ไปพบท่านท้าวพญามัจจุราช

เมือคืนฝันเห็นท้าวพญามัจจุราช ท่านให้ระวังตัว ท่านบอกผมว่าสวดมนต์แผ่ให้ทั่วจักรวาร จะได้อานิสงส์มากกว่าเจาะจง ท่านบอกว่าให้ระลึกถึงความตายอย่างน้อยวันละ 1 หน แล้วท่านบอกว่าความตายไม่น่ากลัวอย่างที่คิด คนที่กลัวตาย ท่านบอกว่าเป็นคนยังมีห่วงและกิเลสมาก ท่านบอกว่าถ้าตายไปไม่อยากเจอท่าน ท่านบอกว่าหมั่นให้มีสติทำสมาธิ ทำบุญให้ทาน รักษาศีล ท่านบอกว่าทำแค่นี้ก็ไม่ได้เจอท่านแล้วไปสวรรค์เลย ท่านบอกว่ารักษาศีล 5 ก็ไม่...ได้เจอท่านแล้ว ท่านว่าการรักษาศีล 5 ง่ายที่สุดง่ายกว่าทำบาปอีก ท่านบอกว่าคนที่ทำบาปนั้นเป็นคนมีความโลภ ความโกรธ ความหลงเป็นพื้นฐาน เขาเลยทำบาปได้ง่าย พื้นฐานคนดีก็เป็นคนมีโลภน้อย มีโกรธ มีหลงน้อย มีศีล 5 ประจำใจ มีการสวดมนต์ทำสมาธิบ้าง ท่านบอกว่าทำแค่นี้สิ่งที่คนเหล่านั้นที่หวังได้คือเทวะภูมิเป็นอย่างน้อย หรือแค่มีศีล 5 เพียงอย่างเดียวสิ่งที่เขาจะหวังได้คือมนุษยภูมิ ตายแล้วจะไปไหนก็เลือกเอานะครับ ท่านท้าวพญามัจจุราช กล่าว พอท่านพูดจบผมก็ตื่นมาแล้วทำสมาธิแล้วถามในจิตตัวเองว่าที่ผมฝันนั้นเป็นนิมิตรหรือเป็นเรื่องจริง จิตในสมาธิก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง ที่ผมเล่ามานี้อยากให้เพื่อนทุกท่านใช้วิจารณญาณ และใคร่ควรญด้วยนะครับ ขอเพื่อนๆทุกท่านจงเจริญในธรรมมะด้วยนะครับ

 

จริงหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ในสัจจธรรมที่กล่าวมานั้นจริง และขออนุโมทนาในการสื่อธรรมะ ในโอกาสนี้ด้วยครับ เราท่านทั้งหลายไม่ควรกลัวต่อความตาย แต่เราควรคิดว่า สิ่งที่น่ากลัวคือ เราจะรักษาศีล5 รักษาสติ รักษาความดีของเราให้เกิดขึ้น คงอยู่ต่อไปอย่างไร นี่สิน่ากลัวยิ่งกว่าครับ สาธุ

 

...ความตายไม่ต้องกลัวครับ เพราะผู้ใดมีเกิด ต้องมีตายแน่นอน....
แต่เมื่อตาย ทางใดที่ไมต้องมาเกิดอีก หรือถ้ายังต้องเกิดจะต้องไม่เกิดในอบาย...นั่นคือสิ่งที่ต้องทำครับ ส่วนทำอย่างไรนั้น หลายคนทราบดีครับ

 

ประหลาดใจที่ได้มาอ่านเจอะ

เมื่อคืนขณะนอนทำสมาธิอยู่ มีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าความตายไม่น่ากลัว ความตายเป็นของดี เป็นเครื่องเตือนสติ ตัดโกรธ โลภ หลง มานะ ได้ดี ควรเจริญไว้ให้มาก

แล้วมีเสียงหนึ่งปรากฏขึ้น ถามว่า เราจะรอดจะภัยพิบัตินี้ไหม ความรู้สึกที่ว่านี้ก็ตอบว่า ถ้ารอดหมายถึงไม่ตายนะ ไม่รู้เพราะถึงสุดท้ายของชีวิตคือความตาย เธอก็รู้ดีอยู่ แต่การระลึกถึงความตายบ่อยๆ พิจารณาให้มาก ถือว่ารอดภัยพิบัติอย่างแท้จริง

 

ความตายเป็นเรื่องของรูป มันมีความแตกดับธรรมดา มองให้เห็นความจริงว่าอะไรตาย แล้วเราจะรู้ว่าความตายคืออะไร ใจเราก็ไม่เกาะเกี่ยวกับร่างกายอีกต่อไป ภพชาติตัดขาด ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ชั้นไหนก้ไม่ไป ไปนิพพานอย่างเดียว ไม่ต้องใช้กำลังใจสูงจนเกินไป ขอให้ตั้งสติดูร่างกายนี้ดีๆ สำคัญที่ร่างกายนี้ที่ทำให้จิตลุ่มหลง แล้วความตายคืออะไรก็จะรู้เอง

 

ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนมากไม่ค่อยกลัวตาย เพราะได้ฝึกการตายอยู่ตลอดเวลา ขออนุโมทนาผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านด้วยนะครับ

 

อันความตาย แม้จะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
แต่ทว่า...อันดวงจิต กลับมาเกิดอีกนี่สิ น่ากลัวกว่า

แม้นรกที่ว่าร้อนรน ไปด้วยเปลวไฟ
ยังหาได้เทียบเท่า ความรุ่มร้อนในจิตใจเราไม่
แม้แต่... สวรรค์แดนพรหม ที่ว่าเย็นแล้วปานใด
ยังมิอาจ เย็น สงบ สว่างใส เสมอเท่าด้วย แดนแห่งนิพพาน...

ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป สาธุ...

 

ผมพยายามรักษาศีล5 ผมว่าที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นข้อ5 ถ้าใครผ่านข้อนี้ได้คิดว่าข้ออื่นน่าจะไม่มีปัญหา
ผมนั่งสมาธิบ้างสวดมนต์บ้าง แต่ก่อนนอนผมจะนอนสมาธิแล้วหลับไปเลยแต่ช่วงหลังๆห่างจากการนั่งสมาธิไปนาน
เด๋วนี้ถ้ากำหนดจิตแล้วนอนจะไม่ค่อยมีสติ จิตมักจะคิดเรื่องต่างๆนาๆ แล้ววันนี้ตอนกลางวันนอนเล่นๆแล้วกำหนดจิตดู
จิตมันก็คิดไปว่าถ้าตอนนี้ตายจะมีห่วงอะไรบ้าง ความคิดตอนนั้นมันห่วงทุกอย่าง
ผมก็คิดว่าเมื่อก่อนตอนทำสมาธิประจำไม่เคยห่วงอะไรตายเป็นตาย แต่พอห่างจากการนั่งสมาธิจิตเราจะควบคุมยากมาก
ถึงว่าครูบาอาจารย์ท่านถึงให้ตื่นเช้านั่งสมาธิ ก่อนนอนนั่งสมาธิ เพื่อฝึกจิตให้รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาจะได้ควบคุมจิตได้เวลาถึงยามคับขัน

 

ตาย ไม่น่ากลัว แต่ที่ผ่านยากคือ ทุกขเวทนาก่อนตาย
เพราะจิตของคนธรรมดาที่ยังฝึกได้ไม่ดี หากถูกเวทนาเล่นงานหนักๆ
สติอาจเตลิดเปิดเบิง หรือ เกิดดวงจิตก็เศร้าหมอง ได้ง่ายๆ

ซึ่งเป็นผลให้ .. ดวงจิตสุดท้ายย่อมเศร้าหมองตามไปด้วย และทำให้ภพภูมิที่จะไปมีความไม่แน่นอนสูง

แยกรูปแยกนามเป็นเมื่อไหร่นั่นแหละ...ถึงจะปลอดภัยจากการเล่นงานของเวทนา
...ถึงจะพูดได้จริงๆว่าความตายไม่น่ากลัว

ไม่งั้นอย่าว่าแต่ตายเลย แค่เวทนาที่เกิดจากสังขารตัวเองธรรมดาๆ ก็ ไม่รอดแล้ว

 

ขออนุโมทนาในทุกๆความเห็นครับ เป็นธรรมะที่สะท้อนความจริงแห่งทุกข์ แห่งการเวียนว่ายตายเกิด

เราขอกล่าวเสริมอีกนิดหนึ่งว่า แท้จริงแล้ว ความตาย เป็นเพียงสภาวะหนึ่ง ของการเปลี่ยนอัตภาพของจิต การจุติก็เช่นกัน การเคลื่อนของจิต มีวิถีของมันด้วยอาศัย กรรมเป็นตัวขับเคลื่อน และกรณีผู้ที่ผ่านการฝึกจิตที่ดี ก็อาศัยกำลังของสมาธิจิตเป็นตัวขับเคลื่อนโดยมีแรงกรรมเป็นตัวส่ง ท้ายที่สุด เราขอกล่าวว่า
สาวกทั้งหลายของพระพุทธเจ้า ควรเดินตามพระบาท กล่าวคือ คือเจริญแล้วซึ่งมรณานุสติให้มาก เมื่อเจริญแล้วย่อมมีอานิสงค์ คือ
1 ไม่หวาดกลัวในความตาย จักเห็นความตายเป็นธรรมดาแห่งสัตว์โลก และตัดสักกายะทิฏฐิลงได้ ไม่ยึดติดในกาย สังขารแห่งตน
2 เป็นผู้ไม่ประมาทใน กาย เพราะกายนี้ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป มีสติ เป็นเครื่องรักษา
3 เป็นผู้ตั้งอยู่ในกรรมฐานที่เรียกว่า มรณานุสติกรรมฐาน ดับแล้วในนิวรณ์ได้เป็นที่สุด ยังความสุขสงบเกิดแก่จิต
4เป็นผู้ตั้งอยู่ในฌาณที่เรียกว่า มรณานุสติฌาณ ดับอธิกรณ์อธิกรณ์และกิเลสอย่างหยาบถึงปานกลางได้เป็นที่สุด ยังความสุขสงบเกิดแก่จิต และมีความบริสุทธิ์แห่งจิตเป็นเบื้องต้น
5เป็นผู้ตั้งอยู่ในวิปัสสนาญาณที่เรียกว่า มรณานุสติญาณ ดับอธิกรณ์และอุปกิเลสอย่างปานกลางถึงละเอียดได้เป็นที่สุด ยังความสุข สงบ สว่างเกิดแก่จิต ชำระจิตให้บริสุทธิ์ เป็นผู้หลุดพ้นห่างไกลจากกิเลส สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ได้ในที่สุด

เช่นนี้แล้วเราจึงขอกล่าวว่า อันมรณานุสตินี้มีคุณเป็นอันมาก เราผู้ไม่ประมาทควรเจริญแล้วซึ่ง มรณานุสติ นี้เถิดสาธุ

 

..." ลูกรักทั้งหลาย...ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนเป็นความรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น ไม่มีคำว่าสิ้นสุดยุติ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เกิด-ดับอยู่ตลอดเวลา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวนเปลี่ยนแปลง และสุดท้ายก็ดับสลายไปหมดสิ้น..จงอย่าสนใจความรู้อันเป็นตำรา ขั้นตอน หรือเรื่องอื่นๆ ในโลกให้มากนัก จงสนใจเฉพาะคำว่า แก่ เจ็บ ตายเป็นทุกข์ เกิดอีกก็ทุกข์อีก ถ้าไม่ต้องการกลับมามีความทุกข์ในภพชาติต่อไป ก็จงสนใจแต่คำว่า ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายอีกแล้ว นั่นแหละคือสิ่งประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ควรสนใจใส่ใจ แบ่งเวลามาคิดพิจารณาให้มากที่สุด ในแต่ละวันแต่ละคืน...ลูกเอ้ย..."

 

ได้เกิดมาเป็นสัตว์ประเสริฐก็ควรเร่งทำบุญอุทิศบุญ และเจริญสติสมาธิกันให้มาก ๆ นะคะ
ตายไปจะได้ไม่ต้องมาเสียใจว่าทำไมเกิดมาเป็นมนุษย์ไม่ขวนขวายทำบุญกัน
พวกที่เกิดมาแล้วทำให้คนอื่นและประเทศชาติต้องเดือดร้อนล่มจมนี่สิบาปหนา
อย่าคิดว่าตายเร็วจะหมดกรรมเร็ว แต่ตายเร็วแล้วอาจจะต้องไปเกิดเป็นสิ่งอื่น
หรือสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์ประเสริฐแล้วไม่มีโอกาสได้ทำบุญเหมือนได้เกิดมา
บนแผ่นดินแห่งพระพุทธศาสนานี้
มาช่วยกันเร่งสร้างบุญและดึงให้ผู้อื่นหลุดพ้นจากผลกรรมก็จะได้บุญมากนะคะ
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Q7Or4U4wrXA"]บทแผ่เมตตาทั่วทั้งสามโลก - YouTube[/ame]

บทอัญเชิญเทวดา+บทสวดพุทธบารมี 30 ทัศ+บทแผ่เมตตาทั่วทั้งสามโลก
ข้าพเจ้าได้ทำการรวบรวมไว้เป็นไฟล์เดียวเพื่อความสะดวกในการเจริญเมตตาขอให้ทุกๆท่าน ผู้ที่มีจิตเมตตาช่วยกันสวดบทนี้ที่ข้าพเจ้าได้จัดทำขึ้น ทุกเช้าและก่อนนอน เพื่อประโยชน์แก่ดวงจิตของสรรพสัตว์ทั้งสามโลก และเจ้ากรรมนายเวร ทุกๆดวงวิญญาณ
เมตตาสามารถแผ่กระจายออกไปได้ทุกทิศทาง ไม่มีขอบเขต ไม่กำหนดสถานที่ กาลเวลา เมตตาเป็นเรื่องของจิตใจ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยทรัพย์สิ่งของ ไม่ต้องลงทุนลงแรงแต่อย่างใด และเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมพึงให้ความสำคัญ และน้อมนำมายืดถือปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและผู้อื่นต่อไป

 

ใช่แล้วครับพี่น้องเอ๋ยศีลห้านี่เองเป็นพื้นฐานอย่างแรกที่ทำให้มาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก หากรักษาไว้ได้ในเวลาใกล้ตายก็จะนำไปสู่สวรรค์หมั่นทำให้ได้บ่อยๆเช่นเดียวกับการเจริญสติทำสมาธิเป็นนิจติดเป็นนิสัยยิ่งดีจะช่วยได้มากปิดทางนรกไปพบยมบาล หากไม่เร่งฝึกให้ชินเสียก่อนเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยร่างกายก็จะเจ็บปวดจนจิตไม่อาจทรงอารมณ์อยู่ได้เหมือนกับการลงแข่งขัน ถ้านักกีฬาไม่เคยฝึกซ้อมหมั่นฝึกฝนแล้วจะหาหนทางแห่งชัยชนะได้อย่างไร นึกได้เมื่อไหร่"ตั้งอยู่ในอารมณ์ภาวนา"พุทโธ"บ่อยๆก็จะชินไปเอง ขอให้ทำกันนะครับทุกท่าน

 

ถูกต้องที่สุดครับ ความตายเป็นสิ่งไม่น่ากลัว เพราะทุกๆท่าน ก็ต้องไปพบกับความตายกันทุกคน หมั่นทำความดี อย่างง่ายๆ ก็คือ ทาน ศีล และ ภาวนา ทำง่ายกว่าการสร้างบาปอีกนะครับ หว่านพืชชนิดใด ย่อมได้ผลจากพืชชนิดนั้น เป็นเครื่องตอบแทน หากทุกๆ ท่าน กระทำแต่กรรมดี มีกรรมชั่วบ้างเล็กน้อย ก็ย่อมได้ผมแห่งกรรมดี มากกว่ากรรมชั่วแน่นอนครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุในธรรมทานของท่านเจ้าของกระทู้ และธรรมทานจากทุกท่านค่ะ

 

ความตายเป็นเรื่องธรรมดาครับแต่ในชีวิตเราทำอะไรสร้างบารมีได้เต็มที่หรือยัง

365 วัน
X 75 ปี
1วันในดาวดึงส์เท่ากับอายุไขของคนในปัจจุบันโดยประมาณ
จะเจริญอะไรต้องเร่งทำครับ
ทาน ศีล วิปัสสนากรรมฐาน...
มรณานุสติทุกลมหายใจเข้าออกครับ
อนุโมทนาสาธุการครับ;aa2

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

ความตายเป็นเรื่องน่ากลัวของคนที่ไม่มีสติ ผู้ฝึกสติดีแล้วก็ไม่ต้องไปกลัวครับ ใครที่ยังไม่เริ่มฝึกควรเริ่มทำได้แล้วจะได้ไม่ต้องไปกลัวความตายครับ ค่อยๆฝึกเดี๋ยวก็ได้ ไม่ยากหากมีความพยายามครับ

 

จ้าาา

ท่องไว้ ตายแน่ๆๆ

คาถากันผีจ้าา