เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ภาวะอันเป็นไปที่อยู่เบื้องหลัง
    [​IMG]

    จากสมการ
    1 ความปราถนาอย่างแรงกล้า+ความมุ่งมั่น+เจตนา=ความฝันที่กลายมาเป็นความป็นจริง
    2 ความกลัว+ความสงสัย+ความไม่แน่ใจ=ความฝันที่ไม่เคยเป็นจริง
    จากรูป ถ่ายตอนปี 2516-17 ก็อายุประมาณ 15-16 ปี หน้าตาก็บ่งบอกว่ามีปัญหา เบื่อโลก หนีเข้าป่าบ่อย (กำแพงเพชร) ไม่อยากเรียน เพราะเข้าใจว่าโลกจะแตก ไม่รู้ไปอ่านหนังสือเล่มใหน และก่อนหน้านั้นก็มีความฝันดังนี้
    1 อยากเป็นนักกีฬายิมนาสติก
    2 อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์
    3 อยากเป็นนักพลังจิต
    4 อยากเป็นเจ้าพ่อ มาเฟีย นักการทหารปฏิวัติ
    5 อยากเป็นหมอ
    6 อยากเป็นศิลปินวาดรูป
    7 อยากเป็นวิศวะกรไฟฟ้า อิเลคทรอนิคส์
    ก็ลองพิสูจน์สมการดูครับ
    ข้อที่ 1 อยากเป้นนักกีฬายิมนาสติก เพราะเล่นบาร์เดี่ยวบาร์คุ่เก่งตั้งแต่เด็ก แต่เตะตระกร้อไม่เก่ง เวลาสอบเก็บคะแนนได้คะแนนรวมไม่ดี ตั้งแต่นั้นมาเลยเล่นกีฬาอะไรก็ไม่เก่งซะอย่าง ข้อนี้เป็นความฝันที่ไม่เคยเป็นจริง
    ข้อที่ 2 อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ยังจำอารมณ์ความรู้สึกวันที่อ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ชั้น ป 2 จบเล่มโดยใช้เวลาวันเดียว ภูมิใจมาก ช่วงนั้นน่าจะอายุ 7 ขวบ และเคยฝันเห็นโลกของเราลอยอยู่ในอวกาศสวยมากยังจำติดตาจนถึงทุกวันนี้ และตั้งแต่นั้นก็ชอบอ่าน หนังสือแนววิทยาศาสตร์ เช่นเด็กก้าวหน้า สมัยนี้ไม่มีแล้ว เรียกว่าหนังสือออกเมื่อไหร่เป็นต้องซื้อมาอ่าน และอีกเล่มคือ ชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์ ปัจจุบันยังเห็นมีอยู่ ก็เกือบ 50 ปีแล้วครับ ปัจจุบันจบวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาเคมี ครับ ข้อนี้เป็นความฝันที่กลายมาเป็นความจริง
    ข้อที่ 3 อยากเป็นนักพลังจิต อยากย้ายภูเขาได้ครับ เพราะขึ้นรถประจำทางผ่านภูเขาบ่อยๆ เคยสะกดจิตเพื่อนตอนอยู่มหาลัย สะกดแล้วไม่สำเร็จ คือจะสะกดให้เพื่อนเรียนให้เก่ง จำไม่ได้ว่าใช้คำสะกดอะไร เพื่อนมันบอกว่าไม่ได้ผลก็เลยไม่มั่นใจตั้งแต่นั้น (แต่แปลกเพื่อนมันเรียน สามปีครึ่งจบ ส่วนเราเรียน ตั้งห้าปี ข้อนี้ถือว่าความฝันไม่ป็นจริง
    ข้อที่ 4 อยากเป็นเจ้าพ่อ มาเฟีย เป็นทหาร อยากเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติเพราะช่วงนั้นปฏิวัติกันบ่อยมาก ชอบอ่านหนังสือการปฏิวัติ หนังสือการเป็นผู้นำ แต่ไปสอบทหารไม่ผ่านตรวจโรค เพราะร่างกายมีรอยสักตามตัว(สักกันเหนียวครับ)
    ข้อที่ 5 อยากเป็นหมอ แต่สอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดครับ
    ข้อ 4 กับข้อ 5 เนี่ย ไม่รู้เรียกว่าความฝันเป็นจริงหรือไม่จริง เพราะตั้งแต่อายุเข้าวัยรุ่น ถูกยกให้เป็นผู้นำตลอด ไม่ว่ากลุ่มเพื่อนๆ หรือในการเรียน หรือตอนเป็นทหารและพอเรียนจบ ก็ได้เป็นทหารเกณฑ์ อยู่เหล่าเสนารักษ์โดยไม่คาดคิด เพราะทางจังหวัดคัดส่งเข้ามา ก็เลยได้เป็นทั้งทหาร และเป็นหมอ แต่ก็ไม่ได้เรียนนายร้อยต่อทั้งๆที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงส่งเสริมก็ปฤิเสธไป เพราะตั้งแต่วันแรกที่เข้ากรมทหารด้วยความฮึกเหิม แต่ถูกนายสิบเอาเท้าเหยียบอกก็เลยฝังใจไม่ชอบระบบของทหาร ไม่งั้นป่านนี้ได้เป็น คมช.ไปแล้ว ก็ถือว่าความฝันไม่บรรลุวัตถุประสงค์
    ข้อที่ 6 อยากเป็นนักวาดรูป ตอนอายุ 7 ขวบจำได้ติดตาถึงตอนนี้ว่าวาดรูป คนได้เหมือนมาก เเละก็เอาไปอวดพี่ชาย พี่ชายไม่เชื่อหาว่าโกหกไปเอารูปคนอื่นมาหลอก ความที่เราเถียงพี่เค้าไม่ได้ ก็เลยเสียใจและวาดรูปไม่เป็นอีกเลย ข้อนี้ก็ถือว่าความฝันไม่เป็นความจริง
    ข้อที่ 7 อยากเป็นวิศวะกรไฟฟ้า อิเลคทรอนิคส์ ก็ชอบทดลองต่อโน่นต่อนี้ ตั้งแต่เล็กๆ และพ่อก็ส่งเสริมด้วย จนปัจจุบันสามารถซ่อมคอมพิวเตอร์ได้ (เคยเปิดร้านซ่อมตอน ฟองสบู่แตก) ก็ถือว่าความฝันเป็นจริงครับ
    ก็เป็นบทพิสูจน์สมการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Picture111.jpg
      Picture111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      863
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2007
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ย่องมาอ่านการบ้าน
    ฝันให้ไกลไปให้ถึงงงงงงงงงคร๊าบ++++
    +คุณเฉลยอยากเป็นหลายอย่างมาก เกือบได้เป็นคมช.แล้ว
    +คุณขจรวรรณพูดเก่งเพราะไก่จิกปาก (คุณพ่อช่างคิดนะครับ)
    +ขอให้คุณซิปเปอร์สร้างหุ่น Gundam สำเร็จครับ
    +ส่วนน้องมายด์ก็ใช้ความดื้อให้เป็นประโยชน์นะครับ

    อ่านฝันของพี่นักเขียนแล้วดูเหมือนเป็นจริงเกือบทุกอย่าง ปรารถนาอะไรก็เป็นไปแบบนั้นจริงๆ แม้ว่าก่อนหน้านั้นดูไม่สดสวยอย่างที่คิดนะครับ

    [b-wai][b-wai][b-wai]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2007
  3. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ขอส่งพลังช่วยอีกแรงครับ เสร็จแล้วผมจองด้วย 1 ที่ครับ
     
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    การบ้านของผมสั้นๆครับ
    หวนคิดไปในอดีต ประมาณ 10 กว่าขวบเห็นจะได้
    มองเห็นคนขับรถยนต์ ใจนึกคิดว่า
    ในอนาคต เราจะต้องขับรถยนต์ให้ได้

    พอเรียนจบปุ๊บ ก็ได้งานบริษัทจำหน่ายรถยนต์ปั๊บ
    ทำอยู่แผนกสินเชื่อ เป็นผู้จัดการเขต
    ต้องขับรถ ออกตรวจสาขาทุกเดือน
    ได้ขับรถ สมใจอยากไปเลยครับ
    16 ปี ที่ใช้ชีวิตอยู่กับรถยนต์...สายวิชาที่เรียนมาทางด้านสหกรณ์
    ไม่ได้นำมาใช้เลย ครับผม
    (smile) (smile) (smile)
     
  5. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    หนังสือของท่านอาจารย์โนวา อนาลัย

    (smile) (smile)
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ซิ่งสู่ฝัน !
    อย่าขับไวนะคับเพ่ เดี๋ยวผมร่วง+
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2007
  7. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    อาจารย์ครับทำครั้งเดียว พร้อมกันสามอย่างได้หรือเปล่าครับคือ
    1 ผมมีปัญหาเรื่องสายตาครับไม่อยากใส่แว่นตา
    2 ผมอยากเปลี่ยนรถคันเก่าเป็นรถใหม่ เอา S280 ครับ
    3 ผมอยากมีบ้านเพิ่มอีกหลัง ให้หรูๆครับ
    ผมว่าผมทำได้ อีก 21 วันจะรายงานผลครับ
    จิตวิญญาณจดจ่ออยู่กับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่ เป็นอยู่ ดำเนินไป เป็นภาวะนั้นๆ
     
  8. mindanaric

    mindanaric เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +1,964

    ว้าววว OoO .......ขอบคุณจริงๆนะค่ะ คุณ กังขา ณ ปลาย ที่ช่วยเตือนสติ ตบๆ ให้เข้าที่เข้ารอย......อืมมมมม [b-wai] ยอมรับแต่โดยดีแล้วจะปรับปรุงค่ะ (จะไม่รั่วแล้ว -"-) แหะๆ ใครว่าโลกไซบอกจะบอกไม่ได้ว่าตัวตนของใครเป็นไง อ่านแล้วสำนึกขึ้นมาทันทีเลย.....ToT....ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาสาธุ.....
     
  9. mindanaric

    mindanaric เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +1,964
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425


    หนักนิด เบาหน่อยไม่ว่ากันนะครับ! (โลกไซเบอร์)
    หายเจ็บแล้วทานขนม อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A3568162-0.gif
      A3568162-0.gif
      ขนาดไฟล์:
      20.4 KB
      เปิดดู:
      1,078
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2007
  11. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ขอติดการบ้านไว้ก่อนนะคะพี่นักเขียน
    ปวดหัว ขอนอนพักก่อนค่ะ
     
  12. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    บทความจากท่านอาจารย์อนาลัย

    NOTE:
    บทความของท่านอาจารย์อนาลัยที่ปรากฏในกระทู้นี้เป็นสีน้ำตาลแดง และ สีแดง บางครั้งไม่ได้เป็นบทความจากหนังสือ 10 เล่มที่ตีพิมพ์ไปแล้ว แต่เป็นบทความที่มาจากบันทึกความฝันที่ยังไม่เคยตีพิมพ์

    พี่นักเขียนเชื่อว่า ส่วนของบันทึกที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือ จะไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นหนังสืออีกต่อไป แต่จะปรากฏใน Internet ทางกระทู้นี้ และในทิศทางอื่นๆต่อไปในวันหน้า

    สาระที่ยังไม่ได้ถอดความหลายส่วน เป็นข้อมูลที่ท่านอาจารย์อนาลัยบอกว่า เป็นคำตอบสำหรับคำถาม

    บ่อยครั้งก่อนที่จะได้รับคำถาม คืนก่อนหน้านั้นพี่นักเขียนจะฝันเห็นคำถาม และทำการทบทวนฝันเก่า บันทึกเก่า ถอดความถอดรหัสในความฝัน พอตื่นขึ้นมาก็มักจะได้พบคำถามตามที่ฝันใน e-mail บ้าง ห้องวิทย์ฯ บ้าง แต่ส่วนใหญ๋จะนำมา post ไว้ที่ห้องวิทย์นี้แทบจะทั้งหมด ยกเว้นข้อมูลที่ตอบเจาะจงเฉพาะบุคคล จำเป็นต้องกรองเอาสาระส่วนตัวของเขาออกไปก่อน จึงจะนำมา post ได้ค่ะ (rose)
     
  13. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ตาใหม่ รถใหม่ บ้านใหม่

    คุณเฉลยได้พบกับปาฏิหารย์มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีจิตเมตตาอยากช่วยเหลือผู้อื่น แม้กระทั่งปาฏิหารย์ในการรอดตายหรือได้ชีวิตใหม่ ปาฏิหารย์ในเรื่องอื่นๆ เช่น ได้สายตาใหม่ รถใหม่หรือบ้านใหม่ เป็นเรื่องเล็กเมื่อเปรียบกับการได้ชีวิตใหม่

    อารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดใดที่เราใช้ก่อให้เกิดปาฏิหารย์กับผู้อื่นได้ เราก็สามารถนำมาก่อให้เกิดปาฏิหารย์ให้กับตนเองได้เสมอ

    พี่นักเขียนตระหนักดีว่า ผู้ที่เป็นพ่อแม่ หัวหน้า เจ้าของกิจการ ผู้ที่รับผิดชอบชีวิตอื่นๆหลายชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่เห็นแก่ตัว มักลืมที่จะหวังให้ปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับตนเอง เพราะเราลืมรักและเมตตาตนเองเหมือนกับที่เรารักและเมตตาผู้อื่น เวลาตนเองขาดแคลนหรือเจ็บป่วยก็ไม่ได้สงสารตนเองหรือเห็นเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แต่เวลาเห็นผู้อื่นเขาขาดแคลนหรือเจ็บป่วย เรามักเห็นเป็นเรื่องใหญ่มาก บางครั้งเราคิดด้วยซ้ำไปว่า หากเราไม่ช่วยเขา เขาจะเอาตัวรอดไม่ได้ แต่เรามักลืมคิดไปบ่อยๆว่า หากเราไม่ช่วยตนเอง ด้วยการทุ่มเทอารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดให้กับตนเอง เราจะเอาตัวรอดไม่ได้

    พี่นักเขียนเชื่อว่าคุณเฉลยทำได้ค่ะ จะทำกี่อย่างพร้อมกันก็ย่อมได้ หากเอาตนเองเป็นที่ตั้งไม่ได้ หมายถึงว่า คิดให้ตนเองเป็นผู้รับปาฏิหารย์ไม่ได้ ให้ปรับอารมณ์ให้เป็นไปตามนิสัยคือ ใช้จดจ่อแทนว่าหากเราสายตาดี หากเรามีรถใหม่ และหากเรามีบ้านใหม่ คนที่เรารักทั้งหลายจะได้ประโยชน์สุขอะไรบ้าง อารมณ์นี้อาจช่วยให้บรรลุผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น เพราะผู้ที่ติดจะไม่คิดถึงตนเอง มักจะมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดในทางบวกได้มากและรุนแรงเมื่อคิดถึงคนรักคนใกล้ตัว

    จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเป็นจริงทั้งหมด (โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ)

    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ทางกายภาพได้ นอกเหนือไปจากการเปลี่ยนแปลงภาวะจิต (อิสระแห่งความปรารถนา)

    ความเป็นไปได้ทั้งหลายที่ขัดกับความคิด-ความเชื่อที่เธอมีต่อโลกแห่งความเป็นจริง ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอ (อิสระแห่งความปรารถนา)


    พี่นักเขียนเลิกใส่แว่นตามาได้ 2 ปี ตาเอียงและสั้นมาตั้งแต่เด็กๆ ใส่ตามหมอสั่งตั้งแต่อายุ 17-27 แล้วเลิกใส่เพราะรู้สึกว่าไม่ใส่แล้วมันดีึขึ้น พอเลิกใส่ไปได้ปีกว่าไปตรวจสายตาอีก ปรากฏว่าที่เคยสั้น/เอียง 250/150 กลายเป็น 50/75 หมอก็ว่า "เห็นไม๊ บอกให้ใส่แว่นให้ติด ตาเลยดีขึ้นมาก" ไม่กล้าบอกหมอว่าไม่จริง เราแอบขัดคำสั่งหมอต่างหาก พอแก่ตัวก็ตัดแว่นสายตายาว ตามหมอสั่งอีก ใส่อ่านหนังสือ ขับรถอยู่หลายปี จนมาพบท่านอาจารย์อนาลัยบอกว่า สายตนคนเราเสื่อมตามอายุที่คนกำหนด เลยเลิกใส่มา 2 ปีแล้ว ปรากฏว่าจากที่อ่าน fine print ตามขวดยาไม่ได้ อ่านได้แล้วค่ะ แรกๆก่อนจะอ่านอะไรที่ไม่เคยอ่านเห็น หลับตากำหนดจิตนิ่งๆพักนึง ลืมตาปุ๊บ อ่านเลย จะเห็นได้ชัดมากแต่ชั่วครู่เดียว ลองทำบ่อยๆจะมองเห็นชัดได้นานขึ้นเรื่อยๆ แรกๆอาจต้องอ่านหนังสือห่างมากกว่าปกติพักนึง แล้วมันก็ปรับระยะเข้ามาเองทีละนิด และสังเกตว่าควรถนอมตาด้วยการใส่แว่นกันแดดเสมอๆในที่แจ้ง ทำให้อ่านหนังสือได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ กลับจาก Cancun สังเกตว่าไปอยู่กับแดดจัดมามาก ทำให้สายตาแย่ลงไปหน่อย หลายวันผ่านไปก็ดีขึ้นเองตามธรรมชาติค่ะ

    พบตาสวย รถสวย บ้านสวย เลยเอามาฝากคุณเฉลยค่ะ หวังว่าจะถูกใจนะคะ (rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2007
  14. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ขอส่งการบ้านเป็นคนล่าสุด
    ตอนเด็กๆ แก้วไม่แข็งแรง คุณแม่พาไปหาหมอบ่อย จนหมอจำชื่อแม่นยำ โดนจับฉีดยาบ้าง โดนบังคับให้กินยาบ้าง เบื่อสุดๆ เลยวาดฝันว่าโตขึ้นกะจะเป็นหมอที่รักษาคนไข้โดยไม่ต้องให้คนไข้ฉีดยาให้เจ็บตัว หรือกลืนยาขมๆให้ลำบาก (ตอนนั้นก็นึกไม่ออกนะ หมอคนนี้จะให้คนไข้หายโดยวิธีไหน)

    ปัจจุบัน อาชีพ คือ วิจัยทดสอบหายาตัวใหม่ๆ เอาไปรักษาโรค

    กรรมมั้ยล่ะ
     
  15. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พิสูจน์สมการ ความฝัน vs ความเป็นจริง

    จากการบ้านที่พวกเราส่งเข้ามา :

    คุณ Mead หัวหน้าห้องวิทย์ฯ ทำให้พวกเราต้องระวังกันมากๆหน่อย เพราะมีประสบการณ์การทดลองชนิดไฟลุกท่วมมาแล้ว มิน่าพี่นักเขียนถึงจินตนาการเห็นห้องวิทย์ฯเรากลายเป็น gas ไปอยู่เรื่อย คุณ Mead บอกว่า คิดว่าตัวเองไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบันเท่าไหร่ ชอบจินตนาการไปในอดีต+อนาคต กับความรู้ใหม่ๆมากกว่า บางเรื่องก็เป็นไปได้ยากแต่ดีว่าสนุกกับจินตนาการ ไม่เคยเบื่อคิด แต่ต้องพยายามดึงความคิดมาสู่ปัจจุบันและความเป็นไปได้ให้มากกว่านี้

    อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ปราศจากกาลเวลา คนที่ช่างจินตนาการ-มีอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มากมาย จึงมักรู้สึกว่าตนเองไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบันเท่าไรนัก เมื่อพวกเราฝึกฝนที่จะมีสติสัมปชัญะให้คมชัดและศึกษาเกี่ยวกับการจดจ่อกับปัจจุบัน มันไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องพยายามดึงความคิดมาสู่ปัจจับนและความเป็นไปได้ในปัจจุบัน หากแต่หมายความถึงว่า เราจะต้องเรียนรู้ที่จะติดตามสติสัมปชัญญะของเรา จาก ณ จุดนี้ที่เรียกว่าปัจจุบัน ให้รู้ว่ามันกำลังไปจดจ่ออยู่ ณ ที่ใดที่เราเรียกกกันว่าอดีตหรืออนาคต หากเราจดจ่อกับปัจจุบันและความเป็นไปได้ในปัจจุบันแต่เพียงอย่างเดียว การสร้างสรรค์ทั้งหลายจะเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว จิตวิญญาณของเราไม่อาจจดจ่ออยู่กับที่ได้เลย ไม่ว่าเราจะรู้เห็นหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่เคยหยุดนิ่ง และเราก็ไม่ได้จะต้องพยายามที่จะให้มันหยุดนิ่งเพราะมันเป็นไปไม่ได้ หากแต่ว่าเราจะต้องพยายามติตตามมันไปให้ได้ทุกขณะจิตในปัจจุบัน

    พี่นักเขียนคนหนึ่งละค่ะ ไม่อยากให้คุณ Mead มามัวจดจ่ออยู่กับปัจจุบันที่เรายังไม่มี Pyramid ในประเทศไทย อยากให้ไปอดีตและอนาคตบ่อยๆนะคะ ไปเอาตัวอย่างและเทคนิคดีๆกลับมา คุณ Mead สร้างวีรกรรมมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็ยังไม่เลิกเลยนะคะเนี่ย สมควรจะต้องสร้างวีรกรรมต่อไปให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม



    คุณ zipper เป็นอีกคนหนึ่งที่น่าจะเรียกได้ว่า ฝันไม่เลิกจึงรู้สึกไม่ยอมโต น่าจะเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใหญ่จำนวนมากทำตกหล่นหายไปตามเส้นทางแห่งการศึกษาหมดแล้ว หลงเหลือแต่อัจฉริยะบางคนเท่านั้นที่เขามักบอกว่าตอนเด็กๆรู้สึกยังไง ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม คือคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง-เป็นไปได้

    หลังจากเล่าเรื่องว่าอยากจะทำอะไรมาบ้างคุณ zipper บอกว่า "ที่เล่ามาเหมือนว่ามันไม่มีอะไรสำเร็จซักอย่างเลยแฮะ" ทำให้พี่นักเขียนนึกถึง Leonardo Da Vinci ผู้ซึ่งเป็นทั้งศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ สถาปนิก นักประดิษฐ์ และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีผลงานออกมาให้ชาวโลกเห็นน้อยที่สุด คือภาพวาดของเขาก็มีน้อยมาก สิ่งประดิษฐ์ต่างๆของเขาไม่เคยได้ถูกนำไปสร้างหรือใช้งานจริง แต่มีแบบที่เป็นภาพวาด sketch และแบบจำลองมากมายสารพักอย่างที่เขาออกแบบและประดิษฐ์ขึ้นมา เช่น เครื่องทอผ้า จักรยาน นาฬิกา เครื่องขุดเจาะดิน กังหันวิดน้ำ ฯลฯ แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเป็นนักคิด แต่ความคิดของเขากลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกนำมาสร้างเป็นวัตถุธาตุมากเท่าศิลปินหรือนักวิทยาศาสตร์อื่นๆ แต่เขาก็ยังโด่งดังมาจนทุกวันนี้ และความคิดของเขาที่เคยเป็นเพียงภาพ sketch และ หุ่นจำลอง ก็กลายมาเป็นเครื่องจักรอุตสาหกรรมและสิ่งประดิษฐ์มากมายหลายอย่างในโลกปัจจุบัน

    ส่วนที่คุณ zipper บอกว่าอยากจะเป็นคนไร้อารมณ์ ใจเป็นน้ำแข็ง ไม่แสดงอารมณ์ออก แต่จำไม่ได้แล้วว่าเพราะอะไร....
    เหตุอาจปรากฏในความฝันที่เคยเล่าให้พวกเราฟังก็ได้นะคะ ที่ฝันเห็นหิมะหรือน้ำแข็ง ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์เกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต


    คุณหลาน mindanaric จับได้ไล่ทันอย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่ทำให้สมความปรารถนาเสมอๆคือ แรงอธิษฐาน ซึ่งก็คือ ความปรารถนาอย่างแรงกล้า + ความมุ่งมั่น + เจตนา = ความฝันที่กลายมาเป็นความเป็นจริง และจับได้ว่าการหมดความศรัทธาที่จะเชื่อมั่นทำให้ขอแล้วไม่ได้สมปรารถนาดั่งเคย ไหวตัวทันตั้งแต่ยังเด็กนับว่าได้เปรียบมากเลยค่ะ แถมยังบอกอีกว่าจะต้องกลับไปใช้ชีวิตเป็นเด็กอีกแล้ว กลับไปแค่สวมอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดก็พอนะคะ


    คุณเฉลย เป็นคนแรกที่ทำการบ้านด้วยการถอดสมการได้ตรงโจทย์กว่าเพื่อน เพราะคุณเฉลยพูดถึงแต่ความใฝ่ฝัน-อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นเหตุการณ์ทางจิตที่ไม่มีผู้ใดมองเห็นได้ นอกจากตนเอง หากมองดูความฝันที่ไม่ได้กลายมาเป็นความเป็นจริง มันจะทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ท่านอาจารย์เรียกว่า ความเป็นไปได้อันหลากหลายเป็นอนันต์ ซึ่งก็ยังคงมีความเป็นไปได้ต่อไป ตราบใดที่เราจดจ่อกันมันมากพอ มันก็พร้อมเสมอที่จะกลายมาเป็นความเป็นจริงได้ทุกเมื่อ

    ใครที่เล่าประสบการณ์ที่คนอื่นรู้เห็นด้วย ยังไปไม่ถึงเบื้องหลังของประสบการณ์ชีวิต ซึ่งเป็นสมการที่พี่นักเขียนอยากให้ไปให้ถึง เพื่อที่จะพิสูจน์สมการได้ ไม่ว่าพวกเราจะได้ทำ ได้มี ได้เป็นหรือไม่ตามความใฝ่ฝัน เบื้องหลังทั้งหมดของมันก็มีที่มาอยู่ที่อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เราน่าจะค้นให้พบ เพราะหากเราค้นพบ เราจะรู้ได้ว่า เหตุใดความฝันบางความฝันจริงเป็นจริง และบางความฝันไม่เป็นจริง

    คุณน้องแก้วทิพย์ เป็นอีกคนที่ทำการบ้านได้ตรงโจทย์ คือพบว่าประสบการณ์ในแง่ลบเกี่ยวกับการต้องถูกฉีดยาและกินยาขมๆ เหนี่ยวนำให้ฝันว่าโตขึ้นอยากจะเป็นหมอที่รักษาคนไข้โดยไม่ต้องจับฉีดยาให้เจ็บตัว ไม่ทราบว่าที่คุณน้องแก้วทิพย์สรุปให้ตนเองว่า "กรรมมั๋ยล่ะ" เหตุใดจึงสรุปเช่นนั้น เพราะพี่นักเขียนเห็นว่า ฝันของคุณน้องเป็นจริงทุกประการ เพียงแต่ว่า คุณน้องอาจเรียกอาชีพนี้ว่า นักวิจัย แทนที่จะเป็นแพทย์ แต่ตามความฝันที่แท้จริงของคุณน้องแก้วทิพย์ก็คือ การเป็นบุคคลที่จะรักษาโรคให้ผู้ป่วยด้วยวิธีการที่ไม่ต้องฉีดยา หรือให้ผู้ป่วยกินยาที่ขม พี่นักเขียนเข้าใจว่า ตามความสามารถในหน้าที่การงานของคุณน้องแก้วทิพย์ น่าจะทำให้คุณน้องนำประสบการณ์ในแง่ลบมาสร้างสรรค์ประสบการณ์ในแง่บวกเสมอ เช่นพยายามหาวิธีการที่จะทำให้ตัวยาใหม่ๆ ไม่ขม หรือกลืนลำบาก เป็นต้น

    คุณน้องขจรวรรณเล่าประสบการณ์ชีวิตที่เกิดขึ้นทางกายภาพมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทางจินตภาพ นอกจากตอนท้ายที่เล่าประสบการณ์ในความฝันซึ่งกลายมาเป็นความจริง และพบว่าสิ่งต่างๆที่ตนเองไม่ชอบ มาปรากฏรวมอยู่ในสถานที่ทำงานใหม่ทั้งหมด และสรุปว่า ถือว่าที่นี่เป็นโรงเรียนสอนจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้

    ซึ่งในกรณีนี้ทำให้พวกเรามองเห็นความเป็นจริงอีกข้อหนึ่งที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า แม้แต่ความไม่ปรารถนาอย่างแรงกล้าก็มีพลังอำนาจไม่แพ้ความปรารถนาอย่างแรงกล้า ซึ่งเหนี่ยวนำให้อารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกในแง่ลบ กลายมาเป็นความเป็นจริงได้เช่นกัน

    คุณ Mountainเห็นคนขับรถยนต์และมีความคิดดั้งแต่ 10 ขวบว่าจะตัองขับรถยนต์ให้ได้ เลยได้ขับสมใจอยาก


    หลายคนเล่าถึงประสบการณ์ในวัยเด็กว่ามีเหตุการณ์อะไรทางกายภาพเกิดขึ้น มากกว่าที่จะเล่าถึงเหตุการณ์ทางจินตภาพ อันเป็นเบื้องหลัง ซึ่งหมายถึงความใฝ่ฝัน-อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่อยู่เบื้องหลังประสบการณ์ชีวิต

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า "เธอจดจ่อกับสิ่งใด ได้สิ่งนั้น ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น" หากเราเข้าใจในคำกล่าวนี้ เราจะตระหนักได้ว่า แม้แต่สิ่งที่เรียกว่ากรรม ก็เป็นสิ่งที่เราเลือก หรือควบคุมได้ด้วยความเชื่อ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์ จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดทั้งในแง่บวกและลบ ต่างก็มีพลังอำนาจไม่แพ้กันนะคะ คิดแว้บอะไร มันก็กลายเป็นความเป็นไปได้ทั้งสิ้น และบางสิ่งที่พลังแรงกว่าก็กลายมาเป็นความเป็นจริง

    ประสบการณ์ของคุณ Mountain ทำให้พี่นักเขียนหวลคิดถึงความหลังเมื่อ 10 ขวบเหมือนกัน ตอนนั้นไปอยู่ต่างจังหวัดช่วงปิดเทอมใหญ่กับคุณตาคุณยายที่ราชบุรี พอใกล้โรงเรียนเปิด คุณน้าก็ให้คนขับรถมาส่งบ้านที่กรุงเทพฯ พี่นักเขียนนั่งรถไปโรงเรียนทุกวันตั้งแต่อนุบาล ไม่เคยสังเกตคนขับเพราะนั่งข้างหลัง แต่วันนั้นนั่งกันหลายคน เราได้นั่งกลางเบาะหน้า ระหว่างคุณน้ากับคนขับ เบาะมันยาวติดกันหมด ไปจ้องดูคนขับทุกอิริยาบทว่าเขาเข้าเกียร์ยังไง สัมพันธ์กับเวลาเขาออกรถ เร่งเครื่องแล้วเปลี่ยนเกียร์ยังไง มองดูแล้วรู้สึกว่า ทำไมขับรถมันง่ายอย่างนั้นนะ สมัยนั้นเป็นรถเก๋งเกียร์พวงมาลัย ไม่ใช่เกียร์ออโต้ พอกลับบ้านที่กรุงเทพฯ แอบไปขอคนขับรถที่บ้านนั่งไปเป็นเพื่อน บอกเขาว่าจะขับให้ดู เขาอยู่ที่บ้านมาตั้งแต่พี่นักเขียนได้ 2 ขวบแล้ว เขาก็ยอมให้แอบขับรถจากปากซอยเข้าบ้านเป็นต้นมาตั้งแต่วันนั้น เป็นซอยตรงๆ ถนนกว้าง 2 เลนซ์ยาวแค่ 800 เมตร พออายุ 13 อาสาคุณแม่เอาของไปส่งให้คุณยายที่ราชบุรี ก็แอบขับรถไป-กลับ ตาคนรถก็นั่งทานกล้วยแขกไปตลอดทาง พอวันเกิดอายุ 17 หนีโรงเรียนช่วงเช้าไปทำใบขับขี่ ให้ตาคนรถคนเดิมแอบพาไป เขาก็ตามใจ ตกเย็นเอาใบขับขี่ไปอวดคุณแม่ คุณแม่ร้องลั่น ตอนแรกนึกว่าตกใจที่หนีโรงเรียน แต่ไม่ใช่หรอกค่ะ หนีโรงเรียนไปก็เลยทรงชุดนักเรียน นอกจากทำบัตรไม่สวยแล้ว ข้อร้ายที่ทำให้คุณแม่ร้องลั่นคือ ผูกหางแกะโง้งยังกับเขาควายกลับทิศ - อยู่ในบัตร - ตลอดชีพ มาจนทุกวันนี้เวลาไปทำธุระที่ไหนแล้วเขาขอดูใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ออกอาการกลั้นหัวเราะแบบว่ากลั้นไม่จริงหรือกลั้นไม่อยู่ก็ไม่รู้ละ ไม่เกรงใจกันบ้างเล้ย ประสบการณ์นี้ไม่ทราบว่าอยู่ในอารมณ์ใด ตามไม่ทัน แต่ไหงผุดขึ้นมาแล้วอยู่ยาวตลอดชีพก็ไม่ทราบค่ะ หากพี่นักเขียนจะ update การบ้านอื่นๆที่ส่งเข้าเพิ่มนะคะ กรุณากลับมา check ด้วย หากพี่นักเขียนหลงไม่ได้ตอบใคร ทวงนะคะ


    คุณน้องaimmy
    คุณน้องนก leogirl
    คุณ Falkman

    กลับเข้า time machine แล้วจะกลับออกมาหรือเปล่าคะ (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2007
  16. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    zipper vs Einstein

    ที่ว่าเหมือนน่ะ เหมือนที่อารมณ์น่ะค่ะยังไงรูปนี้ คุณ zipper หล่อกว่า Einstein หน่อยนึงอยู่แล้วหละ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ขอบคุณอาจารย์ครับ สำนึกคุณตลอด รถสวยครับ ชอบบ้านที่มีภูเขาอยู่ด้านหลังครับ แต่ตาเนี่ยยังไงๆอยู่ตรับ ขอให้สดใสอ่านหนังสือไม่ต้องใส่แว่นก็ สมปราถนาแล้วครับสวยไม่สวยไม่ป็นไรครับ
    ตอนนี้จินตนาการอ่านหนังสือของอาจารย์อนาลัยในบ้านที่วาดฝันไว้ แล้วขับรถออกไปช้อบปิ้ง ไปเที่ยวทะเล แล้วกับบ้านครับ
    ลองกำหนดจิตก่อนอ่านหนังสือได้ผลครับ ตอนที่พิมพ์อยู่นี่ก็ไม่ได้ใส่แว่น แต่ต้องทำตาหยีๆอยู่ครับ
     
  18. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    03การมาถือกำเนิดในแต่ละชาติภพ

    พี่นักเขียนได้อธิบายไปแล้วว่าการพิสูจน์สมการสองชุด

    1. ความปรารถนาอย่างแรงกล้า + ความมุ่งมั่น + เจตนา = ความฝันที่กลายมาเป็นความเป็นจริง
    2. ความกลัว + ความลังเลสงสัย + ความไม่แน่ใจ = ความฝันที่ไม่เคยเป้นจริง

    เกี่ยวพันกับสาระอื่นๆมายมายคือ:
    1. การสร้างโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยอารมณ์-จินตนาการและควาวมรู้สึกนึิกคิด
    2. การสร้างเส้นทางแห่งความเป็นไปได้

    และได้กล่าวไว้ว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิด เกี่ยวพันและส่งผลกระทบต่อ ตัวตนทั้งหมดของเราจากทั้งสามแหล่งข้อมูลด้วย อันได้แก่:
    3.1. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ ในอดีตและอนาคตชาติ
    3.2. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ในปัจจุบันชาติ
    3.3. จิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติ ในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต


    พี่นักเขียนนักเขียนได้เล่าประสบการณ์ให้ฟังไปแล้วว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของพี่นักเขียน เกี่ยวพันหรือส่งผลกระทบไปสู่ 3.2. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ในปัจจุบันชาติ อย่างไรไปแล้ว เหลืออีก 2 ข้อคือ
    3.1. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ ในอดีตและอนาคตชาติ กับ
    3.3. จิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติ ในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ที่ยังไม่ได้เล่าประสบการณ์ให้ฟัง และคิดว่าแทนที่พี่นักเขียนจะแย่งทำการบ้านเสียหมด จะให้พวกเราช่วยกันคิดและเล่าประสบการณ์มาสู่กันฟังบ้าง เพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำให้เราตระหนักว่า เราเข้าใจในข้อมูลของท่านอาจารย์อนาลัยได้มากน้อยเพียงใด หากยังไม่เข้าที่เข้าทางกันนัก เราก็จะช่วยกันปรับคลื่น

    เรามักเข้าใจกันว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของเรา เป็นสิ่งที่เป็นส่วนตัว-เป็นของเรา หากเรานีกคิดแล้วสิ่งนั้นๆเป็นจริงขึ้นมา มันก็เป็นของเราทั้งหมด ทั้งจินตภาพและภาวะทางกายภาพ แต่ถ้าหากเรานีกคิดแล้วสิ่งนั้นๆไม่ได้เป็นจริงขึ้นมา เราก็เชื่อโดยปริยายว่า ความคิดนึ้นๆสลายตัวไปโดยไม่เหลือร่องรอย หรือไม่มีผลอะไรกับผู้ใดทั้งสิ้น ท่านอาจารย์อนาลัยได้ตั้งคำถามไว้ใน อมตะแห่งจิตวิญญาณว่า เกิดอะไรขึ้นกับความคิดของเธอ เมื่อมันจากสติสัมปชัญญะของเธอไป?

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้ให้คำตอบไว้ใน โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพว่า ความรู้สึกนึิคิดของเธอเป็นพลังงานที่ถูกส่งกระแสออกไปและไม่มีวันที่จะถูกดึงกลับคืนมาได้ ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าเธอจะนึกคิดสิ่งใด ความคิดของเธอเป็นพลังงานที่จะแปลงสภาพเป็นวัตถุธาตุและความเป็นจริงในชาติภพใดชาติภพหนึ่งเสมอ ความรู้สึกนึกคิดที่ปราศจากสติ จึงเป็นดาบสองคมที่สร้างสรรค์และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอได้เสมอ (หน้า 33)

    เมื่ออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของเรา แม้เพียงแว้บหนึ่งที่คิดถูกส่งออกไป และก่อเกิดเป็นโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้หรือชาติภพใดชาติภพหนึ่ง มันก็ครอบคลุมไปถึงการก่อเกิดการเป็นบุคคลตัวตนผู้เผชิญกับประสบการณ์นั้นๆด้วย กล่าวได้ว่าอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของเราก่อเกิดโลกแห่งความเป็นจริงได้มากกว่าที่จะจินตนาการได้ถึงมากมายนัก

    ตามข้อมูลดังกล่าวนี้ พวกเราลองคิดดูสิคะว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิดของเราจะเกี่ยวพันและส่งผลกระทบไปสู่
    3.1. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ ในอดีตและอนาคตชาติ กับ
    3.3. จิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติ ในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ได้อย่างไร

    สำหรับข้อ 3.1 พวกเราน่าจะมีประสบการณ์ที่ทำให้ตระหนักได้ไม่ยาก และมีประสบการณ์ไม่น้อยด้วยกันทุกคน โดยพิจารณาจากบรรพบุรุษ หรือ ลูกหลานของเรา ส่วนข้อ 3.3. พวกเราก็มีประสบการณ์ด้วยกันทุกคนไม่มากน้อยไปกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่รู้เห็นยามตื่น ยามฝัน ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันนะคะ และพวกมนุษย์ต่างดาวทั้งหลายน่าจะมีประสบการณ์อื่นๆมาเล่าให้พวกเราฟังได้บ้างไม่มากก็น้อยด้วยในข้อนี้

    อ้าวแถมท้ายอีกนิด ประเดิมคำถามนี้กับ คุณ Mead หัวหน้าห้องวิทย์ฯของเราแล้วกันว่า
    1. ทำไมจึงผูกพันธ์กับ Pyramid ?
    2. เกิดเมืองไทยหรืออียิปต์ หรือประเทศไหนในโลก หรือเดินทางไปประเทศใดในโลกที่ทำให้รู้เห็น Pyramid ของจริงหรือเปล่าคะ?
    3. เมื่อได้เห็น Pyramid ครั้งแรก จำได้ไหมว่ารู้สึกอย่างไร (ไม่ว่าจะเห็นภาพหรือของจริงก็ตาม)
    4. อารมณ์ จินตนาการ และความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับ Pyramid มีที่มาทีไปอย่างไร อะไรดลใจให้สนใจคะ ?

    มนุษย์ต่างดาวท่านอื่นๆเช่น คุณ zipper คุณ Falkman ไม่ทราบว่าผูกพันกับอะไรกันบ้าง ขอเอาคำถามเหล่านี้ไปเทียบเคียงแล้วเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันบ้างค่ะ ชาวโลกจะได้ขยายสัมพันธภาพไปสู่ต่างด้าว ต่างดาวกันหน่อย

    พวกเราชาวโลกต้องช่วยกันตอบคำถามนะคะ ทั้งคุณ Mountain น้องนก leogirl น้องแก้วทิพย์ น้องขจรวรรณ น้อง mindanaric น้อง aimmy ระดมพลหน่อยนะคะ อย่าปล่อยให้มนุษย์ต่างดาวเผาห้องวิทย์ฯกลายเป็น gas ไปซะก่อน(*) (*) (*) คุณจิตต์ คุณ penpilai คุณ pannapa และท่านอื่นๆหายไปไหนไม่ทราบนะ สงสัยจะหายเข้า time machine แล้วไปลับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2007
  19. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    รอหัวหน้าห้องคุณ mead,คุณ zipper คุณ Falkman มาเล่าเป็นตัวอย่างก่อนนะครับ ผมยังจับจุดไม่ค่อยถูก ต้องอิงอาศัยตัวอย่างก่อนครับ (*)
    (smile) [b-wai]
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่นักเขียนเป็นอย่างสูงครับที่มาเติมเต็มความเข้าใจเบื้องหลังของกลไกชิวิตจากความเป็นจริงแต่ล่ะท่าน เลยทำให้เรียนรู้ไปด้วยว่าหลายๆเรื่องราวเรากำหนดสร้างด้วยตัวเราเองแท้ๆ รู้สึกว่าเราต้องกลับมาทบทวนมองหาช่องว่าง ทิศทางความฝันกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนครับ

    ตอนนี้มีการบ้านใหม่เกี่ยวกับ จิตวิญญาณ(เสมือน)ร่วมร่างแต่ต่างมิติ ในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ก็คือเรื่องจิตวิญญาณต่างภพชาติ-ต่างมิติของตัวเราเอง ที่เป็นรหัสร่วม (genes) ที่กำหนดรูปลักษณ์หล่อหลอมเป็นตัวเราในปัจจุบันครับ
    เป็นประสบการณ์ของภพชาติต่างๆของเราในอดึต ใครมีอดีตความเป็นมาของภพชาติอย่างไร มาเล่าให้ฟังหน่อยครับจากความฝันหรือ จากการดูโดยอาศัยตาทิพย์ของผู้รู้หรือของเทพ-พรหมก็ได้ครับ..คงพอเข้าใจการบ้านนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...