คำถามเรื่องนิพพาน(ตอบกันตรงๆนะครับอย่าป่วน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Tan emotion, 21 มิถุนายน 2012.

  1. Tan emotion

    Tan emotion สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +2
    นิพพานนั้นไม่สูญ อันนี้ผมเข้าใจนะครับแต่ที่เข้าจะถามคือ

    ๑.เมื่อเข้าสู่นิพพานแล้วเราก็จะไม่มีอะไรเหลือเลยแม้กระทั่งจิต คือการดับสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าไปในนิพพาน ไม่มีรูปร่างหรืออะไรอีกเลยใช่หรือไม่ครับ

    ๒.หากนิพพานคือการดับทุกอย่างแล้ว ก็จะไม่มีอะไรที่คงอยู่ได้เลยในนิพพานใช่หรือไม่ครับ

    ๓.ทำไมบางคนบอกว่าเรามาจากนิพพานแล้วเราก็ต้องกลับสู่นิพพาน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเราก็กลับมาวัฏสงสารนี้ได้อีกหรือครับ

    ๔.ถ้าบอกว่าดับขันธ์ห้าดับกิเลสดับจิต เจตสิก ไม่มีการรับรู้ใดๆแล้ว เมื่อนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่านิพพานเป็นบรมสุข และ อมตะ

    ๕.ถ้าสรรพสิ่งนิพพานหมดแล้วสามภพนี้จะเป็นอย่างไรครับ

    ๖.พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่ท่านดับขันธ์และเข้าสู่นิพพานไปแล้วท่านจะเป็นอมตะตลอดไปไม่มีวันดับสูญใช่หรือไม่ครับ

    ๗.ที่เค้าบอกกันว่านิพพานเป็นผู้สร้างจักรวาลและโลกนั้นจริงหรือไม่ครับ

    ปล.หากคำถามพวกนี้มันให้ดูเป็น มิจฉาทิฐิ ก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะครับผมอยากทราบจริงๆ เพราะฟังมาจากหลายคนอ่านมาจากหลายเว็บ เค้าก็ตอบไม่ตรงกันเลย ขอความกรุณาด้วยนะครับ ^^
     
  2. paura

    paura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +251
    นายต้องแยกนิพพาน ออกจาก สรรค์ ในอุดมคติของแต่ละคนที่ อยาก จะให้มันเป็นดั่งใจ อยาก
    ออกจากกันให้ได้



    + สรรค์ คือสถาณที่บำบัด เสพ ความสุข
    + - โลก คือสถาณที่บำบัด เสพ สร้าง สุข และ ทุกข์ สะสม
    - นรก คือสถาณที่บำบัด เสพ ความทุกข์

    มีเท่าไร ใช้เท่านั้น หมดแล้ว ก็มาที่โลกเริ่มใหม่

    end game คือ เลิกเล่น เลิกทำ ไม่มีอะไรติดตัว ไม่มีตัวให้ติด
     
  3. paura

    paura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +251
    และนายก็ต้องเข้าใจ คน มันต่างกัน
    *บ้างก็ เสียดายบุญที่สะสมมา ยังใช้ไม่หมด แอบมีตัวตนเก็บไว้ก่อน รอการจัดสินใจภายหลัง
    *บ้างก็อยาก อมตะ ชอบที่จะเสพ ทุกข์ สุข ตลอดไป มีความ รัก ต่อสรรพสิ่ง ผูกพัน ตัดไม่ขาด

    นายก็คิดเอาเองละกัน มันจะเอาเปรียบกันมั้ย ถ้าทำบุญมาก แต่ไม่ได้ผลตอบแทนเลย
    คนที่คิดว่าไม่เอาเปรียบได้หล่ะก็นะ
     
  4. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    นิพพานนั้นไม่สูญ อันนี้ผมเข้าใจนะครับแต่ที่เข้าจะถามคือ

    ๑.เมื่อเข้าสู่นิพพานแล้วเราก็จะไม่มีอะไรเหลือเลยแม้กระทั่งจิต คือการดับสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าไปในนิพพาน ไม่มีรูปร่างหรืออะไรอีกเลยใช่หรือไม่ครับ

    การเข้าภาวะของนิพพานต้องจำแนกเป็นสองคือ อรหัน กับ พุทธะ
    เพราะทั้งสองมีภาวะคือนิพพานเหมือนกันแต่แตกต่างกัน
    แตกต่างกันที่องค์ประกอบของขันธ์ที่แตกต่างกัน

    ไม่มีอะไรเป็นขอเราจริงแท้ แม้น แต่จิต ก่ไม่ใช่ของเรา สิ่งที่เป็นตัวตนจริงคือ ใจ

    ความแตกต่าง อรหัน กับ พุทธะ ต่างกันที่ บารมี กับ สภาวะการกลับคืน
    สู่ธรรมชาติต่างกัน พุทธะ จะส่งคืน จิต สู่ธรรมชาติหมดเกลี้ยง แต่ อรหันไม่ได้ส่งคืนทั้งหมด ยังต้องบำเพ็ญบารมีต่อไปอีก เพื่อ ส่งคืนดวงจิตแท้ คืนธรรมชาติ เหมือนกับองค์พุทธะ

    รูปร่าง ยังปรากฎ ได้อยู่ แต่เป็นรูปร่าง แบบ นามกาย แทน เป็นรูปร่าง
    ที่เกิดจาก องค์ประกอบของ นามธรรม


    ๒.หากนิพพานคือการดับทุกอย่างแล้ว ก็จะไม่มีอะไรที่คงอยู่ได้เลยในนิพพานใช่หรือไม่ครับ

    ภาวะนิพพาน ดับ แน่ไม่เหลือโดยเฉพาะทุกข์ ไม่มีเกิดแน่นอน
    แม้นมีสุข ก่ไม่ยึดติดในสุข ไม่มีปิติ ใจไม่มีกระเฟื่อมแน่นอน
    การดับนี่ ไม่ได้หมายถึง กรรมเก่า ไม่มีน่ะ กรรมเก่า ยังคงทำงาน
    อยู่เป็นปกติ เพียงแต่กรรมใหม่ ไม่มีการบันทึก แล้ว
    -กรรมเก่ายังส่งผล แสดงว่า ขันธ์บางขันธ์ ยังไม่ดับ
    -สาเหตุการดับอย่างสิ้นเชิงย่อมมีอยู่ (อธิบายโดยเทคนิค)



    ๓.ทำไมบางคนบอกว่าเรามาจากนิพพานแล้วเราก็ต้องกลับสู่นิพพาน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเราก็กลับมาวัฏสงสารนี้ได้อีกหรือครับ

    การกลับมีหลายรูปแบบ ไปนิพพานหรือภาวะนิพพานแล้ว เขาไม่มาเกิดอีก
    ในวัฎฎ แต่การกลับมา ก่ เหมือนรูปแบบของ มาร คือ ใช้คลื่นความถี่ ควบคุมร่างมนุษย์ได้ ให้คิด (เรื่องกระทำ เป็นเรื่องลำดับต่อไป โดยอัตโนมัติหลังจากคิดตามการควบคุมความถี่ เสร็จแล้ว)

    การกลับมา อีกรูปแบบหนึ่งคือ การช่วยเหลือ ร่างที่มีบารมีสูงให้ดำรงอยู่ได้
    อาทิ โพธิสัตว์ผู้มีบารมีสูงเท่านั้น เป็นต้น

    เพื่อให้ร่าง นั้น ๆ ได้สร้างสรรค์ คุณงามความดีให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์ต่อไป



    ๔.ถ้าบอกว่าดับขันธ์ห้าดับกิเลสดับจิต เจตสิก ไม่มีการรับรู้ใดๆแล้ว เมื่อนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่านิพพานเป็นบรมสุข และ อมตะ

    ดับแค่ขันธ์ธาตุ หรือ รูปขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ เท่านั้น แต่ นามธรรม ยังปรากฎ (เพราะกรรมเก่า ยังต้องมีอยู่)

    ต้องไปอ่านใหม่ น่ะครับ คำว่า ดับ เขา จะเขียนว่า ดับขันธ์
    คนเขียน หมายถึง การดับขันธ์ของการละสังขารหรือเปล่า

    เอาแค่ไม่ทุกข์ ไม่สั่นสะเทือน ไม่หวั่นไหว ก่ พอ ครับ

    บรมสุข หรือ อมตะ ค่อยไปว่ากัน ทีหลัง หลังตายจริงก่อน

    เข้าใจว่า คำถามนี้ เป็นการดัดแปลง สังคายนาตำราโบราณ
    เป็นความรู้ เสริมแต่งจากพวก ฤษีพรหม
    ในสมัยหลัง ๆ แล้ว ครับ ตำราโบราณจึงผิดเพี้ยน


    ๕.ถ้าสรรพสิ่งนิพพานหมดแล้วสามภพนี้จะเป็นอย่างไรครับ

    ช่างหัวมัน

    ๖.พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่ท่านดับขันธ์และเข้าสู่นิพพานไปแล้วท่านจะเป็นอมตะตลอดไปไม่มีวันดับสูญใช่หรือไม่ครับ

    ตามไปสิครับแล้วจะรู้เอง
    ตามไปอย่างไร น่าจะรู้ดี

    ๗.ที่เค้าบอกกันว่านิพพานเป็นผู้สร้างจักรวาลและโลกนั้นจริงหรือไม่ครับ

    ไม่จริง มิติผู้สร้าง ยังต้องไปอีกไกล จะไปก่ไปลำบาก เพราะ บารมีไม่พอ
    (พูด ง่ายๆ เขา ไม่ให้ไป - ให้กลับมาช่วยโลกก่อน)

    นิพพาน แค่ที่พักระหว่างทาง คิดว่า จบแล้วเหมือนพวกขี้เกียจคิด หรือไร
    นิพพานแล้วนอนตีพุงหรือไร คิดแบบนี้ก่ อกุศล แล้ว

    แล้วจะไปนิพพานทำไม .... ถ้าต้องการนอนตีพุง

    ก่ยังเห็นองค์พุทธะในอดีต ต้องทำงาน อยู่เลย นั้นคือ ปกติวิสัยของผู้
    นิพพานแล้ว คือ สร้างประโยชน์ต่อไป

    เอาเป็นว่า มิติผู้สร้างมี จริงก่แล้วกัน ...ผู้อยู่บนโลก นิพพาน หรือ มิติ อื่นๆ
    มาจาก ผู้สร้าง หรือ มีการสร้าง ก่ แล้วกัน

    ทำดี ละชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ไป เถิด ตั้งใจ ให้สูงไว้
    เรื่องอื่น ๆ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก
    ทำดี คือ บำเพ็ญประโยชน์ให้มาก
    ละชั่ว คือ การน้อมรักษาศีล เครื่องป้องกันมารทั้งหลาย
    ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ อันนี่ ตรงตัว เลย


    ปล.หากคำถามพวกนี้มันให้ดูเป็น มิจฉาทิฐิ ก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะครับผมอยากทราบจริงๆ เพราะฟังมาจากหลายคนอ่านมาจากหลายเว็บ เค้าก็ตอบไม่ตรงกันเลย ขอความกรุณาด้วยนะครับ ^^


    ดูแลศีลให้มั่น นอบน้อมให้เป็น ไปดู กุศลกรรมบท 10
    ทำให้ได้ตามนั่น ก่ ใกล้ ศีล ที่ยิ่งใหญ่ แล้ว
    ศีล 5 แค่ปุถุชนธรรมดา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2012
  5. thammakarn

    thammakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +376
    ๕.ถ้าสรรพสิ่งนิพพานหมดแล้วสามภพนี้จะเป็นอย่างไรครับ

    ช่างหัวมัน

    กด Like ให้เลย
     
  6. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    แอบแจมด้วย

    ทำไมเห็นพูดกันจัง ว่าถึงนิพพานแล้วจิตดับ
    การตีความแบบนี้อันตรายมาก ชวนคนให้เป็นมิจฉาทิฏฐิได้มหาศาล

    มั่นใจกันหรือเปล่าว่าหลวงปู่มั่นเป็นพระอริยเจ้า
    และมั่นใจกันหรือเปล่า ว่าหลวงตามหาบัว เป็นศิษย์ที่หลวงปู่มั่นรับรอง

    เห็นหลายคน ยกคำกล่าวของท่านว่า นิพพานคือนิพพาน
    แล้วก็ยกมาแค่นี้
    ไอ้ที่ท่านกล่าวชัดๆ ก็ไม่ยอมยกมา
    กลัวนิพพานจะไม่สูญ หรือยังไงก็ไม่ทราบ

    เอาล่ะ งั้นมาดูคำกล่าวของท่าน ที่ชัดๆ ว่าถึงนิพพานแล้ว จิตก็ยังอยู่
    ชนิดไม่ต้องเถียงกันอีกต่อไปเลย

    (ผมไม่เข้าใจว่า ทีคำกล่าวชัดๆแบบนี้ ไหงไม่มีคนยกมา หรือรับไม่ได้ ที่นิพพานไม่สูญ)
     
  7. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    "จากนั้นบุญกุศลทั้งหลายที่เราสร้างอยู่ไม่หยุดไม่ถอย
    เพิ่มพูนขึ้นเป็นลำดับลำดาเลยสวรรค์ไป เลยพรหมโลกไป จนกระทั่งถึงนิพพาน
    ดับทุกข์โดยประการทั้งปวงโดยสิ้นเชิงตลอดไป
    ไม่มีคำว่า อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จะเข้าไปเกี่ยวข้องในเมืองนิพพานนั้นได้เลย
    เรียกว่าเมืองนิพพานก็ได้ มหาวิมุตติ มหานิพพาน หรือธรรมธาตุก็ได้
    นี่เรียกว่าสถานที่ดับทุกข์โดยประการทั้งปวง


    กฎอนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปอย่างโลกทั่วๆ ไปอย่างนี้ ไม่มีในนิพพาน
    นิพพานสิ้นสุดยุติตั้งแต่ขณะท่านตรัสรู้ปึ๋งขึ้นมา พระอรหันต์ก็บรรลุธรรมปึ๋งขึ้นมา
    ทราบทันทีเลยว่าพ้นแล้วจากแดนแปรปรวน แดน ทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา
    ถึงแล้วซึ่งพระนิพพาน เรียกว่าเมืองเที่ยงตรง เที่ยงไปตลอดอนันตกาล
    ไม่มีคำที่ว่าจะโยกย้ายผันแปรไปไหนอีกเลย แม้ขณะหนึ่งก็ไม่มีในแดนนิพพาน
    จึงเรียกว่าเป็นแดนแห่งความเลิศเลอของท่านผู้บรรลุธรรมอันเลิศเลอแล้วสถิตอยู่ในสถานที่นั้น
    ผู้อื่นผู้ใดไม่สามารถจะไปอยู่ในสถานที่นั้นไ
    ด้ นอกจากผู้สิ้นกิเลสโดยสิ้นเชิงแล้วเท่านั้น
    นี่ก็คือการสร้างบุญสร้างกุศล


    เทศน์อบรมพระสงฆ์และฆราวาส ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๖ [บ่าย]
    ดูเพิ่มเติมที่ [เอาธรรมจักรเข้าไปผันหัวกิเลส]
     
  8. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ใจนี้ไม่เคยตาย ตั้งกัปตั้งกัลป์ก็เป็นมาอย่างนี้
    แม้จะไปตกนรกตั้งกี่กัปกี่กัลป์ก็ตาม การที่ว่าได้รับความทุกข์ในแดนนรกแต่ละหลุม ๆ นั้น
    ยอมรับ ส่วนที่จะให้ใจนี้ฉิบหายไม่มี ทุกข์ขนาดไหนก็ยอมรับว่าทุกข์
    แต่ไม่เคยฉิบหายคือใจดวงนี้
    เวลาชำระสะสางแล้วด้วยอำนาจแห่งคุณงามความดีของเรา
    ก็ค่อยสงบผ่องใสได้บริสุทธิ์ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงขั้นความบริสุทธิ์เต็มที่แล้ว
    ดังพระพุทธเจ้าและพระสาวกอรหันต์ทั้งหลาย ท่านถึงนิพพานเลย
    นั่น ถึงนิพพานก็ไม่สิ้นสูญ
    ใจดวงนี้ไม่มีคำว่าสูญ ตกนรกก็ไม่สูญใจดวงนี้

    จนกระทั่งบริสุทธิ์เต็มที่แล้วไปถึงนิพพานก็ไม่สูญ นี่แหละท่านว่านิพพานเที่ยง
    ก็คือจิตดวงที่ไม่สูญนี้แหละเป็นผู้บริสุทธิ์เต็มที่แล้ว
    เรียกว่าธรรมธาตุ อยู่ในแดนแห่งนิพพาน นี่แหละเป็นผู้เสวยความบรมสุขตลอดไป
    ท่านจึงเรียกว่านิพพานเที่ยง ๆ ก็เพราะจิตดวงนี้ไม่ตาย

    มีความเที่ยงตรงอยู่ด้วยบรมสุขตลอดไป
    นี่คือการสร้างความดีให้ผลแก่เราอย่างนี้ ให้พากันอุตส่าห์พยายามสร้างคุณงามความดี


    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดเขาน้อยสามผาน จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ (บ่าย)
    ดูเพิ่มเติมที่ ความสุขอันแท้จริง
     
  9. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เป็นไงครับ นักนิยมจิตว่าง จิตสูญทั้งหลาย
    ผมไม่ได้กล่าวลอยๆนะ
    มีที่มา สถานที่ วันที่ ของการเทศน์ด้วย อย่างชัดเจน
    อยากพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ไปหาฟังที่วัดป่าบ้านตาดได้

    หรือจะโจมตีว่าหลวงตาท่านไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า คำกล่าวท่านจึงไม่ถูก
    หรือจะว่าท่านสติฟั่นเฟือน เหมือนนักตำราทั้งหลายที่โจมตีหลวงปู่มั่น ที่ท่านเห็นพระพุทธเจ้า เสด็จมาอนุโมทนา

    ความจริงไม่ใช่แค่หลวงตามหาบัวและหลวงปู่มั่น
    พระสุปฏิปันโน อีกหลายองค์มาก ที่กล่าวว่าถึงนิพพานแล้วจิตไม่ดับ

    ถามว่านิพพานแล้วจิตไม่สูญนี้ ขัดแย้งกับพระพุทธเจ้าหรือไม่

    พระพุทธเจ้าตรัสว่าถึงนิพพานแล้วขันธ์ 5 ดับ รวมถึงวิญญาณในขันธ์5 ด้วย
    (บางคนเรียก จิตวิญญาณไง ถึงได้ไปตีความว่าจิตดับกันให้ได้)

    นิพพานแล้วจิตยังเสวยสุขอยู่บนนิพพานนั้น ไม่ขัดแย้งกับพระพุทธเจ้าดอก
    แต่ขัดแย้งกับนักไม่ยอมปฏฺบัติ แล้วตีความแบบเข้าใจไปเองว่า จิตสมควรจะดับ ต่างหาก
    เพราะนักตำรา จะรู้สึกเอาเองว่า มันไม่ make sense อย่างรุนแรง ถ้าจิตไม่ดับไงครับ
     
  10. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    1.ไม่ใช่ นั่นเป็นความคิด ของนักปาดเลวๆ ปฏิเสธิเทพ พรหมไม่มี นิพพานสูญ

    2.ดับ คือการดับ ขันต์ สิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ ไม่ใช่ดับมันทุกอย่าง

    3.คนเลวคนนั้นโกหก คบได้แค่รู้จักทักทายถามไถ่นิดหน่อยถ้าไปคบจริงจัง ก็หาความจริงใจจากคนเหล่านี้ไม่ได้เพราะยังเป็นคนกลับกลอกและเลวอยู่

    4.เค้าไม่ได้ดับจิตและยังสามารถรู้ได้อยู่อยู่

    5.ก็ดีน่ะสิ

    6.ใช่

    7.ก็ไปถามให้คนที่บอกมาสิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2012
  11. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    สาธุ
    คนปฏิบัติดีก็มี
    คนปฏิบัติแล้วฟั่นเฟือนก็มี
    นานาจิตตัง แล้วแต่บุญแต่กรรมโดยแท้
     
  12. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เที่ยว แต่ วิจารณ์ คน โน้น คน นี่ ต้อง ระวัง

    จะ หลง ไหล มิติ ของ มาร คือ ความ ไม่ นิ่ง ของ จิต

    ที่ อยู่ ใน มิติ การ วิจารณ์ ธรรม

    หาก จะ เป็น ผู้ วิจารณ์ ธรรม จะ ต้อง ไม่ แสดง ธรรม

    เพราะ เมื่อ แสดง ธรรม แสดง ว่า ธรรม ของ ตน วิเศษ กว่า ธรรม ของ ผู้ อื่น

    เมื่อ ต้อง การ แสดง ธรรม ก๋ ไม่ ควร วิจารณ์ ธรรม ของ ผู้ อื่น

    เพราะ จะ กลาย เป็น ผู้ ดำรง ใน มิติ มืด บอด เห็น ธรรม ตน ยิ่ง ใหญ่

    จึง เที่ยว วิจารณ์ ธรรม ผู้ อื่น
     
  14. WELL COME

    WELL COME สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    ดูแลศีลให้มั่น นอบน้อมให้เป็น ไปดู กุศลกรรมบท 10
    ทำให้ได้ตามนั่น ก่ ใกล้ ศีล ที่ยิ่งใหญ่ แล้ว
    ศีล 5 แค่ปุถุชนธรรมดา


    ศีล 5 แค่ปุถุชนธรรมดา จริงหรือครับ เห็นมีในบันทึกว่างมีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้แล้ว
    แต่ยังไม่เบื่อหน่ายกับชีวิตแบบฆราวาสก็เลยถามพระศาสดาว่าต้องทำยังไง
    ท่านก็เลยตอบว่า ให้ดำรงอยู่ด้วย/รักษาศีล 5 ก็พอ.

    มีชี้แจงแนะนำเพิ่มเติมไหมครับ.
     
  15. WELL COME

    WELL COME สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +1
    การวิจารณ์นั้นเป็นไปเพื่อเจริญในปัญญา
    ไม่ใช่เพื่อเอาชนะสิ่งใด ไม่ใช่เพื่ออยู่เหนือใคร
    ย่อมไม่เป็นไร เพราะธรรม แค่ยังไม่เสมอกันแค่นั้นเอง.
     
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เคย เห็น องค์ พุทธะ วิจารณ์ ธรรม ของ ผู้ อื่น หรือ ไม่

    ธรรม ของ ผู้ ประพฤติ ใน ธรรม

    ธรรม ของ ผู้ อยู่ ใน กรอบ ของ ศีล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2012
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396

    ปุถุชน ก่ รักษา ศีล 5 คำ ตอบ ก่ กล่าว ไว้ เอง จะ มา ถาม ทำไม
     
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396

    นัก ชิม อาหาร จัก ไม่ มา เป็น กุ๊ก ทำ อาหาร

    กุ๊ก ทำ อาหาร อยาก มา เป็น นัก ชิม ก่ ต้อง หยุด ทำ อาหาร

    เพราะ ต้อง ไป ชิม อาหาร ให้ กว้าง ขวาง หา ประสบการณ์ ชิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...