วิทยาการแบบใหม่ โชว์ชุดพิเศษ ไม่โดยไฟดูด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย bosslnwskr10, 8 พฤศจิกายน 2012.

  1. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3FpjcOWwiI4&feature=g-logo-xit]Two men + two Tesla coils + special suits = ELECTRICITY FIGHT! - YouTube[/ame]
     
  2. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ลายละเอียดยังไม่ค่อยทราบนะครับ ว่าหลักการคืออะไร
    จะลองไปค้นๆดู ถ้าเจอข้อมูลเดี่ยวเอามาบอกต่อนะครับ...:D
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2012
  3. manfullza

    manfullza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +26
    แบบเดียวกับนิโคลา เทสล่าเคยทำปล่าว คล้ายๆกันเลย ไฟฟ้านั้นเหมือนพลาสม่าจัง
     
  4. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512

    เออ......ผมไมได้สนใจตรงกระแสไฟฟ้านะครับ

    ผมสนใจตรงที่ว่าเขาทำยังไงให้ไฟฟ้าผ่านตัวได้ โดยที่ไม่โดนไฟดูดซะก่อน..
     
  5. tanwa1991

    tanwa1991 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +19
    บทความจาก :: AUTOINFO : Automobile Information Center ::

    [​IMG]

    ทำอย่างไร ไม่ให้ถูกฟ้าผ่า ?

    ผมใช้ข้อความในหัวเรื่องเช่นนี้ เพราะจำเป็นต้องมีความกระชับ ที่จริงแล้วทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วครับ ถ้าจะโดนก็ต้องโดน ท่านผู้อ่านคงจะเริ่มสงสัยว่า ผมอาจจะติดสันดานพวกนักการเมืองในคณะรัฐบาลเสียแล้ว เพราะยังเซ็งไม่หายกับการตะแบงกลับกลอกปลิ้นปล้อนไปวันๆ ไม่ว่าจะน้ำท่วม หรือน้ำลด ผมหมายถึงการถูกฟ้าผ่ารถของเรา เมื่อขับในสภาวะที่ความเสี่ยงสูง เช่น ขณะฟ้าคะนอง โดยทั่วไปเข้าใจกันว่าฟ้าผ่าได้ขณะฝนกำลังตกเท่านั้น ไม่จริงนะครับ ถ้าเมฆอยู่ค่อนข้างต่ำ และมีประจุไฟฟ้า หรือความต่างศักย์สูงพอ ก็เกิดขึ้นได้ แม้ฝนยังไม่ตก หรือหยุดแล้ว

    การป้องกันอันตรายที่ผมจะแนะนำในที่นี้ เป็นการป้องกันอันตรายต่อชีวิตของเรา ขณะที่ขับรถ หรือโดยสารรถ ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่ารถเท่านั้น ถ้าต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่ถูกฟ้าผ่ารถของเราโดยตรง ก็ต้องขับรถเข้าไปใต้ที่กำบังมิดชิดครับ เช่น อาคารจอดรถ ถ้าทำได้เช่นนี้ ก็หมดความเสี่ยง แต่เมื่อเลี่ยงไม่ได้ เช่น กำลังขับอยู่บนถนนหลวง หรือเป็นผู้โดยสารก็ตาม และมีรถอื่นร่วมใช้เส้นทางอยู่มากมาย ความเสี่ยงจะต่ำมากครับ พอรับได้ และคงไม่ถึงกับต้องล้มเลิกภารกิจ หากจะมีอันตราย ก็อาจจะเป็นด้านอื่น เช่น ฝนตกหนักมาก จนมองเห็นได้ในระยะแค่ไม่กี่เมตร บางครั้งหนักระดับที่ใบปัดน้ำฝนสภาพดี ของรถรุ่นใหม่ที่จังหวะเร็วสุด ทำงานได้เร็วมาก ก็ยังปัดไม่ทันครับ ถ้าต้องเผชิญกับสภาวะวิกฤตระดับนี้ ควรหาที่ที่เหมาะเพื่อหยุดขับแต่ต้องเป็นที่ๆ ปลอดภัยจริงๆ นะครับ ไม่ใช่แค่หยุดข้างทาง มิฉะนั้นอาจถูกคันอื่น ที่ชุดปัดน้ำฝนไม่ดีพอ โดยเฉพาะรถบรรทุก ชนท้ายได้ อันตรายที่สุดครับ ถ้าไม่พบที่หยุดที่ปลอดภัย ฝืนใจขับต่อยังดีกว่ามาก กลับมาเรื่องฟ้าฝ่ากันต่อครับ รถของเราจะเสี่ยงต่อการถูกฟ้าฝ่าค่อนข้างมาก ก็ต่อเมื่ออยู่กลางแจ้ง ที่ฝนฟ้าคะนอง มีฟ้าแลบฟ้าร้อง อย่างรุนแรง และที่สำคัญ ในระยะใกล้เคียงไม่มีรถอื่น มาช่วยเฉลี่ยรับความเสี่ยงครับ คนไทยเราชอบเชื่อคำเล่าลือ ที่ส่งต่อกันมา หลายเรื่องแพร่ไปได้รวดเร็วทั่วประเทศ แล้วอาจอยู่ยืนยงได้หลายชั่วอายุคนอีกด้วย ถ้าอิงความเชื่อในแถวที่ว่านี้ เราก็จะบอกตัวเองว่ารถของเราทำจากโลหะ ซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้า จึงมีความเสี่ยงสูง ที่จะ "ล่อ" ให้เมฆคายประจุไฟฟ้าลงดิน โดยผ่านรถของเรา และถ้าเป็นเช่นนี้ ตัวเราที่อยู่ในรถจะไปเหลืออะไร

    แต่ในความเป็นจริงแล้วตรงกันข้ามทั้งหมดครับ งานวิจัย และทดลองทางวิชาการของสถาบันระดับสูงด้านเทคนิคในต่างประเทศ ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ตัวนำไฟฟ้า เช่น โลหะทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีความเป็นตัวนำไฟฟ้าชั้นเยี่ยม เช่น เงิน ทองคำ หรือทองแดง ไม่ได้มีส่วน "ล่อ" ให้ฟ้าผ่า ได้มากไปกว่าวัตถุอื่นที่เป็นตัวนำไฟฟ้าที่เลว หรือแย่มาก เช่น ไม้ ครับ แต่ขึ้นอยู่กับระยะทางมากกว่า การทดลองแสดงให้เห็นชัดว่า แท่งไม้และแท่งทองแดง ที่อยู่ห่างจากวัตถุที่มีความต่างศักย์สูง (เปรียบเสมือนก้อมเมฆในสภาวะจริง) ในระยะเท่ากัน มีโอกาสถูกคายประจุไฟฟ้าใส่ (ก็คือถูก "ผ่า" ในความหมายของเรานี่แหละครับ) พอๆ กัน ในการทดลองปล่อยประจุไฟฟ้าแรงสูง ปรากฏว่าแท่งไม้กับแท่งทองแดง ถูก "ฟ้าผ่า" แบบสุ่ม (RANDOM) ในจำนวนที่ใกล้เคียงกันในระดับที่เรียกว่า เท่ากันในทางสถิติครับ

    แต่ถ้ารถของเราอยู่โดดๆ ในที่โล่งโอกาสถูกฟ้าผ่าก็ยังมีอยู่พอสมควรอยู่ดี (หมายถึงในสภาวะที่เอื้อนะครับ) ประเด็นถัดไปก็คือ ถ้าเรายังนั่งอยู่ภายในขณะรถถูกฟ้าผ่า จะตายหรือเกือบตายไหม ? และควรหนีออกมาอยู่ที่อื่นนอกรถหรือไม่ ? ขอตอบคำถามแรกแบบสั่นก่อนนะครับ ไม่ตายไม่เจ็บ และไม่เป็นอะไรเลยด้วยครับถ้าปฏิบัติตนถูกต้อง ส่วนคำถามที่สองนั้นห้ามเด็ดขาดครับ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วตัวเราก็เปลี่ยนเสมือนท่อนไม้ ในงานวิจัย นั่นแหละครับ ถึงจะไม่ถือร่มไม่มีโลหะอยู่ที่ตัว ถ้าไปเดินหรือยืนอยู่ในที่โล่ง ในสภาวะที่เอื้อ โอกาสถูกฟ้าผ่าตายมีสูง นักกีฬากอล์ฟควรระวังให้มากครับ เลิกความเชื่อจากคำเล่าลือเรื่องโลหะที่ตัวหรือใกล้ตัวไปได้เลย การไปหลบอยู่ใต้เพิง หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ก็อันตรายเช่นเดียวกัน

    กลับมาที่คำถามแรกต่อครับ นอกจากจะไม่เสี่ยงอันตรายแล้ว รถของเรายังเป็นสิ่งคุ้มภัย หรือที่หลบภัยที่ดีที่สุด และดีจริงๆ ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าอีกด้วย การที่ตัวถังของรถถูกสร้างจากโลหะที่เป็นตัวนำไฟฟ้า และยังมีรูปทรงเป็นโครงปิด (ไม่จำเป็นต้องทึบ) ล้อมรอบตัวเราด้วยนั้น ทำให้มันมีสภาพเข้าข่ายเดียวกับ "กรงฟาราเดย์" (FARADAY CAGE) ครับ ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ ไมเคิล ฟาราเดย์ (MICHAEL FARADAY) ที่เป็นทั้งนักเคมี และนักฟิสิคส์ ชาวอังกฤษ ซึ่งค้นพบเมื่อ คศ. 1836 ว่า ห้อง หรือกล่องทรงปิด ที่ทำจากวัสดุที่เป็นตัวนำไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นแผ่นทึบ หรือเป็นตะแกรง หรือตาข่าย (จึงเป็นที่มาของชื่อ "กรงฟาราเดย์") สามารถป้องกันสนามไฟฟ้าได้ รถของเราซึ่งมี เสาหลังคา หรือเสาหน้าต่าง และแผ่นหลังคา ทำจากโลหะ จึงมีคุณสมบัติเข้าข่ายในการเป็น กรงฟาราเดย์ เช่นเดียวกัน

    ขออธิบายแบบคร่าวๆ พอให้เห็นภาพนะครับ ทันทีที่ผิวด้านนอกของกรงได้รับประจุ เช่น ประจุบวก มันจะดูดประจุลบในเนื้อของกรงซึ่งเป็นโลหะให้วิ่งมาหามัน ด้านตรงข้าม หรือด้านที่ไกลจากจุดที่ถูกป้อนประจุบวก จึงขาดอีเลคทรอนไป ทำให้มีประจุเป็นบวก แต่ทั้งหมดที่ว่านี้ เกิดขึ้นที่ผิวของกรงครับ โดยรวมแล้ว ประจุบวก และลบของกรงยังคงมีค่าเท่ากัน มีการแยกขั้วกันเฉพาะที่ผิวนอกเท่านั้น ผิวด้านในของกรงจึงยังมีความเป็นกลางอยู่ จึงไม่เกิด แรงเคลื่อนไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าที่จะไหลผ่านตัวเราให้เกิดอันตรายได้ เรียกชื่อเป็นทางการว่า SKIN EFFECT ครับ ใครอยากพิสูจน์ และมีความรู้ความเข้าใจเรื่องไฟฟ้าเพียงพอ ลองปล่อยไฟฟ้าให้กับกรงนกดูได้ครับ นกที่เกาะคอนอยู่กลางกรงจะไม่ถูกไฟดูดเด็ดขาด

    แต่การถูกฟ้าผ่ารถที่เรานั่งอยู่นั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กเหมือนกรงนกกับแรงเคลื่อนไฟฟ้าตามบ้านแค่ 220 โวลท์ ครับเพราะ "สายฟัา" ที่ "ฟาด" หรือผ่ารถของเรานั้น มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าเป็นแสนโวลท์ กับกระแสไฟฟ้าประมาณ 50,000 แอมแปร์ และรถของเราก็ไม่ใช่ กรงฟาราเดย์ ที่สมบูรณ์แบบตามทฤษฎี จึงต้องมีการปฏิบัติตนเป็นพิเศษ เพื่อเผชิญกับมันอย่างปลอดภัย สิ่งแรกคือต้องหยุดขับครับ หาที่หยุดพักที่ปลอดภัย ดับเครื่องยนต์ ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่าง ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์สื่อสารใดๆ เปิดไว้อย่างเดียวครับ คือ ไฟฉุกเฉินถ้าเห็นสมควร ไม่เอามือหรือส่วนใดไปสัมผัส กับโลหะ หรือแม้แต่ที่ไม่ใช่โลหะ ที่ต่อเชื่อมกับตัวถังรถ พวงมาลัยก็ห้ามจับครับ กุมมือหนึ่งมือใดด้วยมืออีกข้างไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการโหลของกระแสไฟฟ้าผ่านทรวงอก (หัวใจ) แง้มกระจกไว้ได้ครับ ไม่มีปัญหา แล้วนั่งรออย่างสงบจนกว่าสถานการณ์จะคลีคลายระดับหมดความเสี่ยง




    ที่จริงไม่ควรตั้งชื่อกรงนิรภัยนี้ตาม ฟาราเดย์ ครับ เพราะ เบนจามิน แฟรงคลิน รู้ และเปิดเผยปรากฏการนี้ไว้ตั้งแต่ คศ. 1755 แล้ว โลกของนักประดิษฐ์ก็ไม่ต่างจากโลกของพวกเราเลยครับ มีคนดี คนเลว คนชื่อ คนโกง นักฉวยโอกาสเหมือนกัน ตัวอย่างที่ดี (น่าจะเรียกว่าที่เลวมากกว่าครับ) คือ ธอมัส เอดิสัน พี่คนไทยถูกล้างสมองในโรงเรียนมัธยมมาทุกยุคสมัย ว่าเก่งนักหนา ตัวจริง ก็เก่งครับแต่ไม่เท่ากับภาพที่ถูกสร้าง เพราะเป็นชาวสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ถูกสร้างภาพให้เป็นเสมือนพ่อของประเทศไทย ตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ เมื่อครั้งผมยังเรียนชั้นมัธยมเรื่อยมา เอดิสัน ตัวจริง ปลิ้นปล้อน ฉ้อฉล และคอยขโมยผลงานของนักประดิษฐ์อื่นมาอ้างเป็นของตน นักประดิษฐ์ที่เก่งจริงๆ และถูก เอดิสันขโมยผลงานใส่ร้ายอย่างอยุติธรรมเกือบตลอดเวลาในยุคนั้น คือ นิโคลา เทสลา (NICOLA TESLA) นี่ละครับอิจฉริยะด้านแม่เหล็กไฟฟ้าตัวจริง สุดยอดของโลก โชคร้ายเพราะเกิดมาเป็นชาวเซอร์เบีย แม้จะโอนสัญชาติเป็นชาวสหรัฐ ฯ ในภายหลังก็ตาม ถ้ามีเรื่องเขียนเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าของรถยนต์ ผมจะเล่าเรื่องอัจฉริยะ ผู้อาภัพให้อ่านอย่างละเอียดครับ

    ............................................................................................

    สารคดี MODERN MARVELS ตอน Nikola Tesla อัจฉริยะที่โลกลืม

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=X03nhuUq0a4]MODERN MARVELS ตอน Nikola Tesla อัจฉริยะที่โลกลืม [1/3] - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=O1M8H5niphY]MODERN MARVELS ตอน Nikola Tesla อัจฉริยะที่โลกลืม [2/3] - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=7dvrBdA1Fzk]MODERN MARVELS ตอน Nikola Tesla อัจฉริยะที่โลกลืม [3/3] - YouTube[/ame]
     
  6. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ดีมากเลยครับ ผมก็อยากสึกษาพวกนี้เหมือนกัน....
     

แชร์หน้านี้

Loading...