จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ขออนุโมทนากับวิธีการสร้างบ้านแบบยังยืน สาธุครับ

    บ้านที่แข็งแรงมีอะไรมากระทบก็ไม่สะเทือน ไม่หวั่นไหว
     
  2. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณเอิ้นด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
    ตอนนี้มีจิตบุญ 35 ดวงแล้วมีอย่างต่อเนื่อง น่ายินดีอย่างยิ่ง จะรออนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 36 คะ สาธุสักล้านๆครั้งคะ
     
  3. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    พรุ่งนี้จะมาตอบการบ้านให้นะคะคุณริน

    ง่า พี่ภูตื่นแล้ว งั้นหนูก็ราตรีสวัสดิ์
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีและยินดีต้อนรับเข้าสู่กระทู้อันแสนจะอบอุ่นนี้นะครับ
    ขอโทษที่ตอบช้าไป และโมทนาในการเจริญสติภาวนาของคุณ
    ผมชอบนามแฝงคุณจัง นารีมีธรรม&บุรุษไร้ธรรม...
    คุณทำสมาธิได้ถูกต้อง คือ ปราศจากนิวรณ์5 มารบกวน
    โดยปกติทั่วไป ผู้ที่ทำสมาธิได้ถูกต้องนั้นจะหมายถึง ในขณะปฎิบัติที่จิตจะรวม จิตจะนิ่งดิ่งลึก จิตจะเข้าถึงความสงบสงัดได้นั้น
    อารมณ์จิตจะต้องปราศจากนิวรณ์5มารบกวน จิตจึงจะเป็นสมาธิ หรือ จิตจึงจะเข้าสู่ระดับฌาน
    และผล/อานิสงส์ของผู้ที่ทำสมาธินั้น ก็คือ ความสุข ซึ่งเกิดขึ้นในขณะ/หลังการทำสมาธิเสร็จแล้ว หรือ จิตเข้าสู่ความนิ่ง ความสงบ

    ตามที่คุณบอกเล่ามานี้ เขาเรียกว่า อุปจารสมาธิ(อาการเฉียดฌาน)
    คือ จิตได้เข้าสู่เขตแดนแห่งปิติ ส่วนความรู้สึก/การรับรู้ต่างยังดำเนินเป็นไปปกติ แต่ไม่รำคาญ
    และในขณะเดียวกัน เมื่อคุณไม่ได้สนใจ/จิตละสิ่งต่าง/ และมีสติจดจ่ออยู่ที่จิตอย่างเดียว จิตคุณจึงยกสูงขึ้นไปโดยอัตโนมัติเอง ก็คือ
    อัปปานาสมาธิ(จิตเข้าสู่ระดับฌานตั้งแต่ฌาน๑ เป็นต้นไป)
    เมื่อจิตเธอเข้าสู่ระดับอัปปนาสมาธิ(ฌาน) ส่วนความรู้สึก/ความรับรู้สิ่งต่างๆนั้นจะลดน้อยลงไปตามกำลังฌาน(ฌาน๑-๓)
    และลดน้อยมากไปจนถึงไม่สามารถไปรับรู้/ความรู้สึกเรื่องใดๆได้อีกต่อไป เพราะระบบประสาทจะแยก/ตัดขาดออกจากกันระหว่างกายกับจิตชั่วคราว(ฌาน๔เป็นต้นไป อาการหูดับ) จนกว่าฌานถอย/เสื่อม ความรู้สึก หรือ การรับรู้ก็จะเป็นไปตามปกติ
    เมื่อจิตเข้าสู่ความสงบมากตั้งแต่ฌาน๔ อาการของจิตจะเป็นทิพย์ ก็คือ จิตเขาจะไปรับรู้สิ่งต่างๆในโลกทิพย์ของเขาเองโดยอัตโนมัติ
    และอาการ/อารมณ์ของจิตนั้นจะแสดงออกมาในทางนิมิต และจิตจะรับรู้สิ่งต่างๆมาจากหูทิพย์ ตาทิพย์ ฤทธิ์ทางใจ
    ได้แก่ บางคนเห็นเป็นภาพได้ชัดเจน(ทิพยจักษุ)
    บางคนได้ยินเสียงสวดมนต์จากสวรรค์ชั้นที่๓(ยามา)หรืออาจจะได้ยินเสียงสัตว์พูดกันบ้าง(ทิพยโสต)
    บางคนจิตไปรับรู้เรื่องราวต่างๆ(ญาณต่างๆ) หรือ การหยั่งรู้วาระจิตคนอื่น(เจโตปริยญาณ) เป็นต้น

    ขอเตือนสำหรับผู้ปฎิบัติ เพื่อความหลุดพ้น หรือ เพื่อพระนิพพาน
    ขอให้พวกเราพากันละเสีย อย่าไปสนใจ อย่าให้ความสำคัญ เพราะถ้าสนใจ/ให้ความสำคัญ จิตจะไม่เป็นสมาธิ หรือ จิตจะไม่เข้าฌาน
    แต่ถ้าไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ โดยมีสติจดจ่ออยู่ที่จิตฝ่ายเดียว จิตเขาจะยกขั้นไปตามลำดับฌานโดยอัตโนมัติได้โดยธรรมชาติ) ตั้งแต่...
    การทำสมาธิเบื้องต้น(ขณิกสมาธิ) ก็คือ นิวรณ์5
    การทำสมาธิเบื้องปาน(อุปจารสมาธิ) ก็คือ ปิติ5
    การทำสมาธิเบื้องสูง(อัปปนาสมาธิ) ก็คือ นิมิตต่างๆ หลังจากจิตเข้าสู่ระดับฌานสูง(ฌาน๔)เป็นต้นไป ที่เราสามารถไปรับรู้มาจากตา/หู/จิต

    *เพิ่มเติม*
    สมาธิมี ๓ ประเภท ได้แก่
    ๑.ขณิกสมาธิ(สมาธิเล็กน้อย หรือสมาธิคนทั่วๆไป) ถือเป็นสมาธิระดับต้น
    ๒.อุปจารสมาธิ(เฉียดฌาน หรือก่อนฌาน) เป็นสมาธิระดับกลาง ผู้ปฎิบัติจะได้รับความสุขจากปิติ
    ๓.อัปปนาสมาธิ(ตั้งแต่ฌาน๑ เป็นต้นไป) เป็นสมาธิระดับสูง ผู้ปฎิบัติจะได้อานิงสงค์จากสมาธิ ก็คือ ความสุขจากฌาน
    ความสุขจากฌาน(ติดสุขจากฌาน) ตรงนี้นี่แหล่ะ! ที่นักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติธรรมกันมาก บางคนติดเป็นปี สองปี หรือมากกว่านั้น
    แต่จะจิตจะออกตรงนี้กันได้ จะต้องอาศัยสติปัญญาของตนเองเท่านั้น เพราะคนอื่นๆบอกเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อฟัง
    หรือจะต้องสร้างสติให้มาก+ต่อเนื่อง จิตจึงจะหลุดพ้นกันตรงนี้ ภาษาคนวงในเขาเรียกกันว่า อาหารหวานสำหรับนักภาวนา
    สรุปแล้ว นักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติธรรม จะต้องแวะกันตรงนี้ทุกคนไป
    (ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง นิวรณ์5 ปิติ5 องค์ฌาน5)

    สำหรับสมาธิขั้นสูงสุดของพระพุทธศาสนาของพวกเรา ก็คือ
    "สัญญาเวทยิตนิโรธ หรือ นิโรธสมาบัติ"
    หมายความว่า การเข้าถึงความดับสัญญา(ความจำ)กับเวทนา(ความรับรู้อารมณ์หรือความรู้สึกต่างๆ)

    คำถามสำหรับคุณนารีมีธรรม (มีธรรมจริงหรือ?)
    คุณปฎิบัติกรรมฐานหรือเจริญสติภาวนา(ทำสมาธิ) เพื่ออะไร?

    1.ชอบทำสมาธิเฉยๆ อยากรู้ อยากเห็น ไม่ได้จริงจังอะไร
    2.อยากได้ฤทธิ์เดช/ฤทธิ์ทางใจ/อภิญญา ไม่ได้เพื่อความหลุดพ้น
    3.อยากเข้าถึงกระแสจิตและกระแสธรรม เพื่อความหลุดพ้น
    หรือพ้นจากทุกข์ถาวร/พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
    (พ้นจากภัยสังสารวัฏ)

    แต่กระทู้นี้พวกเราเน้นการปฎิบัติจิตเกาะพระ เพื่อพระนิพพาน
    คือ มีเป้าหมาย ปลายทางสุดท้ายชัดเจน ก็คือ พระนิพพาน
    ส่วนผู้ปฎิบัติจะไปถึงหรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่ความเพียร+ความต่อเนื่องของผู้ปฎิบัติเอง
    แต่ถ้าผู้ปฎิบัติไปไม่ถึงนิพพาน จิตก็อาจจะตกที่มรรค/ผล หรือสวรรค์/พรหม แต่ก็ยังดีกว่ามากผู้ที่ไม่ได้ฝึกจิตเลย
    สำหรับผู้ที่ไม่ได้ฝึกจิต ก็มีโอกาสเสี่ยงสูงมาก ที่จิตอาจจะตกไปอยู่ในแดน อบายภูมิ นรกภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 สิงหาคม 2012
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีครับคุณkingkaewmath
    มาแล้วหรอ? ผมเป็นคนแนะนำเธอให้มาที่นี่เอง
    เห็นเธอเป็นครู สงสารเธอ เมตตาเธอ เมตตาเด็กๆนักเรียน
    คนในกระทู้นี้เขากำลังทำอะไรกัน ผมอยากแนะให้เธอมาทำจิตเกาะพระ
    เผื่อครูจะได้หายจากอาการที่เป็นอยู่
    ผมลืมถามเรื่องศีล5 รักาษาครบไหม๊?

    นี่แหล่ะ! คุณครูจะเป็นตัวอย่างสำหรับผู้ปฎิบัติ หรือผู้เจริญสติภาวนา(ทำสมาธิ)ผิดประเภท
    คือปฎิบัติไม่ถูกหลัก+ไม่เข้าใจ
    เพราะพวกเราอย่าลืมนะว่า กรรมฐานหรือพระธรรมของพระพุทธเจ้า
    ท่านมีไว้ให้กับพวกเราปฎิบัติ เพื่อมรรค ผล นิพพาน
    แต่บางท่านนำไปปฎิบัติ ประพฤติผิด ก็คือ นำไปหาฤทธิ์ หาเดช หาอภิญญากัน หรือ
    ทำสมาธิเพื่อหวังผลอย่างอื่นๆ ที่มิใช่เพื่อความหลุดพ้น
    แต่ถ้าใครไม่ปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น นั่นท่านกำลังปฎิบัติเพื่อความโลภ
    มีแต่จะเพิ่มกิเลส เพิ่มอัตตา เพิ่มมานะของตนมากยิ่งขึ้นไปอีก
    และจิตก็จะตกไปอยู่แดนอบายภูมิ นรกภูมิโดยไม่รู้ตัว
    หนทางนั้นไม่ใช่หนทางของผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ไม่ใช่หนทางของผู้ประเสริฐ หรืออริยบุคคล
    เพราะด้วยจิตเป็นมิจฉาทิฎฐิ(ความเห็นผิด)ตั้งแต่แรก

    สำหรับผู้ไม่ยอมปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    ผมถือว่า ผู้นั้นมีจิตเป็นมิจฉาทิฎฐิทั้งหมด คือผู้ที่ไม่ประพฤติ ไม่ปฎิบัติ ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    เพราะไม่ได้ปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงสงค์ของพระพุทธศาสนา
    กรรมฐานมีไว้เพื่อทำจิตนิ่งสงบสงัดจากนิวรณ์5 หรือจิตที่เป็นฝ่ายอกุศล หรือฝ่ายบาป นั่นเอง
    กรรมฐานแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สมถะกับวิปัสสนา
    สมถะมีเพื่อทำให้จิตพบกับความสุข ความสงบสงัดเพียงชั่วคราว
    แต่ถ้าฌานถอย/เสื่อมเมื่อไหร่ เราก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม
    สำหรับผู้ที่ติดสุขจากฌาน หรือ ผู้ที่ชอบ/หลงฤทธิ์ทางใจ จิตก็จะไม่พัฒนา/ไม่เจริญถึงขีดสูงสุดกันได้ ก็เพราะว่า
    ไม่ได้นำฤทธิ์(พลังจิต)ที่ได้นั้นไปเพื่อ ละ/ดับ/ตัด/ฆ่ากิเลสอันละเอียดของตนเอง
    แต่จะนำไปเพื่อสร้างอัตตา ตัวตน มานะเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก
    คราวนี้ไม่ให้ผู้ปฎิบัติเป็นบ้า/เพี้ยน/หลุด ก็ให้มันรู้ไป นี่คือ ทางมืดจำไว้!
    แต่วิปัสสนานั้น มีไว้เพื่อความหลุดพ้น นี่คือ ทางสว่างจำไว้!

    แต่ผมอยากให้เธอไปขอขมาต่อพระรัตนตรัย โดยเฉพาะพระพุทธเจ้า
    ท่านมีพระธรรม หรือ คำสั่ง เพื่อให้พวกเราเข้าไปถึงหลักธรรม(พระธรรม)
    เพื่อเข้าถึงหลักสัจจธรรม หรือความเป็นจริงของชีวิตที่พวกเราเกิดกันนี้
    เพื่อหนทางความสว่าง หรือรู้แจ้งในธรรมนั้น(สิ่งที่มากระทบจิตนั้น)
    เพราะปกติจิตมนุษย์มิได้อยู่นิ่งเฉย คือจะไปทำอยู่สองประการก็คือ บุญหรือบาป
    แต่ถ้าผู้ฝึกจิตมาดี จิตจะมีลักษณะเป็นจิตปัญญา หรือจิตวิปัสสนา(พิจารณาธรรมนั้นๆ)
    จิตถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปรับรู้สิ่งต่างๆด้วยความเป็นจริง
    แต่ผู้ที่ไม่ยอมฝึกจิตนั้น จิตก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำ ก็คือ กิเลส
    อันนี้ถือว่าเป็นฝ่ายบาป ฝ่ายอกุศล
    อันนี้คือทางมืด ซึ่งมีอบายภูมิเป็นที่ไป/จุติจิตสุดท้าย

    *ผมไม่ทราบว่าเธอจะเข้ามาที่กระทู้นี้อีกไหม๊?
    เพราะสงสารเธอ เมตตาเธอ
    เห็นเธอเป็นครูด้วย เมื่อจิตครูไม่ปกติแล้วจะไปสอนนร.ได้ยังไง
    แต่ถ้าใครอยากโปรดเธอ สงสารเธอ เมตตาเธอก็ไปชักชวนเธอมาปฎิบัติจิตเกาะพระกันนะ
    แต่ผมหมดหน้าที่แล้ว แต่ถ้าเขาไม่สนใจ ผมก็นำจิตตนเองเข้าอุเบกขา...

    เรื่องจิตนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สุด ผมจะยกย่องเรื่องจิตสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด แต่ผู้ที่ยังไม่มีดวงตาเห็นนั้น
    เขามักจะเห็นว่าร่างกาย หรืออุปาทาน เช่นคนที่เรารัก)สำคัญกว่าจิตของตนเอง
    นี่ไงพวกเราถึงได้เป็นทุกข์ ก็เป็นจริงดังนั้น สำหรับผู้ที่อยากออกทุกข์นั้น
    จักต้องละร่างกาย(ขันธ์5)เป็นอันดับแรกให้ได้ก่อน ถึงค่อยไปละอย่างอื่น
    หรือละกิเลสหยาบก่อน(อัตาตัวตนคือร่างกาย) แล้วจึงไปละกิเลสละเอียด(มานะ)
    พวกเราอย่าเป็นผู้อวดรู้ มีความรู้สูงทางโลก แต่เอาตัวไม่รอด ก็ไม่ถือว่าเก่งจริง สำหรับผมถือว่าคนเก่งจริง
    จะต้องเป็นผู้ที่มีปัญญาทางธรรม มิใช่ทางโลก เพราะตราบใดที่ใครยังครองขันธ5 อยู่ ผมถือว่า หลงหมด
    พวกเราจะไม่ว่าจะก่อนหรือหลังตาย ก็อย่าหลง ให้พวกเรารีบฝึกฝนจิต
    ฝึกจิตใจให้สูงขึ้นยิ่งไป เพราะโลกอันใกล้นี้ จะมีแต่ผู้ทรงศีล ผู้ทรงธรรม
    ท่านเคยได้ยินกันไหม๊ว่า โลกหลังภัยพิบัตินี้ จะมีผู้รอดจากภัยพิบัตินี้ก็คือ พวกที่มีศีล มีธรรมอยู่ประจำใจ
    โชคดี

    นี่คือกระทู้คุณ kingkaewmath
    เมื่อข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคจิตเภท(คนบ้า)
    http://palungjit.org/threads/เมื่อข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคจิตเภท-คนบ้า.351869/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 สิงหาคม 2012
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนา สาธุๆสักล้านครั้ง
    โฮ๊ะๆ มันอะไรกัน จิตนะ ไม่ใช่ขนมครก
    เอ่อลืมไปว่ามีจิตพร้อมยกรออยู่อีกจำนวนหนึ่ง
    นี่คงจะเป็นอานิสงส์จากจิตยกของคุณหมอแน่ๆเลย ถึงได้ยกตามกันมาเพี๊ยบ หรือ
    คุณหมอไปยืนบังประตูพระนิพพาน? อิอิ..ล้อเล่น
     
  7. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917

    สาธุ สาูธุ โมทนาสาธุการคะ คุณเอิ้น
    จิตบุญดวงที่ 35 ขอให้เจริญในศีลในธรรมยิ่งๆขึ้นคะ
     
  8. savesafe

    savesafe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +442
    โมทนาสาธุกับจิตบุญดวงที่ ๓๕ด้วยครับกระผม สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917
    วันนี้ 12 สิงหาคม วันแม่



    [​IMG]




    [​IMG]


    เช้านี้ได้กราบเท้าขอขมาและบูชาพระคุณแม่และมอบมาลัยดอกมะลิให้แม่คะ
    ทุกท่านมีแม่กันทุกคนแต่จะมีสักกี่คนที่ได้กราบเท้าขอขมาท่าน

    ขอให้ทุกท่านได้ใช้โอกาสนี้ได้กราบขอขมาแม่ในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน
    หรือทำให้แม่ต้องเสียใจ ทุกข์ใจ ทุกข์กาย
    อาจจะมีหลายท่านเคยคิดอยากจะทำ
    แต่เขินอาย ไม่กล้า เพราะไม่เคยทำมาก่อน
    ขอให้ท่านรวบรวมกำลังใจและตัดสินใจใช้โอกาสนี้ได้กราบเท้าขอขมาแม่เสียก่อนที่จะไม่มีโอกาสเพราะชีวิตไม่แน่นอน (ความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน)
    แม่มีพระคุณกับลูกเป็นผู้ให้กำเนิด ผู้ให้ชีวิต ให้การเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน
    ให้เราเติบโตมา ให้ความรัก ความอบอุ่น ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับลูก

    ดังนั้นการกราบเท้าขอขมาและบูชาพระคุณแม่
    จึงเป็นสิ่งที่ ลูกทุกคน ควรทำอย่างยิ่งในชีวิต

    ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยคุ้มครองคุณแม่ทุกท่าน ให้สุขกายสบายจิต
    มีลูกเป็นคนดีมีความกตัญญูทุกท่าน ทุกคนเทอญ
    และขอให้คุณแม่ทุกท่านมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด


    **กราบแม่ได้ทุกวัน ไม่เฉพาะแต่วันแม่เท่านั้นนะคะ เพราะพ่อแม่คือพระในบ้านของลูก**

    ;aa24 ;aa21
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    กําลังแนะนําเพื่อนที่NYให้ทํา"จิตเกาะพระ" ชิตังเม ชิตังเม
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    พิธีขอขมากรรมต่อคุณแม่ ผู้ให้กำเนิด​

    [​IMG]
    ขอขมากรรม
    ขออโหสิกรรมคุณแม่ผู้ให้กรรมเนิด
    ขอพรแม่ให้ชีวิตมีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง

    วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ
    ถือโอกาสนี้ กล่าวขอขมากรรมกับคุณพ่อ คุณแม่ในคราวเดียวกัน
    ชีวิตจะได้มีแต่ความสุข มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป
    การดำเนินชีวของตนจะไม่ต้องติดขัด โดยเฉพาะเจริญในธรรม จึงอยากแนะนำให้คุณได้ลองทำ
    โดยการนำพวงมาลัยเข้าไปกราบคุณพ่อและคุณแม่
    แล้วบอกว่า...

    "กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ที่ลูกได้เคยล่วงเกินพ่อแม่ทั้งในปัจจุบัน และอดีตชาติ หรือเคยล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ล่วงเกินต่อท่านผู้มีพระคุณ ท่านผู้มีบารมีทั้งหลายที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ลูกสำนึกผิดแล้ว ขอให้แม่อโหสิกรรมให้ลูกด้วย"

    ก็ให้คุณพ่อ คุณแม่กล่าวอโหสิกรรมให้ลูกด้วยนะ แล้วลูกก็เอาพวงมาลัยมอบให้แม่ แล้วก็กราบไปที่ปลายเท้าของแม่ จากนั้นก็ให้ลูกพนมมือแล้วกล่าวว่า...

    "ลูกขอตั้งจิตอุทิศบุญกุศลที่ลูกได้สร้าง ด้วยกำลังของลูก ให้เป็นบุญของแม่ ขอให้เป็นกำลังคุ้มครองแม่ ให้แม่อายุมั่นขวัญยืน สุขภาพร่างกายแข็งแรง"

    จากนั้น ก็ให้คุณแม่ให้พรลูกกลับมาด้วย

    "วันนี้คุณขอขมากรรมแม่หรือยัง ถ้ายัง วันพรุ่งนี้ก็ยังไม่สายนะครับ"

    ก็ขอให้บุญนี้จงสำเร็จ
     
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]
     
  13. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๓๖ และ ๓๗ ณ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๓๖

    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๓๗

    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ

    [​IMG]

     
  14. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    เช้านี้นั่งสมาธิ มีเรื่องขอขมาแว๊บเข้ามา เลยขอต่ออีกนิด


    ท่านที่ย้งไม่ไปขอขมาเพราะ น้อยใจ โกรธ ฯลฯ พ่อแม่อยู่ คิดดีๆ นะค่ะ ถ้าพ่อแม่ ท่านเอง ยังให้อภัยไม่ได้ แล้ว มรรค ผล นิพพาน จะหวังได้หรือ
    ถ้าลูกท่าน ทำอย่างนี้กับท่าน ท่านจะรุู้สึกอย่างไร

    เคยอ่านเจอคนที่ทะเลาะกับแม่ น้อยใจว่าแม่ลำเอียง พอไปขอขมาแม่ สถานการณ์ระหว่างเธอกับแม่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ


    ท่านที่ย้งไม่ไปขอขมา เพราะยากลำบากใจ ไม่คุ้น ในการเอ่ยปาก ตัวเองเคยเป็นมาก่อน โชคดีที่วันนั้น กำลังเดินไปเดินมา ลังเลใจในการหยิบโทรศัพท์ไปขอขมา ก็มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าพ่อของเพื่อนสนิทเสีย พอได้ยินปุ๊ปก็ตัดสินใจได้เลย


    โทรไปอวยพรวันแม่ตั้งแต่เมื่อคืน พร้อมกับบอกว่าบุญกุศลใดที่เราได้รับ ขอให้ท่านได้รับเท่ากับที่เราได้ แม่คงงง ทำไมช่วงนี้ให้อนุโมทนาบ่อยจัง แต่ก็อนุโมทนา พร้อมกับให้พรมามากมาย จิตยังอุเบกขาอยู่ แต่ก็ซาบซึ้งรับรู้ได้กับความรักของแม่


    ถ้าบทความนี้กระทบต่อท่านผู้ใด ก็ขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  15. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    จิตบุญดวงที่ 36 คุณศรี(นอกกระทู้) จิตบุญดวงที่ 37 คุณริน

    เชิญคุณรินรายงานตัวกับพ่อภูด่วนที่สุดค่ะ

    จิตบุญทั้งสององค์ได้บารมีของคุณแม่สุมาลีช่วยยกจิตในโลกทิพย์

    ท่านทั้งสองจึงจบกิจได้อย่างรวดเร็ว(หรือเปล่า) ฮ่าๆ

    คุณรินส่งการบ้านอารมณ์ใจปัจจุบันด้วยนะคะ

    ครูดัชยิ้มใหญ่เลย เพราะทั้งสององค์เป็นความหวังหนึ่งเดียวของครูดัช

    ถ้าท่านไม่ยกจิตครูดัชไปบำเพ็ญวัดแพร่เสียงเทียนไม่ได้เพราะหน้าที่ยังไม่จบ

    แต่ตอนนี้ทั้งสององค์ยกจิตขึ้นนิพพานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ครูดัชสบายใจได้ค่ะ

    ขออภัยจิตบุญทุกท่าน พี่เพ็ญส่งประวัติไม่ทัน เอาไว้ตามเล่าทีหลังก็แล้วกันนะ

    ยังเหลืออีก 4 องค์ เดี๋ยวหนูขอไปขุดหาหน่อไม้ เอ้ย ไปตามหาจิตอนาคามีก่อนนะ

    อีก 4 องค์เท่านั้น บ้านรากแก่นฯจงมา บ้านรากแก่นฯจงมา บ้านรากแก่นฯจงมา

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917

    สาธุ สาธุ สาธุ อภิโมทนาสาธุการกับจิตบุญดวงที่ ๓๖ ๓๗
    ยินดีกับท่านทั้ง2 ขอให้เจริญในศีลในธรรมยิ่งๆขึ้นคะ


    **รอจิตบุญดวงที่ ๓๘ ๓๙ ๔๐ ๔๑ ..................ฯลฯ ที่จะยกตามมา สาธุ**

    ;aa2
     
  17. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    ขออนุโมทนากัยจิตบุญ ดวงที่ 36, 37 และทุกๆดวงที่ยกแล้ว

    ขอความต่อเนื่องในการยกแบบนี้ จงมีไปเรื่อยๆก่อนเถิด พระพุทธเจ้าข้า

    ขอกราบสมเด็จองค์ปฐมและพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ด้วยเศียรเกล้า

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    สาธุ๊ อนุโมทนาบุญด้วยเป็นล้านครั้งเลยนะค่ะ น้องเอิ้น สาธุ กับจิตบุญดวงที่ 35 สาธุ๊:cool:
     
  19. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ลูกขอน้อมจิตกราบพระอรหันต์องค์แรกของลูกและพระอรหันต์องค์แรกของกลุ่มจิตบุญ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. กรรมบท 10

    กรรมบท 10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +237
    ขอโมทนาบุญกับคุณเอิ้น จิตบุญดวงที่ 35 และจิตบุญดวง ที่ 36, 37 ด้วยค่ะ สาธุ ๆๆๆๆๆๆ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...