อยู่ๆมาได้ไง..ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลกใน 24 ชม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย noway, 12 ธันวาคม 2012.

  1. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    Around the World - Manager Online - ฮือฮา! พบดาวเคราะห์น้อย “ทูทาทิส” กว้าง 3 ไมล์ จ่อเคลื่อนเฉียดโลกใน 24 ชั่วโมง

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-พบดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่มีความกว้างราว 3 ไมล์ จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมงข้างหน้า

    รายงานข่าวเมื่อวันอังคาร (11) ซึ่งอ้าง “สลูห์” เว็บไซต์ผู้ให้บริการหอดูดาวแบบออนไลน์ ที่มีฐานอยู่บนเกาะภูเขาไฟ “เตเนริเฟ” ในหมู่เกาะกานารีของสเปน ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทวีปแอฟริกา ระบุว่า ดาวเคราะห์น้อยที่มีชื่อว่า “4179 ทูทาทิส” ขนาดความกว้างราว 3 ไมล์จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกของเรา โดยช่วงที่ดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกของเรามากที่สุดคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงเช้าของวันพุธ (12) ตามเวลาท้องถิ่นของหมู่เกาะกานารีซึ่งช้ากว่าประเทศไทยราว 7 ชั่วโมง

    ทีมผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ศึกษาดาวเคราะห์ขนาดเล็ก (เอ็มพีซี)ในเมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซ็ตต์สของสหรัฐฯ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ดาวเคราะห์น้อย “4179 ทูทาทิส” อาจก่อให้เกิดหายนะต่อโลกของเราหากเกิดการพุ่งชนในอนาคต เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า การพุ่งเข้าจู่โจมโลกของวัตถุใดๆก็ตามที่มีขนาดความกว้างตั้งแต่ 0.6 ไมล์ขึ้นไปจะก่อให้เกิดผลกระทบแก่โลก ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวที่มีความกว้างถึง 3 ไมล์พุ่งชนโลก อาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงจนมิอาจประเมินได้ไม่ต่างสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ที่ส่งผลให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์

    อย่างไรก็ดี แพทริค เปาลุชชี ประธานของ “สลูห์”เผยว่าการเคลื่อนตัวของดาวเคราะห์น้อย“4179 ทูทาทิส” เข้าใกล้โลกในครั้งนี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายใดๆ และคาดว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นน่าจะเป็นผลดีต่อผู้ที่สนใจศึกษาทางดาราศาสตร์ทั่วโลกมากกว่า

    ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ระบุว่า ดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวซึ่งถูกค้นพบอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1989 จะเคลื่อนตัวผ่านดวงอาทิตย์ 1 รอบในทุกๆ 4 ปี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    “ไฟร์บอล” ลูกโตพุ่งผ่านท้องฟ้าเท็กซัส (คลิป)

    Nasa camera captures 'fire ball' over Texas - YouTube

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2555 08:11 น.


    ช่างภาพสมัครเล่นจับภาพวิดีโอ “ฝนดาวตกลูกไฟ” พุ่งผ่านเหนือท้องฟ้าเท็กซัส ขณะที่หอดูดาวของนาซาก็จับภาพ “ไฟร์บอล” ลูกดังกล่าวได้จากท้องฟ้านิวเม็กซิโก คาดไม่ใช่ส่วนหนึ่งของฝนดาวตกเจมินิดส์ แต่น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่หลุดมาจากแถบดาวเคราะห์น้อย

    ทั้งนี้ มีรายงานการพบฝนดาวตกลูกไฟหรือไฟร์บอล (fireball) ขนาดใหญ่เหนือท้องฟ้าเท็กซัสสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันที่ 7 ธ.ค.2012 ตามเวลาท้องถิ่น โดยช่างภาพสมัครเล่นสามารถบันทึกวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ขณะเดียวกันสเปซด็อทคอมก็ระบุด้วยว่า หอดูดาวขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้จากท้องฟ้าของนิวเม็กซิโก

    นาซายืนยันว่าดาวตกขนาดมหึมาดังกล่าวไม่ใช่ส่วนหนึ่งของฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminid meteor shower) ที่กำลังอาบโลกอยู่ในช่วงนี้ แต่น่าจะเป็นเศษที่หลุดมาจากแถบดาวเคราะห์น้อย (asteroid belt) ที่อยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี

    ด้าน บิล คุก (Bill Cooke) ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมด้านสะเก็ดดาว (Meteoroid Environments Office) ในศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล (Marshall Space Flight Center) ของนาซา ในเมืองฮันท์วิลล์ อลาบามา สหรัฐฯ เขียนแถลงว่า เมื่อเช้าวันที่ 7 ธ.ค.มีพยานทั่วเท็กซัสพบเห็นไฟร์บอลที่สว่างเจิดจ้าเคลื่อนผ่านท้องฟ้า โดยเคลื่อนจากทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก และกล้องบันทึกฝนดาวตกของนาซาในเมย์ฮิลล์ที่นิวเม็กซิโก ก็บันทึกภาพลูกไฟขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลไปทางทิศตะวันตก 805 กิโลเมตรได้

    สเปซด็อทคอมระบุข้อมูลว่า ดาวตกนั้นเป็นเศษหินที่แตกออกมาจากดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหาง และได้พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก การเสียดสีกับอนุภาคในชั้นบรรยากาศจากการพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ทำให้เศษซากเหล่านั้นร้อนจัดและส่วนใหญ่ถูกเผาไหม้ไป แต่หากเป็นเศษซากขนาดใหญ่ก็มีโอกาสที่จะระเบิด เนื่องจากความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีและทำให้เกิดลูกไฟดวงโต

    การระเบิดที่เจิดจ้าครั้งนี้สามารถมองเห็นได้แม้ในยามกลางวัน และดังพอที่จะได้ยินเสียงแม้อยู่ไกลออกไปเกือบ 50 กิโลเมตร ขณะเดียวกันสเปซด็อทคอมระบุว่ายังมีรายงานการพบไฟร์บอลเหนือท้องฟ้าอื่นๆ ในแคลฟอร์เนียตอนเหนือ สหราชอาณาจักร และออนทาริโอ แคนาดาด้วย

    ในรายงานเบื้องต้นของนาซาคาดว่าดาวตกลูกไฟนี้น่าจะกลายเป็นอุกกาบาตอยู่ทางตอนเหนือของฮูสตัน ซึ่งนักวิจัยกำลังทำงานเพื่อตีกรอบพื้นที่ตกของอุกกาบาตดวงนี้ หากระบุตำแหน่งของชิ้นส่วนอุกกาบาตได้ก็จะเป็นการยืนยันว่าชิ้นส่วนจากหินอวกาศได้ตกสู่พื้นโลกจริง และจะกลายเป็นอุกกาบาตดวงที่ 13 ที่ตกลงในเท็กซัสนับแต่ปี 1909

    เมื่อต้นปีนี้นักวิทยาศาสตร์ในแถบอาร์กติกตะวันตกของแคนาดาได้พบหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออุกกาบาตพุ่งชนโลกเมื่อราว 130-350 ล้านปีที่ผ่านมา และเมื่อปี 2011 อุกกาบาตที่เป็นชิ้นส่วนจากดาวอังคาร ซึ่งเกิดจากดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนดาวอังคารได้ตกสู่พื้นโลกในทะเลทรายของโมรอคโค และชิ้นส่วนของอุกกาบาตดังกล่าวที่ถูกเรียกว่า “ทิสซินท์” (Tissint) ก็กลายเป็นชิ้นส่วนที่มีมูลค่ามหาศาลในตลาดค้าชิ้นส่วนอุกกาบาตนานาชาติ
     
  3. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ข้อมูลใหม่หนุน “ไดโนเสาร์” สูญพันธุ์จากภูเขาไฟระเบิดไม่ใช่อุกกาบาต


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ธันวาคม 2555 14:07 น.

    แม้ส่วนใหญ่จะยอมรับกันว่าสาเหตุที่ “ไดโนเสาร์” สูญพันธุ์นั้นเกิดจากอุกกาบาตพุ่งชนโลก แต่ก็ยังมีหลายทฤษฎีที่แย้งทฤษฎีดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือทฤษฎีเกี่ยวกับการระเบิดของภูเขาไฟที่เป็นต้นเหตุของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ และล่าสุดมีข้อมูลใหม่ที่สนับสนุนว่าไดโนเสาร์ไม่ได้สูญพันธุ์จากสาเหตุนอกโลก

    ข้อมูลจากงานวิจัยใหม่ระบุว่า เมื่อหลายสิบล้านปีก่อนลาวาที่ไหลจากพื้นที่ภูเขาไฟเดคคันแทรปส์ (Deccan Traps) ซึ่งปัจจุบันอยู่ใกล้เมืองมุมไบของอินเดียอาจพ่นซัลเฟอร์และคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับที่เป็นพิษสู่ชั้นบรรยากาศ และเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ เนื่องจากทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและน้ำในมหาสมุทรเป็นกรด

    รายงานของไลฟ์ไซน์ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวถูกนำเสนอภายในการประชุมของสหพันธ์ธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (American Geophysical Union) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการถกเถียงทางวิชาการว่า ระหว่างถูกอุกกาบาตพุ่งชนหรือการระเบิดของภูเขาไฟ อะไรคือสาเหตุการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน ซึ่งรู้จักกันอีกชื่อว่าการสูญพันธุ์เคที (K-T extinction)

    เกอร์ตา เคลเลอร์ (Gerta Keller) นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University) สหรัฐฯ เป็นผู้ที่โต้แย้งมาหลายปีว่า แท้จริงแล้วกิจกรรมภูเขาไฟคือสิ่งที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์กล่าวว่า ข้อมูลใหม่จากงานวิจัยที่เขานำทีมศึกษานี้ เป็นเสียงปลุกให้เราต้องกลับมาประเมินกันใหม่ว่า อะไรคือสาเหตุที่แท้ของการสูญพันธุ์เคที

    ขณะที่ผู้สนับสนุนทฤษฎีไดโนเสาร์สูญพันธุ์จากอุกกาบาตยักษ์พุ่งชนโลกที่ชิคซูลูบ (Chicxulub) เม็กซิโก เมื่อราว 65 ล้านปีก่อนแย้งว่า การพุ่งชนดังกล่าวได้ปลดปล่อยฝุ่นและก๊าซที่เป็นพิษสู่ชั้นบรรยากาศ กั้นแสงอาทิตย์จนความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่ว และอุดตันการหายใจของไดโนเสาร์และเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล และยังอาจกระตุ้นให้เกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหวและสึนามิ

    หากแต่ อีริค ฟอนท์ (Eric Font) นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยลิสบอน (University of Lisbon) โปรตุเกส ซึ่งไม่ได้มีส่วนในงานวิจัยใหม่นี้ ให้ความเห็นว่า ข้อมูลจากงานวิจัยใหม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่เดคคันแทรปส์นั้นเกิดขึ้นก่อนการสูญพันธุ์ครั้งใหม่ไม่นาน และอาจมีส่วนทำให้เกิดการสูญพันธุ์ในบางส่วนหรือการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ได้

    ทั้งนี้ เมื่อปี 2009 บริษัทน้ำมันได้ขุดเจาะชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย และพบตะกอนดินที่มีลาวาเก่าจาก 2 ยุคทับถมและถูกฝั่งอยู่ใต้ผิวมหาสมุทรประมาณ 3.3 กิโลเมตร ซึ่งเคลเลอร์และทีมวิจัยของเธอได้รับสิทธิในการเข้าไปวิเคราะห์ตะกอนดินดังกล่าว และพบว่าตะกอนดินนั้นเต็มไปด้วยฟอสซิลจากรอยต่อระหว่างยุคครเตเชียส (Cretaceous) และยุคเททอร์เทียรี (Tertiary) หรือรอยต่อเคที (K-T Boundary) ซึ่งเป็นช่วงที่ไดโนเสาร์ถูกกวาดล้างไปจากโลก

    อาดาท ธีแยร์รี (Adatte Thierry) นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยโลซาน (University of Lausanne) ในฝรั่งเศส ผู้ร่วมวิจัยกับเคลเลอร์กล่าวว่า ตะกอนดินดังกล่าวถูกเจาะพรุนไปด้วยชั้นของลาวา ซึ่งเดินทางไกลราวๆ 1,600 กิโลเมตรจากเดคคันแทรปส์ ปัจจุบันอาณาบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟแผ่กว้างกินพื้นที่พอๆ กับประเทศฝรั่งเศส แต่เมื่อครั้งที่ภูเขาไฟปะทุในยุคครีเตเชียสนั้นกินพื้นที่เกือบเท่าทวีปยุโรปในตอนนี้

    ในร่องรอยของฟอสซิลเผยให้เห็นแพลงก์ตอนที่มีจำนวนน้อยกว่า ขนาดเล็กกว่าและมีเปลือกที่ซับซ้อนน้อยกว่าอยู่ในชั้นถัดจากลาวาไม่มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่ปีหลังภูเขาไฟปะทุ โดยสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ค่อยๆ ตายลง

    ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่น้อยนั้น ก็มีสิ่งมีชีวิตในสกุลแพลงก์ตอนที่ทรหด มีขนาดเล็กและมีโครงสร้างแข็งภายนอกที่ไม่สามารถจัดเข้าพวกใดได้ ชื่อว่า “กิมบิลิเทรีย” (Guembilitria) โผล่ขึ้นมาในฟอสซิล และทีมของเคลเลอร์พบแนวโน้มคล้ายๆ กันนี้จากการวิเคราะห์ตะกอนดินทะเลที่พบในอียิปต์ อิสราเอล สเปน อิตาลี และในเท็กซัส สหรัฐฯ โดยพบกิมบิลิเทรียปรากฏในฟอสซิล 80-98% ขณะที่สิ่งมีชีวิตสปีชีส์อื่นๆ นั้นหายไปหมด

    “เราเรียกมันว่านักฉวยโอกาสจากหายนะ มันเหมือนกันแมลงสาบ ซึ่งขณะที่ทุกอย่างนั้นกำลังเลวร้าย มันกลายเป็นสิ่งเดียวที่อยู่รอดและเจริญเติบโตได้” เคลเลอร์กล่าว

    กิมบิลิเทรียอาจครองโลกในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยซัลเฟอร์ปริมาณมากจากการปลดปล่อยของภูเขาไฟเดคคันแทรปส์และก่อให้เกิดฝนกรดตกสู่มหาสมุทร แล้วสร้างพันธะทางเคมีกับแคลเซียม จนอยู่ในรูปที่สิ่งมีชีวิตในทะเลไม่อาจนำไปใช้เพื่อสร้างเปลือกและโครงสร้างกระดูกได้

    สำหรับงานที่ผ่านมาของทีมเคลเลอร์พวกเขาได้พบหลักฐานที่ชิคซูลูบ ซึ่งฉายแววสิ่งที่น่าเคลือบแคลงเกี่ยวกับการเป็นสาเหตุให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เนื่องจากอุกกาบาตพุ่งชนโลก โดยพวกเขาพบตะกอนดินที่มีธาตุเออริเดียม อันเป็นส่วนประกอบทางเคมีที่สำคัญของอุกกาบาตในช่วงเวลาหลังการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเธอกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับความเชื่อว่า อุกกาบาตเป็นสาเหตุให้เกิดการตายอย่างฉับพลัน

    นอกจากนี้เคลเลอร์ยังกล่าวอีกว่า การพุ่งชนของอุกกาบาตนั้นไม่น่าจะทำให้เกิดซัลเฟอร์และคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นพิษได้มากพอ ที่จะสัมพันธ์กับระดับที่พบในหินต่างๆ โดยเป็นไปได้ว่าอุกกาบาตอาจเสริมให้การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เลวร้ายลงไป แต่ไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์

    “อุกกาบาตนั้นเล็กเกินกว่าจะเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์” เคลเลอร์กล่าว
     
  4. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ก้อนใหญ่จัง ตกที่ไหนก็สะเทือนไกลอยู่ดีนะ
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     
  6. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
  7. llilliilliiill

    llilliilliiill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +2,741

    จริงๆ มีมาประจำแทบทุกวัน แต่ไม่เป็นข่าวเนื่องจากระยะห่างที่ไม่เป็นอันตรายต่อโลก

    จะเป็นข่าวใหญ่ต่อเมื่อวิถีโคจรที่คำนวณได้มีโอกาสชนกับโลกเท่านั้นครับ จึงจะมีการแจ้งเตือนจากนาซ่าให้ทราบ เช่นเมื่อไม่นานมานี้เฉียดในระยะ 3-4แสนกิโลเมตร เค้าก็แจ้งให้ทราบ แต่ก็เฉียดผ่านไป



    .
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ตอนนี้มาถึงไหนเเล้วเนี่ย
     
  9. EscherichiA

    EscherichiA Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +25
    เป็นการเล่นข่าวของสื่อ (deejai)
     
  10. siamblogza

    siamblogza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +2,590
    แล้วมีอีกไหมคับ
     
  11. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    ดาวเคราะห์น้อย“4179 ทูทาทิส” เคลื่อนตัวเข้าใกล้โลก

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=avv34ZfkpSM]Breaking News: Approaching to Earth Hazardous Asteroid (4179) Toutatis - 12-12-2012 - YouTube[/ame]​
     

แชร์หน้านี้

Loading...