นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ว้าว...ปี๋หลอก:boo:
วันอาทิตย์พากันไปแอ่วตี้ไหนกันหมดเนี่ย???

 

อ่านเรื่องนี้ดีกว่ามีประโยชน์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

นางพญาทั้งสาม

เราศึกษาเทพนิยายจีนได้เรียนรู้เรื่องราวชีวิต พลันพบบทสรุปว่า
เทพนิยาย มีเค้าโครงมาจากชีวิตจริง

ธรรมนิกายมีธรรมสัจจะมาจากนิทานธรรมคดี จริงๆ เท็จๆ เท็จๆ จริงๆ
ใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็จะพบความจริงของ
จริง ของดี ของแท้ ว่าอะไร เป็นอะไร

เทพนิยายกล่าวถึงนางพญาทั้งสาม มีคุณบรรลือโลก มีความเป็นหนึ่ง
แห่งยุทธภพ น้อมจิตคิดสร้างสรรค์ ทำขึ้นสู่ใจเรา

นางพญางูขาว คือ ฉายาปราดเปรียวของ ไป่ซูจิง สิ่งหนึ่งล้ำค่าใน
ชีวิตจิตใจ คือ มุกอิทธิฤทธิ์ มรรคผลพันปีนี้คือจิตหนึ่ง เกิดขึ้นด้วยจิต
จากการฝึกจิต สำเร็จด้วยจิต

เปิดจิตให้กว้าง เบิกดวงตาให้กระจ่าง ก็พลันพบว่า มุกอิทธิฤทธิ์
เม็ดนี้ สถิตอยู่ที่จิตของท่านเอง คือใจของเราทั้งหลายนั่นแหละ ใจ
มีฤทธิ์ ใจเป็นมุก มุกอิทธิฤทธิ์อยู่ในตัวเรานี่เอง

กิมลี้ฮื้อ มีฉายาว่า นางพญามัจฉาสีทอง ผู้นวลผ่องงามเสงี่ยม
เปี่ยมล้นด้วยน้ำใจ ดุจท้องทะเลกว้าง หยั่งลึกถึงดวงจิต พลันเข้าถึง
ดวงแก้ว มุกมณี ซ่อนเร้นในโคลนตม ประกายสดใสย่อมถูกบดบัง

ชำระจิตกระจ่างสะอาดพลันพบดวงแก้ววิเศษ ด้วยมรรคผลพันปี
คือไอธาตุกายสิทธิ์ ณ ท้องนภากว้าง ห้วงทะเลลึก สดชื่นปลอด
โปร่งใจเป็นที่สุด บัดนี้ ไอธาตุกายสิทธิ์ คือ ลมหายใจเข้าออก
กลมกลืนอยู่ในตัวเราแล้วมิใช่หรือ จงฟอกกายใจ ชำระจิตให้
บริสุทธิ์ด้วยไออากาศธาตุบริสุทธิ์ ฟอกโลหิตให้เป็นทิพย์ ชุบชีวิต
ให้เป็นกายสิทธิ์เถิด

เทพธิดาหนีสัง ผู้มีความงามด้วยรอยยิ้ม มีฉายาว่า นางพญา
ผมขาว หมายถึง เจ้าแห่งความคิดไม่จำกัดด้วยวัย เด็ก 7 ขวบ
อาจสำเร็จอรหันต์ได้ อายุไม่ใช่เครื่องวัดประสบการณ์ชั่วชีวิต

เรื่องนี้มุ่งหมายจะทำลายทิฏฐิของคนแก่หัวรั้นที่ยึดมั่นในทัศนะ
ของตนเป็นใหญ่ เอาแต่ใจตนเองติดอยู่ในอคติทั้ง 4 คือ ลำเอียง
เพราะรัก เกลียด กลัว และหลง จึงแสดงภาพผมขาวให้ประจักษ์
ว่า นางนั้นมีอาวุโสทางจิตวิญญาณ ได้ท่องเที่ยวในสังสารวัฏมา
มากแล้ว เช่นเดียวกับ เหลาจื้อ ฉายาว่า เด็กแก่ ผมหงอกขาว
แต่หน้าอ่อนวัยเหมือนเด็ก บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเด็ก มี
โพธิปัญญาเหมือนคนแก่

นางผู้งามรอยยิ้ม อารมณ์แจ่มใสคล้ายเด็ก จิตใจเด็ดเดี่ยวเหมือน
เพชร เพราะได้เข้าถึงธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะ จิตหนึ่งนิ่ง
ประภัสสรยิ้มผ่องใส ย่อมภาคภูมิใจในวิชา มีความทะนงอย่างเงียบ

มีกระบี่อิงฟ้า คือ ปัญญาปราดเปรื่อง ใช้ได้ดั่งใจนึก ทันต่อเหตุการณ์
แบบน้ำไหลไฟดับ คือ มาทางไหนไปทางนั้นเลย เหมือนตัดด้วยเพชร
ปราศจากความลังเล เมื่อจิตเป็นทิพย์ ทำอะไรก็แพรวพราวไปหมด
เหมือนมีมนตราปาฏิหาริย์บันดาลดลฉะนั้น

หนีสัง ผู้เคยดื่มกินน้ำนมของแม่หมาป่า ผู้ภาคภูมิในวิชา ไม่ติดในรูป
แบบของสำนัก เป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง วรยุทธนางก็มีหลัก
เกณฑ์เป็นมาตรฐาน หญิงที่เก่งกล้ากว่าชาย ชายที่งดงามกว่าหญิง
ย่อมมีอยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้ อย่าได้คิดเหยียดหยันดูหมิ่นกันเองเลย

"พลังปราณนิ่มนวล ยิ้มละไม
พลังจิตแข็งกร้าว ห้าวดั่งเพชร
พลังชีวิตสกาวเด่น ดั่งจันทร์เพ็ญ
พลังรักบรรเจิดเช่น ดวงตะวัน"

 

เหงาอ่ะ ไม่มีคนคุยด้วย
เพื่อนไม่คบ....แงๆๆ :'''(

 

ช่างเป็นวันอาทิตย์ที่เงียบเหงา ผิดกับเมื่อวานเลยนะคะพี่นุ๊ก ^^

 

หวัดดีค่ะน้องเจิ่นเจิ๊น ใช่ค่ะทุกวันอาทิตย์เลย
วันนี้เป็นวันหยุดท่านประธานค่ะ วันครอบครัว ส่วนตั๊วส่วนตัว

เดี๋ยวเราฉายหนังให้ดูกันดีกว่า....แนวยุทธภพ บู๊ รัก เศร้าเคล้าน้ำตา

 

ฉายจริง ไม่หลอกให้เก้ออีกนะคะพี่นุ๊กกกกกก

 

ปยานาคก็มีวันหยุดด้วยแฮะ...น่าจะติดไว้ที่หน้าประตูถ้ำนะ
ว่าวันทำการตั้งแต่วันอะไร ถึงวันอะไร
เริ่มตั้งแต่เวลาไหนถึงเวลาไหน สมาชิกจะได้ไม่หลงกัน..ฮ่าฮ่า

อ่านเรื่องนี้แล้วกันนะ...อ่านเล่นเพลินๆ
รอเมตตาจากฟ้าประทานนิทานมาให้อ่านอีกที

สองพลังคู่

จากสามปรมาจารย์ ซึ่งได้แฝงเร้นสามจอมเซียนไปในตัวมาสู่สองพลังคู่
ซึ่งมีลักษณาการคล้ายๆ กัน เปรียบเทียบกันได้ในทีเดียว คือ
เทพเจ้าหวังต้าเซียน กับ เจ้าแม่ทับทิมจอมอภินิหาร

ได้แก่ เทพยดาหวังชูผิง กับ เทพธิดาหลินหม่อเหนีย
(เราชอบหนังจีนกำลังภายในอ่ะ...ดูกันจนตาแฉะ เดี๋ยวเล่าต่อ คอแห้ง...)

 

ถึงไหนแล้ว...เอ้ามาเล่าต่อ

เทพยดาหวังชูผิง กับเทพธิดาหลินหม่อเหนีย มีหยาดสวรรค์เป็นเกร็ดเพชร
กลายเป็นอักษรปรากฏบนฝ่ามือทั้งสอง กับมีคัมภีร์สวรรค์ไร้อักษร ต้องใช้
แสงทองจากจิต จึงปรากฏเป็นอักษรให้ศึกษา

หวังชูผิงได้ศึกษาคัมภีร์หมอเทวดา มีวรยุทธและกระบี่รู้ใจ ใช้ได้ตามต้องการ
หลินหม่อเหนียศึกษาคัมภีร์สวรรค์ ด้วยมนต์เปิดใจส่องสว่าง คัมภีร์ 2 ภาค คือ
เวชศาสตร์กับจิตศาสตร์ มีความรู้ทางสมุนไพร ได้วรยุทธและกระบี่คู่ใจใช้ได้
ดังใจนึกเช่นกัน

หวังชูผิง เป็นศิษย์ท่านไท้เสียงเล่ากุน แห่งเต๋า
หลินหม่อเหนีย เป็นศิษย์เจ้าแม่กวนอิม แห่งพุทธ

เริ่มจะมันส์แล้วชิมิร้า.....

 

หยาดสวรรค์สะท้อนอักษรก็ดี คัมภีร์สวรรค์ไร้อักษรก็ดี เป็นไปด้วยบุญฤทธิ์
เพื่อเสริมสร้างอิทธิฤทธิ์ บำเพ็ญบารมีโปรดสัตว์ ช่วยทุกข์ชาวโลก

ขอเพียงเราฝึกจิต สร้างสมบุญฤทธิ์ ทาน ศีล ภาวนา ในชั่วชีวิต จิตสะท้อน
อักษรคัมภีร์ถ่ายทอดสู่จิต เหมือนถ่ายทอดสดจากดาวเทียมสู่ทีวี จะเห็นได้ว่า
เราก็มีหยาดสวรรค์ มีคัมภีร์สวรรค์อยู่ในตัวเราแล้วทุกตัวคน

ธรรมชาติแห่งพุทธะในจิตใจของสรรพสัตว์เป็นประกาศิตจากเบื้องบน
ผลกรรมนำพา หากมัวเสียเวลาคิดว่า มีหรือไม่มี ชีวิตก็จะเสียเปล่า
ลักษณาการที่คล้ายๆ กันอีกสอง ปรากฏเป็นพลังคู่ คือ

กษัตริย์หญิงบูเช็คเทียน กับ กษัตริย์ชายไต้ซุ่น
ชื่อเดิม บูเหม่นเหนียง กับ ตังหัว 1 ใน 2 กษัตริย์หญิงของจีน กับ 1
ใน 24 กตัญญูของจีน บูเช็คเทียน คือฟ้าประทาน จากพระสนมน้อย
มาเป็นจักรพรรดิหญิง

เมื่อสองเหตุการณ์มารวมอยู่ ณ จุดเดียวกัน สถานที่เดียวกันให้รู้สึกอ้างว้างใจ...

 

ใจดวงเดียวกันนี่เอง ผ่านทั้งทุกข์และสุข ผ่านการต่อสู้อุปสรรคนานัปการ

ไต้ซุ่น ได้มนต์วิเศษจากชาวนามาเป็นจักรพรรดิ จากชีวิตที่สันโดษ
สงบสุุข มาปกครองประชาชนนับหมื่นนับแสน เหมือนอยู่ในสองแดน
เชื่อมต่อเป็นอันเดียวกัน

อ้างว้างใจ เพื่อรักษาความซาบซึ้งตรึงใจในสีขาว เพื่อพิทักษ์สีดำ
ประชาชนรักฟ้า ฟ้าก็รักประชาชน ฟ้ายุติธรรมเสมอ ฟ้าประทานวัน
เวลา 24 ชั่วโมงให้เราเสมอเหมือนกันหมด ฟ้าสุจริต แต่เรามักผลัด
วันประกันพรุ่ง ผิดสัจจะตัวเอง

มนต์วิเศษ ก็อยู่ที่ตัวเรา จงปฏิญาณต่อฟ้าว่า "วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้"
อย่างจริงใจในทุกๆ วัน...

จบแล้วค่ะ

 

สวัสดีทุกท่าน ทุกนามค่ะ....

มาแล้วจ้าาาา ... ช่วงนี้ฝัน แจ่จำไม่ได้อยู่บ่อยๆเลย

รู้แต่ว่าสมาธิเริ่มนิ่งขึ้นมาก แต่ก็ไม่ถึงกับ ตุ้บๆ อย่างที่พี่นุ๊กเคยบอกไว้

จะพยายามต่อไปค่ะ ... อีกอย่างตอนนี้อารมณ์ร้อนบ่อยมาก หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย

ขนาดนั้งสามธิทุกวันนะเนี่ย ไม่รู้จะแก้มันยังไง ได้แต่กดมันไว้เงียบๆ ทรมานตัวเอง

 

ลองท่อง คาถาที่เราชอบตลอดเวลา ดูสิค่ะได้ผลนะจิตจะนิ่งดี

แล้วเพิ่มพลังที่จิตด้วยค่ะ...เป็นกันเยอะ

 

เบื่อจริงๆ เลยพวกพี่ๆ กับท่านประธานเนี่ย
รักลำเอียงกับคนอื่นแนะนำได้ แนะนำดี
แต่กับเราไม่เห็นแนะนำกันบ้างเลย อย่างนี้
เค้าเรียกว่า "ฝนตกไม่ทั่วฟ้า ไม่ยุติธรรม"

 

ก่อนที่จะเรียนรู้วิชาปฏิบัติสมถสมาธิ ต้องถามตัวเองก่อนนะ
ว่าจริตชอบแบบไหน หากจะเรียนเพิ่มเติมจากที่เคยมีอยู่แล้ว
ก็ต้องทำตัวให้เหมือนแก้วเปล่าค่ะ พร้อมที่จะรองรับน้ำนั้นๆ
มันจึงจะได้ผล....หากไม่เทน้ำเก่าออกก่อน มันก็จะล้นแก้ว
ไม่ได้อะไรเลยค่ะ

 

อยู่สันกำแพงค่ะ

สวัสดี ทุกท่านค่ะ ดาอยู่แถวสันกำแพง แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่กับครอบครัวแถว
อาหรับค่ะ จะกลับไปเชียงใหม่ประมาณกันยายนนี้ค่ะ คงจะได้เจอคุณนุ๋ก เพื่อนทางธรรมที่นั่นน่ะค่ะ

 

มิกกี้ ถือว่าผลของสมาธิใช้ได้นะ เพราะทำให้เยือกเย็นขึ้น
ไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งเร้าภายนอก.....

 

ด้วยความยินดีค่ะ คุณdm007 อยู่อาหรับไปเที่ยวเหรอคะ
อาหรับแล้วหลานหลับมั้ยคะ?...ล้อเล่นค่ะ

 

เขาไปเป็นอื่นแล้ว...เธอก็ยังไม่เลิกรา
ใจเธอคอยเรียกหายังลังเลร่ำไร
ทั้งที่เธอมีฉันคนที่รักเธอมากมาย
เธอกลับมองข้ามไป...

ใจดวงเดียวแต่มีสองทางเดิน
จะเลือกใคร...ลองถามใจเธอดู
ว่าเธอจะเลือกคนที่เธอรัก หรือว่าเธอ
จะเลือกคนที่เขายังรักเธอเสมอ....
ฉันเองอาจจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะเสียเธอ
แต่อีกคนเขาคงไม่แคร์.....

 

ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำของพี่รั้งและพี่นุ๊กค่ะ...

ตอนนี้กำลังพยายามหาแนวทางของตัวเองอยู่ แต่เหมือนยังไม่เจอ

เลยลองจนมึนไปหมดเลยจ้า 555+

วันอาทิตย์อันแสนเงียบสงบ วันจันทร์หวังว่าคงได้ฟังนิทานนะคะ

 

จัดให้อีกเรื่องนะ เรื่องนี้ก็ดีค่ะ แบ่งกันอ่านนะจ๊ะ

พระจี้กง

พระจี้กง เต้าจี้ พระจีนสกปรก พระบ้าๆ บอๆ ป้ำๆ เป๋อๆ พระสติเฟื่อง
ท่านไต้ซือ หลี่ซิวหยวน พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ ทั้งหมดนี้คือคนๆ เดียวกัน
รวมอยู่ในตัวของ เทพจื่อหยาว แต่เราเรียกท่านว่า อาจารย์ก็แล้วกันนะ

พื้นเพเดิมของพระจี้กงเป็นลูกเศรษฐี มีการศึกษา มีมารยาท สุภาพเรียบร้อย
อยู่ในระเบียบ ไม่ทำตัวเหลวไหล แต่หลังจากที่ได้บรรลุธรรมแล้ว กลับ
ประพฤติตัวผิดไปคนละคนเลย

ภาพพจน์ที่เห็นเป็นพระตลกโปกฮา ชอบดื่มสุรา สวมจีวรเก่าๆ ไม่ค่อยสำรวม
ท่องไปทั่วหล้า โปรดสัตว์เป็นเวลาถึง 60 ปีเต็มๆ