เมืองมหัศจรรย์กลางทะเลทราย

เมืองประหลาดกลางทะเลทราย ;aa51


เริ่มต้นด้วยเมืองแรก เกาะสีลูกกวาดที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศกรีกใกล้กับตุรกี
เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามด้วยเหตุที่บ้านทุกหลังทาสีสันราวกับลูกกวาดตั้งอยู่เรียงรายชิดกันตามเชิงเขาหินทะเลทรายริมทะเลเมดิเตอเรเนียน
ดูแล้วคล้ายกับภาพวาดง่ายๆ สบายตา ในจินตนาการของเด็ก












เมืองประหลาดแห่งที่สองคือ "ชิบาม" ประเทศเยเมน เมืองนี้เรื่องชื่อว่าแมนฮัตตันแห่งเยเมน เนื่องด้วยตึกสีขาวสูงฉะลูดประหลาดตาประดับประดาด้วยช่องหน้าต่างเรียบเรียบสไตน์ฮิสลามนั้นสร้างจากดินโคลนและก่อด้วยมือของช่างท้องถิ่นโดยปราศจากเครื่องทุ่นแรงด้านเทคโนโลยี หากใครชื่นชอบความสงบวังเวง เมืองนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางที่อยากจะวิ่งเล่นซ่อนแอบตามซอกตึกที่ดูประหลาดตาเหล่านี้















เมืองประหลาดแห่งที่สาม เรายังคงอยู่ที่เยเมนเหมือนเดิม เมืองนี้มีชื่อว่า " เอาล์ ฮาจาร่า" เมืองนี้ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่เชิงเขาดูตระการตาราวกับภาพที่ออกมาจากหนังแนวแฟนตาซีของฮอลิวูด









เมืองแห่งที่สี่่มีนามว่า เชฟชาอวน หรือเมืองสีฟ้าแห่งโมร็อกโคเพราะเมืองทั้งเมืองทาด้วยสีฟ้าอันเป็นสีของศาสนาอิสลาม หน้าต่างและประตูบ้านล้วนมีดีไซน์การตกแต่งที่แปลกตา










เมืองแห่งที่ห้า อยู่ที่ประเทศตุรกี กอเรเม่และแคปปาโดเซียเป็นเมืองที่เกิดจากภูมิประเทศอันแปลกประหลาด ภูเขาไฟระเบดทำให้เกิดปล่องหินมากมายที่มีรูปร่างคล้ายโดมหอคอย ราวกับในเทพนิยายฝรั่ง ทำให้ชาวบ้านแถบนั้นเรียกเมืองแห่งนี้ว่าปล่องไฟนางฟ้า สถานที่คนชาวเติร์กแต่โบราณเข้าไปยึดอาศัยทำเป็นบ้าน








เมืองแห่งที่หกอยู่ที่ทางตะวันตกของอินเดีย เมืองนี้มีชื่อว่า เมรังกาห์ เมืองนี้ออกจะคล้ายเชฟชาอวนในโมร็อกโคด้วยเหตุที่บ้านทุกหลังล้วนทาสีฟ้า แต่จะต่างกันที่เชฟชาอวนตั้งยู่บนเขาส่วนเมรังการ์อยู่ตีนเขา








เมืองที่เจ็ด หมู่บ้านสไตน์รังนกตามไหล่เขา หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า พาลันกาน อยู่ที่แคว้น เคอรดีสถาน ประเทศอิหร่าน







อันดับแปดบ้านทรงรังผึ้งประเทศซีเรียเทคนิกการสร้างบ้านทรงนี้เป็นของชาวซีเรียโบราณที่พิสูจย์แล้วว่าทำให้บ้านเย็นได้ราวกับติดแอร์เลยทีเดียว เหมาะอย่างยิ่งกับอากาศร้อนๆในทะเลทราย







อันดับเก้าบ้านกระโจมของชาวนอหมัดที่เดินทางกลางทะเลทราย








อันดับสิบบ้านสไตน์โมร็อกคันที่มีอยู่มากมายในเมืองมาราเกซประเทศโมร็อกโค การตกแต่งที่ดงามลึกลับจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงในนิทานอาระเบียนไนท์
















เมืองสุดท้าย ซิดี้ บัว เซด ประเทศตูนีเซียที่นี้เองที่นักท่องเที่ยวจะพบกับประตูบ้านทรงแปลกๆหลากสี ผสมกันระหว่างศิลปะสเปนและมุสลิม






[MUSIC]http://k002.kiwi6.com/hotlink/t4houm4hz8/mix_top_turk_arab_music.mp3[/MUSIC]

fishh_


......

 

อีกที่ที่น่าสนใจ คือ อาบูดาบีที่นี้นอกจากจะโรงแรมใต้น้ำที่ห้องนอนคล้ายกับอยู่ใน อคาเรี่ยมปลาแล้ว ยังมีโบสถ์
อิสลามใหญ่สีขาว มูสแคส ที่สร้างสไตน์แฟนตาซี ทำให้ท่านรู้สกราวกับเข้าไปนวิหารในเทพนิยาย




































นคร เปตรา นครในช่องเขา ประเทศจอแดน แกะสลักปราสาทจากหลืบเขาหินสีกุหลาบ โดยชาวนาบาเธี่ยน อดีตกองโจรทะเลทรายที่สร้างอารยะธรรมขึ้นจากการปล้นคาราวานพ่อค้าบนเส้นทางสายไหมมจนร่ำรวยมีอำนาจขึ้นมาถึงขนาดสร้างอาณาจักรที่แกะสลักจากช่องเขาเมื่อราว 2500 ปีก่อน ภาพนี้คงเป็นที่ติดตาสำหรับใครหลายๆคนที่เป็นแฟนคลับภาพนตร์ อินเดียน่าโจนตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์หรือ ภาพยนตร์ อารเบียนไนท์ พันทิวาราตรี ของบทประพันธ์โอมาร์ คายัม กวีชาวตะวันออกกลางอันเรื่องชื่อ





มูจิบ วาดี้ แอ่งน้ำเขียวกลางช่องเขาในจอแดนอีกเช่นกัน mujib wadi







;aa56

 

สวยแปลกตามาก ขอบคุณที่เอามาให้ชมนะครับ

 

อ่านเรื่องนาเบเธียนในวิกีพีเดียแล้วมึนเอาเหมือนกัน
อารยธรรมนาเบเธียน อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับการขยายตัวของจักรวรรดิโรมัน
เพตราเลยมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโรมันด้วย
ลองอ่านดูกันน่ะ
Nabataeans - Wikipedia, the free encyclopedia

 

เคยดูในสารคดีว่า ชาวนาบาเธี่ยนเป็นชาวอาหรับแต่จ้างโรมันมาสร้างเมืองให้ ที่เห็นประตูทางเข้าเป็นแบบโรมันเพราะวิศวะกรเป็นชาวโรมัน ที่พวกนาบาเธี่ยนเป็นโจรทะเลทรายนั้นตั้งแต่ก่อนจะสร้างอาณาจักรนาบาเธี่ยน ยังไม่มีเมืองเปตราพวกเขาต้องเก็บเงินนานมากเหมือนกันกว่าจะรวมกลุ่มได้ :boo:

 

สวยมากครับ อยากไปดูสักครั้งจัง

 

ชอบมากครับ สวยมากๆ ไม่เชื่อว่ามนุษย์จะทำได้ขนาดนี้

 

เหมือนเมืองร้างทั้งนั้น
ไม่มีราวตากผ้า ไม่มีของวางแบบมีคนอาศัย
แปลกตาดี ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณมากที่นำมาให้ชมกัน

 

แต่ก็อย่างว่าไม่ประเทศไหนในโลกคนพุกพร่านเท่าเมืองไทยอีกแล้ว คนเยอะมากตามถนน แต่ไปดูทางตะวันตกคนเขาน้อยกว่าเราเยอะ ;9k ช่างภาพคงเลือกถ่ายเวลาที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านด้วยมั้งคะ อย่างเมือง ซาเลห์ ที่
ซาอุก็สวยดีนะคะรู้สึกจะมีสไตน์กรีกเนี้ยหลายที่เหมือนกัน อย่าง ชิราซ ที่อิหร่าน

อันนี้ ซาเลห์ ซาอุ





บาห์ลา โอมาน




อินเดียทางตะวันตกเฉียงใต้นี้ก็สวยนะคะ ;aa54





สระว่ายพระนางคลีโอพัตรา หรือ เฮียร่าโปลิสเคยเป็นซากเมืองโบราณมีน้ำไหลผ่าน อยู่ที่ตุรกี




วาดี้ มูจีบ ประเทศจอร์แดน










พามุคเคลว์ ปราสาทน้ำตกปุยฝ้ายสีขาวน่าแช่ เป็นน้ำตกหินแคลเซี่ยมกับเกลือสีขาวธรรมชาติ ที่ประเทศตุรกี

 

ปิศาจลิสอัลลิสยังอัล ปิศาจ (ประชุม / สถานที่ชุมนุมของปิศาจ Dijn) ชื่อท้องถิ่น: Khoshilat Maqandeli ใหญ่เป็นอันดับสองในโลก 1 ห้องถ้ำ วัดจากพื้นที่ผิวของพื้น อันดับที่ต่ำกว่าทะเลเมื่อวัดโดยปริมาตร 1,380 เมตรเหนือระดับน้ำ ถ้ำตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของที่ราบ ในรัฐสุลต่านโอมานทิศตะวันออกจากมัสกัต 100กิโลเมตร

ในศาสนาอิสลาม เพราะความที่เป็นถ้ำใหญ่ลึกและมีโถงที่สูงมากที่เมื่อลงไปสู่ด้านล่างจะสามารถเห็น แสงพระอาทิตย์เป็นลำส่องลงไปอย่างประหลาดลึกลับ











ที่ราบสูง syncline ตื้นบนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบาลซุจาบีร์ลาด ถ้ำที่ถูกสร้างขึ้นใน fossiliferous หินคาร์บอเนตของกลุ่ม Hadhramaut กลาง Eocene, Formation Dammam. มันเป็นหนึ่งในหลายถ้ำบนที่ราบสูงเซล

อัลลิสเปรตเป็นห้องเดียววัดประมาณ 310 เมตร 225 เมตรด้วยเพดานโค้ง 120 เมตรสูงและสามทางในหลังคา หลังคาทั้งหมดประมาณ 40 เมตรหนากว่ามากที่สุดของถ้ำ ส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำเป็น 178 เมตรด้านล่างด้านบนของประตูทางเข้าที่สูงที่สุด ปริมาตรของห้องจะอยู่ที่ประมาณ 4,000,000 ลูกบาศก์เมตรและพื้นที่ชั้นเป็น 58,000 ตารางเมตร

เมื่อได้รับการสำรวจในปี 1985, อัลลิสเปรตเป็นครั้งที่สองในห้องถ้ำที่ใหญ่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกโดยปริมาณ. แต่มากกว่า 15 ห้องมีขนาดใหญ่กว่าอัลลิสเปรตได้รับการสำรวจตั้งแต่เวลานั้น

น้ำเข้าในถ้ำเก็บตามส่วนลึกสุดของชั้นแล้วแทรกตัวเข้าไปช้าลงในการปรับเป็น เนื้อตะกอนโคลนแตกหรือระเหย เข้ารับการไหลบ่าผิวจากเพียงพื้นที่รับน้ำขนาดเล็กเพื่อให้น้ำไม่เคยมาถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของถ้ำ ในขณะที่อุณหภูมิพื้นผิวเกิน 40 ° C อุณหภูมิอากาศในห้องที่มีความคงที่ 17-18 องศาเซลเซียส

แนวตั้งในเพดานที่เกิดขึ้นโดยน้ำไหลผ่านหินปูน