ก็เพราะทำตัวนิ่ง ๆ ไม่ฝืน
ว่ายด้วยความตื่นตระหนก และที่เธอทำตัวนิ่งได้ก็<WBR>เพราะยอมรับความตายได้ ไม่ขัดขืนหรือต่อสู้กับมัน

เวลาเจอเหตุร้ายที่หนีไม่พ้น ไม่มีอะไรดีกว่าการยอมรับมันด้<WBR>วยใจสงบ บ่อยครั้งการทำเช่นนั้นกลั<WBR>บทำให้รอดตายด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามการพยายามต่อสู้ขัดขื<WBR>น กลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง จนอาจไม่รอดก็ได้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งเล่าว่า ขณะที่กำลังขับรถบนทางด่วนด้<WBR>วยความเร็วสูง พอผ่านทางโค้งก็เห็นข้างหน้ามี<WBR>รถติดเป็นแพ เธอเริ่มชะลอความเร็ว แต่พอมองกระจกหลัง ก็เห็นว่ารถคันหลังไม่ชะลอ กลับแล่นตรงเข้ามาเต็มที่ เธอรู้เลยว่าเธอกำลังถูกอัดก๊<WBR>อปปี้ ความคิดตอนนั้นบอกเธอว่าคงไม่<WBR>รอด

ตอนรู้ตัวว่าจะไม่รอดเธอสั<WBR>งเกตว่ามือกำพวงมาลัยอยู่แน่<WBR>นมาก เธอคิดขึ้นมาว่าเครียดแบบนี้<WBR>มาทั้งชีวิตแล้ว ถ้าจะตายก็ขอตายแบบผ่อนคลาย เลยปล่อยมือจากพวงมาลัย นั่งอย่างผ่อนคลาย หลับตา แล้วก็มาจดจ่ออยู่กับลมหายใจ จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่น แล้วเธอก็หมดความรู้สึกตัว มารู้ตัวอีกทีตอนที่ตำรวจช่วย
ดึงเธอออกมาจากรถ ตำรวจแปลกใจมากที่เธอรอดมาได้<WBR>โดยไม่เป็นอันตรายอะไรทั้ง ๆ ที่รถพังยับเยินทั้งหน้าและหลัง แต่หลังจากที่ได้ฟังเรื่<WBR>องราวของเธอ ตำรวจก็บอกว่าถ้าคุณเกร็งตอนนั้<WBR>นคุณคงไม่รอดเพราะถ้าเธอตัวเกร็ง ก็จะต้องเจอแรงกระแทกเต็มที่

เธอบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นได้<WBR>เปลี่ยนชีวิตของเธอ

ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ผ่<WBR>อนคลายและปล่อยวางมากขึ้น
ไม่เคร่งเครียดหรือเอาเป็<WBR>นเอาตายกับสิ่งต่าง ๆ
เธอได้เห็นคุณค่าของการปล่<WBR>อยวางมากขึ้น
ตัวอย่างจากผู้หญิงคนนี้ชี้ว่า การยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
แม้กระทั่งความตายนั้น ไม่เพียงทำให้ใจสงบเท่านั้น
แต่ยังสามารถช่วยให้รอดตายได้ด้<WBR>วย

การยอมรับไม่ใช่การยอมจำนน แต่หมายถึงการยอมรับความจริงว่<WBR>ามันเกิดขึ้นแล้ว ไม่เสียเวลาหรือเสียอารมณ์ด้<WBR>วยการตีโพยตีพายโวยวาย แต่เราจะยอมรับความจริงได้ก็ต้<WBR>องมีสติรู้ทันใจของตัวเองเพราะปฏิกิริยาแรกของใจก็คือการโวยวาย ต่อสู้ ขัดขืน ผลักไส เป็นธรรมดาของใจเมื่อเจอสิ่งที่<WBR>ไม่พึงปรารถนา
ใจก็จะผลักไสต่อต้านเป็นอย่<WBR>างแรกถ้าหนีไม่ได้ก็จะผลักไส

แต่ถ้ามีสติรู้ทันอาการดังกล่าวมันก็จะคลายไป ช่วยทำให้ใจเราสงบ
เพราะความสงบเกิดจากการยอมรับแต่ถ้าเราดิ้นขัดขืนเมื่อไหร่ใจจะเป็นทุกข์ เร่าร้อน ทันที



ไม่รู้มากไปหรือเปล่านะ ที่เขียนมา แต่อยากบอกว่า "อยากให้กำลังใจ จากใจจริงค่ะ"

 

ตรวจชะตาดูแล้วครับ อาการค่อนข้างหนักเคราะห์ร้ายไข้รุม...เปลี่ยนงานบ่อย แถมอาจต้องเปลี่ยนที่อยู่ที่ทำมาหากินบ่อยด้วยแบบว่า 3-4 เดือนเปลี่ยนครั้งนึงเลย เอาใจช่วยครับทุกอย่างต้องผ่านไปได้ พื้นชะตาก็ไม่ขี้เหร่อะไร เกิดวันจันทร์ได้ราชาโชคอยู่ที่ไหนก็ไม่ตกยากหรอกครับ เพียงแต่วันที่คุณเกิดมันแรม15ค่ำ พระจันทร์อับแสงเลยให้คุณน้อยไปหน่อยกว่าจะสว่างก็อีกหลายเพลา....เพราะขณะนี้ราหูทับมาได้สักปีครึ่งแล้ว แถมในชะตาเดิมมีราหูนอนแช่อยู่แล้วชีวิตมันเลยมืดแปดด้านคูณสองเลย....บวกกับไม่กี่วันที่ผ่านมาสุริยะคลาด เงามืด(ราหู) มันก็เลยเล่นงานเราเต็มๆ มีชีวิตอยู่ได้ก็บุญหนักหนาแล้วครับ รอต้นปีหน้าฟ้าใหม่ หากิจการเป็นของตัวเองทำน่าจะมีกำไรขึ้นมาได้ครับ เพราะถ้าไปทำงานประจำเดี่ยวก็เปลี่ยนอีก เพราะดาวการงานเป็นกาลี
สรุปทุกอย่างจะผ่านไปได้ในต้นปีหน้าครับ อดทนหน่อยช่วงนี้อยู่เฉยๆก่อนรักษาเนื้อรักษาตัว และไปทำบุญกุศลให้ถึงพร้อม ปีหน้าพายุผ่านพ้นไปครับ สู้ๆ

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ชีวิตดีขึ้นเร็วๆวันนี้นะคะ เคยเป็นแบบนี้เหมือนกันค่ะจะบอกว่าดูหมอแล้วไม่ได้ทำให้เราสบายใจขึ้นแต่อย่างใด ก็เลยไปทำบุญที่วัดสายหลวงปู่มั่น กราบท่านเสร็จท่านบอกเลยว่า ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจของเราจะทุกข์จะสุขมันอยู่ที่ใจของเราเอง ท่านพูดจบน้ำตามันจะไหล ทั้งๆที่เราไม่ได้แสดงออกว่าเรามีความทุกข์เพราะตอนนั้นไปกับลูกสาวตัวเล็กขวบกว่าๆกับสามี หน้าตาก็ปกติตั้งแต่นั้นมาทำบุญกับวัดสายหลวงปู่มั่นตลอดและเริ่มสวดมนต์แผ่เมตตาหัดนั่งสมาธิ ตอนนี้ก็ดีขึ้นจิตใจดีขึ้นไม่ฟุ้งซ่าน และตอนนี้จะพยายามไปวัดให้ได้ทุกวันพระ ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ มีหนังสือสวดเมตตาใหญ่ของหลวงพ่อจรัญมี 1 เล่มค่ะได้รับเหมือนกันถ้าสนใจยินดีส่งให้ไม่คิดค่าใช้จ่ายค่ะ PM มานะคะ

 

ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ

คืออาจจะเป็นช่วงเวลาน่ะครับ ผ่านอะไรขึ้นๆลงๆ ใจจริงยังสู้ไหวอยู่ครับ
เมื่อก่อนมันง่ายหน่อยเพราะยังมีคนรอบข้างที่สนับสนุน แต่พอเวลาผ่านไปนานๆ ทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนกับเราไปด้วย ทำให้คนรอบข้างเค้าเหนื่อยหน่ายกับเรา มันก็เหนื่อย ก็ท้อ ก็ทุกข์น่ะครับ

จริงๆ เป็นคนที่ พยายามเลือก ทางเดินที่ไม่ค่อยเสี่ยงอะไรมาก เพราะไม่อยากสร้างให้เกิดปัญหา แต่พอเริ่มมีปัญหาการเงินและปัญหาอื่นๆที่ เราไม่สามารถเลือกได้เลย มันก็เหนื่อย และร้อนรน น่ะครับ

ตอนนี้ก็ทำใจยอมรับ อยู่นิ่งๆ (แต่ก็ทุกข์ เพราะความรู้สึกว่า ต้องให้คนอื่นช่วย มันวนเวียนไปมาตลอดเลยครับ)



sleeping_rb

 

เข้าใจความรู้สึกค่ะ พยามยามหาทางป้องกัน เลือกเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด
เป็นกำลังใจให้นะคะ อดทนเข้าไว้นะคะ

 

สู้ๆนะครับ.....ผมก็เคยผ่านช่วงเวลานั้นมา....ธรรมะช่วยได้ครับ พุทโธๆ

 

เอาใจช่วยนะคะ ขอให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดี ปัญหาทุกอย่างที่มีมาถ้าเราแก้ไขด้วยสติ แก้ไขด้วยปัญญา เรื่องยุ่งยากแบบนี้ก็จะค่อยๆผานไป และก็จะทำให้ใจของคุณแกร่งขึ้น ปัญหาใดๆมาก็จะไม่กลัวอีก ในเวลาเช่นนี้ขอให้คุณสร้างกุศลโดยการไหว้พระ ทำบุญ สวดมนต์ อยากแนะนำให้คุณสวดมนต์พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ขอให้สวดอย่างตั้งใจ คุณลองสวดดูสัก 7 วัน แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของชีวิตแน่นอน คาถาสวดมนต์ทุกๆคาถาเป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธ์ ค่ะ แต่อยากจะแนะนำให้สวดคาถานี้ก่อน ถึงจะยาวไปหน่อยสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้สวด และขอให้ลองสวดดูนะคะ ด้วยควมปรารถนาดีค่ะ

 

สู้ๆ นะคะ เป็นอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ก้อเป็นกำลังใจให้คุณด้วยนะคะ ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ สวดมนต์เยอะๆ ก้อช่วยได้ค่ะ ถ้าใจเราตั้งมั่นทำดี ไม่ว่าอะไรก้อจะสำเร็จ ถึงจะไม่ดีขึ้นมาทันตาเห็น แต่ก้อทำให้ค่อยๆดีขึ้นนะคะ สู้ๆนะค้าา ^^

 

ฮี่ๆๆ เวลาตอนนี้ดวงไม่ดี เราก็รู้แก่ตนเอง แล้วจะรอให้ดวงตัวเองดีทำไมล่ะ
แทนที่จะเสริมดวงโลคลาภไม่มากก็น้อยแก่ตนเองเข้าสิครับ รับรองชีวิตดีขึ้นไม่มากก็น้อย ถ้ารอดวงดีก็นานเอาเรื่องเลยแล่ะ แล้วถ้าถามว่าทำยังไง ก็ลองศึกษาดูเอาเองในกูเกิ้ลแล่ะครับ

 

เช็ค PM ด้วยครับ....