เพราะความที่ไม่รู้ธรรมจริงจึงโดนหลอกจนเกือบตาย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Supop, 29 สิงหาคม 2012.

  1. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ผมขออนุญาตตั้งกระทู้ ถ้าเห็นว่าไม่สมควรก็ขอให้ลบออกได้เลยครับ

    ผมลังเลใจอยู่นานว่าจะเล่าดีหรือไม่ แต่ด้วยที่ว่า ถือว่าแบ่งปันประสบการณ์ให้ผู้อื่นได้รับรู้บ้างเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจหรือเป็นข้อคิดพิจารณา ก็น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง

    นี่เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของผม

    ตามที่เคยกล่าวไปบ้างแล้วว่าผมไปฝึกสมาธิมาแบบหนึ่ง ที่เป็นการเพ่งจิตอย่างเร็ว จนเหมือนจิตมันพุ่งทยานออกไป (ฝึกกันอยู่ในกลุ่ม 3 คน)

    ซึ่งมาเข้าใจทีหลังว่า นี่เป็นสมาธิแบบฤาษีสมัยก่อนฝึกกัน (เรื่องวิธีการฝึกและฤทธิ์เดชของวิชาขอไม่พูดถึง)

    ผมฝึกวิธีนี้จนกระทั่ง ผมก็เปิดจิตได้ ตอนที่รู้ว่าเปิดจิตได้นั้น ผมเห็นเป็นนิมิตแสงสว่างจากรอบๆตัวขยายวงกว้างออกไปข้างนอก ออกไปจนสุดลูกหูลูกตา สว่างเหมือนกลางวัน (ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน)

    แล้วผมก็ถูกติดต่อจากสรรพสิ่งมากมาย จนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทั้งเสียงความคิดทั้งภาพนิมิต และการสัมผัสทางกาย

    แรกๆก็มีมาสอนปฏิบัติในทางฤทธิ์ (เพราะตอนนั้นผมมีความอยากได้ฤทธิ์) ซึ่งผมไปหาสอบถามกับผู้ที่ฝึกมาทางนี้แล้ว มีส่วนที่ถูกต้อง แต่บางอย่างเขาก็ไม่รู้ (และการฝึกตามที่เขาสอนก็ได้ผลด้วย)

    สุดท้ายพวกผมก็โดนหลอกว่า ผมและกลุ่มผู้ที่ปฏิบัติด้วยกันนั้น เป็นผู้มีบุญญาธิการมาก เป็นผู้ที่คอยปกปักรักษาพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ที่ลงมาเกิดเพื่อตรัสรู้

    จะไม่ได้ไปนิพพานจะต้องอยู่คอยดูแลพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์สืบไป

    แล้วก็บอกว่าเป็นผู้ดูแลจัดการรักษากฏของสวรรค์ แล้วก็พูดถึงเทพมารที่มีจริง เป็นเทวดาที่มีบุญมากแต่มีความหลงในบางอย่าง คิดที่จะครอบครองสวรรค์ พวกผมก็เป็นผู้ปราบปรามเช่นกัน โดยมีการจัดตั้งกองทัพเหมือนในเรื่องรามเกียรติ์ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว

    แรกๆผมก็ฟังไปงั้นๆ ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่ฟังสนุกเท่านั้น แต่พอสิ่งปลอมแปลงพวกนี้เริ่มเห็นว่าพวกผมไม่เชื่อ จึงเริ่ม.........
     
  2. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    พวกนั้นเริ่มปลอมเป็นครูบาอาจารย์ที่พวกผมเคารพ คือเป็น หลวงพ่อโต หลวงพ่อจรัญบ้าง หลวงตามหาบัวบ้าง หรือปลอมเป็นยมบาลบ้าง

    แล้วจังหวะการใช้ถ้อยคำของเขาก็น่าเชื่อถือซะด้วย ภาพนิมิตก็ทำให้เห็นเด่นชัดซะอีก

    พวกผมก็ยังไม่เชื่อสนิทใจ แต่ด้วยการเล่าเรื่องเกี่ยวกับสวรรค์หรือนรกบางอย่างนั้นพวกผมก็ไม่รู้จริงๆ จึงหาข้อพิสูจน์ในบางอย่างไม่ได้ และด้วยเกรงว่า เกิดเป็นครูบาอาจารย์ท่านจริงๆอีกหล่ะ เท่ากับว่าเราปรามาสท่าน ไม่เคารพท่าน

    เพราะความกลัวตรงนี้เองจึงค่อยๆเริ่มคล้อยตามสิ่งที่พวกนี้พูด

    แล้วพวกนี้ก็เริ่มหลอกพวกผมว่า พวกผมเป็นผู้ที่อยู่สูง ห้ามไหว้ห้ามเคารพใครเด็ดขาดแม้แต่พ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ยกเว้นพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์

    แล้วก็บอกว่าพวกผมมีกายทิพย์อยู่บนวิมาน ดวงจิตที่มาเกิดเป็นมนุษย์นี้เป็นดวงจิตที่แบ่งออกมาเป็นส่วนเล็กๆเท่านั้น ดวงจิตเต็มๆอยู่บนวิมานโน่น

    ถ้าอยากมีฤทธิ์อำนาจเต็มที่บนโลกมนุษย์ให้กำหนดดึงดวงจิตข้างบนลงมาที่ร่างนี้ พวกผมก็ทำตาม

    แต่ด้วยที่ว่า พอทำตามที่พวกนี้บอกแล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีแต่ความร้อนรุ่มโหดร้าย มีอารมณ์โมโหอยู่เป็นนิจ

    จึงเริ่มเอะใจว่า ถ้าจะไม่ใช่ดวงจิตที่ดีเสียแล้ว ผู้ที่มีบุญมาก ผู้ที่ดูแลพระพุทธเจ้า ไม่น่าจะมีลักษณะจิตแบบนี้

    จริงๆแล้วผมมีการคิดใคร่ครวญในสิ่งที่เจ้าพวกนี้บอกมาตลอด ไม่เคยเชื่อเต็มร้อยซักครั้ง แต่ด้วยที่ว่าอย่างที่บอกไปแล้วว่า พวกนี้ปลอมเป็นครูบาอาจารย์ที่เราเคารพมาหลอก จึงทำให้วางความสงสัยลงไปก่อนทุกครั้ง

    จนเมื่อ นำจิตอีกดวงเข้ามา (ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นพวกอสุรกาย) ประกอบกับหลายๆสิ่งที่พวกผมแอบพิสูจน์และปรึกษากันอยู่เรื่อยๆ

    เจ้าพวกนี้รู้ว่าพวกผมจะรู้ความจริง สุดท้ายจึงปลอมเป็นพระพุทธเจ้า เสมือนว่าท่านมาบอกมาสอนธรรมด้วยพระองค์เอง

    พวกผมเลยหยุดความคิดต่อต้านไปโดยปริยาย

    จนกระทั่ง..............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    กระทู้คุณตั้มอันนี้ดีมาก ขอเผยแพร่ต่อ



    ถ้าโดนมารหลอก จะรู้ตัวได้อย่างไร ?<!-- google_ad_section_end -->​





    ถาม : ถ้าความดีกับความชั่วหน้าตาเหมือนกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าต่างกันตรงไหน ?

    ตอบ : ต่างกันตรงที่ผลลัพธ์ของการกระทำ ความชั่วจะชี้ให้เราเดินทางผิดอยู่ตลอด

    ถาม : ถ้าเราโดนมารหลอก เราจะรู้ตัวได้อย่างไรครับ ?

    ตอบ : จนกว่าจะมีปัญญามากกว่าตอนนั้น ถ้าปัญญายังเท่าตอนนั้นก็เสร็จเขาไปก่อน พอปัญญามากขึ้น ก็จะรู้ว่าตรงนั้นเขาหลอก เมื่อก้าวล่วงพ้นไป เขาก็จะหาสิ่งที่เนียนกว่านั้นมาหลอกใหม่อีก

    ถาม : แล้วนี่ผมโดนท่านหลอกอีกหรือเปล่าครับ ?

    ตอบ : โดนเต็มๆ กำลังหลอกให้ไปพระนิพพาน ดูซิว่าคุณจะไปได้ไหม ?

    ถาม : ถ้าโดนหลอกอยู่ตลอดแล้ว เราจะใช้ปัญญาพ้นจากตรงนั้นได้อย่างไรละครับ ?

    ตอบ : ต้องรอวาระกุศลเข้ามา พอวาระกุศลเข้ามา สติ สมาธิ ปัญญาทรงตัว ก็จะเห็นว่าที่เราเดินทางตรงจุดนั้นผิด หรือไม่ก็วาระกุศลเข้ามา ได้รับการทักท้วงจากผู้ที่มีกำลังใจสูงกว่า ซึ่งเห็นว่าเราเดินทางผิด แล้วเราเองก็เพิ่งจะยอมรับเป็นครั้งแรกว่าผิด เพราะก่อนหน้านั้นอกุศลครอบงำอยู่ ไม่เคยยอมรับว่าผิด ก็จะอยู่ลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ

    ถาม : เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือครับ ?

    ตอบ : เป็นมานับชาติไม่ถ้วน เราจะเห็นว่าสำคัญตรงบุญกุศล เพราะฉะนั้น..ถ้าเราสร้างบุญกุศลไว้ไม่ให้ขาดช่วง บุญกุศลหนุนนำอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา ก็เท่ากับเราใส่เกราะ แม้จะออกรบรบโดนอาวุธบ้างก็ไม่ถึงกับบาดเจ็บสาหัสนัก

    ถาม : (ไม่ได้ยิน)

    ตอบ : แค่ดูกำลังใจของเราก็รู้ ยังมีรัก โลภ โกรธ หลงอยู่ไหม ? มีอิจฉา ริษยา อาฆาตพยาบาทอยู่ไหม ? ทั้งที่กำลังใจของเรารู้ว่า เขาทำอย่างนั้นเป็นเพราะอกุศลกรรมชักจูงเขา แต่การกระทำของเขามากระทบกระทั่งเรา เราก็พยายามให้อภัยเขา แต่เนื่องจากว่ากำลังใจเรายังต่ำอยู่ คิดให้อภัยเขาไปพักหนึ่ง เดี๋ยวก็คิดว่า “มันว่ากูนี่หว่า” ตัวโทสะกำเริบขึ้นมาใหม่ ตัวอาฆาตพยาบาทก็ “เดี๋ยวกูจะเอาคืน” ไปเรื่อยแหละ

    แต่พอนึกขึ้นมาใหม่ก็ “เออ..อภัยให้เขาเถอะ” จะยื้อกันไปยื้อกันมา จนกว่ากำลังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเหนือกว่า ทีนี้ก็จะลากยาวไปเลย



    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๕


    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ - หน้า 6 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


    http://palungjit.org/threads/ถ้าโดนมารหลอก-จะรู้ตัวได้อย่างไร.355814/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  4. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    พวกนั้นหลอกพวกผมว่า บนสวรรค์โดนพวกเทพมารยกทัพมาถล่มแล้ว ถ้าเมื่อไหร่ที่สวรรค์โดนพวกเทพมารยึดครอง เมื่อนั้นโลกจะถึงกาลวิบัติ ให้รีบกลับขึ้นไปช่วย แล้วก็ปลอมเป็นเทพต่างๆมาอวยพรบ้าง มาขอให้รีบขึ้นไปช่วยบ้าง ปลอมตั้งแต่เทวดาจนถึงพรหม

    จะให้ไปช่วยอย่างไรหล่ะ

    ก็ใช้วิธีถอดจิตขึ้นไป ทิ้งร่างไว้ชั่วคราว (แต่พวกผมทำกันไม่เป็น)

    หรืออาจจะตายไปเลยก็ได้แต่ใช้วิธีถอดจิตแบบที่พวกเขาแนะนำ

    แต่ก่อนจะไปให้ทำใจให้ทิ้งทุกอย่างของโลกให้ได้เสียก่อน

    หลังจากนั้น 3 วัน ก็ได้เวลาที่จะทำ พร้อมกับมาเร่งว่า ฝ่ายดีใกล้จะพ่ายแพ้แล้วให้รีบขึ้นไปช่วยด่วน

    ช่วงเวลานั้น จะเป็นเทพสลับกับพระพุทธเจ้าบ้าง ครูบาอาจารย์บ้าง มาบอกมากล่าว

    เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าพวกนี้ให้พวกผมมารวมกันในห้องพระ (ลืมบอกไปว่า ทุกอย่างทุกขั้นตอนตั้งแต่แรกที่เจอเจ้าพวกนี้ทำที่ห้องพระโดยตลอด)

    วิธีการคือ ให้กลั้นลมหายใจแล้วกำหนดให้เห็นเป็นดวงจิตค่อยๆเคลื่อนออกจากกายเรื่อยๆจนกระทั่งขาดใจตาย ดวงจิตก็จะหลุดออกมาเอง

    พวกผมทั้ง 3 คน ผลัดกันทำคนละทีสองทีก็ทำไม่ได้ คือพอกลั้นไปถึงจุดจุดหนึ่ง เหมือนกับว่าจะถึงที่สุดแล้ว จะเหมือนมีอะไรไม่รู้มาถีบตัวเองกระเด็นออกไป ทำให้การกลั้นหายใจสะดุด ทำต่อไม่ได้ เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง

    จนเหนื่อย และรู้สึกเพลียเป็นอย่างมากจากการขาดอากาศหายใจหลายๆครั้ง จึงหยุดทำกัน

    (ช่วงระหว่างก่อนที่จะให้กลั้นหายใจตายนี้ พวกนั้นจะหลอกให้พวกผมอยู่กันจนดึกดื่นหรือสว่างไปเลย ไม่ให้นอน เพื่อให้เพลียมากๆ)

    และแล้วความจริงก็ปรากฏ เมื่อผมได้มีโอกาสได้ไปกราบขอคำปรึกษาครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพท่านหนึ่ง

    พวกผมจึงปฏิเสธการรับรู้กับเจ้าพวกนี้ และโกรธเกลียดอย่างมาก แล้วก็เลิกปฏิบัติสมาธิแบบนั้นไปเลย

    แต่ผลสรุปสุดท้ายที่ผมได้มานั้น มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง...................

    เอาไว้ต่อพรุ่งนี้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  5. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อนุโมทนา สาธุ กับธรรมทาน และจุดประสงค์ในการช่วยเหลือผู้อื่นของท่านครับ ขออภัยที่ต้องแทรกความเห็นโดยไม่ทันรอให้ post ครบเสียก่อน

    ฝากข้อนึงไว้ให้พิจารณาครับ
    "ธรรม สภาวะธรรมทั้งหลาย ล้วนเป็นเรื่องจริง แต่อุปาทานทั้งหมดทั้งปวง ไม่มีสิ่งใดจริง"
    ไม่ได้แปลว่าจะแย้งว่าสิ่งที่ท่านเห็นนั้นไม่ใช่ของจริงนะครับ
    แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในทุกโลก ทุกภพภูมิ เป็นสิ่งสมมติทั้งหมด
    พระธรรมของพระพุทธองค์ มีเพื่อขจัดให้สิ้นซึ่งอุปาทาน เป็นวิชาเพื่อนำออก คลายออก ไม่ใช่เพื่อนำเข้า และยึดถือ ครับ
     
  6. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ว๊าวววว ว๊าวววว ว๊าววววว

    สวดดด สวดดดด ปัยเลยยยยยย

    สติ อยู่ใหน ในใจเธอ(k)
     
  7. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    สมาธิจิต ฝึกเพื่อละ เพื่อปล่อย เพื่อวาง จะปลอดภัย

    แต่ถ้าฝึกเพื่ออยากได้ เพื่ออยากมี เพื่ออยากเป็น จะอันตราย มีโอกาสถูกมารเข้าแทรกเยอะ

    มารเป็นอณูพลังงานละเอียดสายฤทธิ์ หลอกได้ ปลอมได้สารพัดรูปแบบ ถ้ามาแต่เสียง ยิ่งง่าย รึแม้แต่มาให้เห็นรูป นั่นก็ไม่เหนือความสามารถ พวกนี้แปลงรูปเก่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    สังเกตุคำสอน..และเอกลักษณ์เฉพาะการพูดของผู้ที่สอนเป็นหลัก..และก็ตรวจสอบกับอาจารย์ก่อนในเบื้องต้นว่าจริงๆไม่จริงๆ จะทำให้สังเกตุแยกแยะได้บ้างพอสมควร..แต่ก็อย่างว่าคับ..มันคล้ายกันมากจนแยกไม่ออกจริงๆ..แตกต่างกันนิดเดียวเอง...
    ขอบคุณครับ
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    เพราะความที่ไม่รู้ธรรมจริงจึงโดนหลอกจนเกือบตาย
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Supop<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6617925", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    เดี๋ยวผมไปค้นของผมที่ตอบไปในกระทู้อื่นไปบ้างแล้ว เพราะมันคล้ายกันครับ มารน่ะถ้าเรายิ่งสูง มันยิ่งมาลอง แล้วลองไม่ ซ้ำเสียด้วย นั่งคุยกันเป็นวันคงไม่จบง่ายๆหรอกครับ และอีกประการหนึ่ง เราจะแน่ กว่าพระอรหันต์หรือ พระอรหันต์ ยังโดน ในสมัย พระอุปคุต ดูแล ที่จะมีการทำสังคายานา พระไตรปิฎก ครั้งแรก พระยามารยัง แปลงกายมาเป็น พระพุทธเจ้า เลย ให้พระพอุปคุต ดู ทั้งๆพยามาร บอก อย่าไหว้ ท่านน่ะ พระอุปคุต ยัง หลงไหวเลยครับ

    :cool:กระทู้นี้ถือว่ามีประโยชน์มากๆสำหรับพวกนักปฏิบัติ สำคัญตัว ว่าได้มรรคผล หรือเป็นผู้มีฤทธิ์ หรือเก่งกว่าผู้อื่นครับ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    .รออ่านต่อครับ อนุโมทนาธรรมที่มีประโยชน์นี้ด้วยครับ สาธุ
     
  11. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ดีครับ ที่นำมาแชร์เตือนสติกัน หากยังไม่สิ้นกิเลส ยังถูกมารหลอกได้เสมอล่ะ

    บางกลุ่มคน อาจจะเข้าใจว่าตนเป็นผู้ปัดระเบิด ปัดซึนามิ ภัยพิบัติต่างๆ เป็นต้น

    หรือเห็นนั้นเห็นนี่ ทั้งที่ตนยังมีกิเลสตัดสังโยชน์ยังไม่ได้
    ความต่างของผู้สิ้นกิเลส กับผู้มีกิเลสนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
    เมื่อยังมีกิเลสและไม่รู้ทัน ว่าถูกมารหลอก จากนั้นก็หลงไปเลย (อภิสังขารมาร)

    ดังที่หลวงพ่อท่านหนึ่งเคยกล่าวสอนไว้
    อภิญญามีสภาพไม่เหมือนกัน จาก คำสอน พระราชพรหมยาน

    ฝากไว้ครับ ขอบคุณครับ ผิดพลาดอย่างไรขออภัย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 สิงหาคม 2012
  12. sanbung

    sanbung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +156
    มีปัญญา ก็มีแสงสว่าง

    สมมุติว่าตนเป็นเทพ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือกว่าใครๆ มนุษย์หนอช่างน่าละอาย เกิด แก่ เจ็บ ตาย เรามีเท่านั้น




    ทุกสรรพสิ่ง เกิดจากจิต(good)(good)
     
  13. นิลขาว

    นิลขาว ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +961
    สาธุ กระทู้นี้ดีจัง ไว้มีเวลาว่างมากกว่านี้จะเล่าให้เพื่อนๆอ่าน เป็นเนื้อหาคล้ายๆแบบนี้จ๊ะ.
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อ่านกันดีๆ นะ

    เมนไอเดีย ของเรื่อง หรือ อธิปัจจัย หรือ ปัจจัย ใหญ่ ที่สุด ที่เป็น หัวเรื่อง
    ทั้งหมดคือ...............


    "การเป็น กลุ่มบุคคล คณะ หรือ ผู้ปกป้อง พุทธศาสนา"

    นั่นแหละ "ทิฏฐิ" ที่เกิด ผุดขึ้นในจิต

    มันมีที่ใคร !! อยู่ก่อน

    จะไป โทษ มาร ไม่ถูกหลอก ...................................

    พิจารณากันด้วย................


    พอ...........มี "ดำริ" เป็น เรือน หรือ ตาลยอดไม่ด้วน มารเขาก็แค่ หยอกเอิ้น
    ให้แสบๆ คันๆ เพื่อ หลอกซ้อนหลอกให้คุณๆ ดำริ ไปว่า มารมาแกล้ง

    แล้ว ลืมนะ ลืมไปเลยว่า ใครหละ ที่สร้าง "ทิฏฐิ" "ดำริ" บางอย่างขึ้นมา
    แล้ว รู้เท่าไม่ทัน ไม่ถึงพร้อมเฉพาะซึ่ง ทิฏฐิ นั้น !!

    ไปหลงโทษ มาร อยู่ละก้อ ห่างไกล !! โดนมารมันซ้อนกลแล้วหละ

    ************

    ถ้า เข้าใจนะ คณะ อุปค้ง อุปคุด คู้หมดแหละ ..........

    มันต้องมาแก้ที่ .............. ก่อน !!
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:เพราะความที่ไม่รู้ธรรมจริงจึงโดนหลอกจนเกือบตาย:cool:
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Supop<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6617925", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->
    ผมไปหาไม่เจอไม่รู้ผมตอบในกระทู้ของใคร มาเล่าใหม่ดีกว่าครับ เล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆก่อนครับ หลวงปู่เนียม ท่านเป็นพระอรหันต์ ใกล้ยุคปัจจุบัน ท่านยังโดยผีแทงตูดเลยครับ และเรื่องจริงอีกเรื่อง นางฟ้าท่านปลอบตัวมา ทำความทำความสอาดให้ ที่อยู่ของพระมหากัสปะเถระ ถึงสองครั้ง ครั้งที่สาม ถึงได้รู้ ว่าเป็นนางฟ้า

    มาเล่าเรื่องของผมเลยครับ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ ผมได้ทำการบวชพระที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และไปจำพรรษาอ่ยู่ที่ สำนักสงฆ์ พุทธธะอรัญญาวาส อ.ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันต์ และ ในเวลานั้น ณ กาลล่วงเลยมาจนถึงกาลบัดนี้ สำนักนี้ ได้ถูกเปลี่ยน ชื่อไปอีก สองครั้งๆที่ ๓ ตั้งชื่อใหม่ จนถึงปัจจุบัน ชื่อว่า วัดวังยาว ต.ทับใต้ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้ ค่ายทหารธนรัตน ตรงเฉียงเขาหลากฉลาม มีหมู่บ้านเล็กๆครับ ปลูกสัปรด เสียส่วนใหญ่ และอ้อยบ้าง มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า เมื่อผมมาจากนครปฐม และอยู่ปฏิบัติธรรมมาได้ ครึ่งเดือนเห็นจะได้ ในระหว่างการปฏิบัติ ผมจะรวบรวม สมาธิได้เร็ว และสงบ และได้อารมย์ ที่ผมทำถึง ที่สุด ในยามสามนั้น ผมได้นิมิตรไปว่า ผมได้สำเร็จมรรคผลแล้ว จบกิจในพระพุทธศาสนา ไม่ต้องทำอะไรอีก จบกิจอยู่พรหมจรรย์ สิ้นแห่งทุกข์ ทั้งปวงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก และในนิมิตรนั้น ห้ามมิให้ผมพูดกับ พระผู้ใดในวัดนั้น ถึง ๕-๖ องค์ ให้พูดได้แค่ องค์เดียว เขาชื่ออู๊ด แต่บวชพระในสมัยนั้น ตอนนี้เขาได้ข่าวว่าไปอยู่ อินเดีย สำนักแม่ ชีบงกฎ

    และได้ อนาคตังสญาต ระลึกชาติได้ เคยเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มาก่อนในอดีดชาติ จะเห็นภาพลางๆคล้ายๆตะวันจะตกดินครับ เป็นเทวดาบ้าง คนในสมัยต่างๆบ้าง วัวควายบ้าง ม้าบ้าง อะไรพวกเนี้ย ได้ทิพยจักษุญาณ ญาณ ๘ เวลานั่งก็นั่งได้นานๆหลายชั่วโมง อยู่ด้วยธรรมปิติ กำลังสมาธิบ้าง อิ่มเอิบ ทรงอารมย์แทบทั้งวัน จนกระทั่ง ครึ่งเดือนผ่านไป จนผม ไม่แน่ใจในตัวเอง หลายประการ ก็นำเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมนี้ ไปถาม พ่อครูทัน รุจิเรข อ.จารย์ฝ่ายฆราวาส ของผม แถวๆปราณหรือ จ.ประจวบจะเชิญท่านไป ทำการขึ้นศาลพระภูมิบ้าง พระเชิญไปปลุกเศก วัตถุมงคลบ้าง คล้ายๆ ขุนพันธ์ เป็นเจ้าพิธีต่างๆบ้างครับ ท่านเก่งทีเดียว ตอนเช้าๆ ก่อนตี ๔ ท่านจะมานั่งเพ่งกสินไฟทุกๆวัน และคอยช่วยรักษา พวกที่ถูกคุณไสย คุณผี มนต์ดำต่างๆ มาให้ดูหมอบ้าง อย่าลืมว่าท่านเคย เป็นครูสอนนักเรียนมาก่อนครับ ท่านมีของมากมายที่จะให้เราเรียนครับ

    เมื่อผมเล่าให้ท่านฟังจนหมด ผมถามท่านว่า การที่เรา ได้แบบที่ว่า ถ้าเรา ทศสอบดู ว่าเป็นจริงดังว่าไหม และทำให้น้ำอสุจิเคลื่อนจะสังฆาทิเสสไหม อันนี้เพียงแต่ถามนะครับไม่ได้ทำจริงๆ และเล่าเรื่องต่างๆให้ฆราวาสฟัง จะขาดจาก ความเป็นภิกษุ ไหม อะไรทำนองเนี้ยครับ สนทนากัน เป็นครึ่ง วัน จึงลาท่านกับ สำนักครับ แต่ผมไม่ได้ เล่ารายละเอียดให้ พวกท่านทั้งหลายฟัง จนจบนะครับ เล่าค่าวๆ มันเยอะอ่ะครับ มาปรึกษาหารือกัน อันนี้ไม่จัดอยู่ใน ข่ายอะไรเลย ท่านสอนให้มีสติรู้เท่าทันมันครับ มันเป็นมารปลอมตัวมาหรอกเรา ให้เราหลง เชื่อ และคุยถึง เรื่องนิมิตรต่างๆ นิมิตรจำเป็นต้องละ นิมิตรจำเป็นต้องรักษา ในสมัยครั้งพุทธกาล ก็โดนหรอกเยอะแยะไป บางทีอารมย์ฌาณ มันกดอารมย์ไว้ กิเลสก็ไม่เฟื่องฟู นึกว่าตัว จบกิจ เป็นพระอรหันต์ ออกมากมาย ไม่ใช่จะมีในยุคนี้เท่านั้น

    เมื่อฌาณมันกฎ อยู่ ฌาณเสื่อมเมื่อไหร่ นั่นแหละถึงจะรู้ ว่าตัวเองได้ไม่ได้ แต่ถ้าตาม รู้ทันมัน ก็ไม่มีอะไร มันก็ผ่านพ้นไป ถ้าไม่ผ่านก็หลงไปตามมัน ถ้าเสมอมัน หรือต่ำกว่า มารจะไม่มาลอง ถ้าสูงกว่า มารก็จะไปลอง เลื่อยๆ ตามขั้น ความรู้ ภูมิธรรมนั้นๆ มาอยู่ วัดได้ไม่กี่วัน ทำสมาธิ จนสงบ ดิ่ง อยู่ๆ มันก็พรั่งพรู ออกมาว่า มึง ไปคุยกับฆราวาส อวดอุตริมนุษย์ ธรรมคือธรรม ที่ไม่มีอยู่ในตน โอ้โฮ ได้ธรรม ไปคุยกับฆราวาส มึงขาดจากความเป็นภิกษุแล้ว ความเป็นพระไม่มีเหลือ อุตส่าบอก ไม่ให้ไปคยกับใคร นอกจากพระองค์นี้องค์นี้องค์ เดียว เชื่อไหมพี่น้อง สมาธิที่เคยสงบ กับกระวนกระวายบอกไม่ถูก ใจคิดไปตามมันหมด มันมาแบบชนิด ตั้งตัวไม่อยู่ เลยครับ อัตอั้นตันใจ ไม่รู้จะไปเล่าอาการ ให้ใครฟังครับ หดหู่สิ้นดี จิตเริ่มกลัวในสิ่งต่างๆมากขึ้น เรื่อยๆ จนกลายเป็นกลัว จิตวอ๊กแว๊ก วกวน ออกพรรษา ก็มาอยู่ถ้ำ ราชบุรี อ.ปากท่อ หาประสพการณ์ มาอยู่ โอ้พี่น้อง มันเล่นงานอยู่เลื่อยๆครับ นี่ยิ่งเล่น แรงครับ มันมาโยกกุฏิ สั่นคลอนทั้งหลัง ทุบกุฏิดังๆ ตีบ้าง ตอนเราทำสมาธิ สงบๆ ครับ มีอยู่คราว หนึ่ง ใกล้มืดครับ

    ผมเดินขึ้นไปบนศาลา มันเล่น ทำให้ศาลา สั่นทั้งหล้ง ผมเกือบล้มลงทั้งยืนเลย ผมเริ่มกลัวครับ นี่พ่อเล่นกัน ต่อหน้าต่อตา เล่นกันดิบๆ ผมขึ้นไปคนเดียว ทำให้ผมเกิดอาการกลัว ก็รีบ ลงจากศาลา หลังใหญ่ๆนั้น ต่อมาผมไปกราบหลวงปู่ ครูบาธรรมชัย จ.เชียงใหม๋ ท่านให้ยา แผน โบราณกับผมมา แก้ โรคหัวใจ โรคประสาท และอย่างอื่นอีก ประ ๔-๕ อย่าง หลังจากกินยาไม่นาน โรคก็หาย ความกลัวเริ่มไม่มีเลย แหมมันเล่น เราแทบจะเป็นบ้าเลย นะ และกลายเป็นโรคหลายอยางถ้าไม่ได้หลวงปู่ ครูบาธรรมชัย คงแย่ไปอีกนานครับผม เรื่องมีอีกเยอะมีโอกาศจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ครับ นี่เล็กๆน้อยๆเท่านั้น มารมันมาหลายรูปแบบถ้าตามมันไม่ทัน เราก็ไม่ผ่านและอยู่ใต้อำนาจของเขาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เออ แหนะ เออ แหนะ

    อาศัยจังหวะ มาเปิด ร้านขายยา เว้ยเฮ้ย !!

    งานนี้ มาร สับขาหลอก เป็น หมอโฮจุน
     
  18. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    มารแปลงเป็นพระพุทธเจ้าได้จริง แต่ต้องไม่ลืมว่า
    อย่าเหมาไปเสียหมด ว่าคนที่เห็นพระพุทธเจ้า ต้องแปลว่าโดนมารหลอกเสมอ

    เป็นเรื่องเล่าที่มีประโยชน์ต่อนักปฏิบัติมากครับ
    :cool:
     
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ลองพินาดูนะครับ ท่าน จขกท

    ถ้าเป็นผม ผมจะ ฝึกทางนั้นต่อ

    เพราะอะไร

    เพราะ มันเป็น มรรค ที่ทำให้ คุณ จำแนก ธรรมได้ ว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่

    หาก ปราฏกลักษณะอาการ จำแนก แยกแยะ ธรรมได้ นั่นแปลว่า คุณภาวนา
    ได้อยู่ ไม่ใช่ ไม่ได้ !!!

    นี่ถ้าเลิกฝึกทางนี้ แล้วไปเปลี่ยนทางอื่น จะรู้ได้ไงว่า ไม่โดนซ้อนแผน ด้วย
    "ทิฏฐิ" ที่ตัวเองดำริขึ้นมาเอง ซ้ำสอง ( กิเลสละเอียด อันมีปัจัยมาจาก
    ธรรมปราณีต พวกนี้ ไม่ได้ เจอกันง่ายๆ นะ ... เจอโทษะมูลจิตอันเกิดจาก
    ธรรมปราณีต เจอแล้ว ลืมยกวิปัสสนา ก็ช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่ มันต้องพิจารณา
    อย่างเดิม จิตมีโทษะก็รู้......จิตไม่มีโทษะ ก็รู้ ..........)

    อวิชชา มันเกิด มารไม่ได้เป็นคนสร้าง เขาแค่ มาปิดบัง อำพราง เพื่อให้คุณ
    เข้าใจผิด แล้ว เปลี่ยนหนทาง !! ทั้งๆ ที่ จำแนกแยกแยะ ธรรมได้ อยู่ !!

    ดังนั้น หากยังจำแนกธรรมได้อยู่ ก็ไม่ควรทิ้ง ควรทำซ้ำๆ ลงไป

    แต่..........ถ้ายังไม่มีกำลัง เอะใจ ร่าเริง ใน สรณะคมณ์ พอ ท้อถอยต่อ
    ศรัทธาที่มีต่อพระพุทธองค์ แล้วจะหาอย่างอื่นมาเป็น ที่พึ่งที่อาศัย แทน
    ไตรสรณะคมณ์ไปก่อน ก็ไม่ว่ากัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  20. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    อืมม...น่าสนใจ คำแนะนำนี้ครับ...แต่ อยากให้ เสริมว่า พึงศึกษา เรื่อง สติ ที่ท ทัน เหตุการณ์..สภาวะ ต่างๆ ไว้ให้ดี..การ มั่นคงใน สติ มันล้าง อุปัทวเหตุได้ ทุกอย่าง..จิต จะปลอดภัยแน่ๆ...

    ผม ว่า หัด เจริญสติ ควบไปมากๆ แล้ว กรรมฐาน ที่ ทำอยู่ ก็ อย่าทิ้ง น่าจะ เข้าท่ามาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...