ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    (ตอนต่อจากข้อความที่ 6409 หน้าที่ 321)

    TRIP TO THE MOTHERSHIP PART XII

    MYTRE AND KEPIER 4


    By Suzanne Lie – November 18, 2012
    http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/


    Continuation of the Meeting of the Galactic Federation

    The Galactics decided that they could no longer hold back from the needs of the brave leaders for the sake of those who were still afraid.



    แกแลกติกตัดสินใจว่าพวกเขาไม่สามารถถ่วงเวลาความต้องการของผู้นำที่กล้าหาญ ที่ทำเพื่อประโยชน์ของผู้ที่ยังกลัว.


    MYTRE CONTINUES:

    Kepier and I were so intently paying attention to every word that was said that we did not notice that the rows of seats behind us were silently being filled. It was not until my Arcturian Friend went to the podium and said, “Welcome Beings from Earth,” that we turned to see how much the room had filled.



    Kepier และผมให้ความสนใจอย่างยิ่งกับทุกๆคำที่พูด จนพวกเราไม่ได้สังเกตุว่าที่นั่งแถวหลังจากพวกเรามีรูปธรรมเข้ามานั่นอย่างเงียบๆ. จนกระทั่งชาวอาร์คทูเรี่ยนไปที่แท่นแล้วพูดว่า, “ยินดีต้อนรับรูปธรรมจากโลก”, พวกเราจึงหันหลังไปมองว่ามีผู้มานั่งเพิ่มขึ้นเท่าใด.


    There were not just humans in this group. There were also beings who appeared to be whale and dolphin beings, fourth dimensional Elemental Beings and majestic Devic Beings who supervised the Elementals. All the difference races, and even timelines were included.

    ไม่ได้มีแต่เพียงมนุษย์ในกลุ่มนี้. ยังมีรูปธรรมที่ดูเหมือนปลาวาฬและปลาโลมา, รูปธรรมธาตุมิติที่สี่ และเทพระดับสูงที่ปกครองธาตุ. เผ่าพันธุ์ต่างๆทุกเผ่าพันธุ์, และแม้แต่เส้นเวลาต่างๆก็รวมเข้ามาด้วย.

    There was an ancient Mayan Leader next to a leader from the 21 Century. There were Lemurians sitting next to Atlantians and representatives of the animal kingdom in bi-pedal forms of their usual four-legged appearance. There were world leaders, scientists, religious leaders, and citizens from every culture and area of Earth.

    มีผู้นำมายาโบราณนั่งถัดจากผู้นำจากศตวรรษที่ 21. มีชาวลิมูเรียนั่งถัดจากชาวแอตแลนติส และตัวแทนของอาณาจักรสัตว์ในรูปสัตว์สองเท้า ซึ่งปกติจะเห็นเป็นสัตว์สี่เท้า. มีผู้นำโลก, นักวิทยาศาสตร์, ผู้นำทางศาสนา, และประชาชนจากทุกๆวัฒนธรรมและทุกๆพื้นที่ของโลก.

    Since this room was multidimensional like the rest of the ship, it expanded in size, as more room was needed for the incoming guests. It appeared that the humans were only ushered in after the opening meditations were complete. Likely because of the humans, the Arcturian spoke in sequential human language when it introduced the members of the Federation. When the Arcturian presented a regal looking Draconian who stood up to reveal well over 10 feet of height, the humans fell into a hushed silence.

    เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องหลากมิติเหมือนกับส่วนอื่นๆของยาน, มันขยายขนาดได้, เมื่อต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้มาเยือน. มันดูเหมือนมนุษย์จะถูกนำมาเมื่อทำสมาธิสำเร็จแล้วเท่านั้น. อาจเป็นเพราะมนุษย์, ชาวอาร์คทูเรี่ยนจึงพูดในภาษาตามลำดับของมนุษย์ เมื่อแนะนำสมาชิกของสมาพันธ์. เมื่อชาวอาร์คทูเรี่ยนแนะนำตัวรูปธรรม Draconian ที่ดูมีอำนาจ ได้ยืนขึ้นเผยให้เห็นถึงส่วนสูงเกิน 10 ฟุต, พวกมนุษย์ก็ตกอยู่ในความเงียบ.

    “Dear humans of Earth, we gather here today to release old conflicts that have arisen from the separation consciousness that has invaded your planet. Within this separation consciousness, your society devolved into the polarities of “Power-Over Others” and “Power-Within SELF.” The Power-Over model creates a reality based on victim and victimizer, conqueror and conquered. On the other hand, the Power-Within mode creates a reality of unconditional love and Unity Consciousness.

    มนุษย์โลกที่รัก, พวกเราแสวงหาในทุกวันนี้เพื่อปลดปล่อยความขัดแย้งเก่าๆที่เกิดขึ้นจากความตระหนักรู้แบบแบ่งแยก ที่ได้รุกรานโลกของคุณ. ภายในความตะหนักรู้แบบแบ่งแยก, สังคมของคุณเสื่อมลงสู่ความเป็นขั้วของ “อำนาจเหนือผู้อื่น” และ “อำนาจภายในตนเอง”. คติของการมีอำนาจเหนือได้สร้างความเป็นจริงที่มีพื้นฐานบนความเป็นเหยื่อและผู้ต้องหา, ผู้พิชิตและผู้ถูกพิชิต. ในอีกด้านหนึ่ง, อำนาจในภายในได้สร้างความเป็นจริงของความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและความตระหนักรู้ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน.

    “We have much to tell you about the nature of humanity and how it is interrelated with us, the Galactic Federation of your the Milky Way Galaxy. Your planet Earth has asked to become a member of our Galactic Community. Gaia, the Soul of Earth, has served many fledgling species from many planets and solar systems in our Milky Way Galaxy.

    พวกเรามีเรื่องที่จะบอกคุณมากมายเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และความสัมพันธ์ที่มันมีต่อพวกเรา, สมาพันธ์แกแลกติกของแกแลกซี่ทางช้างเผือกของคุณ. ดาวโลกของคุณได้ร้องขอเข้าเป็นสมาชิกของสังคมแกแลกติกของพวกเรา. ไกอา, วิญญาณของโลก, ได้รองรับสายพันธ์ภาคพื้นดินจำนวนมากจากดาวเคราะห์มากมาย และระบบสุริยะจักรวาลต่างๆในแกแลกซี่ทางช้างเผือกของพวกเรา.

    “Now Earth is ready to ascend into Her fifth dimensional expression. She wishes to take Her inhabitants with Her, and all is ready except for some of humanity. Your present day human is a genetic mix of all the members of the Galactic Federation whom you see seated before you. This genetic mix includes the DNA of those you have considered your enemy, namely the Zetas and the Draconians.

    ขณะนี้โลกพร้อมแล้วที่จะยกระดับเข้าสู่มิติที่ห้าของเธอ. เธอปรารถนาที่จะนำมนุษย์ที่อาศัยอยู่กับเธอไปด้วย, และทุกอย่างก็พร้อมแล้วยกเว้นมนุษย์บางคน. มนุษย์ในปัจจุบันนี้ของคุณมีส่วนผสมทางพันธุกรรมจากสมาชิกทั้งหมดของสมาพันธ์แกแลกติก ที่นั่งอยู่ในแถวหน้าของคุณ. ส่วนผสมทางพันธุกรรมนี้รวมถึง DNA ของผู้ที่คุณคิดว่าเป็นศัตรูของคุณ, เรียกขานกันว่า Zetas และ Draconians.

    “In this meeting we will speak about your long relationship with the many different species of the Draconian Race. For millions of years many members of your world have battled for the right to have either Power-Over Others OR Power-Within SELF. These two battles raged for millennia. However, once a being found their Power-Within, they were no longer interested in gaining Power-Over Others.

    ในการประชุมนี้ พวกเราจะพูดถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของคุณกับสายพันธ์ต่างๆมากมายของเผ่าพันธุ์ Draconian. เป็นเวลานับล้านปี สมาชิกจำนวนมากของโลกคุณได้ต่อสู้เพื่อสิทธิที่จะมีอำนาจ ทั้งอำนาจเหนือผู้อื่น หรืออำนาจภายในตนเอง. ทั้งสองพวกต่อสู้ดิ้นรนมานับพันปี. อย่างไรก็ตาม, เมื่อพวกเขาค้นพบพลังอำนาจภายในของพวกเขา, พวกเขาก็ไม่สนใจในอำนาจเหนือผู้อื่นอีกต่อไป.

    “Power-Over Others stems from a powerless, loveless childhood where survival was constantly a challenge as some one or some thing was a constant threat of suffering, injury or inhalation. The Draconian Society, which is a Reptilian world was, and is, based on the challenge of the strong surviving and the weak dying. There was a constant culling of their society so that only the very strong would live to adulthood.

    อำนาจเหนือผู้อื่นมีต้นกำเนิดมาจากการขาดอำนาจ, การขาดความรักในวัยเด็ก ในขณะที่การเอาตัวรอดเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางคนหรือบางสิ่งเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของความทุกข์ทรมาน, การบาดเจ็บหรือการหายใจ. สังคม Draconian, ก็คือโลกของ Reptilian, และมีพื้นฐานบนความท้าทายของผู้แข็งแรงจะอยู่รอดผู้อ่อนแอจะตาย. มีการคัดสรรทางสังคมของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะมีเพียงผู้ที่แข็งแรงอย่างมากเท่านั้นที่จะได้ใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่.


    “They were hatched from an egg that is external to their mother’s womb and left in the sand to hatch. The first ones to hatch fed on the later ones that hatched. Hence, they became strong enough to dominate others. As soon as they had enough strength from feeding on their siblings, they left the danger of their hatching area. Then they sought a safer place to hide and feed until they were big enough to survive outside of their hiding place.

    พวกเขาฟักออกจากไข่ที่อยู่ภายนอกมดลูกของมารดา และทิ้งไว้ในทรายเพื่อให้ฟักตัว. คนแรกที่ฟักจะกินคนที่ฟักต่อมา. ดังนั้น, พวกเขาจะแข็งแรงเพียงพอที่จะมีอำนาจเหนือผู้อื่น. ทันทีที่พวกเขามีอำนาจเพียงพอจากการกินพี่น้องของพวกเขา, พวกเขาจะออกจากพื้นที่อันตรายจากการฟักไข่ของพวกเขา. แล้วพวกเขาก็จะหาสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อหลบซ่อนและหาอาหารจนกว่าพวกเขาจะมีขนาดใหญ่พอ ที่จะมีชีวิตอยู่นอกที่หลบซ่อน.

    “Because of this beginning they cared only for themselves and lived their lives in domination of others with no sympathy or concern for the weak. Some of Dracs prospered and continued living via the means of dominating others. However, something very usual began to happen as they spent more time on Earth. There were also resourceful ones, who were usually the last eggs to hatch. The stronger ones had left, and the animals that fed on the eggs had had their fill.

    จากจุดเริ่มต้นนี้ พวกเขาจะสนใจเฉพาะตัวของพวกเขาเอง และใช้ชีวิตในความมีอำนาจเหนือผู้อื่น โดยไม่มีความเห็นใจหรือห่วงใยผู้อ่อนแอ. Dracs บางพวกมีความรุ่งเรืองและยังคงใช้ชีวิตผ่านหนทางของการมีอำนาจเหนือผู้อื่น. อย่างไรก็ตาม, มีบางอย่างที่ปกติมากเริ่มเกิดขึ้น เมื่อพวกเขาใช้เวลามากขึ้นบนโลก. เป็นโลกที่อุดมสมบูรณ์โลกหนึ่ง, ซึ่งมีไข่ใบสุดท้ายให้ฟักอยู่เสมอ. ผู้แข็งแรงจากไป, และสัตว์ที่หากินกับไข่ก็ได้รับอาหาร.

    “These last ones to hatch were born to a scene of carnage and destruction. Some were so weakened by this vision that they died. However, others were filled with a kind of compassion for their dead hatch mates. The eggs of this group of Dracs had remained buried in the earth longer and had more time to mature within the shell. In other words, they were the first ones laid and the last ones hatched. They had more time inside the egg and inside the earth to mature. Hence, they had less fear when they hatched, as they were stronger when they left their shell.

    กลุ่มสุดท้ายที่ฟักตัวจะเกิดในเหตุการณ์ของการสังหารและการทำลายล้าง. บางตัวที่อ่อนแอในมุมมองนี้จะตาย. อย่างไรก็ตาม, ตัวอื่นจะเต็มไปด้วยความสงสารต่อการตายของเพื่อนร่วมฟักไข่ของพวกมัน. ไข่ของ Dracs กลุ่มนี้ได้ฝังอยู่ในแผ่นดินนานขึ้น และมีเวลามากขึ้นที่จะเติบโตภายในเปลือก. พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, ตัวแรกวางและตัวสุดท้ายฟัก. พวกเขามีเวลามากขึ้นภายในไข่และภายในโลกที่ครบกำหนด. ดังนั้น, พวกเขามีความกลัวน้อยลงตอนที่ฟักไข่, เนื่องจากพวกเขาแข็งแรงขึ้นแล้วตอนที่ออกจากเปลือกไข่.

    “These Draconians eventually banded together and established a secret society in which they could explore their great scientific, metaphysical mind and sense of humor. When this sub-species of Draconians took to the skies in their Starships, they did not do so with the intention of conquering, but with the intention of learning. However, because of their looks they created fear wherever they went.

    Draconians เหล่านี้ในที่สุดได้รวมเข้าด้วยกัน และสร้างสังคมลับที่พวกเขาสามารถสำรวจทางวิทยาศาสตร์, อภิปรัชญาทางจิต และความรู้สึกของอารมณ์ขัน. เมื่อสายพันธ์ย่อยของ Draconians เหล่านี้ บินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยยานของพวกเขา, พวกเขาไม่ได้ทำด้วยความมุ่งหมายที่จะพิชิต, แต่ด้วยความมุ่งหมายเพื่อการเรียนรู้. อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากรูปกายของพวกเขา พวกเขาได้สร้างความกลัวในทุกๆที่ที่พวกเขาไป.

    “Their plight caught the attention of us, the Arcturians. We could easily see into the thoughts and feelings of these Dracs and knew that they were the key to curing fear and conquest in this Galaxy. The Galactic War had raged on and off for many millennia with the Power-Over Dracs seeking conquest of all they explored. On the other hand, we Arcturians had been mentoring the Gentle Dracs and providing them with a safe environment in which they could come into their full Power-Within.

    สภาพของพวกเขาได้ดึงดูดความสนใจของพวกเรา, ชาวอาร์คทูเรี่ยน. พวกเราสามารถมองเห็นความคิดและความรู้สึกของ Dracs เหล่านี้อย่างง่ายดาย และรู้ว่าพวกเขาคือกุญแจของการเยียวยาความกลัวและการพิชิตในแกแลกซี่นี้. สงครามจักรวาลได้โหมกระหน่ำขึ้นและจบลงมาเป็นเวลาหลายพันปี จากการที่พวก Dracs ที่ต้องการมีอำนาจเหนือผู้อื่น แสวงหาชัยชนะในทุกที่ที่พวกเขาสำรวจ. ในอีกด้านหนึ่ง, พวกเราชาวอาร์คทูเรี่ยนได้ให้คำปรึกษาแก่ Dracs ที่สุภาพ และให้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยแก่พวกเขา เพื่อให้พวกเขาเข้าสู่พลังอำนาจในภายในของพวกเขาได้อย่างเต็มที่.

    “Because these Dracs looked like the conquering Dracs, they could infiltrate the warrior ranks to send us information and assist us to end the Galactic War. They were not happy spying on their own kind, but they did not like to see this devolution of the great intelligence and wisdom of their species.

    เนื่องจากพวก Dracs ที่สุภาพ มีรูปกายเหมือนกับพวก Dracs ที่บ้าสงคราม, พวกเขาสามารถแทรกซึมเข้าไปในหมู่นักรบ เพื่อส่งข้อมูลมาให้พวกเราและช่วยเหลือพวกเราในการจบสงครามจักรวาล. พวกเขาไม่มีความสุขกับการเป็นสายลับกับเผ่าพันธุ์ของตนเอง, แต่พวกเขาไม่ชอบที่จะเห็นความเสื่อมของอันสติปัญญายิ่งใหญ่และภูมิปัญญาของเผ่าพันธุ์ของพวกเขา.

    “Eventually, these Draconians ascended. They have returned to their multidimensional nature and serve within the Galactic Federation. However, they must constantly face the pressure of prejudice because of the violence of their species. We tell you this story now because they are the key to reaching the many humans who are still influenced and/or ruled by the instinct of their own Draconian DNA located in their lowest ‘lizard brain.’

    ในที่สุด, Draconians เหล่านี้ก็ยกระดับ. พวกเขาได้กลับคืนสู่ธรรมชาติหลากมิติของพวกเขา และรับใช้สมาพันธ์แกแลกติก. อย่างไรก็ตาม, พวกเขาต้องประสบกับความกดดันของอคติอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากความรุนแรงของเผ่าพันธุ์ของพวกเขา. พวกเราบอกคุณถึงเรื่องราวนี้ในขณะนี้เพราะว่าพวกเขาคือกุญแจ ที่จะเข้าถึงมนุษย์จำนวนมากที่ยังคงได้รับอิทธิพลและ/หรือถูกควบคุมโดยสัญชาตญาณของ Draconian DNA ของพวกเขาเอง ที่อยู่ในสมองส่วนล่างสุด ‘สมองจิ้งจก’.

    “These humans live in terror of survival. Hence, they give themselves permission to harm others for the sake of their own safety. Some of these Drac/Humans are the victims of more dominant Drac/Humans. They have become subservient because they have not sufficiently connected with their higher cortical functions which can create a solution to their problems. Furthermore, they have become entrenched in the third dimensional illusions and dogma that have been disseminated to control the masses.

    มนุษย์เหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัวของความอยู่รอด. ดังนั้น, พวกเขาอนุญาตให้ตัวพวกเขาทำอันตรายต่อผู้อื่นเพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยของพวกเขาเอง. บางคนของมนุษย์ Drac ก็เป็นเหยื่อของมนุษย์ Drac ที่มีอำนาจเหนือกว่า. พวกเขายอมจำนนเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้เชื่อมต่ออย่างเพียงพอกับการทำงานของเยื่อหุ้มสมองของพวกเขา ซึ่งสามารถสร้างวิธีการแก้ปัญหาให้กับพวกเขา.


    “This segment of the population of Earth is not ready for ascension, as they have been unable to move beyond the basic instincts of survival of their own self. The ascended Draconians, who have become members of our Galactic Federation, have learned to care for others in the same manner they care for themselves. In other words, they have learned to embrace love. All humans who can embrace love can accept ascension.

    ประชากรส่วนนี้ของโลกไม่มีความพร้อมสำหรับการยกระดับ, ซึ่งพวกเขาไม่สามารถวิวัฒน์ไปได้ไกลกว่าสัญชาตญาณพื้นฐานของการเอาตัวรอดของพวกเขาเอง. Draconians ที่ยกระดับ, ซึ่งกลายเป็นสมาชิกของสมาพันธ์แกแลกติกของพวกเรา, ได้เรียนรู้ในการเอาใจใส่ผู้อื่นในหนทางที่พวกเขาเอาใจใส่ตนเอง. พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะโอบกอดความรัก. มนุษย์ทุกคนที่สามารถโอบกอดความรักสามารถยอมรับการยกระดับได้.

    “Unfortunately, some humans have been so trapped in fear that they cannot recognize love, much less embrace it. When fear becomes the master, the source of power becomes external rather than internal. When the source of power is external, humans listen to those who wish to dominate. These humans cannot love themselves enough to allow their Higher Expressions of SELF to speak into their Heart/Mind.

    โชคไม่ดีที่, มนุษย์บางคนติดอยู่ในกับดักแห่งความกลัวซึ่งพวกเขาไม่สามารถรับรู้ความรัก, น้อยลงไปอีกที่โอบกอดมัน. เมื่อความกลัวเป็นใหญ่, แหล่งกำเนิดของอำนาจกลายเป็นภายนอกมากว่าภายใน. เมื่อแหล่งกำเนิดของอำนาจอยู่ในภายนอก, มนุษย์จะฟังเหล่าผู้ที่ปรารถนาจะมีอำนาจเหนือผู้อื่น. มนุษย์เหล่านี้ไม่สามารถรักตัวเองเพียงพอที่จะอนุญาตให้ตัวตนที่สูงกว่าของพวกเขาพูดกับหัวใจ/จิตใจของพวกเขา.

    “The ascended Dracs can work within the ranks of the remaining Power-Over Others group, as well as within their enslaved population. Since these Dracs have ascended, they can create any form that is necessary to infiltrate the remaining segments of Earth’s conquer-or-be-conquered societies. These conquerors and the conquered have been locked in mortal combat for millennia and have traded places in many incarnations.

    Dracs ที่ยกระดับสามารถทำงานภายในกลุ่มผู้ที่ยังคงมีอำนาจเหนือผู้อื่น, เช่นเดียวกับภายในกลุ่มประชากรที่เป็นทาส. เนื่องจาก Dracs เหล่านี้ได้ยกระดับแล้ว, พวกเขาสามารถสร้างรูปใดๆที่จำเป็นในการแทรกซึมเข้าสู่สังคมแห่งการพิชิตหรือถูกพิชิตของโลก. เหล่าผู้พิชิตและผู้ถูกพิชิตได้ถูกกักขังอยู่ในการต่อสู้แห่งความตายมาเป็นเวลานับพันปี และมีพื้นที่แลกเปลี่ยนมาหลายชาติ.

    “Once they have been the conqueror, they must take on a lifetime as the conquered to experience the return of their energy field. If the conquered are unable to find power within, they become fearful again. If they die in fear, they return to the loop of conquered or conqueror. In other words, they must find their Power-Within while they are incarnated in an earth body. This is where the ascended Dracs can be a powerful influence on Gaia’s humans who are trapped in the old story of survival.

    เมื่อพวกเขาเป็นผู้พิชิต, พวกเขาต้องใช้ชีวิตในฐานะของผู้ถูกพิชิตเพื่อมีประสบการณ์ ในการกลับสู่สนามพลังงานของพวกเขา. ถ้าหากผู้ถูกพิชิตไม่สามารถค้นพบพลังอำนาจในภายใน, พวกเขาจะเต็มไปด้วยความกลัวอีกครั้ง. ถ้าหากพวกเขาตายในความกลัว, พวกเขาจะกลับไปสู่วงจรของผู้พิชิตและถูกพิชิต. พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, พวกเขาต้องหาพลังอำนาจในภายในให้พบ ในขณะที่พวกเขาเกิดในร่างกายโลก. นี่คือที่ที่ Dracs ผู้ยกระดับสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อมนุษย์ของไกอา ผู้ที่ติดกับอยู่ในเรื่องเก่าของการเอาตัวรอด.


    “As you know, just as many of you are direct descendants of the Pleiadians, Sirians and/or Arcturians, many of the dark ones who remain in power are direct descendants of the Draconians. Many of Draconian descendants are ready to seek the light, but they do not know how. Who can better assist them than fellow Draconians who have found their Power-Within? Furthermore, who can better heal the victims of the Draconian Rule than the Dracs themselves?


    อย่างที่คุณรู้, พวกคุณจำนวนมากเป็นลูกหลานของ พลีอาเดี้ยน, ไซเรี่ยน และ/หรือ อาร์คทูเรี่ยน, ฝ่ายมืดจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในอำนาจเป็นลูกหลานโดยตรงของ Draconians. ลูกหลานของ Draconians จำนวนมากมีความพร้อมที่จะแสวงหาแสงสว่าง, แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร. ใครจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ดีไปกว่าครู Draconians ผู้ได้ค้นพบพลังอำนาจในภายในของพวกเขา? ยิ่งไปกว่านั้น, ใครจะสามารถเยียวยาเหยื่อของกฎเกณฑ์ Draconian ได้ดีไปกว่าพวก Dracs ด้วยกันเอง?

    “No one knows that these Dracs are different from the ones who have dominated them. Hence they think that since the victimizers can change, then they the victims, can change too. Also, if the ascended Dracs can convince their human counterparts controlling the media to tell the truth, the masses will have an opportunity for education. Many people have been indoctrinated to believe that the mainstream news is the truth and do not want to confront the fact that it is mostly propaganda.

    ไม่มีใครรู้ว่า Dracs เหล่านี้แตกต่างจาก Dracs ที่มีอำนาจเหนือพวกเขา. ดังนั้นพวกเขาคิดว่าเมื่อผู้ต้องหาสามารถเปลี่ยนแปลงได้, ดังนั้นพวกเขาผู้เป็นเหยื่อย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน. ถ้าหาก Dracs ผู้ยกระดับสามารถโน้มน้าวมนุษย์คู่หูของพวกเขาที่ควบคุมสื่อให้บอกความจริง, มหาชนจะได้รับโอกาสในการศึกษา. ประชาชนจำนวนมากได้รับการปลูกฝังให้เชื่อว่าสื่อกระแสหลักเป็นความจริง และไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับความจริงที่ส่วนใหญ่เป็นโฆษณาชวนเชื่อ.

    “There are many Dracs in human disguise, just as there are many Pleiadians, Sirians, and Arcturians wearing a human form. However, we wish all humans to be free to reveal their ancestry as a spark of their Multidimensional SELF with whom they have merged. The Draconians were once mighty beings before they descended into the third dimension and got the scent of conquest that devolved them to their animal nature.

    มีพวก Dracs จำนวนมากที่แปลงร่างเป็นมนุษย์, เช่นเดียวกับมี พลีอาเดี้ยน, ไซเรี่ยน และอาร์คทูเรี่ยน จำนวนมากที่สวมใส่รูปกายมนุษย์. อย่างไรก็ตาม, พวกเราปรารถนาให้มนุษย์ทั้งหลายเหล่านี้มีอิสระในการเปิดเผยชาติกำเนิดของพวกเขา ในฐานะประกายแสงสว่างของตัวตนหลากมิติของพวกเขากับผู้ที่พวกเขาอยู่ร่วมด้วย. ชาว Draconians เคยเป็นรูปธรรมที่มีอำนาจ ก่อนที่พวกเขาจะเสื่อมเข้าสู่มิติที่สาม และได้กลิ่นของชัยชนะที่ตกทอดมาสู่ธรรมชาติของความเป็นสัตว์ของพวกเขา.

    “Dear members of Gaia’s Earth, before we close our message, we ask that you FEEL our presence within your earth vessel. Feel our presence move deeply into your Heart/Mind. Can you notice how our information feels a bit different when it is centered within this hub of communication?

    สมาชิกของโลกไกอาที่รักทั้งหลาย, ก่อนที่พวกเราจะจบข้อความนี้, พวกเราขอให้คุณรู้สึกถึงพวกเราภายในร่างกายโลกของคุณ. รู้สึกถึงพวกเราเคลื่อนที่ลึกเข้าไปในหัวใจ/จิตใจของคุณ. คุณจะสามารถสังเกตได้ถึงความรู้สึกของข่าวสารของพวกเรามีความแตกต่างเล็กน้อย เมื่อมันมีศูนย์กลางอยู่ภายในจุดรวมของการสื่อสารนี้.

    “Sense how our connection with you is flowing up from your Heart/Mind and into your Brain/Mind to activate your Third Eye. Now, allow your Third Eye to perceive us within yourself as the unconditional love of pure Unity Consciousness. As the Dracs clear the way by assisting the victims and victimizers, we your Galactic Counterparts will be able to appear to you in this manner, which is more vivid than you have ever experienced.

    รู้สึกถึงการเชื่อมต่อของพวกเรากับคุณกำลังหลั่งไหลขึ้นจากหัวใจ/จิตใจของคุณ และเข้าสู่สมอง/จิตใจของคุณ เพื่อกระตุ้นตาที่สามของคุณ. ทีนี้ อนุญาตให้ตาที่สามของคุณรับรู้พวกเราภายในตัวตนของคุณ เช่นเดียวกันกับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของความตระหนักรู้ของความเป็นหนึ่งเดียวกันอันบริสุทธิ์. เมื่อพวก Dracs เปิดเส้นทางด้วยการช่วยเหลือเหยื่อและผู้ต้องหา, พวกเราคู่หูแกแลกติกของคุณจะสามารถปรากฏตัวต่อคุณในหนทางนี้, ซึ่งจะชัดเจนกว่าที่คุณเคยมีประสบการณ์มาก่อน.

    “Of course, we could have always communed with you in this manner, but it would have put our ascending ones into an energy pattern that would have made it too difficult to remain within your earth vessel. Your physical form is your deepest connection to Gaia, and thus, to the process of Planetary Ascension.

    แน่นอน, พวกเราสามารถอยู่ร่วมกับคุณในหนทางนี้เสมอ, แต่มันต้องให้ผู้ที่กำลังยกระดับของพวกเราเข้าสู่รูปแบบของพลังงานที่ทำให้มันยากเกินไปที่จะคงอยู่ในร่างกายโลกของคุณ. ร่างกายของคุณมีการเชื่อมต่อที่ลึกที่สุดกับไกอา, และกับกระบวนการยกระดับของดาวเคราะห์.

    “The calibration of the ascending ones with the body of Gaia is vital in order to create the entity of New Earth. Of course, all possible realities are already created within your fifth dimensional NOW. However you need to open a portal, a corridor, into that reality which already exists. This Corridor is best created with your consciousness, as your consciousness is the component of your earth vessel that can best transmute your reality as you move through your ascension process.

    การปรับค่าของผู้ที่กำลังยกระดับกับร่างกายของไกอาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของโลกใหม่. แน่นอน, ความเป็นจริงที่เป็นไปได้ทั้งหมดได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายในขณะนี้ของมิติที่ห้าของคุณ. อย่างไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องเปิดประตู, อุโมงค์ เข้าสู่ความเป็นจริงนั้นซึ่งมีอยู่แล้ว. อุโมงค์นี้ได้สร้างอย่างดีที่สุดกับความตระหนักรู้ของคุณ, ซึ่งความตระหนักรู้ของคุณเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกายโลกของคุณ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของคุณอย่างดีที่สุด เมื่อคุณเคลื่อนที่ผ่านกระบวนการของการยกระดับของคุณ.

    “What we mean by that comment is that only your Multidimensional Consciousness has the ability to create a higher frequency of reality as it simultaneously pulls your form into that higher reality. Furthermore, you will not be alone during your journey for you have the great mass of Gaia’s body and the Unity Consciousness of the other ascending humans.

    สิ่งที่พวกเราหมายถึงในย่อหน้านั้นก็คือ มีเพียงความตระหนักรู้หลากมิติของคุณที่สามารถสร้างความถี่ของความเป็นจริงระดับสูง ซึ่งมันจะดึงรูปของคุณเข้าสู่ความเป็นจริงระดับสูงนั้นไปพร้อมๆกัน. ยิ่งไปกว่านั้น, คุณจะไม่เดียวดายในหนทางของคุณ เนื่องจากคุณมีมวลมหาศาลของร่างกายของไกอาและความตระหนักรู้ของความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์ผู้ยกระดับคนอื่นๆ.

    “You, the Portal Openers, are creating passageways from your physical reality into our Arcturian Corridor. All of you are fully dedicated to your Mission of Personal and Planetary Ascension. Hence, you are able to release your physical form to “die” to your physical world and instantly be “reborn” on the already existing New Earth.

    คุณผู้เปิดประตู, กำลังสร้างทางเดินจากความเป็นจริงทางกายภาพของคุณเข้าสู่อุโมงค์อาร์คทูเรี่ยนของคุณ. พวกคุณทั้งหมดได้อุทิศตนอย่างเต็มที่ ต่อภารกิจของการยกระดับส่วนบุคคลและการยกระดับของโลก. ดังนั้น, คุณสามารถปลดปล่อยร่างกายเพื่อ “ตาย” ไปสู่โลกทางกายภาพของคุณ และเกิดใหม่ในทันทีทันใดบนโลกใหม่ที่มีอยู่แล้ว.


    “Those that shed their earth vessel in this manner will go ahead to prepare New Earth for further inhabitants. Some of you will move into the higher planes because your Mission has been completed. These members of our ascension team took forms to serve as “booster rockets” to open the first Portals. When they will have completed their Mission they will move into whichever reality fulfills their Heart/Mind.

    เหล่าผู้ที่ออกจากร่างกายของพวกเขาในหนทางนี้จะล่วงหน้าไปเตรียมโลกใหม่สำหรับคนที่มาอาศัยอยู่ต่อไป. พวกคุณบางคนจะเดินทางสู่อาณาจักรที่สูงกว่าเพราะว่าภารกิจของคุณสำเร็จลงแล้ว. สมาชิกเหล่านี้ของทีมยกระดับของพวกเราใช้รูปเพื่อรับใช้ในฐานะของ “จรวดขับดัน” เพื่อเปิดประตูแรก. เมื่อพวกเขาทำภารกิจสำเร็จ พวกเขาจะไปสู่ความเป็นจริงใดๆที่เติมเต็มหัวใจ/จิตใจของพวกเขา.

    “On the other hand, there are those of you who have come to deeply love your Mother Gaia. You have volunteered to stay with Her throughout the entire Planetary Ascension, as well as during the process in which New Earth is created. However, simultaneously to your creation of New Earth, New Earth has always existed. Just as you have forgotten and lost contact with your Multidimensional SELF, so has Gaia.

    ในอีกด้านหนึ่ง, ยังมีพวกคุณที่มีความรักอย่างลึกซึ้งต่อพระแม่โลกของคุณ. คุณอาสาที่จะอยู่กับเธอตลอดทั้งหมดของการยกระดับของดาวเคราะห์, เช่นเดียวกับในระหว่างกระบวนการที่สร้างโลกใหม่. อย่างไรก็ตาม, พร้อมๆกันไปกับการสร้างสรรค์โลกใหม่ของคุณ, โลกใหม่มีอยู่เสมอ. ซึ่งคุณได้ลืมมันและสูญเสียการติดต่อกับตัวตนหลากมิติของคุณ, เช่นเดียวกับไกอา.

    “In the same manner that your human form has myriad expressions of your Multidimensional SELF, Gaia has uncountable expressions of Her Planetary SELF. Hence, as you connect to your Higher Expressions of SELF, you assist Gaia to connect to Her higher Planetary Expression. Furthermore, as you assist Gaia, Gaia is assisting you. As you are re-connecting your individuated consciousness with your multidimensional of Galactics, Celestials, Ascended Masters and Elohim, Gaia is connecting Herself with Her myriad expressions of her Star, Solar System, Galaxy and Universe.

    ในหนทางเดียวกัน รูปกายมนุษย์ของคุณมีการแสดงออกนับไม่ถ้วนของตัวตนหลากมิติของคุณ, ไกอามีการแสดงออกนับไม่ถ้วนของตัวตนดาวเคราะห์ของเธอ. ดังนั้น, เมื่อคุณเชื่อมต่อกับตัวตนระดับสูงของคุณ, คุณช่วยเหลือไกอาให้เชื่อมต่อกับตัวตนดาวเคราะห์ระดับสูงของเธอ. ยิ่งไปกว่านั้น, เมื่อคุณช่วยเหลือไกอา, ไกอากำลังช่วยเหลือคุณ. เมื่อคุณเชื่อมต่อความตระหนักรู้ส่วนบุคคลของคุณกับตัวตนแกแลกติกหลากมิติของคุณ, ตัวตนแห่งดวงดาว, คุรุผู้ยกระดับและอีโลฮิม, ไกอาก็เชื่อมต่อตัวเธอกับการแสดงออกนับไม่ถ้วนของดาวของเธอ, ระบบสุริยะจักรวาลของเธอ, แกแลกซี่ของเธอ และจักรวาลของเธอ.

    “You are not creating these higher personal and planetary expressions, as they infinitely exist within the NOW of the ONE. You are re-connecting your consciousness within the great vastness of your pure multidimensional nature. As you know, every birth must be preceded by a death, such as the death of the amniotic sac, which preceded your first breath outside of the womb.

    คุณกำลังสร้างการแสดงออกของตัวตนระดับสูงและดาวเคราะห์ระดับสูงเหล่านี้, ซึ่งพวกเขามีอยู่นับไม่ถ้วนภายในขณะนี้ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน. คุณกำลังเชื่อมต่อความตระหนักรู้ของคุณภายในกว้างใหญ่ไพศาลของธรรมชาติหลากมิติที่บริสุทธิ์ของคุณ. อย่างที่คุณรู้, ทุกๆการเกิดจะต้องมีการตายก่อน, เช่นเดียวกับการตาย(แตก)ของถุงน้ำคร่ำ, ซึ่งเกิดก่อนการหายใจนอกมดลูกครั้งแรกของคุณ.

    “The death that you must accept is the loss of whatever unfulfilled needs you believe you must fulfill before you can focus on your ascension. Your personal unfulfilled needs are extremely minute in comparison to the Universal Shift into higher expressions of Being. Also, these unfulfilled needs distract you from your Mission of being your Multidimensional SELF and tie you to a reality that is ending. Hence, you are denying yourself entrance into a reality that is beginning.

    ความตายที่คุณต้องยอมรับก็คือ การสูญเสียสิ่งใดก็ตามที่ไม่เติมเต็มความต้องการที่คุณเชื่อว่าคุณต้องเติมเต็ม ก่อนที่คุณจะสามารถสนใจอยู่กับการยกระดับของคุณ. การไม่ได้เติมเต็มความต้องการส่วนบุคคลของคุณ เป็นสิ่งที่เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการยกระดับของจักรวาลเข้าสู่ตัวตนระดับสูง. เช่นกัน, การขาดการเติมเต็มความต้องการเหล่านี้ทำให้คุณเขวออกจากภารกิจของตัวตนหลากมิติของคุณ และผูกมัดคุณกับความเป็นจริงที่กำลังจะจบ. ดังนั้น, คุณกำลังปฏิเสธตัวคุณเองในการเข้าสู่ความเป็นจริงที่กำลังจะเริ่มต้น.

    “Of course, you can create these needs when you move into the higher realms. However, your choice to attend to your wounded ego rather than to transmuting your planet will lower your resonance to a frequency that cannot perceive the portals into New Earth. In order to release these old “needs,” you will have to realize that YOU are VERY important! As we have just stated, there are many who are still unable to participate in Planetary Ascension in any manner.

    แน่นอน, คุณสามารถสร้างความต้องการเหล่านี้เมื่อคุณเข้าสู่อาณาจักรระดับสูง. อย่างไรก็ตาม, ทางเลือกของคุณที่จะดูแลการบาดเจ็บของตัวตนของคุณมากกว่าการเปลี่ยนแปลงดาวเคราะห์ของคุณ จะลดการสะท้อนของความถี่ทำให้ไม่สามารถรับรู้ถึงประตูเข้าสู่โลกใหม่. เพื่อที่จะปลดปล่อยความต้องการเก่าๆเหล่านี้ คุณต้องตระหนักว่าคุณมีความสำคัญมาก! อย่างที่พวกเราได้ระบุไว้, มีผู้คนจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับของดาวเคราะห์ในหนทางใดหนทางหนึ่ง.

    “Worse yet, there are still those humans on your planet who are working against Planetary Ascension. These lost ones have become lost in their small minds and smaller hearts. Hence, they can only think that the desire to control a reality that is of a very low resonance is more important than returning to a reality based on unconditional love. These lost ones are totally unaware that in order to hold on to their sense of control and power over others; they are denying their ability to experience unconditional love, bliss and joy.

    ที่แย่ที่สุดก็คือ, ยังมีเหล่ามนุษย์บนดาวของคุณที่กำลังทำงานเพื่อต่อต้านการยกระดับของดาวเคราะห์. เหล่าผู้พ่ายแพ้จะหลงทางอยู่ในจิตใจที่คับแคบและหัวใจที่คับแคบกว่าอีก. ดังนั้น, พวกเขาสามารถคิดได้แค่เพียงความปรารถนาที่จะควบคุมความเป็นจริง ซึ่งเป็นการสะท้อนระดับต่ำมาก ว่ามีความสำคัญกว่าการกลับคืนไปสู่ความเป็นจริงที่มีพื้นฐานอยู่บนความรักที่ไม่มีเงื่อนไข. ผู้พ่ายแพ้เหล่านี้ไม่รู้จริงๆว่า เพื่อที่จะรักษาความรู้สึกของการมีอำนาจเหนือผู้อื่น, พวกเขากำลังปฏิเสธศักยภาพของพวกเขาที่จะมีประสบการณ์ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข, ความสุขและความเบิกบาน.

    “In the same manner, those who limit their powerful Heart/Mind to the desires for third dimensional possession, fame and wealth are restricting their reality to a mere spec of the very SELF who can instantly fulfill their every need within a flash of the NOW. The multidimensional power of your higher expressions of SELF can easily replicate that which you have bound to your consciousness with your unconditional love.

    ในทางเดียวกัน, เหล่าผู้ที่จำกัดหัวใจ/จิตใจที่ทรงพลังของพวกเขา ต่อความปรารถนาในการครอบครอง, ชื่อเสียง และความมั่งคั่งของมิติที่สาม กำลังจำกัดความเป็นจริงของพวกเขาเพียงแค่ตัวตนของเขา ซึ่งสามารถเติมเต็มทุกๆความต้องการของเขาได้อย่างทันทีภายในชั่วกระพริบของขณะนี้. พลังอำนาจหลากมิติของตัวตนระดับสูงของคุณสามารถทำซ้ำอย่างง่ายดาย ในสิ่งที่ผูกพันกับความตระหนักรู้ของคุณด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของคุณ.

    “However, all that resonates to a frequency below that of unconditional love is best released so that you can set free your attachments to your physical reality. Once you are free of the illusions of the third/fourth dimensional world, you can attach your consciousness to the ongoing process of Planetary Ascension. In other words, we ask that the needs of your personal self take the back seat to the needs of your Planetary SELF.

    อย่างไรก็ตาม, ทั้งหมดที่สะท้อนกับความถี่ที่ต่ำกว่าความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจะได้รับการปลดปล่อยอย่างดีที่สุด เพื่อให้คุณสามารถเป็นอิสระจากความยึดมั่นถือมั่นของคุณที่มีต่อความเป็นจริงทางกายภาพของคุณ. เมื่อคุณเป็นอิสระจากมายาการของโลกมิติที่สาม/สี่, คุณจะสามารถแนบความตระหนักรู้ของคุณไปกับกระบวนการของการยกระดับของดาวเคราะห์. พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, พวกเราขอให้ความต้องการส่วนบุคคลของคุณอยู่ในแถวหลังจากความต้องการของตัวตนดาวเคราะห์ของคุณ.

    “Your Planetary SELF lives in Unity Consciousness with all those who have chosen this commitment and who are focusing their attention on the unconditional love and joy of creating New Earth. We, the members of the Galactic Federation salute you for your great courage and sacrifice. We are infinitely with you whether you are in the most mundane physical task or visiting us here on the Mothership.”

    ตัวตนดาวเคราะห์ของคุณมีชีวิตอยู่ในความตระหนักรู้ของความเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกคนที่เลือกพันธกรณีนี้ และผู้ที่มุ่งความสนใจอยู่บนความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และมีความสุขกับการสร้างโลกใหม่. พวกเรา สมาชิกของสมาพันธ์แกแลกติกขอยกย่องคุณสำหรับความกล้าหาญและความเสียสละอย่างมาก. พวกเราอยู่กับคุณอย่างไม่จำกัด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในงานทางกายภาพของมนุษย์มากที่สุด หรือกำลังมาเยือนพวกเราที่นี่บนยานแม่.

    Blessings to each and every ONE of you,

    ขออวยพรแด่คุณและคุณทุกคน,

    The Arcturians and the members of the Galactic Federation

    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
    (ตอนต่อไปข้อความที่ 6431 หน้าที่ 322)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2012
  2. RiceOnLand

    RiceOnLand เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +156
    ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาท่าน hilarion บอกไว้ประมาณว่า หลายคนอาจจะต้องเจอกับวัฏจักรของความคิดและความรู้สึกที่เราเคยคิดว่าสามารถเอาชนะมันมาได้แล้ว สิ่งที่เราควรทำคือ จดจำมันไว้และทันใดนั้นให้เปลี่ยนไปคิดถึงสิ่งที่ทำให้เรามีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้แทน โดยความสุขจากภายในจะช่วยทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาดได้ และช่วยให้เราเอาชนะวัฏจักรนี้ได้ในที่สุด

    นอกจากนี้อาจจะมีความรู้สึกเหมือนตัดขาดจากสิ่งต่างๆรอบตัวด้วย จนเหมือนว่าชีวิตที่ผ่านมามันว่างเปล่า แต่ว่าสิ่งเหล่านี้จะผ่านไป ให้ยึดมั่นวิชั่นของเราสำหรับโลกที่ดีขึ้นและชีวิตที่ดีขึ้น ให้พูดเจตจำนงของเราสามครั้งต่อวันจะช่วยผนึกความตั้งใจของเรา และให้มีศรัทธาว่ามันจะต้องเกิดขึ้น อนุญาตให้ตัวเรามีความนิ่งและสงบสุขจากภายใน และโฟกัสไปที่การเต้นของแสงสว่างในหัวใจ

    ประมาณนี้น่ะค่ะ แปลไม่ค่อยเก่ง ผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ ส่วนตัวก็เจอวัฏจักรนี้มาเหมือนกันค่ะ ก็เหนื่อยน่าดูเหมือนกันค่ะคุณชยุต

    ขอบคุณ คุณ Mr empty มากๆเลยค่ะ ขยันแปลมากๆ ส่วนคุณ PARINDA MAI เห็นด้วยว่าอยากรบกวนเล่าให้เล่าประสบการณ์ให้ฟังเพิ่มเติมหน่อยค่ะ
     
  3. PARINDA MAI

    PARINDA MAI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +153
    ตอบคุณ Mr empty และคุณ RiceOnLand

    ผู้ชายและผู้หญิงที่มาต้อนรับดิฉันนั้น มีรูปกายเป็นมนุษย์ค่ะ
    ความสูงเป็นความสูงมนุษย์ปกติ
    เสื้อผ้าที่พวกเค้าสวมเป็นชุดเหมือนกับเวลาพวกเราดูหนังเกี่ยวกับอวกาศอะไรทำนองนั้น
    เค้าไม่ได้บอกชื่อกับดิฉันหรอกค่ะ แต่ดิฉันคิดเอาเองว่าพวกเค้าคือ Mytre และ Kepier อิอิ..
    มองเห็นพวกเค้าอย่างชัดเจน ตอนนั้นเป็นตอนที่พวกเค้าพาขึ้นลิทฟ์คะ
    ดิฉันยืนตรงกลาง Mytre ยืนขวา Kepier ยืนซ้าย
    แต่ก็แป๊ปเดียว เพราะอย่างที่ดิฉันเล่าให้ฟัง
    ดิฉันไม่ได้เป็นคนที่มีความฝันที่ชัดเจนสักเท่าไหร่
    ไม่ค่อยได้ฝึกฝันอย่างจริงจัง ยังไม่ค่อยจะสามารถรู้สึกตัวในความฝันได้ กำลังพยายามฝึกค่ะ

    ส่วนลักษณะของยานนั้น ดิฉันเห็นแต่ภายใน
    ตอนนั้นดิฉันเดินเข้าไปคนเดียว เป็นห้องโถงสูงใหญ่มากๆ หลังคาเป็นทรงโค้งกลม
    มองไม่เห็นลายละเอียดมากนักเพราะมืด จะมีแสงสลัวแต่ตรงที่ดิฉันเดินอยู่
    ตอนกำลังอยู่ในฝันไม่รู้หรอกค่ะว่าเป็นยาน มาคิดได้ตอนตื่นแล้ว

    ในตอนที่ฝันนั้นไม่ได้ฝันต่อเนื่องเป็นเรื่องราว
    แต่เป็นฉากๆ ตัดไปเรื่อยๆ บางฉากก็รางๆจับใจความไม่ค่อยได้ ที่ชัดเจนก็จะเป็น

    ตอนเดินเข้าไปคนเดียวในห้องโถงใหญ่
    ตอนขึ้นลิทฟ์กับ MytreและKepier
    ตอนฝึกโทรจิต ฝึกคิดและฝึกจินตนาการ
    นอกนั้นจับใจความไม่ได้เลยค่ะ

    แล้วมีอีกฝันหนึ่งซึ่งจะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือปล่าว
    เป็นความฝันที่เกิดขึ้นสักหลายอาทิตย์แล้วค่ะ
    ฝันว่าได้รับการสอนวิธี ผละออกจากร่าง
    มีสิ่งมาสอน ซึ่งตอนนั้นไม่เห็นตัวผู้สอน ไม่ได้ยินเสียงน่าจะบอกมาเป็นโทรจิต
    เพราะได้ยินเป็นความรู้สึก เค้าบอกให้หลุดไปเลย ผละออกไปเลย อย่าห่วงข้างหลัง
    ภาพในฝันเห็นมีคนอีกหลายคนร่วมฝึกด้วย
    พอตื่นขึ้นมาก็พอเข้าใจค่ะ เพราะอ่านหนังสือของดร.ไวน์
    มีพูดถึงเรื่องการแยกวิญญาณออกจากร่างบ่อยๆ

    แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันพอจะสรุปได้
    ในความฝันของแต่ละคน ถึงแม้พวกเราจะฝันถึงเรื่องเดียวกัน
    แต่พวกเราแต่ละคนก็ได้เห็นเป็นภาพที่แตกต่างกัน
    จะไม่เห็นเป็นภาพเดียวกัน เพราะพวกเราต่างมีจินตภาพคนละอย่างกัน
    เพราะฉะนั้น ยานที่ดิฉันเห็น หรือ MytreและKepier ที่ดิฉันเห็น
    น่าจะแตกต่างจากที่คนอื่นเห็นหรือปล่าวคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2012
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โมทนาด้วยครับ คุณ parinda mai กล่าวถูกต้องทีเดียวครับ เกี่ยวกับความฝัน
    และก็ที่ฝันเกี่ยวกับ การฝึกผละออกจากร่างนั้นหนะ ผมว่าผมก็อาจจะได้เคยไปฝึกด้วยนะ
    เพราะคลับคล้ายคลับคลาว่า เคยฝันแบบนี้อยู่เหมือนกันครับ


    ..........................................
     
  5. PARINDA MAI

    PARINDA MAI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +153
    อยากแชร์บทความที่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเราสนใจกัน
    เป็นบทความในหนังสือของ ดร.ไบรอันแอลไวส์ค่ะ


    ....................................................................................


    ….ผมพบหน้าผาแห่งหนึ่งที่มหาสมุทรบรรจบกับท้องฟ้า
    และผมสร้างบ้านขึ้นที่นั่นหลังหนึ่งด้วยไม้และหิน
    ผมมีอิสระที่จะดื่มด่ำกับความงามรอบตัวผม
    ชื่นชมกับอากาศที่มีกลิ่นหอม
    ผมได้รับการยกย่องว่าทรงภูมิปัญญา
    และผู้คนในเผ่าพันธุ์ของผมเองและมนุษย์ทั้งหลาย
    พากันมาหาผมเพื่อขอคำแนะนำ
    ซึ่งผมมีความสุขที่ได้แนะนำพวกเขา
    ในท้ายที่สุดผมก็ตาย

    แต่เมื่อนานมาแล้วผู้คนของผมได้เรียนรู้ที่จะแยกวิญญาณของพวกเขา
    ออกจากร่างกายในชั่วขณะที่เหมาะสม
    ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเคลื่อนไปสู่จิตสำนึกระดับที่
    สูงส่งกว่าได้อย่างง่ายดาย ผมทำเช่นนี้
    ซึ่งร่างกายของพวกเขายังคงอยู่ในบ้านใหม่ของพวกเขา
    ดาวเคราะห์โลก....


    ความแตกต่างระหว่างพระเจ้าและมนุษย์เป็นสิ่งเล็กน้อย

    ความรู้อย่างหนึ่งที่ยังคงซ่อนเร้นอยู่ในที่ที่ผมเก็บมันไว้คือ
    วิธีเป็นนายเหนือศิลปะของการแยกจิตสำนึกออกจากพาหนะทางกายภาพ
    วันหนึ่งในอีกไม่นานนัก วัฒนธรรมของหมอก็จะได้
    เรียนรู้วิธีทำมันด้วยเหมือนกัน
    เมื่อมันเกิดขึ้นหมอจะพบว่าความตระหนักรู้ที่แยกจากกัน
    สามารถสวมร่างคนอื่นที่ “ทึบแน่น” น้อยกว่าได้ตามที่ต้องการ
    จากความได้เปรียบนี้มันจึงสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่งอื่นๆ
    ในรูปแบบทางกายภาพ และมันจะดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ทวยเทพ หรือคล้ายพระเจ้าสำหรับสิ่งที่ได้รับอิทธิพลนี้
    แต่มันเป็นรูปแบบที่ก้าวหน้าอย่างแท้จริงของจิตสำนึก
    เดียวกันที่ผู้รับเป็นเจ้าของ


    โลกของผมโบราณ โลกของหมออ่อนเยาว์
    แต่ไม่มีความแตกต่างอะไรกันเลยในขอบเขตของกาลเวลา
    เวลาเหมือนกับการหายใจออกและการหายใจเข้าโดยพระเจ้าแห่งจักรวาล
    การหายใจออกคือการสร้างดวงดาว ดาวเคราะห์ กาแล็กซีและจักรวาล
    การหายใจเข้านำพวกมันกลับเข้าสู่ฝุ่นที่จุดเล็กและเข้มข้นอย่าง
    ไม่น่าเชื่อในปอดของพระเจ้า ช่วงเวลาแห่งการหายใจเข้าออก
    กำลังเกิดขึ้นในวัฏจักรอันไร้ที่สิ้นสุด
    ซึ่งบอกใบ้ถึงธรรมชาติแห่งความเป็นนิรันดร.....

    :หมอที่ผู้พูด พูดถึงคือ ดร.ไบรอัน แอล.ไวสส์

    Same Soul,Many Bodies…
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่าน Hilarion
    ประจำสัปดาห์ที่ 25/11/12 – 2/12/12


    ที่มา:
    HILARION 2012 - The Rainbow Scribe


    มันถึงเวลาแห่งการทำตัวให้สอดคล้องกับความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวพวกคุณเองแล้ว
    มันถึงเวลาที่จะต้องทุ่มเทให้กับการพินิจพิเคราะห์และจดจ่อใคร่ครวญ
    ถึงสิ่งที่พวกคุณจะนำออกมาสู่โลกแล้ว ซึ่งนั่นก็คือของขวัญ/พรสวรรค์ของพวกคุณเอง,
    แสงสว่างของพวกคุณเอง

    พวกคุณจะต้องส่องแสงสว่างออกไปให้สว่างเจิดจ้ามากขึ้นกว่าเดิม
    โดยไม่ปิดบังซ่อนเร้นมันเอาไว้อีกต่อไปแล้ว

    ในหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ไป มันจะเป็นการเหมาะสมมากที่สุด
    ที่พวกคุณจะได้ทุ่มเทเวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    ให้กับการวิปัสนาดูจิตใจและความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง
    เพราะว่ามันยังมีสิ่งที่จะต้องชำระสะสางเหลืออยู่อีกหลายระดับชั้น

    แต่อย่างไรก็ตาม มันก็จะไม่ใช่การชำระสะสางที่เข้มข้นรุนแรงมากสักเท่าไหร่นัก
    สำหรับผู้ที่ได้พากเพียรพยายามปฏิบัติจิตเพื่อปรับปรุงแก้ไขตัวเองมาโดยตลอด
    และอย่างถูกวิธีอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ โดยการเผชิญหน้ากับธรรมชาติแห่งความเป็นขั้วของตัวเอง
    โดยการยอมรับคุณสมบัติต่างๆเหล่านั้นที่อยู่ภายในตัวเอง
    และโดยการปลดปล่อยสิ่งที่จะมาสร้างข้อจำกัดให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตัวเองทิ้งไป

    จงพยายามปรับจูนตัวเอง ให้เข้ากับระดับความสั่นสะเทือนใหม่
    ที่ตอนนี้มันมีพร้อมอยู่แล้ว ที่จะให้พวกคุณได้วินิจฉัยและดูดซึมเข้าไป
    สู่ความตระหนักรู้ของพวกคุณเอง ซึ่งการที่จะทำเช่นนี้ได้
    พวกคุณจำเป็นจะต้องมีความตระหนักรู้อยู่ในทุกๆขณะ
    และพวกคุณจะต้องเพียรสังเกตดูปรากฎการณ์ synchronicity
    (ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ – ผู้แปล) ที่จะเกิดขึ้นรอบๆตัวพวกคุณด้วย

    ทุกๆชั่วขณะคือขุมทรัพย์อันมีค่า คือห่อของขวัญที่กำลังรอคอยการเปิด,
    รอคอยการสำรวจ และรอคอยที่จะมอบความสุขให้

    จงเรียนรู้ที่จะทำตามสัญชาตญาณการหยั่งรู้ของตัวเอง
    เพราะว่านั่นคือสัญญาณที่ถูกส่งมาจากตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเอง
    ซึ่งเป็นผู้ที่ปราถนาจะช่วยนำทางให้กับพวกคุณ เพื่อให้พวกคุณก้าวเดินต่อไป
    ไปสู่ตำแหน่งที่พวกเราเข้ามาใกล้จุดเปลี่ยนยุคมากขึ้นเรื่อยๆ
    ซึ่งจุดเปลี่ยนยุคนี้คือโอกาสอันดีเยี่ยม สำหรับการกลับไปเชื่อมต่อกับ
    อัตภาพที่สูงส่งกว่าทั้งหลายของพวกคุณเอง (higher aspects of yourselves)
    อีกครั้งหนึ่ง และเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะทำให้พลังงานแห่งความรัก
    ที่อยู่ภายในตัวพวกคุณ โผล่พ้นออกมาสู่ระดับพื้นผิว
    และเบ่งบานงอกงามเข้าไปสู่สัจธรรมแห่งความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง

    จงยืนหยัดอยู่ในความตระหนักรู้นี้ ให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้
    จนกว่าจะแน่ใจว่า มันจะไม่ถูกพลัดพลากจากพวกคุณไปได้อีกแล้ว


    ดาวเคราะห์โลก และทุกๆอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมถึงทุกสรรพชีวิตที่อยู่บนโลกด้วย
    ล้วนกำลังถูกทำให้มีความพร้อม เพื่อที่จะสำเร็จการศึกษา เพื่อเลื่อนระดับชั้นขึ้นไป
    ไปสู่ระดับจิตสำนึกที่สูงกว่าอยู่ และเพื่อไปสู่ระดับชั้นของการเรียนรู้
    และความก้าวหน้าที่สูงขึ้นกว่าเดิมอยู่ และในเร็วๆนี้การเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ก็จะเกิดขึ้น

    ซึ่งแต่ละจิตวิญญาณจะรับรู้ถึงมันได้จากภายใน ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
    ซึ่งความตระหนักรู้ที่พวกคุณจะมีนั้น จะมากมายเกินกว่าที่พวกคุณจะเคยคิดฝันถึงซะอีก

    มันจะมาพร้อมกับทุกๆลมหายใจเข้าของพวกคุณ
    และความปิติสุขก็จะหลั่งไหลออกมาจากภายในของพวกคุณเอง
    และเมื่อใดที่ความรู้สึกปิติสุขนี้ เพิ่มระดับความเข้มข้นสูงขึ้นแล้ว
    มันก็จะเริ่มไปทำให้ความลับแห่งความเป็นตัวตนที่แท้จริง
    ซึ่งเป็นธรรมชาติของพวกคุณเอง ถูกเปิดเผยออกมา

    เพราะว่าพวกคุณแต่ละคน ล้วนมีความพิเศษเฉพาะเป็นของตัวเอง
    และดังนั้นของขวัญ/พรสวรรค์ที่พวกคุณนำพามาด้วยนั้น
    ก็จะถูกแสดงออกมาได้มากขึ้นด้วย

    ของขวัญ/พรสวรรค์เหล่านี้ของพวกคุณ จะไปดึงดูดผู้คนที่มีความสอดคล้องกัน
    หรือมีของขวัญ/พรสวรรค์เหมือนๆกันให้เข้ามาหาพวกคุณ


    และมันก็จะมีผู้แสวงหาสัจธรรมจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย ซึ่งมากกว่าในยุคไหนๆ
    เท่าที่โลกเคยมีมา มันจะมีผู้แสวงหาความรู้จำนวนมากมาย
    มันจะมีผู้ต้องการที่จะช่วยบรรเทาทุกข์ให้ผู้อื่นจำนวนมากมาย
    มันจะมีผู้บำบัดรักษาจำนวนมากมาย และมันก็จะมีผู้แสวงหาที่กระหายใคร่รู้
    เกี่ยวกับธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเองและของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่นี้มากขึ้นไปอีกด้วย

    พวกคุณได้เตรียมเส้นทางเอาไว้ให้กับเหล่าจิตวิญญาณผู้เป็นที่รักทั้งหลายเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว
    และพวกเขาก็จะค้นพบของขวัญต่างๆที่พวกคุณได้นำเสนอเอาไว้ด้วย
    และมันก็จะช่วยให้พวกเขาค้นพบสิ่งที่พวกเขาค้นหาอีกด้วย

    ความรู้สึกแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะกลายเป็นความรู้สึก
    ที่แผ่กระจายออกไปทั่วโลก ท่ามกลางมวลหมู่มนุษยชาติทั้งผอง
    และมวลหมู่มนุษยชาติทั้งผอง ก็จะรู้ว่าพวกเขาคือ “ผู้อันเป็นที่รัก”

    เพราะว่าในตอนนี้ “จิตสำนึกใหม่” กำลังฉายออกมาสู่โลกของพวกคุณ
    ด้วยระดับความเข้มข้นที่มากขึ้นกว่าเดิมอยู่ ซึ่งพลังงานแห่งความรัก
    และแรงที่ทรงพลังอำนาจนี้แหละ
    ที่จะนำพาความเป็นระเบียบเรียบร้อยอันศักดิ์สิทธิ์มากับมันด้วย

    ความมีมิตรไมตรีต่อกันจะถูกทำให้หวนกลับมาใหม่ ในทุกๆด้าน
    ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่บนโลกของพวกคุณ
    และสักวันหนึ่งดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ ก็จะมีแต่ความสงบสุข
    เพราะว่ามันไม่อาจเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกเหนือจากผลลัพธ์อันสูงสุดอันนี้

    และนี่แหละคือสิ่งที่จะเป็นไปอย่างหนึ่ง ที่สอดคล้องกับพระประสงค์ของ
    “ต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง”


    Until next week….

    I AM Hilarion

    ....................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2012
  7. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    ขอบคุณนะครับที่ช่วยแปลและเอามาลง
     
  8. animal will do

    animal will do เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +229
    ขอขอบพระคุณ Mr Empty เหล่านักแปล และทุกคนที่ช่วยกันมาอัพเดตข่าวสารมากๆ นะคะ
    ขอขอบพระคุณจากใจที่ช่วยกระจายแสงสว่างมาให้กัน หากไม่ได้พวกคุณ การเลื่อนระดับของคนหลายคนคงเป็นไปอย่างยากยิ่ง

    ;41

    ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้หนักหนาสาหัสมากๆ อาจจะมากที่สุดเท่าที่เคยเผชิญมา
    อย่างที่คุณ RiceOnLand และข้อความของท่าน Hilarion บอก
    บางบทเรียนที่เราคิดว่าผ่านมันมาได้แล้วหรือพยามหลบเลี่ยง มันจะกลับมาจัดหนักให้เรา
    หากใครที่ตกอยู่ในช่วง hard time เหล่านี้ จากประสบการณ์ของตัวเอง
    อยากจะขอแบ่งปันคำแนะนำให้กับบางท่านที่พบว่าเป็นการยากที่จะผ่านพ้นไปได้
    ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ ข้อความจากต่างมิติได้เคยกล่าวถึงใว้แล้ว อยากจะขอพูดถึงอีกครั้ง
    เพราะบางทีเมื่อตกอยู่ในช่วงเวลาเหล่านี้เราอาจจะลืมเลือนกันไป

    เมื่อท่านเผชิญกับความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง อับจนหนทาง
    หรือความรู้สึกแย่ใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเผชิญกับบทเรียนที่ต้องสะสาง ขอให้ท่าน
    - ตั้งมั่นอยู่ในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ให้ได้
    - รักตัวเองให้มากๆ(เพราะหากท่านไม่รักตัวเอง ท่านจะไม่สามารถนำพาเอาสิ่งดีงามหรือความช่วยเหลือใดๆ มาสู่ท่านได้)
    - ระลึกถึงเหล่าทวยเทพที่ท่านนำทางให้เราอยู่
    - ร้องขอความช่วยเหลือจากท่าน
    - ฟังเสียงจากหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ (พยายามศรัทธาให้มั่น เพราะเมื่อเราตกอยู่ในช่วงเวลาเหล่านี้ Ego ของเราจะตะโกนแข่งออกมาดังมากๆ ก็พยายามอย่าสนใจหรือจดจ่อไปที่มัน) แล้วคำแนะนำที่ดีที่สุดจะปรากฎขึ้น

    และเมื่อเราผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เราจะรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าของเรา
    ความสุขที่ลึกซึ้งและมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงความกล้าหาญและแรงจูงใจที่เพิ่มขึ้น

    เชื่อว่าหลายๆ ท่านในนี้คงเคยผ่านพ้นมันมาได้แล้ว อาจมีวิธีที่แตกต่างกว่านี้หรือคล้ายกัน
    อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะเป็นการช่วยเหลือให้อีกหลายๆ คนที่กำลังแสวงหาหนทางอยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ

    ปล. จากบทเรียนที่เราเผชิญ ความรักและศรัทธามีส่วนช่วยอย่างมากให้ผ่านพ้นไปได้
    ดังนั้นหากท่านอยากจะขอความช่วยเหลือจาก Archangel องค์ไหนเป็นพิเศษ
    เราขอแนะนำ Archangel Chamuel เทพแห่งความรักค่ะ >>Prayer to Archangel Chamuel
    ในส่วนนี้ขอขอบพระคุณคุณ Mead มากๆ ค่ะที่นำเรื่องมหาเทพองค์นี้มาเล่าสู่กันฟัง ^^

    ขอให้ทุกท่านระลึกได้ถึงความรักและแสงสว่างที่สถิตอยู่กับตัวท่าน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

    :z9:z11:z10
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2012
  9. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    ขอแบ่งประสบการณ์ด้วยครับ

    เมื่ออาทิตย์ที่แล้วรู้สึกมึนหัวมาก ก้มหัวเป็นต้องวูบทุกที ขนาดกราบพระยังไม่
    ได้ ต้องใช้วิธีไหว้เอา แต่ช่วงมึนนี่มีเหตุการณ์แปลก ๆ เกินขึ้นเหมือนกัน ก็อาศัยขอสิ่งศักสิทธิ์และผู้ช่วยให้ช่วยครับ มาอาทิตย์นี้หายเป็นปลิดทิ้ง
    รู้สึกสบายกายและใจอย่างสุด ๆ รู้สึกว่าเราผ่านพ้นไปด้วยดี

     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    “On the other hand, there are those of you who have come to deeply love your Mother Gaia. You have volunteered to stay with Her throughout the entire Planetary Ascension, as well as during the process in which New Earth is created. However, simultaneously to your creation of New Earth, New Earth has always existed. Just as you have forgotten and lost contact with your Multidimensional SELF, so has Gaia.

    ในอีกด้านหนึ่ง, ยังมีพวกคุณที่มีความรักอย่างลึกซึ้งต่อพระแม่โลกของคุณ. คุณอาสาที่จะอยู่กับเธอตลอดทั้งหมดของการยกระดับของดาวเคราะห์, เช่นเดียวกับในระหว่างกระบวนการที่สร้างโลกใหม่. อย่างไรก็ตาม, พร้อมๆกันไปกับการสร้างสรรค์โลกใหม่ของคุณ, โลกใหม่มีอยู่เสมอ. ซึ่งคุณได้ลืมมันและสูญเสียการติดต่อกับตัวตนหลากมิติของคุณ, เช่นเดียวกับไกอา.


    ผมคิดว่าผมเป็นพวกนี้นะ..เพราะว่ามันมีความรู้สึกรักโลกนี้มาก
    และเมื่ออ่านถึงตรงนี้แล้ว..น้ำตาแทบร่วงเลยหละครับ

    ......

    “The death that you must accept is the loss of whatever unfulfilled needs you believe you must fulfill before you can focus on your ascension. Your personal unfulfilled needs are extremely minute in comparison to the Universal Shift into higher expressions of Being. Also, these unfulfilled needs distract you from your Mission of being your Multidimensional SELF and tie you to a reality that is ending. Hence, you are denying yourself entrance into a reality that is beginning.

    ความตายที่คุณต้องยอมรับก็คือ การสูญเสียสิ่งใดก็ตาม ที่ไม่เติมเต็มความต้องการที่คุณเชื่อว่าคุณต้องเติมเต็ม ก่อนที่คุณจะสามารถสนใจอยู่กับการยกระดับของคุณ. การไม่ได้เติมเต็มความต้องการส่วนบุคคลของคุณ เป็นสิ่งที่เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการยกระดับของจักรวาลเข้าสู่ตัวตนระดับสูง. เช่นกัน, การขาดการเติมเต็มความต้องการเหล่านี้ทำให้คุณเขวออกจากภารกิจของตัวตนหลากมิติของคุณ และผูกมัดคุณกับความเป็นจริงที่กำลังจะจบ. ดังนั้น, คุณกำลังปฏิเสธตัวคุณเองในการเข้าสู่ความเป็นจริงที่กำลังจะเริ่มต้น.

    อ่านมาถึงตรงนี้ก็สะดุ้งอีกเหมือนกันครับ
    เพราะว่า ตัวเอง กำลังอาลัยอาวรณ์อยู่กับ
    อะไรบางอย่าง ที "ไม่ใช่" เอาซะเลย ด้วยประการทั้งปวง
    ซึ่งทั้งๆที่รู้ก็รู้อยู่เต็มอก ว่ามีแต่จะทำให้เราล่าช้ามากขึ้น
    และเหนี่ยวรั้งเราไว้ในโลกแบบเก่าๆ
    และกับพฤติกรรมลบๆแบบเก่าๆ-เดิมๆ เท่านั้นเอง
    แต่ใจก็มิวายจะอาลัยอาวรณ์ และอยากจะฉุดรั้งเอาไว้เหลือเกิน

    อันที่จริงแล้ว ผมฝันว่า "ผมจะตาย" มาหลายคืนแล้วหละครับ
    ฝันมาหลายครั้งแล้ว เริ่มต้นเมื่อราวๆเดือนหนึ่งมานี้เอง
    ฝันว่ากำลังจะตาย ในช่วงต้นๆปี 2013 นี่แหละ
    จำไม่ค่อยได้ว่า ใช่เดือนมกราคม ปี 2013 หรือเปล่านะ
    แต่คลับคล้ายคลับคราว่าอย่างนั้น
    เพราะว่าเลข 13 เป็นเลขที่มีความเกี่ยวข้องกับผมมาโดยตลอด

    แล้วอีกอย่างหนึ่ง ความเป็นไปทางร่างกายตอนนี้
    บางทีมันก็รู้สึกว่า "กำลังจะตาย" อยุ่ด้วยเหมือนกันนะครับ
    แต่ผมไม่คิดว่าจะใช่การตายทางกายภาพหรอกนะครับ
    เพราะว่าผมยังแข็งแรงดีอยู่
    แต่น่าจะเป็นแบบที่ข้อความว่าไว้นั่นแหละครับ

    คือ ต้องยอมรับ และยอมตายจากมันไปซะที อะไรที่ไม่ดี
    อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ และอะไรที่ไม่ใช่แสงสว่างทั้งหลายเหล่านั้น

    แต่ก็อย่างที่ครายออนพูดไว้เสมอๆนั่นแหละครับ
    The Old Energy is die hard
    พลังงานเก่ามันตายยากซะเหลือเกิน
    มันจะต้องดิ้นรนต่อสู้จนหมดฤทธิ์ของมันโน่นแหละ

    ..............................................
     
  11. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    ไม่ยากหรอกค่ะพี่ชยุต โอ๋เชื่อว่าพี่ทำได้นะจ๊ะ
    พี่เป็นแรงบันดาลใจของน้องมาแต่แรก ข้อความที่พี่แปลตั้งแต่แรก
    ดึงความรู้สึกของน้องขึ้นมาค่ะ
    ถึงเวลาแล้วค่ะ พี่ต้องสู้แล้วนะ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
    ปล.ถ้ามาเมืองไทยโอ๋กับพี่มี๊ดก็อยากจะพบพี่เหมือนกันค่ะ จุ๊บๆๆ

    :cool::cool::cool:
     
  12. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation

    ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey
    ที่มา : Galactic Channelings - English


    SaLuSa, November 26, 2012

    Each day now may provide the first real evidence of what has been happening behind the scenes, that will convey to you the ongoing changes. The media will not handle the "good" news regrettably because it is still controlled. However, your Internet is so vast that you will have no problem in finding references to Disclosure and other anticipated events, and often from those who have a genuine source of information. Yet you still have to beware of some authentic looking websites and reports that are put out to confuse you. When the true announcements are made there will be no doubt in your minds as to their truthfulness. Disclosure is for example of world wide importance, and accordingly it will be down to your leaders to handle it.

    แต่ละวันในขณะนี้อาจเป็นการเตรียมการสำหรับหลักฐานจริงชิ้นแรก ของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเบื้องหลัง, นั่นจะถ่ายทอดสู่คุณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง. สื่อจะไม่แตะข่าวดี เป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะมันยังคงถูกควบคุม. อย่างไรก็ตาม, อินเตอร์เน็ตของคุณก็มีมากมายซึ่งคุณจะไม่มีปัญหาในการหาแหล่งอ้างอิงของการเปิดเผย และเหตุการณ์ที่คาดหวังอื่นๆ, และบ่อยครั้งมาจากผู้ที่มีข้อมูลจริง. แต่คุณต้องระวังเว็บไซด์บางเว็บที่ดูเหมือนจริงแต่รายงานสิ่งที่ทำให้คุณสับสน. เมื่อการเปิดเผยจริงๆได้ทำขึ้น จะไม่มีข้อสงสัยในใจของคุณเกี่ยวกับความจริงของพวกเขา. การเปิดเผยเป็นตัวอย่างที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับโลกกว้าง, และเนื่องจากมันจะส่งผลไปถึงผู้นำของคุณให้ดำเนินการ.

    With all that is happening the path to yours and Mother Earth's Ascension is still forging ahead, and no problems exist. As with the Universe all are in the latter stages of readiness, and your Ascension is as important as any other changes, if not more so. You are the only ones who are unable to do it entirely for yourselves, and of course we of the Galactic Federation of Light and others are very active in helping you. It is our privilege to be chosen in that role, and serving others is the reason we exist. Ascension is only the start, and afterwards we have much to do by way of quickly moving you into the life changes that go with it. We believe that many of you are now aware of what that means as far as raising your quality of life, and restoring your sovereignty. Instead of having your path created by others, you will create your own reality. That will bring souls of a like mind together, and why some with different desires will go their separate ways.

    กับสิ่งต่างทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นหนทางแห่งการยกระดับของคุณและพระแม่โลกยังคงเดินหน้าต่อไป, และไม่มีปัญหาใดหลงเหลืออยู่. สำหรับจักรวาล ทั้งหมดอยู่ในช่วงสุดท้ายของการเตรียมความพร้อม, และการยกระดับของคุณก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ, ถ้ามันไม่เพียงพอ. คุณเป็นผู้หนึ่งที่ไม่สามารถทำมันได้ทั้งหมดด้วยตัวคุณเอง, และแน่นอน พวกเราสมาพันธ์แกแลกติกแห่งแสงสว่างและอื่นๆมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งในการช่วยเหลือคุณ. มันเป็นสิทธิพิเศษของพวกเราที่ได้รับเลือกมาทำหน้าที่นี้, และการรับใช้ผู้อื่นก็เป็นเหตุผลที่พวกเราดำรงอยู่. การยกระดับเป็นเพียงการเริ่มต้น, และหลังจากนั้น พวกเรามีสิ่งที่ต้องทำอย่างรวดเร็วอีกมากมาย ในการเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณซึ่งจะมาพร้อมกับมัน. พวกเราเชื่อว่าพวกคุณจำนวนมากในขณะนี้รู้แล้วว่า สิ่งนั้นหมายถึงอะไร ไปจนถึงการยกระดับคุณภาพชีวิต, และการคืนอธิปไตยกลับสู่คุณ. แทนที่จะมีชีวิตที่ลิขิตโดยผู้อื่น, คุณจะสร้างความเป็นจริงของคุณเอง. นั่นจะนำพาวิญญาณที่ชอบสิ่งเดียวกันไปด้วยกัน, และเป็นเหตุผลที่ทำไมบางคนที่มีความปรารถนาที่ต่างกันจะไปตามทางที่แยกกัน.

    If you consider that you will be moving into a new frequency, you will. Understand that there are various levels within each dimension. You will not therefore all be within the same one, and some people will disappear from your view. We would therefore stress once again, that each soul will find itself exactly in the right level. It will be one that is in harmony with their own vibrations, where they will feel comfortable and at ease. It is the perfect answer for those concerned about other people, and those who accompany them to their level. Where families are concerned, let us put your mind at rest, as most members will normally stay together. Clearly if people have quite contrasting ideas of what Ascension means to them, they will be creating different realities for themselves in parallel worlds. There would not be much point in allowing you free choice if somehow it was curtailed.

    ถ้าหากคุณพิจารณาถึงการที่คุณเดินทางเข้าสู่ความถี่ใหม่, คุณจะ. เข้าใจว่ายังมีระดับมากมายภายในแต่ละมิติ. ดังนั้นคุณทั้งหมดจะไม่ได้อยู่ในระดับ(ย่อย)เดียวกัน, และคนบางคนจะหายไปจากสายตาของคุณ. พวกเราจึงขอย้ำอีกครั้ง, ว่าแต่ละวิญญาณจะค้นพบตัวเองอย่างแน่นอนในระดับที่ถูกต้อง. มันจะมีผู้หนึ่งที่สอดคล้องกับความถี่ของพวกเขา, ที่ที่พวกเขารู้สึกสบายและเรียบง่าย. มันเป็นคำตอบที่สมบูรณ์สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับผู้อื่น, และเหล่าผู้ที่ไปกับเขาสู่ระดับของพวกเขา. ที่ที่มีความกังวลเกี่ยวกับครอบครัว, ให้พวกเราทำใจของคุณให้ผ่อนคลาย, สมาชิกส่วนใหญ่จะอยู่ร่วมกันตามปกติ. ชัดเจนว่า ถ้าหากใครก็ตามที่ค่อนข้างขัดแย้งกับความคิดของการยกระดับในความหมายของพวกเขา, พวกเขาจะสร้างความเป็นจริงที่แตกต่างสำหรับพวกเขาในโลกคู่ขนาน. มันไม่ได้มีจุดที่อนุญาตให้คุณมีทางเลือกเสรีอย่างมากมาย ถ้าหากบางอย่างได้ปิดฉากลงแล้ว.

    The true extent of the coming changes has not been taken in by many people, as it will be quite different to your present experiences. If you look for Heaven upon Earth that is what you will get, but it will of course be on the new Earth. One of the bugbears of your life is dust, that you spend many hours trying to remove. It will be no more because of the purity of the air, and the ground below your feet will be of a different texture to what you know now. Without aging or decay there is no residue from plants or other sources. Cleanliness and brightness go hand in hand with the higher vibrations, that also give you a greater range colours than you have at present. So Heaven is really the word that describes the higher dimensions of Light.

    การเกิดขึ้นจริงของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมาถึง ยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้คนจำนวนมาก, ซึ่งมันค่อนข้างแตกต่างจากประสบการณ์ปัจจุบันนี้ของคุณ. ถ้าหากคุณมองหาสวรรค์บนโลก นั่นคือสิ่งที่คุณจะได้รับ, แต่มันแน่นอน จะอยู่ในโลกใหม่. หนึ่งในปีศาจร้ายของชีวิตคุณก็คือฝุ่น, ที่คุณต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกำจัดมัน. มันจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไปเพราะความบริสุทธิ์ของอากาศ, พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของคุณจะมีเนื้อสารที่แตกต่างจากที่คุณรู้ในขณะนี้. โดยปราศจากความชราหรือความเสื่อม จะไม่มีสารตกค้างจากพืชหรือแหล่งกำเนิดอื่น. ความสะอาดและความสดใสจะไปจากมือสู่มือพร้อมกับความถี่ระดับสูง, ซึ่งนั่นจะให้คุณได้เห็นช่วงของสีสันที่กว้างกว่าเดิมกว่าที่เห็นในปัจจุบัน. ดังนั้น คำว่าสวรรค์จึงเป็นความจริงที่ใช้อธิบายมิติระดับสูงของแสงสว่าง.

    On Earth there is so much criminal activity that your lives are spent securing your home and property against crime. On a personal level you fear being robbed or assaulted, or even worse. Dear Ones, in the higher realms such dangers or threats simply do not and cannot exist, all souls express themselves in love and caring for each other. Abundance takes away the need to accumulate wealth whatever form that may take. When you have all you need you do not covet another's goods or belongings. Think upon the idea that doors do not need locks and your property does need to be hidden away. You will soon get used to such changes and need not worry about anything, as life is just one continual experience in utter joy and happiness.

    บนโลกมีกิจกรรมเกี่ยวกับอาชญากรรมมากมาย ซึ่งคุณต้องป้องกันบ้านและทรัพย์สินจากอาชญากรรม. ที่ระดับส่วนบุคคล คุณกลัวการถูกปล้น, ถูกทำร้ายหรือถูกทำรุนแรง. ที่รักทั้งหลาย, ในอาณาจักรระดับสูงอันตรายหรือการคุกคามแบบนั้นจะไม่มีหรือไม่สามารถดำรงอยู่ได้, ทุกวิญญาณแสดงออกในความรักและเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน. ความอุดมสมบูรณ์จะนำความต้องการออกไปเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งในรูปแบบใดๆก็ตามที่ทำได้. เมื่อคุณมีทุกๆสิ่งที่คุณต้องการคุณจะไม่ปรารถนาสิ่งอื่นหรือการครอบครองอื่น. คิดถึงความคิดที่ว่าประตูไม่จำเป็นต้องล๊อกและทรัพย์สินของคุณไม่จำเป็นต้องนำไปซ่อน. ในไม่นานคุณจะเคยชินกับการเปลี่ยนแปลงและไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใดๆ, ซึ่งชีวิตก็คือประสบการณ์ต่อเนื่องในความสุขและความเบิกบานอย่างเต็มที่.

    There are many civilisations keen to make friends with you, who see themselves as on a similar path to you. They are all humanlike or humanoid and often linked to you through genetic engineering. By nature humans are friendly and benign Beings, and you attract like Beings. Some of them have already made some individual contacts with you, but we have controlled such contacts so as not to distract you from the more important issues like Ascension. The first meetings with us will be to introduce your main families who are already Federation members. By then you will have raised your levels of consciousness and will soon recall your past links.

    มีอารยะธรรมมากมายกระตือรือร้นที่จะเป็นเพื่อนกับคุณ, ผู้ที่มองเห็นตนเองในหนทางที่คล้ายกับคุณ. พวกเขาทั้งหมดคล้ายมนุษย์หรือเป็นมนุษย์และเชื่อมโยงกับคุณผ่านทางพันธุวิศวกรรม. โดยธรรมชาติมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรและใจดีและคุณดึงดูดสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกัน. บางส่วนของพวกเขาได้ทำการติดต่อกันเป็นการส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว, แต่พวกเราจำเป็นต้องควบคุมการติดต่อเพื่อไม่ต้องการให้คุณเขวออกจากหัวข้อที่สำคัญกว่าเช่น การยกระดับ. การพบกันครั้งแรกของพวกเราจะเป็นการแนะนำครอบครัวหลักของคุณ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาพันธ์เรียบร้อยแล้ว. จากนั้นคุณจะยกระดับความตระหนักรู้ของคุณและจะฟื้นคืนความสัมพันธ์ในอดีตในไม่ช้า.

    As you are beginning to realise, Ascension is a quantum leap in your vibration and level of consciousness. Check if you are ready, go back a few years and you will surely recognise a great shift in your consciousness. It has been a gradual growth in the past, but now it has speeded up and you could notice the difference almost on a daily basis. We tell you that the Light is streaming on to your Earth from all quarters of the Universe. You have never been without support, and now because of the nearness of Ascension it has been intensified. We want to see every soul that has expressed the intent to ascend, to do so full of confidence and well prepared.

    เมื่อคุณเริ่มตระหนักรู้, การยกระดับก็คือก้าวกระโดดในความถี่ของคุณและระดับของความตระหนักรู้. ตรวจสอบดูถ้าหากคุณพร้อม, ย้อนกลับไปสองสามปีแล้วคุณจะรู้อย่างแน่นอนเกี่ยวกับการยกระดับอย่างมากของความตระหนักรู้ของคุณ. มันค่อยๆเติบโตในอดีต, แต่ตอนนี้มันได้เร่งความเร็วขึ้น และคุณสามารถสังเกตได้ถึงความแตกต่างเกือบทุกวัน. พวกเราบอกคุณได้ว่าแสงสว่างกำลังหลั่งไหลมาสู่โลกจากทุกๆส่วนของจักรวาล. คุณไม่เคยอยู่โดยปราศจากการสนับสนุน, และขณะนี้เนื่องจากมันเข้าใกล้การยกระดับ มันจะยิ่งรุนแรงขึ้น. พวกเราอยากเห็นทุกวิญญาณแสดงออกถึงความมุ่งหมายที่จะยกระดับ, เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างเต็มที่และการเตรียมความพร้อมอย่างดี.

    You are all adored and loved throughout the Universe, and that includes all souls regardless whether they are of the Light or darkness. That is because in duality you have all played your part in it, and therefore one should not be in judgment of any soul. That takes a bit of getting used to as your laws prosecute and imprison those who break them, and you tend to pre-judge their crimes and decide their punishment. It doesn't mean that you should not have an opinion, but often your judgement carries thought forms of energy that would eke out your idea of punishment. It is not your place to make such judgments, and you can rest easy that justice will always be done, even if someone appears to get away with their crime. Nothing can ever be hidden forever that no one could know about it, as the energy of all actions continue to exist in the ethers.

    คุณทั้งหมดเป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่รักตลอดทั้งจักรวาลนี้, และนั่นรวมถึงทุกวิญญาณไม่เว้นว่าเขาจะเป็นฝ่ายแสงสว่างหรือฝ่ายมืด. นั่นเป็นเพราะว่าในทวิภาวะคุณทั้งหมดต้องเล่นบทของคุณในนั้น, และดังนั้น ไม่ควรมีใครอยู่ในการตัดสินของวิญญาณใดๆ. นั่นต้องใช้เวลาบ้างในการใช้กฎหมายดำเนินคดีและจองจำผู้ที่ทำผิด, และคุณมีแนวโน้มที่จะตัดสินล่วงหน้าต่ออาชญากรรมของพวกเขา และตัดสินโทษของพวกเขา. มันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรมีทัศนคติ, แต่บ่อยครั้งการตัดสินของคุณนำพาพลังความคิดที่ รักษาไว้ซึ่งความคิดของการลงโทษของคุณ. มันไม่ใช่สถานที่ของคุณที่จะสร้างการตัดสิน, และคุณสามารถพักผ่อนอย่างเรียบง่ายซึ่งการตัดสินจะทำขึ้นเสมอ, แม้ว่าบางคนดูเหมือนจะหนีไปพร้อมกับความผิด. ไม่มีสิ่งใดจะหลบซ่อนได้ตลอดกาลโดยไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมัน, เนื่องจากพลังงานของการกระทำทั้งหมดยังคงอยู่ในอากาศ.

    I am SaLuSa from Sirius, and pleased to see that many are planning a special event for 12.12, which is of great importance in releasing the coding to complete your personal preparations for Ascension. Be in the Light, be Love.

    I am SaLuSa from Sirius, และกรุณาดูว่าหลายสิ่งกำลังวางแผนสำหรับเหตุการณ์พิเศษในวันที่ 12/12, ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการปลดปล่อยรหัส เพื่อทำให้การเตรียมการสำหรับการยกระดับส่วนบุคคลเสร็จสมบูรณ์. อยู่ในแสงสว่าง, ที่รัก.

    Thank you SaLuSa.
    Mike Quinsey

    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2012
  13. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆทุกท่าน เป็นอย่างไรกันบ้าง (kiss)
    ถึงจะลำบากกันอยู่สักหน่อย ก็ขอให้ผ่านกันไปได้ด้วยดีทุกๆคนนะคะ :)

    พอดีเมื่อคืนฝันแบบเหมือนจริงครั้งใหญ่อีกครั้งแล้ว และคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีเสียด้วย
    เลยมาบอกกล่าวเพื่อว่าจะสร้างแรงใจเพิ่มขึ้นให้กับทุกคนได้บ้าง

    มันเสมือนจริงมากๆ และขอเล่าง่ายๆว่า บรรยากาศครึ้มๆ และมีการสอบอยู่กันเป็นจำนวนมาก
    ห้องที่โซ่สอบอยู่มีคนผ่านไปได้ไม่มากนัก (แต่อย่าเพิ่งท้อไปค่ะทุกคน)
    เพราะมีประกาศว่า คนที่ยังสอบไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร ให้ทำไปเรื่อยๆ
    ในประกาศนั้นไม่มีบอกอย่างเจาะจงว่ากำหนดให้เสร็จเมื่อไหร่นะคะ
    ความรู้สึกโซ่ตรงนั้น มันไม่สามารถกะเกณฑ์เวลาได้แบบเวลาที่เราอยู่กันนี่
    และเข้าใจได้เองเลยว่าทำไมถึงบอกกำหนดเวลาที่แน่นอนไม่ได้
    คนที่ยังสอบอยู่ ก็ตั้งใจสอบกันเต็มที่ โดยไม่ได้แสดงอาการกังวลใดๆเลย

    พอโซ่ลงมาจากตึกที่ใช้สอบ (ฝนตกหนักมาก และไร้แสงอาทิตย์เลยคิดว่าเป็นกลางคืนเพราะมันมืด)
    ก็เห็นคนสอบเสร็จลงกันมาจากไหนก็ไม่รู้มากมายเลยล่ะค่ะ
    แล้วก็มองดูว่าพวกเค้าไปไหนกันต่อ เหมือนโซ่เองไม่ได้รู้ว่าจะกลับไปไหน
    แต่แล้วโซ่ก็เดินตามเพื่อนกลุ่มนึงไปขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน ย้ำนะคะว่าใช้คำว่าบ้าน
    ความรู้สึกของความเป็นเพื่อนกับเหล่าผู้คนในตอนนั้นคือ
    ทุกๆคนที่เราพบเจอเป็นเพื่อนกันหมดเลยค่ะ ชีวิตจริงไม่รู้จัก แต่ตรงนั้น คือเพื่อนกันหมดเลยค่ะ
    และแล้วโซ่ก็ขึ้นรถไปกับเพื่อนกลุ่มนี้ไม่ได้ พยายามขึ้นไปเบียดก็ไม่ได้ ทั้งๆที่รถยังไม่เต็ม
    พยายามอยู่พักใหญ่เลยทีเดียว เพื่อนๆกลุ่มนั้นพร้อมคนขับรถก็หัวร่อกันใหญ่เลย และบอกว่าโซ่ไปไม่ได้หรอก
    โซ่ก็บอกว่า ก็โซ่จะกลับบ้านไง เพื่อนๆก็บอกว่า ก็บ้านโซ่อยู่ที่นี่ โซ่จะไปไหนล่ะ

    จากนั้น โซ่ก็เดินกลับขึ้นตึกหลังเดิมไปใหม่
    แต่สนามสอบแบบเก่า เหมือนอยู่อีกชั้นที่เป็นชั้นอื่นไปแล้วในตึกเดียวกัน
    และจากนั้นก็เจอเพื่อนอีกคน ได้คุยกันแล้วสรุปว่า ต้องสอบกันต่อไป
    แต่เป็นแบบใหม่ คือ สอบร้องเพลง ค่ะ (555555+:d)
    สนามสอบใหม่เป็นลานกว้างแบบเห็นทั่วกันเกือบทั้งชั้น เกือบทั้งชั้นนะคะไม่ใช่ทั่วทั้งชั้น มีแสงอาทิตย์ส่องสดใส
    และมีคนอยู่ในนั้นแล้วจำนวนหนึ่ง โซ่ก็รู้สึกได้ว่าพวกเค้าเป็นรุ่นพี่ที่ผ่านมาถึงการสอบแบบนี้ได้ก่อน
    โซ่ก็ถามว่าอาจารย์ที่จะเป็นคนมาสอบพวกเราอยู่ไหน มาหรือยัง แล้วโซ่จะสอบยังไง แล้วจะให้ร้องเพลงอะไร

    ขอเล่าแค่นี้นะคะ มันมีต่ออีกประมาณหนึ่ง ;)

    ฉะนั้น ขอให้ทุกคนวางใจได้นะคะ
    ขอให้ทุกคนปฏิบัติการไปในแบบฉบับของตัวคุณเอง
    ทุกคนกำลังขมักเขม้นเชียวล่ะ ตั้งใจกันเต็มทีเลยนะ (||)
    กาลเวลาแบบปกติมันจะทันหรือไม่ทัน ไม่ต้องไปสนใจมัน เดินหน้ากันให้เต็มทีไปเลยค่ะ

    ช่วงโลกเปลี่ยนผ่าน อาจจะมีฝนตกหนักมาก จนฟ้ามืดไปหมด ก็ได้นะคะ *-*

    (sing)(sing)(sing)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2012
  14. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    -รอ้งเพลงได้เพราะมากจ้า..คุณโซ่..ท่าจะผ่านแล้ว:cool:เราชอบสายใยที่เรามีให้กันในกระทู้นี้จัง..กำลังใจ..ความอบอุ่น..หว่งใย..ความรักที่เอื้ออาทรจริงๆเพื่อที่จะก้า้วต่อไปดว้ยกันให้ได้..ขอบคุณทุกคนในนี้..ที่ทำให้หัวใจฉันยิ้มได้.(deejai)(deejai)(deejai)
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอเล่าฝันเมื่อหลายวันก่อนบ้างนะครับ
    เคยโพสต์ไว้ใน facebook ของคุณเดรดแล้วหละครับ
    ฝันคืนวันที่ 21/11/12 ครับ

    ...............................................

    [​IMG]

    เห็นแท่งคริสตัลแล้ว เลยอยากจะเล่าความฝันให้ฟังซะหน่อย
    เมื่อคืนนี้ฝันว่า เห็นชาวพื้นเมืองหลายคน คนแรกเป็นผู้ชาย
    หน้าตาดี หน้ายังไม่แก่ แต่อายุน่าจะเยอะแล้ว สวมเสื้อผ้าแบบชนพื้นเมือง
    ออกจะเป็นผ้าพื้นๆ เหมือนเสื้อคลุมยาวๆ และที่สำคัญมากคือ ผมยาวมาก
    ยาวถึงพื้นเลย ขี่ม้าผ่านไป ในความรู้สึก เขาคือพี่ชายของผู้หญิงที่วิ่งตามมา
    ซึ่งก็ผมยาวมากเหมือนกัน

    ความรู้สึกก็คือ พวกเขากำลังจะไปดูพี่สาวของพวกเขา ซึ่งกำลังป่วยใกล้ตาย
    และพี่สาวคนที่ว่านั้น ก็ผมยาวมากเช่นกัน ต่อมาก็เห็นชายแก่คนหนึ่งเดินตามมา
    ผมยาว แต่ก็ไม่มากเท่าสองคนแรก เขาพูดอะไรบางอย่างกับผมด้วย
    เพราะว่าตอนนั้นผมอยู่ในชุดขาวทั้งตัวเลย ทั้งเสื้อและกางเกง รองเท้าแตะก็สีขาวด้วย
    แถมมือก็กำแท่งคริสตัลไว้ด้วย แท่งคริสตัลที่ว่านั้นก็กำลังมีแสงสว่างพุ่งออกมา
    เหมือนในรูปที่คุณเดรดโพสต์ไว้นั่นแหละครับ

    เขาพูดคล้ายๆว่า เออ..ผมนี่ก็เป็นพวกฝ่ายขาวนะ อะไรก็เลยขาวไปหมดเลย
    ชายแก่คนนั้นคือผู้ที่จะไปรักษาโรคให้พี่สาวคนนั้น สักพักพวกเขาก็ไปเจอพี่สาวของพวกเขา
    ซึ่งในฝัน กลับกลายเป็นหนูตัวใหญ่ขนสีดำตัวหนึ่ง กำลังติดกับอะไรซักอย่างอยู่
    ในภาชนะอันหนึ่ง ซึ่งจมอยู่ในน้ำตื้นๆด้วย เกือบๆจะท่วมตัวหนู แต่กับดักที่ว่านั้น
    ก็ไม่ได้เหนียวแน่นอะไร เพราะมันเหมือนเป็นกะละมังครอบเอาไว้เฉยๆอย่างงั้นแหละ
    แต่หนูตัวนั้นอาการกลับล่อแล่พอสมควร

    พอทุกคนไปถึง ก็แค่ยกสิ่งที่ครอบอยู่นั้นออกให้ แล้วพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาแค่นั้นเอง
    ซึ่งตอนนั้น หนูตัวนั้นก็กลับกลายเป็นเด็กวัยรุ่นผู้ชาย รูปร่างเพรียว สูง ขาว หน้าตาดีคนหนึ่ง
    ไม่สวมเสื้อ ผมยาว ท่าทางอ่อนเพลียมาก และหน้าตาก็มอมแมมด้วย

    [​IMG]

    สักพักคนแก่คนนั้น ก็เอาผ้าเย็นสีขาวชุบน้ำเช็ดหน้าให้เด็กคนนั้น แล้วให้นั่งขัดสมาธิ
    อยู่บนแท่นไม้วงกลม ซึ่งก็มีใครอีกสองคนไม่รู้เป็นผู้หญิงนั่งขนาบข้างอยู่ด้วยซ้ายขวา
    และความรู้สึกในฝัน ก็เหมือนกับว่าตอนนี้เขากำลังป่วยอยู่ แต่เดี๋ยวก็จะหายแล้วหละ..

    ความรู้สึกบางส่วนในฝันมันเหมือนกับว่า พี่สาวผมยาวคนนั้น ก็คือผมเองนั่นแหละ
    และหนูตัวนั้น รวมถึงเด็กผู้ชายคนนั้น ล้วนคือผมเองทั้งนั้นเลย..

    อืม..ฝันก็ค่อนข้างชัดนะ ในสัญญลักษณ์และความหมายที่สื่อมา
    เพราะว่ามันเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้พอดีเลย

    เพราะว่า "เด็กคนนั้นกำลังป่วยอยู่" แต่โรคที่เป็นหนะแค่ถูก "ครอบ" เอาไว้แค่นั้นเอง
    แต่อาการกลับร่อแร่จนต้องมี "ผู้อันเป็นที่รักจากแดนไกล" มาช่วยเหลือ..ฮิฮิ..

    ขอขอบคุณในความเมตตากรุณาที่พวกท่านมีให้ตลอดด้วยนะครับ


    .........................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2012
  16. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    อยากให้ลองอ่านข้อความนี้อีกครั้งคะ..
    (เกิดพระจันทร์ทรงกรดวงใหญ่มากเมื่อคืนนี้) .. ท่านอาจารย์กล่าวว่า ..
    "บนดวงจันทร์มีการประชุมร่วมวางแผนปฏิบัติการพร้อมกันกับพระสุริยะเทพ
    เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการ "มอบความรัก ขั้นสูงขึ้น" ให้แก่ดาวเคราะห์โลก
    เพื่อยกระดับพลังอำนาจของดาวเคราะห์และเปลี่ยนแปลง DNA ในโครงสร้างทางชีววิทยาของมนุษย์โลกเสรี เพื่อการเปลี่ยนโลกทั้งระบบสู่ยุคพลังงานใหม่.. ............ ......*คัดคนดีออกจากคนชั่ว.*
    ..ภายในวันที่ 12-12-12 นี้ 1 ครั้งพร้อมกัน ก่อนถึงวันที่โลกทนต่อความเหลวไหลของมนุษย์ไม่ไหวในเดือนเดียวกัน ดังที่เราได้รับอนุญาตให้เปิดเผยต่อพวกเธอไปแล้วนั่นแหละ <3
    เป็นเรื่องปกติ การประชุมใหญ่ก็ต้อง "วงใหญ่" มิใช่หรือ.....
    ป.วิสุทธิปัญญา

    เอามาจากเฟตบุค เห็นว่ามีข้อมูลตรงกันหลายแหล่งนะ
     
  17. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    (ตอนต่อจากข้อความที่ 6415 หน้าที่ 321)

    TRIP TO THE MOTHERSHIP PART XII

    By Suzanne Lie – November 20, 2012
    http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/


    MYTRE AND KEPIER 4 FINDING THE WAY HOME

    States of Consciousness and Adherence to Reality

    Just after the Arcturians spoke, the meeting ended for the day. A day was determined by planet Earth’s 24-hour cycle to which the Mothership was adjusted. This adjustment was made to accommodate the many Earth Beings on board the Ship. Kepier and I had had enough adventure and information and were ready to go to our quarters to get some sleep.


    หลังจากชาวอาร์คทูเรี่ยนพูดจบ, การประชุมก็จบลงสำหรับวันนั้น. วัน วัดค่าจากรอบเวลา 24 ชั่วโมงบนดาวโลก ซึ่งยานแม่จะเป็นผู้ปรับค่า. การปรับค่านี้ถูกทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์โลกจำนวนมากบนยาน. Kepier และผมได้ผจญภัยและได้รับข้อมูลเพียงพอแล้ว และพร้อมที่จะไปในส่วนของพวกเราเพื่อนอนหลับ.

    We both chose to eat alone in our quarters, as we needed to integrate what the Arcturian had said. After I ate the food I had prepared in the replicator, I took a sonic shower and went to bed. To my surprise, I instantly fell asleep. However, it did not feel like a normal sleep, as I immediately went into a vivid dream in which the Arcturian was standing before me.

    พวกเราทั้งคู่เลือกที่จะรับประทานคนเดียวในส่วนของพวกเรา, ซึ่งพวกเราจำเป็นต้องรวบรวมสิ่งที่ชาวอาร์คทูเรี่ยนได้พูดไป. หลังจากรับประทานที่ผมเตรียมจากเครื่องทำสำเนาอาหาร, ผมก็อาบน้ำด้วยคลื่นเสียงและเข้านอน. ด้วยความแปลกใจ, ผมหลับในทันที. อย่างไรก็ตาม, มันไม่ได้รู้สึกเหมือนการนอนหลับธรรมดา, ซึ่งผมเข้าสู่ความฝันที่ชัดเจนในทันที ซึ่งชาวอาร์คทูเรี่ยนกำลังยืนอยู่ต่อหน้าผม.

    “I have come to you in your dream state, as it will be easier for you to understand my message while in that consciousness,” Said the Arcturian.


    “ผมมาหาคุณในสถานะของความฝัน, ซึ่งมันจะง่ายขึ้นสำหรับคุณที่จะเข้าใจข้อความของผม ขณะที่อยู่ในความตระหนักรู้นั้น”, ชาวอาร์คทูเรี่ยนพูด.

    When I was about to respond, I found that I could only communicate telepathically. I felt as though my vocal cords would not work. In fact, my every thought was projected telepathically, even if that had not been my intention.

    เมื่อผมตอบสนอง, ผมพบว่าผมสามารถสื่อสารได้เฉพาะทางโทรจิตเท่านั้น. ผมรู้สึกราวกับว่าหลอดเสียงของผมไม่ทำงาน. อันที่จริง, ทุกๆความคิดของผมถูกฉายออกไปทางโทรจิต, แม้ว่ามันไม่ใช่ความมุ่งหมายของผม.

    The Arcturian smiled. “While you are in your dream body your astral consciousness is much stronger than your physical intention. It is for this reason that I am communicating with you in your dream state. I wish to connect with you in the imagistic fashion of higher dimensional communications. In this manner, many concepts can be explored within the same moment of the NOW.”

    ชาวอาร์คทูเรี่ยนยิ้ม. “เมื่อคุณอยู่ในร่างกายแห่งความฝันของคุณ ความตระหนักรู้ทางจิตของคุณจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าความมุ่งหมายทางกายภาพ. มันเป็นด้วยเหตุผลนี้ที่ผมกำลังสื่อสารกับคุณในสถานะของความฝันของคุณ. ผมปรารถนาจะติดต่อกับคุณในรูปแบบทางจินตภาพของการสื่อสารมิติที่สูงกว่า. ในหนทางนี้, หลักการต่างๆสามารถได้รับการสำรวจภายในเวลาเดียวกันของขณะนี้”.

    I understood what the Arcturian was saying, so I was quiet and waited to see what he was about to communicate.

    ผมเข้าใจในสิ่งที่ชาวอาร์คทูเรี่ยนกำลังพูด, ผมจึงเงียบและรอดูสิ่งที่เขาจะสื่อสาร.

    “Mytre, I want to tell you about states of consciousness and adherence to reality. Your state of consciousness will adhere you to a reality of a correlate frequency of operation. Every reality is multidimensional, and certain frequencies are best for habitation by intelligent beings. As you become more conscious of your inter-dimensional travels, you will realize this fact.


    “Mytre, ผมต้องการบอกคุณเกี่ยวกับสถานะต่างๆของความตระหนักรู้และการติดตามความเป็นจริง. สถานะของความตระหนักรู้ของคุณจะติดตามคุณไปสู่ความเป็นจริงของความถี่ของการดำเนินการที่สัมพันธ์กัน. ทุกๆความเป็นจริงเป็นภาวะหลากมิติ, และความถี่ที่แน่นอนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับใช้เป็นที่อาศัยของรูปธรรมที่มีปัญญา. ซึ่งคุณจะมีความตระหนักรู้มากขึ้นในการเดินทางระหว่างมิติของคุณ, คุณจะรู้ความจริงนี้”.

    “Of course, you have been traveling inter-dimensionally since your Oversoul created your specific Spark of Creation. Your Spark of Creation occurs when you take your first form. YOU, that is the multidimensional essence of YOU, is much more expansive than you could imagine. Your first forms were of Lightbody, in which you traveled the Multiverse seeking experience.


    แน่นอน, คุณได้เดินทางระหว่างมิติเมื่อวิญญาณระดับสูงของคุณสร้างประกายแสงแห่งการสร้างสรรค์โดยเฉพาะของคุณ. ประกายแสงแห่งการสร้างสรรค์ของคุณเกิดขึ้นเมื่อคุณสวมใส่รูปครั้งแรกของคุณ. คุณซึ่งเป็นสาระสำคัญหลากมิติของคุณ, ขยายออกอย่างมากเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้. รูปครั้งแรกของคุณเป็นของร่างกายแสงสว่าง, ซึ่งคุณท่องเที่ยวหลากจักรวาลเพื่อแสวงหาประสบการณ์.

    “Experience is defined as movement through myriad varieties of interactions. When your Beingness is in its higher frequency form, you can simultaneously observe countless expressions of reality. Of course, you never leave this Higher Essence of SELF. Therefore, when you travel inter-dimensionally, you are actually expanding your range of consciousness to encompass the lower frequencies of reality.


    ประสบการณ์หมายถึงการเคลื่อนไหวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์หลากหลายมากมาย. เมื่อรูปธรรมของคุณอยู่ในรูปความถี่ระดับสูง, คุณสามารถสำรวจความเป็นจริงนับไม่ถ้วนได้พร้อมๆกัน. แน่นอน, คุณไม่เคยละจากตัวตนระดับสูงนี้. ดังนั้น, เมื่อคุณเดินทางระหว่างมิติ, ตามความเป็นจริงคุณกำลังขยายพิสัยของความตระหนักรู้เพื่อแวดล้อมความถี่ระดับต่ำของความเป็นจริง.

    “In this manner, you can directly experience that which you are observing from the perspective of your Spark of Creation, as well as from the perspective of that frequencies of Beingness. Your highest expression of ‘observer SELF’ is infinite and a component of the NOW of the ONE.


    ในหนทางนี้, คุณสามารถมีประสบการณ์ได้โดยตรงในสิ่งที่คุณสำรวจมัน จากมุมมองของประกายแสงแห่งการสร้างสรรค์, เช่นเดียวกับจากมุมมองของความถี่ของรูปธรรมนั้น. การแสดงออกสูงสุดของคุณในการเป็นผู้สำรวจตนเองมีเป็นอเนกอนันต์และเป็นองค์ประกอบของขณะนี้ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน.

    “A visual image, which can be correlated to what we are saying, is the image of a huge cloud. This cloud releases rain. The rain touches the ground and directly interacts with it. Some of this rain falls into water, some falls onto rock, and some falls into the earth etc. etc. All of the rain that originates from the same cloud is related via the same heritage.


    ภาพที่เห็น, สามารถสัมพันธ์กับสิ่งที่พวกเรากำลังพูด, คือภาพของก้อนเมฆขนาดใหญ่. ก้อนเมฆนี้ก่อให้เกิดฝน. น้ำฝนสัมผัสพื้นดินและมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับมัน. ฝนบางส่วนตกลงไปในน้ำ, บางส่วนตกลงไปบนหิน, และบางส่วนตกเข้าไปในโลก ฯลฯ. ฝนทั้งหมดมีต้นกำเนิดจากเมฆก้อนเดียวกันและมีความสัมพันธ์กันผ่านต้นกำเนิดเดียวกัน.

    “Some of the rain will fall into the lowest depths of the planet, such as the desert, and other rain will fall onto the peaks of the highest mountains, as well as everywhere in between. As each raindrop falls into a different area, it gathers many different experiences. All of these experiences are simultaneously perceivable within the NOW of your ‘Cloud.’

    บางส่วนของฝนจะตกลงสู่ส่วนที่ลึกต่ำที่สุดของดาวเคราะห์, เช่นทะเลทราย, และฝนที่เหลือจะตกลงบนยอดของภูเขาที่สูงที่สุด, เช่นเดียวกับทุกๆที่ในระหว่างนั้น. เนื่องจากฝนแต่ละหยดตกลงสู่พื้นที่ๆแตกต่างกัน, มันแสวงหาประสบการณ์ที่แตกต่างกันมากมาย. ประสบการณ์ทั้งหมดนี้จะสามารถรับรู้ได้พร้อมๆกันภายในขณะนี้ของ’เมฆ’ของคุณ.

    “Hence, your Cloud sends down raindrops so that it can intimately experience myriad lower dimensional realities via its raindrops. Some of these experiences are very enjoyable and some are not, but all of them are educational. From the perspective of your Spark of Creation, YOU are infinitely alive within the comfort of the ONE and are virtually visiting myriad dimensions of reality.


    ดังนั้น, เมฆของคุณส่งเมล็ดฝนลงมาเพื่อที่มันสามารถมีประสบการณ์อย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับความเป็นจริงมิติที่ต่ำกว่านับไม่ถ้วนผ่านทางเมล็ดฝนของมัน. บางเมล็ดฝนเหล่านี้มีความสุขมากและบางเมล็ดก็ไม่, แต่พวกมันทั้งหมดกำลังศึกษา. จากมุมมองของประกายแสงแห่งการสร้างสรรค์ของคุณ, คุณมีชีวิตอยู่มากมายภายในความสบายของความเป็นหนึ่งเดียวกัน และกำลังเยี่ยมเยือนมิติของความเป็นจริงนับไม่ถ้วนอย่างแท้จริง.

    “On the other hand, each raindrop takes on it own Life Spark, which initiates its own timeline for existence and inter-dimensional travel. All the Life Sparks that originate from the same Cloud are related. Furthermore, every Cloud is related, as they are all representatives of the ONE Creator Cloud.


    ในอีกด้านหนึ่ง, เมล็ดฝนแต่ละเมล็ดได้สวมใส่ประกายแสงแห่งชีวิตของมันเอง, ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเส้นเวลาของมันเองสำหรับการดำรงอยู่และการเดินทางระหว่างมิติ. ทุกๆประกายแสงชีวิตที่มีต้นกำเนิดมาจากเมฆก้อนเดียวกันมีความสัมพันธ์กัน. ยิ่งไปกว่านั้น, เมฆทุกๆก้อนก็มีความสัมพันธ์กัน, เนื่องจากพวกมันคือตัวแทนของเมฆพระผู้สร้างหนึ่งเดียว.


    “Thus, all of you who are inter-dimensionally traveling the Multiverse are related because all Clouds are related. However, you are most intimately linked to those who fell from the same Cloud. But, since all the Clouds are related, every raindrop/Life Spark is connected.

    ดังนั้น, คุณทุกคนผู้กำลังเดินทางหลากจักรวาลระหว่างมิติมีความสัมพันธ์กันเพราะเมฆทุกก้อนมีความสัมพันธ์กัน. อย่างไรก็ตาม, คุณมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดที่สุดกับเหล่าผู้ที่ตกลงมาจากเมฆก้อนเดียวกัน. แต่, เนื่องจากเมฆทุกก้อนมีความสัมพันธ์กัน, ฝนทุกๆหยด/ประกายแสงชีวิตก็เชื่อมต่อกัน.

    “We use the metaphor of Clouds and Life Sparks because they create an image. If we were to say Elohim, Oversouls and Multidimensional Life Streams, your mind would become engaged, but you might miss the heart feeling. We speak in an imagistic manner so that you can better LIVE the message. When a message is lived rather than understood or remembered, it is stored in your Heart/Mind, as well as your brain.

    พวกเราใช้การเปรียบเทียบของก้อนเมฆและประกายแสงชีวิตเพราะว่ามันสร้างภาพจินตนาการ. ถ้าหากพวกเราพูดว่า อีโลฮิม, วิญญาณระดับสูงและกระแสชีวิตหลากมิติ, จิตใจของคุณจะกลายเป็นมีส่วนร่วม, แต่คุณอาจจะพรากจากความรู้สึกของหัวใจ. พวกเราพูดในหนทางของจินตภาพเพื่อให้คุณสามารถมีชีวิตกับข้อความได้ดีขึ้น. เมื่อข้อความมีชีวิตมากว่าเข้าใจหรือจดจำ, มันจะถูกเก็บอยู่ในหัวใจ/จิตใจของคุณ, เช่นเดียวกับสมองของคุณ.

    “We are training you to commune in this manner, as this is how the Galactics communicate with each other. Also, this imagistic mode of communication allows you to talk to Beings of many different realities, because you are living an image rather than communicating with separate words and sentences. Therefore, please relax while we take you on a inter-dimensional journey.”

    พวกเรากำลังฝึกคุณให้สนทนาในหนทางนี้, เนื่องจากนี่คือวิธีที่แกแลกติกสื่อสารซึ่งกันและกัน. เช่นกัน, การสื่อสารแบบจินตภาพนี้จะอนุญาตให้คุณพูดคุยกับรูปธรรมของความเป็นจริงที่แตกต่างกันมากมาย, เนื่องจากคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในจินตนาการมากกว่าที่จะสื่อสารด้วยคำพูดเป็นคำๆและประโยค. ดังนั้น, กรุณาผ่อนคลายในขณะที่พวกเราพาคุณเดินทางระหว่างมิติ.

    Relaxing was good for me, as I was supposedly sleeping. However, since the Arcturian needs no sleep I guess it didn’t understand how important sleep was for me.

    การผ่อนคลายเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผม, ซึ่งผมคาดว่าผมกำลังหลับ. อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากชาวอาร์คทูเรี่ยนไม่จำเป็นต้องนอนหลับ ผมเดาว่าเขาไม่เข้าใจว่าการหลับมีความสำคัญสำหรับผม.

    “On the contrary,” the Arcturian was responding to my thoughts, “you always go on journeys when you sleep. However, your third dimensional thinking tells you that life makes you tired, and you need to turn off your mind by sleeping. However, physical life in the lower dimensions makes you tired because you have been trained to believe that concept. Life, also, makes you tired because your lower frequency life appears separate from your higher expressions of SELF.

    “ตรงกันข้าม”, ชาวอาร์คทูเรี่ยนตอบความคิดของผม, “คุณเดินทางเสมอเวลาคุณหลับ. อย่างไรก็ตาม, ความคิดแบบสามมิติของคุณบอกคุณว่าชีวิตทำให้คุณเหนื่อยล้า, และคุณจำเป็นต้องปิดจิตใจของคุณด้วยการนอนหลับ. ชีวิตทางกายภาพในมิติระดับต่ำทำให้คุณเหนื่อยล้าเพราะว่า คุณถูกฝึกมาให้เชื่อในหลักการนั้น. ชีวิตทำให้คุณเหนื่อยเพราะความถี่ระดับต่ำของคุณ ชีวิคดูเหมือนแยกจากตัวตนระดับสูงของคุณ.

    “When you sleep, you are actually re-connecting with your higher expressions. These expressions are never tired because no time passes and no work is done to cause fatigue. Your higher expressions of SELF do not experience polarities, separation or conflict. Furthermore, they do not experience fear, which is one of the main causes of fatigue. Fear fills your body with chemicals, which make your body race out of synchronization with your breath and heartbeat. Then you feel tired because your body is operating at a different rate than your thoughts and emotions.

    เมื่อคุณหลับ, จริงๆแล้วคุณกำลังเชื่อมต่ออีกครั้งกับตัวตนระดับสูงของคุณ. ตัวตนเหล่านี้ไม่เคยเหนื่อยเพราะว่าไม่มีเวลาที่ผ่านไปและไม่มีงานที่ทำให้เหนื่อย. ตัวตนระดับสูงของคุณไม่มีประสบการณ์ของความเป็นขั้ว, การแบ่งแยกหรือความขัดแย้ง. ยิ่งไปกว่านั้น, ไม่มีประสบการณ์ของความกลัว, ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความเหนื่อย. ความกลัวจะเติมสารเคมีเข้าไปในร่างกายของคุณ, ซึ่งจะทำให้ร่างกายของคุณหลุดออกจากจังหวะที่เข้ากับการหายใจและการเต้นของหัวใจ. จากนั้นคุณก็เหนื่อยเพราะว่าร่างกายปฏิบัติการในอัตราเร็วที่แตกต่างจากความคิดและอารมณ์ของคุณ.

    “We ask that you relax into the image being a Cloud. Your Cloud form shifts and changes as you interact with atmospheric conditions. Sometimes the atmosphere seems darker and in transition. This condition is caused because the Clouds/Oversoul are full and seem to hang low in the atmosphere. The Clouds are lower because they are ready to empty their raindrops/Sparks of Creation, into the lower frequencies.

    พวกเราขอให้คุณผ่อนคลายเข้าสู่จินตนาการของการเป็นเมฆ. รูปกายเมฆของคุณยกระดับขึ้นและเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพของบรรยากาศ. บางครั้งบรรยากาศดูเหมือนมืดลงและเปลี่ยนแปลง. สภาพแบบนี้ทำให้เมฆ/วิญญาณระดับสูงเต็มและดูเหมือนลอยต่ำลงในบรรยากาศ. เมฆลอยต่ำลงเพราะว่ามันพร้อมที่จะเป็นเมล็ดฝน/ประกายแสงแห่งการสร้างสรรค์, เข้าสู่ความถี่ระดับต่ำ.


    “Hence, these Clouds are resonating to a slightly lower frequency because their soul families are seeking to leave their Cloud/Oversoul in order to interact with lower realities. On the other hand, sometimes the skies seem clear, and the Clouds are further away and difficult to perceive. However, there are many wispy clouds that seem to creating pathways into the higher realms. This condition occurs when the Oversoul is free of rain/Life Sparks, but it realized that many Life Sparks are ready to begin their long return back to their Cloud/Oversoul.


    ดังนั้น, เมฆเหล่านี้กำลังสะท้อนกับความถี่ระดับต่ำอย่างช้าๆเพราะว่า ครอบครัวทางวิญญาณของพวกเขากำลังหาทางออกจากเมฆ/วิญญาณระดับสูงของพวกเขา เพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริงระดับต่ำ. ในอีกด้านหนึ่ง, บางครั้งท้องฟ้ากระจ่าง, และก้อนเมฆก็อยู่ไกลออกไปและยากที่จะรับรู้. อย่างไรก็ตาม, ยังมีเมฆขนาดเล็กจำนวนมากที่ดูเหมือนกำลังสร้างหนทางเข้าสู่อาณาจักรระดับสูง. สภาพแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อวิญญาณระดับสูงไม่มีฝน/ประกายแสงชีวิต, แต่มันรู้ว่ามีประกายแสงชีวิตมากมายที่พร้อมจะเริ่มการเดินทางอันยาวไกลกลับคืนสู่เมฆ/วิญญาณระดับสูงของพวกเขา.

    “There is a very special occurrence on the planet Earth now, in that the entire planet is ready to commence its return to Oversoul. Hence, many Clouds/Oversouls are sending down wispy passages to guide their Life Sparks home. This visual message is informing all the related planets, solar systems and galaxies that myriad beings, including a planetary being, are seeking support They are calling for assistance because they are preparing to return to their higher expressions.

    มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นบนโลกในขณะนี้, ดาวโลกทั้งดวงมีความพร้อมที่จะเริ่มการกลับคืนสู่วิญญาณระดับสูง. ดังนั้น, เมฆ/วิญญาณระดับสูงจำนวนมากกำลังส่งทางเดินเล็กๆลงมาเพื่อนำทางประกายแสงชีวิตของพวกเขากลับบ้าน. ข้อความทางจินตภาพนี้ได้แจ้งให้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์, ระบบสุริยะจักรวาล และแกแลกซี่ที่มีรูปธรรมนับไม่ถ้วน, รวมทั้งรูปธรรมดาวเคราะห์, ที่กำลังแสวงหาการสนับสนุน. พวกเขาร้องขอความช่วยเหลือเพราะว่าพวกเขากำลังเตรียมตัวที่จะกลับคืนไปสู่ตัวตนที่สูงกว่าของพวกเขา.

    “We, the members of the Galactic Federation, have received this message and are here to assist. This particular planet of is great interest to all of us because it has long been an open Mystery School that developing civilizations could visit to learn about states of consciousness and adherence to reality.

    พวกเรา, สมาชิกของสมาพันธ์แกแลกติก, ได้รับข้อความนี้และกำลังอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือ. โดยเฉพาะดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเราทุกคนเพราะว่ามันได้เปิดเป็นโรงเรียนลึกลับ ที่พัฒนาอารยะธรรมซึ่งสามารถมาเยือนสถานะของความตระหนักรู้และติดตามความเป็นจริงนั้น.

    “Within the Mystery School Earth, there are myriad realities that exist layered in a multidimensional manner, much like clouds in the sky. Differing states of consciousness will adhere you to different frequencies of reality. To enter this Mystery School, a being and/or group of beings had to petition with their Oversoul to enter this multidimensional reality based on polarities. They usually choose to enter Mystery School Earth because they wanted to learn about individuality.

    ภายในโรงเรียนลึกลับของโลก, มีความเป็นจริงมากมายที่ดำรงอยู่เป็นชั้นๆในลักษณะหลากมิติ, คล้ายกันมากกับก้อนเมฆในท้องฟ้า. สถานะที่แตกต่างกันของความตระหนักรู้จะติดตามคุณไปสู่ความถี่ต่างๆของความเป็นจริง. เพื่อที่จะเข้าสู่โรงเรียนลึกลับนี้, รูปธรรมและ/หรือกลุ่มรูปธรรมจำเป็นต้องร้องขอต่อวิญญาณระดับสูงของพวกเขา เพื่อเข้าสู่ความเป็นจริงหลากมิตินี้ ที่มีพื้นฐานอยู่บนความเป็นขั้ว. ปกติพวกเขาเลือกที่จะเข้ามาสู่โรงเรียนลึกลับของโลกเพราะว่า พวกเขาต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว.

    “The fine print of the entry contracts read that they would forget everything once they entered this School. Therefore, many Beings became trapped in the Earth School because they forgot who they were and why they went there. The Mystery School Earth is now closing, but it has more students there than ever. Hence, all the graduates of this School have come to assist the ascending members of Earth to return home to their Oversoul.

    เนื้อหาอย่างละเอียดในสัญญาระบุว่า พวกเขาต้องลืมทุกๆสิ่งเมื่อพวกเขาเข้าสู่โรงเรียนนี้. ดังนั้น, รูปธรรมจำนวนมากมายเป็นติดกับอยู่ในโรงเรียนโลกเพราะว่า พวกเขาลืมไปว่าพวกเขาคือใครและทำไมพวกเขาจึงมาที่นี่. โรงเรียนลึกลับของโลกกำลังปิดตังลงในขณะนี้, แต่มันมีนักเรียนมากกว่าที่เคย. ดังนั้น, ผู้ที่จบจากโรงเรียนนี้ทั้งหมดได้มาเพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่กำลังยกระดับของโลก ให้กลับบ้านสู่วิญญาณระดับสูงของพวกเขา.

    “Many members of Mystery School Earth are fully aware that the lower dimensions of Earth’s Mystery School is closing and are totally prepared to begin their return to Oversoul. However, they are not prepared to make the leap from a third/fourth dimensional reality directly into their seventh dimensional Oversoul. Instead, they will return to their Oversoul dimension by dimension.


    สมาชิกจำนวนมากของโรงเรียนลึกลับของโลกรู้อย่างเต็มที่ว่า มิติระดับต่ำของโลกของโรงเรียนลึกลับกำลังจะปิดลง และกำลังเตรียมตัวอย่างเต็มที่เพื่อเริ่มเดินทางกลับสู่วิญญาณระดับสูงของพวกเขา. อย่างไรก็ตาม, พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวในการกระโดดจากความเป็นจริงมิติที่สาม/สี่ เข้าสู่มิติที่เจ็ดของวิญญาณระดับสูง. พวกเขาจะกลับสู่วิญญาณระดับสูงทีละมิติ.

    “The first reality that they will return to is the fifth dimension, then the sixth dimension and, eventually, the seventh dimensional Oversoul. Every being who has taken a form on third/fourth dimensional Earth has experienced many Life Streams during their long journey into the polarized realities of Mystery School Earth.

    ความเป็นจริงแรกที่พวกเขาจะกลับไปก็คือมิติที่ห้า, จากนั้นก็เป็นมิติที่หก และในที่สุดมิติที่เจ็ดของวิญญาณระดับสูง. ทุกๆรูปธรรมผู้สวมใส่รูปบนโลกมิติที่สาม/สี่ได้มีประสบการณ์ของกระแสชีวิตมากมายระหว่างการเดินทางที่ยาวไกล เข้าสู่ความเป็นจริงของความเป็นขั้วของโรงเรียนลึกลับของโลก.

    “We will, now, return to our metaphor of the Oversoul being a Cloud and the Life Sparks being the rain. Just as the rain first touches the highest peaks to become snow and eventually finds it way to the Ocean, Life Sparks must go through many transitions in order to find your way down into the third/fourth dimensions of planet Earth.

    ขณะนี้พวกเราจะกลับไปที่การเปรียบเทียบของวิญญาณระดับสูงของก้อนเมฆและประกายแสงชีวิตที่กลายเป็นฝน. เมื่อฝนสัมผัสยอดเขาครั้งแรกก็กลายเป็นหิมะและในที่สุดก็ค้นพบหนทางไปสู่มหาสมุทร, ประกายแสงชีวิตต้องเดินทางผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายเพื่อจะค้นหาหนทางลงไปสู่มิติที่สาม/สี่ของดาวโลก.


    “The Oceans create great expanses of water, so that the rain can be pulled back into the clouds. Many Life Sparks on Earth hear the call of their Oversoul and are ready to begin their long journey home. In fact, the Planetary Being known as Earth is, also, ready to return to Her higher expressions. If the Life Sparks and the planet can join together as an ocean of Planetary, Unity Consciousness their call for assistance will be greatly amplified.

    มหาสมุทรได้สร้างการขยายตัวอย่างมากของน้ำ, เพื่อให้ฝนสามารถถูกดึงกลับไปสู่เมฆ. ประกายแสงชีวิตจำนวนมากบนโลก ได้ยินเสียงเรียกของวิญญาณระดับสูงของพวกเขา และพร้อมที่จะเริ่มการเดินทางที่ยาวไกลเพื่อกลับบ้านของพวกเขา. อันที่จริง, ดาวโลกก็พร้อมที่จะกลับสู่ตัวตนที่สูงกว่าของเธอ. ถ้าหากประกายแสงชีวิตและดาวเคราะห์สามารถร่วมกันในฐานะมหาสมุทรของดาวเคราะห์, ความตระหนักรู้ของความเป็นหนึ่งเดียวกันของพวกเขาที่ร้องขอความช่วยเหลือจะขยายออกอย่างมาก.

    “Earth will begin Her long journey back to Oversoul by being Her fifth dimensional expression of New Earth, and many of Her Life Sparks will join Her there. Many of us who have become members of the Galactic Federation, including you, Mytre, have taken many incarnations on Gaia’s body of Earth. Hence, we have returned in answer to Her call for assistance. Do you understand what we are saying Mytre?”

    โลกจะเริ่มการเดินทางยาวไกลกลับสู่วิญญาณระดับสูงด้วยการเป็นโลกใหม่มิติที่ห้า, และประกายแสงชีวิตจำนวนมากของเธอจะร่วมกับเธอที่นั่น. พวกเราจำนวนมากผู้ซึ่งกลายเป็นสมาชิกของสมาพันธ์แกแลกติก, รวมถึงคุณ, Mytre, ได้มาเกิดหลายชาติบนร่างกายของไกอาโลก. ดังนั้น, พวกเราได้กลับไปในคำตอบต่อคำร้องขอของเธอสำหรับความช่วยเหลือ. คุณเข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังพูดหรือเปล่า Mytre?

    I was a bit taken back by the Arcturian’s question, as I simultaneously realized that I was now awake. I understood that this question was an invitation, as well as a challenge. Then, I remembered that this journey began with my trying to assist my Homeworld to ascend.


    ผมชะงักเล็กน้อยกับคำถามของชาวอาร์คทูเรี่ยน, ซึ่งผมรู้ไปพร้อมๆกันว่าขณะนี้ผมตื่นแล้ว. ผมเข้าใจว่าคำถามนี้เป็นคำเชิญ, เช่นเดียวกับเป็นการท้าทาย. จากนั้น, ผมก็จำได้ถึงการเดินทางนี้ เริ่มต้นที่ผมพยายามช่วยเหลือโลกของผมในการยกระดับ.

    I also remembered that Kepier said that I would need to assist Gaia to ascend in order to help my Homeworld. I was also aware that I could not have the hidden agenda of assisting Gaia’s Earth in order to assist my Homeworld. I could feel the Arcturian reading my every thought, as it patiently waited for me to move through my many thoughts.


    ผมจำได้ด้วยว่า Kepier พูดว่าผมจำเป็นต้องช่วยเหลือไกอาในการยกระดับ เพื่อที่จะช่วยเหลือโลกของผม. ผมรู้เช่นกันว่าผมไม่สามารถมีวาระซ่อนเร้นของการช่วยเหลือโลกไกอา เพื่อช่วยเหลือโลกของผม. ผมสามารถรู้สึกว่าชาวอาร์คทูเรี่ยนอ่านทุกๆความคิดของผม, ซึ่งเขารอคอยอย่างอดทนสำหรับผมในการเดินทางผ่านความคิดมากมายของผม.

    It was then that I realized that I was considering my thoughts in isolation from my heart. I was not using my Heart/Mind. No wonder I was confused. If I were to decide rather or not to take part in the immense responsibility of assisting an entire world to ascend, I would need to surrender to the Knowing of my Heart/Mind.

    มันเป็นหลังจากนั้นที่ผมตระหนักว่า ผมพิจารณาความคิดของผมแยกออกจากหัวใจของผม. ผมไม่ได้ใช้หัวใจ/จิตใจของผม. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมรู้สึกสับสน. ถ้าผมต้องตัดสินใจว่าผมจะร่วมหรือไม่ร่วมในความรับผิดชองอันยิ่งใหญ่ของการช่วยเหลือโลกทั้งมวลเพื่อการยกระดับ, ผมจำเป็นต้องยอมเพื่อที่จะรู้เกี่ยวกับหัวใจ/จิตใจของผม.

    I thought of the members of Earth receiving the same invitation to assist with planetary ascension. When I realized that they, too, would need to confront their hidden agendas, I felt great compassion for them. Did they even know that they had a Heart/Mind?


    ผมคิดถึงสมาชิกของโลกที่ได้รับคำเชิญเหมือนกันเพื่อช่วยเหลือการยกระดับของดาวเคราะห์. เมื่อผมรู้ว่าพวกเขา, เช่นเดียวกัน, จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับวาระซ่อนเร้นของพวกเขา, ผมรู้สึกเห็นอกเห็นใจพวกเขาอย่างมาก. พวกเขารู้หรือไม่ว่าพวกเขามีหัวใจ/จิตใจ?

    “Perhaps it is your privilege to tell them,” spoke the Arcturian.

    “บางทีมันเป็นสิทธิพิเศษของคุณที่จะบอกพวกเขา,” ชาวอาร์คทูเรี่ยนพูด.


    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
    (ตอนต่อไปข้อความที่ x หน้าที่ y)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2012
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีเรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่งอยากจะเล่าให้ฟังครับ

    เมื่อก่อน คือแค่ไม่ถึงเดือนมานี้หนะนะครับ
    ผมจะเป็นคนไม่ชอบ chat ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเลย สาเหตุหลักก็คือ
    เพราะไม่ว่าง ต้องทำงาน ไม่มีเวลามานั่ง chat กับใครหรอก

    และยิ่งจะให้มานั่งเล่น facebook กับใครเขาแล้วด้วยนี่
    แทบจะไม่มีทางเลยหละครับ เพราะไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนไปเล่น
    ไหนจะต้องทำงาน และไหนจะต้องแปล และ โพสต์อะไรพวกนี้อีก

    แต่ช่วงก่อนหน้านี้ราวๆ 2 ปีก่อนนี้ เพราะอยากหาช่องทางอีกช่องทางหนึ่ง
    ในการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องการเลื่อนระดับขึ้นนี้แหละออกไป
    เลยไปเปิด facebook ทิ้งไว้ และก็โพสต์เฉพาะข้อมูลพวกนี้เท่านั้น
    แทบไม่สนใจไปพูดคุยโต้ตอบกับใครเลย
    เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ ขนาดใครเขาเข้ามาอวยพรวันเกิดให้
    ยังไม่ได้ตอบขอบคุณเขาเลย จนป่านนี้

    เพราะตอนนั้นผมนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าทำไมผมถึงจะต้องไปสนใจ
    หรือไปรับรู้ว่าใครจะทำอะไรอยู่ ในแต่ละวัน ใครไปกินอะไรมา
    ใครไปเที่ยวที่ไหนมา แล้วเอารูปมาให้ดู หรือเอาเรื่องราวมาเล่าให้ฟัง
    เรื่องแบบนั้น ผมนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าผมจะรู้ไปทำไม?

    แต่พอมาช่วงยังไม่ถึงหนึ่งเดือนมานี่เอง มีเหตุเศร้าใจในชีวิต
    ก็เลยหาอะไรทำแก้เครียด และหาเพื่อนคุยแก้กลุ้ม
    ซึ่งไอ้ครั้นจะชวนเพื่อนมานั่งกินเหล้าด้วย แล้วคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กัน
    ก็ทำมาเยอะแล้ว ไม่เห็นจะหายกลุ้มเลย ก็เลยหาอะไรใหม่ๆทำบ้าง

    ก็เลยกลับมาลองเล่น facebook ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
    เพราะตอนนั้น จะว่าไปแล้ว มันก็เหมือนปรากฎการณ์
    synchronicity อยู่นะครับ คือมันจะประมาณว่า
    บังเอิญเพราะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น จึงได้บังเอิญมาทำเรื่องนั้น
    และจึงได้บังเอิญมาเป็นแบบโน้น อะไรแบบนั้นหนะครับ

    ในความคิดในช่วงนี้ มันจะรู้สึกอยู่ว่า "คนทั้งโลกนี้คือหนึ่งเดียวกัน"
    และดังนั้น ก็เลยมี "จิตสำนึกมวลรวมอันเดียวกัน" หรือที่เขาใช้ศัพท์
    คำว่า Collective Consciousness หรือ Planetary Consciousness
    ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับใคร ที่ไหน อย่างไร เรื่องเล็กหรือใหญ่เพียงใด
    มันก็ย่อมจะส่งผลกระทบมาถึงเราด้วย และถึงส่วนรวมด้วย
    ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และ ไม่มากก็น้อยด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในตอนนี้ ความรู้สึก หรือ ทัศนคติของผม
    ที่มีต่อ facebook หรือเครือข่ายออนไลน์ใดๆก็ตาม จึงเปลี่ยนไป
    เพราะผมรู้สึกว่า ยังไงเสียมนุษย์เราก็แยกขาดจากกันไม่ได้หรอก
    และถ้ายิ่งมีช่องทางอันใด ที่ทำให้พวกเรารู้สึกไม่ห่างกัน เราก็ควรจะใช้มัน
    ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ต หรืออะไรก็ตามแต่

    ดังนั้น มนุษย์โลกยุคใหม่ จึงไม่ค่อยรู้สึกว่า ระยะทาง
    จะมีความหมายต่อพวกเขามากมายเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว

    จะว่าไปแล้วมันก็เป็น "แนวความคิด" หนึ่ง ที่สอดคล้องกับ "ยุคใหม่"
    ที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วยนะครับ เพราะว่าในยุคใหม่นี้ จะไม่มีความมืดมิด
    หรือจะไม่มีความดำมืด ของความลับอันโสมม หรืออะไรก็ตามแต่ที่ชั่วร้าย
    เพราะว่าถ้าทุกคนพูดความจริงต่อกัน การปกปิดความลับก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นนัก

    พวกเราทุกคนล้วนมีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงมากมาย หลายรุ่น หลายสมัยกันทั้งนั้น
    และถ้าเราเอง เป็นหนึ่งใน Lightworker หละ อะไรคือสิ่งที่เราจะทำได้
    โดยอาศัยเครือข่ายทางสังคมเหล่านี้ เพื่อทำให้ "กระแสจิตมวลรวม"
    ของกลุ่มคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเราเหล่านี้ ถูกยกระดับขึ้น
    หรือเป็นไปในทางบวก แม้ว่าจะกำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤตการด้านใดอยู่ก็ตาม

    ตัวอย่างเพื่อนในกลุ่ม facebook ของผม ก็มีคุณ Ris Sucha
    ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วว่าเธอเป็นใคร คือ แม้ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการเมือง
    ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง และแม้ว่าเพื่อนบาง คนของผมจะเอามาพูดกัน
    จนรู้สึกเครียดไปหมดก็ตาม..แต่เธอ..คุณ Rin Sucha ก็มีวิธีการของเธอ
    ในอันที่จะ "บรรเทา" องศาของความร้อนลงมาได้ ด้วยการโพสต์สิ่งเหล่านี้ครับ


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    และอีกมากมาย..

    ผมจึงเห็นว่า นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป
    ที่จะสามารถรักษาระดับความสั่นสะเทือนของจิตสำนึกมวลรวม
    ของกลุ่มคน และของคนทั้งโลกในท้ายที่สุด
    ให้สั่นสะเทือนอยู่ในระดับที่สูงอยู่เสมอ หรือสูงมากที่สุด
    เท่าที่จะเป็นไปได้ได้ มันไม่ยากเลยใช่ไหมหละครับ

    ยุคใหม่ จะไม่มี "การชี้ถูกผิด" ให้ใครอีกแล้ว หรืออย่างน้อยก็น่าจะน้อยลง
    ดังนั้น การเห็นว่าใครดีใครชั่ว ด้วยบันทัดฐานหนึ่งๆของตัวเราเอง
    หรือของสังคมใดสังคมหนึ่ง จึงจะไม่สามารถใช้ได้กับ ยุคสมัยข้างหน้านี้
    เพราะว่า ในความเป็นจริง ที่จริงแท้แล้ว มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นอะไร
    ได้ทะลุปรุโปร่งไปจนถึงราก ถึง โคนเหตุของมัน
    อันนี้ยังไม่นับเรื่อง Divine Blueprint เลยนะครับ

    แต่ว่า ความเข้าใจนี้ หรือความเข้าใจอื่นๆเหล่านี้
    ใครหละจะเป็นคนเผยแพร่มันออกไป ถ้าไม่ใช่เราเอง ที่จะถ่ายทอดต่อไป
    สู่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงคนสนิทของเรา ตามโอกาส ตามเวลาที่เหมาะสม
    เท่าที่พวกเขาจะรับได้ และเท่าที่พวกเขาจะขอมา

    โอ้ synchronicity อีกแล้วครับ พอพิมพ์มาถึงตรงนี้ ผมนึกถึง
    ข้อความของท่าน Hilarion ล่าสุดนี้ขึ้นมาทันทีเลยครับ ที่ว่า

    ...มันถึงเวลาแห่งการทำตัวให้สอดคล้องกับความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวพวกคุณเองแล้ว
    มันถึงเวลาที่จะต้องทุ่มเทให้กับการพินิจพิเคราะห์และจดจ่อใคร่ครวญ
    ถึงสิ่งที่พวกคุณจะนำออกมาสู่โลกแล้ว ซึ่งนั่นก็คือของขวัญ/พรสวรรค์ของพวกคุณเอง,
    แสงสว่างของพวกคุณเอง

    พวกคุณจะต้องส่องแสงสว่างออกไปให้สว่างเจิดจ้ามากขึ้นกว่าเดิม
    โดยไม่ปิดบังซ่อนเร้นมันเอาไว้อีกต่อไปแล้ว ...


    ที่มา: โพสต์ที่ 6420 ตามลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ
    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-321
    ............................................................

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    [​IMG]

    โดยเฉพาะสองรูปนี้ ผมนั่งมองแทบทุกวันเลยหละครับ
    ชอบมากกกก..เพราะมันทำให้จิตใจสดชื่นขึ้นมาได้จริงๆ

    รูปแรกนั้นก็น่ารักสุดจะบรรยาย เห็นความใสซื่อบริสุทธิ์
    ของทั้งทารกน้อย และทั้งเจ้าตูบสองตัวนั้นแล้ว
    ร้อยพันคำพูดก็มิอาจทดแทนได้

    ส่วนรูปที่สองนั้น ผมเห็นหน้าบ๊องแบ๊วของเจ้าตูบสองตัวนี้แล้ว
    มันน่ารักจริงๆเลย หน้าตามันซื่อบื่อมากเลย ดวงตาก็แป๋วๆ
    ไม่รู้จะพูดไงดี อิอิ..

    แถม.."อูฮูฮู..อย่าขรี้ใส่หัวหนูนะ!"

    [​IMG]

    ...................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012
  20. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation
    ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey
    ที่มา : Galactic Channelings - English


    SaLuSa, November 28, 2012

    As you are realising, very few of the long standing predictions for this year have come true and it has been very much a normal year. There is always much happening of a physical nature which goes largely unreported. So it is nice to report that little has happened, that could fulfil the expectations of those preparing for major upheavals and catastrophes. You can take much credit for the outcome, as the vibrations of the Earth have been considerably lifted to what the were just a few years ago. The amount of Light attracted to the Earth has lessened the need for more energetic cleansing. We of the Galactic Federation have also helped by also taking part in the cleansing, and generally preventing pollution from becoming worse. That also includes Chemtrails which had the potential to seriously affect all forms of life.

    คุณกำลังตระหนักว่า, มีคำทำนายน้อยมากสำหรับปีนี้ที่เป็นความจริง และมันเป็นปีที่ปกติมากๆ. มีสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่เสมอเกี่ยวกับธรรมชาติทางกายภาพ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรายงาน. มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะรายงานว่ามีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นเล็กน้อย, ที่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ที่เตรียมตัวสำหรับกลียุคและภัยพิบัติ. คุณได้รับความดีความชอบเป็นอันมากสำหรับผลลัพธ์นี้, เนื่องจากความถี่ของโลกได้ยกระดับขึ้นอย่างมาก จากที่เคยเป็นเมื่อสองสามปีก่อน. ปริมาณของแสงสว่างที่ดึงดูดลงมาสู่โลกได้ลดความจำเป็นของการชำระล้างทางพลังงาน. พวกเราสมาพันธ์แกแลกติกก็ได้ช่วยเหลือเช่นกันในการมีส่วนในการชำระล้าง, และปกป้องมลภาวะโดยทั่วไปไม่ให้เลวร้าย. นั่นรวมถึงการปล่อยสารเคมีซึ่งมีศักยภาพที่ให้ผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตทุกๆรูปแบบ.

    Now your path through the final few weeks of duality should pass quite peacefully, allowing you to concentrate on your preparations for Ascension. The best advice is to keep calm and peaceful, and do not let anything distract you from your focus on it. You will be making history by being one that is actually on Earth to experience everything associated with Ascension. The old vibrations will no longer be able to interfere with your evolution, and in there place will be heightened vibrations that will lift you up. Most of you should register some pleasant reactions to the changes, although for some they will be difficult to assimilate. A total frequency change is naturally far reaching, and all life forms will be affected to some degree.

    ขณะนี้หนทางของคุณสู่สองสามสัปดาห์สุดท้ายในทวิภาวะ ควรจะผ่านไปอย่างค่อนข้างเต็มไปด้วยสันติ, อนุญาตให้ตัวคุณมีสมาธิกับการเตรียมตัวสำหรับการยกระดับ. คำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ รักษาความสงบและสันติ. และไม่ยอมให้สิ่งใดๆทำให้คุณเขวออกจากความสนใจในการยกระดับ. คุณจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หนึ่ง ที่มีประสบการณ์บนโลกจริงๆต่อทุกๆสิ่งที่เกี่ยวกับการยกระดับ. ความถี่เก่าจะไม่สามารถแทรกแซงการวิวัฒนาการของคุณได้อีกต่อไป, และในที่นั้นจะยกระดับสูงขึ้นซึ่งจะยกระดับคุณขึ้นด้วย. พวกคุณส่วนใหญ่ควรลงทะเบียนต่อปฏิกิริยาที่น่ายินดีของการเปลี่ยนแปลง, แม้ว่าสำหรับบางคนมันเป็นการยากที่จะรับไว้. ความถี่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างเต็มที่จะเป็นธรรมชาติที่ยังอยู่ห่างไกล, และชีวิตทุกๆรูปแบบจะได้รับผลกระทบในบางระดับ.

    Dramatic changes will follow Ascension, many of which you should have already experienced. However all will happen in good time, but in quick time to give you the advancements that should have already commenced, but for the stalling tactics of the dark Ones. The dark Ages with all of their limitations will be replaced by one that sees you uplifted in so many ways, and brings the people of your civilization together in mutual love and respect for each other. All past differences will be set aside, to bring you close together in loving co-operation and unity. That will no longer be difficult to achieve as the false barriers placed between you, will fall away as trust replaces the fears created to keep you apart.

    การเปลี่ยนแปลงอย่างมากจะตามมาหลังจากยกระดับ, พวกคุณจำนวนมากควรจะมีประสบการณ์เรียบร้อยแล้ว. อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดจะเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม, แต่การให้สิ่งก้าวหน้าต่างๆแก่คุณจะเป็นในเวลาที่รวดเร็วซึ่งได้เริ่มไปแล้ว, แต่เนื่องจากกลยุทธ์การถ่วงเวลาของฝ่ายมืด. ยุคมืดพร้อมกับข้อจำกัดทั้งปวงของมันจะถูกแทนที่ด้วยการเห็นคุณยกระดับขึ้นในหลายๆทาง, และนำพาผู้คนของอารยะธรรมของคุณไปด้วยกันในความรักซึ่งกันและกันและการเคารพซึ่งกันและกัน. ความแตกต่างในอดีตจะถูกทิ้งไว้ข้างทาง, เพื่อนำคุณใกล้ชิดไปด้วยกันในความรัก ความร่วมมือและความเป็นหนึ่งเดียวกัน. จะไม่ยากอีกต่อไปที่จะบรรลุความสำเร็จ ซึ่งอุปสรรคที่อยู่ระหว่างคุณจะถูกขจัดออกไป ความเชื่อถือจะเข้ามาแทนที่ความกลัวที่ทำให้คุณแยกจากกัน.

    You can start now to become your real self, by being outgoing and loving and able to express your true feelings. For too long you have been bound by fear of what others may think of you, that you have even hesitated to show your natural love for others. Find the inner child within you heart that knows not of your doubts and caution, but glories in being able to freely share its Light and Love. You have been moulded into what you think of as yourself, by selective training all through your upbringing. You are being set free to share your enjoyment of life with all others. In the future no one will be offended by a show of love and it will become a quite natural way of greeting each other, as you are all One.

    คุณสามารถเริ่มได้แล้วในตอนนี้เพื่อให้กลายเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ, ด้วยการออกไปและความรักและสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ. มันนานเกินไปกับการที่คุณถูกกักขังด้วยความกลัวเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นอาจคิดต่อคุณ, ที่คุณลังเลที่จะแสดงความรักตามธรรมชาติต่อผู้อื่น. ค้นหาความเป็นเด็กภายในหัวใจของคุณที่ไม่รู้จักความสงสัยและความระวัง, แต่มีความสุขที่ได้แบ่งปันแสงสว่างและความรักอย่างอิสระ. คุณถูกทำให้เป็นสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นตัวคุณ, ด้วยการเลือกการอบรมผ่านการศึกษาของคุณ. คุณจะมีอิสระในการแบ่งปันความสุขในชีวิตของคุณกับผู้อื่น. ในอนาคตจะไม่มีใครถูกโจมตีจากการแสดงความรัก และมันจะค่อนข้างเป็นวิถีทางธรรมชาติในการยินดีซึ่งกันและกัน, เนื่องจากพวกคุณทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน.

    Yes, the meek shall inherit the Earth, and those who have caused so much trouble with their deliberate wars of death and destruction, will be removed from your midst. Only the gentle and loving souls shall remain to enjoy a happy and joyful life, such as they have not known in duality. You have proved that you are mighty souls with hearts of gold, and all will recognize you as ascended Beings. Your creative powers will be channelled into purposeful creations for the good of all. Hitherto, you have not realised how powerful you really are, and have not been in control of your abilities. Do not worry however as with Ascension your increase in levels of consciousness will change all of that.

    ใช่, ผู้ที่สุภาพจะอยู่ในโลกสืบต่อไป, และผู้ที่เป็นเหตุแห่งปัญหามากมายด้วยการจงใจก่อสงครามแห่งความตายและความหายนะ, จะถูกกวาดล้างออกไปจากคุณ. เฉพาะผู้ที่สุภาพและวิญญาณที่มีความรักจะยังคงเพลิดเพลินกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข, ซึ่งไม่เคยรู้ในทวิภาวะ. คุณได้พิสูจน์แล้วว่าคุณเป็นวิญญาณที่มีอำนาจด้วยหัวใจทองคำ, และทั้งหมดจะรับรู้คุณในฐานะผู้ยกระดับ. อำนาจการสร้างสรรค์ของคุณจะเป็นช่องทางเข้าสู่การสร้างสรรค์ด้วยความมุ่งหมายสำหรับสิ่งดีๆเพื่อทุกคน. จนกระทั่งบัดนี้, คุณยังไม่รู้ว่าคุณมีอำนาจแค่ไหนตามความเป็นจริง, และยังไม่ได้อยู่ในการควบคุมของความสามารถของคุณ. อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวล ด้วยการยกระดับ การเพิ่มระดับความตระหนักรู้ของคุณจะเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของสิ่งเหล่านั้น.

    You are co-creators with God, and your service to others will take you all over the Universe. You will have unique qualities resulting from your varied experiences in duality. You will be looked upon as the Masters of Light, and help other emerging civilizations to evolve. However, that time lays somewhat ahead of where you are now, but you will be drawn to serve others in that way. You have had a long and arduous journey, but have gained much that is greatly admired by us. You will take your place along side us equals, and many of you will choose to join the Federation. You know enough about us now to make such decisions, and our comments apply equally to both male and female. In that respect unlike now, you will both be balanced in the two energies, and the differences in them will be hardly noticeable.

    คุณคือผู้ร่วมสร้างกับพระเจ้า, และการรับใช้ที่คุณมีต่อผู้อื่นจะพาคุณไปทั่วจักรวาล. คุณจะมีคุณสมบัติเฉพาะที่เป็นผลมาจากประสบการณ์ที่แตกต่างกันของคุณในทวิภาวะ. คุณจะได้การมองในฐานะผู้ชำนาญแห่งแสงสว่าง, และช่วยเหลืออารยะธรรมเกิดใหม่อื่นๆวิวัฒนาการ. อย่างไรก็ตาม, เวลานั้นได้วางบางสิ่งไว้เบื้องหน้าคุณที่คุณอยู่ในขณะนี้, แต่คุณจะได้รับการวางตัวให้ช่วยเหลือผู้อื่นในหนทางนั้น. คุณเดินทางมายาวนานและยากลำบาก, แต่ก็ได้รับการยกย่องจากพวกเราอย่างมากมาย. คุณจะเข้าสู่ที่ของคุณเคียงข้างพวกเราอย่างเท่าเทียมกัน, และพวกคุณจำนวนมากจะเลือกการเข้าร่วมกับสมาพันธ์. คุณรู้มากพอเกี่ยวกับพวกเราในขณะนี้เพื่อทำการตัดสินใจ, และคำแนะนำของพวกเราจะใช้อย่างเท่าเทียมกันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย. ในส่วนที่แตกต่างจากตอนนี้, คุณจะมีความสมดุลของพลังงานทั้งคู่(พลังเพศหญิงพลังเพศชาย), และความแตกต่างระหว่างพลังงานทั้งสองจะไม่ค่อยเห็นชัด.

    In spite of the turmoil in your world at present the prospect of peace remains very real. It is being approached at the highest level, and the response is encouraging. It is removal of the fear of the big powers that holds smaller countries back, but we can easily maintain the peace once an agreement is reached to disarm. Peace is an absolute must if you are to enter the higher dimensions, as it will not support the low vibrations of the threat of war. Together with the moves to achieve governmental changes that are also proceeding, dramatic changes will occur that will change the whole face of your civilization. Then you can add disclosure, and matters will be able to go forward with all speed. These events are not far away at all, and our allies are working very hard to bring them to fruition.

    นอกจากความวุ่นวายในโลกของคุณในขณะนี้ โอกาสของสันติภาพยังคงเป็นจริงอย่างมาก. มันกำลังใกล้เข้ามาในระดับสูงสุด, และการตอบสนองก็ได้รับการสนับสนุน. มันกำจัดความกลัวของอำนาจขนาดใหญ่ที่หน่วงเหนี่ยวประเทศขนาดเล็ก, แต่พวกเราสามารถรักษาสันติภาพได้อย่างง่ายดาย เมื่อมีข้อตกลงในการวางอาวุธ. สันติภาพต้องเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อคุณเข้าสู่มิติที่สูงกว่า, ซึ่งมันจะไม่สนับสนุนความถี่ระดับต่ำของการคุกคามของสงคราม. ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลก็กำลังก้าวหน้าเช่นกัน, การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทั้งหมดของอารยะธรรมของคุณ. จากนั้นคุณสามารถเพิ่มการเปิดเผย, และสาระสำคัญจะสามารถคืบหน้าไปด้วยความเร็วทั้งหมด. เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่ไกลออกไปอีกแล้ว, และพันธมิตรของพวกเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อนำมาซึ่งผลสำเร็จ.

    We clearly place a great deal of importance on disclosure, as it is a means of bringing us together and entering a relationship that is necessary for your progress. More importantly is our part in overseeing the vast changes to your society, and helping your big commercial companies handle the changes affecting them. There have to changes that reflect the need for smaller groups rather than monopolies, and adjustments to new ways of working. You will see that in future business will be on an open basis, so that everyone will know what is taking place and that it is operating on honest and just principles. That should be easy as those criminal elements that exist in your society now will have been removed.

    ชัดเจนว่าพวกเราวางการจัดการอย่างมากของความสำคัญบนการเปิดเผย, ซึ่งมันหมายถึงการนำพาพวกเราไปด้วยกัน และเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าของคุณ. ที่สำคัญกว่านั้นก็คือส่วนของพวกเราในการมองการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อสังคมของคุณ, และช่วยเหลือบริษัทการเงินขนาดใหญ่ของคุณจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่กระทบพวกเขา. ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนความต้องการของกลุ่มเล็กๆมากกว่าการผูกขาด, และการปรับสู่หนทางใหม่กำลังดำเนินการ. คุณจะเห็นว่าธุรกิจในอนาคตจะอยู่บนพื้นฐานที่เปิด, เพื่อให้ทุกคนรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและมันดำเนินการอยู่บนความซื่อตรงและมีหลักการ. นั่นควรจะเป็นเรื่องง่ายเมื่อองค์ประกอบของเหล่าอาชญากรรมที่อยู่ในสังคมของคุณในขณะนี้จะถูกกวาดล้างออกไป.


    I am SaLuSa from Sirius, and want you to remove your focus from the past, and give your energy to the new in accordance with your expectations. That way you will help bring it in much quicker, and also be more prepared for what will take place. We are with you Dear Ones, and it will always be so.

    I am SaLuSa from Sirius, และต้องการให้คุณย้ายความสนใจในอดีต, และให้พลังงานของคุณกับสิ่งใหม่ที่สอดคล้องกับความคาดหวังต่างๆของคุณ. ในหนทางนั้นคุณจะช่วยนำมันเข้ามาเร็วขึ้น, และเตรียมพร้อมมากขึ้นสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น. พวกเราอยู่กับคุณที่รักทั้งหลาย, และมันจะเป็นเช่นนั้นเสมอ.

    Thank you SaLuSa.
    Mike Quinsey

    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...