พิธีสะเดาะเคราะห์ โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย danetkung, 17 สิงหาคม 2012.

  1. danetkung

    danetkung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +15,273
    [​IMG][​IMG]

    พิธีสะเดาะเคราะห์ วัดท่าซุง

    (โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน คัดจากหนังสือสมบัติพ่อให้เล่ม ๑ หน้า ๒๔๓ -๒๔๘)



    คำว่า เคราะห์กรรม เป็นวิธีเรียกของพรหมณ์ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า กฏของกรรม คณาจารย์ต่างๆ เรียกไม่เหมือนกันแต่ผลมันเหมือนกัน นั่นคือ ความทุกข์ ถ้าอยากทราบว่า ความทุกข์มาจากไหน ก็จะเล่าให้ฟัง

    ประการแรก การป่วยไข้ไม่สบายทางร่างกาย มาจากกรรมปาณาติบาต การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

    ประการที่ ๒ ความทุกข์เกิดจากไฟไหม้บ้าง ขโมยปล้น ขโมยจี้ ลมพัดให้บ้านพัง น้ำท่วม มาจากโทษอทินนาทาน การลักขโมยของเขาจากชาติก่อน

    ประการที่ ๓ เคราะห์กรรมที่ทำให้คนใต้บังคับบัญชาดื้อด้าน ว่ายากสอนยากไม่เชื่อฟัง มาจากโทษกาเมสุมิจฉาจาร เจ้าชู้จัดในชาติก่อน

    ประการที่ ๔ เราพูดดีแต่คนอื่นไม่ชอบฟัง ไม่เชื่อฟัง มาจากโทษมุสาวาทจากชาติก่อน

    ประการที่ ๕ การเป็นโรคปวดหัวบ่อยๆ หรือโรคประสาทก็ดี เป็นบ้าก็ดี เป็นโทษมาจากกฏของกรรม คือ ดื่มสุราเมรัย ในชาติก่อน อันนี้เป็นหลักหยาบๆ หลักใหญ่นะ

    อย่างคนตาบอด ในสมัยชาติก่อน เขาทำบุญเห็นแล้ว แกล้งทำเป็นไม่เห็น

    อย่างคนหูหนวก เขาทำบุญสุนทาน เขาฟังเทศน์ฟังธรรมกันแกล้งส่งเสียงกลบ เขาฟังเทศน์ฟังธรรม เขาคุยกันด้วยความเคารพในธรรม เราแกล้งส่งเสียงกลบ เกิดเป็นคนหูหนวก ๕๐๐ ชาติอย่างนี้เป็นต้น

    ก็รวมความว่า ขึ้นชื่อว่า เคราะห์กรรม คือ กฏของกรรมเก่าของเราในชาติก่อน คนทุกคนที่เกิดมานี้ที่ไม่มีกรรมเก่า ที่กรรมไม่ดี ไม่มีนะ ไม่เคยทำบาปนี้ไม่มี...(เนื้อหาซ้ำกันกับข้างต้นจึงขอข้ามไป)...

    ทีนี้คำว่า สะเดาะเคราะห์ หมายความว่า ทำให้เคราะห์หมด คำว่า สะเดาะเคราะห์ไม่มีศัพย์ในทางพระพุทธศาสนา เป็นศัพย์ของคณาจารย์ต่างๆในทางพระพุทธศาสนาไม่มี ในเมื่อไม่มี ทำไมวัดท่าซุงจีงบอกว่า สะเดาะเคราะห์ ก็เลยบอกว่าพูดตามเขา ทีนี้การทำคราวนี้ไม่ใช่สะเดาะเคราะห์ เป็นการสร้างความดี ความโชคดีให้เกิดขึ้น คือ หมายความว่าทำบุญให้มีกำลังสูง

    คำว่า เคราะห์ คือ บาป เราล้างไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าทำความดีให้มีกำลังสูงกว่า คำว่า เคราะห์จะเปรียบเทียบให้ฟัง เหมือนกับคนยืนอยู่กลางแดดจัดๆ เวลานี้อยู่ในร่มมันก็ร้อน ถ้ายืนกลางแดดมันก็ร้อน ถ้าทำบุญน้อยๆ ก็เหมือนกับมีร่มเล็กๆ ไปกางบังอยู่มันก็เย็นไปหน่อยหนึ่ง ทำบุญที่มีอานิสงส์มากๆ ก็เหมือนกับมีคนเอาน้ำไปราดให้ ก็มีความเย็น ถ้าทำ บุญที่มีกำลังสูงใหญ่อย่างเราเจริญกรรมฐาน เหมือนกับเราแช่ในอ่างน้ำ ถึงเราจะอยู่กลางแจ้ง กลางแดด ความร้อนมันก็น้อยไป ข้อนี้ฉันใด การสะเดาะเคราะห์ก็เหมือนกัน การสะเดาะเคราะห์ไม่ได้ทำให้หมดไป

    ตัวอย่าง : ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ในครั้งหนึ่งองค์สมเด็จพระบรมครูทางเทศน์เรื่อง กายคตานุสสติกรรมฐาน กับ อสุภกรรมฐาน สองอย่าง คำว่า กายคตานุสสติกรรมฐาน หมายถึงการพิจารณาร่างกายของตนเอง ...อสุภกรรมฐาน ให้เห็นว่าร่างกายทุกคนเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครกทั้งหมด พระ ๖๐ องค์เศษๆ ฟังแล้วพิจารณาตามเกิดความสลดใจเห็นว่าร่างกายของคน มีความสกปรกมาก มีความเบื่อหน่าย หลังจากเทศน์จบองค์สมเด็จพระจอมไตร ทรงบอกว่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ฉันจะเข้าไปอยู่ในถ้ำ ๑๕ วัน ขณะที่อยู่ในถ้ำ ๑๕ วันห้ามมิให้คนอื่นเข้าพบ นอกจากพระที่ส่งอาหาร

    บรรดาพระ ๖๐ องค์เศษๆ เหล่านั้น เมื่อฟังเทศน์จบก็พิจารณาร่างกายว่ามันสกปรก มีความรักเกียจร่างกายมาก ท่านเปรียบเทียบบอกว่า เหมือนหนุ่มสาวที่อาบน้ำใหม่ๆ แต่งตัวสวยๆ และมีคนเอางูเน่ามาคล้องคอ หรือเอาสุนัขเน่ามาแบกที่บ่าหรือใส่ที่บ่า มีความรังเกียจขนาดนั้น ในที่สุดก็ฆ่าตัวตายเองบ้าง จ้างคนอื่นฆ่าบ้าง พอครบ ๑๕ วันพระพุทธเจ้าก็ออกจากถ้ำ ก็มีพระถามว่า การที่พระองค์ทรงเทศน์ กายคตานุสสติ อสุภกรรมฐาน ทั้งสองอย่างทรงทราบหรือไม่ว่าพระ ๖๐ องค์เศษๆ จะฆ่าตัวตาย หรือจ้างคนอื่นฆ่าตัวตาย พระพุทธเจ้าบอกว่าทราบ ในเมื่อทรงทราบพระก็ถามว่า ทำไมจึงเทศน์ว่าเขาจะฆ่าตัวตาย พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า ขึ้นชื่อ กฏของกรรม ไม่มีใครหนีพ้น จะเทศน์อย่างนั้นหรือไม่เทศน์ก็ตาม เขาก็ต้องฆ่าตัวตาย หรือจ้างคนอื่นฆ่าตัวตาย เพราะกฏของกรรมเดิม กรรมเดิมที่พระพวกนี้เคยเป็นพรานฆ่าเนื้อ ฆ่าสัตว์มาก่อน มันติดตามมาทัน เขาต้องตายแบบนั้น

    ฉะนั้นก่อนจะตาย ตถาคตจึงเทศน์กายคตานุสสติกรรมฐาน อสุภกรรมฐานสองอย่างรวมกัน ให้เขาพิจารณาเบื่อในร่างกาย ในเมื่อเขาตาย เขาไปนิพพานไม่ดีกว่าหรือ

    ทีนี้การทำคราวนี้ ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ทำลายให้เคราะห์หมดไป การทำลายเคราะห์ คือ บาป ทำลายไม่ได้โยม แต่ว่าเราทำบุญให้มีกำลังสูงขึ้น อย่างญาติพุทธบริษัทที่มานั่งที่นี่ทุกคน ไม่ใช่มีแต่เคราะห์ โชคก็มี คือชาติก่อนมีทั้งความดีมีทั้งความชั่ว มีทั้งบุญและบาป ขณะใดที่มีการป่วยไข้ไม่สบาย นั่นคือผลของบาปเข้าสนอง แต่ว่าทุกคนมีทรัพย์สินอยู่ได้เพราะผลของทาน ทานการให้ในชาติก่อน ทำให้คนมีทรัพย์สิน แต่การมีทรัพย์สินทำไมจึงไม่เสมอกัน อย่างทานที่มีกำลังสูงสุดในด้านวัตถุก็คือ วิหารทาน เป็นทานที่มีกำลังสูงมาก ทานที่รองลงมาก็คือ สังฆทาน สังฆทานนี่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า คนที่เคยถวายสังฆทานแล้วครั้งหนึ่งในชีวิต ตายแล้วเกิดกี่ชาติก็ตาม ถ้ายังไม่เข้าพระนิพพานเพียงใด จะไม่พบกับความยากจนเข็ญใจ จะเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีทุกชาติ ทีนี้คนที่เขาเป็นเศรษฐมหาเศรษฐีเพราะว่า เขาเคยถวายสังฆทานในกาลก่อน อันนี้เป็นผลอันหนึ่งที่เราจะทำ เพื่อเป็นการหลีกเร้นกฏของกรรม คือ บาป บาปถึงแม้มันจะกลั่นแกล้งขนาดไหนก็ตาม แต่เรามีกำลังบุญสูง คือคล้ายๆ กับสุนัขไล่กัด ถ้าเราวิ่งเร็วมันก็กัดไม่ทัน ถึงกัดทันก็กัดไม่ถนัด
    ประการที่สอง ต่อนี้ไปจะให้ญาติโยมทั้งหลายรับศีล การสมาทานศีลมีอานิสงส์ ๓ อย่างคือ

    ๑. สีเลนะ สุคะติง ยันติ คนที่มีศีลอยู่แล้ว เวลามีชีวิตอยู่ก็มีความเป็นปกติสุข ตายจากความเป็นคนก็ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้ามีความสุข

    ๒. สีเลนะ โภคะสัมปะทา ในขณะที่มีชีวิตอยู่เรามีศีลบริสุทธิ์ ทรัพย์สินก็ไม่เปลืองก็มีการเป็นอยู่ดีในการครองทรัพย์สิน ตายไปก็ร่ำรวยมาก


    ต่อ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 เมษายน 2013
  2. danetkung

    danetkung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +15,273
    ๓. สีเลนะ นิพพุติง ยันติ คนที่รักษาศีลได้ดี จะไปนิพพานได้โดยง่าย

    นี่คืออานิสงส์ของศีล หลังจากนั้นไปจะให้ญาติโยมพุทธบริษัท เจริญวิปัสสนา คือเจริญกรรมฐาน ใช้กำลังพุทธานุสติกรรมฐานเป็นกำลัง นี่เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา บุญในพระพุทธศาสนามี ๓ ชั้น คือ ทาน ศีล ภาวนา ภาวนานี่เป็นบุญใหญ่ที่สุด จะให้ญาติโยมภาวนาว่า พุทโธ เป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้า เวลาหายใจเข้านึกว่า พุท เวลาหายใจออกนึกว่า โธ ใช้เวลา ๑๐ นาที จงอย่านึกว่าแค่ ๑๐ นาที จะมีบุญน้อย ความจริงไม่ใช่น้อย มีกำลังมากเหลือเกิน การนึกถึงพระพุทธเจ้าอย่าง มัฏฐกุลฑลีเทพบุตร หรือ สุปติฏฐิตเทพบุตร ซึ่งเขาไม่เคยนับถือพระพุทธเจ้า เขานึกถึงท่านอยากให้ท่านมารักษาโรคให้หาย เพียงเท่านี้ไม่ได้เคารพอย่างเรา เขาตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเทวดาบน สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก แต่นี่เรา เจริญพระกรรมฐาน นึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยอารมณ์ของความเคารพจริงๆ อานิสงส์มากไปกว่านั้น ปรารถนานิพพานในชาตินี้ยังได้

    หลังจากนั้นจะมีพระเจริญพระอภิธรรม สวดอภิธรรมมาติกา คำว่า มาติกา เขาสวดสำหรับคนตาย และพวกเราตายแล้วหรือยัง แต่ความจริงเขาไม่ได้สวดเพื่อคนตาย คนตายไม่ได้ฟัง เขาสวดให้คนที่ยังไม่ตายฟัง เพราะบทมาติกานี่อานิสงส์มากเพียงแค่รับฟังอย่างไม่รู้เรื่อง อย่างค้างคาว ๕๐๐ ตัว ฟังสวดอภิธรรมเพียงแค่เพลิดเพลิน ไม่ทราบผู้สวดเป็นพระ ไม่ทราบว่าธรรม ที่สวดเป็นธรรมะเพลินไป ผลที่สุดเท้าก็หลุดจากที่เกาะหล่นลงมาตายทั้ง ๕๐๐ ตัว หลังจากตายจากความเป็นค้างคาวแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก ในเมื่อพระพุทธเจ้าองค์นี้มาตรัส เขาเกิดเป็นลูกชาวประมง ในที่สุดเขาก็ฟังอภิธรรม เพียงแค่จบเดียวโดยย่อก็บรรลุพระอรหันต์ทั้งหมด นี่แค่สัตว์เดรัจฉานนะเขาไม่รู้เรื่อง ยังมีอานิสงส์อย่างนี้ ฟังแล้วชาติเดียวเกิดเป็นเทวดา และหลังจากนั้นมาก็เป็นพระอรหันต์

    ท่านทั้งหลายฟังแล้วด้วยความเคารพ รู้ว่าท่านผูสวดเป็นพระ คำสวดเป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน และฟังด้วยความตั้งใจจริงอย่างนี้ ถ้าปรารถนิพพานชาตินี้ยังได้ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้าหรือพรหม เวลานั้นก็เจอะพระศรีอาริยเมตตรัย ฟังเทศน์จากพระศรอาริย์จบเดียวก็ป็นพระอรหันต์ นี่เป็นของไม่ยาก ง่ายๆ นะ ตั้งใจให้ดีนะหลังจากนั้นพิธีสะเดาะเคราะห์จะเกิดขึ้นนั่นคือว่าจะให้ พระบังสกุลตาย

    ตอนที่ พระบังกุลตาย ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ให้ตั้งใจคิดว่า เวลานี้ขอผลของความชั่วทั้งหมดบาปกรรมที่ทำมาแล้วจาก... (การละเมิดศีล ๕)...ที่ทำให้จิตใจเรามีความทุกข์ มีความเร่าร้อน ให้มันสลายตัวไป พร้อมกับคำบังสกุลตายของพระ

    หลังจากนั้นพระจะ บังสกุลเป็น ตอนนั้นบรรดาพุทธบริษัท ก็ตั้งใจคิดว่า เวลานี้เราเกิดใหม่พร้อมความดี คือ

    ๑. ศีลที่เราสมาทานแล้ว

    ๒. สังฆทานที่เราทำแล้วมีอานิสงส์ใหญ่

    ๓. การภาวนาซึ่งเราทำแล้ว

    ๔. วันนี้บวชเณร ๘๕ องค์ บวชชีพราหมณ์ ๖๐ องค์เศษๆ คนทั้งหมดที่บวชเป็นนักเรียนโรงเรียนสุธรรมยานเถระวิทยา เป็นนักเรียนที่ได้สมาบัติ คือได้ฌานโลกีย์ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาบัติขั้นอภิญญา เขาสามารถไปเที่ยวสวรรค์ นรกได้ เพราะโรงเรียนนี้มีกฏบังคับ เด็กที่เข้าโรงเรียนนี้ ต้องเจริญกรรมฐานก่อน ต้องสอบกันก่อนว่าเที่ยวสวรรค์นรกได้หรือเปล่า ระลึกชาติได้หรือเปล่า ถ้าทำไม่ด้เข้าโรงเรียนนี้ไม่ได้ เมื่อเข้ามาได้แล้วก็มีการซักซ้อมทุกอาทิตย์ เป็นอันว่าเณรและชีพวกนี้เป็นผู้ทรงฌาน ผู้ทรงฌาน พระโสบันเรียกว่า เป็นผู้ปฏิบัติตนเพื่อพระโสดาปัตติมรรค ทำบุญมีอานิสงส์มาก

    ฉะนั้นบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าต้องการทำบุญให้มากขึ้น เวลาเลิกแล้วก็เอาสตางค์มาใส่ขัน ตั้งใจบวชเณรบวชชี มากก็ได้น้อยก็ได้ ๕ สตางค์ก็ได้ ๑๐ สตางค์ก็ได้ สลึงก็ได้ บาทก็ได้ตามชอบใจ ตามที่จะพึงทำได้ ให้ตั้งใจคิดว่า เวลานี้เราบวเณรบวชชี

    สำหรับการบวชเณรนี่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ถ้าพ่อแม่ของเณร ถ้าลูกบวชหนึ่งองค์ เขาจะมีอานิสงส์เกิดเป็นเทวดานางฟ้า หรือเป็นพรหมได้คนละ ๑๕ กัป ลูกชายได้ ๓๐ กัป ญาติโยมที่ไม่ใช่พ่อแม่ของเณรจะได้อานิสงส์คนละ ๔ กัป ทีนี้มัน ๘๕ องค์นี่ เอา ๔ คูณ ๘๕ เข้าได้เท่าไหร่ ก็รวมความว่าก็ได้ ๓๐๐ กัปกว่า ถ้าเราตายจากชาตินี้เป็นเทวดาหรือพรหมก็สามารถเป็นเทวดาหรือพรหม อยู่ได้ถึง ๓๔๐ กัป ในเมื่อท่านทั้งหลายมีบุญขนาดนี้ก็อยู่ไม่ถึง ๓๐๐ กัป ไปนิพพานแน่ ก็เป็นอันว่ามีความดีใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  3. danetkung

    danetkung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +15,273
    (ต่อจากนั้นหลวงพ่อนำบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทสมาทานศีล ๕ จบแล้ว สมาทานพระกรรมฐานแล้วให้ภาวนาพุทโธ ๑๐ นาที)

    (ต่อจากนั้นพระเริ่มสวดอภิธรรมมาติกา)

    (สวดจบหลวงพ่ออธิบายต่ออีกว่า)

    อันดับต่อนี้ไปบรรดาญาติโยมทั้งหลายฟังอภิธรรมแล้ว เป็นมหากุศลใหญ่ที่กล่าวมาแล้วนี้ ต่อไปนี้ก็เป็นการสะเดาะเคราะห์ พระจะบังสกุลตาย ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายคิดว่า ขึ้นชื่อว่าอกุศลกรรมที่ทำมาแล้วในชาติก่อน (ช่วงนี้หลวงพ่อพูดถึงศีล ๕) อกุศลทั้งหลายเหล่านี้ที่ให้ผลกับเราในชาตินี้ก็ตาม ขอบุญบารมีของเราที่มีแล้วในวันนี้เป็นมหาศาล จงทำลายอกุศลกรรมทั้งหลายให้พินาศสลายไปพร้อมกับคำว่า บังสกุลตายของพระ หมายความว่า ให้เคราะห์กรรมต่างๆ มันตายไปกับคำบังสกุลตายของพระ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนะ ตั้งใจตามนั้นนะ

    (พระสงฆ์บังสกุลตาย) อนิจจัง วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน... อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ เตสัง วูปะสะโม สุโขฯ (หลวงพ่ออธิบายต่ออีกว่า)

    ขอให้เคราะห์กรรมต่างๆ ของญาติโยมทั้งหลาย จงสลายตัวไป ต่อไปนี้จะ บังสกุลเป็น ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทจงคิดว่า เวลานี้เราเกิดใหม่พร้อมกับความดี คือ เป็นผู้มีศีล เราสมาทานศีลแล้ว อานิสงส์ศีลจะปรากฏกับเรา

    ประการที่ ๒ เราถวาย สังฆทาน นี่เป็นมหากุศลใหญ่ ชาตินี้ก็มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ ในการบริโภคทรัพย์ ชาติต่อไปจะเป็นมหาเศรษฐีทุกชาติจนกว่า จะเข้าพระนิพพาน

    และประการที่ ๓ เราได้มีการ บวชเณร บวชเณรมีอานิสงส์มาก จะเป็นเทวดานางฟ้าอยู่ได้นาน

    ประการที่ ๔ เรา เจริญพระกรรมฐาน พระกรรมฐานนี่เป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพานโดยตรง จะเป็นเหตุให้พุทธบริษัทพ้นจากความทุกข์ คือไปนิพพานได้

    ประการที่ ๕ ฟังอภิธรรม อภิธรรมจัดว่าเป็นอานิสงส์ให้เกิดปัญญา ถ้าบังเอิญจะเกิดชาติหน้า เป็นคนร่ำรวย เป็นคนมีอายุยืนนาน มีความสวยก็ตาม ถ้าไร้ปัญญาก็ไร้ประโยชน์ ฉะนั้นการฟังอภิธรรมจึงเกิดประโยชน์กับบรรดาพุทธบริษัทในด้าน ปัญญา

    ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า จงคิดว่าผลบุญทั้งหมดตามที่กล่าวมาแล้วนี้คือ

    ๑. ศีล ๒. สังฆทาน ๓. บวชเณร ๔. เจริญกรรมฐาน ๕. ฟังอภิธรรม จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าเป็นผู้เกิดขึ้นพร้อมกับความดีอันนี้ มีแต่ความสุขตลอดไป ตลอดชีวิต ถ้าตายจากชาตินี้เมื่อไรขอไปนิพพานทันทีทันใดนะ ต่อนี้ พระจะบังสกุลเป็น

    อะจิรัง วะตะยัง ปพฐะวิง อะเสสสะติ

    ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัตถังวะ กะริงคะรังฯ

    ต่อนี้ไปขอญาติโยมทั้งหมด รับพรจากพระสงฆ์นะ อธิษฐานตามชอบใจ

    (พระสงฆ์ให้พร)

    หลังจากนี้หลวงพ่อก็ให้พระประพรมน้ำพุทธมนต์ให้ เป็นเสร็จพิธี

    ที่มา http://sites.google.com/site/sphrathewtheph/Home-35
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2013
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    <STRONG>เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  5. view6628

    view6628 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +192
    เป็นเรื่องราวที่มีประโยชน์มากครับ อ่านแล้วได้ความเข้าใจมาก ๆ ขอน้อมอนุโมทนาบุญในธรรมทานด้วยครับ
     
  6. Lind

    Lind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +339
    ชาตินี้ ดิฉันก็ผิดศีลทั้ง 5 ข้อ
    ข้อแรก เป็นคนชอบโกรธ ทั้งคิด ทั้งพูดระบายความโกรธ ทั้งใช้มือเท้าระบายความโกรธ ฆ่า เบียดเบียน สัตว์ ทำให้เคยเป็นโรคไมเกรน(หายแล้วหลังจากพยายามทำทาน ศีล ภาวนามากๆ) แล้วตอนนี้ผิวพรรณก็ไม่ดี สิวขึ้น

    ข้อ 2 เคยขโมยเงินคุณย่า ขโมยนาฬิกาจากร้านค้า หยิบเอาของคนอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาต มีความโลภ ใช้ทรัพยากรสาธารณะสิ้นเปลือง ไม่ว่าจะทิชชู่ น้ำ ไฟ ทำให้เคยโดนขโมยโทรศัพท์มือถือ คนงานเคยขโมยของๆเราไปใช้ แม่ค้าตั้งราคาสินค้ากับเราสูงกว่าที่ตั้งกับคนอื่น ทำให้เราต้องจ่ายมากกว่า

    ข้อ 3 ชิงสุกก่อนห่าม นอกใจแฟน ทำให้พ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนเสียใจ ผลของกรรมทำให้ไม่สมหวังในความรัก การเรียนไม่ดี ไม่มีงานทำ เคยมีคนงานที่ทำงานไม่เต็มที่ อู้งาน

    ข้อ 4 เคยโกหกเป็นประจำ นินทา ทำให้คนอื่นแตกแยกกัน พูดไร้สาระ เพ้อเจ้อ ทำให้บางครั้ง เราพูดดีหวังดี แต่คนอื่นไม่ฟัง ไม่สนใจ

    ข้อ 5 เคยดื่มแอลกอฮอล์ เคยสูบบุหรี่ ทำให้เคยปวดหัวบ่อย

    เพราะไม่เชื่อฟังคำสอนของพระพุทธองค์ จึงทำให้เป็นทุกข์
    ทุกวันนี้ ตั้งใจรักษาศีล 5 อย่างเต็มกำลัง มองทุกข์ให้เป็นกฏของธรรมดา
    สร้างเหตุใดไว้ ย่อมได้ผลนั้น แน่นอน กฏแห่งกรรม ไม่เคยให้ผลผิดตัว
    พอตั้งใจทำตามพระพุทธเจ้า ชีวิตก็ดีขึ้นมาก ในทุกๆด้านค่ะ
    กราบขอบพระคุณพระธรรมอันงดงามค่ะ สาธุ
     
  7. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ขออนูโมทนาในการเข้าหาธรรมรักษาศีล และเห็นโทษของการผิดศีล ตัวดิฉันเองที่ผ่านมา ก็ผิดทั้ง ๕ ข้อเลย เพียงแต่เหตุการณ์ไม่เหมือนกันแต่ก็คล้ายๆกัน สาธุค่ะ
     
  8. หนูนะ

    หนูนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +199
    องค์คุลีมารยังกลับตัวกลับใจจนบรรลุธรรมได้เป็นพระอรหันต์เลยค่ะ คุณยังมีบุญอยู่มากที่ทำให้คิดได้และกลับตัวกลับใจทัน อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ นิพพานคือการหลุดพ้น
     
  9. บุญธริย์ฎา

    บุญธริย์ฎา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +205
    สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ ได้รับความรู้ ทำให้เกิดปัญญา โดยส่วนตัวได้มีโอกาสไปวัดท่าซุง ประทับใจ และทุกวันก็สวดคาถาเงินล้านของท่านด้วยค่ะ และได้พิมพ์แจกจ่าย และเผยแพร่ รวมทั้งคาถาท่านพญายมด้วยค่ะ
     
  10. ทามาก็อต

    ทามาก็อต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +359
    กราบอนุโมทนาสาธุๆๆๆ
    กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า
     
  11. ทามาก็อต

    ทามาก็อต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +359
    กราบอนุโมทนาสาธุในบุญทั้งหมดทั้งมวลที่ท่านไว้ดีแล้วด้วยเทอญ สาธุๆๆๆ
     
  12. Porene

    Porene สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนาบุญกับผู้ที่นำบทความดีๆนี้มาให้อ่านทำให้เกิดปัญญา มีความเข้าใจมากขึ้นค่ะ กำลังจะไปทำบุญและร่วมพิธีนี้อยู่พอดีค่ะ :)
     
  13. ชธิษา

    ชธิษา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +248
    อนุโมทนบุญด้วยนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...