มีเสียงในหู เหมือนจั๊กจั่นร้อง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย meow555, 8 ธันวาคม 2012.

  1. bhothisata

    bhothisata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +5,182
    ถ้าไปหาหมอแล้วปกติ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ จิตจะถึงฌานสี่ ช่วงแยกจิตแยกกายจะได้ยินเสียงความถี่นี้จนแสบหู บางท่านเป็นบางท่านไม่เป็นเพราะข้ามผ่าน น่าจะเป็นอาการที่จิตยังอยู่ในฌานถึงแม้จะออกจากสมาธิแล้ว แต่จิตยังทรงฌานอยู่ในระดับหนึ่ง ถูกผิดประการใดไม่รับรองครับ ตอบจากประสบการณ์ เจริญในธรรมครับ
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ลองไปหาหมอดูก่อนว่า มีความปกติทางประสาทหูหรือไม่ หากปกติดี และยังเป็นเฉพาะเวลานั่งสมาธิเท่านั้น ให้หมั่นปฏิบัติไปเรื่อย ๆ จะทราบด้วยตนเอง เป็นเรื่องของทิพยโสตค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
  3. มหาเมตตา

    มหาเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +283
    ตามความเชื่อของผมจากการปฏิบัติธรรม

    อาการเสียงวี๊ดจั๊กจั่นร้องนั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

    1. เสียงวี๊ดจั๊กจั่นร้องที่เกิดจากความผิดปกติของประสาทหู แนะนำให้ไปหาหมอ

    2. เสียงวี๊ดจั๊กจั่นร้องที่เกิดจากจิตที่กำลังทรงฌานหรือจิตกำลังนั่งสมาธิสงบนิ่งอยู่ในกายสังขาร สาเหตุของอาการเสียงนี้ เกิดจาก อาการที่จิตกับกายเริ่มจะแยกกันได้แล้ว จะแยกกันมากหรือน้อยไม่กล่าวถึง ถ้าได้ยินเสียงนี้ตลอดเวลาทั้งยามหลับและยามตื่นก็แปลว่า จิตมีสมาธิทรงฌานได้ดี แต่จิตจะเลิกทรงฌานเนื่องจากไม่มีสมาธิก็อาจเป็นเพราะบางสาเหตุ เช่น ถ้าเราคิดหมกหมุ่นกลุ่มใจหรือสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ หรือ จิตเกิดอาการเคลียสไม่เป็นปกติ ก็ย่อมอาจทำให้เสียงวี๊ดแหลมในหูเหล่านี้หายไปได้เพราะจิตขาดสมาธิหรือความสงบ แต่ถ้าจิตเลิกกังวลหมกมุ่นหรือไม่เคลียส จิตก็จะกลับมาทรงณานเหมือนเดิม ซึ่่งในส่วนตัวผมเองนั้น ก่อนหน้านี้ก็เกิดอาการสงสัยเหมือนทุกคนเช่นกัน

    เสียงวี๊ดแหลมนี้ ช่วงแรกๆ จะรำคาญสักหน่อย แต่พอสักพักเราก็จะิเคยชินเอง และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา เสียงวี๊ดแหลมนี้มีหลายระดับ ในส่วนตัวของผม ผมขอแบ่งเป็น 2 ระดับก่อน เพราะ ณ ปัจจุบันนี้ผมมาถึงเพียงระดับที่ 2 คือ

    1. เสียงวี๊ดระดับหยาบ เป็นอาการของจิตที่กำลังทรงฌานหยาบ อาจมีเสียงวี๊ดที่ดังบ้างเบาบ้างแล้วแต่กำลังของฌานสมาธิ ถ้าเราเคยได้ยินแต่เสียงวี๊ดระดับหยาบ เราก็จะไม่รู้ว่าเสียงวี๊ดระดับละเอียดเป็นเช่นไร

    2. เสียงวี๊ดระดับละเอียด เป็นอาการของจิตที่กำลังทรงฌานละเอียด อาจมีเสียงวี๊ดที่ดังบ้างเบาบ้างแล้วแต่กำลังของฌานสมาธิ ในระดับละเอียดนี้จิตเราซึ่งเคยผ่านเสียงวี๊ดระดับหยาบมาแล้ว เราจะรู้สึกได้เลยว่า เสียงวี๊ดระดับละเอียดนี้มันมีความปราณีละเีอียดขึ้นกว่าเสียงระดับหยาบที่เราเคยได้ยินมา ในส่วนตัวผมนั้น เสียงวี๊ดระดับหยาบเกิดขึ้นเกือบ 24 ชั่วโมงทั้งยามหลับยามตื่น เป็นเวลาปีกว่า และช่วงหลังนี้เรารู้สึกได้ว่าเสียงวี๊ดนั้นมันละเอียดปราณีขึ้น ซึ่งอาการของจิตทรงฌานนี้(เสียงวี๊ดในหู)จะมีความต่อเนื่องมากน้อยเพียงใดนั้นหรือทรงฌานได้ทั้งวันทั้งคืนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น การรักษาศีล(หยาบ,กลาง,ละเอียด) ทำให้เกิดกุศลจิตที่ดีงาม ไม่ข้องแวะหรือมีความคิดที่ไม่ดีเป็นอกุศล(ความบริสุทธิ์ของจิต) , จิตพิจารณาจนเข้าใจและยอมรับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ได้มากน้อยเพียงใดและลึกซึ้งเพียงใด , ระดับของปัญญาญาณที่เกิดขึ้นในจิตจากวิปัสสนาญาณ(มีปัญญาช่วยรักษาจิตให้อยู่ในภาวะปกติมีกำลังจนถึงความว่างระดับมหาสุญญตา(พลังจิตที่มหาศาลก็มาจากจุดนี้) รวมถึงปรับธาตุในกายสังขารให้เกิดภาวะสมดุลแข็งแรง เป็นต้น

    *** เมื่อจิตทรงฌานจิตจึงมีกำลัง ทำกิจงานอันใดย่อมสำเร็จดังหวัง คุณวิเศษอภิญญาญาณต่างๆ ที่เปรียบดั่งเปลือกไม้นั้นย่อมบังเกิดขึ้นได้ด้วยเราทำเหตุปัจจัยจนถึงพร้อมสุกงอม และสุดท้ายเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจัดอยู่ในประเภทเสียงวี๊ดใด ก็ขอให้ใช้ปัญญาพิจารณาสังเกตุและปล่อยวางในที่สุด จงใช้ความรู้สึกที่เป็นสัมมาทิฐิเป็นกุศลของตนเองให้มากกว่ามายาในจิตตนจึงจะรู้สึกสัมผัสในสิ่งที่เป็นสัจธรรมความจริงได้โดยไม่ยากเลย ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2012
  4. meow555

    meow555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ :cool:

    บุญใดที่ข้าพเจ้าปฏิบัติวิปัสสนามาเท่าใด

    ขอให้ท่านได้รับผลบุญนั้นเสมอข้าพเจ้าทุกประการเทอญ
     
  5. mcgi

    mcgi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +33
    อย่ากังวลไปเลยครับ ผมก็เป็น ได้ยินตั้งแต่เด็กแล้ว ความเงียบทำให้ได้ยิน พอได้ยินแล้วก็สงสัย ไปถามเพื่อนๆดูก็ไม่มีไครได้ยินแบบเรา อายุก็50กว่าแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องหูเลย ประโยชน์คือเอาใว้ฝึกสติให้อยู่ในกายดีแท้
    แก้ฟุ้งซ่านรำคาญใจสงบใจดี ผมว่ามีทุกคนน๊ะว่าแต่ใครจะสนใจเท่านั้น
     
  6. Tanagrit

    Tanagrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2010
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +658
    บางคนบอกความเงียบนั้นไม่มีเสียง นั้นแหละครับ เสียงของความเงียบ คุณสามารถยึดเสียงเงียบนั้นเป็นสมาธิได้(สมถะ) เอาสติไว้ที่หู กำหนด...เสียงหนอ เสียงหนอ เสียงหนอ ไปเรื่อยๆครับ 10ครั้ง 20ครั้ง แล้วมากำหนด รู้หนอ รู้หนอ รู้หนอ ที่ลิ้นปี่ 10ครั้ง 20ครั้ง สมาธิกับสติควบคู่กันไปเมื่อไร ท่านจะรู้...เองครับ

    ถ้าท่านยึดเสียงเงียนนั้นเป็นอารมณ์ได้ทั้งวันเมื่อไร ฝึกจนชำนาญแล้ว ท่านสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตจริงได้ครับ เวลาใครพูดอะไรให้ฟัง เอาสติไว้ที่หู กำหนดเสียงหนอๆ สติจะบอกท่านครับว่า....คนนี้พูดจริง คนนี้พูดโกหก สาธุครับ
     
  7. มินเนี่ยม

    มินเนี่ยม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +19
    สาธุขอรับ
    ไม่ทราบว่าผ่านมา 4 ปีแล้วตอนนี้อาการหายไปหรือยังครับ หรือว่ายังมีอาการอยู่ครับ
    ท่านจะกลับมาตอบผมไหมครับ :'(
     
  8. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    logo เดียวกันเลย :cool: เดาว่าน่าจะเป็นช่วงนั่งสมาธิจิตสงบ ถ้าหลังจากนั้นน่าจะเป็นปัญหาทางกายภาพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2016
  9. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เสียงนั้นคือเสียงแห่งการก่อเกิดปัญญา. อนุภาคปรมณูเกิดดับเป็นล้านๆครั้งต่อวินาที. เมื่อเรารู้. นั้นก็คือรูปนามเกิดดับเป็นล้านครั้งต่อวินาที
     
  10. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ติดนิมิตหรือเรียกอย่างติดสภาวะ
    รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมมารมณ์ เป็นนิมิตที่เกิดกับอายตนะทั้งหกได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ
    อาการติดสภาวะคือพอมีสมาธิที่เคยเป็นก็จะเป็น
    ทางแก้ต้องปฏิบัติโดยปล่อยวางสภาวะที่เป็น เป็นก็ชั่งมันไม่เข้าไปยุ่งกับมัน ให้อารมณ์อยู่ที่การปฏิบัติเท่านั้น
    เจริญในธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2016
  11. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,332
    ผ่านมานานแล้วไม่รู้จขกท.จะยังมาอ่านหรือเปล่า
    ปกติก็มักจะได้ยินเสียงคล้ายจั้กจั่นหรือจิ้งหรีดนี้เบาๆในความเงียบ และในช่วงที่ฝึกสมาธิใหม่ๆ นอนภาวนาไปเรื่อยๆในขณะที่นอนไม่หลับ พอจิตเริ่มอยู่กับคำภาวนาไม่คิดฟุ้งซ่านไปทางอื่น สักพักเสียงที่ปกติจะได้ยินในความเงียบคล้ายเสียงจั้กจั่นนี้จะดังขึ้นๆพร้อมๆกับเห็นเหมือนเราวิ่งเข้าไปในท่ออุโมงค์เร็วๆไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหน สักพักก็มีแสงตรงปลายอุโมงค์สว่างจ้าขึ้นมาแล้วเสียงที่ว่านี้ก็หายไปพร้อมกับเริ่มมีภาพเหมือนจอหนังมาปรากฎในระดับสายตาเรา อีกทั้งรู้สึกว่ามองเห็นได้ทั่วทั้งข้างหน้าหรือข้างหลัง
    และปีนี้ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรม ก็ไม่มีเสียงนี้และไม่ปรากฎภาพที่เหมือนวิ่งเข้าไปในอุโมงค์อีก แต่เมื่อจิตเป็นสมาธิก็มีนิมิตภาพมาปรากฎให้เห็นเลย แต่เสียงที่คล้ายๆจั้กจั่นหรือจิ้งหรีดในความเงียบก็ยังได้ยินอยู่ค่ะ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...