เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

เพราะยังมีอีกหลายท่านที่อยากได้ แต่..ยังไง๊ ยังไงก็ไม่เข้าใจซะทีเฮ้อ..โดยเฉพาะคุณตะกั่วป่า อิ.. อิ แหมมันสะใจจริงๆ :'(ฮึ่ม!เดี๋ยวจะแก้ตัวใหม่ไม่ให้พลาดละคราวนี้ ต้องชนะบ้างซักครั้งล่ะน่าท่านอา:VO

 

ปูเสื่อรอติดตามเรื่องราวจากท่านtoplus99กันต่อครับ

 

ระหว่างปูสื่อรอ
ถ้าจะหาของว่างมานั่งแทะ เช่นข้าวโพดคั่ว หรือเคี้ยวหมึกย่าง
มาช่วยดับกลิ่นปากรอไปพลางๆก่อน ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

ว่างๆจังหวะงามๆจะมาอัพอีกครั้ง ช่วงนี้จะไปพบหลวงปู่ วัดบ้านนอกรูปหนึ่ง
สายข่าวแจ้งว่าเป็นช้างเผือกงาม ซ่อนในหมู่บ้าน แดนไกล

ชาวบ้านชาวช่อง แถบนั้นหรือแม้แต่พระในวัดด้วยกันยังไม่มีใครรู้
ถามได้..ตอบได้ กว้างไกลสุดสายตา

มีเหตุการณ์ใดน่าสนใจจะมาโม้..รายงานให้ฟังนะจ๊ะ
(ตอนนี้ค้างการบ้านแฟนคลับ...มาเพียบเลยเรา)

 

อย่างนั้นขอปักกรด รอเลยครับ ฮิฮิ
กลับมาอย่าลืมเล่าสู่กันฟังนะครับ

 

ถ้าจะปักกลดรอคงไม่อ่ะ อยากแบกกลดตามไปสักครั้งก็ยังดี หรือไม่ก็จัดทัวร์นกขมิ้นไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์ก็ได้ โอเคเนอะ

 

เย้.! เย้.! เย้.!.......มีเด็ดๆมาอีกแล้วครับทั่น...
(y)(y)(y)(f)(f)(f)

 

ก็ OK นะ....แต่ไม่ตกลง

ในพรรษานี้หลังจากงานฉลองวันแก่พระอาจารย์ท่านในสัปดาห์ที่ 2
ของเดือนหน้า ท่านจะเข้ากรรม ด้วยการ อธิษฐานปิดวาจา

ส่วนกำหนดการจะออกกรรมเมื่อไหร่ยังไม่ชัดเจน

คงมีโอกาสพบท่านได้น้อยลง

และถึงเจอได้ คงไม่มีเรื่องต้องพูดคุยกัน

เพราะเราจะเจอแต่กับ "พระใบ้ชั่วคราว"
อย่างน้อยก็ตลอดพรรษานี้แน่นอน

 

มาต่อเรื่องเมื่อพระอาจารย์ ...ผจญภัยจากเดอะสแกนเนอร์ ไฮโช...อีกหน่อยดีกว่า

ด้วยพลังความสามารถทางจิต ในขั้นที่สามารถทำร้ายแก่บุคคลอื่นๆได้ไม่ยากของกลุ่มคณะอดีตนักศึกษาพลังจิตจากต่างประเทศ ที่เข้าอุตส่าห์ฝ่าฟันเส้นทางบนถนนที่ลำบากกันดาร เข้ามาทดสอบกับพระอาจารย์ในยุคนั้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังเหตุการณ์นั้นเมื่อคณะทดสอบนี้ได้ขอลากลับ หลังจากได้ผลประจักษ์แล้วว่า....
พลังจิตของเขาเหล่านั้นไม่สามารถที่จะทำร้ายใดๆแก่พระป่าพระถ้ำรูปนี้ได้แล้ว....

ก่อนที่คณะดังกล่าวจะขึ้นรถลากลับเมืองกรุง ภายหลังได้ถูกแม่แอ๊ด ในชุดพราหมณ์ขณะนั้น ต่อว่าอย่างมากถึงพฤติกรรมของทีมนี้ ซึ่งเป็นคนที่ตนชักชวนให้มาสนทนาธรรมศึกษาวิธีการพัฒนาจิตกับพระอาจารย์ แต่เหตุการณ์ที่คนเหล่านี้กระทำกับผู้ที่แม่แอ๊ดให้ความเคารพศรัทธากับเลวร้ายกว่าที่ตนจะคาดฝัน

เพราะด้วยญาณรู้ของแม่แอ๊ดเองในขณะที่เกิดศึกประลองยุทธพลังจิต ก็ใช่ว่าจะกระจอกๆงอกง่อย หรือไม่รับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่งานนี้เหมือนตนจะทำการผิดพลาดไปเสียแล้ว แต่เนื่องจากคนเหล่านี้ได้ให้เหตุผลในครั้งแรกๆว่าอยากให้แนะนำครูบาอาจารย์พระสงฆ์ที่มีพลังจิตกล้าแข็งให้หน่อย พวกตนอยากไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ดังบทเพลงท่อนหนึ่งร้อง .....เมื่อรู้สึกตัวก็สาย...เสียแล้ว
<O</O
ก่อนที่ทีมนี้จะลากลับขึ้นรถเก๋งคันงามกลับ ได้ถูกแม่แอ๊ดกล่าวต่อว่าอย่างมากว่า

“นี่....ฉันอุตส่าห์หลงไว้ใจแนะนำมา...ไม่น่ามาทำกันแบบนี้เลยทำน่าเกลียดทุเรศที่สุด<O</O
หลังจากนี้หากเกิดเหตุการณ์ใดๆที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับคณะของพวกคุณ ฉันไม่ขอรับรู้ด้วยแต่อยากเตือนไว้อย่างว่า
อาถรรพ์ของพลังเทพเทวดาทั้งหลาย ที่เขารักษาศาสนา คุ้มครองรักษาสงฆ์ผู้ประพฤติธรรม เป็นกำลังของศาสนา โดยเฉพาะที่ถ้ำแห่งนี้เขาคงไม่ยอมให้พวกคุณง่ายๆหรอกนะ..
ยังไงๆถ้าพวกคุณเป็นคนไทยมีจิตสำนึกในการกระทำ พวกคุณก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
คุณเรียนแต่เรื่องพลังจิต รู้แต่เรื่องพลังของตนเองจากต่างประเทศ

แล้วเคยรู้เรื่องพลังเทพ พรหมเทวดาของพุทธเราบ้างไหม?
หากไม่อยากให้มันเลวร้ายไปกว่านี้ พวกคุณทำพานมากราบขอขมาอโหสิกรรมกับพระอาจารย์ท่านซะ เผื่อจะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้าง
ฉันขอเตือนด้วยความหวังดีนะ....อารมณ์เสียไปเถอะ ลาล่ะ “<O</O
ว่าแล้วแม่แอ๊ด ...ก็สะบัดหน้าขวับเดินจากคณะนี้ไป ...

ภายหลังจากนั้นอีกเกือบเดือน ไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดีร้ายประการหรือไม่อย่างไร สายข่าวไม่ได้แจ้งมา แต่กลุ่มคณะนี้ได้พร้อมใจกันเดินทางกลับมาที่สำนักสงฆ์ถ้ำแห่งนี้อีกครั้ง
เพื่อมาทำพิธีกราบขออโหสิกรรมต่อท่านพระอาจารย์

มีสิ่งใดดลใจหรือมีเหตุการ์ใด ที่ชวนให้เกิดขึ้นกับคนที่นับถือต่างศาสนาของคนกลุ่มนี้หรือเปล่า
ถึงได้พากันมาที่นี่อีกครั้ง
...และนี่คือคำถามคาใจของใครอีกหลายคน<O</O

 

ผมอยากจะไปกราบท่านภิกษุนิรนาม..(ข้อความที่ท่านเขียนในลิ้งค์)

รู้สึกว่าวัดท่านจะอยู่บริเวณ จ.สระบุรี แต่ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร

อยู่วัดไหนเหมือนกันครับ...คุณ toplus99 พอจะทราบมั๊ย..

http://www.dharma-gateway.com/misc/monk-secret-memoir-index-page.htm

 

คุณ toplus99 ครับ งานที่วัดเป็นวันเกิด ลพ. จัดวันที่ 8-9 กันยายน 2555 ใช่หรือไม่ครับ...
หรือวันที่ 9 วันเดียวครับ...​

 

แล้วจะ PMแจ้งกำหนดการให้ทราบนะครับ...

ขอบุญคุ้มครองรักษา..

 

สำหรับเรื่อง.. ภิกษุนิรนาม... เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมามากพอสมควร

ว่าเป็นเรื่องบันทึกเรื่องจริงจากประสบการณ์ของพระรูปนี้หรือไม่..
และยังไม่มีผู้สืบค้นยืนยันได้

หรือเรื่องนี้เป็นเพียง เรื่องที่ผู้แต่งที่มีปัญญาทางธรรม ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเองกันแน่...

toplus99 จึงสุดวิสัยที่จะตอบได้เช่นกัน

 

#ประสบการณ์การเสี่ยงทายทำนายโดยอัญเชิญองค์พ่อเข้าพระพุทรูป#

จากการเดินทางไปกราบหลวงปู่ วัย 70กว่าปี รูปหนึ่ง ในแถบ อ.สูงเนิน
พร้อมเพื่อนสหธรรมอีก 2คน ได้ใช้เวลาศึกษาและสนทนากับท่านร่วม 2 ชั่วโมง
วิธีการของหลวงปู่ท่านนี้ใช้วิธีการ อันเชิญพระพุทธรูปเนื้อทองเหลือง ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 3นิ้ว
(ดูๆไปก็เป็นพระเนื้อทองเหลืองใหม่ๆทั่วไป ที่ชาวบ้านนิยมนำมาถวายพระเพื่อแก้ดวงเสริมชะตา ประเภทนั้น)
จากนั้นก็นำถาดสังกะสีลายดอกไม้ ขนาดย่อมๆที่นิยมใช้ในวัดทั่วไป นำผ้าเช็ดหน้าสีขาวมาปูราดรองพระพุทธรูปวางลงในถาด
เสร็จแล้วท่านก็ไหว้พระสวดบท อัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้า เป็นภาษาไทย ให้ช่วยทำนายบอกดวงชะตาชีวิต หรือตอบข้อสงสัยอื่นๆแก่ผู้ต้องการถาม....

วิธีการคือการอธิษฐานเสี่ยงทายยกถาดสังกะสี ที่มีองค์พระทองเหลืองวางอยู่
- บัดนี้ถ้าพระญาณขององค์พ่อได้มาสถิตอยู่ในองค์พระนี้แล้ว...ขอให้ถาดนี้ยกไม่ขึ้น /ถ้ายัง...ขอให้ยกขึ้น
ผลคือ ท่านยกไม่ขึ้น ...(แสดงว่า...มาแล้ว)

การยกถาดนี้ดูลักษณะแล้วเหมือน ราวกับมีแม่เหล็กขนาดใหญ่พลังแรงสูง คอยดูดถาดสังกะสีนั้นยึดติดแน่นกับพื้นด้วยแรงมหาศาล ดูจากกล้ามแขนขึ้นปูด และลักษณะขอบถาดตอนที่ยกก็ล่อเอาซะ ขอบถาดสองด้านมือจับอยู่ ยุบยู่.. เอียงเข้าหากันไปเลย
โอ้โห น่าแปลก แฮะ!

“หลวงปู่ผมขอลองยกดูหน่อยได้มั๊ย? แบบนี้มันต้องพิสูจน์เองซะแล้ว

“ได้สิ ลองบารมีกันดู...”
ผลจากนั้น คือยกถาดแล้วเบาหวิว ไม่ว่าจะอธิษฐานสลับคำถามอย่างไร...ก็เบาหวิว
ไหนลองคนอื่นซิ.... อย่างไรผลก็คือเบาหวิว เช่นกัน อะไรนี่?

ตกลงคือคนสามารถที่จะอธิษฐานเสี่ยงทายสอบถาม และยกถาดนี้ ทำได้มีเพียงหลวงปู่องค์เดียว
<O</O
ในครั้งแรกท่านได้สอบถามเรื่องดวงชะตาชีวิตตอนนี้ถือว่าดีไหม...คำตอบ.คือ..ตอนนี้ดวงถือว่าดี
ต่อมาได้ทดลองสอบถามเรื่องพระเครื่องส่วนหนึ่งที่พกพาติดตัวไปด้วยจำนวนหนึ่ง
ว่าแท้หรือไม่อย่างไร
คือพระสมเด็จวัดระฆัง,ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม,รูปหล่อพิมพ์นิยมหลวงพ่อเงิน,และโคตรเหล็กไหล 7สี

ผลคือ ทั้งหมดเป็นของแท้ปลุกเสกถูกต้องจากผู้สร้างเดิม และสอบถามอายุการสร้างใกล้เคียง
กับยุคของท่านในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยยกถาด ถามไล่อายุการสร้างเพิ่มขึ้น และลดลงไปเรื่อยๆ
แต่มาสะดุดตรงที่...โคตรเหล็กไหลเจ็ดสี ไม่เรียกเช่นนั้น เรียกว่า ขี้เหล็กไหล ถึงจะถูกเหมือนตอนที่ท่านเรียกตอนแรก

(แล้วชื่อนั้นสำคัญฉะไหน...ตอนแรกกะว่าจะถวายท่านไว้เป็นที่ระลึก...พอเรียกว่าขี้เหล็กไหล
เลยเปลี่ยนใจใหม่..งด)


ขอพักเดี๋ยวมา..

 

ต่อ...#ประสบการณ์การเสี่ยงทายทำนายโดยอัญเชิญองค์เสด็จพ่อเข้าพระพุทธรูป#

การสอบถามถึงเหตุการณ์ต่างๆ โดยการเสี่ยงทาย ด้วยการยกถาดที่มีพระพุทธรูป เป็นไปเรื่อยๆ
จนมีการสอบถามถึงสายพระสงฆ์ครูบาอาจารย์ในสายโลกทิพย์ ที่ผู้เขียนให้ความเคารพศรัทธา
แต่การทำนายครั้งนี้ต้องนำถาดใบใหม่มาวางพร้อมปูผ้าเช็ดหน้าลงไปบนถาดเปล่า
ต่างไปคือไม่มีการนำพระพุทธรูปมาวาง เป็นแต่ถาดสังกะสีกับผ้าขาวเท่านั้น
หลวงปู่ท่านท่านนี้ให้เหตุผลว่า....

ต้องแยกกันระหว่างถาดเสี่ยงทายของพระพุทธเจ้ากับ ถาดเสี่ยงทายของพระสงฆ์ครูบาอาจารย์ ห้ามนำมาปะปนในถาดเดียวกัน<O</O
ฉะนั้นตอนนี้จึงมีสองถาดให้ยกเสี่ยงทายกันล่ะคราวนี้
<O</O
เมื่อผู้เขียนถามถึงว่าพระอาจารย์ในโลกทิพย์หลวงปู่..(โลกทิพย์องค์ที่1)........รูปนั้น เคยเป็นครูบาอาจารย์ของเรามาก่อนใช่หรือไม่?
หลวงปู่ ก็ขอเชิญดวงจิตของหลวงปู่(โลกทิพย์องค์ที่1).....มา ให้รับรู้ว่ามาสถิตบนถาดแล้ว และเคยเป็นลูกศิษย์กันมาก่อน ขอให้ยกไม่ขึ้น.../ไม่มา..หรือไม่ใช่ ให้ยกขึ้น

ผลคือ ยกไม่ขึ้น ..(แสดงว่ามาแล้วและเคยเป็นลูกศิษย์อาจารย์กันมาก่อน)...
น่าสงสัยเหลือเกินว่า แค่ถาดเปล่าเล็กๆกับผ้าเช็ดผ้าผืนเดียว ทำไมอาการที่ยก มันหนักเหมือนปักตึงแน่นกับพื้นปูนซะงั้น?

และก็อธิษฐานถามถึง หลวงพ่อ... (โลกทิพย์องค์ที่2 )ก็ได้ผลเหมือนกัน

จนมาถึงหลวงพ่อ...(โลกทิพย์องค์ที่3 คือหลวงปู่กบ วัดเขาสาริกา) ปรากฏว่า ยกถาดขึ้นเบาหวิว
สอบถามย้ำอีกที สื่อความหมายว่า ท่านไม่มาเพราะเรียกชื่อท่านผิด...
(ผู้เขียนก็สงสัยมากว่าจะเรียกชื่อท่านผิดได้อย่างไร ก็คนทั่วทั้งประเทศ ทั้งพระทั้งฆราวาสทั้งหลายก็เรียกชื่อนี้เหมือนกันหมดนี่นา..เอ๊ะยังไง?)

ในระหว่างการสนทนาและสอบถามโดยการเสี่ยงทาย ทั้งของผู้เขียนและเพื่อนสหธรรม
ต่างก็มีข้อกังขา สับสนในผลการทำนาย ด้วยผลบางอย่างเจ้าตัวก็รู้ๆอยู่เต็มอกอยู่ว่า บางอย่างไม่ตรงกับความเป็นจริงก็มี เพราะมันเป็นเรื่องของตัวเองด้วยนี่ซิ

และผลทำนายเป็นคำเตือนถึงปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่สุดท้ายก็จะจบลงที่ต้องมีค่าใช้จ่าย ออกเงินทำบุญ<O</O
และอีกเรื่องที่เกี่ยวกับคำพูดที่ท่านหลวงปู่สำนักแห่งนี้

เล่าให้ฟังหลายเรื่องๆ เช่นว่า ท่านติดต่อกับพระอรหันต์ได้หลายองค์ และมาเยี่ยมท่านอยู่เรื่อยๆ และอีกเรื่องคือ

- ท่านได้ไปเมืองนิพพานที่มีพระพุทธเจ้าอยู่หลายครั้ง ท่านบอกว่าที่นั้นกลิ่นหอมชื่นใจมาก ไปบ่อยจนพระพุทธเจ้าห้ามปรามว่ามาไม่อยากให้มาบ่อยๆเพราะ กลัวท่านหลงติดจนไม่ยอมกลับเมืองมนุษย์ไปสร้างบุญบารมี

- บอกว่าให้ปฏิบัติธรรมตามคำสอนพระพุทธเจ้า เรื่องสติปัฏฐานสี่ ซึ่งเป็นสายตรงให้ปฏิบัติตามนี้ ถ้าสงสัยให้ไปซื้อหนังสือมาอ่าน แต่พอข้าพเจ้าถามว่าให้พิจารณาเรื่อง เกศา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ พิจารณาแต่ละธาตุ นี้ก่อนใช่ไหมครับ
(ซึ่งเป็นหัวข้อ กายานุปัสสนา เป็นข้อหนึ่งใน4 ของสติปัฏฐานอยู่แล้ว)ท่านกลับตอบว่าไม่ใช่
บอกแล้วไงให้ปฏิบัติตามสติปัฏฐานซิ เราก็อ้าว..เอ๊ะมันยังไงๆอยู่นะนี่

- และให้นิมนต์ท่านไปตั้งศาลเจ้าที่ และที่บ้านสหธรรมเคยมีคนถูกฆ่าตายอยู่ใต้พื้นบ้านเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ให้มานิมนต์ท่านไปทำเท่านั้น เพราะสื่อจิตรู้ถึงกันได้ คนอื่นทำไม่ได้เพราะกำลังบารมีไม่พอ
( งั้น..ก็ต้องเสียเงินค่าตั้งศาล ค่าเครื่องพิธีอีกซินะ…)

- หลวงปู่ท่านนี้ว่า..ตอนนี้จะพูดอะไร ทำอะไร ต้องระวังอย่างมากเพราะคำพูดท่านจะดัง ได้ยินไปถึงแดนพรหมโลกเขาได้ยินอยู่ตลอดเวลา เพราะตอนนี้ท่านได้เลื่อนขั้นบารมีแล้ว
และในหลายครั้งที่ถามท่าน เรื่องการปฏิบัติสมาธิธรรม คำตอบที่ได้มักคลุมเครือไม่ชัดเจน ทำให้กังขาในข้อวัตรปฏิบัติของท่านว่ามาในแนวทางใดกันแน่...
<O</O
- สิ่งที่สะดุดใจผู้เขียนและเพื่อนสหธรรมเกิดข้อสังเกต คือในระหว่างที่ถามเรื่อง มิติวิญญาณที่ลึกๆลงไป มักมีเสียงจิ้งจกทักกันดังลั่นสวนคำถามนั้นหลายๆครั้ง จิตสังหรณ์บางอย่างว่านี้เป็นเตือนบอกเหตุ เป็นการร้องทักห้ามจากญาณบางอย่าง ไม่ให้ผู้เขียนซักถามเพิ่มอีก เหมือนกลัวว่าจะเป็นสื่อ..ที่เปิดให้ผู้เขียนอาจพลาดพลั้งบางอย่างที่จะเป็นภัยมาถึงตัวในภายหลังได้
ผู้เขียนจึงต้อง พูดคุยแบบซื่อบื้อๆ โง่ๆ กันไป

 

ต่อ...#ประสบการณ์การเสี่ยงทายทำนายโดยอัญเชิญองค์เสด็จพ่อเข้าพระพุทธรูป#


สุดท้ายก่อนลากลับคณะเรา ก็ใช้เงินทำบุญกับท่านกันไปพอสมควร...ตามคำแนะ จากผลเสี่ยงทายผ่านการยกถาด ขึ้น/ไม่ขึ้น <O</O
ของสิ่งที่ท่านเรียกว่า...“องค์เสด็จพ่อ” ที่ท่านอ้างว่าเป็นญาณบารมีของพระพุทธเจ้า
ที่มาสถิตย์ในองค์พระทองเหลือง จนทำให้เกิดมหัศจรรย์ให้ถาดหนักมากจนยกถาดไม่ขึ้นได้นั่นเอง...
<O</O
ทุกอย่างเราคิดกันว่า...นี่ถือว่าเป็นครูประสบการณ์ อย่างน้อย หลวงปู่ท่านก็ได้ชื่อว่าเป็นสมมติสงฆ์ เราทำบุญถวายท่าน ก็เหมือนถวายแด่พระศาสนานา...ก็สบายใจกันไป
<O</O
และผลสุดท้าย ทางคณะเราทั้ง 3 คน จึงมาวิเคราะห์วิจารณ์บางอย่างว่างานนี้.....สงสัยมีปัญหาแน่<O</O
<O</O

“นี่ไงส่วนหนึ่ง..ที่ทำให้ผมไม่แน่ใจ ประสบการณ์ยังด้อย ผมเลยต้องชวนอาจารย์(ผู้เขียน)มาร่วมด้วยนี่ไง เห็นว่าเป็นไงบ้าง”<O</O
เพื่อนรุ่นพี่ของผู้เขียนบอกในขณะที่นั่งรถกลับออกมา จากวัดแห่งนี้ได้พักใหญ่ๆ<O></O>
(โธ่...เรารึมันก็จอมโม้ จอมคุยไปตามเรื่องตามราวไปงั้นจะมาหวังอะไร๊...กับเรา ฮ่วย!คิดผิดคิดใหม่ได้นะพี่)<O</O
<O</O

ลองมาตามผลภายหลังกันว่า...มันเกิดเหตุลางร้ายใดบ้าง
ในคืนวันนั้นหลังจากที่เราเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว....
<O</O
เอาน่ามันมีปัญหาแบบแปลกๆล่ะกัน...?<O</O
ตึ่งๆ ๆๆ มีเรื่อง แล้ววว..ๆ...<O</O
<O</O

มาลองดูกันว่าครั้งนี้คณะเราสรุปผลถึงเหตุการณ์นี้ว่าอย่างไร...สาธุ<O</O

 

อนุโมทนาบุญใหญ่ด้วยครับ
โอม นะโมพุทธายะ
ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ถ้าลูกมีบุญสัมพันเกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อ
ลูกขอไปร่วมงานด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

น้ำครับท่านอา บริการเสิร์ฟน้ำนะนาวเย็นๆเผื่อคอแห้ง yimm นี่!Counterpain ครับ เผื่อจาเมื่อยมือ (smile) ต่อครับต่อ

 

นี่ท่านตะกั่วป่า เรารึนึกหวั่นระแวงในความน้ำใจของเจ้านัก...

หวั่นเหลือเกินว่าน้ำดื่มที่เจ้านำมานี้..

...อาจมียาพิษร้ายที่ได้จากเฒ่าสารพัดพิษปนลงไป

ส่วนครีมนวดนั้น เราอาจพลั้งรับพิษคางคก1,000 ปี

เพราะเราเองก็ร้ายกับเจ้ามิใช่น้อย...(กลัวโดนเอาคืน... อ่ะเด๊)

แต่เอาเถอะ!ครั้งนี้เราจะรับน้ำใจของท่านดูสักครา...

เราหาได้หวั่นต่อภัยนี้ไม่ เพราะเรามีพระเครื่องเนื้อแร่พิเศษ พิมพ์จิ๋ว ช่วยกันอันตรายให้ ฮ่าๆๆ จู๊กกกรูรูรูรู(deejai)(deejai)

 

ต่อ...#ประสบการณ์การเสี่ยงทายทำนายโดยอัญเชิญองค์เสด็จพ่อเข้าพระพุทธรูป#

# และวิชา ผีกะลา#

ในเรื่องนี้ครั้งแรก...กะว่าเรื่องนี้จะเป็น... หนังสั้นแบบขอคั่นชั่วคราวแบบเบาๆแต่ไปๆมาๆ ชักสนุกกันใหญ่
การเสี่ยงทายโดยการอธิษฐานยกถาดที่มีพระ ขึ้น/ไม่ขึ้น และสลับคำถามเพื่อยืนยันคำทำนายอีกครั้ง
ทำให้นึกหวนไปถึงเหตุการณ์คล้ายๆกัน ครั้งหนึ่งในวัยเด็กช่วงอายุประมาณ 10 ขวบ
บรรยากาศของชีวิตคนบ้านนอกชนบท
<O</O
ที่บ้านเก่าๆหลังหนึ่ง แบบสองชั้นใต้ถุนโล่ง ยกพื้นสูงมีเรือนชานยื่นออกมานอกตัวบ้าน อยู่ไม่ไกลจากบ้านผู้เขียนมากนัก

“ไป..ไปดูดวงกันค่าครู 10 บาท เขาว่าให้นั่งบนกะลามะพร้าวหมุน”
น้าสาวชักชวนหลานชายไปดู พร้อมลูกพี่ลูกน้องกันอีกคน

ที่นอกชานบ้านชั้น 2 ภาพที่เห็นนั้นมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันมาชุมนุมกันอยู่แล้ว5-6 คน ด้วยข่าวที่บอกต่อๆกันมา และมีชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่เจ้าของบ้านแนะนำว่าเป็นญาติต่างอำเภอเป็นหมอทำนายดวงโดยใช้วิชาครูกะลา

เครื่องมือมีง่ายๆคือ
- กะโหลกมะพร้าว (ส่วนผ่าครึ่งที่ด้านนูนสูงของกะลามะพร้าว)
- แผ่นไม้กระดานขนาดยาวประมาณ 1 ฟุต กว้าง3 นิ้ววางพาดอยู่บนกะโหลกมะพร้าว
ในกะโหลกมะพร้าวที่เห็นใส่ของลงไปมี<O</O
- หมากพลู 1 ชุด
- เงินค่าครูอย่างน้อย 9 บาท และมีผ้าขาวห่อเล็กๆ( ซึ่งห่ออะไรไว้ไม่รู้อีกหนึ่งอย่าง)

ขณะนั้นที่เห็นก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งยิ้มเขินๆ นั่งเหยีบบนแผ่นไม้เล็กๆ ที่วางพาดบนกะโหลกมะพร้าว และคนนั่งเหยียบต้องคอยใช้มือยันประคองตัวนั่งยองๆไม่ให้ล้มลง ที่วางอยู่บนพื้นบ้านที่เป็นไม้กระดานธรรมดา

<O</O
ใช่แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครทีไหน มันชื่อว่า.. ยัยแต้ว..ตัวแสบ เพื่อนร่วมชั้นเรียนประถมของผู้เขียนนี่เองแหละ
<O</O
ขั้นตอนเริ่มด้วยผู้อยากรู้คำทำนายให้นั่งบนกะโหลก คอยประคองตัวไว้จากนั้น จากเริ่มการเสี่ยงทำนาย โดยมีหมอกะลาถามไปที่ครูกะลาที่อยู่ในกะลา

หมอกะลาจะพูดพร้อมเคาะโขลกพื้นบ้านไปด้วยว่า
”ครูบาเอ๊ย...ตอนนี้เด็กคนนี้จะมีเคราะห์กรรมหนักอะไรไหม...ครูบาเอ๊ย?”
และเช่น
”ครูบาเอ๊ย...เด็กคนนี้จะได้เป็นพยาบาลไหม...ครูบาเอ๊ย?”
ถ้าไม่มี/ไม่ใช่ ให้หมุนไปทางขวา
ถ้ามี /ใช่ ให้หมุนไปทางซ้าย
จากนั้นกะลาก็เริ่มพาหมุน ขวาหรือซ้ายไปเองตามคำทำนายบอก <O</O
และจะทวนถามสลับกันอีกครั้งเช่นว่า
<O</O
ถ้าไม่มี ให้หมุนไปทางซ้าย
ถ้ามี ให้หมุนไปทางขวา
<O</O
อยากรู้.. อยากถามอะไรก็ว่ากันไปตามเรื่องที่อยากรู้ ไม่จำกัดจำนวนคำถามแบบสบายๆไม่คิดตังค์เพิ่ม หากไม่นั่งเมื่อยซะก่อน

สังเกตดูว่าคำตอบหากเป็นเรื่องราวในอดีตนั้นค่อนข้างจะแม่นยำ ส่วนอนาคตก็มีผิดพลาดกันไปบ้าง
เช่น ยัยแต้ว ต่อไปจะได้....มีอาชีพเป็นนางพยาบาล
แต่ปัจจุบัน ยัยแต้วเธอมีลูก 2 คน..เป็นแม่ค้าขายไก่ย่าง เป็นต้น
<O</O
เมื่อลองสอบถามดูผู้ที่เคยไปนั่งบนแผ่นไม้กะลา บอกว่าเราจะต้านแรงหมุนนั้นไม่ได้เลย ได้ลองพยายามฝืนๆดูแล้ว เราจะสู้แรงหมุนนั้นไม่ได้เลย
เออ..น่าฉงน!

ส่วนน้าสาวของผู้เขียนก็ได้ลองนั่งเหยียบแผ่นไม้เสี่ยงทายเช่นกัน
แต่ด้วยความที่รูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ รักษาสมดุลย์ประคองตัวเองลำบาก
พอกะลาหมุนได้เพียงคำถามเดียวเท่านั้น แทนที่จะหมุนรอบเดียวแบบคนอื่น
กลับหมุนติ้วๆๆ เหวี่ยงตัวเองก็เด็นกระดอน ออกนอกไม้เหยียบทั้งคนทั้งของในกะลา ตกกระจัดกระจายตังค์ในกะลาหล่นเกลื่อน... เต็มพื้น ดีนะที่ไม่ตกออกมานอกชานบ้านคอหักเอา

หมอกะลาเองต้องเดือดร้อนออกแรงเดินเก็บของ(กลัวตังต์หายด้วย...ก็หัวเราะชอบใจ สนุกสนานกันไป)
เฮ้อ..น้าเราทำขายหน้าอีกแล้ว...


ลืมบอกไปอีกอย่างว่า....ก่อนนั่งกะลาให้ถอดสร้อยพระหรือ วัตถุมงคลอื่นๆออกเสียก่อน
ไม่งั้นกะลาจะขยับไม่ได้..


<O</O
ภายหลังจึงรู้ว่าวิชาดูดวงที่ว่า ครูบาอาจารย์ท่านว่านี่คือ วิชาผีกะลา เป็นไสยศาสตร์ สายเดรัจฉานวิชา หากกระทำผิดครูเมื่อไหร่ มีโอกาสกลายเป็น..ผีปอบได้ และสามารถถ่ายทอดสืบเชื้อปอบนี้ติดได้ถึงรุ่นลูกหลานได้ ที่คนอีสานเรียกกันว่า ” ปอบเชื้อ”
<O</O
ดูก่อนมาณภพ สัตว์ทั้งหลาย<O</O
มีกรรมเป็นของตน<O</O
เป็นทายาทแห่งกรรม<O</O
มีกรรมเป็นกำเนิด<O</O
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์<O</O
มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย<O</O
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีต.<O</O
</O

 

"..สังเกตดูว่าคำตอบหากเป็นเรื่องราวในอดีตนั้นค่อนข้างจะแม่นยำ ส่วนอนาคตก็มีผิดพลาดกันไปบ้าง.."
.................................................................................................................

ถ้าเป็นผีพวกสัมปเวสีต่างๆ จะทราบเรื่องราวในอดีตได้อย่างแม่นยำ เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว
เพราะเขามีอายุยืนนาน อาจจะหลายร้อยปี เขาจึงเห็นเหตุการณ์ในอดีตต่างๆ และทายได้อย่างแม่นยำ
สำหรับเหตุการณ์ในอนาคตจะทายไม่ค่อยแม่น เพราะผีไม่ค่อยรู้อะไร เป็นแค่การคาดเดา...


ขอร่วมแจมด้วยคน ..สาธุกับท่าน Topplus99 ด้วยครับ..