พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.doa.go.th/sootin_webs/soil_gloss/l/limonite.htm

    limonite ไลมอไนต์ : แร่เหล็กออกไซด์ชนิดหนึ่ง มีสูตร 2Fe<SUB>2</SUB>O<SUB>3</SUB>.3H<SUB>2</SUB>O สีเหลืองถึงสีน้ำตาล เนื้อร่วน เป็นแร่ทุติยภูมิ ซึ่งเกิดเนื่องจากการผุพังของแร่เหล็ก หรือ แร่ที่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ อาจจะเกิดจากการตกทับถมของซากสิ่งมีชีวิตหรือที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตในทะเลสาบ พรุ หรือทะเล ไลมอไนต์เกิดในลักษณะต่าง ๆ เช่น เคลือบอยู่ที่ผิวเป็นมวลเนื้อร่วนหรือเนื้อแน่นเป็นเส้นเป็นรูปพวงองุ่นหรือแทนที่ในผลึกของแร่เดิม เช่น ไลมอไนต์แทนที่ในผลึกของไพไรต์ ในประเทศไทยพบที่จังหวัดสุโขทัย เรียกว่า ข้าวตอกพระร่วง ไลมอไนต์เป็นสินแร่ของแร่เหล็ก
    ----------------------------------------------------------------
    เอกสารอ้างอิง : คณะกรรมการจัดทำปทานุกรมปฐพีวิทยา. 2541. ปทานุกรมปฐพีวิทยา. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.169 หน้า.
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    'ข้าวตอกพระร่วง'
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=37909&NewsType=2&Template=1

    [​IMG]
    วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2550 เวลา 15:12 น.

    หากใครที่มีโอกาสไปเยือนเมืองสุโขทัย และเตรียมจะหาของฝากจากเมืองกรุงเก่าแห่งนี้ นอกจากผ้าไทยลายประณีตที่ขึ้นชื่อเป็นของฝากประจำจังหวัดสุโขทัยแล้ว ยังมีของที่ระลึกอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสุโขทัยมาอย่างยาวนาน นั่นคือ "ข้าวตอกพระร่วง" ที่ควรค่าแก่การหามาบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลยิ่ง
    ข้าวตอกพระร่วง คือก้อนหินมีลักษณะสี่เหลี่ยมลูกบาศก์คล้ายลูกเต๋า ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ โดยจะพบมากบริเวณเขาพระบาทใหญ่ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ซึ่งมีตำนานพงศาวดารที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่า
    ข้าวตอกพระร่วง เกิดจากวาจาสิทธิ์ของพระร่วง เจ้าเมืองของสุโขทัยเมื่อครั้งโบราณกาล ที่ได้ออกผนวชในวันตักบาตรเทโวบนลานวัดเขาพระบาทใหญ่ ครั้นเมื่อได้ฉันภัตราหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตร ท่านได้โปรยลงบนลานวัด และทรงอธิษฐานว่า "ขอตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่งและมีอายุยั่งยืนนานชั่วลูกชั่วหลาน"
    ข้าวตอกพระร่วง จึงกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมื่อใครมีไว้บูชาบนหิ้งพระ หรือพกติดตัว เชื่อว่าจะทำให้เจริญด้วยโภคทรัพย์นานาประการ และอยู่ดีมีสุข จนต่อมามีการนำข้าวตอกพระร่วงมาเจียรนัย ที่เมื่อเจียรนัยแล้วจะมีสีดำอมน้ำตาล นำมาประกอบเป็นรูปของเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น สร้อย แหวน กำไล ต่างหู จี้ ตะกรุด
    ส่วนเศษผงจากการเจียรนัยก็นำมาบดโขลกจนละเอียด นำมากดเป็นพิมพ์พระเครื่อง ซึ่งที่รู้จักกันดีในแวดวงพระเครื่องคือ "พระนางพญาเสน่ห์จันทร์" รวมทั้งอาจนำมากดเป็นพิมพ์พระพุทธรูป หรือเจียรนัยทำดวงตาพระพุทธรูป
    ที่ "บ้านข้าวตอกพระร่วง" เลขที่ 382/1 หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย คือสถานที่จำหน่ายข้าวตอกพระร่วงที่ยังหลงเหลือเพียงแห่งเดียวในไทย โดยก่อตั้งจากครอบครัวเล็ก ๆ ของ นายเหล็ง จันทร์ฉาย ผู้มีอุดมการณ์สืบทอดตำนานพงศาวดารข้าวตอกพระร่วงให้อยู่คู่สุโขทัยนานกว่า 20 ปี
    ที่บ้านข้าวตอกพระร่วง แห่งนี้นี่เองที่คุณสามารถชมสาธิตการเจียรนัยข้าวตอกพระร่วงได้อย่างใกล้ชิด พร้อมหาซื้อข้าวตอกพระร่วง ทั้งแบบดั้งเดิมที่ยังไม่ถูกเจียรนัย และแบบที่ถูกเจียรนัยนำมาเข้ากับเครื่องเงิน หรือสแตนเลส เป็นเครื่องประดับลายสวย เป็นของฝากสิริมงคล ซึ่งภายหลังข้าวตอกพระร่วงได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคเหนือ จนในปี พ.ศ.2547 ข้าวตอกพระร่วงได้รับการคัดสรรให้เป็น 1ตำบล 1ผลิตภัณฑ์ในระดับ 3 ดาวเลยทีเดียว.

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหล็กไหล.. อัศจรรย์หินมีจิตวิญญาณครอง

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=35515

    [​IMG]

    เหล็กไหลไม่มีวันตาย โดย อ.บูรพา ผดุงไทย
    http://www.a-burapa.com/indexTEMPleklai.html
    ..

    เหล็กไหลคืออะไร ในความเป็นจริงแล้วเหล็กไหลก็คือธาตุชนิดหนึ่งในโลก ตัวของเหล็กไหลจริงๆนั้นไม่อาจสามารถระบุได้ว่ามันเป็นธาตุอะไรกันแน่ ทั้งนี้เพราะเหล็กไหลนั้นมีหลายเผ่าพันธุ์ บางชนิดนั้นมีลักษณะเป็นโลหะธาตุแต่ก็ไม่ใช่เหล็ก บางชนิดนั้นมีลักษณะเป็นเนื้อหินไม่ใช่โลหะ ชาวบ้านจะเรียกกันว่า หินไหน บางชนิดนั้นมีลักษณะเป็นเนื้อแก้ว มีทั้งสีเขียว สีดำ บางชิ้นสีออกเหลือง ผู้รู้จะเรียกกันว่า มณีนพรัตน์ แต่เป็นความหมายของเหล็กไหล ไม่ใช่เพชรพลอยอย่างที่เข้าใจกัน
    เราสามารถสรุปเหล็กไหลว่าคืออะไรได้ดังนี้ เหล็กไหลคือสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่มีจิตวิญญาณ มีชีวิตขั้นพื้นฐานของตนเอง และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสังขารร่างกายอยู่ในรูปร่างของ วัตถุธาตุบางอย่าง มีอยู่หลายชนิดหลายเผ่าพันธุ์ในธรรมชาติ
    ประเภทของเหล็กไหล
    การจัดแบ่งเหล็กไหลนั้นครูบาอาจารย์ท่านจะแบ่งเหล็กไหลออกเป็นสองประเภทหลัก ก่อนที่จะแยกย่อยลงไปคือ
    เหล็กไหลประเภทน้ำหนึ่ง หมายถึง เหล็กไหลชั้นยอด ที่สามารถไหลย้อยตัวเองเป็นของเหลวไปตามที่ต่างๆ มีอิทธิฤทธิ์ในการดับพิษไฟทุกชนิด มีศักยภาพในการทำลายดินระเบิด ฟอสฟอรัส เป็นมหาอุดหยุดกระสุนปืน กินพลังงานไฟฟ้าได้
    เหล็กไหลประเภทที่สองเรียกว่าเหล็กไหลน้ำรอง หมายถึงรังเหล็กไหลหรือโคตรเหล็กไหล คือเหล็กไหลที่แข็งตัวเองแล้ว ไหลไปมาไม่ได้ แต่สามารถงอกได้ เจริญเติบโตได้ และมักเกาะกลุ่มกันเป็นรังใหญ่บ้าง ก่อตัวคล้ายรังผึ้ง บ้างคล้ายรังต่อหรือจอมปลวก บางชนิดพบในถ้ำ ตามผนังถ้ำ บางชนิดพออยู่ในใต้ดินลึกลงไป
    เหล็กไหลประเภทน้ำหนึ่งนี้ถือเป็นของคู่บุญเป็นของเฉพาะตัว ไม่ใช่ของที่ใครๆจะหาได้ง่ายๆ และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใฝ่หาเหล็กไหลประเภทน้ำหนึ่งเป็นเรื่องของบุญบารมีเท่านั้น เพราะเหล็กไหลประเภทนี้มีอาถรรพ์ในตัวมาก ผู้ที่ใฝ่หาด้วยความโลภ มักเกิดความวิบัติทั้งทางทรัพย์สินเงินทองจนถึงชีวิตของตนได้
    ''


    [​IMG] ตำนานเหล็กไหล เรียบเรียงโดย พ่อมดโลจิ
    http://www.gmcities.com/gmboard/index.php?topic=264.30

    เหล็กไหลเป็นโลหะธาตุที่มีความลี้ลับพิสดาร แปลกประหลาดมหัศจรรย์แตกต่างไปจากโลหะธาตุทั้งปวง จึงได้ถูกจัดอยู่ในฐานะ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=35515


    <TABLE width=560><TBODY><TR><TD>รู ป ท ร ง ข อ ง เ ห ล็ ก ไ ห ล

    เหล็กไหลย่อมมีรูปทรงพรรณสัณฐานที่แตกต่างกันไปตามจริตและความพึงพอใจของผู้รักษา แต่เท่าที่พบเห็นและเล่าสืบทอดกันมาแต่โบราณ พอจะประมวลได้ดังนี้

    1. กลมแบน................ 5. ดอกบัวตูม.............. 9. แคปซูลยา
    2. ผลองุ่น ..................6. งาช้าง.................. 10. เต่า
    3. ฟักเขียว................. 7. ลักบี้ ....................11. จาวตาล
    4. กลมแบบลูกบอล....... 8. หยดน้ำ

    สี สั น ข อ ง เ ห ล็ ก ไ ห ล

    ดังที่ได้เคยกล่าวไว้ในตอนต้นแล้วว่า สีสันของเหล็กไหลนั้นจะบ่งบอกถึงบุญบารมีของกายทิพย์เดิมหรือผู้รักษาเหล็กไหล ซึ่งเป็นผู้ที่มีบารมีจากภพภูมิที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาจจะเป็น พรหม ฤาษี เทวดา คนธรรพ์ เพชรพญาธร ยักษ์ ที่เข้าไปจับจองเป็นเจ้าของ ทำให้เกิดอิทธิฤทธิ์ในขั้น ล่องหนหายตัว ยืดหดเองได้ สีสันต่าง ๆ ที่พบเห็นบ่อยนั้นได้แก่

    1.สีเขียวปีกแมลงทับ หรือ เขียวมรกต
    2.สีเขียวตองอ่อน
    3.สีน้ำตาลอ่อนหรือท้องปลาไหล
    4.สีเปลือกมังคุด หรือ สีน้ำตาลไหม้
    5.สีเงินยวง หรือ สีขาวเงินในเบ้าหลอม
    6.สีทองลูกบวบ
    7.สีนิลดำสนิทแวววาว
    8.สีลูกหว้า หรือ ม่วงเข้ม

    ดังนั้น สีสันของเหล็กไหลอาจแปรเปลี่ยนได้ตามกาลเวลา เพราะเหล็กไหลเมื่อได้กระจัดกระจายไปอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของโลก ซึ่งมักจะเป็นสถานที่สงบ อากาศเย็นชุ่มชื้น ทั้งใต้พื้นน้ำ ตามถ้ำ ป่าเขา ลำเนาไพร เพื่อแสวงหาอริยะสัจธรรมมานานนับโกฏิปีก็มี การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ย่อมมีผลกระทบต่ออาณาจักรของเหล็กไหล จึงจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัย เสาะแสวงหาสถานที่หรือสร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่ ฉะนั้นสี สันของเหล็กไหลอาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเหตุดังกล่าว คือ

    # สีสันขึ้นอยู่กับสภาพสิ่งแวดล้อม ภูมิประเทศ ดินฟ้าอากาศ เช่น แร่ธาตุในบริเวณนั้น อากาศหนาวจัด อากาศร้อนจัด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและสีสันที่แตกต่างกันออกไป เพื่อการอำพรางตัว ปรับตัวตามอุณหภูมิ

    # สีสันเปลี่ยนแปลงไปตามจริตของเทพเทวาในระดับต่าง ๆ อาจจะเนื่องด้วยอำนาจลี้ลับของวิญญาณแห่งธรรมชาติบันดาลให้เป็นไปในสีต่าง ๆ หรือ ผู้ที่ครอบครองเหล็กไหล หมั่นฝึกฝนปฏิบัติ เจริญสมาธิภาวนาอยู่เนืองนิตย์ แล้วแผ่เมตตาบุญบารมีของการปฏิบัตินั้นให้กับเหล็กไหล จะทำให้บารมีของธาตุกายสิทธิ์นั้นเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ สีสันต่าง ๆก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน

    # สีสันเกิดจากส่วนผสมของสีหลัก ๆ ผสมกัน ซึ่งเป็นความลึกลับอย่างหนึ่งของธรรมชาติ เหล็กไหล

    สี สั น แ ล ะ คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น์

    ดังได้กล่าวมาแล้วว่า สีสันของเหล็กไหลนั้นจะบ่งบอกถึงบุญบารมีของกายทิพย์เดิมหรือผู้รักษาเหล็กไหล บุญฤทธิ์ของเทพพรหม ฤาษี หรือ คนธรรพ์ บังบด ครุฑ นาค ยักษ์ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหล็กไหล ผู้ เป็นสัมมาปฏิบัติ จนมีฤทธิ์อำนาจจากการปฏิบัตินั้น ย่อมสามารถเปล่งสีแสงต่าง ๆ เข้าไปในวัตถุธาตุที่ตนต้องการ ทั้งนี้ย่อมเป็นไปตามลำดับชั้นของภูมิจิตภูมิธรรมที่ได้ฝึกฝนมา

    1.สีเงินยวง เหล็กไหลชนิดนี้มีอริยเทพ อริยพรหมในระดับอรูปฌาน รักษาอยู่ เป็นเหล็กไหลที่ มีบารมีธรรมในชั้นสูง พบมากในแถบที่มีอากาศเย็นจัด พวกลามะทิเบตมักใช้พกติดตัว จึงพบมากในเขตเทือกเขาสูงที่มีหิมะปกคลุม เช่นประเทศทิเบต จีน แถบภาคเหนือของไทย ลาว
    ดีเด่นทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และล่องหนหายตัวได้ ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือดลใจให้ผู้ครอบครองมีจิตใจฝักใฝ่อยู่ในการสร้างบุญสร้างกุศล เหล็กไหลชนิดนี้จัดได้ว่า เป็นเหล็กไหลที่มีบารมีธรรมสูงสุดในบรรดาผู้ครอบครองเหล็กไหลทุกชนิด สมัยโบราณมักจะนำไปจัดสร้างพระพุทธรูปหรือเครื่องรางของขลังในสมัยโบราณ ดังนั้นเหล็กไหลชนิดนี้จึงมักจะอยู่ในความครอบครองของนักบวชต่าง ๆ เช่น ฤาษี ชีไพร ภิกษุสงฆ์ผู้ท่องเที่ยวหาความวิเวกตามป่าเขา

    2.สีเขียวปีกแมลงทับ เหล็กไหลชนิดนี้มี อริยเทพ อริยพรหม ในระดับ รูปฌาณ เป็นผู้ดูแลรักษา เพื่อมอบให้กับผู้ที่มีบุญบารมี และผู้ที่กำลังประพฤติปฏิบัติอยู่ในบุญกุศล เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นนั้น ส่วนใหญ่จะมีบริวารเป็นจำนวนมากคอยอารักขาหลายชั้น
    ผู้พบเห็นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประพฤติธรรม ที่บังเอิญผ่านเข้าไปพบเข้าโดยบังเอิญ หรือเกิดจากการลองใจของเทพผู้รักษาเหล็กไหลก็แล้วแต่ บุคคลธรรมดาทั่วไปอย่าหมายว่าจะครอบครองเป็นเจ้าของได้โดยง่าย
    ดีเด่นในทุก ๆ ทาง ไม่ว่าเป็นเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดกันภัย ล่องหนหายตัว มหาอุด คงกระพัน ยืดได้หดได้ เล่นกับไฟ กินน้ำผึ้ง

    3.สีทอง หรือ สีน้ำตาลอ่อน เหล็กไหลชนิดนี้จะมีเทวดาจำพวกคนธรรพ์และเหล่าเพชรพญาธร เป็นผู้ดูแลรักษา มีฤทธิ์อำนาจใกล้เคียงกับเหล่าพญานาค แต่มีฤทธือำนาจพิเศษกว่าคือสามารถที่จะลื่นไหลไปมาได้ สามารถที่จะกำบังกายได้ มีอยู่ตามป่าเขาทั่วไป
    ดีเด่นทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และความรักเด่นเป็นพิเศษ

    4.สีเขียวอมดำ เหล็กไหลชนิดนี้มี อริยะเทพ อริยะพรหม ในระดับ รูปพรหม เป็นอริยะธรรมในระดับสูง ที่มุ่งบำเพ็ญบารมีรักษาพระพุทธศาสนา จะอยู่เฝ้ารักษาพระบรมสารีริกธาตุหรืออรหันต์ธาตุที่สำคัญไว้ จึงมักจะปรากฏเป็นลูกไฟดวงใหญ่เป็นสีแสงคุ้มครองรักษาธาตุศักดิ์สิทธิ์ ไม่ให้ผู้คนเข้าไปรบกวน
    ดีเด่นทางด้านอิทธิฤทธิ์ เนรมิตภาพมายา ส่งเสริมผู้ใฝ่ในการปฏิบัติธรรมในรูปแบบการชี้แนะผ่านทางนิมิตรสมาธิ หรือความฝัน จัดเป็นเหล็กไหลที่หาได้ยากมากชนิดหนึ่ง

    5.สีชมพู เหล็กไหลชนิดนี้มี อริยเทพ อริยพรหม ในระดับ รูปฌาณ รักษาอยู่ เป็ไหลที่มี บารมีธรรมในระดับสูงรองลงมาจาก อรูปฌาณ พบมากในเขตป่าเขาที่มีความชุ่มชื้น มักอยู่ตามถ้ำภูผาที่ลึกลับ พบเห็นได้ยาก นอกจากผู้มีบารมีธรรมเข้าถึงสัจจธรรมเท่านั้น
    ดีเด่นทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด กันภัย ช่วยเหลือผู้เป็นสัมมาทิฏฐิให้สำเร็จในสิ่งที่อธิษฐานไว้ โดยไม่ขัดกับกฏแห่งกรรม

    6.สีเหลือง เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของภูมิจิตภูมิธรรม ของเหล่าอริยเทพ อริยพรหม ในระดับรูปฌาณ ที่ปรารถนาพุทธภูมิในระดับ พระปัจเจกพุทธเจ้า สีสันเหมือนกับแสงนวลของพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ มักแฝงเร้นในที่สงบด้วยป่าเขา ลำเนาไพร ถ้ำคูหาที่สงบเยือกเย็นบนภูเขาสูง ๆ เรียกลมเรียกฝนได้ มีอิทธิ์ฤทธิ์ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ได้มากมาย เช่น ดวงรัศมีกลมใหญ่ส่องสว่างทั่วภูเขา จะพบเห็นได้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
    เหล็กไหลประเภทนี้สามารถอธิษฐานขออาราธนาบารมีจากพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์ได้ แต่จะไม่มีเทพเข้าไปสิงสถิตย์อยู่ แต่เทพพรหมในระดับจ่าง ๆ จะเข้าไปอธิษฐานของบารมีและเฝ้ารักษาอยู่ภายนอกเท่านั้น ไม่มีใครจะบังคับหรืออัญเชิญท่านด้วยอิทธิ์ฤทธิ์หรือวิชาคาถาอาคมใด ๆ เว้นแต่ขอชมบารมี ขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยมาปรากฏในลักษณะนิมิตรต่าง ๆ ในขณะนั่งสมาธิ

    7.สีฟ้าอ่อน เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของ อริยะเทพ ในระดับมหาเทพชั้นสูง ผู้ครอบครองเหล็กไหลชนิดนี้ จะเป็นผู้มีบารมีเดิมที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน เพื่อช่วยส่งเสริมด้านบารมีธรรมทั้งนักบวชและฆราวาสให้เป็นผู้สอนธรรมในระดับปานกลาง
    จนถึงระดับสูงขึ้นไป
    มีฤทธิ์อำนาจในการขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ดับพิษร้อน ป้องกันภูติผีปีศาจ แต่มีขอบเขตและรัศมีที่จำกัด สามารถล่องหนหายตัวได้ กันฟ้าผ่า มีความเย็นจนสามารถกำจัดไฟได้ในรัศมีของมัน

    8.สีน้ำตาลอมแดง เหล็กไหลชนิดนี้มีพวก นาค นาคา ผู้บำเพ็ญศีลเฝ้ารักษาอยู่ จึงมีฤทธิ์อำนาจในทางความร้อนแรงด้วยพิษแห่งนาคทั้งหลาย จึงทำให้เหล็กไหลประเภทนี้มีสีออกทางน้ำตาลเข้มและน้ำตาลอมแดง
    มีฤทธิ์อำนาจในทำลายล้างพวกมนต์ดำ อวิชชา ป้องกันภูติผีปีศาจได้

    9.สีดำเหมือนนิล เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของ เหล่าเทพ คนธรรพ์ บังบด เพชรพญาธร ยักษ์ ผู้ปรารถนาจะสร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป แต่ยังติดอยู่ในระดับโลกียฌาณ คือยังมีความ โลภ โกรธ หลง ติดอยู่ จึงทำให้มีบารมีทางธรรมน้อยกว่าเหล็กไหลชนิดอื่น ๆ
    มีฤทธิ์อำนาจทางการคุ้มครอง แคล้วคลาดกันภัย เป็นมหาอุด คงกระพัน

    10.เจ็ดสีประกายรุ้ง เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของ อริยะเทพ อริยะพรหมผู้รักษาเหล็กไหล ที่ปฏิบัติจนสภาวะจิตเป็นสีประกายรุ้งรัศมีสวยสดงดงาม เป็นธาตุที่หาได้ยากที่สุดและมี อำนาจครอบจักรวาลประหนึ่งแก้วสารพัดนึก แต่สิ่งที่จะอธิษฐานนั้นจะสำเร็จได้โดยไม่เกินอำนาจของกฎแห่งกรรมตามวาสนาเท่านั้น

    น้ำหนักของเหล็กไหล
    1.น้ำหนักเกินตัวหลาย 10 เท่า
    2.น้ำหนักเบากว่าตัวเองหลายเท่า
    3.น้ำหนักเท่าตัว
    4.ไร้น้ำหนักดุจปุยฝ้าย กรณีเป็นเหล็กไหลที่มีมายามาก หากเอาใส่แก้วน้ำแล้วจะมองไมค่อยเห็น เพราะจะกลมกลืนไปกับน้ำเลย

    อภินิหารของเหล็กไหล
    การแสดงอำนาจอิทธิฤทธิ์ของเหล็กไหลนั้น ย่อมมีอภินิหารล้ำลึกในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน สุดแท้แต่องค์เหล็กไหลปรารถนาจะแสดงให้ชม ซึ่งพอจะประมวลอภินิหาริย์ไว้เป็นแนวทางศึกษาดังนี้
    1.อยู่นิ่งได้
    2.กลิ้งตัวเองให้เคลื่อนไหวได้
    3.หายตัวได้
    4.ปรากฏตัวได้
    5.เผาทำลายตัวเองได้
    6.อาวุธปืนยิงไม่ออก
    7.ถอดวิญญาณออกไปได้
    8.ยืดหรือหดได้
    9.ทำให้น้ำร้อนกลายเป็นน้ำเย็นในชั่วพริบตา
    10.กินดินปืน ฟอสฟอรัส และ ไฟได้
    11.แช่ทำน้ำมนต์เพื่อรักษาโรคบางชนิดได้
    12.ส่งกลิ่นหอมได้
    13.เพิ่มหรือลดน้ำหนักตัวเองได้
    14.เหล็กไหลบางองค์มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กได้

    เหล็กไหลของแท้ที่สามารถขายได้ก้อนละหลายสิบล้านไม่ว่าในสมัยก่อนหรือสมัยนี้ก็คงจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้คือ ปืนยิงไม่ออก ชนวนระเบิดไม่ทำงาน ลนแล้วยืดหดได้ ของมีคมทำอันตรายไม่ได้ มีคุณสมบัติในการดับพิษร้อนได้ทุกชนิด เหล็กไหลของแท้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดังกล่าวข้างต้น สมัยก่อนมีไม่กี่ก้อน แม้สมัยนี้ก็เหมือนกัน

    ข้อห้าม
    1.ห้ามผู้ครอบครอง หรือ เจ้าของเหล็กไหล ทดลองหรือขอชมบารมีด้วยตน เอง
    2.ห้ามชักชวนคนอื่นมาชมบารมีหรือมาทดลอง

    ข้อห้ามนี้ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนจะพบกับความวิบัติมากน้อยแล้วแต่กรณี ถ้าผู้อื่นมาชมด้วยความศรัทธา ก็จะได้พบกับความพิสดารในอิทธิปาฎิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์ทุกราย




    </TD></TR><TR><TD align=right>โดย อวกาศสีขาว@ไตรลักษณ์</TD></TR><TR><TD align=right>วันที่ เสาร์ พฤษภาคม 2550</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.thaipost.net/index.asp?bk=xcite&post_date=7/Apr/2547&news_id=86426&cat_id=200100

    เรื่องปก
    ข้าวตอกพระร่วง ของดีถิ่นสุโขทัย

    7 เมษายน 2547 กองบรรณาธิการ
    ข้าวตอกพระร่วง ข้าวพระร่วง ตามตำนานผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า "ในวันใส่บาตรเทโวที่บนลานวัดเขาพระบาทใหญ่ เมื่อพระร่วงฉันภัตตาหารเสร็จ ข้าวที่เหลือจากก้นบาตรท่านได้โปรยลงบนลานวัดและทรงอธิษฐานว่า...


    <DD>"ให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่ง และมีอายุยั่งยืนนานชั่วลูกชั่วหลาน" ดังนั้น ข้าวตอกพระร่วงที่ชาวบ้านเรียกขานกันจึงหมายถึงหินรูปสี่เหลี่ยมโดยธรรมชาติที่ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่ ส่วนข้าวพระร่วงหรือข้าวกับบาตรพระร่วงนั้นจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสุกฝังตัวอยู่ในหินสีดำ

    <DD>ลุงเหล็ง-ป้าชลอ จันทร์ฉาย วัยใกล้ 60 ทั้งคู่เป็นเจ้าของบ้านตอกพระร่วง เลขที่ 382/1 หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย อดีตเจ้าของ "ซุ้มไก่ชนพันธุ์เก่ง" มีชื่อแห่งหนึ่งในตำบลเมืองเก่าสุโขทัย เล่าถึงความเป็นมาของข้าวตอกพระร่วงให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาเริ่มต้นทำข้าวตอกพระร่วงอย่างจริงจังนี้ ตนและครอบครัวมีอาชีพเพาะเลี้ยงไก่ชนขาย ชื่อซุ้มไก่ชนพันธุ์เก่ง แต่ช่วงหลังโดนอิทธิฤทธิ์ของไข้หวัดนกที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องเปลี่ยนมาเป็นการทำข้าวตอกพระร่วงแทน เพราะมีความรู้ความสามารถในด้านนี้มาตั้งแต่ยังหนุ่มแล้ว และทำเป็นอาชีพเสริม ส่วนการเลี้ยงไก่ชนก็ยังคงทำควบคู่กันไป เหตุว่าถึงแม้ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกนั้น ซุ้มไก่ชนพันธุ์เก่งแห่งนี้ตนมีการป้องกันอย่างดี ไก่ชนที่เลี้ยงไว้จึงรอดตาย แต่ก็ไม่วายทำให้ยอดขายตกลงจากเดิม

    <DD>ปัจจุบันลุงเหล็งบอกว่า คนที่ประกอบอาชีพการทำข้าวตอกพระร่วงนี้แทบจะไม่มีแล้ว เพราะไม่สามารถหาวัตถุดิบมาทำกันได้ แต่ที่ตนยังทำได้อยู่ก็เพราะไปขอแบ่งซื้อมาจากคนเฒ่าคนแก่แถวนี้ที่เขายังพอมี สนนราคาตามความพอใจ โดยนำวัตถุดิบที่ได้มาทำการเจียระไนเป็นเครื่องประดับต่างๆ มีลักษณะสีดำปนน้ำตาล ลายเงิน ลายทอง อาทิ ทำเป็นหัวแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ เป็นต้น หรือนำมาตำให้เป็นผงผสมกับดินพิมพ์เป็นพระเครื่องเพื่อนำไปปลุกเสกเป็นพุทธบูชา ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า หากใครมีข้าวตอกพระร่วงนี้ไว้ติดตัวสำหรับเดินทาง ก็จะเป็นสื่อนำโชคลาภและแคล้วคลาดจากอันตราย ส่วนรูปทรงสี่เหลี่ยมของข้าวตอกพระร่วงโดยธรรมชาติที่ฝังอยู่ในหินนั้น สามารถนำมาฝนกับน้ำมะนาวทาผิวหนังบริเวณที่โดนพิษสัตว์กัดต่อยได้ด้วย ลุงเหล็งเล่าด้วยความเชื่อมั่น.

    <DD>

    </DD>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ผมได้นำเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(จากกระทู้นี้) ไปลงในเว็บไซด์ วัดถ้ำเมืองนะครับ

    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ > หมวดธรรมะศึกษา > ธรรมะครูบาอาจารย์</TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG]ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร </TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=18072#post18072

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>สถิติโดยสรุปของวัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ </TD></TR></TBODY><TBODY id=collapseobj_forumhome_stats><TR><TD class=alt2><IMG title="สถิติโดยสรุปของ<i>วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่</i>" alt="สถิติโดยสรุปของ<i>วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่</i>" src="http://www.watthummuangna.com/board/images/misc/stats.gif" border=0></TD><TD class=alt1 width="100%">กระทู้: 1,236, ข้อความ: 16,145, สมาชิก: 824, สมาชิกเข้ามาบ่อย: 569
    ยินดีต้อนรับ คุณ sithiphong เป็นสมาชิกคนล่าสุด

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2007
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ > หมวดธรรมะศึกษา > ธรรมะครูบาอาจารย์</TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG]ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร </TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.watthummuangna.com/board/...8072#post18072

    <TABLE class=tborder id=post18075 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="FONT-WEIGHT: normal">วันนี้, 04:52 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #12 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_18075", true); </SCRIPT>
    สมาชิกใหม่

    วันที่สมัคร: Sep 2007
    ข้อความ: 11 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 1
    Thanked 25 Times in 10 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_18075><!-- icon and title -->[​IMG]
    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ห้ามนำบทความ ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ไปทำประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในทุกกรณี หากจะนำบทความไปลง ต้องขออนุญาตจากท่านอาจารย์ประถม อาจสาครก่อนนะครับ

    ส่วนรูปนั้น เป็นลิขสิทธิ์ของท่านอาจารย์จเร แห่งบ้านดวงธรรม ก็เช่นกัน ห้ามนำรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ไปทำประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ต้องขออนุญาตจากท่านอาจารย์จเร แห่งบ้านดวงธรรมก่อนครับ

    โมทนาสาธุครับ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมเองมีพระขรรค์และกฤช ที่ด้ามเป็นรูปลักษณะอื่นๆอีก แต่ไม่ได้นำมาลง มีกระทั่งเป็นรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,รูปสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,รูปหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ฯลฯ และรูปลักษณะก็แตกต่างจากที่ผมลงไปครับ

    .
     
  9. พรหมฤทธิ์

    พรหมฤทธิ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +67
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดได้ยากมากๆเรื่องหนึ่ง ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วในกระทู้นี้ การตรวจสอบพลังอิทธิคุณ(ผมจะใช้คำว่า อิทธิคุณแทนพุทธคุณ) ขององค์พระพิมพ์ ว่ามีการจับได้ และจับเป็น

    การจับพลังพระได้ จะดูได้เพียงว่า มีพลังในด้านใด หรือองค์ผู้อธิฐานจิตเป็นใคร(ดูจากกระแสพลังอิทธิคุณ)

    ส่วนการตรวจสอบพลังอิทธิคุณพระพิมพ์เป็น จะรู้ว่าองค์ไหนเป็นผู้เสกบ้าง ถ้าตรวจสอบพลังอิทธิคุณเป็นมากขึ้นไปอีก ก็เป็นการเห็นองค์ผู้เสก ว่ามีกี่องค์ ถ้าตรวจสอบพลังได้มากที่สุดก็คือคุยกับองค์ผู้อธิษฐานจิตได้

    และอีกประการที่สำคัญ ผู้ที่ตรวจสอบพลังอิทธิคุณนั้น ต้องมีฌาณหรือญาญที่ตรวจสอบได้ ไม่หลงหรือจิตพาไปเอง

    การตรวจสอบพลังอิทธิคุณนั้น เป็นเรื่องที่เป็นความเชื่อแต่ละบุคคล แต่ละคณะบุคคลครับ

    ผมเองก็เข้าไปอ่านแล้ว ก็ไม่ออกความคิดเห็นว่า จริงหรือไม่อย่างไรครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง <O:p</O:p
    ชุดทบทวนความทรงจำของผม
    หากไม่ถูกต้องขอความกรุณาช่วยแจ้งให้ทราบด้วยครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.คุณnongnooo<O:p</O:p
    1.1 ชุดสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า 3,333 บาท<O:p</O:p
    1.2 สมเด็จเนื้อปัญจสิริ ชุด 2 จำนวน 2 องค์ 2,600 บาท
    1.3 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม รักแดง จำนวน 2องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    1.4 พระฐานผ้าทิพย์(พระบัณฑูร)วังหน้า 1 ชุด<O:p</O:p
    1.5 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    1.6 พระสมเด็จวังหน้า (เนื้อสี) 1 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    2.คุณตั้งจิต<O:p</O:p
    2.1 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม น้ำเงิน 1 องค์ , แดง 1 องค์<O:p</O:p
    2.2 สมเด็จวังหน้า เนื้อขาว รักแดง ปิดทองรองชาด 1 องค์<O:p</O:p
    2.3 พุทธประวัติ เนื้อขาว 1 องค์<O:p</O:p
    2.4 ปิดตาวังหน้า 2 หน้า 1 คู่<O:p</O:p
    2.5 อรหันต์กลาง กรุเนปาล 1 องค์<O:p</O:p
    2.6 พระธาตุพนม 3 องค์ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    2.7 พระฐานผ้าทิพย์(พระบัณฑูร)วังหน้า 1 ชุด<O:p</O:p
    2.8 ไกเซอร์ 1 ชุด<O:p</O:p
    2.9 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    2.10 พระสมเด็จวังหน้า (เนื้อสี) 3 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p
    </O:p
    3.คุณaries2947<O:p</O:p
    3.1 พระนาคปรก 4 องค์<O:p</O:p
    3.2 หลวงพ่อเงิน บุทองคำ 1 องค์<O:p</O:p
    3.3 พระธาตุพนมองค์ซ้าย 1 องค์

    ชุดจอง<O:p</O:p
    3.4 สมเด็จโต (คุณปุ๊) 1 องค์<O:p</O:p
    3.5 หลวงพ่อเงิน 1 ชุด<O:p</O:p
    3.6 พระสมเด็จวังหน้า (เนื้อสี) 1 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    4.คุณtg22070<O:p</O:p
    4.1 ปิดตาวังหน้า 2 หน้า 1 คู่<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5.คุณnathaphat<O:p</O:p
    5.1 สมเด็จวังหน้า สีเหลือง 1 องค์<O:p</O:p
    5.2 สมเด็จกรมท่า 1 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    5.คุณteerachaik<O:p</O:p
    ชุดจอง<O:p</O:p
    5.1 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด


    6.คุณchaipat<O:p</O:p
    6.1 พระนาคปรก 2 องค์<O:p</O:p
    6.2 พระสมเด็จวังหน้า (เนื้อสี) 1 ชุด<O:p</O:p
    6.3 ปิดตาวังหน้า 2 หน้า 1 คู่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    6.4 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    6.5 พระสมเด็จวังหน้า (เนื้อสี) 1 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    7.คุณpondkantana<O:p</O:p
    7.1 ปิดตาวังหน้า 2 หน้า 1 คู่<O:p</O:p
    7.2 พระสมเด็จพระธาตุพนม 3 องค์<O:p</O:p
    7.3 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม แดง 1 องค์<O:p</O:p
    7.4 พระนาคปรก 4 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    8.คุณdrmetta<O:p</O:p
    8.1 พระนาคปรก 4 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    8.2 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    9.คุณ s3087780<O:p</O:p
    9.1 ไตรโลกอุดร กรมท่า 1 องค์<O:p</O:p
    9.2 พระนาคปรก 2 องค์<O:p</O:p
    9.3 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม แดง 1 องค์


    10.คุณnarongwate<O:p</O:p
    10.1 พระนาคปรก 1 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    10.2 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    11.คุณ ศ.รุ่งเรือง<O:p</O:p
    11. พระนาคปรก 2 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    12.คุณ Pichet-m<O:p</O:p
    12.1 พระนาคปรก 2 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    12.2 ไกเซอร์ 1 ชุด <O:p</O:p
    12.6 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    13.คุณkwok<O:p</O:p
    13.1 พระนาคปรก 2 องค์<O:p</O:p
    13.2 พระธาตุพนม (ซ้าย) 2 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    14.คุณ hongsanart<O:p</O:p
    14.1 พระนาคปรก 4 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    15.คุณThanyaka <O:p</O:p
    15.1 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม น้ำเงิน 1 องค์
    15.2 พระนาคปรก 1 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    16.คุณขุนท้าว<O:p</O:p
    16.1 พระนาคปรก 2 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    17.คุณเทพารักษ์<O:p</O:p
    17.1 พระนาคปรก 4 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    18.คุณโสระ<O:p</O:p
    พระพุทธชินราช 3 องค์<O:p</O:p

    <O:p</O:p<!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2007
  12. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    2.คุณตั้งจิต<O:p</O:p
    2.1 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม น้ำเงิน 1 องค์ , แดง 1 องค์
    <O:p</O:p
    2.2 สมเด็จวังหน้า เนื้อขาว รักแดง ปิดทองรองชาด 1 องค์<O:p</O:p
    2.3 พุทธประวัติ เนื้อขาว 1 องค์<O:p</O:p
    2.4 ปิดตาวังหน้า 2 หน้า 1 คู่<O:p</O:p
    2.5 อรหันต์กลาง กรุเนปาล 1 องค์<O:p</O:p
    2.6 พระธาตุพนม 3 องค์ <O:p</O:p

    ถูกต้องนะคร๊าบ

    ส่วนพระนาคปรกก็ ดำ 2 องค์ ขาว 2 องค์ครับ

    ขอบคุณคุณหนุ่ม(จริงๆ) มากๆครับ
    โมทนาครับ
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เรียนคุณ sithiphong
    ตามที่ได้แจ้งนี้
    1.คุณnongnooo<O:p</O:p
    1.1 ชุดสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า 3,333 บาท<O:p</O:p
    1.2 สมเด็จเนื้อปัญจสิริ ชุด 2 จำนวน 2 องค์ 2,600 บาท<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชุดจอง<O:p</O:p
    1.3 พระฐานผ้าทิพย์(พระบัณฑูร)วังหน้า 1 ชุด<O:p</O:p
    1.4 หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด<O:p</O:p
    1.5 พระสมเด็จวังหน้า (เนื้อสี) 1 ชุด<O:p</O:p

    ยังขาดส่วนที่สร้างห้องสุขากับ อ.กวงครับ
    พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม รักแดง จำนวน 2องค์(ชำระแล้ว)
    รับที่บ้าน อ.ประถมครับ
    ขอบคุณครับ
    nongnooo...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2007
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. dragonn

    dragonn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +1,255

    ขอเป็นกำลังใจให้ และขอโมทนาด้วยคนครับ
     
  16. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    คนมีฝีมือ ก็งี้ละครับ(verygood)
     
  17. กุ้งมังกอน

    กุ้งมังกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขยันจริงๆเลยยยครับ คนที่ไม่มีวันแก่ (ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต ) อิอิอิ
    กับบ้านได้แล้วพี่ พรุ้งนี้ต้องมาเปิดประตูแต่เช้าอีก
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ธรรมดา ผจก.ทร. รับสภาพ :'( :'( :'( :'( :'(

    ======================(})
    ======================(})
    ======================(})
     
  19. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    15.คุณThanyaka <O:p</O:p
    15.1 พระพิมพ์ท้าวมหาพรหม น้ำเงิน 1 องค์
    และยังมี พระพิมพ์นาคปรก 1 องค์(ยังชำระไม่หมด)...
    ของดิฉัน รอส่งพร้อมกันก็ได้ ตอนชำระหมด
    ตอนนี้ฝากไว้ก่อนค่ะ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมว่าจะส่งไปก่อนก็แล้วกัน ถ้ายังไม่ส่งเดี๋ยวผมเวียนหัวครับ

    โมทนาสาธุครับ
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...