นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ถ้าย่ิอเกินไปนิทาน ก็จะไม่ได้อรรถรสทางอารมณ์ ครับ คุณนุ๊ก :cool:

    ตอนต่อไป มีการต่อสู้กัน ระหว่า ทหารเอก กับ พระราชาวิเชียรชัยมัคคละ!

    สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ :cool:
     
  2. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    นอนดึกกันจังเลยค่ะ... แวะมาอ่านนิทานต่อ

    กลัวว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะตามไม่ทันอีก อิอิ

    เลยได้อ่านนิทานของคุณแมวเหมียวไป แต่ก็รอเฉลยตอนคลอดลูกเหมือนพี่นุ๊กเลยค่ะ

    ไม่เฉลยสักทีหนอ ฮ่าๆๆ ราตรีสวัสดิ์นะคะ
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วะ..วะ...ว้าว...จบเทคนิคเหมือนท่านประธานเลย
    เซ็งเป็ด...นู๋เบื่อมากๆ ต่อไปจะไม่คุยกับใครแล้ว
    ไม่มาให้เห็นหน้ากันอีกเลย...จำไว้ ฮอลลลจริงๆ
     
  4. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    สวัสดีเช้า วันพฤหัสบดี มีความฝัน มาเล่านิดนึง ฝันเมื่อคืนวันอังคารแล้วครับ

    จำได้แต่ตอนจบ 55 ฝันว่าอยู่บ้านครับ ที่บ้านปลูกต้นขนุนใว้ข้างบ้าน ในความฝัน ต้นขนุนต้นนั้นมีกิ่งเล็กเล็กกิ่งหนึ่ง กิ่งนี้มีผลขนุนใหญ่สวยงามผลหนึ่งอยู่ แม่บอกว่า ผลนี้เกิดขึ้นเพราะ ลูก หรือ เกิดขึ้นเพื่อลูก(จำไม่ได้ไม่แน่ใจ)ประมาณนี้แหละ เลยตื่นพอดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2012
  5. jernnrej_JJ

    jernnrej_JJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ฝันวนเวียนอยู่แต่ที่บ้านและโรงเรียนเก่า เพื่อนเก่าๆ สมัยมัธยม
     
  6. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    สวัสดีทุกท่าน ทุกนามค่ะ

    วันนี้เงียบจังเลย :cool:
     
  7. momoru

    momoru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +246
    ฝันว่า อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เจอศัตรูมากมาย ผมก็ต่อสู้แต่มันเยอะสู้ไปก็คงไม่หมดมีแต่เสียเวลา ผมเลยนึกขึ้นได้ว่า ขอให้พระพุทธเจ้าช่วยคุ้มครองดีกว่า เลยพูดในใจส่งกระแสจิตถึงพระพุทธเจ้าของบารมีท่านมาคุ้มครอง ทำให้เกิดแสงรอบตัวแรก ๆ เหมือนแสงยังมีสะดุดแต่ผมก็พยายามขออยู่แปบนึงจนมีแสงส่องมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และไม่มีสะดุด ส่องมายังร่างกายผม ผมมองเห็นร่างกายผมยืนอยู่เหมือนเราเป็นอีกคนที่กำลังมองตัวเอง จากนั้นศัตรูทั้งหลายก็หายไปไม่มีเหลือเลย ไม่รู้หายไปทางไหนกันหมดแล้ว ผมก็เดินไปอีกเล็กน้อยคิดในใจว่าอยากเจอพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่ใดกันผมจะสามารถเจอได้หรือไม่ ในใจผมคิดว่าผมคงฟังเสียงท่านไม่ได้แน่เลย ผมสังเกตุเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่ใกล้ ๆ ในตอนนั้นจังหวะที่ผมกำลังจะเดินผ่านพ้นเธอไป เธอได้หันมาคุยกับผมว่า "เราบอกได้แค่นี้" เธอให้ผมดูฝ่ามือคนที่ถูกตัดออกมามีแค่ส่วนข้อมือขึ้นไป เป็นฝ่ามือข้างขวาที่ดูซีด ๆ ขาว ๆ แต่ว่ายังอ่อนนุ่มไม่ได้แข็ง เหมือนมือศพทั่วไป เธอส่งฝ่ามือนั้นให้ผมบอกให้ผมเดิมไปตามทาง (ตามเส้นลายมือ) เปลี่ยนเหมือนเส้นลายมือนี่คือแผนที่นั้นเอง ผมก็ถามว่าแล้วตอนนี้เราอยู่จุดไหนของแผนที่ละ เธอก็ชี้ให้ดูว่าเราอยู่จุดล่าง ๆ ของฝ่ามือและเราต้องเดินไปทางไหนเลี้ยวทางไหนจนถึงจุดหมายที่กลางนิ้วนาง เมื่อคุยเสร็จผมก็รีบเดินทาง ระหว่างเดินทางเห็นภาพอนาคตขึ้นมาแทรกว่าจะเจอโจร และเจอคนที่กำลังจะไปทางเดียวกับผมจุดหมายเดียวกันและแผนที่ที่อยู่ในมือผมจริง ๆ แล้วเป็นของชายผู้นั้น ส่วนผู้หญิงที่ให้แผนที่ผมมานั้นเป็นเมียของเรา ผมเห็นอนาคตว่ามีโจรมาปล้นเขาได้ต่อสู้และทำแผนที่ตกหล่น ผมเห็นภาพผู้หญิงบอกผมว่าอย่าให้สามีเธอเห็นแผนที่ที่เธอให้ผม ผมก็เกิดความคิดว่าจะไปคนเดียวจะไม่ให้เขาเห็นหรือให้ใครมาขัดขวาง จากนั้นพอผมเดินมาได้สักพักอนาคตที่เห็นก็เริ่มเป็นจริง ผมเจอชายผู้นั้นและโจรก็ปรากฏ โจรพยายามล้อมชายคนนั้นและมี 2 3 คนวิ่งตามมาที่ผมด้วย ผมคิดจะหนีแต่เปลี่ยนใจหยุดต่อสู้ เพราะผมสู้ได้อยู่แล้วพวกนั้นแค่เพียงคนธรรมดา ผมก็เริ่มต่อสู้ใช้ดาบฟันคนละ 1 ครั้งพอฟันไปได้สัก 3 คน ผมได้ยินเสียงเขาบอกให้เก็บอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่ได้สนใจฟังเท่าไรในตอนนั้น และผมก็ฟันโจรทุกคนจนตายหมด แล้วปรากฏว่าแผนที่มันตกหายไปคนที่เก็บแผนที่ได้ก็หนีไปแล้วด้วยและผมก็ตื่นจบ ...

    เส้นทางก็ประมาณในภาพนี้ละ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2012
  8. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    บู๊ล้างผลาญอีกแล้วนะคะ :cool: ....
     
  9. momoru

    momoru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +246
    นิดหน่อยเอง ก็โจรมันมาปล้นอะไรก้ไม่รู้ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้มีสมบัติอะไรมาสักหน่อย มีแต่แผนที่อันเดียว
     
  10. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    แสดงว่าต้องเป็นแผนที่ที่สำคัญมากค่ะ ไม่งั้นต้องไม่มารุมปล้นเป็นแน่
     
  11. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    เมื่อวานหลงเข้ามากระทู้นี้ อ่านจนปวดตาเลย ขอติดตามด้วยคนนะค่ะ
     
  12. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440

    ยินดีต้อนรับค่ะ คุณขาล ว่าแต่ว่า กฎของธิดาผู้ครองนครนี้ ผู้มาใหม่ ต้องหานินทานมาเล่าสักเรื่องหนึ่งก่อนนะคะ :cool:
     
  13. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ถาม : ทีนี้พวกที่เล่นไสยศาสตร์ พวกอาคมอะไรอย่างนี้จะมีการปล่อยของตามวันพระ ช่วงวันพระเราจะทำยังไงที่จะไม่ให้โดนที่เขาปล่อย หรือว่าช่วยคนที่ถูกของที่ปล่อยออกมาแล้ว ให้เขาทุเลาลง ?
    ตอบ : แยกเป็น ๒ ประเด็น อันดับแรกก็คือว่า บรรดาหมอไสยศาสตร์ วิชาการเขาเรียกง่าย ๆ ว่า มันร้อน เมื่อมันร้อนถึงเวลาถึงวาระ อย่างเช่น ทุกวันอังคารหรือวันเสาร์ เขาจะต้องทำการปล่อยของนั้นออกไป ถ้าเขาไม่ปล่อยของนั้นออกไป ของนั้นจะเข้าตัวเขาเอง เขาก็ต้องทำพิธีของเขาไป สิ่งทั้งหลายที่เขาปล่อยไปนี้เรียกว่า "ลมเพ-ลมพัด" ถ้าหากว่า ใครมีเคราะห์กรรม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อไปถึงมันจะกระทบ ทำให้เกิดเสียงดัง อย่างเช่น เหมือนยังกับใครสาดทรายใส่หลังคากราวไปเลย...หรือไม่ก็มีเสียงใครเคาะข้างฝาโป๊กเป๊ก ตุ้บตั๊บ
    โบราณถึงได้แนะนำว่า ถ้าได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ อย่าไปเอ่ยปากทัก ถ้าหากว่าเอ่ยปากทักของดีแค่ไหนก็คุ้มไม่ได้ เหมือนกับเราเป็นเจ้าของบ้านแล้วเราเปิดประตูบ้านให้โจรมันเข้ามา ตำรวจเขาเห็นเจ้าของบ้านเต็มใจต้อนรับ คิดว่าคนรู้จักกันก็ไม่มายุ่งด้วย ประเด็นที่สอง ถ้าหากว่าถ้าเรากลัวจะโดนของนั้น อันดับแรกอย่าไปเอ่ยปากทักอะไรง่าย ๆ อันดับที่สอง พยายามภาวนาให้กำลังใจของเราทรงตัว จะได้มีสติอยู่กับตัวเราเสมอ ไม่ตกใจอะไร ถ้าตกใจง่าย ๆ เอ่ยปากทักอะไรขึ้นมา เขาจะเข้าแทรก เข้าสิง เข้าทับได้ หรือว่าจะมีผลให้ร้ายได้ในตอนนั้น
    ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เราว่าจะช่วยคนเหล่านี้ได้อย่างไร ถ้าเขาโดนแล้ว ตัวเราเองถ้ามั่นใจตัวเองว่าเราทรงความดีระดับหนึ่ง เอาแค่ว่าทรงปฐมฌานได้ก็พอ ทรงปฐมฌาน ตั้งใจทำน้ำมนต์ด้วยความเคารพในคุณพระรัตนตรัย ใช้อิติปิโสฯ ทั้งหมดก็ได้ เอาน้ำมนต์นั้นราด รดหรือให้เขารับประทานก็จะแก้ได้ หรือไม่ก็ไปหาพระที่คุณธรรมพอทรงความดีพอให้ทำน้ำมนต์รดให้ ราดให้ ก็สามารถแก้ได้ถอนได้ ไสยศาสตร์จริง ๆ แล้วไม่น่ากลัว เพราะว่ากำลังใจของเขาเข้าถึงจุดสูงสุดของการภาวนาไม่ได้ เนื่องจากจิตที่มุ่งร้ายต่อผู้อื่น คิดร้ายต่อผู้อื่นทำให้ขาดตัวอุเบกขาในอารมณ์ฌาน ถ้าไม่มีฌานจะเข้าถึงกำลังสูงสุดไม่ได้ เราภาวนาให้กำลังใจทรงตัวแค่เกินอุปจารสมาธินิดหนึ่ง ไม่ต้องถึงปฐมฌานของเขาก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว แต่อย่าเผลอสติ ถ้าเผลอสติ จะโดนได้
    หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเคยแนะนำว่า ให้เราภาวนาในตอนเช้าให้กำลังใจทรงตัว แล้วอาราธนาบารมีพระ คือว่ามีพระเครื่องติดตัว ตั้งใจขอบารมีพระให้คุ้มครองเรา ภาวนาให้กำลังทรงตัว แล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง จะสามารถป้องกันอันตรายพวกเหล่านี้ได้ทั้งวัน สำคัญอยู่ว่ากำลังใจของเราทรงตัวมั้ย ? แก้ได้ ถ้าสมาธิเราดีพอ ตั้งใจขอบารมีพระทำน้ำมนต์ด้วยตัวเองก็ได้ อิติปิโสฯ ทั้งจบน่ะ ง่ายที่สุด

    ***************************

    เอามาฝากกันค่ะ เห็นเงี๊ยบบบ เงียบ :cool:
     
  14. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ถาม : วันก่อนได้อ่านหนังสือหลวงพ่อ ถาม-ตอบ ที่บอกว่าเมื่อเสียชีวิตปรากฏว่าได้เข้าไปในนรก ผ่านมาตลอดทางก็เจอมีอาหารมีอะไรคล้ายกับตัวเองใส่บาตร อะไรทุกอย่างของเขาเอง แล้วน้ำมีแค่ครึ่งขวด แล้วคนที่พาไปบอกว่าเวลาทำบุญตักบารตร เขาต้องใส่น้ำให้ด้วยเป็นลักษณะกรวดน้ำก็ต้องใช้น้ำ

    ตอบ : จริง ๆ แล้วให้เป็นอาหารก็สมบูรณ์แล้ว บรรดาผู้ที่ตายใหม่ ๆ อันนี้ฟังให้ดีนะ ถ้าไม่เคยฟังจากที่อื่น ๆ อาจกลายเป็นสิ่งไม่ตรงกับเค้า บรรดาผู้ที่ตายใหม่ ๆ อุปาทาน ทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องกิน ต้องใช้อะไรต่าง ๆ เหมือนกับคนอยู่ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นก็จะมาปรากฏรอให้เขา
    แต่ถ้าหากว่าบุคคลที่ทำความดีสูง ๆ ผลบุญจะส่งให้เขามีกายทิพย์ อิ่มทิพย์ไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปกิน ถ้าใหม่ ๆ อาจต้องไปนั่งเคี้ยวอยู่หลายมื้อ ลำบากจะแย่ พอรู้ตัว เฮ้ย !?กูเป็นเทวดานี่หว่า จะเสียเวลากินทำไม ก็หายโง่ไปหน่อย ถ้าใหม่ ๆ เป็นเหมือนกันนะ พวกยังติดอุปาทานอยู่
    มันมีอยู่สถานที่หนึ่งใครเคยไปหรือยังไม่รู้ มันมีพวกบรรดาตลาดใ้ห้จับจ่ายใช้สอยกัน มีเดินเข้าเดิินออกกัน ช็อปกันให้มั่วเลย !มีเหมือนกัน พวกที่ไปใหม่ ๆ ละนิสัยมนุษย์ไม่ได้ก็ไปอยู่แถวนั้นแหละ พอรู้ตัวว่าเป็นเทวดาสบายกว่ากันตั้งเยอะ มาเดินกันให้เมื่อยทำไม เขาก็เลิก...

    *************************************

    อ่านกันต่อเนื่อง เพลินๆ ยาวๆค่ะ :cool:
     
  15. นํ้า้ทิพย์

    นํ้า้ทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +836
    ท่านประธานเฉลยเลยดีกว่านะค่ะ

    เนื้อเรื่องจะได้มันส์ทันใจผู้อ่านนะค่ะ
     
  16. ขุนพิฆาต

    ขุนพิฆาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ขอประทานอภัยหมื่นครั้งครับที่จำสับสน คุณที่ว่าคือบุคคลคนนี้ครับ


    พุทธกุลธิดา [​IMG]

    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ
     
  17. Skysky1

    Skysky1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +896
    นคร เงียบ จัง

    คุณฟ้ามุ้ย หาเรื่องงมาเล่าให้ฟังอีกสิค่ะ

    อ่าน กำลังสนุกเลยค่ะ
     
  18. Skysky1

    Skysky1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +896
    มาแล้ว คุณ Norlnorrakuln

    ต่อนิทาน เลยค่ะ
     
  19. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    หายแว็บ.gif

    เฮ้ย!...วันนี้เงียบผิดสังเกตุ!
    ไปดีกว่าเราเดี๋ยว ผีหลอก!
     
  20. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ถาม : มีเพื่อนที่ได้ทำการปฏิบัติธรรมแล้วเขามีความรู้สึกว่า การปฏิบัติธรรมของเขาไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย พอปฏิบัติธรรมแล้วก็เหมือนกับอยู่กับที่ เขาได้พยายามทำสมาธิเองอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ก้าวหน้าขึ้น พอจะมีข้อแนะนำในการปฏิบัติธรรมให้เขามีความก้าวหน้าบ้างมั้ยคะ ?

    ตอบ : ลักษณะการปฏิบัติแล้วไม่ก้าวหน้ามันประกอบด้วยสาเหตุอยู่ ๓ ลักษณะด้วยกัน อย่างแรก ทำเกิน อย่างที่ ๒ ทำขาด ถ้าทำพอดีก้าวหน้าทุกคน ทำเกินก็คือเคร่งเครียดจนเกินไป สภาพร่างกายมันไปไม่ไหว ทำขาดก็คือ ขี้เกียจจนเกินไป มันก็เลยไม่ก้าวหน้าด้วย
    เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องทำให้พอดีถึงจะก้าวหน้า ตัวพอดีพระพุทธเจ้าตรัสว่า มัชฌิมาปฏิปทา คราวนี้คำว่ามัชฌิมา พอดีตรงกลางนี่ไม่มีอัตราตายตัวว่า ๕๐% เป๊ะ มันจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและจิตใจของเราที่ได้รับการฝึกมา
    ดังนั้นว่าของคนผู้หนึ่งมัชฌิมาปฏิปทาของเขาอาจจะนั่งตลอด ๓ วัน ๓ คืนเลย แต่ว่าของเราเอง ๓๐ นาทีก็แย่แล้ว ดังนั้นการปฏิบัติแรกเริ่มถ้าหากว่าเราภาวนาแล้วรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วอย่าเพิ่งเชื่อมัน ให้ลองฝืนดูนิิดหน่อย ถ้าฝืนแล้วไปต่อได้ก็โอเค นี่โกหกแน่เมื่อกี้นี้แสดงว่าเป็นตัวถีนมิทธะนิวรณ์ มาหลอกให้เราขี้เกียจ
    ถ้าหากว่าฝืนแล้วไปต่อได้ก็ควรจะตั้งเวลาไว้สักครึ่งชั่วโมงหรือว่าไม่เกิน ๑ ชั่วโมงแล้วพัก ถ้ามากเกินไปกว่านั้นบางทีมันเป็นการทรมานตัวเองมากเกินไป ยกเว้นบางท่านที่ต้องการดูเวทนา ต้องการจะแยกจิตแยกกายดูว่าอาการของมันเป็นอย่างไร อย่างนั้นเขานั่งกันข้ามวันข้ามคืน นั่งกันจนก้นแตกกันไปข้างหนึ่ง
    อีกอย่างหนึ่งที่ปฏิบัติไปแล้วไม่ก้าวหน้าก็คือ บางทีจะเน้นแต่สมาธิอย่างเดียว ตัวสมาธิกับตัวปัญญามันเหมือนกับคนที่ผูกขา ๒ ข้างด้วยโซ่เส้นหนึ่ง ถ้าหากว่าสมาธิไปแล้วปัญญาไม่ตามมันก็เหมือนกับเดินไปสุดแล้วโซ่มันกระตุกกลับ ดังนั้นเมื่อภาวนาจนอารมณ์เต็มแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเต็มที่ ก็มันถึงจุดสุดแล้วไม่สามารถไปต่อแล้วอารมณ์มันจะคลายออกมา
    ตอนอารมณ์มันคลายออกมาสำคัญที่สุดถ้าหากว่าเราไม่บังคับให้มันคิดในสิ่งที่ดี ๆ มันก็จะคิดไปในทางรักโลภ โกรธ หลง พาเราฟุ้งซ่านไปเลย เพราะฉะนั้นเมื่อมันถอยออกมาเราก็ให้คิดในวิปัสสนาญาณ คือให้คิดพิจารณาให้เห็นในความเป็นจริง ว่าสภาพร่างกายก็ดี โลกเราก็ดี มันประกอบไปด้วยไตรลักษณ์ คือความเป็นจริง ๓ อย่าง ว่า ๑. มันไม่เที่ยง ๒. มันเป็นทุกข์ ๓. มันไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเขาเราได้ หรือไม่ก็พิจารณาตามแนวอริยสัจ อริยสัจนี่จับแค่ทุกข์กับเหตุของการเกิดทุกข์เท่านั้น ถ้าเรารู้ว่าทุกข์เกิดจากอะไรแล้วไม่สร้างเหตุนั้นทุกข์ก็ดับ ถ้าทุกข์ดับให้เรียกว่า นิโรธ ระหว่างที่เราปฏิบัติเขาเรียกว่า มรรค คือหนทางเข้าถึงการดับทุกข์
    เพราะฉะนั้นว่าเราจับแค่ทุกข์กับสมุทัย ๒ ตัวเท่านั้น หรือไม่ก็พิจารณาตามแบบของวิปัสสนาญาณ ๙ คือ พิจารณาให้เห็นอย่างเช่น อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ พิจารณาเห็นการเกิดแล้วดับ ภังคานุปัสสนาญาณ พิจารณาเห็นว่าทุกอย่างดับหมด ภยตูปัฏฐานญาณพิจารณาให้เห็นว่าร่างกายนี้มันเป็นโทษเป็นภัยเป็นของน่ากลัว จนกระทั่งไปถึงสังขารุเบกขาญาณ คือการปล่อยวางในสังขารทั้งปวง และสัจจานุโลมิกญาณ คือพิจารณาย้อนต้นทวนปลาย ทวนปลายย้อนต้นกลับไปกลับมาให้พิจารณาอยู่ในลักษณะนี้
    </B>การพิจารณามีประโยชน์มากตรงที่ว่า เมื่อจิตมีงานทำไม่ฟุ้งซ่าน ปัญญาจับเฉพาะหน้า สติดำนินตามไป จิตมันจะดิ่งกลับไปเป็นสมาธิอีกระดับหนึ่งพอมันเป็สมาธิถึงระดับนั้นปุ๊บ เราภาวนาต่อเลย มันก็จะทรงตัว ก้าวล่วงลึกเข้าไปอีกระดับ แต่ว่าพอก้าวไปถึงจุดตันมันจะถอยมาอีกทีหนึ่ง ก็ตอนนี้ปัญญาเดินหน้า พอถึงจุดตันโซ่มันติดแล้วมันจะกระตุกขากลับ เราก็ก้าวไปอีกต่อ คือภาวนาคือสมาธิ เมื่อภาวนาไปถึงเต็มที่คราวนี้มันจะกระตุกกลับอีกแล้ว เราก็พิจารณาต่อไป ถ้าทำดังนี้ได้จะก้าวหน้า</B>
    ถ้าหากว่าเว้นไปจากเรื่องทั้งหลายเหล่านี้แล้ว บางทีทำเท่าไหร่ก็พอ มันไปตันก็โดนกระตุกกลับ ไปตันก็โดนกระตุกกลับ มันก็เลยไม่ก้าวหน้า ให้เขาพิจารณาด้วย ว่าตัวเองทำแล้วเหตุที่ไม่ก้าวหน้าเกิดจากเหตุอะไร แล้วแก้ไข

    *************************************
    จัดให้คุณหวานใจค่ะ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...