จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Kim_UoonSo

    Kim_UoonSo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +5,937
    [​IMG]

    มีหลายเรื่องในชีวิตที่คนอื่นเข้าใจเราผิด และเราก็ไม่สามารถอธิบายให้กับเขาเหล่านั้นได้หมด

    เรื่องบางเรื่องในสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้ดีแล้วแต่คนอื่นเขาเข้าใจผิด
    แต่เราก็ไม่สามารถตักเตือนหรือช่วยเหลือเขาได้หมด

    มันไม่มีอะไรสำคัญกว่าจิตตนแล้ว... ไม่มี
    เพราะฉะนั้นหากถามว่าวันนี้เราควรทำอย่างไรเมื่อเห็นเขาเหล่านั้นยังทุกข์ หรือยังเข้าใจในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือแม้กระทั่งเขายังไม่เข้าใจในตัวเรานั้น...เราก็ควรปล่อยวาง และคิดพิจารณาแต่จิตของตนเองให้มาก

    เราอธิบายให้คนอื่นเข้าใจหมดไม่ได้หรอกว่าเราเป็นคนยังไง เรากำลังทำอะไร และทำเพื่ออะไร

    แต่มีแต่เราเท่านั้นที่รู้จิต รู้ใจของตนเองดีที่สุด
    ต่อให้ใครจะพูดถึงเราอย่างไรก็ช่าง แต่เขาก็ไม่มีทางรู้ทุกอย่างในจิตเราตอนนี้หรอก, และถึงจะอธิบายไป ก็คงไม่มีใครเข้าใจอยู่ดี

    เพราะฉะนั้นเราอย่าได้ไปสนใจคำพูดคนอื่น หรือปลายเหตุเลย
    จงดูที่ต้นเหตุ ดูที่เรา แล้วจบที่เราก็พอ,

    กว่าจะเป็นเหล็กได้มันต้องผ่านอะไรมาเยอะ
    ขอจงเชื่อมั่นในความดีของตนเอง
    และทำในสิ่งที่ดีในปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด ก็พอ...


    จาก JitKohPhra Page
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,045
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    debate.

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ไม่ได้ดูเลยค่ะ เมื่อก่อนก็เลือกObamaแหละค่ะ เพราะทั้งคู่เป็นทนาย คงจะได้อีกแหละค่ะ ตอนดูก็เต้นไปกับเขาด้วย แต่ปีนี้กล ับเฉยๆค่ะ(โอย หายากจังเลย "ฉ"ฉิ่ง)ขอบคุณี่ถามถึงค่ะ({)
     
  3. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    สวัสดีค่ะพี่ภูและทุกท่าน วันนี้หนูพี่เพ็ญทานหนมได้แล้ว ^^กลัวผอม อิอิ

    ขอบคุณพี่พอใจและพี่ต้อยที่ยกให้ทั้งเหล็กทั้งสเตนเลส

    ชั่ง(ขาย)ได้หลายกิโลแต่ นน.หนูขายม่ายล่ายมีใครจะช่วยแบกไหม เอิ้กๆ
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อย่าไปเสียเวลาคิดว่าจะต้องมีคนอื่นมาเข้าใจหรือเห็นใจเราเลย
    คิดกันใหม่เสียว่า ขอให้เราเข้าใจตนเองก็น่าจะเพียงพอแล้ว
    เพราะความสุขคนอื่นที่มีอยู่ทั่วโลกนั้น มันเทียบไม่ได้กับความสุขที่อยู่ภายในจิตของตนเองเลย

    ผับผ่าให้ตายเถ๊อะ โรบิ้นนนน
    นี่ดูดีกว่าเยอะเลยนะ..ตะเอง...ลองทำกันดูดิ

    ภู..ธรรมะวันละคำ

    ปล.จิต(บุญ)พร้อมหรือยัง? นิพพานรอบแรก มีใครบ้างจะออกเดินทาง...
    แต่ถ้าจิตบุญท่านใด มีความประสงค์จะต่อวีซ่าตนเอง(อายุขัย) ได้โปรดทรงอิทธิบาท๔ โดยการตั้งสัจจะกับท่านพ่อเอาเองว่า จะขอทดแทนโดยการมาเป็นครูสอนจิตเกาะพระ หรือมาช่วยยกจิตของลูกหลานของพระพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ ขึ้นพระนิพพานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าทำไม่ทันหรือไม่ทันการณ์ ก็แจ้งความประสงค์มาที่พี่ภู จะยกให้นะ เพราะไม่อยากอยู่นาน มันอิ๊ดดดน่ะ
    แต่พี่ภู จะให้เฉพาะจิตบุญเท่านั้น แต่จะต้องตั้งสัจจะกับท่านพ่อก่อนว่าจะขอเป็นครูสอนจิตเกาะพระก่อนนะ เพราะพี่ภูขอสละทุกสิ่งเพื่อกับ คำว่า "พระพุทธศาสนา" หรืองานยกระดับจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2012
  5. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    คุณภูคะ มีคนไม่เข้าใจหลายคนค่ะ
     
  6. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    พี่ภูคะ หมายความว่าสมัครเป็นครูสอนเหรอคะ หรืออย่างไร
     
  7. Kim_UoonSo

    Kim_UoonSo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +5,937





    ที่พี่ภูกล่าว... เข้าใจว่า
    ท่านถามจิตบุญทุกท่านว่าอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับการสอนฯ หรืออยากกลับบ้านพระนิพพาน?

    ถ้าจิตบุญท่านใดอยากอยู่ต่อเพื่อสอน ให้ตั้งจิตอธิษฐานต่อท่านพ่อ
    ส่วนจิตบุญท่านใดเหลืออายุขัยน้อย แต่อยากสอน
    พี่ภูจะยกอายุขัยของพี่ภูให้กับจิตบุญท่านนั้น เพื่อพุทธศาสนา และเพื่อจิตบุญท่านนั้นจะได้ทำหน้าที่สอนต่อค่ะ

    (รึเราเข้าใจผิด? ฮ่าๆ รอพี่ภูมาเฉลยนะคะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2012
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สงสัยภาษาสมมุติผมนี่ สื่อไม่ได้เรื่องเลยนะ
    เอาใหม่ พูดใหม่นะ ตั้งใจฟังให้ดีๆ

    ผมหมายถึง คนที่รู้ตัวว่ามีอายุขัยตนเองเหลือน้อย แต่ยังอยากจะอยู่ต่ออีกสักระยะนึง หรือมีลมหายใจ พี่ภูบอกว่าให้ไปตั้งสัจจะกับท่านพ่อ โดยการมาช่วยกันสอนจิตเกาะพระ แต่ถ้าเห็นว่าหรือทำท่าจะไม่ทันการณ์ คือสอนdown line จิตไม่ทันยก ตนเองจะตายก่อน ก็ขอให้มาบอกกับพี่ภู เดี๋ยวพี่ภูจะยกอายุขัยของตนเองให้ แต่จะต้องเป็นจิตบุญเท่านั้นนะ และต้องตั้งสัจจะกับท่านพ่อก่อนว่า จะขอมีชีวิตอยู่เพื่อช่วยยกระดับจิตคน หรือที่ครูทั้งหลายกำลังทำกันอยู่นี่ไง๊ พอเข้าใจบ่!

    ปล.ผมไม่ได้อยากดัง ผมไม่ใช่พระเอก แต่ถ้าใครกล้าทำเพื่อท่านพ่อ ผมก็กล้าทำเพื่อคุณเหมือนกัน ที่พูดมาวันนี้ บางคนทำหน้างงๆว่า พี่ภูพูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย เอาเห่อ ผมพูดเผื่อมีจิตบุญอายุขัยใกล้จะหมด ผมก็เลยอยากเตือนพวกจิตบุญด้วยกัน ผมทำไปมิใช่หวังให้พวกท่านมาเป็นครูสอนจิตเกาะพระกันนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2012
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จิตบุญ เคยรู้สึกแบบนี้กันบ้างไหม๊ ว่า...
    เราเองอาจจะสวดมนต์ หรือฟังเทศน์ ฟังธรรมน้อยลงไป หรือไม่อยากจะไปถือศีล ๘ (บวชเนกขัมมะ)ที่วัดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อย่าได้สงสัยไปเลย เพราะว่า จิตมันเริ่มเข้าถึงความละเอียด หรือจิตมักจะทรงฌานบ่อยหรือเนืองๆ

    จิตบุญ เจ้าอยากมี อยากสร้างบุญใหญ่ตลอดเวลาหรือแทบจะทุกหายใจหรือแทบจะทุกขณะจิตกันไหม ก็ให้รีบสร้างสติมากๆกันสิ เพราะถ้ามีสติมากๆนั้น จะทำให้จิตนิ่งหรือจิตทรงฌานได้ไวดีมาก นั่นแหล่ะ! เขาเรียกว่า จิตอยู่แต่ในเขตบุญ เขตกุศลทั้งนั้นเลย แต่เมื่อไหร่ถ้าพวกเราเผลอสติ กิเลสก็จะเข้ามาแทนที่ทันที และนั่นก็หมายความว่า จิตของพวกเราก็ได้ไปตั้งอยู่ใกล้เขตอบายภูมิหรือนรกภูมิหรือว่าบาป โดยมิรู้ตัวแล้ว นี่แหล่ะ ที่เขามักเรียกว่า ผู้ประมาท นั่นเอง

    และในที่สุดแล้ว จิตบุญ จะรู้จักคำว่า ละความละเอียดได้ ก็ต้องละหยาบก่อน หรืออาจจะกล่าวได้อีกนัยยะนึง ก็คือ ละทุกข์ให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาละสุขกันทีหลัง หรือแม้นก่อนจะตายไป บุญก็ยังไม่ไปยึดเอา เพื่อทำจิตให้ว่างมากนั่นเอง เพราะหลังความว่างนั้น มันก็คือ วิมุตติสุข หรือพระนิพพานดีๆนี่เอง

    จากจิตที่เคยหยาบก็คือจิตไม่นิ่ง มาสู่จิตละเอียดก็คือจิตนิ่ง พอจิตนิ่งต่อไปก็จะกลายเป็นจิตเฉยก็คือจิตอุเบกขา แต่พอเฉยนานๆไป ก็จะกลายเป็นจิตมีเมตตา จิตเป็นกลาง และสุดท้ายก็จิตว่าง

    จิตว่างในที่นี้ก็หมายความว่า ว่างจากกิเลสทั้งปวง หรือจิตที่ไม่มีทั้งทุกข์ ไม่มีทั้งสุข สุดท้ายแม้นกระทั่งบุญก็ไม่เอา(ไม่บ้าบุญ เพราะกำลังใจเต็มเปี่ยม) แต่ก็ยังคงจิตว่างอย่างเดียว และเมื่อจิตยิ่งเข้าเขตความว่างๆมากนี้ จิตเขาจะมีความศักดิ์สิทธิ์ของเขาเอง ได้แก่ วาจาศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอภิญญาเก่าๆ มักจะแสดงออกหรือทำให้เห็น ให้รู้กันก็ตอนนี้แหล่ะ แต่จงระวังให้ดีๆนะ นิมิตนะ..นิมิต มันมีทั้งจริงและไม่จริง แต่ถ้าอันไหนเป็นจริง แล้วเราอย่าถือเอานิมิตอันนั้นเป็นจริง เป็นจังกันนะ รู้หรือเห็นอะไรก็ให้วางซะ ทำให้ผมนึกถึงจิตของคุณpuk777 ที่ไปรับสื่อมาว่า จิตอรหันต์ก็ต้องรู้จัก คำว่า ปล่อยวางให้เป็น
    (ถ้าผมจำไม่ผิด แต่ผมมิได้พูดเองนะ คำว่า อรหันต์เนี๊ย เดี๋ยวนี้พูดอะไรก็ต้องคิดก่อน เพราะยิ่งพูดมากก็ยิ่งจะผิดพลาดมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว และเดี๋ยวนี้ยิ่งมีคนเข้ามาดูเยอะแล้ว ผมก็ต้องระวังเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าใครตำหนิมา ผมก็พร้อมน้อมยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว)

    จบ.๒
     
  10. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819
    สาธุ สาธุ สาธุค่ะพี่ภู
     
  11. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819

    โมทนาสาธุค่ะ ตื่นเช้ามาได้อ่านธรรมะดีๆจากพี่ภู สุขกายสบายใจจังค่ะ สาธุค่ะ
    แหวว จบ.78
    ;aa47
     
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อาหารหลัก ๕ หมู่ คือ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคนเรา
    แต่อาหารหลักของจิตคนเรา ก็คือ สติ
    ส่วนฌานเปรียบเสมือนที่พักต่างอากาศของจิตเท่านั้น แต่บ้านเก่าของจิต(จิตเดิมแท้หรือจิตประภัสสร) ก็คือ พระนิพพาน จึงมิใช่ใน ๓๑ ภพภูมินี้

    เพราะฉะนั้น จิตใครจิตมัน จะต้องดูแลกันเอง อย่าปล่อยตามยถากรรม หรือปล่อยไปตามกฎแห่งกรรม กรรมนั้นไม่มีใครจะไปแก้กรรมให้กันได้ มีแต่ผ่อนหนักให้เป็นเบาหรือทำบุญหนีกรรม หรือสร้างบารมีหนีกฎแห่งกรรม หรือยกจิตให้เหนือขันธ์ ๕ เหนือเหนือโลก โลกกฎแห่งกรรมกันให้ได้ มิฉะนั้นไม่มีใครจะหนีกฎแห่งกรรมไปได้ ส่วนกรรมนั้นจะเขามทางประตูจากอายตนะ๖ ทั้งภายนอกและภายใน แต่จะตัดกรรมเด็ดขาดก็ตรงที่ ผู้ที่ฝึกจิตมาดีแล้ว กล่าวคือ เราไปหยุดกรรมใครไม่ได้หรอก แต่เราหยุดที่กรรมของตนเองได้ ด้วยการเจริญสติภาวนาหรือเจริญกรรมฐานทั้งสมถะและวิปัสสนา กรรมฐานอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องมาทำจิตเกาะพระ ขอให้ทำกันสำเร็จก็เพียงพอแล้ว อันนี้จะพูดถึงบุคคลที่ไม่สามารถเตรียมพร้อมเรื่องกายได้ แต่ขอให้เตรียมใจกันไว้แต่เนินๆ ถึงแม้ใครเตรียมกายพร้อมแล้ว แต่มิได้เตรียมจิตใจ ก็ถือว่าเป็นผู้ประมาท เช่นกัน ผมจะเน้นธรรมะกันสดๆร้อนๆนะ เพราะธรรมที่พวกเราเห็นกันน่ะ มันเกลื่อนกลาดแล้ว แต่อย่าไปลืมธรรมะของตนนะ ซึ่งมีอยู่ทุกลมหายใจ จิตบุญจะต้องมองเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมะให้หมด แล้วตบท้ายด้วย อนัตตาหรือปล่อยวางเสียทุกสิ่ง ฝึกวิปัสสนาหรือพิจารณาธรรมกันให้คล่อง ให้เกิดความเคยชิน จะได้เป็นการเตือนใจตนเองมิให้ประมาท ผู้เตรียมพร้อมอยู่เสมอๆ เมื่อกิเลสใดโผล่มา จิตก็จะบอกว่า ข้ารู้แล้ว ไม่ต้องมาหลอกข้า ข้ารู้ ข้าเห็นแล้ว อะไรประมาณนี้นะ โดยเฉพาะกิเลสที่เกิดมาก เกิดบ่อยจริง ได้แก่ ความโกรธ จิตบุญยังมีอยู่ครบ ความทุกข์จากขันธ์ ๕ มิได้หายสาบสูญไปไหน เพียงแต่จิตบุญนั้นได้ฝึกจิตมาดี สามารถแยกกาย แยกจิต คือแยกการทำงานของกาย ของจิตได้ชัดเจนแล้ว หรือจิตไม่ไปยึดมั่นถือมั่นเอามาเป็นของตนเอง หรือเอามาเป็นจริงๆเป็นจัง ธรรมอันใดโผล่ขึ้นมา ก็แค่รู้และวางเสีย แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้ดูง่ายนะ แต่สำหรับผู้ที่บอกว่า ไม่ง่ายหรือทำตามไม่ได้ มันฝืนใจ นั่นก็แสดงว่า ผู้นั้นยังมิได้ฝึกจิตมาดี นั่นเอง ตราบใดที่ยังไม่นำจิตไปฝึกฝน จิตก็ไม่สามารถปล่อยวางได้อย่างสนิทใจ เมื่อปล่อยวางไม่ได้ นั่นก็หมายถึง คนนั้นก็จะต้องอยู่กับทุกข์ไปจนวันตาย ตายแล้วนึกว่าพ้น กลับดันไม่พ้นเสียอีก คือกลับมาเกิดอีก สำหรับผู้ที่รู้แล้ว ก็ไม่อยากกลับมาเกิดอีก จะต้องดับทั้งรูป ดับทั้งจิตกันให้ได้สนิท อย่าให้หลงเหลือเชื้อใดๆ ส่วนผู้ที่หลงไปทำฌานลึก หรือตั้งหน้าตั้งหน้าจะเอาฌาน๘(ฌานสมาบัติ)นั้น คือผู้หลงทางแล้ว เพราะต่อให้ได้ฌาน๘ ดับแต่นาม แต่รูปยังไม่ได้ดับ จึงหนีไม่พ้น ๓๑ ภพภูมิอยู่ดี สำหรับผู้ที่จะไปพระนิพพานนั้น จะต้องดับทั้งรูป๑ ทั้งนาม๔ กันให้ได้ โดยการเจริญสติกรรมฐาน หรือทั้งสมถะและวิปัสสนา โดยการนำจิตไปเดินตามสายมรรคมีองค์๘ หรือศีล สมาธิ ปัญญานี้ สรุปแล้วจะต้องนำจิตไปเดินให้สุดซอยหรือปลายทาง ท่านถึงจะรู้ว่า สุดซอยหรือว่าปลายทางนั้น มันคืออะไรกันแน่ ใช่พุทธะไหม? เพราะฉะนั้นจะเดินสุดซอยได้ เราจะต้องรู้กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต หรือธรรมในธรรม ในมหาสติปัฎฐาน๔ นั้นเสียก่อน หรือข้ามมาดูจิตเพียงอย่างเดียวก็ได้ ก็แล้วจริตใครจริตมัน ผู้ปฎิบัติยังเดินตามหาจริตตนเองยังไม่พบเลย บางคนพบเจอแล้ว แต่พอปฎิบัติไปปฎิบัติมา ก็ไปติดขัดกันตามทางไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีครูดูแลอย่างใกล้ชิด หรือบางท่านตามหาครูผู้สอนทั้งชีวิต บางคนหมดลมหายใจไปก่อนแล้ว จบกันก็เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ชาติหน้ากันต่อไป
    สำหรับผู้ปฎิบัติเมื่อพบเจอแล้ว ให้รีบๆ ตั้งใจฝึกฝน อย่าดื้อ อย่าแวะ อย่าเดินทางอ้อม อย่าหลงติดสุขจากฌาน(แต่ขอให้จิตทรงฌานให้ได้ก่อนนะ แล้วค่อยตัดสุขจากฌานทีหลัง เดี๋ยวตรงนี้ครูจะบอกทีหลัง ผ่านปิติให้ได้ก่อน หรือมาให้ถึงฌานกันก่อนค่อยมากัน ) อย่าหลงดูนิมิต อย่าบ้าฤทธิ์เดช แต่ถ้าใครมีของเก่า(อภิญญา)ก็นับว่าได้เปรียบชาวบ้าน แต่ถ้านำมาตัดกิเลสของตนเองนะ แต่ถ้ามีไว้เพื่ออวด จบเฮ่...

    ปล.ผมกำลังรออ่านธรรมะของคุณTPC ธรรมะที่มันผุดออกจากตาธรรมะจากจิตธรรมชาติของคุณนะ มิใช่ธรรมจากที่ไหน

    ราตรีสวัสดิ์
     
  13. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ก่อนอื่นขอกราบสวัสดี ท่านพ่อภู ท่านแม่เพ็ญ ท่านครูลูกพลัง ท่านครูเกษ ครูุวิทย์ ครูวัฒ และครูท่านที่ยังมิได้เอ่ยนามทุกท่าน ตลอดจนพี่น้องจิตบุญและจิตเกาะพระทุกท่าน ครับ

    ด้วยการปฏิบัติทำให้สติเกิดพร้อมด้วยการสำรวมทั้งกายวาจาใจ มากยิ่งขึ้น ยังความสงบให้เกิดขึ้นพร้อมเสมอครับ เป็นธรรมดาแห่งธรรมที่ว่า เมื่อสติเกิดต่อเนื่องความสงบระงับสำรวมจึงเกิดต่อเนื่อง เมื่อความสำรวมสงบเกิดต่อเนื่อง ฌาณจึงเกิดต่อเนื่อง เมื่อฌาณเกิดต่อเนื่องวิปัสสนาญาณจึงเกิดต่อเนื่อง เมื่อวิปัสสนาญาณเกิดต่อเนื่อง ปัญญาญาณจึงเกิดต่อเนื่อง เมื่อปัญญาญาณเกิดต่อเนื่อง วิชาจึงเกิดต่อเนื่อง เมื่อวิชาเกิดต่อเนื่อง อวิชาแลกิเลสตัณหาอุปาทานจึงดับต่อเนื่อง เมื่อกิเลส ตัญหา อุปทานขันธ์ดับต่อเนื่อง ภพชาติ ชรามรณะ ทุกข์จึงดับต่อเนื่อง เช่นนี้แลครับ สาธุ

    ปัจจุบันการตอบกระทู้ และการโพสข้อความต่างๆของกระผมจะน้อยลงครับ ครั้งนี้เห็นว่าท่านพ่อภู มีมหาเมตตาต่อชาวจิตบุญทุกท่านเป็นอย่างสูงเรื่องการแนะนำให้พวกเราชาวจิตบุญได้มีการตรวจดูภูมิวาสนาบารมีตน เพื่อเหตุแห่งการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า การต่ออายุมิใช่จะทำกันได้โดยง่าย หากแต่ว่าท่านเหล่านั้นปราถนาจะทรงพรมหวิหารและอิทธิบาท4 แต่ทว่าด้วยอายุไขใกล้หมดแล้วนั้น จวนเจียนจะต้องไปนิพพานแล้วนั้น หากแม้นท่านเหล่านั้นปราถนาในการอุทิศตนแล้ว เรื่องการต่ออายุนั้นท่านพ่อภูจะต่อให้ท่านได้ ท่านก็สมารถอุทิศตนทำหน้าที่ต่อไปได้ จนถึงที่สุด
    กระผมน้อมรับและขออนุโมทนาในเมตตาจิตที่ท่านพ่อภู มีแก่เราท่านทั้งหลายครับ เมื่อโอกาสได้ถูกหยิบยื่นมาถึงเพียงนี้แล้ว เราชาวจิตบุญทั้งหลายจึงควรน้อมรับและตั้งใจทรงพรหมวิหารธรรมและอิทธิบาท4ต่อไปให้มั่นคงไม่หวั่นไหว จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งภาระและวาระแห่งจิตเรานะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๘๗ และ ๘๘ ณ วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๘๗
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๘๘
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
    ขอบคุณที่มา

     
  15. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    น้องนิว ลูกสาวครูหนุ่ม(จิตบุญ) ลูกศิษย์ครูเพ็ญและครูหนุ่ม
    จบกิจจิตเกาะพระเป็นจิตบุญ 87 ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2555
    น้องนิวเริ่มฝึกจิตเกาะพระเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 55
    จบกิจจิตเกาะพระเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 55
    รวมระยะเวลาฝึกจิตเกาะพระ 30 วัน
    น้องนิวอายุ 14 อาชีพ นักเรียน ม.....

    น้องนิวเริ่มวิปัสสนาญาณเข้มข้นตามลำดับดังนี้

    1 ต.ค. 55
    สวัสดีครับคุณครูเพ็ญ

    น้องนิวเล่าให้ฟังว่าวันนี้ทำยางรัดผมหายหาไม่เจอตั้งแต่เช้าหาจนเหนื่อย ก็พับผ้าไปแล้วก็เห็นยางรัดผมซึ่งอยู่ใต้กองผ้า ก็เกิดตัวรู้ขึ้นมาว่า เปรียบผ้าที่บังไว้เป็นกิเลส พอกำจัดกิเลสออกไปก็พบปัญญา ตอนคิดได้รู้สึกดีใจ

    หนุ่ม

    2 ต.ค. 55
    สวัสดีครับคุณครูเพ็ญ

    วันนี้น้องนิวบอกว่าเห็นในหัวตัวเองเป็นห้องสีขาวกว้างราว ๆ 4-5 เมตร มาตั้งแต่เที่ยงจนตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน เมือคืนเค้าไปคุยกับท่านพ่อเรื่องสติ ท่านบอกว่าแต่ละคนมีวิธีปฏิบัติไม่เหมือนกัน มันจะค่อยเป็นค่อยไปของมันเอง ไม่ต้องไปรีบเร่ง

    หนุ่ม


    3 ต.ค. 55
    แล้วอารมณ์ใจของน้องนิวเป็นยังไงบ้างคะ อธิบายละเอียดหน่อยค่ะ?
    เบา สบาย อธิบายไม่ถูกเหมือนยืนอยู่ชายหาดหรือยอดเขาค่ะ

    ใจยังมียึดอะไรอยู่อีกไหม?
    ไม่มีค่ะ

    ร่างกายนี้เป็นของเราไหม?
    ไม่ค่ะ

    สติเป็นของเราไหม?
    ไม่ค่ะ

    จิตเป็นของเราไหม?
    ไม่ค่ะ

    ปัญญาเป็นของเราไหม?
    ไม่ค่ะ

    มันแยกกันอยู่หรือรวมกันอยู่?
    แยกกันอยู่

    ยังมีอะไรในความรู้สึกที่เป็นของน้องนิวอยู่บ้างไหม?
    ไม่มีค่ะ

    คุณหนุ่มจัดให้น้องนิวขอขอมากรรมพ่อแม่
    เรียบร้อยแล้วค่ะ

    และให้น้องนิวสำรวจกรรมของตนเองว่ามีกรรมหรือความกังวลอะไรค้างคาอยู่ในจิตบ้าง ถ้าหาไม่เจอให้ขออาราธนาท่านพ่อขอเปิดจิตดูกรรมที่ยังติดค้างอยู่ในจิต

    หลังจากขอท่านพ่อผ่านไปแล้วระยะหนึ่งก็เห็นหนังสือสีขาวเล่มหนึ่งมีล็อคด้วยวางอยู่กลางห้องสีขาว แต่คิดว่าในหนังสือไม่มีอะไรเลย


    4 ต.ค. 55 เป็นอันจบกิจเสร็จสมบูรณ์
    ครูเพ็ญขอโมทนาบุญกับน้องนิวและคุณหนุ่มด้วยค่ะ
    ขอบเชิญน้องนิวขึ้นรายงานตัวกับลุงภูหรือคุณหนุ่มช่วยมาเขียนโอวาทธรรมสักเล็กน้อยค่ะ

    และได้โปรดส่งข้อมูลของน้องนิวให้น้องลูกหว้าเพื่อนำขึ้นทำเนียบจิตบุญต่อไปค่ะ

    ครูเพ็ญ จบ.3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2012
  16. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    คุณหมู เมธญา ศิษย์ครูเพ็ญ ครูวิทย์ และครูป้อม(หญิง)
    จบกิจจิตเกาะพระเป็นจิตบุญ 88 ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2555
    คุณหมูเริ่มเข้ามาฝึกจิตเกาะพระเมื่อไรคะ?
    พี่เพ็ญหาเมลแรกไม่เจอแล้ว แต่เหมือนไม่นานนี้เองนะ ถึงเดือนหรือเปล่าคะ
    ขอเชิญคุณหมูขึ้นรายงานตัวกับพ่อภูบนกระทู้ด้วยค่ะ
    และขอเชิญครูวิทย์ให้โอวาทธรรมด้วยค่ะ


    เมลแรกของวันนี้ 4 ต.ค. 55

    สวัสดีค่ะ

    ก่อนอื่นก็ต้องขอกราบขอบพระคุณครูที่เมตตา เมื่อวานได้อ่านเมลล์ขอครูที่ส่งเข้ามาให้กำลังใจแล้วเขื่อนน้ำตาแตกเลยค่ะ น้ำตาไหลพรากๆอาบแก้ม มันตื้นตันค่ะ ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก็ยังมีจิตเมตตาเกื้อกูลกัน เพราะเรามีพ่อคนเดียวกันใช่ไหมคะ และสิ่งที่ครูแนะนำก็พร้อมรับปฏิบัติตามค่ะ น้ำตาไหลอาบแก้มเมื่อวานก็ไม่รู้ว่ามันทะลักจากอะไร แต่เหมือนจิตมันได้ปลดปล่อย มันโล่ง เหมือนครูมาช่วยกระชากอะไรบางอย่างให้ออกจากจิต เมื่อวานก็เลยตามดูอาการตื้นตันของจิตต่อเลยค่ะ ได้ เห็นอาการของจิต มันดันขึ้นมาที่หน้าอก ทะลักออก แล้วมันก็คลาย และสุดท้ายมันก็หายไป

    เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาก็ตามเดิมระลึกถึงพระ สวดมนต์และก็ขออาราธนาบารมีท่านพ่อ สมเด็จองค์ปฐม ไหว้ขอขมาอโหสิกรรมกับแม่ แผ่เมตตาและขอขมากรรมกับเจ้ากรรมนายเวร ระลึกถึงพระได้ตลอดช่วงเช้าจิตใจแจ่มใส โปร่งดีค่ะ ดูจิตได้มากขึ้น เริ่มมองเห็นกฏไตรลักษณ์มากขึ้นแล้วค่ะ เห็นความไม่เที่ยงทั้งกับตัวเองและกับสิ่งรอบๆตัวเรามากขึ้น

    วันนี้คิดว่าจิตไม่ติดเฉยนะคะ เปรียบเทียบการฟังเพลงเมื่อตอนจิตมันเฉย มันจะเฉยจริงๆ เหมือนมันเข้าหูซ้าย ทะลุออกหูขวา แต่ยังรับรู้ว่ามันเป็นเพลง แต่ฟังเพลงวันนี้ เห็นจิตมันฟัง ก็เห็นว่าเป็นเพลง เป็นเรื่องของสัมผัส แต่จิตมันแค่รู้ รู้แล้วก็วาง เหมือนอ่านธรรมะที่เจอทั้งจากหนังสือ จาก internet แต่ก่อนก็อ่านแต่เหมือนมันยังไม่ค่อยเข้้าใจ อ่านตอนนี้มันเข้าใจมากขึ้นจิตมันละเอียดขึ้น มันคิดตามมันพิจารณามากขึ้น

    วันนี้มารายงานครูว่า จิตไม่ติดเฉยแล้วนะคะ เห็นจิตกลับมาน้อมรับการปฏิบัติแล้วค่ะ เพราะวันนี้ระลึกถึงพระก็นึกออก จิตโปร่ง วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ สัญญาว่าจะทำตามที่ครูแนะนำ แล้วจะรายงานผลให้ทราบค่ะ

    หมู

    และ.....ครูเพ็ญสอบอารมณ์ซ้ำทางเมล ครูวิทย์สอบอารมณ์ทางโทรศัพท์

    คุณหมูช่วยส่งอารมณ์ใจที่ทรงอยู่ในปัจจุบันให้ทราบด่วนค่ะ มีอาการหรืออารมณ์หรือจิตกำลังวิปัสสนาอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ช่วยบอกเล่าให้ทราบด้วยค่ะ

    พี่เพ็ญ

    และเมลสุดท้าย

    สวัสดีค่ะครูเพ็ญ


    อย่างที่บอกค่ะนับตั้งแต่คุยกับครูทางเมลล์แล้ว มันเหมือนยกภูเขาออกจากอก จิตมันโล่ง โปร่งสบายจนถึงตอนนี้เลยค่ะ แล้วก็ยังคงตั้งหน้าปฏิบัติเหมือนเดิม คงดูพระ ระลึกถึงพระ และตอนเชาได้กรายอาราธนาบารมีสมเด็จพ่อ องค์พระรัตนตรัย ให้นำทางจิตเราให้เข้าถึงธรรมะ และอาราธนาบารมีท่านในการขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร กับแม่ และแอบอฐิษฐานของฝากจิตไว้กับท่านและก็พระนิพพาน อิอิ ไม่คิดว่ามีวิปัสสนาอะไรนะคะ เห็นแต่จิตโล่ง จิตโปร่ง จิตเบา มันมีความสุข ฟังธรรมะก็เข้าใจมากขึ้น มันซึม มันซับมากกว่าเดิม เมื่อคืนและเมื่อเช้าได้นอนฟังธรรมะของหลวงปู่ชา บ้านที่แท้จริง มันเข้าใจ อ่านกระทูที่คุณภูเขียนก็เข้าใจ เรามันไม่ใช่เรา กายมันคือสมบัติของโลก และเข้าใจความไม่เที่ยงของโลกของชีวิตมากขึ้น เห็นความไม่เที่ยงกับสิ่งรอบๆตัวมากขึ้น ทั้งจากอารมณ์ของเราและจากคนรอบข้าง ทุกอย่างเป็นอนัตตา เมื่อวานเห็นข่าวคนตายจากการไม่รู็ละ รู้วางจากสังขาร น้องเพื่อนนอนหลับเสียชีวิตกระทันหัน ทิ้งเพียงร่างไว้กับโลก วันนี้ร่วมใจกันทำบุญบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือลูกน้องที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมากว่าหกเดือน และวันนี้ลูกน้องเอีกคนก็โชว์รูปหลานที่เพิ่งเกิดตอนเที่ยงมาให้ดู มันก็คิดถึงวัฏสงสาร เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนที่องค์พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ และมองกลับมาตามดูจิตตัวเองมันเห็นธรรมชาติจริงๆของจิต เดี่๋ยวดีใจ เดื่ยวหงุดหงุด เพราะร้อน เพราะเย็น เพราะหิว มันไม่คงสภาพ มันอยู่แล้วมันก็ไป อาจเป็นพระเราปล่อยจิตให้เป็นธรรมชาติ ไม่ได้คอยจ้องดูเหมือนที่ผ่านมา มันเบาค่ะ เบามากๆ รู้สึกสุขมากค่ะวันนี้ (อยากสุขทุกวัน)

    ครูวิทย์คะ จะโทรกลับไปหาครูวิทย์ประมาณ หกโมงนะคะ ไม่ทราบว่าครูวิทย์สะดวกหรือเปล่าคะ พอดีว่าติดประชุมค่ะเลยตอบกลับช้า

    หมู

    โมทนา สาธุ พี่เพ็ญไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วค่ะ การบ้านของคุณหมูได้อธิบายไว้หมดแล้ว

    และขอคุณหมูช่วยส่งข้อมูลให้น้องลูกหว้าเพื่อนำขึ้นทำเนียบจิตบุญด้วยค่ะ

    โมทนาสาธุไม่มีประมาณค่ะ ขอให้คุณหมูและน้องนิวจงมีแต่ความสุขกายสุขใจตราบนิรันดร์เทอญ

    พี่เพ็ญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2012
  17. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    หมู่พระอรหันต์ท่านอยู่เป็นสุขจริงหนอ
       
    สุขิโน  วต  อรหนฺโต,
    ตณฺหา  เตสํ  น  วิชฺชติ,
    อสฺมิมาโน  สมุจฺฉินฺโน,
    โมหชาลํ  ปทาลิตํ.
    หมู่พระอรหันต์  ท่านอยู่เป็นสุขจริงหนอ,
    เพราะท่านไม่มีตัณหาความอยาก,
    ท่านตัด  การถือเราถือเขา  ได้ขาด,
    ท่านทำลาย  ข่ายโมหะพินาศ  เช่นกัน.

    อเนชนฺเต  อนุปฺปตฺตา,
    จิตฺตํ  เตสํ  อนาวิลํ,
    โลเก  อนุปลิตฺตา  เต,
    พฺรหฺมภูตา  อนาสวา.
    หมู่พระอรหันต์นั้น  ท่านถึงความไม่หวั่นไหว,
    ดวงจิตของท่านไซร้  ไม่ขุ่นมัวหมองไหม้,
    ท่านไม่ถูกตัณหา  มานะ  ทิฏฐิ  ฉาบทาไว้ในโลก,
    ท่านจึงเป็นพรหม  หมดสิ้นอาสวะ  แท้จริง. 

    ปญฺจกฺขนฺเธ  ปริญฺาย,
    สตฺตสทฺธมฺมโคจรา,
    ปสํสิยา  สปฺปุริสา,
    ปุตฺตา  พุทฺธสฺส  โอรสา. 
    หมู่พระอรหันต์นั้น  ท่านกำหนดรู้ขันธ์ทั้ง ๕  โดยทั่วถึง,
    ท่านมีสัทธรรม ๗  เป็นโคจร,
    ท่านเป็นสัตบุรุษ  ที่ควรสรรเสริญ,
    ท่านเป็นพุทธบุตร  พุทธโอรส  แท้จริง.

    สตฺตรตนสมฺปนฺนา,
    ตีสุ  สิกฺขาสุ  สิกฺขิตา,
    อนุวิจรนฺติ  มหาวีรา,
    ปหีนภยเภรวา. 
    หมู่พระอรหันต์นั้น  ท่านสมบูรณ์ด้วยรัตนะทั้ง ๗,
    ท่านศึกษา  ในสิกขาทั้ง ๓  อยู่ด้วยดี,
    ท่านย่อมท่องเที่ยวไปอย่างมหาวีรบุรุษโดยลำดับ,
    ท่านละความกลัวและความขลาด  ขาดสะบั้นไป.

    ทสหงฺเคสิ  สมฺปนฺนา,
    มหานาคา  สมาหิตา,
    เอเต  โข  เสฏฺา  โลกสฺมึ,
    ตณฺหา  เตสํ  น  วิชฺชติ. 
    หมู่พระอรหันต์นั้น  ท่านสมบูรณ์ด้วยองค์ธรรม ๑๐ ประการ,
    ท่านเป็นมหานาค  มีจิตตั้งมั่นด้วยดี,
    หมู่พระอรหันต์นี้แล  เป็นพระผู้ประเสริฐสุดในโลก,
    เพราะท่านไม่มีตัณหา  ความอยาก  นั่นเอง.

    อเสกฺขาณํ  อุปฺปนฺนํ,
    อนฺติโมยํ  สมุสฺสโย,
    โย  สาโร  พฺรหฺมจริยสฺส,
    ตสฺมึ  อปรปจฺจยา.
    หมู่พระอรหันต์นั้น  ท่านมีอเสขญาณบังเกิดขึ้นแล้ว,
    ร่างกายนี้  มีเป็นครั้งสุดท้าย,
    "เนื้อแท้" แห่งพรหมจรรย์อันใด  มีอยู่,
    ท่านไม่ต้องมีคนอื่น  เป็นปัจจัยจูงใจให้เชื่อในเนื้อแท้อันนั้น.

    วิธาสุ  น  วิกมฺปนฺติ,
    วิปฺปมุตฺตา  ปุนพฺภวา,
    ทนฺตภูมึ  อนุปฺปตฺตา,
    เต  โลเก  วิชิตาวิโน. 
    หมู่พระอรหันต์นั้น  ท่านไม่หวั่นไหวในมานะไร ๆ,
    จึงหลุดพ้นจากภพใหม่,
    ได้บรรลุถึงซึ่งอรหัตตภูมิแล้ว  โดยลำดับ,
    หมู่พระอรหันต์นั้น  จึงชื่อว่าชนะเด็ดขาดแล้วในโลก.

    อุทฺธํ  ติริยํ  อปาจินํ,
    นนฺทิ  เตสํ  น  วิชฺชติ
    นทนฺติ  เต  สีหนาทํ,
    พุทฺธา  โลเก  อนุตฺตรา,
    อิติ.
    ทั้งส่วนเบื้องบน  ท่ามกลาง  และเบื้องล่าง,
    ความเพลิดเพลิน  ย่อมไม่มีแก่หมู่พระอรหันต์เหล่านั้น,
    หมู่พระอรหันต์นั้น  จึงบันลือสีหนาท,
    "ว่าเป็นพุทธะ" พระผู้ที่ไม่มีใครยิ่งกว่าในโลก  สมจริงแท้,
    ด้วยประการฉะนี้แล.

    "อรหันตสูตร"
    สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
    พระไตรปิฎกฉบับบาลีสยามรัฐ
    เล่ม ๑๗ ข้อ ๑๕๓ หน้า ๑๐๑-๑๐๒
    พุทธทาสภิกขุ แปล


    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี
     
  18. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    เหลืออีก 12 ดวงจิตครบ 100 แล้วพี่ภู ไม่ต้องห่วงยังมีจิตบำเพ็ญกับจิตเกาะพระอยู่ในสต๊อกอีกเพียบ คุณจ๋าย คุณจุ๋ม คุณตาล พี่จี คุณพีรวิชช์ คุณวันดี คุณปุ๊ก777 คุณตุ๊ก คุณสุชาดา และที่จำไม่ได้อีกยาว อิอิ ลุยโล้ดดดดดดดดดดดดดดด

    ปล. ยังมีคุณเอ๋ คุณดาว คุณแพท คุณ...สัญญาหมดอีกแล้ว - -'
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2012
  19. klangprai

    klangprai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    5,167
    ค่าพลัง:
    +6,057
    ขอร่วมอนุโมทนากับจิตบุญดวงใหม่ทั้งสองดวงด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    วันนี้คิดว่าจิตไม่ติดเฉยนะคะ เปรียบเทียบการฟังเพลงเมื่อตอนจิตมันเฉย มันจะเฉยจริงๆ เหมือนมันเข้าหูซ้าย ทะลุออกหูขวา แต่ยังรับรู้ว่ามันเป็นเพลง แต่ฟังเพลงวันนี้ เห็นจิตมันฟัง ก็เห็นว่าเป็นเพลง เป็นเรื่องของสัมผัส แต่จิตมันแค่รู้ รู้แล้วก็วาง//


    จิตบำเพ็ญและจิตเกาะพระ ใครติดเวทนาตัวเฉย ช่วยวิเคราะห์จิตตนเองตามตัวอย่างของคุณหมูด้วยนะคะ เอาจิตออกมาจากอารมณ์เฉยซะ เพราะมันไม่ใช่ทางไปพระนิพพาน ให้พิจารณาตัวเฉยลงที่กฎไตรลักษณ์นะ แล้วเอาสติพาจิตเดินมรรคต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...