นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    อีกไม่กี่วัน...น้องหมอกก็จะมาหามิกเหมือนกันค่ะ :cool:
     
  2. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    น่าอ่านมากครับ คุณ fahmui แต่ ขอทำงานก่อนแล้วจะมาติดตามอ่านไหม่ ครับ
     
  3. Skysky1

    Skysky1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +896
    วันนี้มีแดดแรง เราไม่สังเกต

    ออกไปหน้าบ้าน แหงนมองพระอาทิตย์

    ว้าวว พระอาทิตย์ทรงกรด วงรัศมีใหญ่มากๆ

    สวยๆ แต่ถ่ายรูป ได้ไม่เต็มวงเลย ใหญ่เกินจิงๆ

    ใครเห็นบ้าง ( รึใครเห็นแล้ว เราตกข่าว 55 )
     
  4. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    ฮ่า..ฮ่า... น้องสาวของพี่มี ๒ คน ตอนนี้เริ่มทาบทามอีก ๑ (สงกะสัยเหมือนกัน พี่คงมีน้องเท่าตระกูลมโนราห์ หรือนางสิบสอง กันแน่..หนอ)
    น้องสาวคนโต ....อัญชญาณี (กำลังเดินทาง..อิอิ)
    คนกลาง .....รัตนประภาศรี (กำลังทาบทาม..อิอิ)
    คนเล็ก .....มณีรุ้ง

    อัญชญาณี มาจาก อัญชัญ(สีม่วง) กับกัลยาณี
    รัตนประภาศรี มาจาก รัตนประภาหมอกมุงเมือง
    มณีรุ้ง มาจาก แก้วมณีที่มีสีรุ้ง

    ก็เป็น.. อัญชญาณี...รัตนประภาศรี..มณีรุ้ง
    หรือเป็น..นราวดี...รัตนประภาศรี..อัญชญาณี..มณีรุ้ง...ก็ดี..เน้อ.!!
     
  5. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    เย้...นู๋มีญาติแล้วนิ (แต่น้องหมอกนู๋สงสัยจะเป็นป้อจายป่าวหว่า อิอิ)

    ปล.ชื่อน้องๆ ของพี่ดาวไพเราะเพราะพริ้งทั้งนั้นเลยอ่ะ เดี่ยวต้องให้
    แม่มณีตั้งชื่อน้องหมอกให้อย่างเป็นทางการดีกว่า หุหุหุ
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สวัสดีค่ะท่านผู้มีจักร หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคะ

    สบายดีมั้ยเอ่ย แล้ววันนี้ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาฝากกันเลยเหรอคะ

    ขออ่านนิทานแนวผจญภัยหนุกๆ สักเรื่องจิ:cool:
     
  7. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ในเมื่อท่านประธานยังไม่มา ... ก็มาเรื่องเล่ากันต่อค่ะ ยาวไปเนาะ เดี๋ยวว่างจะพาลเบื่อกันเสียเปล่าๆ อิอิ:cool:

    ***********************************************

    อาตมาเดินถือเทียนศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าส่องโลกแหวกน้ำลงไปเรื่อย ๆสายตาเนื้อของชาวบ้านธรรมดาที่มองตามจะไม่เห็นร่างอาตมาเลยเพราะน้ำได้ท่วมมิดเสียแล้ว ที่รู้ได้ว่าน้ำแหวกให้เป็นช่องนี้เป็นการรู้เห็นได้เฉพาะตน พื้นดินใต้น้ำเป็นโคลนตมแต่เท้าของอาตมาก็ลอยอยู่เหนือโคลนตม เพราะอาตมาอยู่ในร่างกายทิพย์หรือธรรมกายการเคลื่อนไหวใด ๆ ย่อมจะเป็นไปในลักษณะเบาหวิวดุจกระแสลมพัด

    ชั่ววินาทีหรือชั่วขณะจิต พอร่างจมลงใต้น้ำเท่านั้นอาตมาก็ไปด้วยพลังกระแสจิตเข้าถึงหาดทรายสวยงามในถ้ำบาดาล

    พญางูยักษ์ดูเหมือนจะมีญาณล่วงหน้ารู้ล่วงหน้าแล้วว่า อาตมาจะเข้าไปในถ้ำ พอเห็นอาตมาโผล่เข้าไปก็ชูคอขึ้นสูงแผ่พังพานขนาดใหญ่ส่งเสียงขู่ฟ่อดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องไปทั้งถ้ำแลบลิ้นสองแฉกสีแดงออกมาจากปากอ้ากว้าง น่าสะพรึงกลัวสยองพองหัว เสียงขู่ฟ่อ ๆ นี้ดังคล้ายใครเอาสังกะสีหลายร้อยหลายพันแผ่นมาเสียดสีกันฟังแล้วแสยงบาดโสตประสาทเหลือประมาณพอที่จะทำให้คนดี ๆ กลายเป็นบ้าไปได้ง่าย ๆ ด้วยความหวาดกลัวแต่อาตมาก็หาได้กลัวแต่อย่างใดไม่ รู้สึกเฉย ๆเพราะมีประสบการณ์ฝ่าอันตรายมามากต่อมากแล้วจนถือเป็นเรื่องชาชินธรรมดาถ้าอาตมาจะถึงคราวตายก็ให้มันตายไป คนเราเกิดมาแล้วมันต้องตายอยู่ที่ไหนก็ตายไปไม่ตายวันนี้ก็ต้องตายในวันใดวันนึ่งข้างหน้า ร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวตนของเรามันเป็นแต่เพียงธาตุมาชุมนุมกันขึ้นเป็นรูปร่าง เราไม่มีในกาย คือจิตวิญญาณของเรามันประกอบขึ้นด้วยธาตุผสม จิตวิญญาณมันเกิดดับอยู่ตลอดเวลาเราจะไปยึดว่าจิตวิญญาณคือตัวเรา ไม่ได้ ที่ว่านี้เป็นธรรมชั้นสูงนะฟังแล้วก็เข้าใจยาก แต่เราท่านก็ได้ยินได้ฟังพระท่านว่าให้ฟังอยู่เสมอมิใช่หรือโยม

    อาตมาเดินถือเทียนศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าส่องโลกเข้าไปเรื่อยๆ พญางูก็แผ่พังพานส่งเสียงขู่สนั่นหวั่นไหวเข้าใส่อยู่ตลอดเวลาทิดบุญโฮมนั้นตัวสั่นงอ นัยน์ตาเหลือกลานมองจ้องอาตมาแล้วก็มองจ้องพญางูทำท่าคล้ายจะช็อคตายไปเสียให้ได้ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

    " พุทธะ มะอะอุนโมพุทธายะ "

    อาตมาภาวนาพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลา

    พญางูขยายขดอย่างรวดเร็วเลื้อยปราดพุ่งลำตัวขนาดใหญ่ลงมาจากแท่นศิลาขาวเข้ามาหาอาตมาอย่างดุร้าย

    อาตมาหยุดยืนนิ่ง ทอดสายตามอง พนมมือถือเทียนศักดิ์สิทธิ์จุดสว่างไว้ภาวนามนต์วิเศษไปเรื่อย ๆ พญางูเลื้อยปราดเข้ามาใกล้ระยะห่างประมาณสอง - สามวาแล้วหยุดชะงัก ชูคอขึ้นสูงหลายวาแผ่พังพานส่ายหัวโงนเงนไปมาทำท่าจะฉกกัด.......


    พญางูเลื้อยปราดเข้ามาใกล้ในระยะห่างประมาณสอง - สามวาแล้วหยุดชะงักชูคอขึ้นสูงหลายวาแผ่พังพานส่ายหัวโงนเงนไปมาทำท่าจะฉกกัดอาตมาไม่สะทกสะท้านหวั่นไหวใด ๆ

    ต่างฝ่ายต่างประจันหน้าจ้องกันอยู่พักใหญ่พญางูก็ไม่ฉกกัดสักทีอาตมาก็ภาวนามนต์อยู่ยังงั้น ครั้นแล้วก็ปรากฎอัศจรรย์

    ร่างพญางูยักษ์ค่อย ๆเลือนจางไป กลับกลายเป็นมานพหนุ่มรูปงามขึ้นแทนที่ คือกลายร่างเป็นมนุษย์หน้าตาสะสวย นุ่งห่มแบบเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์โบราณ อ้อ...พญางูนี้ที่แท้ก็เป็นเจ้าที่เจ้าทางนี่เอง อาตมานึกยิ้มในใจนึกอยู่ทีเดียวแหละ
     
  8. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    กระผมคือ พญาสัจจธัมมานาคราชเจ้า ......

    มานพผู้เป็นโอปปาติกะแนะนำตัวเอง
    "
    อาตมาถือเป็นกุศลเหลือเกินที่ได้รู้จักโยมผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคมานานแล้วคิดว่าเป็นเรื่องเหลวงไหลไม่มีมูลความจริง โลกทุกวันนี้เจริญก้าวหน้ามากยังจะมีคนเชื่องมงายอยู่อีกหรือว่ามีพญานาค อาตมาเข้าใจว่าเป็นเรื่องงมงายของชาวบ้านที่พากันหลงเชื่อในนิยายปรัมปรามากกว่าแต่เมื่ออาตมาได้มาพบเห็นประจักษ์แจ้งแล้วเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่เขลามากอาตมาขออภัยด้วยที่เคยนึกล่วงเกินโยม " อาตมากล่าว
    สัจจธัมมานาคราชหัวเราะน้อยๆ

    "
    พญานาคนี้เป็นเทวดาพวกหนึ่งขอรับพระคุณเจ้า ไม่ใช่ผีธรรมดา เป็นผีชั้นสูงคือเป็นเทวดาพวกหนึ่ง ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของพระอินทร์ หรือท้าวโกสีย์บนสวรรค์ดาวดึงส์ ก่อนที่จะมาเป็นพญานาคนี้ก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อนสมัยเป็นมนุษย์ก็บำเพ็ญความดีในพระพุทธศาสนา มีการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาทรงพรหมวิหารสี่ ละอคติสี่ คือจิตใจไม่ตกอยู่ในอำนาจกิเลสไม่ยอมให้กิเลสตัณหาอุปทานและอกุศลกรรมมาอยู่ใต้อำนาจจิตตนได้ อคติสี่นี้ในสมัยเป็นมนุษย์ ต้องปฎิบัติเคร่งครัดเป็นพิเศษคือ .....



    อคติสี่ นี้ ในสมัยมนุษย์ต้องปฎิบัติเคร่งครัดเป็นพิเศษ คือ ไม่ลำเอียงเพราะความรักไม่ลำเอียงเพราะความโกรธ ไม่ลำเอียงเพราะความกลัว ไม่ลำเอียงเพราะความหลงครั้นเมื่อตายจากโลกมนุษย์มาเกิดในภาพวิญญาณแล้ว ก็มาอยู่ในสวรรค์ดาวดึงส์ทีนี้พระอินทราธิราชเจ้าผู้เป็นใหญ่ท่านก็จะเล็งดูอุปนิสัยประกอบกรรมเก่าที่เคยสร้างสมไว้ว่า คนไหนชอบทางฤทธิ์เดชชอบโลดโผนโจนทะยาน ชอบตื่นเต้นบู๊โลดโผนเหมือนพวกตำรวจทหาร พระอทราธิราชเจ้าท่านก็ให้มาอยู่พิภพบาดาลหรือเมืองพญานาค(me/ชะรอยอะไรจะปะเหมาะสำหรับตัวเองจริงๆในชาติก่อน)เพื่อทำหน้าที่เป็นรั่้วของสวรรค์และดูแลป้องกันห้วงมหรรณพทุกแห่งในโลกมนุษย์คือเป็นงูใหญ่ สภาพของความเป็นงูใหญ่นี้ขึ้นอยู่กับลักษณะประเทศดินฟ้าอากาศด้วยเหมือนกัน อย่างในแถบชมพูทวีปลงมา คือจากสระแก้วอโนดาษในภูเขาหิมาลัยหรือป่าหิมพานลงมาตามแนวแม่น้ำโขงนี้มีสภาพเป็นงูใหญ่หรือพญานาคแต่ถ้าข้ามภูเขาหิมาลัยไปทางประเทศจีนอากาศหนาวจัดโน่นนะก็ต้องมีเกล็ดแข็งเป็นพิเศษ มีรูปร่างสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกมีขางอกออกมาเรียกว่ามังกร
    (
    สำหรับมังกรจีนตามในประวัติศาสต์ก่อนการมีฮ่องเต้องค์แรกของจีนในราชวงศ์มังกรเกิดจากหัวหน้าชนเผ่าแต่ละชนเผ่าของจีนเป็นผู้คิดค้นจากสัตว์แต่ละชนิดที่ชนเผ่าของตนนับถือเป็นสัณลักษณ์ประจำชนเผ่านำมารวมกันเกิดเป็นมังกรค่ะ

     
  9. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    แต่ในทางโลกทิพย์หรือโลกโอปาติกะมังกรเกิดขึ้นได้จริง ในทางพุทธศาสนา เรียกว่า การยึดมั่นถือมั่นสิ่งที่คนเราคิดขึ้น เมื่อยึดติดมาก ก็อาจไปเกิดเป็นรูปร่างตามที่คิดแม้ว่าเมื่อก่อนอาจไม่มี สำหรับมังกร แต่สำหรับพญานาคนั้น (งูใหญ่ในแถบสุวรรณภูมิในพระไตรปิฏก ได้กล่าวแจ้งชัดถ้าหาที่มาให้ชัดเจนถึงต้นกำเหนิด น่าจะเป็นอจินไตยเกินที่ภาวะปุถุชนอย่างคนพิมพ์และคนอ่านจะคิดลึกซึ้งได้แนะนำว่าท่านใดติดต่อกับองค์พญานาคได้ ควรถามท่านโดยตรงดีกว่าแต่ไม่รับประกันว่าท่านจะตอบหรือท่านอาจรู้เท่าๆกับตัวเราเพราะพญานาคบางท่านก็มาจากมนุษญ์เรานี่เองเช่นกัน ถ้าติดต่อพญานาคระดับอริยะได้ท่านอาจตอบได้ค่ะ)



    ถ้าลงทะเลมหาสมุทรใหญ่ไปทางเมืองฝรั่งโน่น ก็ต้องเป็นงูยักษ์บ้างงูมีหงอนมีขาบ้างรูปร่างต้องใหญ่โตเป็นพิเศษ เพราะมหาสมุทรมันกว้างใหญ่ไพศาลน้ำทะเลมีความกดดันมากเราต้องมีร่างใหญ่โตให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมห้วงมหรรณพอันกว้างใหญ่

    เมื่อเป็นพญานาคแล้วมนุษย์จะรู้จักหรือไม่รู้จัก ก็ไม่สำคัญ จะนับถือหรือไม่นับถือก็ไม่สำคัญเราไม่เอาใจใส่หรอก เราต้องการรักษาห้วงน้ำในโลก รักษาสัตว์น้ำในโลกไม่ให้มนุษย์เบียดเบียนสัตว์น้ำจนเกินไป ถ้ามนุษย์เบียดเบียนชีวิตสัตว์น้ำจนเกินไปเราก็จับมาลงโทษ "

    "
    อ้อ...เป็นอย่างนี้นี่เอง อาตมาเข้าใจแล้วที่นี้เมื่อชาติก่อน พวกท่านเคยเกิดเป็นมนุษย์เมื่อมาเกิดเป็นพญางูเช่นนี้แล้วไม่อึดอัดแย่หรือโยม" อาตมาพูดยิ้มๆ

    พญาสัจจธัมมานาคราชเจ้าหัวเราะชอบใจ

    "
    อันนี้พระคุณเจ้ายังเข้าใจไม่ถูกสภาพความเป็นอยู่ของเราในโลกทิพย์นี้ เราก็เป็นเทวดามีร่างมนุษย์เป็นปกติแต่เวลาใดที่เราจะออกตรวจตราดูแลห้วงน้ำ เราก็กลายร่างเป็นพญานาคเมื่อหมดหน้าที่แล้วเราก็กลายร่างกลับเป็นเทวดาอย่างเก่า มีปราสาทราชวังอยู่มีบ้านมีเมืองอยู่ ประชากรของเราที่เป็นนาคก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อนเมื่อตายแล้วมาเกิดในเมืองบาดาลก็มาตามอำนาจกรรมของตัวเองแต่ละคนไม่เสมอกันคนไหนกุศลมากก็เป็นนาคชั้นดีมีฐานะ คนไหนกุศลน้อยก็เป็นนาคชั้นต่ำ"
     
  10. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    " อาตมาทราบมาว่า ที่พระธาตุพนมมีพญานาคเจ็ดองค์คุ้มครองรักษาเรื่องนี้เป็นความจริงแค่ไหน" อาตมาถามต่อไปด้วยความสนใจ

    พญาสัจจธัมมานาคราชเจ้ายิ้มอย่างถูกใจในคำถาม

    "
    อ้อ...พระคุณเจ้าก็รู้เรื่องนี้เหมือนกันนะเรื่องพญานาคทั้งเจ็ดองค์ที่พระธาตุพนมนี้เป็นเรื่องจริง กระผมรู้จักพวกท่านดีพวกท่านเป็นพญานาคพิเศษ คือ มีบุญญาบารมีมาก มีฤทธิ์มาก ไม่ได้อยู่เมืองบาดาลพวกท่านอยู่ที่สระอโนดาษเขาพระสุเมรุในหิมาลัยแดนหิมพาน(คล้ายเมืองลับแลค่ะแต่อยู่ในท่ามกลางมิติทิพย์ซ้อนมิติโลกมนุษย์ของตรงไหนในภูเขาหิมาลัยแถวๆเนปาลคาบเกี่ยวอินเดียแถบชายแดน จนปัญญาคนพิมพ์จะรู้ได้คงต้องนั่งทางในให้ได้ก่อน อิอิแต่ถ้าเรียนถามพระธุดงค์ที่ท่านปฎิบัติวัตรจนแก่กล้าในฌาณ คุณอาจทราบได้อย่างท่านหลวงปู่โง่น สุรโย (ท่านมรณะภาพแล้ว) หลวงปู่ฤาษี นเรทร์อริยวังโส(ท่านยังมีชีวิตอยู่) และ พระอริยสงฆ์หลายท่าน ฯลฯ )


    อันเป็นศูนย์กลางสำหรับทางขึ้นไปสู่สวรรค์เทวโลก คือเมืองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้อยู่เหนือยอดเขาพระสุเมรุราชขึ้นไปเป็นโลกทิพย์หรือโลกผู้มีกายปรมาณูพญานาคราชเจ้าทั้งเจ็ดองค์นี้เป็นเทวดาผู้ใหญ่มีอิทธิฤทธิ์ศักดานุภาพยิ่งนักเป็นที่โปรดปรานไว้วางใจของพระอินทราธิราชเจ้ามาก มีนาม ดังนี้คือ
    ๑.พญาสัทโธนาคราช
    ๒.พญาศีลวุฒินาโค
    ๓.พญาหิริวุฒินาโค
    ๔.พญาโอตตัปปวุฒินาโค
    ๕.พญาพาหุสัจจวุฒินาโค
    ๖.พญาจาคะวุฒินาโค
    ๗.พญาปัญญาวุฒินาโค"



    " เท่าที่อาตมาทราบจากตำนานอุรังคธาตุ กล่าวไว้ว่า พระอินทราธิราชเจ้าได้ทรงแต่งตั้งให้เทวดาผู้ใหญ่องค์หนึ่งเป็นหัวหน้าพร้อมด้วยเทวดาบริวารจำนวนสี่พันหกองค์อยู่ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนมพร้อมด้วยมเหศักดิ์หลักเมืองอีกสามองค์ หลังจากสร้างพระธาตุพนมเสร็จสิ้นลงเมื่อปีพ.ศ. ๘ ในตำนานไม่เห็นบอกไว้แต่อย่างใดว่า มีพญานาคเจ็ดองค์ คุ้มครองรักษา"อาตมาแย้ง


     
  11. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    " ที่พระคุณเจ้าพูดนี้ก็ถูกแล้ว เมื่อครั้งแรกสร้างเสร็จใหม่ๆพระอินทราธิราชเจ้าได้แต่งตั้งเทวดาจำนวนมากไว้ให้ทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนมจริงแต่ปรากฎตลอดมาว่าพวกเทวดาเหล่านี้นิสัยไม่ดี อาศัยกินแต่อามิสของชาวบ้าน คือเครื่องเซ่นสรวง หมูเห็ดเป็ดไก่ เหล้ายาปลาปิ้งไม่เอาใจใส่พระธาตุพนมเท่าที่ควรปล่อยให้ชาวบ้านเสื่อมถอยศรัทธาองค์พระธาตุพนมทรุดโทรมลงหลายครั้งเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าแก่คนต่างศาสนายิ่งนัก ทำให้พระพุทธศาสนาเศร้าหมองพระอินทราธิราชเล็งเห็นด้วยทิพยญาณว่า

    ขืนปล่อยให้พวกเทวดาเละเทะความประพฤติไม่ดีเหล่านั้นรักษาพระธาตุพนมต่อไป จะยิ่งเสียหายกันใหญ่ ไม่ดีแน่ประกอบกับเป็นระยะเวลากึ่งพุทธกาลพระธาตุพนมเก่าชะรอยแก่ชราทรุดโทรมมากใกล้จะถล่มลงมาตามอายุขัย อนิจจังเป็นของไม่เที่ยงเพื่อจะให้พุทธศาสนิกชนร่วมใจกันสร้างขึ้นใหม่ถาวรมั่นคง สืบทอดพระพุทธศาสนาไปอีก,๕๐๐ ปี ครบ ๕,๐๐๐ ปี สิ้นพระศาสนาพระพุทธโคดมจึงเห็นสมควรจะขับไล่เทวดาเหล่านั้นให้ไปอยู่ที่อื่นเสีย แล้วให้เทวดาที่ดี ๆไปรักษาพระธาตุพนมแทน(สาธุ!!!)

    ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีพ.ศ. ๒,๕๐๐ พระอินทราธิราชเจ้าจึงทรงมีโองการเทวราชให้พญานาคราชเจ้าทั้ง ๗ องค์นี้เสด็จมาประจำอยู่ที่พระธาตุพนมเพื่อทำหน้าที่ปกปักรักษาองค์พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองสืบแทนพวกเทวดาชุดเก่าต่อไปจนกว่าจะสิ้นพระศาสนาพระโคดม " พญาสัจจธัมมานาคราช ชี้แจง

    "
    เอ๊ะ... พระธาตุพนมจะพังลงมาจริงหรือนี่ "อาตมารู้สึกไม่สบายใจ



    " นับจากกึ่งพุทธกาลไปอีกสิบแปดปี (พ.ศ. 2518 ) พระธาตุพนมจะพังทลายลงมาเป็นไปตามกฎแห่งอนิจจังเป็นของไม่เที่ยงกาลเวลาย่อมจะเป็นเครื่องประหารหรือกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างเสมอแม้แต่ขุนเขาสูงเสียดฟ้าก็มีวันจะถล่มทลายลงได้ด้วยอานุภาพของแผ่นดินไหว (อนุโมทนาสาธุ) พระธาตุพนมสร้างด้วยมือมนุษย์เคยทรุดโทรมปรักหักพังลงมาแล้วก็หลายครั้งแต่ครั้งนี้จะพังทลายย่อยยับไม่มีชิ้นดีไปตามอายุขัยความเก่าแก่ทรุดโทรมประกอบกับบ้านเมืองถึงกาลกลียุคด้วย พุทธศาสนิกชนแตกความสามัคคีกันผีนรกเปรตอสุรกายมาเกิดในโลกมนุษย์มาก พระสงฆ์องค์เจ้าในพระศาสนาแตกแยกกันมีโจรอาศัยผ้าเหลืองหากินมาก บ่อนทำลายพระศาสนาป่นปี้ยิ่งกว่าผีห่าหรือกระสือปล้นน่าเอน็จอนาถใจนัก เหตุวิบัติฉิบหายเหล่านี้ประกอบกันเข้าพอดีด้วย (เป๊ะ!!!ค่ะท่าน)ถือได้ว่ามีส่วนทำให้พระธาตุพนมจะพังทลายลงมา ถ้าไม่เชื่อพระคุณเจ้าคอยดูแล้วกัน "พญาสัจจธัมมานาคราชให้คำพยากรณ์ชวนให้สะดุ้งใจยิ่งนัก

    ถ้าเป็นดังที่โยมทำนายก็เป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะต้องโศกสลดใจอย่างใหญ่หลวงที่องค์พระธาตุพนมจะถล่มทลายลงมา " อาตมาพึมพำใจคอไม่สบาย "

     
  12. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    พญาสัจจธัมมานาคราชหัวเราะ
    "
    แต่กระผมกลับเห็นว่า เป็นเรื่องดีนะขอรับ ........

    " กระผมจะเอาชีวิตมัน ให้มันเป็นผีดิบเฝ้าแม่น้ำ "พญาสัจจธัมมานาคราชว่า

    "
    เอ๊ะ !...โยมหมายความว่ายังไง? " อาตมาถาม

    "
    โยมจะไม่ให้มันตายเสียทีเดียว จะให้มันมีชีวิตอยู่ครึ่งคน คือ เป็นอสุรกายในน้ำมีชีวิตแหวกว่ายไปมาอยู่ในแม่น้ำคอยเป็นยามรักษาการณ์ป้องกันคนชั่วไม่ให้รังแกทำลายสัตว์น้ำเวลานี้กระผมมีนักโทษดังที่ว่านี้อยู่แล้วสองสามคนร่างกายของมันจะเต็มไปด้วยเมือกปลา นัยน์ตาไม่กะพริบ ผมเผ้ายาวรุงรังว่ายไปว่ายมาอยู่ในลำแม่น้ำโขง วันดีคืนดีมันจะปรากฎกายขึ้นกลางแม่น้ำให้คนเห็นแต่พูดจาไม่ได้เพราะลิ้นไม่มีเหมือนปลา " พญานาคราชกล่าวฟังแล้วน่ากลัว

    "
    บาปกรรม จะไม่เป็นการลงโทษรุนแรงมากไปหน่อยหรือโยม " อาตมาว่า

    "
    นี่ยังฐานกรุณานะขอรับ อีกสามปีมันถึงจะพ้นโทษได้กลับเป็นมนุษย์อย่างเก่าไอ้ทหารสามสี่คนที่ทิดบุญโฮมพามาระเบิดปลาในแม่น้ำนั้นนะ กระผมเล่นงานมันถึงตายไปไปแล้ว " พญานาคพูดดุ ๆ

    "
    อาตมาขอบิณฑบาตชีวิตทิดบุญโฮมไว้สักครั้งไม่ได้หรือโยม " อาตมาขอความปราณี

    "
    กระผมรู้ล่วงหน้าแล้วว่า พระคุณเจ้ามาครั้งนี้ จะขอร้องเรื่องนี้แต่กระผมเห็นจะให้ไม่ได้ เพราะได้ตัดสินชีวิตทิดบุญโฮมไปแล้ว " พญานาคพูดเสียงหนัก

    "
    ถึงโยมจะได้ตัดสินไปแล้ว แต่ก็ย่อมจะลดหย่อนผ่อนโทษให้ได้ตามหลักเมตตาสัตว์ผู้ยาก ที่กระทำไปด้วยความโง่เขลาปัญญานี่นา "อาตมาติง

    พญาสัจจธัมมานาคราชถอนหายใจใหญ่
     
  13. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    " กระผมไม่อยากจะละเมิดสัจจะตัวเองวาจาของกระผมถือเป็นวาจาสิทธิ์ พูดอะไรออกไปแล้วก็คือ การพ่นพิษร้ายออกไปจะทำลายพิษนั้นไม่ได้ เอาคืนกลับมาไม่ได้ "

    "
    แต่มันต้องมีเหตุผลที่จะถอนคำพูดได้ ถอนพิษร้ายได้ พิษพญานาคนั้น อาตมารู้ดีว่าร้ายแรงยิ่งนัก แต่ก็ย่อมจะมีทางแก้ได้ "อาตมาพูดโดยเร็ว

    พญานาคราชเจ้าถอนใจอีกทำท่าครุ่นคิดหนัก

    อาตมาพูดต่อไปว่า

    "
    ถ้าโยมปล่อยตัวทิดบุญโฮมในครั้งนี้อาตมาจะให้มันบวชพระอุทิศกุศลผลบุญให้โยมและสัตว์ในแม่น้ำที่มันเคยฆ่าทำลายมาแล้วหรือจะให้ทำอะไรก็ได้ ที่โยมคิดเห็นว่าสมควรจะกระทำ "

    "
    จะให้มันบวชพระงั้นหรือขอรับ ? " พญานาคพึมพำ

    "
    ถูกแล้ว " อาตมารับคำ

    "
    บวชพระแล้วก็ยังไม่พอที่จะไถ่โทษมันได้ " พญานาคราชเจ้าบอก

    "
    แล้วจะให้ทำยังไง "อาตมาจนด้วยเกล้า

    พญาสัจจธัมมานาคราชนิ่งคิดอยู่ครู่แล้วตอบว่า

    "
    จะต้องแก้เคล็ดด้วยการสร้างปราสาทผึ้งไปบูชาองค์พระธาตุพนม และพระธาตุเชิงชุมแล้วเอาปลาไหลเป็น ๆ ร้อยแปดตัวไปปล่อยลงแม่น้ำโขงเพื่อให้ดูดพิษพญานาคที่ลั่นสัจวาจาไว้ว่าจงลงโทษทิดบุญโฮมมันอีกอย่างให้สร้างรูปหุ่นหมู่บ้านขึ้นหลายหลัง และหุ่นรูปคนแล้วเผาไฟเป็นการแก้เคล็ด เพราะกระผมได้ประกาศวาจาสิทธิ์ออกไปแล้วว่าจะฆ่าผู้คนทั้งหมู่บ้าน จะให้น้ำท่วมบ้านให้ไฟไหม้บ้านพวกมัน "

    "
    ได้...อาตมาจะจัดการเอง "อาตมาให้คำรับรองอย่างปิติยินดี

    พญาสัจจธัมมานาคราชยิ้มแย้มแจ่มใส

    "
    พระคุณเจ้าเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม น่าสรรเสริญ กระผมขออนุโมทนา เรื่องทิดบุญโฮมขอให้หายห่วงได้แล้ว คืนนี้กระผมจะส่งมันกลับจนถึงบ้านถึงช่องเอง "

    "
    แล้วเรื่องท้องไส้มันบวมเหมือนคนท้องมาน ก็จะหายด้วยใช่ไหม " อาตมาถาม

    พญานาคหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
     
  14. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    " ขอรับ หายแน่ทิดบุญโฮมจะสบายดีทุกอย่าง พระคุณเจ้าอย่าได้วิตกไปเลยไข่ประหลาดที่มันเก็บได้เอาไปต้มกินจนท้องบวมเกิดอาการร้อนในดิ้นทุรนทุรายนั้นเป็นไข่ของนางพญานาคมเหสีของกระผมเองเมื่อกินเข้าไปแล้วก็มีพิษร้ายแรงถึงตายได้ทันที แต่กระผมไม่ยอมให้ทิดบุญโฮมตายง่ายๆ ต้องการทรมานมัน "

    " อ้อ...นี่โยมมีมเหสีีด้วยหรือ ? " อาตแปลกใจมองไปรอบ ๆ เมื่อมองหาพญานาคอีกองค์ที่เป็นมเหสี

    " มเหสีของกระผมเขาไม่อยู่ขอรับ " พญานาครีบบอกยิ้ม ๆ " เขาไปจำศีลบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่หนองหารหลวง

    "เอ๊ะ...ที่หนองหารสกลนครมีถ้ำพญานาคด้วยหรือโยม " อาตมาถาม


    " เอ๊ะ... ที่หนองหาร สกลนครมีถ้ำพญานาคด้วยหรือโยม " อาตมาถาม

    " มีขอรับมีมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว หนองหารเป็นห้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์มีพญานาคสิงสถิตย์ใครจะลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ ( แน่นอนค่ะ ลบหลู่ไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหนก็ตามที่มีท่านอยู่ ขนาดคนยังไม่ชอบเลยอิอิ การดูถูกการถูกลบหลู่นี่ ) ตามตำนานผาแดง - นางไอ่ ที่ว่าไว้เรื่องพญานาคนั้นมีมูลความจริงแต่เป็นความจริงที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยนิยายปรำปราแต่งเติมเสริมแต่งแก่นแท้ไว้ถ้าพญานาคไม่ได้อยู่ในหนองหารเสียทีเดียวปากถ้ำอยู่ในหนองหารแต่เมืองบาดาลอีกเมืองหนึ่งนั้นอยู่ลึกเข้ามาอยู่ใต้องค์พระธาตุพนมมีอุโมงค์ถ้ำจากหนองหารทะลุออกแม่น้ำโขงหลายทางคล้ายถนนสายใหญ่เชื่อมโยงถึงกันอุโมงสายหนึ่งกว้างใหญ่มากขึ้นไปถึงแม่น้ำน่าน จะเรียกว่าเป็นแม่น้ำใต้บาดาลก็ได้เป็นถนนของเมืองใต้บาดาลก็ได้ เมืองใต้บาดาลของนาคนี้พิสดารยิ่งนักมีสายน้ำใต้บาดาลโยงใยถึงกันทั่วไปหมดถ้าพระคุณเจ้าสนใจอยากจะรู้อยากจะเห็นกระผมก็จะพาไปท่องเที่ยวดู "พญาสัจจธัมมานาคราชกล่าว

    อาตมาปฏิเสธพญานาคที่ชวนให้ไปเที่ยวเมืองใต้บาดาลเพราะเป็นห่วงทิดบุญโฮมที่ยังไม่พ้นอันตรายประกอบกับญาติโยมชาวบ้านที่เฝ้าคอยอยู่บนฝั่งจะกระวนกระวายใจเป็นห่วงอาตมาที่หายลงมาในน้ำอย่างพิสดารอาตมาควรจะรีบกลับไปพบชาวบ้านเพื่อบอกกล่าวเรื่องทิดบุญโฮมให้พวเขาคลายใจไม่ต้องวิตกเป็นทุกข์ให้มากไปยังไงทิดบุญโฮมก็จะต้องรอดชีวิตกลับบ้านได้แน่

    สนทนาสัมโมทนียกถาอยู่กับพญานาคพอสมควรแก่กาลเวลาอาตมาก็ลากลับ พญานาคก็ให้คำมั่นรับรองว่าจะส่งทิดบุญโฮมกลับบ้านในตอนกลางคืนแน่นอนขอให้อาตมาและชาวบ้านจงสบายใจได้



    อาตมาขอเล่ารวบรัดเลยก็แล้วกันว่า ทิดบุญโฮมได้กลับบ้านในคืนนั้นจริงๆพญานาครักษาสัจจวามาจาทุกอย่างทิดบุญโฮมกลับมาบ้านเป็นปกติดีไม่มีเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร เสียแต่ว่าจำอะไรไม่ได้บอกไม่ได้ว่าเขาหายไปไหนมา และตัวเองเป็นอะไรลักษณะคล้ายคนถูกผีเข้าเจ้าทรงนั้นแหละเมื่อผีออกจากร่างแล้วคนทรงก็จำความอะไรไม่ได้


     
  15. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ต่อมาทิดบุญโฮมก็อุปสมบทอุทิศกุศลผลบุญให้พญานาคและสรรพสัตว์ในแม่น้ำจากนั้นก็สร้างปราสาทผึ้งบูชาพระธาตุพนมและพระธาตุเชิงชุม รวมทั้งปล่อยปลาไหล ๑๐๘ตัว และสร้างหมู่บ้านจำลองสร้างรูปคนจำลองพอเป็นพิธีเผาแก้เคล็ดตามที่พญานาคแนะนำนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาชาวบ้านก็อยู่เย็นเป็นสุข ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลทำนาข้าวกล้าได้ผลดีได้ข่าวเต็มฉางกันทั่วหน้า ทิดบุญโฮมบวชจนครบพรรษาจึงสึกออกมาอาตมาจำพรรษาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ตามคำอาราธนาของศรัทธาชาวบ้านทุกวันพระในตอนดึกสงัดพญานาคจะพาบริวารขึ้นมาจากเมืองบาดาลมาขอฟังเทศน์จากอาตมาเป็นประจำอาตมาก็เทศน์โปรดด้วยความยินดีเป็นการเทศน์ทางกระแสจิตที่รับรู้กันด้วยวิถีจิต

    การเทศน์โปรดพวกนาคนี้อาตมาเทศน์ในหัวข้อธรรมเรื่องเวียนว่ายตายเกิดโดยเฉพาะชี้ให้พวกเขาเห็นว่าถึงแม้จะเป็นเทวดามีฤทธิ์ แต่ก็ยังไม่สิ้นกรรมอย่ามัวหลงระเริงสุขใจ ดีใจเสพย์สมแต่ความสุขอันเป็นทิพย์อยู่เลยพวกเทวดาเมื่อหมดบุญแล้วก็ลงไปตกนรกได้เหมือนกันหรือไม่ก็ไปเกิดเป็นอสุรกายเป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉานตามกรรมที่ตนเคยสร้างไว้ในภพชาติก่อน ๆปรากฎว่าพวกนาคเทวดาทั้งหลายมีความพอใจเลื่อมใสในธรรมะที่อาตมาเทศน์โปรดมากต่างก็พากันตั้งอกตั้งใจประพฤติธรรมรักษาศีลเพื่อที่จะเลื่อนภพเลื่อนภูมิตัวเองให้สูงขึ้นที่เคยทำบาปก็ละบาป เพราะไม่อยากเกิดในอบายภูมิหรือภูมิชั้นต่ำเมื่อถึงคราวสิ้นบุญความเป็นเทวดา (พวกพญานาคเป็นเทวดาภูมิหนึ่งไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลาน)

    เรื่องการผจญภัยของพระธุดงค์ ตอน ไข่พญานาค ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านและที่สำคัญสุดคือผู้เขียนเรื่องนี้และพระธุดงค์เจ้าของเรื่องเล่ามหัศจรรย์หากมีวาสนาและโอกาส คงได้ไปกล่าวสวัสดีคุณผู้เขียน และ กราบนมัสการพระคุณเจ้างามขออนุโมทนาสาธุ...


    ******************************************

    ขอขอบพระคุณเรื่องเล่าดีๆจาก www.payanak77.com ค่ะ :cool:

    จบแล้วจ้าาาาา โอ้ววว ยาวเหมือนกันแฮะ ... อิอิcatt7
     
  16. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229

    น้องฟ้ามุ่ย ..เก่งจังค่ะแต่ว่า..เวปที่นำมาลง ดูคุ้นๆนะคะ อิ อิ
     
  17. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440

    แหะๆ... ไม่ทราบเจ้าค่ะ ฟ้ามุ่ยหลงทาง เดินไปเดินมา ไปเจ๊อะ บ้านอีกหลัง

    บางบ้าน ก็เห็นท่านพี่รั้งอยู่ด้วยนะเออ... :cool:

    แต่ก็ได้แค่แอบดู แอบส่อง แล้วถอยมาเงียบๆค่ะ 5555+
     
  18. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229

    ไม่เป็นไรจ้า ..แต่แอบดีใจที่น้องฟ้ามุ่ยไปเยี่ยมเยือนถึงถิ่น

    ที่ไหน เกี่ยวกับเพชร หรือ พญานาค พี่ก็มักฝังตัวอยู่แถวๆนั้นค่ะ...

    ยังมีอีกนะคะ ..เดี๋ยวก็เจอค่ะ...
     
  19. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    catt15 รอจนเหนื่อย ... นิทานไม่มาสักทีหนอ
     
  20. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440

    ทุกเวป ท่านพี่รั้งจะใช้ชื่อนี้ huten และดอกไม้ดอกนี้ ฟ้ามุ่ยเห็นก็จำได้ค่ะ

    เห็นหลายบ้านอยู่เหมือนกัน แหม... พี่รั้งไม่บอก ไม่รู้เลยนะคะเนี่ย

    ว่าไปเยี่ยมถึงถิ่น อิอิ :cool: .... แหม ดีใจจัง

    ****************

    พอพี่รั้งว่า เดี๋ยวก็เจอ ... ก็เจอเลยทันทีค่ะ สุดยอดจริงๆจ้า :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...