พระและของมงคล...ที่สะสมพร้อมประสบการณ์ ^^

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย poman, 18 ตุลาคม 2012.

  1. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    ^^ เหรียญนี้เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตอนมหาลัย ให้มา บ้านเค้าตามอุปถาก ลป.บุญมี มาตั้งแต่รุ่นพ่อ...
    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
     
  2. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    :cool: อนุโมทนาบุญด้วยครับพี่โญ ^^
     
  3. ส่างปา

    ส่างปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,531
    ค่าพลัง:
    +11,165
    พระอาจาร์ยเจริญ ...... อุดรธานี เพิ่งเอารถใหม่ไปให้ท่านเจิมเมือ่เดือนที่แล้วนี่เอง ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 22.jpg
      22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.3 KB
      เปิดดู:
      147
    • 23.jpg
      23.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.9 KB
      เปิดดู:
      159
    • 24.jpg
      24.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.1 KB
      เปิดดู:
      441
  4. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    ท่านเก่งมาก จริงๆ แล้วสะสม อะไรของท่านบ้างล่ะครับ อุ้มนาง ตะกรุดตายคารู ได้เช่ามาหรือป่าว ^^
     
  5. saylom2530

    saylom2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +934
    อยู่ครับพี่ เพิ่งไหว้แม่เสร็จ ครบรอบแม่เสีย 9 ปี .....เพิ่งทานอาหารเสร็จครับ ปีนี้พิเศษ ไหว้เจครับ:cool::cool::cool:
     
  6. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    การขอพรพระคำข้าว

    ของหลวงพ่อเรานี่จะมีสมเด็จคำข้าว

    สมเด็จคำข้าวนี่ท่านอนุญาตให้ว่า ภายในชีวิตหนึ่งขอได้ไม่เกิน ๓ ครั้ง จะต้องประเภทลำบากชนิดเลือดตากระเด็นจริง ๆ ท่านบอกให้หากุหลาบ ๓ สี คือ สีขาว สีเหลือง สีแดง อย่างละ ๑๐ ดอก จัดใส่แจกันบูชาพระ ตั้งพานปูผ้าขาว เอาสมเด็จคำข้าววางบูชาบนพาน หลังจากนั้นสวดอิติปิโสฯ บูชา เสร็จแล้วให้ภาวนาคาถาเงินล้าน ประมาณ ๑ ชั่วโมง ทำอย่างนี้ติดต่อ กัน ๗ วัน ต้องเปลี่ยนดอกไม้ทุกวันด้วยนะ พอวันสุดท้ายทำเรียบร้อยแล้วให้อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา

    แต่ท่านบอกเอาไว้ว่า ถ้าไม่ถึงขนาดเลือดตากระเด็นจริง ๆ อย่าเพิ่งไปขอ เพราะโควต้ามีแค่ ๓ ครั้งเท่านั้น ไม่ใช่ว่า
    กูมี ๓๐ องค์ กูล่อซะ ๙๐ ครั้ง ๓๐ องค์ก็ ๓ ครั้งเหมือนกัน อาตมายังไม่เคยขอสักครั้ง รู้สึกคุณแสงชัยขอไปทีหนึ่งแล้ว

    ถาม : ได้ไหม ?
    ตอบ : ได้...ทำไมจะไม่ได้

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕



    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป

    พระคำข้าว ได้ลาภแบบเกินคาด แบบงง ๆ เช่น เราขอบารมีพระหางหมากเพื่อเจรจางาน แล้วต่อด้วยขอบารมีพระคำข้าวเจรจาเงินค่าตอบแทน หลายครั้งครับที่ เราตั้งใจจะกำหนดจำนวนเงินเท่านี้ ไว้ในใจ หรือเสนอน้อยไปเขากลับชิงเป็นฝ่ายเสนอก่อน หรือให้เพิ่มเป็นจำจวนเงินสูงกว่าอย่างคาดไม่ถึงแบบเรางง ๆ เราเลยเต็มใจรับที่มากกว่าครับ (แต่อย่าแกล้งโมเมขอเพิ่มขึ้นต่อจากที่เขาเสนอมามากกว่านะครับ เดี๋ยวลาภหายหมด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  7. ส่างปา

    ส่างปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,531
    ค่าพลัง:
    +11,165
    ว่ากันจริง ๆ ถ้าแม่ยายไม่ให้มา ผมก็ไม่มีหรอกครับ แฮะ ๆ ส่วนรถผมฝากพี่ชายภรรยาผมไปครับ พอดีเค้าจะกลับบ้านแฟนของพี่ชายที่ หนองวัวซอ ผมกับแฟนเลยให้พี่ชายขับไปแล้วก็ฝากไปให้ท่านเจิมด้วยครับ สำหรับผมไปวัดท่านแค่ครั้งเดียวเองครับ ตอนเอารถคันแรกไปเจิม แม่ยายกับแฟนพาไปครับ ก็สิบปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักท่านเลยครับ ขับมาสิบปีก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรหรือเจออุบัติเหตุใด ๆ เลยครับ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ไปอีกเลย คราวก่อนหน้านี้ พี่ชายแฟนผมก็เอารถไปเจิม แฟนผมกับพี่ชายแฟน ก็ไปฝังตะกรุดที่แขนกัน ผมก็ไม่ได้ไปอีกตามเคย เพราะต้องทำงานครับ ... สรุปแล้วก็มีเท่านี้ล่ะครับ .... :cool:

    ครอบครัวแฟนผมเป็น คนอุดร ครับ .... ส่วนผมเป็นเขย อุดร ครับ ^^ ส่วนใหญ่ พระเครื่องทางแถบนี้ ผมก็จะได้จากแม่ยายนี่ละครับ .... เวลาจะทำบุญ หรือทอดกฐิน แม่ก็จะโทรมาบอก เราก็โอนไปให้ หรือเวลาแม่ยายได้อะไรมา ก็เวลาเจอกันท่านก็เอามาให้ดูบ้าง ให้บ้าง ครับ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  8. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    ตามรอย "หลวงปู่หล้าหรือหลวงปู่หล้าตาทิพย์" แห่งวัดป่าตึง

    ชื่อเสียงของหลวงปู่หล้า เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันงดงาม หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"

    ในบรรดาพระเกจิชื่อดังของเชียงใหม่ นอกจากครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋งแล้ว ชื่อของหลวงปู่หล้าวัดป่าตึง น่าจะถูกรวมอยู่ในบรรดาพระเกจิผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วย

    หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"

    หลวงปู่หล้า (พระครูจันทสมานคุณ) ท่านเกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ซึ่งอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนเจ้าผู้ครงนครเชียงใหม่สมัยของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 (พ.ศ. 2426-2439) กับเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 8 (พ.ศ. 2442-2452) หลวงปู่หล้าเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 7 ค่ำเดือน 11 ตรงกับวันที่ 22 กันยายน 2441 ที่บ้านปง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โยมพ่อชื่อ นายเงิน โยมแม่ชื่อ นางแก้ว นามสกุล บุญมาคำ เหตุที่มีนามสกุลนี้ หลวงปู่หล้าเล่าว่า "เพราะพ่ออุ้ย(ปู่) ชื่อบุญมา แม่อุ้ย(ย่า) ชื่อคำ เมื่อมีการตั้งนามสกุล กำนันจึงตั้งให้เป็น บุญมาคำ " หลวงปู่หล้าเป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัวจากจำนวนพี่น้อง 4 คน เมื่ออายุได้ 1 ขวบ ต้องกำพร้าพ่อ โยมแม่จึงได้เลี้ยงดูลูกทั้งหมดเพียงลำพัง หลวงปู่หล้าเล่าให้ฟังว่า "การเลี้ยงลูกสมัยก่อน ต้องช่วยกันทำงาน ช่วยเลี้ยงวัว หากใครทำผิดก็จะถูกเฆี่ยน ทำพลาดก็ถูกเอ็ด"

    เมื่อหลวงปู่หล้าอายุได้ 8 ขวบ โยมแม่ก็นำไปฝากกับครูบาปินตา เจ้าอาวาสวัดป่าตึงให้เป็นเด็กวัด หลวงปู่หล้าจึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือเป็นครั้งแรกกับครูบาอินตา ซึ่งสมัยนั้นจะเรียนหนังสือพื้นเมือง จนอายุได้ 11 ขวบก็ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงเข้ารุกขมูล เข้ากรรมอยู่ในป่า การเข้ากรรม หรือ อยู่กรรม เรียกว่า ประเพณีเข้าโสสานกรรมซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนาที่ถือพระสงฆ์จะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งมักจะกระทำกันในบริเวณป่าช้าที่อยู่นอกวัด พระสงฆ์และผู้ที่เข้าบำเพ็ญโสสานกรรมจะต้องถือปฏิบัติเคร่งครัดเพื่อต้องการบรรเทากิเลสตัณหา

    โดยเรียนกับพระอุ่นซึ่งเคยไปจำพรรษาที่วัดอู่ทรายคำในเมืองเชียงใหม่ และเรียนหนังสือไทยที่โรงเรียนประจำมณฑลพายัพ ปัจจุบันคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย แต่ครูบาปินตาไม่สนับสนุนให้พระเณรเรียนหนังสือไทย ในที่สุดพระอุ่นจึงต้องเลิกสอน หลวงปู่หล้าศึกษาเล่าเรียนทั้งอักขรวิธีและธรรมปฏิบัติกับครูบาปินตาเรื่อยมาจนกระทั่งอายุได้ 18 ปี จึงเดินทางเข้าไปจำพรรษาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพน หลวงปู่หล้าเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพนเพียง 1 ปียังไม่ทันสำเร็จก็ต้องเดินทางกลับวัดป่าตึง เพื่อปรนนิบัติครูบาปินตาที่ชราภาพ หลวงปู่หล้าอยู่ปรนนิบัติครูบาปินตาจนกระทั่งล่วงเข้าปี พ.ศ. 2467 ครูบาปินตาก็มรณภาพด้วยวัย 74 ปีซึ่งขณะนั้นหลวงปู่หล้าอายุ 27 ปีเท่านั้น หลวงปู่หล้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าตึงต่อจากครูบาปินตา เมื่อปี พ.ศ. 2467 และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้เมื่อปีพ.ศ. 2476

    ปี พ.ศ. 2477 เมื่อครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2478 รวมเป็นเวลา 5 เดือนกับ 22 วัน ในครั้งนั้นหลวงปู่หล้าได้เดินทางไปร่วมสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพด้วย หลวงปู่หล้าเล่าถึงความยากลำบากในการสร้างถนนไว้ในหนังสือ ประวัติวัดป่าตึงว่า "การสร้างถนนมีการแบ่งงานกันตามกำลังของคน ผู้คนที่ไปร่วมเป็นชาวบ้านจากวัดป่าตึงทำได้ 5 วาใช้เวลา 14 วันส่วนพวกที่มาจากเมืองพานทำได้ 6 วา"

    จนเมื่อปี 2504 หลวงปู่หล้าได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูจันทสมานคุณ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ 63 ปี

    มีาได้ มีเรื่องเล่าว่าวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่บอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏฺ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด ครั้นพอถึงเวลา 6 โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยนำญาติโยมมาหา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"

    หลวงปู่หล้าเจริญอายุมาถึง 97 ปีก็ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2536 ยังความเศร้าสลดใจมาสู่พระสงฆ์ สามเณร ศรัทธาญาติโยมทั่วไป และต่างก็มาเคารพศพตั้งแต่วันที่ท่านมรณภาพ จวบจนปัจจุบันนี้ศพของหลวงปู่หล้าถูกบรรจุไว้ในโลงแก้วที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ ตั้งอยู่บนกุฏิไม้สักที่งดงามในวัดป่าตึง

    หลวงปู่หล้าเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านถือปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำสรง ซึ่งยังความปราบปลื้มปิติยินดีมาสู่ศิษยานุศิษย์

    แม้ว่าหลวงปู่หล้า จะมรณภาพจากไปแล้ว ก็เป็นเพียงการจากไปแต่สรีระร่างกายเท่านั้น ส่วนคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างเอาไว้หาได้ดับไป ด้วยคุณงามความดีที่หลวงปู่หล้าได้บำเพ็ญมาก็ดี คุณงามความดีที่ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้บำเพ็ญมาก็ดีและคณะศรัทธาญาติโยมบำเพ็ญมาก็ดี ขอจงเป็นพลวะปัจจัยให้ดวงวิญญาณของหลวงปู่ได้ประสบสุขในสัมปรายภพนั้นด้วย.


    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป


    <!-- MESSAGE FINISH --><!-- BBCODE START 923780 --><!-- BBCODE FINISH -->
     
  9. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    อย่างงี้นี่เอง รูปหล่อท่านเด่วนี้แพง และหายากนะครับ...^^
     
  10. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    หลวงปู่คำดี ปัญโญภาโส ศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

    [​IMG]


    พระรัชมงคลนายก” หรือ “หลวงปู่คำดี ปัญโญภาโส” วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร อดีตเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส เป็นพระสายปฏิบัติธรรมที่ได้ทุ่มเทชีวิตให้กับการประพฤติปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำให้มีพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ศรัทธาเลื่อมใสในปฏิปทาเป็นจำนวนมาก

    อัตโนประวัติ พระรัชมงคลนายก มีนามเดิมว่า ดี ใบหะสีห์ เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2471 ณ บ้านหนองหอย หมู่ที่ 4 ต.กุสุมาลย์ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายถา และนางตา ใบหะสีห์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 12 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3

    ในวัยเด็ก เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดบ้านอีกุด ต.กุสุมาลย์ จบชั้นประถมปีที่ 4 ต้องลาออกออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา

    กระทั่งอายุ 18 ปี ได้ขอลาบวชเป็นสามเณร ที่วัดโพธาราม ต.กุสุมาลย์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2488 โดยมีเจ้าอธิการโท วรปัญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ด้วยความตั้งใจครั้งแรก คิดจะบวชเพียง 7 วันเท่านั้น แต่ปรากฏว่า เมื่อได้ศึกษาพระธรรมอย่างถ่องแท้ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงไม่ยอมสึก

    พ.ศ.2489 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี

    เมื่ออายุครบบวช จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2490 โดยมีพระอธิการโท วรปัญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งเดิม พร้อมศึกษาพระปริยัติธรรมต่อ

    พ.ศ.2491 ได้ย้ายไปอยู่สำนักวัดสะพานคำ ตัวเมืองสกลนคร และได้ทราบว่าที่สำนักวัดป่าธาตุนาเวง ตั้งอยู่ที่บ้านธาตุนาเวง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าภูธรพิทักษ์ มีการฉันอาหารมื้อเดียว ฉันสำรวมในบาตร

    จึงเดินทางไปที่สำนักวัดป่าธาตุนาเวง พบเห็นที่อยู่เป็นป่าสะอาดสะอ้านรู้สึกประทับใจ และได้เข้าไปนมัสการหลวงปู่ฝั้น อาจาโร เจ้าอาวาสผู้เป็นหัวหน้าสำนัก เกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมที่ท่านได้อธิบายให้ฟังเข้าใจอย่างง่ายๆ

    ท่านได้ตัดสินใจขอฝากตัวเป็นศิษย์ และได้อยู่ศึกษาในปี พ.ศ.2492 และหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ทำพิธีญัติกรรมสวดญัตติใหม่ คือ การเปลี่ยนจากพระสายมหานิกายมาเป็นธรรมยุต เสมือนการบวชใหม่ จึงเริ่มนับพรรษาใหม่

    ในการนี้ มีพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระราชสุทธาจารย์ (พรมมา โชติโก) วัดเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    ก่อนเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าธาตุนาเวง และศึกษาข้อวัตรปฏิบัติในสำนักแห่งนี้

    เมื่อสิ้นปี พ.ศ.2495 ท่านจึงเดินทางออกแสวงหาที่เงียบสงบปฏิบัติธรรมโดยการเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรปลีกวิเวก

    หลวงปู่คำดี เคยเดินธุดงค์และจำพรรษา ดังนี้ พ.ศ.2492-2495 วัดป่าภูธรพิทักษ์ อ.เมือง จ.สกลนคร พ.ศ.2496-2497 ดงยางระโหงและที่วัดเขาแก้ว อ.ท่าไหม่ จ.จันทบุรี พ.ศ.2498-2500 ภูเขาป่ายางนาคและสำนักสงฆ์น้ำริน ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

    พ.ศ.2502-2504 วัดป่าศรัทธาราม ต.หัวทะเล จ.นครราชสีมา และ พ.ศ.2505 กลับไปที่สำนักสงฆ์น้ำริน ต.ขี้เหล็ก จ.เชียงใหม่

    พ.ศ.2506-2507 สำนักสงฆ์สันติวาสวดี อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร พ.ศ.2508-2512 วัดป่าศรัทธาราม วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา พ.ศ.2513-2517 วัดป่าน้ำริน ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พ.ศ.2518-2523 วัดป่าธาตุนาเวง อ.เมืองสกลนคร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม พ.ศ.2524-2525 สำนักสงฆ์ถ้ำขาม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    พ.ศ.2526-2532 วัดอรัญญิกาวาส อ.เมือง จ.นครพนม พ.ศ.2533 สำนักสงฆ์ผาเด่น อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่, พ.ศ.2534-2536 วัดป่าภูธรพิทักษ์ อ.เมืองสกลนคร

    ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2538 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมกับได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร (ธรรมยุต) และ พ.ศ.2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ.2548 หลวงปู่คำดี อาพาธด้วยโรคความดันโลหิต โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน คณะศิษย์ได้ส่งตัวไปรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ เมื่อคณะแพทย์เห็นว่า อาการดีขึ้น จึงให้กลับมาพักรักษาตัวที่ ร.พ.สกลนคร

    ต่อมาหลวงปู่คำดีได้มีอาการทรุดหนักลง และมรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลสกลนคร เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 เวลา 09.09 น. สร้างความเศร้าโศกแก่คณะศิษย์เป็นอย่างยิ่ง สิริอายุรวม 79 พรรษา 60

    หลวงปู่คำดีเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ เป็นลูกศิษย์ที่เดินตามรอยพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนา มีปฏิปทาสูงส่งและมีวัตรปฏิบัติที่งดงาม เป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ

    การมรณภาพของหลวงปู่คำดี ถือเป็นการสูญเสียพระเถระที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง



    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  11. auto1471

    auto1471 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +6,418

    สาธุ ขอครับ ขอพระก่อน แลัวจะไปขอพร เอื้อกกกกก.
    (sing)
     
  12. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    :cool: มีเหตุผล จริงๆ ^^
     
  13. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ความคิดเข้าท่าครับอ้าย ผมขอนำเด้อ:cool::cool::cool:
     
  14. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    ^^ องค์นี้ ลป.อ่อนสา อธิฐานจิต ด้วยนะครับ...


    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
     
  15. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    “พระครูบริบาลสังฆกิจ” หรือ “หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม” เป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เชี่ยวชาญการเจริญสมาธิวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีจิตตานุภาพอยู่ในระดับสูง เป็นที่เคารพนับถือแม้ในหมู่พระเถระด้วยกัน...



    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป

     
  16. ppong2010

    ppong2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    937
    ค่าพลัง:
    +2,813
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  17. ppong2010

    ppong2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    937
    ค่าพลัง:
    +2,813
    หลวงปู่ทิมวัดพระขาว ๒๕๑๘
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  18. ppong2010

    ppong2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    937
    ค่าพลัง:
    +2,813
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  19. ppong2010

    ppong2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    937
    ค่าพลัง:
    +2,813
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  20. ppong2010

    ppong2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    937
    ค่าพลัง:
    +2,813
    [​IMG]
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...