ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    หาของเด็ดเด็ดดีดีมาฝากนำเด้อเอื้อยนวล:cool:
     
  2. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    [​IMG]


    [​IMG]

    .............ของผมทำไมหลวงปู่หันหน้าไปอีกทาง..............​

    อ้อ....คนละรุ่น​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2012
  3. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459
    แนะนำ หลวงพ่อสีแก้ว เนื้อผง ปี 23 และ หลวงพ่อทวด รุ่นเก่า ๆ ที่ครับเหลือเยอะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2012
  4. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ขอน้อมกราบดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวดครับ

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะควา.

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะควา.

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะควา.
     
  5. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    น้านสิ ครับพี่ล้างใจ อิอิ


    น่าอิจฉาจังครับ พี่นวล :cool:
     
  6. ธาริณี

    ธาริณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +31
    หลวงปู่ทวด วัดห้วยมงคล ผลิตโดยโรงกษาปณ์โมเน่ร์ ฝรั่งเศส
    ในวโรกาสพระชนมายุครบ 6 รอบ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ปี 2547
     
  7. ธาริณี

    ธาริณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอส่งรูปภาพมาให้ดู (เป็นเนื้อ Bronze)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดียามดึกค่ะ ท่านรอง พี่ล้างใจ น้องตี่ น้องโอ น้องพล น้องภัทร คุณธาริณี...และทุกท่าน....

    อธิษฐานค่ะ บอกหลวงปู่ทวดว่าพรุ่งนี้อยากไปวัดช้างให้กับคุณหมอค่ะ...ท่านนำพระไปปลุกเสก...
    ขออนุญาตหัวหน้าที่ทำงานท่านอนุญาตให้ไปได้ เพราะเป็นวันทำงาน

    วัดห้วยเงาะยังไม่เคยไปเลย อยู่ยะลาตั้งหลายปี มีแต่ขับรถผ่าน ได้กราบพ่อท่านเขียวคราวนี้ จะได้กราบพ่อท่านเขียวดังที่หวังไว้......ค่ะ
     
  9. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    นำมาให้อ่านค่ะ
    อ้างอิงจาก
    http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek9EUTNORFV4TkE9PQ==&catid=

    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>พล.ต.นักรบ บุญบัวทอง แขวนเหรียญหลวงปู่ทวด08

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>พระเครื่องคนดัง

    พล.ต.นักรบ บุญบัวทอง รองผอ.ศปป.5 กอ.รมน. เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 24 ที่มีความชื่นชอบสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่

    พล.ต.นักรบบอกเล่าถึงที่มาว่า ชอบสะสมพระเครื่องมาตั้งแต่สมัยเด็กวัยรุ่น สมัยนั้นคุณพ่อชอบนำพระเครื่องมาส่อง ตนก็ชอบไปถามโน่นถามนี่ตามประสาเด็กที่อยากรู้อยากเห็น ด้วยความชื่นชอบจึงได้เริ่มศึกษาการดูพระจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เชี่ยวชาญการดูพระเครื่อง เหรียญ พระกรุ และเครื่องรางต่างๆ

    จากนั้นได้ศึกษาเพิ่มเติมจากในหนังสือพระเครื่องบ้าง สื่อออนไลน์อย่างอินเตอร์เน็ตและจากสนามพระต่างๆ บ้าง จึงเป็นที่มาของการเริ่มสะสมพระเครื่อง

    ′ใครแขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วจะไม่ตายโหง′ เป็นคติความเชื่อของคนวงการพระเครื่อง รวมทั้งผู้คนทั่วไป แต่มีพระหลวงปู่ทวดอยู่รุ่นหนึ่ง นอกจากคติความเชื่อเรื่องแขวนแล้วแคล้วคลาดปลอดภัย ยังมีความเชื่อที่ว่า แขวนแล้วได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง พระหลวงปู่ทวดรุ่นที่ว่าคือ เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ 2508

    ′ผมเกิดปี 2508 จึงเป็นความชอบส่วนตัว ปัจจุบันมีอยู่ 3 เหรียญ เป็นเนื้อทองแดง เนื้ออัลปาก้าชุบนิกเกิล และเนื้ออัลปาก้า ส่วนเรื่องประสบการณ์ของพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ ผมพูดได้เลยว่าเมื่อครั้งที่ยังมียศพันเอก ก็จะห้อยพระหลวงปู่ทวดรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ติด ตัวอยู่ประจำ ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้ตั้งอกตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ′

    ′กระทั่งได้เลื่อนยศเป็นพลตรี หลังจากที่ได้เลื่อนยศแล้ว มีเพื่อนๆ น้องๆ มาขอยืมไปห้อยคอ ปรากฏว่าก็ได้รับเลื่อนยศทุกคน ซึ่งนี่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น′ พล.ต.นักรบกล่าว

    ด้วยความชื่นชอบเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ 08 จึงได้ศึกษาอย่างถ่องแท้ จนเกิดความชำนาญในการดูเหรียญรุ่นนี้เป็นพิเศษ ซึ่งจากการศึกษาประวัติของเหรียญนี้จะเห็นว่า จัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2508 ในโอกาสที่พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธัมมธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้) และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท พัดสีขาว ฝ่ายวิปัสสนา (พ.ศ.2499) ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่พระครูวิสัยโสภณ

    เป็นเหรียญรูปทรงเสมา ด้านหนึ่งเป็นรูปหลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิ มีอักษรรอบข้างเป็นภาษาขอม มีรูปช้างที่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง

    ที่บริเวณฐานมีอักษรคำว่า ′หลวงพ่อทวด วัดช้างให้′ มีห่วงในเหรียญ ส่วนอีกด้านหนึ่ง มีรูปหลวงปู่ทิมครึ่งองค์หน้าตรง มีอักษรรอบข้างเป็นภาษาขอม และมีอักษรภาษาไทยคำว่า ′พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) งานเลื่อนสมณศักดิ์ เมื่อ 08′

    เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ รุ่นนี้จัดสร้างไว้ด้วยกัน 4 เนื้อคือ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้ออัลปาก้า และเนื้อทองแดง

    สิ่งหนึ่งที่นักสะสมพระเครื่องหรือเซียนพระทั้งหลายมีอยู่ทุกคนคือ เพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการพระเครื่องด้วยกัน โดยวิชาความรู้ก็มาจากพี่ๆเพื่อนๆ ในวงการ ซึ่งก่อนหน้านี้พ.อ.นิคม อุดมเลิศวนสิน เป็นผู้ที่ช่วยเหลือและดูเหรียญรุ่นนี้มาตลอดจนเพื่อนๆ ตั้งฉายาว่า ′เจ้ากรมเหรียญเลื่อน′ อีกคนคือ เต้ สระบุรี ที่เมื่อตนได้ดูพระแล้วบางครั้งบางทีดูแบบก้ำกึ่ง ก็ต้องให้เต้ สระบุรี ช่วยดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะเซียนพระทุกคนเชื่อได้เลยว่าไม่มีใครเก่งพระทุกรุ่น แน่นอน

    ′สำหรับคนที่ชื่นชอบในวงการพระเครื่อง ซึ่งถือว่าเป็นวงการที่ใหญ่ และมีสังคมที่กว้างขวาง ความซื่อสัตย์สุจริตต่อกันเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องไม่มาหลอกกัน เพราะการที่นำของมาหลอกกันนั้น ทำอาชีพอะไรก็ไม่เจริญ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น′ พล.ต.นักรบกล่าวทิ้งท้าย

    </TD><TD vAlign=top align=left>
    <!-- Start share facebook --><!-- End share facebook --><!-- Start share twitter --><SCRIPT type=text/javascript src="//platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><!-- End share twitter -->

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295><TBODY><TR><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295><TBODY><TR><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD height=21 width=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>













    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2012
  10. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    โครงการยุวประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
    โครงการความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดกับวิถีชีวิตชุมชนชุมพล


    <CITE>ความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดกับวิถีชีวิตชุมชนชุมพล<O:p</O:p
    ความเชื่อของคนในชุมชน เรื่องอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดเป็นตำนานบอกเล่ากันมายาวนานจนถึงปัจจุบันนี้ ความเชื่อได้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวางในกลุ่มพุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศความศักดิ์สิทธิ์ ถูกเล่าต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ทั้งในแง่ประวัติและอภินิหารของท่าน
    <O:p</O:p
    นางซ้วน เตระจิตร อายุ 82 ปี ชาวตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัด สงขลา เล่าถึงประวัติและอภินิหาร ของหลวงปู่ทวดว่า พ่อแม่ของหลวงปู่ทวดชื่อนาย หู นางจัน นางจันผู้เป็นแม่ได้คลอดท่านที่ต้นเลียบ พ่อและแม่ของท่านเป็นคนยากจน มีนายเงินชื่อปาน เมื่อวัยเด็กพ่อแม่เอาไปฝากเรียนหนังสือกับเจ้าอาวาสวัดดีหลวง และได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ แล้วเดินทางไปศึกษาต่อธรรมะที่อยุธยา ขณะที่เดินทางไปกับเรือสำเภา ของนายอินทร์ เรือถูกพายุคลื่นลมเดินทางไม่ได้ทำให้คนในเรือขาดน้ำดื่ม หลวงปู่ทวดจึงเอาเท้าเหยียบน้ำ และน้ำนั้นกลายเป็นน้ำจืด คนในเรือนำมาดื่มได้ คนทั่วไปจึงเรียกว่า “ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ” ผู้ให้สัมภาษณ์มีความเชื่อเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงปู่ทวด เรื่องทำน้ำเค็มให้กลายเป็นน้ำจืด เรื่องดื่ม หรือประพรมน้ำมนต์จะหายจากการเจ็บป่วย เชื่อเรื่องการบนบาน ถ้าขอในสิ่งที่ดีก็จะได้ตามที่ขอ
    <O:p
    นายเชือบ คงธรรม อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 6 ตำบล ชุมพล เล่าว่ามีครอบครัวครอบครัวหนึ่ง บิดาชื่อ นายหู มารดาชื่อ นางจัน เดิมหลวงปู่ทวดชื่อเด็กชายปู เกิด เมื่อวันศุกร์ เดือน4 ปีมะโรง ตรงกับพ.ศ. 2125 ณ บ้านดีหลวง ตำบล ดีหลวง อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา ในวันที่คลอดได้เกิดอภินิหารอัศจรรย์ คือ เกิดแผ่นดินไหว นายหูผู้บิดาเห็นว่า ลูกของท่านคลอดมาได้เกิดอภินิหารผิดกับเด็กคนอื่นๆ นายหูก็ได้นำรกไปฝังแล้วเอาต้นเลียบปลูกทับไว้ 1 ต้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันก็เจริญงอกงามเป็นที่กราบไหว้บูชา อยู่ที่บ้านเลียบตำบล ดีหลวง นายหูกับนางจันได้พาเด็กชายปู ไปเกี่ยวข้าวที่ทุ่งนา ได้ผูกเปลไว้กับต้นเม่าให้เด็กชายปูนอน พอเกี่ยวข้าวได้สักพักใหญ่ๆ นางจันผู้เป็นแม่จึงได้ขึ้นมาจากนาเพื่อให้เด็กชายปูดื่มนม นางจันก็ได้เดินมาที่เด็กชายปู นางจันหัวใจแทบจะหยุดเต้นเพราะนางได้เห็นงูใหญ่ รัดเปลของเด็กชายปูจนมองไม่เห็นลูกของนาง นางจันจึงได้นั่งลงและพนมมืออธิษฐาน ขอให้เจ้างูใหญ่ที่รัดเปลลูกของข้านั้นจงหายไป อย่าได้ทำร้ายลูกของข้าพเจ้าเลย หลังจากนางจันได้ตั้งจิอธิษฐานจบลง เจ้างูใหญ่ก็หายไป นางจันจึงรีบเข้าไปดูลูก แต่เห็นลูกยังนอนหลับอยู่ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด นางจันเหลือบเห็นลูกแก้ววางอยู่บนเด็กชายปูขนาดเท่ากับไข่นกพิราบ เรื่องลูกแก้วได้ทราบถึงเศรษฐีปาน เศรษฐีปานได้ขอลูกแก้วจากนางจันเพื่อเก็บไว้เป็นของตนเอง เมื่อเศรษฐีปานได้ลูกแก้วไปแล้ว แต่อยู่ได้ไม่กี่วันทำให้ครอบครัวเศรษฐีปานล้มป่วย ส่วนตัวเศรษฐีปานนอนหลับฝันไปว่า จะต้องตายกันยกครอบครัว เศรษฐีปานกลัวจึงนำลูกแก้วคืนให้กับนายหูและนางจัน เพื่อเป็นสมบัติของเด็กชายปูต่อไป นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เศรษฐีปานก็เกิดเกรงกลัวเด็กชายปูเป็นอย่างมาก จึงยกเลิกความเป็นทาสรับใช้ให้กับนาย หูและนางจัน และยังคงยกที่ดินให้อยู่เป็นครอบครัวอีกด้วย เมื่อเด็กชายปูอายุได้ 7 ปี ก็ได้นำไปฝากไว้กับอาจารย์ จวง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดดีหลวงในสมัยนั้น เพื่อให้เด็กชายปูได้เรียนหนังสือ เด็กชายปูได้เรียนหนังสือด้วยความเฉลียวฉลาดมาก พออายุได้ 15 ปีท่านอาจารย์จวงได้บรรพชาให้เป็นสามเณร หลังจากได้เป็นสามเณรแล้วก็ได้ไปเรียนหนังสือที่วัดสีหยังและเดินทางไปเรียนต่อที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่ออายุได้ 21 ปี ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุได้นามฉายาว่า สามีราม หรือ สามีราโม หลังจากนั้นท่านเดินทางต่อไปยังกรุงศรีอยุธยาเพื่อเรียนบาลีเพิ่มเติม เพราะเป็นภาษาหลักของศาสนาพุทธด้วย ท่านสามีรามได้ขออาศัยเรือสำเภาของนายอิน ขณะที่ล่องเรือไปถึงหน้าเมืองชุมพร ก็เกิดคลื่นลมแรง ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้เป็นเวลา7 วัน 7 คืน น้ำที่นำมาบนเรือก็หมด นายอินและลูกเรือก็กล่าวหาว่าเป็นเพราะพระรูปนี้ที่ทำให้เกิดลางร้ายเช่นนี้ นายอินและลูกเรือจึงนิมนต์พระสามีรามลงจากเรือ สำเภาใหญ่ให้ลงเรือลำเล็ก ขณะที่พระสามีรามนั่งอยู่ในเรือเล็ก ท่านก็ได้หย่อนเท้าข้างซ้ายลงไปในน้ำทะเล ได้มีแสงโชติช่วงแวววาวปรากฏขึ้น พระสามีรามก็ได้บอกให้นายอินทร์ตักน้ำในบริเวณนั้นมาดื่มดู ปรากฏว่าน้ำที่นายอิน ดื่มนั้นจืดสนิทไม่มีรสเค็มเลย นายอิน จึงบอกให้ลูกเรือดื่มดูบ้างก็จืดเหมือนกัน นายอินจึงกราบขออภัยโทษพระสามีรามและบอกให้ลูกเรือตักน้ำใส่ในเรือจนเต็มและถามพระสามีรามว่าท่านจะไปทำไมที่กรุงศรีอยุธยา พระสามีรามจึงตอบว่าไปเรียนหนังสือ แต่ท่านไม่เคยไป นายอินจึงบอกว่าไม่เป็นไรกระผมจะพาท่านไปส่งที่วัดเสมาเมืองและจะฝากให้ด้วย ในขณะนั้นกรุงศรีอยุธยามีความเดือดร้อนเนื่องจากมีการทายปัญหาปริศนาธรรมพนันเมือง พระเจ้าเอกาทศรถ เป็นทุกข์มากเพราะไม่มีใครแก้ปัญหาปริศนาธรรมได้ พระเจ้าเอกาทศรถจึงให้โหรประจำสำนักทำนายดวงชะตาเมืองว่าจะมีใครแก้ปัญหานี้ได้บ้าง โหรก็บอกว่ามีพระภิกษุรูปเดียวเท่านั้น ที่จะแก้ปัญหานี้ได้ และต้องมาจากแดนใต้ ซึ่งในตอนนั้นก็มีพระสามีรามรูปเดียวที่มาจากใต้ พระเอกาทศรถก็ได้รับสั่งทหารให้ไปนิมนต์ท่านสามีราม เพื่อแก้ปริศนาธรรมนี้ เมื่อถึงวันที่ต้องแก้ปัญหาปริศนาธรรม พระภิกษุสามีรามก็ได้แก้ปัญหาได้หมด ทำให้พระเจ้าเอกาทศรถปลื้มปิติมากที่ทำให้ไม่ต้องเสียเมือง และทรงยกเมืองให้พระภิกษุสามีรามครึ่งหนึ่ง พระสามีรามได้รับตามความประสงค์ของพระเจ้าเอกาทศรถ เมื่อได้ทำตามเจตนารมณ์ของพระเอกาทศรถแล้ว พระสามีรามก็ได้ถวายเมืองคืน ต่อมาในกรุงศรีอยุธยาได้เกิดโรคห่าระบาดยากที่จะรักษาแต่พระสามีรามก็ได้ทำการรักษาให้หายเป็นปกติ จนพระเจ้าเอกาทศรถปลื้มพระทัยมาก จึงพระราชทานสมณศักดิ์แก่พระสามีรามให้เป็นพระสังฆราชในยุกต์นั้น และเป็นช่วงที่พระภิกษุสามีรามต้องเดินทางกลับปักษ์ใต้ ซึ่งหมายถึงบ้านเกิดของท่าน ณวัดดีหลวง ท่านอาจารย์จวง ทราบข่าวการเดินทางกลับของพระภิกษุสามีราม พระอาจารย์จวงได้ป่าวประกาศว่าบ้านเรา พระสังฆราชนามว่าสามีรามกำลังเดินทางกลับมาแล้ว และจะมาประจำอยู่ที่วัดพะโคะ พระสามีรามได้ปรึกษากับอาจารย์ จวงว่า จะบูรณะ วัดพะโคะ เพราะพระเอกาทศรถเป็นผู้ถวายทรัพย์ ให้ช่างและคนงานทั่วไป มาช่วยบูรณวัดพะโคะ โดยทำโรงอิฐเผาเพื่อสร้างเจดีย์ สร้างทั้งพระพุทธไสยาสน์ และศาลาตัดสินความจนสำเร็จ ต่อมาพระสามีรามก็ได้เดินธุดงค์แถบชายทะเลอันดามัน ได้เจอกับพวกโจรสลัด พระสามีรามถูกจับขึ้นเรือเพื่อที่จะนำไปถ่วงน้ำ เมื่อเอาท่านขึ้นเรือแล้วโจรสลัดไม่ไห้ฉันอะไรเลยแม้แต่น้ำ แต่ท่านก็ไม่เป็นอะไรเลย ทำให้พวกโจรสลัดสงสัย จึงคอยสังเกตเห็นอภินิหารของพระสามีรามก็เกิดรู้สึกกลัว จึงนำท่านไปส่งที่ฝั่งและกราบขอโทษที่ได้ล่วงเกิน เมื่อได้ขึ้นฝั่งแล้วพระสามีรามก็ได้เดินธุดงค์ไปจนถึงเมืองปัตตานี ท่านก็ได้ถามคนแถวนั้นว่าพวกโยมจะไปทำบุญกันที่ไหน โยมก็ตอบโดยพร้อมกันว่าที่วัด ปัตตานี ถ้าจะตั้งวัดแถวนี้โยมจะเห็นด้วยหรือไม่ ชาวบ้านก็บอกว่าแถวนี้ช้างมันร้ายมาก พระสามีรามบอกกลับไปว่า อาตมาจะขอให้ช้างมันหยุดดุร้าย พวกโยมไม่ต้องกลัว และพวกโยมจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล พระสามีรามก็ได้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นปัจจุบันเรียกว่าวัดช้างไห้ เมื่อสิ้นวาระการเดินธุดงค์แล้วพระภิกษุสามีรามเดินทางมาประจำที่วัดพะโคะอีกครั้ง และได้โละ ( เหาะ ) หายไปจากวัดพะโคะในคืนวันเพ็ญ

    นาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>เชือบ บอกว่าส่วนตัวของ นายเชือบเอง มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ และอภินิหารของหลวงปู่ทวด เหยียบบนหินให้เป็นรอยฝ่าเท้าของท่านได้ ช่วยให้พ้นจากโรคภัยต่างๆ เรื่องทำน้ำเค็มให้กลายเป็นน้ำจืด ท่านบอกว่าท่านเคยมีประสบการณ์ ท่านเคยขอเรื่องให้มีงานทำ การสอบ ของหายได้คืน และแก้บนในวันพฤหัสบดีด้วยขนมโค ท่านจึงกราบไหว้หลวงปู่ทวดเพื่อขอพรเป็นประจำ
    <O:p</O:p
    นายเผือด กาญจนเพ็ญ อายุ 80 ปี หมู่ 1 ตำบลชุมพลเล่าว่าหลวงปู่ทวดมีบิดาชื่อนาย หู มารดาชื่อนางจัน อาศัยอยู่ในสวนจัน รกของหลวงปู่ทวดฝังไว้ที่ใต้ต้นเลียบ บวชที่วัดดีหลวงกับท่านสมภาร จวง ตาหูและยายจันเป็นลูกหนี้ของเศรษฐีปาน ตาหูและยายจัน มีลูกชื่อเด็กชายปู ครั้งหนึ่งพาลูกไปเกี่ยวข้าวได้ผูกเปลใต้ต้นม่าวเพื่อให้ลูกนอน เมื่อนาง จัน ขึ้นมาให้นมลูก นางตกใจมากเมื่อเห็นงูกำลังรัดเปลลูกอยู่ แล้วทิ้งลูกแก้วไว้แล้วเลื้อยหายไป นายเผือดบอกว่าความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดนั้นช่วยได้มากมาย ท่านเล่าว่ามีนายตำรวจ นายทหาร ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ที่ทำ ให้มีชีวิตรอดปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ในเขตเสี่ยงภัย ตามชายแดน ไปวัดพะโคะเพื่อบูชาหลวงปู่ทวดและทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ ทวด เป็นประจำ นายเผือดมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ และอภินิหารของหลวงปู่ทวด ช่วยให้พ้นจากการเจ็บไข้ ได้บนบานขออะไรบ่อยๆ ก็จะได้ตามที่ขอเมื่อได้แล้วต้องไปติดทอง จุดลูกประทัดถวาย ท่านบอกว่าในแต่ละวันมีคนมาทำบูญ ถวายสังฆทาน เช่าพระบูชาเป็นจำนวนมากเพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงปู่ทวด

    <O:p</O:p
    นายผัส สุวรรณรัตน์ อายุ 72 ปี หมู่ที่1 ตำบลกระดังงา อำเภอสทิงพระ จังหวัด สงขลา เล่าถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด และประโยชน์ที่ได้จากวัดพะโคะและการแก้บนว่าขออะไรจากหลวงปู่ทวดจะได้ทุกเรื่อง ต้องเป็นเรื่องที่ดีๆ การแก้บนก็ไม่ต้องอะไรมาก เพียงแต่นำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาและแก้ในวันพฤหัสบดี ท่านบอกว่านักท่องเที่ยวที่มาวัดพะโคะส่วนมากจะมาทำบุญสักการะหลวงปู่ทวด เมื่อไปวัดพะโคะแล้วจะได้ประโยชน์อย่างน้อย 4 ประการ คือ ความศรัทธา มีคุณมากกว่ามีโทษ เป็นสัญลักษณ์นักบุญของคนต่างประเทศและ จะเกิดความภาคภูมิใจของคนในบ้านเกิด นายผัส สุวรรณรัตน์ ได้เคยไปอาศัยอยู่ใน รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ระยะหนึ่ง ได้บอกว่า ชาวมาเลเซีย ส่วนหนึ่งที่ยังมีความเชื่อเรื่องอภินิหาร ของหลวงปู่ทวด กล่าวฝันถึงโอกาสที่จะมานมัสการด้วยความศรัทธา ท่านบอกอีกว่าแขวนรูปหลวงปู่ทวดจะทำให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ

    <O:p</O:p
    นายเนิ่น ชมเชย อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 5 ตำบล ชุมพล อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา บอกถึงอภินิหารของหลวงปู่ทวดและมีความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์เกี่ยวกับรอยฝ่าพระบาทบนแผ่นหิน จะช่วยให้คนป่วย หายป่วย ให้ลูกหลาน มีความสุข อยู่อย่างสงบ ขออะไรจะได้ตามที่ขอ ส่วนตัวของท่านบอกว่าเมื่อ ไปทำบุญที่วัดแล้วจะมีความศรัทธาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    <O:p</O:p
    นางน่วม นัครา อายุ 83 ปี บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 5 ตำบล ชุมพล อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา เล่าว่าแต่ละวันนักท่องเที่ยวจะมาเยี่ยมชมบุญหลวงปู่ทวดมากเขามากราบไหว้และเช่าหลวงปู่<O:p</O:p
    ทวดกลับไปบูชา ท่านบอกว่าการขอพรจากหลวงปู่ทวดนั้นขอได้ทุกอย่าง เช่น ให้ลูกหลานสอบได้ ไม่เจ็บไข้ เดินทางปลอดภัย หายจากการเจ็บไข้แล้ว ต้องแก้บน ด้วยการจุดประทัดและถวายขนมโค
    <O:p</O:p
    นางเอื้อม สิงห์ทอง อายุ 75 ปี ชาวตำบล ชุมพล อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา ท่านบอกว่าท่านมีความเชื่อเรื่องการบนบานหลวงปู่ทวด ท่านบนบานให้ลูกหลานมีความสุขสบาย และจะได้รับผลทุกครั้งตามที่บน แล้วต้องปิดทองรูปหลวงปู่ทวดแก้บน
    <O:p</O:p
    นายเปื้อม มุสิกรังศรี อายุ 79 ปี อาศัยอยู่ใกล้วัดพะโคะชาวตำบล ชุมพล อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา เล่าว่าได้สนทนากับชาวต่างชาติซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโป ที่มาวัดพะโคะบอกว่า มาตามความศรัทธาในอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อของคนมาเลเซียเพราะหลวงปู่ทวดเคยไปอยู่ที่มาเลเซีย
    <O:p</O:p
    ปรีชา นิลบล ( มปพ.: 17 ) สมเด็จเจ้าพะโคะหรือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หรือพระราชมุณีคุณูปมาจารย์ ชาติกำเนิดเดิม ชื่อปู เป็นบุตรนายหู นางจัน เกิดที่บ้านสวนจัน(บ้านเลียบ) ตำบลกุฎีหลวง อำเภอจะทิ้งพระ จังหวัด สงขลา ปัจจุบันชื่อบ้าน เลียบ หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ บ้านเลียบมีต้นเลียบให้สถานที่ฝังรก เด็กชายปู ปัจจุบันเป็นที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ ท่านเกิดเมื่อวัน ศุกร์ เดือน 5 ปีมะโรง พ.ศ.2125 ตรงกับสมัยพระเอกาทศรถ ซึ่งเป็นยุคฟื้นฟูทะนุบำรุงพ ระพุทธศาสนา นายหูนางจันปลูกบ้านอาศัยอยู่ในที่ดินบ้านสวนจัน ของเศรษฐีปาน ชีวิตในวัยเด็กยังช่วยตัวเองไม่ได้อยู่กับบิดา มารดา เฝ้าเลี้ยงดู เมื่อถึงฤดูทำนาเก็บเกี่ยวข้าว ก็ต้องอุ้มลูกน้อยเด็กชายปูไปด้วย เก็บเกี่ยวข้าวให้เศรษฐีปาน เศรษฐีปานมีข้าทาสและลูกหนี้ชาย – หญิงมากมาย เร่งรัดข้าทาสชาย – หญิงลูกหนี้ให้ไปเก็บเกี่ยวข้าวในนา ในบรรดาผู้เกี่ยวข้าวเหล่านั้นมีนางจัน เพิ่งคลอดบุตรใหม่ ถูกรบเร้าให้ไปเกี่ยวข้าวด้วย นางจันได้ขอผัดผ่อนเอาไว้แต่เศรษฐีปานไม่ยอม ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชยกับการชำระหนี้ นายหูนางจันไปเกี่ยวข้าวให้เศรษฐีปานพร้อมทั้งอุ้มลูกน้อยไปด้วย เมื่อถึงที่นา นางจันเอาผ้าผูกเปลกับต้นหว้า ให้บุตรนอนในเปล ครั้นเกี่ยวข้าวไปได้ไม่นานชั่วระยะเวลาพอสมควร นางจันก็ขึ้นจากที่นามาหาบุตรน้อยเพื่อให้ดื่มนม เห็นงูใหญ่โตเท่าต้นหมาก นอนขดรอบเปลที่บุตรของนางนอนหลับอยู่ นางตกใจเป็นอันมาก ได้ตะโกนให้ผู้ที่เก็บเกี่ยวข้าวด้วยกันมาช่วย ไม่มีใครช่วยได้ นางจึงนั่งลงพนมมือไหว้ พ่อ แม่ เทวดา เจ้าที่ทั้งหลาย ตลอดจนพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย
    <O:p</O:p
    </CITE><CITE></CITE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2012
  11. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    ต่อ....
    คุ้มครองบุตรน้อยของนาง แล้วแผ่เมตตาจิต สักครู่หนึ่งงูใหญ่ (งูจงอาง ) ก็เลื้อยหายไป นางเห็นลูกแก้วมีขนาดโตกว่าไข่นกพิราบเล็กน้อยอยู่บนฝ่ามือของบุตรด้วย เพื่อนบ้านทุกคนไปดูเห็นแก้วมีแสงประกายแวววาว เศรษฐีปานเห็นแก้วเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด มีความอยากได้ จึงวิงวอนจะเอาแก้วนั้นจากนางจัน โดยยินยอมยกที่นาและข้าวในนาให้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน นางไม่ยอม เพราะแก้วนั้นเป็นของบุตรชายของตน เศรษฐีปานก็ยังไม่ละความพยายาม ยังเพิ่มทรัพย์สินเงินทองให้นางจันอีกมากมาย จนในที่สุดนางจันก็เกรงใจเศรษฐีปานในฐานะที่เคยเป็นลูกหนี้มาก่อน จึงมอบแก้วให้ เมื่อนางจันกลับมาถึงบ้านได้เล่าเหตุการณ์ให้นายหูฟัง นายหูเสียใจมากที่แก้วไปตกอยู่ที่เศรษฐีปาน จึงได้ขอร้องไห้นางจันไปขอแก้วนั้นคืน เศรษฐีปานเมื่อได้แก้ววิเศษไปแล้ว ปรากฏว่าบุตรและภรรยาได้เกิดล้มป่วยอย่างกะทันหัน เศรษฐีปานนอนหลับฝันเห็นเป็นลางร้ายว่าจะต้องตายกันทั้งครอบครัว จึงให้นำเอาแก้ววิเศษพร้อมทั้งทรัพย์สินเงินทอง มาทำขวัญให้แก่บุตรของนางจัน และขอขมาบุตรชายที่ได้ล่วงเกิน ส่วนที่นาและข้าวในนาที่มอบให้แล้วมิเอากลับคืน มอบให้แก่บุตรชายของนางด้วย เศรษฐีปานมีความศรัทธาในบุตรของนางจัน ( เด็กชายปู ) จากนั้นฐานะความเป็นอยู่ของนางจันพ้นจากความยากจน ดังนี้เพราะบารมีของเด็กชาย<O:p</O:p
    การศึกษา เมื่อเด็กชายปูอายุได้ 7 ขวบ บิดา มารดาก็ได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือ นะโม ก. ข. กับท่านสมภารจวง วัดกุฎีหลวง ( วัดดีหลวง ) เด็กชายปูสามารถเรียนหนังสือขอม และไทยได้อย่างรวดเร็ว และได้บวชเป็นสามเณร บิดาได้มอบแก้ววิเศษให้ไว้เป็นของประจำตัว ต่อมาสามเณรปูก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่วัด สีคูยัง (วัดสีหยัง ) กับสมเด็จพระชินเสน (วัดสีหยัง อ. ระโนด ) พระชินเสนองค์นี้เป็นอาจารย์เชี่ยวชาญมีชื่อเสียงมาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อสามเณรปูเรียนธรรมบท ทศชาติ มูลบทบรรพกิจจบแล้ว จึงเดินทางศึกษาต่อ ที่เมืองนครศรีธรรมราช ครั้นอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ขุนลกก็นำสามเณรปูไปสู่สำนัก พระมหาเถระปิยทัสสี เพื่อขออุปสมบทเป็นพระภิกษุ พระมหาปิยทัสสีเป็นอุปัชฌา ให้ฉายาว่า สามีราโม พระมหาพุทธสาคร เป็นพระกรรมวาจา พระมหาเถระศรีรัตนเป็นอนุกรรมวาจา คนทั่วไปเรียกว่า เจ้าสามีราม ศึกษาอยู่ที่วัดท่าแพ วัดเสมาเมือง เมื่อสำเร็จแล้วจึงโดยสารเรือสำเภาของเจ้าสำเภาอิน ไปกรุงศรีอยุธยา ซึ่งนายสำเภาอินก็ได้อนุโมทนานิมนต์ไปกับเรือสำเภานั้น เรือสำเภาไปมาค้าขายระหว่าง กรุงศรีอยุธยา – เมืองศิริธรรมราช ครั้นเข้าเขตเมืองชุมพร เกิดพายุพัดไม่สามารถฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่ 7 วัน 7 คืน จนกระทั่งน้ำดื่มที่มีอยู่ในเรือสำเภาอิน ก็หมดไม่มีน้ำดื่ม น้ำประกอบอาหาร เจ้าสามีรามจึงเอาเท้าลงแช่ในทะเล น้ำเค็มก็กลายเป็นน้ำจืด คนในเรือก็พลอยปลื้มใจ เจ้าสำเภาอินจึงให้คนตักน้ำไว้จนพอเพียง แล้วยกย่องเจ้าสามีรามเป็น<O:p</O:p
    ชีต้น เจ้าสำเภาอินก็อุปการะช่วยเหลือให้เจ้าสามีรามอาศัยอยู่ในวัด แค ( อยุธยา ) พร้อมกับให้นายจัน<O:p</O:p
    ข้าทาสของตน อยู่รับใช้เจ้าสามีรามด้วย เจ้าสามีรามได้ศึกษาธรรมะ ณ วัดกุมพลีธาวาส อยุธยา เมื่อเจ้าสำเภาอินกลับมาครั้งหลัง ได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามไปพำนักที่วัดของสมเด็จพระสังฆราช ท่านได้ศึกษาธรรมบาลีที่นั่นจนมีความรู้เชี่ยวชาญ จึงขอลาไปจำพรรษาที่วัด ราชานุวาส ซึ่งอยู่นอกกำแพงเมือง อันเป็นที่สงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม <O:p</O:p
     
  12. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    มีกษัตริย์ประเทศลังกา คิดอุบายพนันเมืองกับกรุงศรีอยุธยา ประมาณพ.ศ. 2149 โดยให้เอาทองคำ ตีให้แผ่นบางเท่าใบมะขาม และจารึกพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ มอบให้พราหมณ์ 7 คน นำมาพร้อมด้วยเครื่องบรรณาการ 7 ลำสำเภา โดยขอให้แปลและเรียงตามลำดับพระอภิธรรม 7 คัมภีร์นั้น สมเด็จพระเอกาทศรถทรงตอบรับคำท้าพนัน แล้วมีพระบรมราชโองการให้อาราธนาพระภิกษุทั้งในและนอกพระนครเปลี่ยนกันเข้าแปล แต่ไม่มีพระภิกษุองค์ใดแปลได้จนครบ ครั้นวันที่ 7 วันสุดท้าย พระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จไปที่ประชุมสงฆ์ พระสามีรามก็ย่างเท้าก้าวขึ้น บนศิลา หน้าประตู ขุนศรีธนญชัยซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก็ตักน้ำสรงบาทให้ แล้วเอาผ้าเช็ดฝ่าบาท ( เช็ดเท้า ) พระสามีรามจนสะอาด จึงเห็นฝ่าบาทเป็นอัศจรรย์ ก้มลงกราบด้วยความเคารพ พระสามีรามได้เหยียบแผ่นศิลาแตกด้วยพระบารมี แล้วเข้าที่ประชุม เริ่มตั้งแต่หมอบ นอน คลาน แล้วเดินเข้าที่ประชุมสงฆ์ พร้อมกับกล่าวว่าคนเราเกิดมาต้อง นอน คลาน ยืน เดิน มาก่อน เพื่อแสดงความเคารพต่อคณะสงฆ์ จึงเอาอักขระที่มีอยู่ในขันทองเทลงแล้วเรียงลำดับความตัวอักษร แต่เห็นว่ายังขาดอักขระอยู่ 7 ตัว คือ สัง วิ สา ปุ กะ ยะ มะ และบอกให้พราหมณ์ราชทูตทั้ง 7 คน เอาอักขระที่ซ่อนไว้ในมวยผมออกจากมวยผม เมื่อเรียงลำดับเสร็จแล้วก็แปลให้ฟัง พราหมณ์ทั้ง 7 คน จึงยอมแพ้ แล้วนำเครื่องราชบรรณาการมาถวายแก่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ถวายแก่พระภิกษุสามีราม พร้อมทั้งทรงแต่งตั้งสมณศักดิ์ว่าพระราชมุณีคุณูปมาจารย์ แต่พระภิกษุสามีรามหาได้ยินดีรับเครื่องราชบรรณาการนั้นไม่ และคืนกลับแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าอยู่หัวได้อาราธนาให้ประจำอยู่ที่วัดราชานุวาส ระหว่างนั้นทางกรุงศรีอยุธยาเกิดโรคห่า ท่านก็ได้ทำน้ำมนต์ให้ประพรมไข้ห่าก็หมดไป<O:p</O:p
    นักท่องเที่ยว นักเรียนซึ่งเป็นมัคคุเทศน้อย ของโรงเรียนสมเด็จเจ้าพะโคะ ได้สัมภาษณ์กลุ่มนักท่องเที่ยว ที่มาเยี่ยมชมบุญด้วยความเชื่อและความศรัทธา เล่าว่า มีความเชื่อที่หลากหลาย เช่น อธิษฐานขอให้มีลูก ไม่ได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุรถคว่ำที่ประเทศจีนทั้งๆที่ผู้โดยสารตายเกือบหมดรถ เชื่อว่าเพราะแขวนสร้อยมีเหรียญหลวงปู่ทวดห้อยคออยู่ มีชาวนาคนหนึ่งแขวนสร้อยที่มีเหรียญหลวงปู่ทวดห้อยคออยู่ ขณะที่เกี่ยวข้าวสร้อยเกิดขาดหล่นหายในนาหาไม่เจอ เวลาต่อมาเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ชาวนาต้องเผาซังข้าว พบว่าตรงที่สร้อยตกอยู่ไม่มีไฟไหม้เลย <O:p</O:p
    จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นทั้งจากเอกสารและการสัมภาษณ์บุคคล การบอกเล่าของนักท่องเที่ยวจะเห็นได้ว่าหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นผู้มีบุญญาบารมีมาตั้งแต่กำเนิด และมีเหตุมหัศอัศจรรย์หลายอย่างที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ การได้ลูกแก้ววิเศษจากงูจงอาง การเกิดเหตุอาเพศกับครอบครัวของเศรษฐีปาน การแสดงอภินิหารใช้เท้าจุ่มให้น้ำทะเลจืด การตอบปัญหาปริศนาธรรมะ การรักษาโรคห่าด้วยน้ำมนต์ การทำให้ช้างหยุดดุร้าย การโละหายตัวไปจากวัดพะโคะ อภินิหารของท่าน เป็นที่ทราบและเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นคนในท้องถิ่น ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ จะเดินทางมานมัสการรูปเหมือนของท่าน ณ วัดพะโคะ อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน กลายเป็นตำนานความเชื่อ ที่นับถือต่อๆกันมาของคนรุ่นแล้วรุ่นเล่าเป็นเวลาอันยาวนาน จนถึงปัจจุบันนี้ <O:p</O:p
     
  13. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สรุปผลการศึกษา<O:p</O:p
    การศึกษาความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดกับวิถีชีวิตชุมชนชุมพล มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อและอภินิหารหลวงปู่ทวดที่สัมพันธ์กับชาวบ้านในตำบลชุมพล สร้างความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าเชิดชูบุคคลสำคัญในท้องถิ่น ปลูกจิตสำนึกรักถิ่นเกิด ร่วมอนุรักษ์และพัฒนาของดีที่บ้านเกิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน การวิจัยใช้วิธีการ สังเกต สัมภาษณ์เป็นส่วนใหญ่ เกี่ยวกับประวัติ อภินิหารและความเชื่อที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตในชุมชน<O:p</O:p
    หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด มีบิดาชื่อนาย หู มารดาชื่อนางจัน เป็นคนยากจนปลูกบ้านเรือนอยู่ในที่ดินของเศรษฐีปาน เจ้าของสวนจันทร์ ปัจจุบันชื่อว่าบ้านเลียบ ตำบลดีหลวง อำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา นาย หู นางจันเป็นลูกหนี้ของเศรษฐีปาน นางจันได้คลอดบุตรชายคนหนึ่ง ให้ชื่อว่า เด็กชายปู ครั้นถึงฤดูเกี่ยวข้าว นายหูนางจันออกไปเกี่ยวข้าวให้เศรษฐีปาน โดยพาลูกน้อยที่เพิ่งคลอดไปด้วย ผูกเปลให้ลูกนอนที่ใต้ต้นม่าว นางจันขึ้นจากนาเพื่อให้นมลูก ก็ตกใจเมื่อพบงูใหญ่นอนขดอยู่ในเปลลูก จึงเรียกนายหูมาดู เมื่อนายหูมาเห็นก็เชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงกล่าวคำบูชา งูก็เลื้อยหายไปพร้อมทั้งทิ้งลูกแก้วเป็นสิ่งอัศจรรย์ไว้ในเปลหนึ่งลูก<O:p</O:p
    ต่อมาเมื่อเด็กชายปูอายุได้ 7 ปี นายหูได้นำไปฝากกับอาจารย์ จวง วัดกุฎีหลวงในปัจจุบัน เพื่อจะให้ศึกษาเล่าเรียน ภาษาขอมและธรรมะ อาจารย์ จวง ให้บวชเป็นสามเณร และเรียกขานว่า สามเณรปู สามเณรปูเรียนจบจากสำนักวัดกุฎีหลวงแล้วไปศึกษาต่อที่วัดสีคูยัง (วัดสีหยัง) อำเภอระโนดปัจจุบัน หลังจากนั้นเมื่ออายุครบ 20 ปี ก็บวชเป็นพระสงฆ์ ชื่อ สามีราม ได้เข้าไปศึกษาธรรมะ ณ กรุงศรีอยุธยา โดยอาศัยเรือสำเภาของ นายอิน เรียกกันว่า นายสำเภานาย อิน ขณะที่เดินทางถูกพายุและคลื่นลม ต้องทอดสมออยู่ 7 วัน 7 คืน ทำให้ขาดน้ำดื่มน้ำใช้นายสำเภาอินและลูกเรือคิดว่า เป็นเพราะพระรูปนี้ พาลโกรธและขับไล่ พระสามีรามให้ลงเรือเล็ก พระสามีรามได้เอาเท้าจุ่มในน้ำทะเลทำให้น้ำทะเลในบริเวณนั้นจืด ใช้ดื่มได้ นายสำเภาอินจึงให้ลูกเรือตักไว้ใช้จนพอเพียง นายสำเภาอินทร์และลูกเรือจึงกราบขอโทษ และนำพระสามีรามไปส่งจนถึงอยุธยา พระสามีรามได้ศึกษาธรรมะอย่างแตกฉาน และช่วยเหลือพระเจ้าแผ่นดิน คือพระเอกาทศรถ แก้ปริศนาธรรมกับชาวต่างชาติจนได้รับชัยชนะ พระเอกาทศรถทรงโปรด พร้อมทั้งมอบข้าวของ เงิน ทอง และกำลังคนกลับไปบูรณะ วัดพะโคะ ( วัดราชประดิษฐาราม )<O:p</O:p
    ความเชื่อและความศรัทธาของประชาชน มีมายาวนานโดยมีความเชื่อว่าหลวงปู่ทวดมีอภินิหารมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเชื่อกันว่าลูกแก้วที่งูใหญ่คายไว้ในเปลเป็น แก้วศักดิ์สิทธิ์คู่บารมี ของหลวงปู่ทวด บารมีที่ใช้น้ำมนต์รักษาโรคห่าให้ชาวอยุธยา บารมีที่ตอบปัญหาปริศนาธรรมะ สามารถรักษา กรุงศรีอยุธยาไว้ได้ บารมีที่ทำให้น้ำเค็มกลายเป็นน้ำจืดใช้ดื่มได้ จากตำนานเรื่องเล่าของความเชื่อที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับอภินิหาร ได้แก่ เรื่องที่เป็นปัญหาแก้ไม่ได้ เรื่องความคุ้มครองภัยจากอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย ให้อยู่เย็นเป็นสุข และ การขอสิ่งต่างๆให้สมปรารถนา ที่เล่าลือมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้มีประชาชนจากถิ่นต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่มีความศรัทธานับถือในอภินิหาร และได้มีชื่อเรียกในปัจจุบันว่า
    “ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ” <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2012
  14. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    จากการสัมภาษณ์บุคคลผู้อาวุโสในชุมชน และผู้ที่มีความศรัทธาที่มานมัสการกราบไหว้ ณ วัดพะโคะ พบว่า คำตอบที่ได้ในเรื่องของ ความเชื่อ อภินิหาร และความศักดิ์สิทธิ์สอดคล้องตรงกันทุกคนว่า หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ไม่ว่าปรารถนาสิ่งใดในเรื่องดี จะได้ตามที่ขอ จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกประเทศเดินทางมาเคารพบูชากราบไหว้เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน อย่างเนืองแน่นตลอดทั้งปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาลประจำปีจะมีคนมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้ชาวตำบลชุมพล ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพะโคะ ได้มีอาชีพ ในการจำหน่ายสินค้า ได้ฟื้นฟูสิ่งดีๆของชุมชนที่ใกล้สูญหาย กลับมาเป็นสินค้าที่นิยม ในปัจจุบันและทำรายได้หลัก ให้แก่คนในชุมชนได้มีฐานะที่ดีขึ้น จากอาชีพใหม่ๆ ได้แก่ ตลาดการเช่าพระเครื่อง ตลาดขายของพื้นบ้าน เช่น ( ขนมดู ขนมคอเป็ด ขนมเกาะ ขนมลากรอบ กาละแม น้ำผึ้งแว่น ขนมนางเล็ก จาวตาลเชื่อม ลูกตาลเชื่อม ลูกตาลสด ขนมทองม้วน ข้าวกล้อง ขนมข้าวพอง ศูนย์แม่บ้าน โรงงานลูกตาล ทำให้วัดพะโคะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในปัจจุบันนี้ <O:p</O:p
    ดังนั้นเยาวชนและคนในชุมชนชุมพล มีความภาคภูมิใจ เชิดชูหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเป็นบุคคลสำคัญและเป็นบุคคลตัวอย่าง เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนในชุมชนชุมพล ของชาวอำเภอสทิงพระ ที่ได้ทำชื่อเสียงให้กับบ้านเกิด ให้ลูกหลานได้เอาตัวอย่าง จากอดีต สู่ปัจจุบัน และอนาคต
    <O:p</O:pวัดพะโคะจึงเป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่เยาวชนและคนในชุมชนชุมพล ได้เห็นคุณค่าและร่วมกันอนุรักษ์ความเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในการทำความดีของคนในชุมชน ชาวไทยและชาวต่างชาติที่ยั่งยืนต่อไป

    เมืองสทิงพระ
    คำขวัญอำเภอสทิงพระ
    เมืองเก่าสองทะเล มนต์เสน่ห์นกน้ำ<O:p</O:p
    งามหาดมหาราช พระไสยาสน์ค่าล้น<O:p</O:p
    ผลิตผลต้นตาล ตำนานหลวงปู่ทวด


    อนุโมทนาบุญกับโครงการยุวประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
    เอกสารอ้างอิง
    สัญญาเลขที่ YSL-S15
    <CITE>www.ysl-history.com/Research_download/3Research.../S8.doc</CITE>
    <CITE></CITE>
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2012
  15. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ของลูกหลานครับผม:cool:
     
  16. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    ขอบคุณ พี่ nuanpan มากๆครับ ที่นำบทความดีๆมาให้อ่านอยู่เสมอ
     
  17. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    เรื่องนี้เคยผ่านตาเหมือนกันครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น 97
     
  18. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดียามบ่ายค่ะ

    เมื่อเช้าเดินทางจากหาดใหญ่8.00 น.สู่จังหวัดปัตตานี ไปวัดห้วยเงาะ กราบพ่อท่านเขียว
    เสร็จจากวัดห้วยเงาะ ไปวัดช้างให้ต่อค่ะ วันนี้มีคนไปวัดช้างให้จำนวนมาก.....


    กราบนมัสการท่านเจ้าคุณพระสุนทรปริยัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้
    กราบหลวงพ่อทวดที่สถูปเจดีย์....

    กลับถึงหาดใหญ่ เวลา13.10 น.

    ค่ำๆจะนำภาพมาให้ชมนะคะ:d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 มิถุนายน 2012
  19. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    รุ่นไหนเนี่ย เบิ่งให้แหน่ครับ:cool:

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. ธาริณี

    ธาริณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +31
    พระบูชาหลวงปู่ทวด ขนาด 4-5 นิ้ว วัดช้างให้
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา........
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...