จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

โมทนา สาธุ อ่านแล้วชื่นใจค่ะ คุณดาวสื่อจิตออกมาได้น่าดูชมมากค่ะ
ขอเ้น้น ๆ ย้ำ ๆ ให้คนที่ยังไม่เข้าใจให้มีความเข้าใจ "จิตเกาะพระ" ให้ตรงนะคะ เมื่อท่านจบกิจจิตเกาะพระ ท่านจะได้อารมณ์นี้อย่างเห็นได้ชัดค่ะ

"ณ วันนี้ มีความสุขเพราะดาวหาสุขที่อยู่เหนือสุขเจอแล้ว...ความสุขจากความสงบเยือกเย็นที่มีในจิต...ได้เพื่อนใหม่ที่จะเป็นคู่หูและเดินไปกับดาวในทุกๆที่ และจะคอยเตือนใจเสมอ นั่นคือ..สติ... สติมาปัญญาเกิด แม้เราจะต้องอยู่ร่วมกับขันธ์ 5 และ กับภาระทางโลก แต่เราก็ไม่ทุกข์อีกแล้ว รู้แล้วว่าต่อไปนี้จะอยู่อย่างไรให้ไม่ทุกข์"

 

โมทนา สาธุ อ่านแล้วชื่นใจค่ะ คุณดาวสื่อจิตออกมาได้น่าดูชมมากค่ะ
ขอเ้น้น ๆ ย้ำ ๆ ให้คนที่ยังไม่เข้าใจให้มีความเข้าใจ "จิตเกาะพระ" ให้ตรงนะคะ เมื่อท่านจบกิจจิตเกาะพระ ท่านจะได้อารมณ์นี้อย่างเห็นได้ชัดค่ะ

"ณ วันนี้ มีความสุขเพราะดาวหาสุขที่อยู่เหนือสุขเจอแล้ว...ความสุขจากความสงบเยือกเย็นที่มีในจิต...ได้เพื่อนใหม่ที่จะเป็นคู่หูและเดินไปกับดาวในทุกๆที่ และจะคอยเตือนใจเสมอ นั่นคือ..สติ... สติมาปัญญาเกิด แม้เราจะต้องอยู่ร่วมกับขันธ์ 5 และ กับภาระทางโลก แต่เราก็ไม่ทุกข์อีกแล้ว รู้แล้วว่าต่อไปนี้จะอยู่อย่างไรให้ไม่ทุกข์"

 

.....................................................................................................................

 

โมทนาสาธุ อธิบายทั้งแก่นทั้งเปลือก ทั้งสมถะและวิปัสสนา โดยละเอียดเลยทีเดียว
ฟ้าเอามาขยายตัวหนังสือให้อ่านชัดๆ จะได้พิจารณาตามง่ายๆค่ะ ขออนุญาตไปเผยแพร่ด้วยนะคะ

 

ดูจิตบุญท่านนี้พูดสิ..ใครไม่ทราบ
(เล่าสู่กันฟังเฉยๆ ไม่ต้องบอกนะว่าเป็นใคร ไม่ต้องแสดงตนก็ได้)

"...รู้ได้ไงว่า เราไม่หิว เรานอนน้อย แต่เราไม่เหนื่อย ไม่เพลีย อิ่มทิพย์ เป็นงี้เอง แถมนะ ไปเข้า Fitness เชื่อมั้ย พี่ภู เราเข้าฌาน เล่นเครื่องออกกำลังกาย cross trainer เกือบ 30 นาที เราไม่เหนี่อยเลย แต่เหงื่อนะ เราเหมือน แค่เราตัวลอย มีหน้าที่ยืนอยู่บนเครื่อง แล้วไม่ต้องออกแรง เครื่องก็หมุนของมันไป Amazing จริงๆ ตอนแรก เราไม่แน่ใจ คิดว่า เราอุปทานไปเอง ก็เลยลองดู 2 วัน 555 คราวนี้ ไข้ทุกครั้งเลย ขอบอก วิชานี้ดีจริงๆ"

ปล. จิตเกาะพระนี่ ทำให้ใครบางคนเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็เป็นไปแล้ว

 

กิจวัตรของผู้ปฎิบัติ "จิตบุญ"​

เราปฎิบัติธรรมเพื่ออะไร ให้ถามตนเองบ่อยๆ (เพื่อ..ละทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้?)
ขอให้เจริญสติ โดยการระลึกถึงพระพุทธเจ้า เจริญภาวนาโดยการทรงฌานเป็นอย่างต่ำ
ธรรมอันใดที่กระทบจิต ขอให้เพ่งดูที่จิตตนเองก่อน(ดูอาการหรืออารมณ์) แต่อย่าได้หลงไปดูจิตผู้อื่น หรือหลงไปเพ่งโจษโทษผู้อื่น แล้วให้สรุปว่า จิตตนเองเป็นอย่างไร(เฉยและรู้แบบสติปัญญา)

และทุกสิ่งที่มากระทบจิตนั้น ไม่ว่าจะรับมาและรู้แล้ว ก็ให้วางไปซะ อย่าได้เก็บไว้ เพราะทุกธรรมที่เกิดขึ้นมานั้น ก็ไม่เห็นพ้นกฎไตรลักษณ์ทั้งสิ้น

คอยหมั่นทบทวนเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา(โดยเฉพาะศีลละเอียด พยายามอย่าให้ไปกระทบผู้อื่นเป็นดีที่สุด สำรวมจิตให้ดี ละหรือตัดกรรมที่จิตตนเองก่อน ส่วนใครจะไปต่อกรรมกับใคร ก็เป็นเรื่องของเขา)
คอยหมั่นทบทวนเรื่องสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ประการ(ของตนเองให้ดี โดยเฉพาะข้อที่อ่อ่นที่สุด ให้รีบแก้ไขให้ดีซะ!)
คอยหมั่นทรงพรหมวิหาร ๔ และ อิทธิบาท ๔ อยู่ตลอดเวลา
คอยหมั่นดูแต่จิตตนเอง หรือพยายามอยู่กับกาย อยู่กับจิตตนเองให้มาก (สติมีมั๊ย จิตเป็นอย่างไร)

คนที่ไม่เคยเผลอสตินั้น ไม่มีในโลกนี้ มีแต่คนที่คอยหมั่นมีสติให้มาก
ทั้งสองธรรมนี้เป็นเรื่อง ธรรมดา
แต่คนที่ยิ่งกว่าธรรมดา(ไม่ธรรมดา) ก็คือ คนที่คอยหมั่นสร้างสติอยู่เสมอๆ
เป็นต้น

ปล.จิตบุญ ทุกท่านทราบกันดีหมดแล้ว แต่พี่ภูจะพร่ำ ถึงพวกเราจะเบื่อพี่ภูก็ช่างปะไร ขอให้พวกเรามีสติกันมากๆก็พอ เพราะว่า สติเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของจิต(ตรงกันข้ามกับนิมิต มีเพื่อหลอกผู้ปฎิบัติที่มีสติไม่มากพอ) ส่วนปัญญาเป็นเพื่อนคู่คิดและรู้เห็นตามความเป็นจริงนั้นๆ

 

ครูลูกพลัง พี่ภูขอแก้วเปล่าๆหนึ่งใบ น้ำแข็งไม่ต้อง น้ำเปล่า น้ำหวานไม่ต้อง พี่ภูขอแค่น้ำใจอย่างเดียวก็พอ...ฮ่าๆ

พี่ภูจะบอกว่า ขอขอบพระคุณ ธรรมาทานเรื่อง "ความว่าง"
ความว่าง ก็คือ ความว่าง

(แล้วครูลูกพลังจะมาพูดทำไมฟ่ะเนี๊ย 555)

ปล่อยให้มันไหลไป ปล่อยให้ใจมันว่างจากเธอไป อย่างนั้นหรือ

ความว่างในที่นี้ หมายถึง พวกคุณก็ลองคว่ำแก้วกันดูดิ เออน่ะ หรือคว่ำหัวจิตหัวใจให้หมด อย่าให้เหลือเยื่อใย แม้นกระทั่งชื่อ คุณลินดาก็ไม่มีจารึกอยู่ภายในจิตของพี่ภู ฮ่าๆ (ขอยกตัวอย่างๆ)

ละทุกข์ก่อนแล้วค่อยละสุข ละหยาบก่อนแล้วค่อยละละเอียด ละฌานก่อนแล้วค่อยญาณ ละบาปก่อนแล้วค่อยละบุญ เป็นต้น
ไม่ใช่ให้พวกเธอพากันไปละลูก ละสามีหรือภรรยา เข้าพระนิพพานกันนะ จิตนะจิต ที่เป็นตัวละน่ะ ไม่ใช่กาย

เพราะฉะนั้น ความว่าง ก็แปลว่า ปราศจากกิเลสใดๆทั้งปวง หรือจิตไม่ไปยึดเอาทั้งดีหรือไม่ดี ทำจิตอยู่นิ่งๆเฉยๆ มีแต่รู้และก็วางแค่นั้นเอง แต่ถ้ารู้ว่าจิตมันมีอะไรก็ให้วางเดี๋ยวนั้นเลย แม้นกระทั่งจิตเดินทางมาถึง คำว่า นิพพาน ก็ให้รู้ว่า ที่นี่คือ นิพพาน แค่นั้นก็พอ
อย่าไปบ้าบอคอแตกกับ คำว่า นิพพาน กันนะ ขอให้เป็นนักท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ที่ดีก็พอ อย่าได้เที่ยวไปเอาอะไรติดไม้ ติดมือมาด้วยก็แล้วกัน

ปล. กระทู้มาถึงหน้า 333 จิตบุญที่ 92 แล้ว
จิตคุณดาวยกไปแล้ว พวกเราเลิกทำกันเห่อ รอลุงจี UncleGee ไม่ไหวแร๊ะ ฮ่าๆ
จุดหมายปลายทางมันอยู่ที่ไหน จบอย่างไร
หรือรอให้เน็ตล่ม หมีภูตาย ครูละเอียดตาย
พวกเราคิดว่า จิตเกาะพระตาย หรือ จิตเกาะพระอมตะ
(พี่ภู เกรงว่าจิตบุญจะว่างมากไปหน่อย ก็เลยมีการบ้านให้คิดกันเล่นๆ)

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=pXwK4rW7QlI]กล้ำกลืน พัชรา แวงวรรณ อัลบั้ม กล้ำกลืน - YouTube[/ame]​

ขอแสดงความเสียใจ กับจากการไปอย่างไม่มีทางที่จะหวนกลับคืนมาอีก ของ'เอ๋-พัชรา แวงวรรณ' อดีตนักร้องนำวงโอเวชั่น เจ้าของเสียงหวานแหบเสน่ห์ ภายในบ้านพักที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2555 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ พบศพในลักษณะแขวนคอในโรงจอดรถ ที่บ้านพักซึ่งเช่าอยู่ตามลำพัง

พี่ภูขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดให้กับคุณเอ๋-พัชรา แวงวรรณ ขอให้ดวงจิตของเธอไปสุคติ หรือไปจุติภพภูมิที่ดีต่อไป ที่สำคัญขอให้พบเจอพระพุทธศาสนา และได้มีโอกาสปฎิบัติธรรม เพื่อความหลุดพ้นในกาลครั้งหน้าด้วยเทอญ

ปล. คนเรานี่ รู้เฉพาะวันเกิด แต่ไม่รู้วันตาย นี่น่าจะเป็น down line คุณพี่สุภาทร หรือไม่ก็คุณเกษ คุณแนท ป่านนี้ฯ สบายไปแล้ว

เพราะฉะนั้นแล้ว ขอให้พวกเราหมั่นระลึกถึงความตายของตน เป็นปกติเข้าไว้

 

โมทนาสาธุพี่ภู
คนเรามีโอกาสจัดงานปาร์ตี้คล้ายวันเกิด
แต่ยกวันตายให้คนอื่นจัดให้
แต่เห็นบางท่านไปซื้อที่ซื้อทางสำหรับฝังศพตัวเอง
อันนี้ น่านับถือ........

 

น้ำ vs จิต

ธรรมชาติของจิตและนํ้า
(พิจารณาเพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น)​

      จิตนั้นเปรียบประดุจดั่งนํ้า อันไร้รูปร่าง และแปรปรวนไปตามภาชนะ  จิตนั้นก็ไร้ตัวตนแปรปรวนไปตามสิ่งแวดล้อม(อายตนะภายนอก)ที่กระทบสัมผัส(ผัสสะ),
      นํ้าประกอบด้วยเหตุปัจจัยต่างๆคือ H และ O มาประชุมรวมกันชั่วระยะหนึ่ง  จิตก็ประกอบด้วยเหตุปัจจัยอันมากหลายมาประชุมกัน ดังเช่น เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แม้กระทั่งกาย ฯลฯ.,
      นํ้ามีคุณสมบัติไหลลงสู่ที่ตํ่าเพราะแรงดึงดูดโลก จิตก็มีคุณสมบัติเหมือนดั่งนํ้าที่ย่อมไหลลงสู่ฝ่ายที่ตํ่ากว่าคือตามแรงดึงดูดของความเคยชิน(สังขารในปฏิจจสมุปบาท)หรือกิเลสตัณหาแลอุปาทานที่ได้สั่งสมไว้นั่นเอง
      ถ้าเราต้องการนํ้าให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น ย่อมต้องออกแรงพยายามฉันใด  จิตก็ย่อมต้องการความเพียรพยายามปฏิบัติให้สูงขึ้นฉันนั้น,
      การยกระดับนํ้าโดยใช้ภาชนะหรืออุปกรณ์ที่ถูกต้องย่อมยกระดับนํ้าได้รวดเร็วฉันใด  จิตก็ย่อมต้องการการปฏิบัติอันถูกต้องจึงยกระดับจิตให้สูงขึ้นเร็วฉันนั้น,
      ธรรมชาติของนํ้าเดือดพล่านเพราะไฟฉันใด,  ธรรมชาติของจิตย่อมเดือดพล่านเพราะไฟของกิเลสตัณหาอุปาทานฉันนั้น
      นํ้าบริสุทธ์คือนํ้าที่ไม่มีสิ่งเจือปน,  จิตบริสุทธ์ก็คือจิตเดิมแท้ที่ไม่เจือด้วยกิเลสตัณหาอุปาทานนั่นเอง  หรือจิตเดิมแท้นั่นแหละคือจิตพุทธะ อันมีอยู่แล้วในทุกผู้คน เพียงแต่ถูกบดบังหรือครอบงําด้วยกิเลสตัณหาอุปาทาน


ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี

 

555.. นั่นนาซิ..ก็ไม่รู้เหมียนกัลลว่าจะ พูดไปทำมัยย..(ฉงฉัยว่าปากมันว่าง..555)
ก็คุณลินดาท่านถามมา ส่วนเราน่ะสัญญาตกป๋องเลี้ยว.. จึงไปค้นหาของเก่ามาให้ท่านน่ะ..

555.. น้ำแข็ง น้ำหวาน น้ำใจ จาน้ำอารายๆก็เป็น"อนัตตา"ทั้งน้านนน.. หรือก็เป็น "ความว่าง" อีกเลี้ยวครับท่านพี่..555

ปล.อ๋อ..ท่านลุงจี(UncleGee)นะเหรอ.. โปรดคอยซักครู่ท่านผู้ชม เตรียมเข้าฉายเร็วๆนี้.. (coming soon)

 

เมื่อเราเกิดมาในยุคแห่งที่คนเห้นว่ากิเลสเป็นของธรรมดา
เราก็ต้องทวนกระแสน้ำโดยไม่หวั่นต่อคำนินทาที่ว่าเรามันบ้า แต่เมื่อทวนแล้วก็ต้องเจอบททดสอบอีกมากมาย
แต่จะทำยังไงให้พ้นจากกิเลสทั้งหลายได้ ก็จะกลัวอะไรในเมื่อเราเกิดมามีพระพุทธเจ้าท่านได้บอกทางให้แล้ว ท่านลองมาแล้ว และได้ผลมาแล้ว
แต่ก้ยังมีบางคนที่ยังดั้นด้นหาหนทางเอง ปานว่าตนนั้นล้ำเลิศกว่าพระพุทธเจ้า
โดยหารู้ไม่ว่าทางที่ตนเดินนั้นกำลังเดินเข้าสู่หนทางแห่งอบายภูมิ​

 

:d.................................................................................

 

นั่งเฝ้ารอคุณลุงจีด้วยคนนะครับ ( กดดันท่านไหมนี่ ฮิๆๆๆๆๆๆ )
ส่วนศิษย์ตัวเองไหงแต่ละท่านเอาแบบที่ไม่ดีผมไปหมดเลยอ่ะ ฮือๆๆๆๆๆๆ กรรมที่ทำไว้กับครูจริงๆเรา​

 

วันนี้วันหยุดนึกว่าจะงานหนัก ที่ไหนได้จิตบำเพ็ญใหญ่ท่านรอปัญญาแก่กันอีกคนละเล็กละน้อย ส่วนจิตบุญหลายท่านจิตกำลังสบายกันน่าดู แต่กว่าทุกอย่างจะลงตัวกลายเป็นวันหยุดที่สบาย ๆ อีกวันหนึ่ง ขอบอกว่าครูเพ็ญจ้ำบึ้ดๆ จนหอบแฮ่ก ๆ เลยนิ ไม่มีไรแค่มาบ่นให้ดู อิอิ

ส่วนการบ้านลูกศิษย์ในเมลนะคะ ก็อย่างที่บอกจิตบุญใหญ่ท่านรอปัญญาแก่กันอีกนี้ดหนึ่ง และหลายท่านก็วางกำลังใจได้ดีแล้ว เดินจิตเดินมรรคกันสบายขึ้น ไม่เกร็งไม่เคร่งเครียดเหมือนช่วงที่เข้ามาใหม่ ๆ แต่ละท่านพกพาอารมณ์ทั้งคลุ้งทั้งฟุ้งเข้ามาเพียบ ครูก็คอยช่วยเก็บกวาดเช็ดถูจนจิตท่านสะอาดผ่องแผ้วขึ้นและพร้อมจะรองรับสิ่งใหม่ ๆ จากจิตครู เห็นแล้วก็น่าชื่นใจค่ะ

ตอนนี้จิตพี่เพ็ญสบายมากค่ะ นับตั้งแ่ต่จิตพี่ภูเกิดวิปัสสนาญาณอีกรอบ จิตบุญหลายท่านก็เดินขบวนตามจิตท่านออกมากันเป็นแถว แต่มีบางท่านจิตยังเฉียงอยู่นะ อารมณ์ก็จะออกหน่วง ๆ ถ่วง ๆ อยู่นิดหนึ่ง เหมือนตาชั่งสองข้างไม่เท่ากันมันก็เลยเอียงนิด ๆ ใช่ปะ่

แก้ไขไม่ยากหรอก นึกถึงพระสิ นึกถึงแสงสว่างขององค์พระ เพราะตรงที่ท่านอยู่กันนั้นมันมืด มองไรก็ไม่เห็น แต่อารมณ์พระนิพพาน...เห็น ไม่เชื่อถามพี่ภูสิ

 

Jitkohpra Organization Chart
(สมมุตินะ สมมุติ)​

​

จิตบุญทั้งหลาย ท่านเล็งให้ดี
ท่านแน่ใจนะว่า หลุดพ้นจากสังสารวัฎ หรือพ้นจาก ๓๑ ภพภูมิ
แต่ถ้าแน่ใจแล้ว ก็คอยหมั่นทรงอารมณ์พระนิพพานกันเข้าไว้​

ปล. อารมณ์พระนิพพาน ท่านให้ทรงดังนี้
(อารมณ์พระอรหันต์ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
๑.อานาปานุสสติกรรมฐาน การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เพื่อความอยู่เป็นสุขของเรา เพราะเป็นการระงับทุกขเวทนา
๒.กายคตานุสสติ สำหรับสมถะพิจารณาเห็นว่า ร่างกายมันเป็นของสกปรกโสโครกไม่ทรงตัว
๓.ขอแถมนิด พระอรหันต์ก็ดี พระพุทธเจ้าก็ดี ไม่ลืมความตาย
เป็นอันว่าถ้าบรรดาท่านทั้งหลายทรงอารมณ์ทั้งสามประการนี้ทรงตัว คำว่าทรงตัวท่านเรียกกันว่าฌาน คำว่าฌานคือ อารมณ์ชิน

ผู้ใดคิดว่าตนเองเป็นลูกเป็นหลานขององค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำกันละก็ พยายามปฎิบัติตามให้ได้ อย่าเอาแต่อ่านหรือฟังเทศน์ของท่านเพียงอย่างเดียว แล้วก็ให้ผ่านไป อันนั้นหลวงพ่อไม่ปรารถนา แต่ปรารถนาให้ลูกหลานปฎิบัติตามกันให้ได้

 

พร่ำกันมากได้นะ แต่ถ้ากระทบจิตผู้ใด ก็ให้หันกลับไปดูที่จิตตนเองทันที ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว จะพลาดท่าเอา แล้วจะหาไม่เตือน เหมือนพี่ภู ขนาดมีสติบ่อยแล้ว ก็ยังพลาดได้ คือโดนครูดัช(ทส.ครูเพ็ญ & เลขาท่าน..) กับครูเพ็ญสอยซะล่วงเลย หาว่าพี่ภูติด อรูปฌาน ตอนแรกพี่ภูก็นึกว่า คนอย่างพี่ภูนั่นหรอ ติดรูปฌาน เห่อๆ (พี่ภูหัวเราะใหญ่) ถึงกระนั้นสติกอคอปัญญาไปเดินดูให้รอบๆจิต อั่ยหย่า รูโหว่มันอยู่ตรงนี้นี่เอง อะไรรู้ไหมพวกเรา พี่ภูจะพูดให้ฟัง พูดแบบนักเลง ก็คือ เปิดอกพูดไง๊หล่ะ! ก็คือ ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เอาสติกับปัญญาที่มีอยู่อันน้อยนิด ไปส่องดูข้างหลังจิต(มันแอบ มันซ่อนอยู่ง่ะ) ปรากฎก็เห็นเลย ก็คือ พี่ภูเห็นใจ+เมตตา แค่อยากได้บ้านให้พวกจิตบุญไวๆ แค่นี้เอง ก็เลยโดนข้อหาติดอรูปฌาน แค่บ้าทำบุญกับผู้อื่นก็ไม่ได้ ทั้งๆที่ตนเองไม่มีความอยาก ความโลภเป็นของตนเองสักนิดเดียว

คุณลูกพลังกับคุณลินดา หมีภู มิได้ไปตำหนิท่านสักนิดเลยนะ ผมรักคุณทั้งสองมากนะ จะบอกให้ ดีแล้วที่ออกมาให้ธรรมาทานน่ะ ผมเห็นด้วยเป็นที่สุด อย่าไปถือปากดีของผมเลย แต่ถ้าพบเจอผมวันหน้า เดี๋ยวผมจะให้ตบปาก คริคริ..เพราะปากนี้ กายนี้ ไม่ใช่ของผม ตบให้เลือดกลบปากเลยนะ ฮ่าๆ จะได้สะใจ อย่า่งมากผมก็เจ็บปากและจะได้เข็ดไง๊ ช่วยสงเคราะห์ผมทีนะ บอกแล้วไง๊ ตำหนิ ด่า ว่า และก็ตบปากได้ ฮ่าๆ ถ้ามันเลวจริงๆนะ เอามันเลยนะ คุณลินดา ฮ่า

 

คราวนี้ ท่านรู้แล้วใช่ไหม บอกว่าแล้วอย่าดื้อๆ ไม่มีใครฟังกัน กรรมก็เลยสนองเข้าให้ อะไรกับท่านหล่ะ ครูเพ็ญ จิตท่านก็ใช่ย่อยนะ ดื้อง่ะ ก็เลยมีศิษย์เอกดื้อกันทั้งนั้น หรือว่าจะเอ่ยชื่อกันดีนะ ฮ่าๆ (อดีตคนที่ดื้อ สะดุ้งโหยงเลย ฮ่าๆ) เอาแบบคุณดาวลอนดอนท่านสิ ทำแค่อาทิตย์กว่า จบแร๊ะ ท่านนี่สอนง่าย ตามครูของท่านก็คือ คุณแนท คุณแนทต่อจากคุณเกษ คุณเกษนี่ท่านก็ไม่ดื้อ หมีภูหรอ? ฮ่าๆ(ดื้อตาใส)

รู้แล้วหรือยังว่า กรรมนั้นตามสนองจริงๆนะ

 

ฮ่าๆๆ อันนี้ไม่บอกก็รู้ว่าใคร กิ้วๆๆ บอกใบ้ให้ก็ได้ว่าอยู่ต่างแดน 555:boo:

 

ครูเพ็ญครับ อย่าไปพูดถึงหมีภูบ่อย อรมณ์ตรงนี้ผมยังอธิบายยังไม่ค่อยจะถูก เพราะอารมณ์ตรงนี้มันละเอียดมากนัก ขอให้พวกเรานึกถึงอารมณ์ตอยที่จิตยกใหม่กันนะ เออน่ะ ใช่เลย แต่..แต่..ว่ามันยิ่งกว่านั้นหลายเท่าตัวนัก แต่ไม่ใช่ยกจิตซ้ำซากนะ คนละเรื่องกัน ผมว่าจะยังไม่พูดตอนนี้นะ เพราะมันยังไม่จบคอร์ส เอาไว้ให้มันจบก่อนจะดีกว่าเดี๋ยวค่อยมาเล่ากันใหม่
ตอนนี้แค่ จิตห่างไกลขันธ์๕มาก ยิ่งคำว่า จิตอยู่เหนือขันธ์๕ เสียอีกนะ ตอนนี้มันไม่กลัวตายจริงๆ เพราะจิตมันเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า กายนี้เป็นสมบัติของโลกจริงๆ ไม่ว่าจะอะไรที่ทุกคนเข้าใจว่า อันนี้เรา อันนี้เป็นของเราน่ะ ที่แท้จริงแล้วมันมีแต่ดวงจิตดวงเดียว จิตนั้นมีแต่ความว่างลูกเดียวเลย ไม่ใช่ผมจะไปทำให้มันว่างนะ เพราะปกติก็คิดว่าว่างนะ แต่มาคราวนี้ มันว่างแจ่มใส ชัดเจนจริงๆ อ่านไปเรื่อยๆไปเรื่อยๆนะ ใครที่จิตทรงฌานจะทราบอารมณ์นี้ได้ทันที ที่มาบอกเล่าแค่น้ำจิ้ม อารมณ์มัน นุ่มนิ่มลึกซึ้งเกินคาด ต่อไปคุณวิทย์และอีกหลายๆท่าน ก็จะคงได้รับรู้กัน แต่ขอบอกอย่างนึงว่า ถึงเราอยากจะรับรู้ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา แต่สำหรับผู้ที่จะถูกส่งเข้าไปเรียนนี้ ได้แก่ ผู้ที่ไม่ลืมสติตนเอง คือพยายามทรงฌานอยู่เป็นปกติ และก็ทำจิตให้ว่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เดี๋ยวจะมีคนเรียกไปฝึกอบรม ทีละท่าน แต่ถ้าใครได้ไปฝึกหรือกำลังฝึก แต่ถ้าใครจบแล้ว อย่าลืมมาเล่าสู่ให้กันฟัง ที่ผมกล่าวมานี้ มีคนหนึ่งนั่งอมยิ้ม เพราะท่านก็กำลังโดนเรียกเหมือนกัน แต่อย่าให้ผมเอยนะว่าเป็นใคร...คริคริ ขออุ๊บไว้ก่อน อย่าไปคิดว่าที่ผมเล่ามานั้นเพ้อเจ้อกันนะ นี่อาจจะเป็นวิชาที่สองของจิตเกาะพระกันเลยทีเดียว พี่ภูขอบอกใบ้ให้พวกเรานิดนึงว่า พยายามทำจิตอย่าห่างท่านพ่อ พยายามทำจิตทรงฌานเป็นพื้นฐาน(ตรงนี้จำไว้ให้ดี) ที่พี่ภูออกมาพูดตอนนี้ ก็เพราะให้ผู้ที่กำลัง(แอบ)ฝึกฝน อภิญญา มีหลายท่าน แต่ผมจะไม่เอ่ยชื่อนะ ท่านจะได้วางกำลังใจถูก อารมณ์ตรงนี้จะช่วยท่านมากเลย คือพลังจิตจะสูงเป็นสิบๆเท่าตัว ที่ผมกำลังบอกนี่นะ ผมพูดตรงนี้มากไม่ได้ เดี๋ยวถ้าผมเรียนตรงนี้จบก่อน เดี๋ยวผมจะเมล์ไปหา โดยเฉพาะจิตอภิญญาก่อน มีหลายท่าน รวมสายลอนดอนด้วย ถึงเวลาเจ้าจะออกมากัน จงทำจิตเจ้าให้นิ่งๆ และว่างให้มากๆ คุณวิทย์ให้คุณเลิกพูดเรื่องบ้านได้แล้วนะ จะหาไม่เตือน หมีภูโดนส่องจิตมารอบนึงแล้ว อย่าให้้ใครมาส่องจิตได้นะ แต่ก็ทำกันได้ทุกคนแหล่ะ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แค่ง่ายๆ ก็คือ ทำจิตให้ว่าง นี่คือวิชาสุดยอดการพรางตัว(จิต)แห่งโลกทิพย์ หมีภูจะพยายามสื่อคำพูดที่ดูแล้วไม่เพ้อเจ้อมากนัก เอาแบบปานกลางๆนะ(นี่พยายามแล้วนะ) แต่ผมเพ้อเจ้อคนเดียวไม่เท่าไหร่สิ แต่ถ้าผมพาคนเพ้อเจ้อมากมาย อย่างเช่น จิตเกาะพระ นั่นหล่ะ พวกท่านจะทำอย่างไร

ปล.แต่ผมไม่รับปากว่าจะเรียนสำเร็จนะ ผมไม่ทราบ โปรดอย่าถาม..
(คุณวิทย์พร้อมนะ ทำจิตให้ว่างมากๆเข้าไว้ แบบครูลูกพลังน่ะ ท่านนั้นใช้ได้ๆ)

*จิตบุญ หรือจิตนิพพาน(ขอเลี่ยงพูดคำนี้นะ) พวกท่านอย่าทิ้งการเจริญสติภาวนา ตราบใดที่ท่านยังมี หรือยังครองขันธ์๕ อยู่