เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ตอนนี้ฟังได้ที่เวปไซท์ที่เดียว..เดี๋ยวต้องถามคุณเลขาฯครับ
บรรเลงดนตรีได้เพราะมากเลยนะครับ เป็นบทเพลงแห่งความฝัน+B-Flat
คุณไชยา ท่าทางชอบเล่นดนตรี--

 

จิตวิญญาณก้าวหน้าด้วยการเกื้อกูลซึ่งกันและกันเป็นระบบเครือข่าย

 

ความเชื่อไม่ใช่ความรู้หรือความเป็นจริงเสมอไป

เธอจะพิสูจน์ความเป็นจริงได้ไม่ยากว่า สิ่งใดคือความเชื่อ สิ่งใดคือความรู้

 

นี่ล่ะครับ แสดงว่าจิตไม่ต้องเดินทาง แต่เราสามารถไปปรากฎในสถานที่นั้นๆได้โดยฉับพลันทันใด คล้ายการพุ่งสติสัมปชัญญะออกไปจดจ่อตำแหน่งนั้นๆ ในระบบเครือข่ายของจิตวิญญาณที่มีอยู่ครับ

 

ขอสนับสนุนครับ เพลงบรรเลงเพราะมาก
ผมบันทึกไว้ใน mp4 แล้ว เอาไว้เวลาทำสมาธิใส่หูฟัง
น่าจะช่วยกระตุ้นสองซีกขวาได้ดี

ขอบคุณ คุณmead สหายต่างดาว เป็นอย่างยิ่งครับ(ping)

ขอชี้แจงนิดนะครับ

หลายท่าน pm มาให้เกียรติผมมาก เรื่องการบันทึกเสียงลง
mp4 แหะๆ ผมก็แค่เอาไปจ่อลำโพง แล้วกด REC. เท่านั้นเองครับ
ไม่ได้มีความสามารถทางเทคโนโลยีชั้นสูงแต่ประการใด
อาศัยอยู่ในห้องปิดทึบ เสียงรบกวนเข้าแทรกได้น้อยมาก

ต้องขออภัยที่ทำให้หลงเข้าใจผิดนะครับ อิอิ[Embarrass

 

ความรู้ คือแก่่นแท้ของจิตวิญญาณ

หากเธอรู้เห็นสิ่งที่เป็นความรู้ที่ " แท้จริง "

จิตวิญญาณของเธอจะเติมเต็มด้วยความรู้ส่วนนั้น

ซึ่งไม่มีวันสูญสลาย

ความรู้นั้นๆจะแปลงสภาพความรู้เดิมไปด้วยทำให้จิตวิญญาญขยายตัว

 

จิตวิญญาณเป็นส่วนขยายที่สร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่ง..
ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องมาเรียนรู้เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิต
เรียนรู้เพื่อให้รู้ยิ่งขึ้นนะครับ เป็นต่างดาวก็ต้องเรียนอ่ะ..

พี่เม้าเซฟเพลงไปแล้วเหรอครับ เดี๋ยวผมตามไปเก็บค่าลิขสิทธิ์..เหอๆ

(evil2)

 

ที่บ้านมีเครื่องเล่น mp4-1 ฟังได้ไหมค่ะ จะขอยืมไรท์ซซซซซหน่อย ฮี่ ๆๆๆ

 

(b-glass)


งานชุมนุมชาวยุทธภพตาทิพย์ ค่ายพลังจิต คงจะมีบุญได้รับฟังพี่ชยาร้องเพลงให้ฟังแน่ ๆ เลย พี่ชายคร้าบน้องจะรอฟังนะคร้าบ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ต้นเหตุแห่งปัญหาชีวิตทั้งหลายเกิดจากความเชื่อ
ที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของเธอ

เธอไม่ต้องแสวงหาคำตอบจากภายนอก จากคนทรง หรือหมอดู
เพราะเธอสามารถแสวงหาความรู้และคำตอบทั้งหลายได้จากภายใน

เธอคือจิตวิญญาณผู้มีพลังอำนาจที่จะมีได้-ทำได้-เป็นได้-สมความปรารถนา
เธอคือจิตวิญญาณผู้มีพลังอำนาจที่จะมีได้-ทำได้-เป็นได้-สมความปรารถนา

ด้วยความเชื่อและศรัทธาในพลังอำนาจของจิตวิญญาณของตนเอง
ด้วยความเชื่อและศรัทธาในพลังอำนาจของจิตวิญญาณของตนเอง

 

สงสัยคุณจิตต์ปภัสสรจะเป็น "จิตวิญญาณร่วมร่าง -ต่างวัตถุประสงค์"..???

(b-ng)​

 

นั่นแน่สมาชิกกิตติมศักดิ์ของอาจารย์โนวา อนาลัย ใช่มั๊ยครับ
เพราะเป็นคำสอนที่เราได้รับจากอาจารย์เช่นกัน
รู้สึกยินดีมาก ที่มีผู้เยี่ยมยุทธ์ค่อย ๆ เผยตัวออกมาเพื่อมาร่วมกัน
รักษาโลกของเรา ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและเผยแผ่คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนกว่าจะสิ้นพุทธกาล
(verygood)

 

ผีอำไม่มีหรอก
เราตกอยู่ในภาวะที่เราอำตัวเอง
เพราะเราขาดการควบคุมด้วยสติสัมปชัญญะ

เรารู้สึกเสมือนถูกไฟดูด
เป็นภาวะที่ก้ำกึ่งหรือคาบอยู่ระหว่างภาวะที่

กำลังเคลื่อนจิตเข้าสู่ "ความฝัน"

 

โดนพี่ mead จับได้แล้ว อุตส่าห์แอบ ๆ แล้วเชียวน้าสงสัยจะอ้วนไปเลยปิดไม่มิด (ความจริงเปิดเผย)
พี่ mead คุรุทุก ๆ ท่าน และเพื่อนพลังจิตทุกคน เราจะไม่อยู่นะ
จะไปปฏิบัติธรรม 5 วันกะคุณพิชญ์ (สมาชิกเช่นกัน) ที่อำเภอชัยบาดาล
จ.ลพบุรี จะนำวิชาที่คุรุอาจชวินและคุรุทุกท่านแนะนำเมื่อวันที่ 5 ส.ค.
ที่ผ่านมาและล่าสุดคือเลขาของอาจารย์โนวา อนาลัย ไปทบทวน เพื่อว่าพลังวัตจะพุ่งกะฉูด ได้ผลคืบหน้าประการใดจะนำมาเล่าสู่กันฟัง
หรือพี่ ๆ ท่านใดจะชี้แนะ โทรจิตหาบ้างนะคะจะได้เป็นการวัดไปในตัวว่าเรา
พัฒนาไปขั้นใดแล้ว (เวลาส่งมากรุณาบอกชื่อด้วยนะว่าชื่อเรียงเสียงใดบ้าง
เผื่อที่ว่ารับคลื่นแล้วจะได้โทรจิตกลับไปหาถูกท่าน)
ฮื่อ ๆๆๆ คิดถึงพลังจิต ต้องไปทบทวนวิทยายุทธ์ก่อน
(ใครมีวิชาหายตัวได้เล่าสู่กันฟังบ้างนะ นิน นิน นิน)
หลุดโลกไปแล้ว บ้าย บาย

 

โมทนาสาธุครับคุณ..จิตต์ปภัสสร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_647764", true); </SCRIPT>
ขอให้ค้นพบพลัง+แสงสว่างในตัวเองโดยเร็ววันครับ
จะได้เอามาเยียวยาส่งพลังให้กับโลกใบนี้ด้วยกันครับ
แล้วจะโทรจิตไปหาคับ ว่าแต่แถวนั้นมีสัญญาณรึป่าวไม่รู้++

 

เคล็ดในการอ่านหนังสือ (ที่อ่านยาก) ให้เอาหนังสือวางไว้ข้างหัวเตียง เอาจิตจดจ่อกับหนังสือก่อนนอนแล้วขอให้จิตวิญญาณไปอ่านหนังสือล่วงหน้า (อย่าหัวเราะนะคะ) ตื่นมาอ่านหนังสือจะประหลาดใจว่า เหมือนได้อ่านข้อความที่อ่านมาแล้ว จะรู้เรื่องล่วงหน้าหมด เทคนิคนี้คุณลูกชอบมากๆ โดยเฉพาะเวลาสอบ อ่านหนังสือตอนตื่นไม่ทัน ก็อ่านตอนนอนหลับก็ได้ บอกเคล็ดให้แล้ว จะหัวเราะก็ไม่ว่า แต่หากนำไปฝึกแล้วได้ผล ขอส้มตำจานเด็ดก็แล้วกัน

การเอาจิตจดจ่อกับหนังสือทำให้เกิดการถ่ายทอดจิตวิญญาณหรือองค์ความรู้จากหนังสือมาสู่จิตวิญญาณของเราได้โดยตรง​

วันนี้รู้สึกดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้อ่านข้อความของ "คุณนักเขียน" หลังจากที่ไม่ได้เข้ามานานเพราะติดงาน.. อ่านแล้วรู้สึกอยากเริ่มศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ เพราะมีหลายอย่างที่ฝันถึง และมีโอกาสได้รู้ว่ามันมีอย่างในฝันจริงๆ หรือไม่ก็มีเสียงมาเตือนล่วงหน้า แล้วเหตุการณ์นั้นมันก็เกิดขึ้นจริงๆ...​

สำหรับข้อความของ "คุณนักเขียน" ที่ post ไว้ด้านบน... หนูเคยมีประสบการณ์แบบนี้สองสามครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นแบบเดียวกันหรือเปล่านะคะ.. คือมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องงาน คิดยังงัยก็คิดไม่ออก ทำไม่ได้ หยิบขึ้นมาทำทีไรก็เป็นอันต้องวางทิ้งไปซะทุกครั้ง จนผ่านไปเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน คือปกติหนูเป็นคนนั่งสมาธิอยู่แล้ว ก็เลยนั่งคิดหาวิธีแก้ปัญหาระหว่างนั่ง พอคิดจัดลำดับงานก็เหมือนทุกอย่างมันพันกันไปหมด เพราะแก้ตรงนี้ก็จะไปกระทบที่ตรงนั้น ไม่ว่าจะแก้ที่ตรงไหนมันก็กระทบกันไปหมดทุกจุดเลยรู้สึกท้อใจมาก ยิ่งนานวันก็ยิ่งคิดไม่ออก งานก็ใกล้วันกำหนดส่งเข้าไปทุกทีๆ ...เอางานขึ้นไปนั่งดูก่อนนอนทุกคืน ดูไปดูมาก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ไม่เคยคิดออกเลย.. จนมีอยู่คืนหนึ่ง นั่งสมาธิเป็นปกติ ออกจากสมาธิแล้วก็นอน ..หลับแล้วฝันไปว่าหาวิธีแก้ปัญหาจากงานตัวนั้นได้ พอตื่นขึ้นมาก็มาทบทวนดูว่ามันสามารถทำได้จริงหรือเปล่า ก็ปรากฏว่ามีความเป็นไปได้สูง ก็เลยรีบจดว่าต้องเริ่มทำอะไรบ้าง แล้วก็ทำตามนั้น แล้วมันก็สำเร็จจริงๆ ด้วยค่ะ.....หลังจากนั้นก็มีอีกสองงานที่เป็นแบบเดียวกัน แล้วก็แก้ไขได้จากวิธีที่มาจากความฝันนี่แหละค่ะ...ไม่ทราบว่ามันจะเป็นกรณีเดียวกับที่ "คุณนักเขียน" ได้เขียนไว้หรือเปล่าคะ...หรือเป็นเพราะหมกมุ่นกับมันมากเกินไป...​

ส่วนความฝันที่แปลกและเกิดขึ้นจริง มีอยู่เรื่องหนึ่งนะคะ สงสัยมากเลย ประมาณตีห้ากว่าของวันหนึ่ง มีความรู้สึกว่ารู้สึกตัวด้วย แต่ยังหลับตาอยู่ ได้ยินเป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนหนึ่ง (แสบแก้วหูมากๆ) พูดว่าให้เลือกระหว่างคนสองคนนี้ ก็เลยถามเค้ากลับไปว่าใครพูด เค้าก็ตอบกลับมาแบบเดิมพร้อมเสียงหัวเราะ จะถามเค้ายังงัยเค้าก็พูดประโยคเดิม เหมือนหนูต้องเลือก หนูก็เลยเลือกไปหนึ่งคน แล้วเสียงนั้นก็หายไปเลยค่ะ หนูเองก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาในตอนนั้น ...หลังจากนั้นไม่นาน คนๆ นั้นก็เสียค่ะ...เป็นยายหนูเอง.. เหตุการณ์แบบนี้เรียกว่าอะไรคะ.. สงสัยมานานแล้วหล่ะค่ะ...​

 

อ่านเรื่องที่ท่านเลขาฯนำมาลงและตอบคำถามได้ 2 วัน

รู้สึกว่า จิตวิญญาณ ของเรายังอ่อนแอมาก
ยึดติดกับ ตา หู จมูก ลิ้น กาย มากจนถูกดูดกลืน
เสมือนกับจะเป็นหนึ่งเดียว
ทำให้ไม่เห็นจิต หรือตัวตนอันแท้จริง ไม่สามารถอิงอาศัย
สัมผัสที่หกได้

ท่านเลขาฯบอกกล่าวมาได้ชัดเจนมาก
เราต้องตัดการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
เพื่อให้ประสาทสัมผัสที่หก ได้ใช้งาน
ซึ่งจะเป็นหนทางให้เราได้ค้นพบตัวตนอันแท้จริง

ผมรู้สึกอย่างนั้นนะครับ ถูกไหมครับ
มีใครรู้สึกเหมือนผมไหมครับ...

 

อ๋อ ครับพี่ เมื่อก่อนเป็นนักดนตรีครับ เล่น เปียโนครับ แต่ตอนนี้มาอยู่เบื้องหลังนานแล้วครับ(b-glass)

 

จิตของคุณงดงามตามชื่อเลยน่ะ และรู้ว่าผมชอบร้องเพลงด้วย เก่งครับ เก่ง ยอดๆๆๆๆๆๆๆ (verygood) (verygood)(verygood)

 

รู้สึกเหมือนกันครับพี่เม้า
ประสาทสัมผัสที่หก..ของเราคงหลับไหลมานานตามกาลเวลา
ในภพชาติแรกๆ ยังมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เพราะบริสุทธิ์อยู่มากๆ
นานๆไปผ่านมาหลายภพชาติ เหมือนถูกฝุ่นละอองมาเกาะบดบังไว้
พอรู้ทัน ก็ค่อยๆขัดให้ใสขึ้นเป็นพักๆ..ต่อยอดเอาชาติใดก็ตามที่ระลึกรู้
แต่ถ้าเราไม่ทำต่อเนื่องก็หลับอีกตามความเคยชิน

เขื่อว่าตอนที่เราหลับหรือทำสมาธินี่ ประสาทสัมผัสที่หก ตื่นตัวมากที่สุด
เพราะอีก 5 ถูกปิดสวิทซ์เอาไว้..เปิดโอกาสให้จิตวิญญาณเราตื่นรู้เต็มที่
ยิ่งได้รู้แบบนี้ยิ่งต้องเร่งมือครับ เกิดมาทันช่วงเวลาแห่งความรู้แบบนี้พอดี:-