นิทาน เรื่อง "พญานาค"

สวัสดีค่ะ คุณนายนุ๊ก และชาวเมืองคุรุวาโร ทุกท่าน
....เมื่อคืนฝันจิปาถะ จำไม่ค่อยได้ จำได้นิดเดียว ว่ามีภารกิจต้องขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปกรุงเทพฯ
ไปทำอะไรก็ไม่รู้ ขี่ไปสักพัก น้ำมันหมด แต่โชคดีเจอร้านปั๊มน้ำมันหลอดพอดี
เลยแวะเข้าไปเติมเต็มถัง เติมเสร็จเจ้าของร้านสตาร์ทเครื่องให้ดู เอ้อ..ฟังเสียงเครื่องนะ เงียบ นิ่ม ดี มาก...อื่น ๆ ก็มั่ว ๆ
...หมู่นี้เราตกภวังค์บ่อย เมื่อวานก็เป็นตั้งแต่บ่าย อยากให้นั่งสมาธิก็นั่งยาวเกือบสองชั่วโมงแน่ะ..
ตอนหัวค่ำ..ก็เลยหลับแบบมั่ว ๆ ไปเลย (ไม่ได้อาบน้ำ..แหะ..แหะ)
กำลังคิดว่า ช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษาต้องไปพักกายพักใจ..ที่สงบที่ไหนซักที่แหละ
อยากไปนอนบนเขา..แต่ไม่ค่อยมีคนอยากไปนอนด้วย เค้ากลัวสิ่งที่เค้าสัมผัสได้
เราสัมผัสไม่ได้ก็เลยเฉยๆ นอนบนเขานะ..ตื่นนอนตอนเช้าบนยอดเขา...เฮ้อ..สบาย
กินอยู่บนเขาสักวัน....

 

ไปด้วยจิ กำลังคิดอยู่ว่าไม่มีที่ไหนที่เหมาะสำหรับเราเลย อยากไปอยู่วัด
แต่ก็เลือกมากอีก วัดไหนก็ไม่เหมาะกับเรา
อยากไปอยู่ชนบทที่ห่างไกลความ
เจริญ เพราะว่าไปอยู่วัดเฉยๆ ไม่ได้แน่นอน
เอายังไงกับชีวิตดีนะ ที่ชอบก็อยากไป เบื่อภาระทางโลกแล้ว
มองไม่เห็นประโยชน์กับชีวิตในปัจจุบันเลย
ยิ่งนับวันก็ยิ่งถดถอยสำหรับตัวเอง ทุกอย่างหยุดชะงัก

 

ฮ่า.. ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจนะจ๊ะ...
เป็นวัดไม่ไกลจากตัวจังหวัดเท่าไร แต่บริเวณวัดไม่ค่อยมีบ้านคนอยู่ใกล้ๆ
วันพระหรือวันทำบุญ จะมีคนทำบุญเต็มศาลาวัด ชาวบ้านศรัทธาหลวงพ่อมาก
บริเวณวัดมีเขาอยู่..แล้วมีถนน/บันไดขึ้นยอดเขา ซึ่งมีสองส่วน
ยอดที่หนึ่งเค้าเรียกว่าเขาพระพุทธเจ้า มีพระพุทธรูปยืนปางลีลาประทานพรองค์ใหญ่
อีกยอดเขาหนึ่ง เค้าเรียกว่าเขาพญานาค มีศาลาสำหรับไว้ทำบุญ และ ทำวัตรเย็น ของแม่ชีและผู้ถือศีล เสร็จแล้วก็ลงเขาไป
ถ้าเราอยู่ เราก็นอนบนเขากางเต๊นท์นอนในศาลา
เดินจากยอดเขาลงมาสักระยะ..ก็มีสุขาสองห้อง
บนยอดเขามีศาลาพญานาคที่มีคนที่เค้าว่าเกี่ยวข้องนำรูปปั้นมาไว้
มีปากถ้ำที่ตื้นขึ้นเรื่อยๆ
เราชอบอยู่บนเขา..สบายกายใจดี ไม่มีผู้คน มองลงไปด้านล่างก็เห็นธรรมชาติทุ่งนา ไอหมอก
ไปนอนสองครั้งแล้ว..ครั้งแรกนอนกันสามคน(มาจากระยอง) คืนนั้นมีสุนัขเป็นยามเดินตลอดคืนเลย ๑ ตัว
นอนครั้งที่สอง มีเพื่อน ๑ คน(มาจากระยองคนเดิม)..ตื่นเช้าเราเดินไปห้องน้ำเห็นดอกไม้ป่าบนเขาอยู่ติดดินเลยนะ..
สีม่วงบานเต็มไปหมด..เดินลงไปก็เห็นสุนัขเดินขึ้นบันไดมา ๑๐ กว่าตัวแน่ะ.
เข้าแถวเรียงหนึ่งซะด้วย..เราเลยหลบกลับไปบนยอดเขา มันก็เห่า..
แล้วกลับวัดที่อยู่ด้านล่างหมดเลย..ครั้งที่สองก็มีสุนัขเป็นยามแฮะ..
ถ้าคุณนายสนใจเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง...จะได้ขออนุญาตหลวงพ่อ
ท่านไม่ให้เรานอนคนเดียว(กลัวชาวเมืองลับแลพาไปเที่ยวมั้ง)
แล้วเตรียมเสบียงไปพร้อม..กินนอนอยู่บนเขานั่นแหละ..สักวันสองวัน
...เชิญพิจารณาได้จ้ะ..

 

คุณนิด...ฉากไหนก็ได้ งั้นฉากสุดท้ายแล้วกันนะคะ

"เก็บรอยฝันกับความหลังไว้เพื่อลาจาก
เก็บความรักฝากรอยใจไปกับสายลม
เพียงเธอโบกมือลา...ยิ่งพาใจให้ตรม
หักใจ...ไม่ขื่นขม..ระทมปวดร้าว

ต่อจากนี้...คงจะเหลือฉันและแผลเก่า
ตัดใจเราจากความหลังพังยับเยิน
เธอได้ฝากรอยใจ...ฉันกลายเป็นส่วนเกิน
ฉันจะเดินโดยไม่มีเธออีกแล้ว

ต่อไป...เธอเป็นเพียงแค่ความหลัง
เป็นรอยฝัง...เป็นเพียงบทเรียน
จะลืมเธอสิ้นลง...ลืมคนที่ใจแปรเปลี่ยน
หากเรียนรักต่อไปใจคงปวดร้าว

จากคนนี้ สู่คนนั้น ฉันต้องลาก่อน
ฉากบางตอนที่มีฉัน พลันจบสิ้นลง
ไม่มีคนร่วมฝัน ไม่มีความมั่นคง
ฉากนี้คงจบลงด้วยการจากลา"

 

เหมาะสมทีเดียวคุงคู แค่ฟังก็ชอบแล้ว อยู่ที่ไหน จะไปเมื่อไหร่ ไปกี่วันสักห้าวันได้มั้ย มีพระเยอะมั้ย

 

คุณนายไปอยู่วัดเฉยๆ ไม่ได้ แล้วจะทำอะไรอ่ะ
เราไปอยู่บนยอดเขา..อยากนั่งสมาธิก็นั่ง อยากเดินก็เดิน อยากคุยกันก็คุย
อยากฟังธรรมะ อยากอ่านธรรมะ อยากถือศีลแปด
ทำได้ด้วยตนเองทั้งหมด..ตอนเย็นหลวงพ่ออาจจะพาแม่ชีหรือคนถือศีล
ไปทำวัตรเย็นบนเขา ฟังธรรมสนทนาธรรม แล้วลงเขา
ถ้าคุณนายไปวัด..แล้วต้องทำอะไร เราจะได้เสนอสถานที่ให้พิจารณาได้ถูก..

 

อ๋อ...ไปอยู่วัดศึกษาธรรมะ ถือศีลแปด แล้วก็ช่วยงานวัดยังไงเล่า ทำตัวให้มีประโยชน์ ไม่ใช่ไปแค่นั่งหลับตาเฉยๆ ค่ะ คุงคู

 

อยู่ที่อุทัยธานีนี่แหละจ้ะ..พระก็น่าจะ ๙ รูปขึ้นไป แม่ชีตอนนี้ไม่แน่ใจ อาจจะ ๔ คน แล้วมั้ง.
คนถือศีลแปด..ที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออีกไม่ใช่น้อย(ถ้าเป็นวันหยุด)
ทุกคนที่เข้ามาวัดนี้..ก็ว่าเกี่ยวข้องกับพญานาคที่เมืองลับแลนี่แหละ
แต่เราเข้าไปเพราะเราชอบเขา..เค้าก็พากันคิดพากันบอกว่าเราเกี่ยวข้อง
แต่เราไม่รับ..และไม่รู้ ...ส่วนใหญ่เราจะชอบอยู่บนเขามากกว่า..
สบายกายใจดี เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก..
ถ้าสนใจ..เตรียมการได้เลย..มันมีวัดหยุดติดกัน ๔ วัน
ขึ้นอยู่กับคุณนายว่ามาถึงอุทัยธานีวันไหน..มาถึงวันศุกร์ ก็เข้าวัดนอนวันศุกร์ได้เลย
อยากอยู่กี่วันตามสบาย..ที่วัดด้านล่างก็มีที่พักให้ชีให้คนถือศีล แยกส่วนต่างหากจากพระ..
แต่เราชอบนอนเต๊นท์บนเขา..ไม่เคยนอนข้างล่าง
วัดมีศาลาไม้โล่ง..โบสถ์..เมรุ ..หลัก ๆ แค่นี้มั้ง..ไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆ หรอก..

 

ขอบคุณที่แนะนำนะคะ น้องรวัสสรร ที่เมืองกาญจน์มีพญานาคเยอะค่ะ
พี่กลัวพญานาค ผลการปฏิบัติคงไม่ดีพอ (เลือกมากเห็นมั้ย)
แล้วอีกอย่าง พระอริยสงฆ์ในชีวิตนี้ก็ได้พบมาเยอะแล้วค่ะ
ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ ดีแน่นอน ที่ไหนนั้นก็คงขึ้นอยู่กับวาสนาของเราด้วย
ที่ใดที่เป็นของเรา เราก็คงต้องได้ไปในที่นั้น กำลังเสี่ยงทายบารมีอยู่ค่ะ
สรุปว่า อยากเดินป่า....อยากอยู่ในป่า...ฮ่า แต่ก็กลัวสิ่งที่อยู่ในป่า
เหมือนในฝัน....เลย

 

ถ้างั้นต้องไปวัดธรรมสถิตที่ระยอง...ช่วยตอนเช้า(พระฉัน)ล้างถ้วยล้างชาม ช่วยทำความสะอาดวัด..อื่นๆ
ถ้าวัดบนเขา..หลวงพ่อจะให้เราอยู่กับธรรมชาติ อยู่กับตัวเอง..
น้องรวัสสรรแนะนำก็น่าสนใจนะจ๊ะ..แล้วแต่คุณนายจะพิจารณาจ้ะ..

 

คุงคู เดือนหน้าเหรอ เดือนนี้ไปไม่ได้เพราะหยุดมาหลายวันแล้ว
ตอนนี้ก็อยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้กลับไปเชียงใหม่เลย
พอหยุดนานๆ แล้วก็เบื่อ พอเบื่องานก็คิดถึงบ้าน
พอกลับมาอยู่บ้านก็เบื่ออีก สับสนตัวเองจริงๆ เลย
ถ้าเราจะไป สามารถโทร.หาคุงคู ได้เลยหรือเปล่า
จะโทร.บอกล่วงหน้าสัก 3 วันดีมั้ย
ก็คงไปวันศุกร์นะ เพราะคุงคูหยุดงานเสาร์อาทิตย์ใช่ป่ะ

 

จัดให้เลยจ้ะ..ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ (อาจจะแถมได้อีกเล็กน้อย)
แต่วันแถมไม่แน่ใจ เพราะช่วงนี้เร่งรัดใช้งบประมาณ
จัดวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ให้เลยตลอดปี..จ้ะ
แต่วันพฤหัส-ศุกร์(๑๙-๒๐ ก.ค.) อยู่ชลบุรี
ถ้าสะดวกเมื่อไหร่โทรไปละกัน..ล่วงหน้าสามวัน..ดีมาก
...หวังว่าคงได้พบกันนะจ๊ะ..แม่นางเอก ลงชื่อ..นางร้าย (เหอ..เหอ..)

 

ความจริงมันไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่หรอกนะ
แต่มันอยู่ที่ใจนี่แหละ ตอนนี้เราสับสนว่าจะไปทางไหนดี
ใจมันถูกกระทบแล้วไม่ทันตั้งหลักใจ
พอคุยไป ก็เริ่มมองเห็นใจแล้ว ต้องให้เวลากับใจ
ในการปรับสมดุลใหม่ก่อน ขอบคุณนะจ๊ะที่มาเสวนา
จนเราได้พิจารณาใจ...

 

วันนี้ ขอนำปณิธาน 8 ประการของพระโพธิสัตว์มาให้อ่านไปพลางๆ ก่อนนะคะ
จากหนังสือ ประวัติพระโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

ปณิธาน 8 ประการ ได้แก่

สำหรับผู้จะสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์นั้น จะต้องมีคุณสมบัติ 8 ประการ จึงจะสามารถดำเนินจริยาโปรดสัตว์ในสภาวะโลกธาตุนี้ได้ โดยมิแปดเปื้อนด้วยมลทินโทษ ปณิธาน 8 ประการนี้สำคัญนัก มนุษย์ควรรู้ไว้เพื่อเตือนสติ คือ

1. พระโพธิสตว์จักต้องบำเพ็ญตนให้เป็นคุณประโยชน์ต่อปวงสัตว์ โดยไม่ปรารถนารับผลตอบแทนจากสัตว์ทั้งหลายใดๆ
2. พระโพธิสัตว์สามารถเสวยสรรพทุกข์แทนสรรพสัตว์ได้โดยมิย่นย่อท้อถอย
3. พระโพธิสัตว์สร้างคุณความดีไว้มีประมาณเท่าไหร่ สามารถอุทิศให้แก่สัตว์ทั้งหลายได้ไม่หวงแหนตระหนี่ไว้
4. พระโพธิสัตว์ตั้งจิตอยู่ในสมถธรรมอันสม่ำเสมอในปวงสัตว์ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ถ่อมตนไว้ไม่ลำพองโดยปราศจากความข้องขัดใดๆ
5. พระโพธิสัตว์เห็นพระโพธิสัตว์ทุกๆ องค์ ปานประหนึ่งเห็นพระพุทธองค์ อนึ่งพระสูตรใดที่ยังมิได้สดับตรับฟัง ครั้นได้มีโอกาสสดับตรับฟังแล้ว ก็ไม่บังเกิดความคลางแคลงกังขาอย่างไรในพระสูตรนั้นๆ
6. พระโพธิสัตว์ไม่หันปฤษฏางค์ให้กับธรรมะของพระอรหันตสาวก แต่สมัครสมานเข้ากันได้กับธรรมดังกล่าวนั้นๆ
7. พระโพธิสัตว์ไม่เกิดความริษยาในลาภสักการะ อันบังเกิดแก่ผู้อื่น และไม่เกิดความหยิ่งทะนงในลาภสักการะ อันบังเกิดแก่ตนเอง สามารถควบคุมจิตของตนไว้ได้
8. พระโพธิสัตว์จักต้องหมั่นพิจารณาโทษของตนอยู่เป็นนิจ ไม่เที่ยวเพ่งโทษของผู้อื่น ตั้งจิตมั่นคงเด็ดเดี่ยวในการสร้างบารมีโกยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์

นี่แลชื่อว่าคุณธรรมอันเป็นคุณสมบัติ 8 ประการของพระโพธิสัตว์ ผู้ใดปฏิบัติได้ตามนี้ ผู้นั้นก็จักได้เป็นพระโพธิสัตว์

 

สวัสดีค่ะทุกท่าน ทุกนาม...

ได้รับหน้าที่มาจากท่านประธานในการหาประวัติท่านปู่ภุชงค์ค่ะ เลยเอามาฝากกันเล็กๆน้อยๆจ้า

*******************************************

พญาภุชงค์นาคราชเจ้าวิสุทธิเทวาเป็นพญานาคราชประจำองค์พระศิวะเทพ หรือพระอิศวรเจ้า
น่าจะอยู่ในตระกูลฉัพพะยาปุตตะ
มีพระวรกายเป็นสีเทาฮินดู พระนาภีและพระเศียรเป็นสีแดง
มีพระมเหสีคือ พญานาคิณีเทวีศรีปางตาล
ซึ่งเป็นพญานาคิณีประจำองค์แม่พระอุมาเทวี มเหสีของพระศิวะเทพ

หนึ่งในมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในสามพระองค์ อันได้แก่
พระพรหม ( ผู้สร้าง)
พระนารายณ์ ( ผู้รักษา) ลัทธิไวษณพ นิกาย นับถือพระองค์เป็นเทพสูงสุด
พระศิวะ (ผู้ทำลาย(ความชั่วร้าย))ลัทธิไศยวนิกาย นับถือพระองค์เป็นเทพสูงสุด
ถ้าสามพระองค์รวมกัน จะเป็นพระตรีมูรติ

ประวัติ ของ พญาภุชงค์นาคราช เพิ่มเติม
มหาเทวีของจ้าวปู่ภุชงค์ มิได้มีแต่เพียงองค์
จ้าวย่าทองคำ(พระมเหสี พญานาคิณีเทวีศรีปางตาล) เท่านั้น ยังมีซ้าย มีขวา อีก

 

องค์พญาภุชงค์นาคราชเจ้าวิสุทธิเทวา
เป็นพญานาคราชขององค์อิศวรเจ้าผู้เป็นใหญ่ตามความเชื่อของศาสนา ฮินดู เชื่อว่าพญานาคราชพระองค์นี้เป็นองค์ที่พันอยู่ที่พระศอขององค์อิศวร เจ้า เป็นพญานาคราชผู้มีพลังมหาศาล อำนาจล้นเหลือ กราบไหว้สักการะบูชา แล้วจะมีลาภผลเจริญรุ่งเรือง แต่ต้องมีสัจจะ รักษาศีล ๕ มีพระวรกายสีเทาฮินดู เศียรและปล้องพระนาภีสีแดงสด

ระวัติท่านภุชงค์นาคราชเพิ่มเติม
เป็นพญานาคที่เกร็ดใหญ่แข็งแรงดั่งเพชรมีเกร็ดด้านนอกสีดำมีเกร็ดด้านในสีเงินแวววาว
รูปกายในลักษณมนุษย์ ราว ๆ ชายอายุ 50 ต้น ๆ ผมเกล้ามวยสูงรัดด้วยมงกุฎโปร่ง ประดับเพชร ไว้หนวดเครา คิ้วดกหนาสีดำสนิท จมูกโด่ง ตาโต ผิวกายขาว แข็งแรง ทรงโปรดเครื่องของใช้ที่มีสีเงิน แวววาว มากกว่าสีทอง

 

เมื่อคืนฝันประหลาดปนแปลกๆค่ะ .... จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่รู้ฝันมั่วหรือมีความหมายอะไรค่ะ

ฝันว่าเดินไปกับแม่สองคน แม่บอกว่า มาๆ จะพาไปเช่าบูชาเพชรพญานาค ในใจนั้นนึกไปถึงตอนที่ตัวเองกำลังเปิดเวปไซต์ดูเพชรพญานาคอยู่ และอยากเช่ามาบูชาแว๊บขึ้นมาขณะเดินตามแม่เข้าไปด้านใน คำพูดมันดังขึ้นมาว่า เจ้าไม่ต้องซื้อหรอก อีกไม่นานเราจะให้เจ้า จะให้เพชรพญานาคสีฟ้า (คือคำพูดนี้ไม่รู้ในใจที่อยากได้ มันคิดมาเองโดยจิตปรุงแต่งหรืออย่างไร ไม่ทราบได้ค่ะ พอเราไปหาอ่านถึงเพชรสีฟ้า เจอชื่อหนึ่งที่เหมือนจะบอกว่าเป็นเจ้าของเพชรสีฟ้า ในใจมันก็โต้เถียงขึ้นมาอีกครั้งว่า เราไม่ใช่ท่านนั้น แต่เราเป็นอะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้วค่ะ)... แต่ก็ไม่ได้อะไร ในใจบ่นว่า แพงแน่ๆ ตอนเดินตามแม่ไป

ด้านในจะรกๆหน่อย เห็นพระรูปหนึ่งนั่งอยู่ เราและแม่ก็เข้าไปกราบ แม่ก็บอกท่านว่าอยากเช่าบูชาเพชรพญานาคเจ้าค่ะ (เราไม่เคยเล่าเรื่องพญานาคให้แม่ฟัง และแม่ก็ไม่เคยรู้ว่าเราสนใจอย่างมาก ไม่เคยพูดถึงกันเลยด้วยซ้ำ ยังแปลกใจที่แม่เป็นคนพาไป) พระท่านหัวเราะแล้วก็ไม่ว่ากระไร บอกว่าให้เดินไปที่อ่างน้ำนั้น เห็นหรือเปล่า ลองเอามือลูบจมูกเขาดู ถ้าลูบได้ เขาก็ให้เ้จ้า ...

เราหันไปตามที่ท่านบอก เห็นเป็นงูสีเขียวตองอ่อน ออกเขียวๆเหลืองๆค่ะ ชูหัวขึ้นมาพ้นน้ำ แค่เฉพาะหัวเท่านั้น แผ่พังพานออกมากว้างใหญ่ เรารู้สึกนึกกลัวอยู่ในใจ แม่เราค่อยๆเอามือเข้าไปใกล้ๆ งูก็ทำท่าเหมือนจะฉก พร้อมทั้งอ้าปากขู่เสียงดัง แต่เรารู้สึกเหมือนแม่เราใช้เทคนิคพิเศษอะไรบางอย่าง เลยลูบที่จมูกงูได้ แล้วแม่ก็เอามือคลำๆเข้าไปในอ่าง ได้เพชรออกมาเม็ดหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด สีม่วงค่ะ... ถัดจากแม่เรามีผู้ชายอีกคน ที่พยายามจะลูบต่อ เรากลัวมากตอนนั้น คิดว่าจะได้ไหมหนอ...

พอถึงทีเรา เราจำท่าทีของงูไม่ได้แน่ชัดค่ะ แต่ตอนเราล้วงลงไปในอ่างเพื่อจะเอาเพชรหลังจากลูบเสร็จแล้ว เราก็นึกในใจว่า ท่านบกอว่าจะให้สีฟ้ากับเรา พอเราเอามือขึ้นก็ได้เพชรสีฟ้ามาค่ะ

จำได้เพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่าฝันเพราะจิตปรุงแต่งหรือเปล่านะคะ แต่ก่อนนอนเหมือนจะคิดไปในใจตอนนอนทำสมาธิว่า ถ้าชาติใดชาติหนึ่งเคยเป็นพญานาคมาก่อนก็ขอให้รับรู้ด้วยอะไรประมาณนั้นค่ะ แต่ถ้าเป็นเพราะจิตปรุงแต่ง ก็ถือซะว่า ฟังเป็นนิทานไปนะคะ

 

สวัสดียามเที่ยงค่ะ..น้องฟ้ามุ่ย และชาวเมืองคุรุวาโร ทุกท่าน...
...น้องฟ้ามุ่ยฝันแปลกดีนะจ๊ะ และก็เก่งด้วยที่แม้จะฝัน ก็ยังมีความรู้สึกตัวพร้อมอยู่ทั้งกายและใจ
พี่จะขอความช่วยเหลือจากน้องเล็กน้อย(ขอคุณนายนุ๊กไปแล้ว เมื่อวาน แต่เหมือนลืมมั้ง)
ช่วยหาเรื่องราวของพญาเกล็ดแก้วนาคราชให้พี่อ่านบ้างสิจ๊ะ..พี่ถามอากู๋(กูเกิล)แล้ว..
แต่(พี่)ไม่ได้ความ...ขอบคุณค่ะ พี่ดาว*

 

อืมมม พญาเกล็ดแก้วนาคราช... ท่านเป็นใครคะ เป็นพญานาคท่านหนึ่งหรือคะ เดี๋ยวจะลองหาดูนะคะพี่ดาว ถ้าเจอก็ถือว่า เป็นโชคดีที่เราได้รู้จักท่านเพิ่มมาอีกหนึ่งท่านค่ะ

ปล. อันที่จริงฝันนี้นั้น ตื่นขึ้นมาลืมไปแล้วค่ะ นั่งอ่านกระทู้นี้สักพัก นึกเรื่องราวขึ้นมาได้จนเกือบครบเลยเชียว อิอิ สาธุ สาธุ สาธุ

 

เมื่อคืนฝัน 2 เรื่อง (เท่าที่จำได้)

เรื่องแรก...
ฝันเห็นนป่าที่มีต้นไม้สีเขียวๆ (ไม่แน่ใจว่าเป็นป่าบนภูเขาหรือเปล่า) เราลอย (เหาะ) ไปเรื่อยๆ
ช้าๆ เหมือนไม่ได้เร่งรีบ...ผ่านอาณาเขตหนึ่ง ในความรู้สึกบอกว่า นั่นคืออาณาเขตของพระ
แม่กวนอิมและบริวาร...

เรื่องที่สอง...
ฝันว่ามีหนุ่มหล่อโคตรๆ แถมนิสัยดีและสุภาพ มาเป็นสารถีขับรถให้เรานั่งชูคอ (เหมือนยีราฟ) พา
ไปเที่ยวที่โน่นที่นี่...มีความสุขโคตรๆ ไปเลยอ่ะ อิอิ (ฝันเห็นป้อจายติดๆ กัน 4 คืนแล้วอ่ะ ^^ )