ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    สวัสดีค่ะ น้องมิก แค่แจ้งความประสงค์ในการร่วมบริจาก ก็ถือว่าอยู่ในผู้ที่บริจากท่านหนึ่งแล้วค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณมิกด้วยนะค่ะ


    จันทรกาล
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ...ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ

    พี่เพิ่งฟื้นไข้ค่ะ หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาหลายวันค่ะ :z1

    สำหรับพี่เคยพบสมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าเมื่อหลายปีก่อนค่ะ (ขณะนั้นยังไม่รู้จักมโนมยิทธิค่ะ) ครั้งแรกฝันว่า บริเวณที่บ้านเก่า ที่จ.สุรินทร์(ปัจจุบันเป็นวัดแล้วค่ะ) มีบริเวณกว้างมาก มีผู้คนกำลังจะทำบุญ ต่อมามีเจ้าหน้าที่บอกให้ ทุกคนจัดแถว โดยมีอุปัฏฐากคนหนึ่ง ต่อพระหนึ่งรูป ทุกคนมีพระภิกษุอุปัฏฐากหมด ยกเว้นพี่:':)'(

    ขณะที่เก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น มีพระภิกษุเหาะมาจากกลางอากาศ พร้อมพระภิกษุทั้งสองข้าง กายท่านใหญ่มาก ทรงจีวรสีเหลืองทอง(คล้ายจีวรพระวัดท่าซุง)
    ในที่สุดท่านก็มาปรากฏตรงหน้า

    เมื่อพระองค์นั้นมาถึงเจ้าหน้าที่ให้ทุกคนก้มกราบ เมื่อเงยหน้ามา พบว่า ท่านคือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้กล่าวกับพี่ว่า..

    "อย่าลืมมรณานุสตินะลูก"

    แล้วก็ตื่นขึ้น ภาพพระพักตร์ผิวขาวอมชมพู ปากสีแดง กายใหญ่โตพี่ยังจำได้เสมอ ตอนนั้นไม่ทราบว่า ท่านคือพระองค์ใด

    จากนั้นเป็นแปลกที่เวลาพี่มีปัญหาใด พี่มักจะนึกถึงความตาย และคิดว่า "หากเรามีจิตเศร้าหมอง ตายตอนนี้เราคงไปไม่ดีแน่ เราต้องรีบทำใจใส ๆ เข้าไว้ พระท่านบอกให้นึกถึงความตายอยู่เสมอ"

    จนได้มาฝึกมโนมยิทธิ สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านพาไปกราบ

    เมื่อกราบแล้ว ท่านก็กล่าวว่า "จำพ่อได้มั๊ย? ที่เคยพบกันนานมาแล้ว" และท่านก็ให้เห็นภาพเดิม จึงทราบว่า แท้จริงท่านคือ พระพุทธกัสสปพุทธเจ้า

    ผลบุญในการให้ธรรมทานนี้ ลูกขอน้อมถวายแด่สมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า สมเด็จพระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมครูพาไปกราบพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น รวมทั้งการเปิดภูมินาคพิภพให้เป็นธรรมทานแด่สาธุชนรุ่นหลัง

    ขอน้อมถวายบุญเพื่อเป็นพุทธบูชา สาธุ...

    ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานกับน้องน้ำตาลอีกครั้งค่ะ ที่นำประสบการณ์มาเล่าเป็นธรรมทานค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2012
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสหัสนัยสัจจ์บรมจักร ตอนจบ..

    ในช่วงเวลาที่เหล่าพระฤาษีทั้งหลายออกจากสมาบัตินั้น พญาโภคนาคราช ขณะนั้นได้มีพระโอรส-ธิดาแล้ว ๘ พระองค์ คือ พญาอัคคีตาปะโพธิสัตว์ -ศศิมาณวิกา -ตติมาณวิกา -อัครนาคราช ปัญจมาณวิกา–สัตยาสิทธิ์นาคราช - ท่านสัตตมาณวิกา- ปุญญมาณวิกา หรือรักขมาณวิกา
    แต่ขณะนั้นสัตยาสิทธิ์นาคราช และปุญญมาณวิกา ได้จุติไปแล้ว (ไม่ขอกล่าวรายละเอียด ณ.ที่นี้)
    ต่อมาปุญญมาณวิกา หรือรักขมาณวิกาได้จุติจากดาวดึงส์เป็นบุตรสาวของปุตตกานต์เศรษฐี นามว่า ปราญชลี และภายหลังถูกวิมุตติเศรษฐี ขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
    ภายหลังพญาโภคนาคราชได้ทราบข่าวการจุติของพระธิดาองค์ที่ ๘ จึงได้ให้พญาอัคคตาปะพระโอรสองค์โตเป็นผู้ติดตาม จึงได้ทราบเรื่องการมาจุติของพระพุทธเจ้า พระนามว่า “สมเด็จพระพุทธวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า”
    สร้างความปิติแก่พญาอัคคีตาปนาคราชเป็นอย่างยิ่ง หลังจากได้บอกความเป็นมาแก่ปราชลี และชักชวนให้ไปเที่ยวนาคพิภพ
    ปราญชลีจึงได้ขออนุญาตบิดามารดาบุญธรรม เดิมทีภรรยาเศรษฐีไม่ยินยอมเกรงว่า จะสูญเสียบุตรบุญธรรมไปอีกคน ภายหลังพญาอัคคีตาปะให้คำสัญญาว่าจะส่งนางมาคืน โดยมอบดวงแก้วมณีประจำกายไว้เป็นตัวแทน และพาปราญชลีลงไปยังนาคพิภพ เพื่อบอกข่าวการบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าแก่พญาโภคนาคราช พญาโภคนาคราช จึงได้ไปกราบเรียนพญาภุชงค์นาคราช ต่อมาได้ให้พญาอัคคีตาปะ และอัครนาคราชไปกราบเรียนเหล่าฤาษี ผู้เป็นพระอาจารย์ และให้กราบเรียนเชิญท่านเหล่านั้น ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าตามวันนัดหมาย
    พญาภุชงค์นาคราช ขณะนั้นได้ดำรงตำแหน่งแห่งจอมกษัตริย์แห่งพญานาคราชทั้ง ๗ เมือง ได้แทรกแผ่นดินขึ้นไปอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

    “ข้าฯ แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กระหม่อมได้ทราบถึงพุทธานุภาพแห่งพระองค์ ขอพระองค์ได้โปรดไปสงเคราะห์แก่เหล่านาคราชทั้งหลายในนาคพิภพเพื่อยังประโยชน์แก่ผู้ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ยังอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ ขอพระองค์ได้โปรดเสด็จไปยังนาคพิภพ ด้วยเถิด

    อีก ๗ วันข้างหน้า ข้าพระองค์ฯ จะมีผู้นำราชรถ และขบวนรับเสด็จมารับพระองค์ และพระสาวกพระพุทธเจ้าข้าฯ”

    สมเด็จพุทธวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนิ่งโดยสดุดดี เท่ากับว่ารับการอาราธนาในครั้งนั้น จากนั้นพญาภุชงค์นาคราชได้เรียกประชุมเหล่ากษัตริย์นาคทั้ง ๗ เมือง และเหล่าพระสหายทั้งหมด โดย..

    พญาโภคนาคราช กษัตริย์แห่งเมืองปุรมณีรัตน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็น หนึ่งในพระสหาย ผู้รับหน้าที่ไปรับเสด็จองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมพระสาวก

    ส่วนพญาศิรสีห์นาคราช และพระสหายอีก ๔ องค์ ทรงรับหน้าที่บอกกล่าวงานบุญแก่พญานาคราชทั้งหมด พระสหายองค์อื่น ๆ เป็นผู้ใช้ฤทธิ์ในการบันดาลทิพยวิมาน อาหารทิพย์ และอื่น ๆ ต่อไป

    ส่วนเหล่าพระฤาษีทั้งหลาย กาลนั้นมีพระโพธิสัตว์หลายตน ที่จุติมาเป็นพระฤาษี เช่น พระเกษรีฤาษี พระอัศดงฤาษี พระนิลปัตตฤาษี พระอินทรปัตต์ฤาษี พระสัจจฤาษี พระศงอังคฤาษี เป็นต้น

    เมื่อถึงกำหนด พญาโภคนาคราช และท่านอัคคีตาปะนาคราช ได้นำขบวนแห่รับเสด็จองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสาวกอย่างสมพระเกียรติ

    กาลนั้น มีมนุษย์สามารถลงไปเมืองบาดาลได้โดยปลอดภัยจากพิษนาค เนื่องจากมนุษย์ยุคนั้นมีศีลบริสุทธิ์ จึงได้มีมนุษย์มากมายไปร่วมพิธีดังกล่าว

    พญาภุชงค์นาคราช และเหล่ากษัตริย์นาคทั้งหลายได้ ถวายภัตตาหารถึง ๗ วัน เมื่อครบกำหนดแล้ว สมเด็จพระพุทธวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ให้คำพยากรณ์ว่า..

    “นับแต่นี้ไป ๙๑ กัป พญาภุชงค์นาคราชนี้ จะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า “พระสมณโดคมพุทธเจ้า” <O:p></O:p>
    ยังความปลาบปลื้มใจแก่เหล่านาคทั้งหลาย มนุษย์เทวดา และพญานาคทั้งหลายต่างโมทนาสาธุการ

    กาลนั้นพระสัจจฤาษีได้นำดวงแก้วสหัสสนัยสัจจ์ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา และได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าว่า

    “กาลต่อไป พระสัจจฤาษีจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล”
    เมื่อสิ้นการตรัส มีมนุษย์ และพญานาคทั้งหลาย ต่างก็โมทนาสาธุการกันไปทั่ว นอกจากนี้ยังมีพระโพธิสัตว์ รวมทั้งผู้ปรารถนาอื่น ๆ ได้รับการพยากรณ์รวม ๗๐๐๐ องค์

    ในวันนั้นเหล่านาคานาคีนับโกฏิได้เข้าถึงไตรสรณคมน์ บางพวกไปจุติบนสวรรค์ชั้นต่าง ๆ บางพวกก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ ตามกำลังบุญของตน และมีผู้ปวารณาตนมากมาย เพื่อจะบังเกิดขึ้นในสมัยที่พญาภุชงค์นาคราช ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา จนกว่าจะครบ ๕,๐๐๐ ปี
    ส่วนพระสัจจฤาษีได้นั้น อธิษฐานเจริญอิทธิบาท ๔ ทรงอายุให้ถึงกาลตรัสรู้ของพระพุทธสมณโคดม และได้รับการพยากรณ์อีกครั้ง
    จบประวัติดวงแก้วสหัสสนัยสัจจ์ แต่เพียงเท่านี้ค่ะ
    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ<O:p
    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2012
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ขอเฉลยผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ค่ะ ..

    พระสัจจฤาษี = พระโภชนยามาโพธิสัตว์

    สหสันธุเศรษฐี = คุณam12
    สหสิกมานพ = คุณ octt

    เจ้าหญิงสิรินยา = คุณ kanus
    รักขมาณวิกา , ปราญชลี = Numsai

    ส่วนคุณเทวบุตร ชาตินั้นเป็นพญานาค นามว่า "ศุภชาตนาคราช" ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพระสัจจฤาษีค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ
    Numsai
     
  5. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พี่น้ำใสเจ้าขา อย่าลืมประวัติพระขรรค์ภาคสองนะจ้ะ
    ดีใจที่พี่หายไข้ค่ะ คราวหน้าอย่าหักโหมมากจนลืมรักษาสุขภาพนะคะ


    เอาใจช่วยค่ะ .... สาธุ ขอโมทนาบุญกับธรรมทานของพี่ด้วยค่้ะ
     
  6. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


    จันทรกาล
     
  7. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    DSC05097.JPG

    วันนี้ได้รับเพชรพญานาคของคุณ เจษฎา แล้วค่ะสวยงามมากๆเลย ขออนุโมทนาบุญ
    กับคุณเจษฏาและครอบครัวด้วยนะคะ ขอให้อานิสงค์ของการร่วมบุญในครั้งนี้ ส่งผลให้มีแก้วแหวนเงินทองไม่ขาดสาย สาธุ
     
  8. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ขออนุโทนาบุญกับคุณเจษฎาและครอบครัว ด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    เพชรพญานาค สวยงามม๊ากๆ ใสปิ้งๆๆเลย สันฐานก็สวยๆ ทั้งนั้นค่ะ


    จันทรกาล
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ไม่ทราบว่า เป็นบุญหรือเป็นวิบากค่ะ ทุกอย่างไม่ได้ตั้งใจ แบบมาเร็วไปเร็ว ปีนี้เป็นปีที่ต้องฝึกขันติอย่างมากค่ะ

    แต่งานทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ แต่พอเสร็จงานตัวเองก็ฟุบเลย :z1

    เรื่องประวัติพระขรรค์ไม่ลืมหรอกค่ะ รวมทั้งประวัติดวงแก้ว และจักรของหลาย ๆ ท่านที่ยังค้างอยู่นะคะ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาล ทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ...บทส่งท้าย ประวัติดวงแก้วสหัสสนัยสัจจ์...

    2012-09-11 16.37.13-1.jpg

    หลังจากพุทธทำนายของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้าแล้ว มนุษย์และพญานาคในยุคนั้นต่างก็เวียนว่ายตายเกิดไปตามบุญบารมีของตน

    แต่มีพญานาคราชส่วนหนึ่งที่ยังคงทรงอิทธิบาท ๔ คงอัตภาพเป็นพญานาคราชอยู่ คือ ตระกูลแห่ง..พญาโภคนาคราช พญาศรีสรรเพ็ชรนาคราช และพญาอัศดงนาคราช ที่ยังคงทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากท้าวสักกเทวราช ซึ่งเป็นคนละองค์จากสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสี

    ครั้นเมื่อถึงก่อนยุคสมเด็จพระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้า มีอดีตพญานาคบางตนได้กลับมาจุติเป็นพญานาคอีกครั้ง

    ส่วนพระเกษรีฤาษี พระอัศดงฤาษี พระอินทรปัตต์ฤาษี และพระสัจจฤาษี เป็นต้น ได้ทรงอิทธิบาท ๔ รอการจุติของพญาภุชงค์นาคราชที่จะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านามว่า.. พระพุทธสมณโคดม

    ดังจะได้เล่าในประวัติพระขรรค์ ๙ สี ภาค ๑ และภาค ๒ ต่อไป...


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai

    ปล.ขอนำประวัติพระขรรค์ ๙ สี ภาค ๑ มาให้อ่านอีกครั้ง เพื่อความต่อเนื่อง สำหรับท่านที่ไม่ได้ติดตามอ่านตอนต้นค่ะ
     
  11. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เย้ ๆๆๆ แอบปาดค่ะพี่ เพื่อความตื่นเต้นเร้าใจ
    อิอิอิ ขอโมทนาบุญล่วงหน้านะคะ
     
  12. boy40

    boy40 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +564
    ขออนุโมทนาในธรรมทานของพี่น้ำใสครับ เพิ่งได้ทราบว่าตนเองเคยเป็นลูกศิษย์ของ พระสัจจฤาษี ฟังชื่อท่านแล้วรู้สึกผูกพันธ์อย่างประหลาดครับ เดี๋ยววันนี้จะตั้งใจสมาทานพระกรรมฐานถวายบุญกุศลทั้งหมดไปให้ท่านครับ
     
  13. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    อยู่ๆ ก็นึกออก อ่านประวัติ แต่ละดวงแก้วมามาก เดี๋ยวรวบรวม เก็บไว้ เอาไปเล่าเป็นนิทานให้ลูกฟังก่อนนอน แจ่มเลย @^_^@

    แต่ตอนนี้ยังไม่มีลูกอ่ะจิ ซ้อมไว้ก่อน อิอิ
     
  14. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ประวัติพระขรรค์ปัญจาฤทธิไกร(สีแดง) และพระขรรค์สัตยาไตรภพ(สีเหลือง) ตอนที่ ๑

    ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ....
    เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ขออนุญาตพี่น้ำใส
    นำประวัติมาลงให้อ่านกันอีกครั้งเพื่ออรรถรสในการรับชมเจ้าค่ะ ....


    <table id="post6573934" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">[​IMG] 21-08-2012, 06:09 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #5 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> Numsai [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 42
    ข้อความ: 3,271
    Groans: 23
    Groaned at 7 Times in 7 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 16,363
    ได้รับอนุโมทนา 25,833 ครั้ง ใน 2,787 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1548 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6573934" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>ประวัติพระขรรค์ปัญจาฤทธิไกร(สีแดง) และพระขรรค์สัตยาไตรภพ(สีเหลือง) ตอนที่ ๑

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    [​IMG]

    ย้อนหลังไปก่อนสมัยพุทธกาล(พระพุทธสมณโคดม) ๓๘๐๐ ปี(~๖๓๕๕ ปี) มีนครบาดาลหนึ่งนามว่า“สัตตวิริยนคร” มีพญาสัตยาบรรณนาคราชผู้เป็นใหญ่ในนครแห่งนั้น เป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ ปกครองบ้านเมืองด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา

    พญาสัตยาบรรณ เป็นพญานาคตระกูลสีรุ้ง มีพระมเหสีนามว่า พระนางชมพูนาถเทวี เป็นพญานาคตระกูลสีเขียว มีพระโอรส ๒ พระองค์คือ “ศุภราชนาคราช” และ “ศุภสีห์นาคราช” พระโอรสทั้งสองได้จุติพร้อมกันในวันเดียวกัน แต่มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน หลังจากจุติ และได้เขฌาณสมาบัติเป็นเวลา ๑๕ วัน(ภพบาดาล)แล้ว พญาสัตยาบรรณได้ส่งไปเรียนกับพระฤาษีคนละสำนัก

    ศุภราชนาคราช มีอุปนิสัยห้าวหาญ ชอบความท้าทาย และไปมาอย่างไร้ร่องรอย ได้ถูกส่งไปฝึกวิชาไหมฟ้า จากพระฤาษีทรงธรรม ณ. สุวรรณบรรณพต วิชาไหมฟ้านั้นสามารถ ทำให้ศัตรูมองไม่เห็นตัว และใช้ไหมฟ้าทำลายศัตรูได้ในพริบตาเดียว นับเป็นพัน ๆ พระโอรสศุภราชนี้มีความเชี่ยวชาญวิชานี้มาก นอกจากนี้ยังมีพระขรรค์อาญาสิทธิ์เป็นอาวุธประจำกาย จะปรากฏต่อเมื่อต้องการใช้งาน

    ส่วนศุภสีห์นาคราช มีอุปนิสัยโอบอ้อมอารีย์ มีความเมตตาสูง ไม่ชอบการรบ จึงถูกส่งไปเรียนวิชาสรรพสัตว์นิทรา จากพระฤาษีบุพพเวทย์ แห่งทิพยนคร ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพญาสัตยาบรรณนาคราชนั้นเอง วิชานี้สามารถทำให้ศัตรูหลับใหลถึง ๓ วัน ๓ คืน และจะทำให้ศัตรูหมดแรงไป

    นอก จากพระโอรสทั้งสองจะได้ร่ำเรียนวิชาจากพระดาบสแล้ว ยังได้ร่ำเรียนวิชาจากพญาสัตยาบรรณ เช่น วิชาแปลงกาย วิชาย่อกาย-ขยายกาย เรืยกลม เรียกฝน บังคับลม-น้ำ และอื่น ๆ เป็นต้น เมื่อพระโอรสทั้งสองสำเร็จวิชาต่าง ๆ ท่านก็ให้ทำหน้าที่คือ>>
    ศุภ ราชนาคราช มีหน้าที่ฝึกซ้อม และคุมกองทัพแก่เหล่ากองทัพนาคทั้งหลาย ส่วนศุภสีห์นาคราช มีหน้าที่ดูแลคลังสมบัตินาค และค้นหาทรัพย์ที่ปราศจากเจ้าของมาเก็บไว้ในคลังของเมือง เมืองสัตตวิริยนคร จึงมีแต่ความสุขสงบเรื่อยมา

    โปรดติดตามตอนที่ ๒ ต่อไป

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามชม และร่วมประมูลค่ะ
    Numsai
    </td></tr></tbody></table>
     
  15. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    <table id="post6577401" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">
    </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right">
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> Numsai [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 42
    ข้อความ: 3,271
    Groans: 23
    Groaned at 7 Times in 7 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 16,363
    ได้รับอนุโมทนา 25,833 ครั้ง ใน 2,787 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1548 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6577401" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>ประวัติพระขรรค์ปัญจาฤทธิไกร(สีแดง) และพระขรรค์สัตยาไตรภพ(สีเหลือง) ตอนที่ ๒ ..

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> กล่าวถึงนครบาดาลอีกแห่งหนึ่ง นามว่า ชลปัทมนคร มีพญาปัญจเมศวร์ เป็นผู้ครองนคร พญาปัญจเมศวร์ เป็นพญานาคตระกูลสีเขียว มีมเหสีนามว่า “ศิวาราณเทวี” เป็นพระขนิษฐาของพญาสัตยาบรรณนาคราช ทรงไม่มีพระโอรส มีแต่พระธิดาทั้งสิ้น ๖ องค์ มีนามว่า รัตนกาญจน์ –จันทรศิริ - ศิวาลักขณ์ –รักขปุญญา-สินานาถ-และรังสิมานาเทวี เป็นองค์สุดท้อง พระธิดาทั้งหก ต่างก็มีความงามเหมือนกัน


    แต่นางรังสิมานาเทวี นั้นมีความงามยิ่งกว่านางมาณวิกาตนใด นางมีผิวกายดุจไข่มุก มีกลิ่นกายหอมดุจนางอัปสรสวรรค์ เวลาแย้มสรวลดอกไม้บริเวณใกล้เคียงจะเบ่งบานไปทั่ว

    อัน ความงามนั้นของนางกล่าวขวัญ ทำให้เหล่านาค ยักษ์ คนธรรพ์ และครุฑ ต่างปรารถนาอยากได้นางมาเป็นมเหสี แต่นางรังสิมานาเทวี หาได้มีจิตปรารถนาอยากจะมีคู่ไม่ นางฝักใฝ่ที่จะประพฤติธรรมมากกว่า นางได้อุปัฏฐากพระฤาษีตนหนึ่ง นามว่า สัจจฤาษี และด้วยเห็นแก่ความกตัญญู พระฤาษีจึงได้สอนวิชาการรบ และอื่น ๆ ความทั้งวิชาพันหน้าให้แก่นาง โดยที่พญาปัญจเมศวร์ไม่ทราบเลย

    ต่อ มามีคนธรรพ์ตนหนึ่งได้เห็นความงามของนางรังสิมานาเทวีแล้วแต่งเป็นบทเพลง สรรเสริญความงามของนาง ใครได้ยินเพลงนี้จะมีความหลงใหลความงามแม้ไม่เคยพบเห็นนางก็ตาม เขาเที่ยวดีดพิณร้องเพลงไปทั่ว จนกระทั่งพญาครุฑผู้เป็นใหญ่ผู้หนึ่งนามว่า “สหัสสนัยเวณฑุ” ได้ยินเพลงนี้ ใคร่ปรารถนานางรังสิมานาเทวี มาเป็นคู่ครอง จึงได้เหาะมาจากวิมานของตน พร้อมไพร่พลครุฑจำนวนหนึ่ง ตรงไปที่เมือง ชลปัทมนคร ทันที

    เมื่อไปถึงเมืองสร้างความตื่นตระหนกแก่เหล่านาคทั้งสอง เสียงของท้าวสหัสสนัยเวณฑุ ดังกึกก้องว่า..

    “วันนี้ เรามาดี เราปรารถนาที่จะได้นางรังสิมานาเทวีมาครองคู่ ขอเพียงท่านมอบนางให้แก่เรา เราจะไม่ทำร้ายพลเมืองของท่าน เราหลงรักนาง แม้ไม่เคยเห็นหน้านางก็ตาม”

    พญา ปัญจเมศวร์ได้ยินดังนั้น จึงกล่าวว่า ขณะนี้ธิดาของเรานั้นไม่อยู่ที่เมือง นางได้ไปอุปัฏฐากพระฤาษีอยู่ที่ถ้ำ อันห่างไกล เราขอถามความสมัครใจของธิดาของเราก่อน จึงจะให้คำตอบได้

    พญาสหัสสนัยเวณฑุ แม้ เกิดความไม่พอใจที่พญาปัญจเมศวร์ได้กล่าวถ้อยคำที่ไม่ได้แสดงถึงความเคารพตน และมีท่าทีว่าจะไม่ยอมยกธิดาให้ จึงพยายามข่มใจไว้ และกล่าวว่า....

    “ได้ เราจะมารับคำตอบอีก ๗ วันข้างหน้า” แล้ว ก็พาบริวารครุฑทั้งหลายบินกลับไป ส่วนพญาปัญจเมศวร์นาคราชนั้น ได้ให้บริวารไปตามนางรังสิมานาเทวี เพื่อถามความสมัครใจ นางได้กล่าวว่า...

    “ ข้าฯแต่พระบิดา หากหม่อมฉันรับคำไป ก็เปรียบเสมือนการเป็นขบถต่อตระกูลนาคของเรา เพราะเหล่าครุฑมักกินเราเป็นอาหาร อีกประการ หากหม่อมฉันต้องไปอยู่ที่เมืองนั้น ผู้ใดจะรับรองความปลอดภัยจากนางครุฑทั้งหลายจะไม่ฆ่าหม่อมฉัน

    อนึ่ง บุรุษนั้น มักหลงใหลสตรีด้วยตัณหา แต่ไม่นานความหลงใหลนั้นก็เสื่อมไป ไม่มีความมั่นคงถาวร การที่พญาครุฑปรารถนาหม่อมฉัน เพื่อเพียงแสดงศักดาว่า มีอำนาจเหนือผู้อื่น หาใช่รักหม่อมฉันด้วยใจจริงไม่
    ข้าฯพระบิดา แม้ตัวตาย หม่อมฉันจะไม่ยอมเป็นมเหสีของพญาครุฑเด็ดขาดเพคะ

    พญา ปัญจเมศวร์ได้ยินพระธิดากล่าวเช่นนั้น ก็ทรงคิดว่า พระองค์มิทรงปรารถนาจะให้ยกนางให้แก่พญาครุฑแต่อย่างใด จึงคิดวางแผนกับเหล่าเสนาพญานาคทั้งหลาย เวญจพลเสนานาค ได้เสนอว่า..

    “ข้าฯ แต่พระองค์ หม่อนฉันคิดว่า เราควรขอกำลังจากพญาสัตยาบรรณนาคราช มาช่วยการรบในครั้งนี้เถิดพระเจ้าข้า ฯ พญาสัตยาบรรณนั้น ทรงมีพระโอรสถึง ๒ พระองค์ พระองค์ อาจจะส่งพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่งมาช่วยเราก็เป็นได้”

    พญาปัญจเมศวร์ได้ฟังดังนั้นก็เห็นด้วย จึงกล่าวว่า..

    “อย่าง นั้นท่านและคณะช่วยเป็นราชทูต ไปกราบทูลท่านสัตยาบรรณ ถึงความจำเป็นของเราเถิด เหลือเวลาเพียงเล็กน้อย พญาครุฑจะมารับคำตอบนั้น”

    จากนั้นเวญจพลเสนานาคได้นำราชทูตอีก ๔ ตนไปยังเมืองสัตตวิริยนครทันที (ยังมีต่อ..)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆท่านด้วยค่ะ
    Numsai
    </td></tr></tbody></table>
     
  16. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    <table id="post6598418" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">Numsai [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 42
    ข้อความ: 3,271
    Groans: 23
    Groaned at 7 Times in 7 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 16,363
    ได้รับอนุโมทนา 25,833 ครั้ง ใน 2,787 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1548 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6598418" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>..ประวัติพระขรรค์นาคราช ๙ สี..ตอน ๑

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> ภาค ๑ ประวัติพระขรรค์สีแดง สีเหลืองทอง และสีเขียวเข้ม ตอน ๓

    เมื่อ ถึงเมืองสัตตวิรยนคร เวญจพลเสนานาค ได้ส่งพระราชสาส์นให้แก่พญาสัตยาบรรณนาคราช เมื่อท่านได้ทราบแล้ว จึงมอบหมายให้ศุภราชนาคราช เป็นแม่ทัพ พร้อมเหล่านาคาทั้งหลายนับแสนตน เดินทางไปพร้อมกับเวญจพลเสนานาค เมื่อถึงเมือง ชลปัทมนคร จึงได้วางแผนการรบร่วมกับพญาปัญจเมศวร์นาคราช โดยไม่ให้พญาครุฑทั้งหลายทราบถึงแผนการ โดยให้ศุภราชนาคราช เวญจพลเสนานาค และกองทัพนาคทั้งปวง ตั้งทัพอยู่บริเวณรอบนอก จากนั้น ศุภราชนาคราช ทำหน้าที่เข้าสมาบัติเพื่อใช้วิชาไหมฟ้าซ่อนกายตนเอง และกองทัพนาคไว้ โดยเหล่าครุฑทั้งหลายไม่อาจรู้ได้

    ครบ กำหนด ๗ วันตาม พญาครุฑสหัสสยเวณฑุ มาพร้อมกับเหล่าครุฑนับแสน ได้ขอคำตอบจากได้ พญาปัญจเมศวร์นาคราช และทราบว่า พญาปัญชเมศวร์ไม่ยอมยกพระธิดาให้ตนก็ทรงพิโรธมาก จึงทำการต่อสู้ เพื่อแย่งชิงพระธิดารังสิมานาเทวีทันที
    ทราบ ถึงศุภนาคราช และเวญจพลเสนานาคที่ซุ่มอยู่นั้น จึงได้โอบล้อมเหล่าครุฑทั้งหลาย ศุภราชนาคราช ได้ใช้วิชาไหมฟ้าพรางกายตน และกองทัพนาค ไล่ฆ่าเหล่าพญาครุฑทั้งหลาย จนพญาสหัสสนัยเวณฑุได้พ่ายแพ้กลับไป
    สร้าง ความยินดีแก่เหล่านาคทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง พญาปัญจเมศวร์ได้เรียกให้รางวัลแก่ศุภราชนาคราช จึงได้ตรัสโดยทรงยกพระธิดาองค์ใดองค์หนึ่งแก่ศุภราชนาคราช ศุภราชนาคราช มีความพอพระทัยพระธิดาสินานาถ องค์ที่ ๕ ตั้งแต่แรกพบ จึงรับพระธิดาสินานาค เดินทางกลับเมืองด้วย
    เมื่อ กลับมาถึงสัตตวิริยนคร พญาสัตตยาบรรณ มีความปิติยินดีในการชนะสงครามครั้งนั้น จึงได้ทำพิธีอภิเษกสมรสให้แก่ศุภราชนาคราช และพระธิดาสินานาถในกาลต่อมา ในวันนั้น พระองค์ทรงมอบพระขรรค์นาคราช สีแดง แก่ศุภราชนาคราช เพื่อเป็นรางวัล

    พญาสัตยบรรณกล่าวว่า พระขรรค์สีแดงนี้ นามว่า พระขรรค์ปัญจาฤทธิไกร ได้จากพระอินทรปัตต์ดาบส ผู้เป็นพระอาจารย์ ได้มอบให้เมื่อสำเร็จวิชาต่าง ๆ เมื่อ ๕๐๐ ปีที่ผ่านมา ทรงเก็บไว้นาน เห็นว่า สมควรมอบแด่พระราชโอรส เพื่อเป็นกำลังใจ ศุภราชนาคราช ปลื้มปิติยินดีมาก
    ส่วน ศุภสีห์นาคราชได้นำทรัพย์สมบัติที่ตนหามาได้ใหม่ มามอบแด่พระเชษฐา เพื่อเป็นของขวัญในวันแต่งงาน เมืองนี้จึงอยู่ด้วยความร่มเย็นมาอีกหลายปี(ยังมีต่อ...)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
    </td></tr></tbody></table>
     
  17. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    <table id="post6598508" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">Numsai [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 42
    ข้อความ: 3,271
    Groans: 23
    Groaned at 7 Times in 7 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 16,363
    ได้รับอนุโมทนา 25,833 ครั้ง ใน 2,787 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1548 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6598508" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>..ประวัติพระขรรค์นาคราช ๙ สี..

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    ภาค ๑ ประวัติพระขรรค์สีแดง สีเหลืองทอง และสีเขียวเข้ม ตอน ๔

    [​IMG]
    กล่าวถึงเมืองชลปัทมนคร หลังจากเสร็จสิ้นสงครามครั้งนั้น ผู้ที่ได้รับความดีความชอบจากพญาปัญจเมศวร์มากที่สุด คือ เวญจพลเสนานาค พญาปัญจเมศวร์ได้ยกพระธิดาองค์โต คือ รัตนกาญจน์ ให้แก่เวญจพลเสนานาค พร้อมทั้งมอบพระขรรค์สีเขียวเข้ม นามว่า พระขรรค์เวทยมันตรัย ให้แก่เวญจพลเสนานาค แสดงถึงการสืบทอดพระราชสมบัติ

    พระ ขรรคฺเวทยมันตรัยนี้ หลังจากพญาปัญจเมศวร์ได้รับจากพระอินทรปัตต์ดาบสผู้เป็นพระอาจารย์ได้พกติด ตัวตลอดเวลา วันหนึ่งพระองค์ได้ไปเข้าเฝ้าท้าวสักกเทวราข จึงได้ถวายแด่ท้าวสักกเทวราช หรือพระอินทร์ แสดงถึงความเคารพเลื่อมใสศรัทธา ท้าวสักกเทวราชนั้น ทรงทราบด้วยทิพยจักขุญาณว่า จะมีผู้ที่ได้ครอบครองต่อจากพญาปัญจเมศวร์ในอนาคต และพระขรรค์นี้จะช่วยปกป้องภัยอันตรายแก่เมืองได้ พระองค์จึงมอบคืนแก่พญาปัญจเมศวร์ และกล่าวว่า..

    พระขรรค์นี้ให้เก็บไว้ก่อน จะมีผู้มีบุญญาธิการ และมีปัญญาสูง จุติในเมืองของท่าน จะมารับช่วงต่อจากท่าน วันนั้นท่านจะทราบเอง"

    ซึ่งขณะนั้นเวญจพลเสนานาคยังไม่จุติ เมื่อ มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมืองของพระองค์พ้นภัยได้ด้วยปัญญาของเวญจพลเสนานาค จึงมอบให้ไว้เป็นของคู่บารมี และพระองค์ได้จัดพิธีอภิเษกสมรสแก่พระธิดารัตนกาญจน์ และเวญจพลเสนานาค หลังจากศุภราชนาคราช อภิเษกสมรส และเมืองนี้ก็อยู่ด้วยความสงบสุขเรื่อยมาอีกหลายปี (ยังมีต่อ..วันพรุ่งนี้)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai

    </td></tr></tbody></table>
     
  18. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ..ภาค ๑ ประวัติพระขรรค์สีแดง สีเหลืองทอง และสีเขียวเข้ม ตอน ๕..

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    [​IMG]



    กล่าวถึงพระธิดารังสิมานา หลังสงครามสงบยังคงอุปัฏฐากท่านสัจจฤาษี และได้ร่ำเรียนวิชาพันหน้า และวิชาอื่น ๆ จากสัจจฤาษีจนสำเร็จ

    ท่านสัจจฤาษีนั้น เป็นศิษย์ของท่านอินทรปัตต์ฤาษี ซึ่งเป็นอาจารย์ของพญาสัตยาบรรณ และพญานาคจาตุรงค์นาคราช -ตระกูลสีรุ้ง ,พญาสุตตศีลนาคราช และพญาบรรณมาตย์นาคราช -ตระกูลสีทอง และพญาปัญจเมศวร์ พญาปัญจรส(เป็นพี่น้องกัน) พญาสุตรมงคลนาคราช พญาศิลปะมงคล และพญาโภคนาคราช จากตระกูลสีเขียว ได้มาศึกษาวิชาจากพระอินทรปัตต์ฤาษี ท่านได้สอนวิชาตามที่ศิษย์แต่ละตนเหมาะสมที่จะเรียน และทุกพระองค์ได้ของเป็นที่ระลึกคือ พระขรรค์ ๙ สี

    หลังจากกษัตริย์แห่งนาคราชทั้ง ๙ เมืองได้สำเร็จวิชาแล้ว ก็ได้สัญญากันว่า หากเมืองใดมีภัย ก็จะร่วมต่อสู้ช่วยเหลือกันโดยไม่มีข้อแม้ เมื่อมีเหตุในเมืองชลปัทมนครครั้งนี้ เมืองที่ใกล้ที่สุดคือ เมืองสัตตวิริยนคร” พญาปัญจเมศวร์จึงได้ขอความช่วยเหลือจากพญาสัตยาบรรณ

    ข่าว การทำสงครามระหว่างพญาครุฑและพญานาค และพญานาคเป็นฝ่ายชนะได้แพร่สะพัดไปทั่ว ทำให้พญาครุฑสหัสสนัยเวณฑุ ผู้พ่ายแพ้รู้สึกโกรธแค้น และต้องการเอาชนะ คิดว่า หากสบโอกาสจะนำทัพกลับมาตีเมืองชลปัทมนคร เพื่อชิงตัวพระธิดารังสิมานาอีกครั้ง

    กล่าว ถึงเมืองสัตตวิริยนคร หลังจากที่ศุภราช ได้อภิเษกสมรสแล้ว ต่อมาก็ได้แยกเมืองไปปกครองอีกเมืองหนึ่ง ส่วนศุภสีห์นาคราชนั้น ยังไม่รู้สึกพึงพอใจนางนาคมาณวิกาคนใด จึงขอพระราชบิดาออกศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม พระบิดาจึงส่งให้ไปศึกษาวิชากับสัจจฤาษี

    เป็น ครั้งแรกที่ศุภสีห์นาคราชได้พบพระธิดารังสิมานาเทวี หลังจากได้ยินกิตติศัพท์ความงามของนางมานาน เมื่อพบกันแล้ว ด้วยบุพเพสันนิวาส ก็ทำให้พระองค์เกิดหลงรักพระธิดารังสิมานาเทวีอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ได้แต่เก็บไว้ในใจลึก ๆ

    ส่วน พระรังสิมานานั้น แม้จะไม่ได้รังเกียจศุภสีห์นาคราช แต่เคยตั้งสัจจะไว้ว่า จะประพฤติพรหมจรรย์จึงได้แต่ตัดใจ ทำความรู้สึกเป็นเพียงพี่น้องกัน

    ใน ระหว่างนั้น ท่านศุภสีห์นาคราชนั้น ได้ศึกษาวิชานารายณ์แปลงรูปจากสัจจฤาษี สามารถแปลงกายเป็นสัตว์ชนิดใดก็ได้ แม้แต่พญาครุฑก็ตาม หากผู้นั้นไม่ได้มีวิชาที่เหนือกว่า จะไม่สามารถทราบได้เลย และได้ศึกษาวิชาเล่นแร่แปรธาตุ รวมทั้งวิชานพเก้าไตรกาลได้สำเร็จ ท่านสัจจฤาษีนั้น ได้ให้อธิษฐานพระขรรค์นาคราชมี ๑ องค์ เป็นพระชรรค์สีเหลืองทอง นามว่า พระขรรค์สัตยาไตรภพ มีความเด่นเรื่องโภคทรัพย์และปัองกันภัยจากพญาครุฑได้

    ก่อน ที่จะสำเร็จวิชา ท่านสัจจฤาษีได้พาศุภสีห์นาคราช และพระธิดารังสิมานาไปกราบผู้เป็นครูอาจารย์ คือ ท่านอินทรปัตต์ฤาษี เพื่อขอพร แม้ท่านอินทรปัตต์ฤาษีจะทราบเรื่องราวในอนาคต ก็ไม่อาจจะบอกกล่าวแก่ผู้เป็นลูกศิษย์ทั้งสองได้ จึงได้ให้พรว่า หากเธอทั้งสองปรารถนาที่จะครองรักกัน ขอให้สำเร็จในภพชาติต่อๆ ไป ในภพนี้รังสิมานาเทวี เกิดมาเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ และเพื่อแทนคุณครูบาอาจารย์ ขอให้เธอทั้งสองจงรักษาความดีที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ และเธอทั้งสองจะสมความปรารถนา(ยังมีต่อ..)

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
  19. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    <table id="post6604944" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">Numsai [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    อายุ: 42
    ข้อความ: 3,271
    Groans: 23
    Groaned at 7 Times in 7 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 16,363
    ได้รับอนุโมทนา 25,833 ครั้ง ใน 2,787 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1548 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6604944" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>ภาค ๑ ประวัติพระขรรค์สีแดง สีเหลืองทอง และสีเขียวเข้ม ตอน ๖..

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> หลัง จากได้รับพรจากท่านอินทรปัตต์ฤาษีแล้ว ศุภสีห์นาคราช และรังสิมานาเทวีได้กราบลาพระอาจารย์ทั้งสอง ศุภสีห์นาคราชได้พารังสิมานาเทวีไปส่ง และได้เก็บความลับที่นางได้แอบมาเรียนวิชาพันหน้ากับสัจจฤาษีไว้ไม่ให้ใคร ทราบ
    แม้ จะรักมากแค่ไหนศุภสีห์นาคราชก็พยายามหักห้ามใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน และจำคำที่พระอาจารย์บอกไว้ว่า ชาตินี้ตนไม่ได้ครองคู่กัน แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใด ระหว่างทางทั้งสองได้หยุดพักใกล้ริมลำธารกลางป่า ศุภสีห์นาคราช คิดว่า..

    เหตุ ที่ตนไม่สมหวังในความรักในชาตินี้นั้น อาจจะเกิดจากกรรมในอดีตที่ไปพลัดพรากคนที่รักกัน จึงนั่งสมาธิย้อนระลึกถึงบุญที่ตนกระทำมา ขอทราบเหตุแห่งกรรมนั้น พบว่า..

    ย้อน ไปในอดีตสมัยพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า ตนเคยเกิดเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองหนึ่ง มีพระมเหสีอยู่แล้ว แต่ได้มีความพึงพอใจในความงามของหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งมีคู่หมั้นหมายแล้ว จึงได้บังคับให้หญิงนั้นมาเป็นนางสนมของตน โดยหญิงนั้น และญาติไม่ได้ยินยอม และเป็นเหตุให้ชายผู้เป็นคู่หมั้นได้ตรอมใจตายก่อนเสียชีวิตชายผู้นั้นได้สาปแช่งเอาไว้ให้ต้องรับผลกรรมนั้น และพลัดพรากจากคนที่รัก

    เมื่อละโลกจากชาตินั้นก็ตกนรกไปหลายร้อยชาติ และใช้ส่วนของกรรมไปแล้ว ในชาตินี้เป็นเพียงเศษกรรมเล็กน้อย และชายที่ศุภสีห์นาคราชได้ไปแย่งหญิงคนรักมานั้น ในชาตินี้ก็คือ พญาสหัสสนัยเวณฑุนั่นเอง และพระมเหสีของศุภสีห์นาคราชในชาตินั้นก็คือ รังสิมานาเทวี นั่นเอง

    เมื่อ ศุภสีห์นาคราชได้ระลึกถึงกรรมชั่วที่ตนเคยทำแล้ว ก็ตั้งจิตขออโหสิกรรมแก่พญาสหัสสนัยเวณฑุ แต่ไม่ถึงเนื่องจากแรงอาฆาตยังแรงอยู่ ประกอบกับชาตินี้มีผลกรรมใหม่เพิ่มขึ้นมา ทำให้สหัสสนัยเวณฑุไม่อโหสิกรรมให้

    ศุภ สีห์นาคราชจึงได้ก่อทรายเป็นรูปเจดีย์ขึ้นมา แล้วชักชวนให้รังสิมานาเทวี นำดอกไม้ที่อยู่รอบริมลำธารนั้น มาประดับตกแต่งให้สวยงาม เพื่อบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีต แล้วอธิษฐานว่า...

    ข้าฯ แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า กรรมใดที่ข้าพเจ้ากระทำมาในอดีต ข้าพเจ้าระลึกเหตุแห่งกรรมนั้นได้แล้ว แม้ว่าในชาตินี้เจ้ากรรมของข้าพเจ้าจะกระทำใด ๆ ก็ตาม ข้าพเจ้าจะอโหสิกรรมให้ท่านนั้น และถวายชีวิตเพื่อเป็นพุทธบูชา

    ขอผลบุญที่ข้าพเจ้ากระทำนี้ ส่งผลให้คำสาปแช่งต่าง ๆ ของสหัสสนัยเวณฑุ จงอย่าได้มีผลแก่ข้าพเจ้าในชาติต่อ ๆ ไปเลย

    แล้ว ได้ทำการเวียนทักษิณารอบเจดีย์ทราย ๓ รอบ รังสิมานาเทวีได้เห็นดังนั้น จึงได้อนุโมทนาบุญที่ศุภสีห์นาคราชได้กระทำ และเกิดความปลื้มปิติใจ จึงกล่าวแก่ศุภสีห์นาคราชว่า

    เสด็จ พี่ ในชาตินี้น้องปรารถนาที่จะเกิดมา เพื่อประพฤติพรหมจรรย์ น้องตั้งใจถือสัจจะนั้นตลอดชีวิต หากชาติหน้ามีจริง น้องขอเกิดมาเพื่อเป็นคู่ครองของเสด็จพี่ แต่เพียงผู้เดียว ด้วยสัจจาวาจานี้

    ขอดอกไม้ที่เราทั้งสองได้ตั้งใจประดับเจดีย์ทรายนั้น จงไม่เหี่ยวแห้งจนกว่าเวลาจะล่วงไปถึง ๓ วันด้วยเถิด

    ทั้ง สองได้นั่งสมาธิระลึกถึงบุญที่ได้กระทำมา เป็นเวลา ๓ วัน เมื่อครบเวลา คลายออกจากสมาธิแล้ว ปรากฏว่า ดอกไม้ที่ประดับเป็นเวลา ๓ วันไม่เหี่ยวแห้งดังคำอธิษฐานของนาง

    จากนั้นศุภสีห์นาคราชจึงได้พารังสิมานาไปส่งยังเมืองชลปัทมนคร จากนั้นจึงได้ลากลับเมืองของตน (ยังมีต่อ..)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
    </td></tr></tbody></table>
     
  20. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ..ประวัติพระขรรค์ ๙ สี...

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    [​IMG]


    เมื่อ ศุภสีห์นาคราช กลับมาถึงเมืองสัตตวิริยนคร ได้เข้าเฝ้าพญาสัตยาบรรณนาคราช และได้นำพระขรรค์สีเหลืองถวายแด่พญาสัตยาบรรณ เพื่อแสดงความกตัญญู พญาสัตยาบรรณได้เก็บไว้ในพระคลังสมบัติของเมือง และมอบให้ศุภสีห์นาคราชดูแลดังเดิม

    ฝ่ายศุภราชนาคราช หลังจากได้อภิเษกสมรสกับพระนางสินานาถแล้ว ต่อมาก็ได้มีพระราชธิดา ๑ องค์นามว่า สิริวิมลมาลา นางมีความงดงามไม่แพ้รังสิมานาเทวี แต่ศุภราชนาคราช และพระมเหสีนั้น ได้เก็บเป็นความลับ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาคล้ายพระขนิษฐา และให้อยู่ในวังแก้ว มีหอคอยสูง ไม่ค่อยมีผู้พบเห็นนาง ยกเว้นพญาสัตยาบรรณ พระมเหสี ศุภราชนาคราช สินานาถเทวี ศุภสีห์นาคราช และนางนาคมาณวิกา ผู้รับใช้ไม่กี่ตน เกรงจะเกิดอันตรายแก่นาง

    กล่าวถึง พญาสหัสสนัยเวณฑุนั้น เดิมมีพระมเหสีนามว่า พระนางสิรินทราเทวีอยู่แล้ว และได้มีพระโอรส ๓ องค์นามว่า สหัสสนัยเวณไตยสวินฑุกะ และสไวยกันตา ทั้งสามเป็นพญาครุฑหนุ่มรูปงาม

    สหัสสนัยเวณไตย ผู้พี่ ไม่เห็นด้วยกับการที่พระราชบิดาไปนำนางนาคมาเป็นมเหสีเพียงแค่ความงาม โดยเฉพาะพระราชบิดาเกิดหลงใหลความงามของนางนาคมาณวิกา จึงรู้สึกไม่ค่อยพอใจยิ่งนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และไม่ได้ร่วมออกรบในครั้งนี้

    พญา สหัสสนัยเวณฑุ เมื่อรักษาตัวดีแล้ว จึงคิดจะไปทวงคืนกับพญาปัญจเมศวร์นาคราช เมื่อเห็นพระโอรสองค์โตไม่เห็นด้วย จึงได้นำพระโอรสองค์รอง คือ สวินฑุกะออก รบ หลังจากทราบข่าวว่า ศุภราชนาคราชได้แยกตัวออกไปตั้งเมืองใหม่คิดว่า ไม่มีใครสามารถนำทัพมาช่วยกับตนได้ จึงนำทัพพญาครุฑมาล้อมเมือง

    ขณะนั้นเวญจพลเสนานาคไม่อยู่ มีกิจไปต่างเมือง อยู่แต่พระธิดาทั้ง ๕ คือ รัตนกาญจน์เทวี-จันทรศิริ - ศิวาลักขณ์ –รักขปุญญา และรังสิมานาเทวี ผู้นำทัพออกรบคือ พญาปัญจเมศวร์ เมื่อความทราบถึงรังสิมานา ให้นาคาคนสนิทส่งข่าวบอกศุภสีห์นาคราช เพื่อให้มาช่วยเมืองของตน ส่วนรังสิมานาเทวีนั้น ได้ใช้วิชาพันหน้า แต่งกายเป็นชาย อาสาร่วมออกรบกับพระราชบิดา โดยพญาปัญจเมศวร์ไม่ทราบมาก่อนเลย และไม่ทันได้พิจารณา

    เมื่อ เผชิญหน้ากัน พญาสหัสสนัยนาคราชได้กล่าวคำท้าให้ยกพระราชธิดาให้แต่โดยดี แต่พญาปัญจเมศวร์ไม่ยอม จึงสู้รบกันถึง ๓ วัน ๓ คืน จนต่างฝ่ายต่างเสียกำลังพลไปเกินครึ่ง และในครั้งนั้น พญาปัญจเมศวร์ได้ถูกสวินฑุกะสังหารโดยใช้ฤทธิ์ เมื่อรังสิมานาเทวี(แปลงเป็นชาย) เห็นดังนั้น จึงสังหารสวินฑุกะทันที

    ส่วนพญาสหัสสนัยเวณฑุได้เห็นรังสิมานาเทวี(แปลง)ฆ่าสุวินฑุกะจุติ จึงเข้าทำร้ายรังสิมานา(แปลงเป็นชาย) ปางตาย เมื่อทำร้าย รังสิมา นาเทวีก็คลายฤทธิ์กลับสู่สภาพเดิม พญาสหัสสนัยเวณฑุตกพระทัย และเสียพระทัยมากที่พระองค์เป็นผู้ทำร้ายรังสิมานาเสียเอง ถึงกับบ้าคลั่งแล้วจุติทันที (มีต่อ..)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...