รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

ถ้ามีแรงกดทับเฉพาะสิ่งมีชีวิตจริง ทำไมคำทำนายถึงลืมทำนายสิ่งที่สำคัญที่สุดไปข้อนึง หรือว่านึกไม่ถึง เมพไม่บอก

แรงกดทับเฉพาะสิ่งมีชีวิต ขนาดทำให้คนยืนไม่ได้ มันก็ต้องไปกดปลาให้ว่ายไปว่ายมาไม่ได้ด้วย คงโดนกดไปจนอยู่ก้นทะเลก้นแม่น้ำ ไม่ต้อง42วันหรอก แค่ยี่สิบกว่าวัน ปลาทั้งโลกเป็นล้านๆตัวก็ม่องเท่งตายเกลื่อนแล้ว ทีนี้น้ำในแม่น้ำลำคลองก็ต้องเน่าเสียกันหมด ระบบนิเวศน์ถูกทำลายอย่างหนัก คนขาดน้ำดื่มน้ำใช้ สัตว์ก็ไม่มีน้ำดื่มเพราะน้ำเน่าทั้งโลก เกิดโรคระบาดตามมาอีกเพียบ

ทำไมถึงไม่มีคำทำนายแบบข้างบนเรื่องน้ำเน่าเพราะปลาตายเป็นเบือเพราะโดนกดอยู่ ทั้งๆที่ก็เป็นเหตุเป็นผลกันดีกับเรื่องแรงกดทับอะไรนั่น หรือว่าเมพนึกไม่ถึงเลยไม่ได้บอกไว้

ปล. แล้วต้นไม้นี่นับเป็นสิ่งมีชีวิตด้วยมั้ย คนมีบ้านอยู่ในสวนหรือกลางป่าต้องย้ายหนีหรือเปล่า เกิดต้นไม้โดนแรงกดทับหักโค่นลงมา แย่เลย

 

ความคิดเห็นส่วนตัว :

ต้องขอบอกว่าปรากฏการณ์ที่กล่าวถึงในคำทำนายของท่าน พอจ.รัตน์ อาจไม่สามารถใช้ความรู้เดิมๆที่มีอยู่มาอธิบายได้ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงก็เปรียบได้กับว่า ระบบสุริยะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ประมาณว่า เข้าไปอยู่ในอีกมิติของพลังงานที่ไม่เคยมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ

คงต้องรอให้ช่วงที่ พอจ. ท่านเตือนไว้มาถึง เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้น จะเป็นไปตามที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้หรือปล่าวครับ รออีก 2 สัปดาห์เอง ช่วงนี้ทุกท่านก็ช่วยกันหาศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมก็แล้วกันครับ

thaxx ;aa30

.

 

นาซาปล่อยคลิปไขข้อข้องใจ ทำไมโลกไม่แตก 21 ธ.ค. นี้

http://www.youtube.com/watch?v=2wimiRUHMI4&feature=youtu.be

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ NASAtelevision สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดในหน้าสื่อขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ที่คนหลายกลุ่มเชื่อกันมาตลอดว่าเป็นวันสิ้นโลก ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันแล้วว่าโลกไม่แตกแน่นอน แต่เรื่องนี้ก็ยังได้รับการพูดถึงอยู่ไม่สร่างซา ล่าสุด นาซ่าได้เปิดเผยคลิปวิดีโอน่าสนใจออกมาคลิปหนึ่ง เป็นความจริงเกี่ยวกับวันสิ้นโลกที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นคลิปวิดีโอที่มีชื่อว่า "The World Didn't End Yesterday" หรือ โลกไม่ได้แตกเมื่อวานนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะจัดทำขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 หรือก็คือหลังวันโลกแตก 1 วัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ ๆ ถึงได้เผยแพร่ออกมาก่อนกำหนดถึง 11 วัน

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดคงไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่เนื้อหาภายในคลิปวิดีโอนี้มากกว่า โดยมีการไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก และลบล้างความเชื่อเรื่องโลกแตกที่เคยมีมาตลอดได้ดีเลยทีเดียว

เนื้อหาในคลิปเริ่มต้นขึ้นด้วยประโยคที่ว่า "ถ้าหากพวกคุณได้ดูคลิปวิดีโอคลิปนี้ นั่นหมายถึงว่า โลกของเราไม่ได้อวสานไปเมื่อวานนี้" ก่อนที่จะอ้างคำยืนยันของดอกเตอร์จอห์น คาร์ลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์สมัยโบราณว่า ตลอด 35 ปีที่เขาศึกษาด้านดาราศาสตร์โบราณ และได้ศึกษาปฏิทินมายา เขาพบว่าปฏิทินมายาถูกนำไปตีความผิดต่าง ๆ นานามาหลายปีแล้ว จริง ๆ แล้วปฏิทินมายาไม่ได้ระบุเลยสักนิดว่า โลกจะถึงกาลอวสานในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ มันเป็นแค่การสิ้นสุดรอบปฏิทินรอบหนึ่งตามหลักเทววิทยาของชาวมายันเท่านั้น เปรียบเสมือนกับปฏิทินรอบปีของคนทั่วโลก ที่สิ้นสุดที่วันที่ 31 ธันวาคม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลังจากวันนั้นจะไม่มีวันใหม่ หรือจะเป็นวันที่โลกแตก

นอกจากนี้ นาซายังเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับดาวนิบิรุ ที่ชาวสุเมเรียนค้นพบตั้งแต่โบราณกาล และมีความเชื่อว่าดาวดวงนี้จะชนกับโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ว่า ไม่มีดาวนิบิรุตามความเชื่อแต่อย่างใด และเร็ว ๆ นี้ ก็จะไม่มีดาวหรืออุกกาบาตที่ไหนพุ่งชนโลกด้วย เพราะถ้าหากจะมีดาวหรืออุกกาบาตพุ่งชนโลกจริง ๆ ป่านนี้คนบนโลกคงจะได้เห็นจุดเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนฟ้าช้า ๆ และขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ให้เราได้เห็นเป็นเวลานานนับสัปดาห์หรือเป็นเดือนเลยทีเดียว ที่สำคัญ หากมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น นาซาก็คงจะตรวจสอบพบก่อนมันจะชนโลกล่วงหน้าได้เป็นสิบปีร้อยปี

ส่วนความเชื่อที่ว่า แม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนขั้ว จนทำให้ทุกอย่างบนพื้นผิวโลกแปรปรวน เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ไปพร้อม ๆ กันทั่วโลกนั้น ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้แต่อย่างใด และถ้าหากจะเกิดขึ้น ก็ต้องใช้เวลานานนับล้าน ๆ ปี ไม่ได้เกิดขึ้นคราวเดียวอย่างที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ ที่สำคัญ ระหว่างที่แกนแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้ว สิ่งมีชีวิตบนโลกก็จะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลยด้วย

ดังนั้น จึงไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องโลกแตก แต่เป็นเรื่องโลกร้อนที่เห็นผลกระทบชัดเจนขึ้นทุกวัน เราจึงควรร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ดีกว่า เพราะโลกร้อนนี่แหละ ที่เป็นตัวการทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทั่วโลก และเกิดภัยพิบัติทั่วโลก จนนำมาซึ่งความสูญเสียดังที่เคยเกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา

copy จาก คห. ของท่าน engineer03

.

 

ใครว่ายาก ท่าน noway ตุน 1 แต้มไปเรียบร้อย หรือว่าวันนี้จะกินรวบหวยรัฐอีกรายการ :VO

.

 

ข้าน้อย..ยังมีความสนใจใน..อื่นๆที่ไม่ใช่มนุษย์..เช่นว่า..มดมันจะเดินด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือเปล่า..นกบินไม่ได้ต้องเดินเอา..หรือนอนแผ่แบบพวกเรา..ช้าง..ม้า..วัว..ควาย..ลา..ล่อ.หมู...หนู..จิ้งจก..พวกปลาในน้ำ..สัตว์น้ำว่ายน้ำไหวไหม..ปลาวาฬจะจมน้ำกระมัง..งู..กบ..ขุดรูอยุ๋หรือเลื้อยมานอนข้างๆเรา..เป็นเพื่อนกัน..สาหร่ายน่าจะเป็นยุคทองมัน..อืม..น่ากลับไปยุคหิน..เก่า..ยุคหินใหม่..ซะกระมัง..

 

กราฟแผ่นดินไหวที่รุนแรงสุดของแต่ละวัน ในช่วง 51 วันที่ผ่านมา ถึง 15 ธค 55



.

 

...แสดงว่ามี..อาการเดียวกับท่าน.kwansao..เลยใช่ไหมท่าน..หาหมอตา..ได้เลย..อาการแบบนี้

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ธันวาคม 2555 09:54 น.



น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา02.29น.วันนี้ (16ธ.ค.) เกิดเหตุแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 6.0 ริกเตอร์ ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณ NEW BRITAIN REGION ประเทศปาปัวนิวกินี ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศไทย

 

อัพเดท การคาดการณ์ตามแนวคิด LEY-LINES



ในเดือน ธค. เกิด M 7.0+ 2 ครั้งแล้ว ไม่ใกล้เคียงเลย ก็งั้นๆแหล่ะนะ

Earthquakes are unpredictable and can't be forecasted

.

 

Planetary Alighment : 16 Dec 2012



.

 

กระทู้นี้อ่านสนุก คุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งน่ารักดีนะคะ
ดูไม่ซีเรียสเหมือนกระทู้อื่นๆ
มีวิเคราะห์เจาะลึกแบบน่าสนใจ ดูมีเหตุมีผล

 

คุณติงติงคะ กระทู้นี้ ออกแนวเป็นโรคเหน็บค่ะ เหน็บให้หัวเราะกันเป็นส่วนใหญ่หนะค่ะ เลยกลายเป็นวิทย์แนวเหน็บค่ะ แต่สาระทางวิทยาศาสตร์ยังมีครบนะคะ :z6

 

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆคนครับ

ผมก็เป็นคนหนึ่งนะ ที่เสพ ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ และก็มีความเชื่อ ว่ามีภัยใหญ่ อันใกล้นี้ ผมอยู่แถวมหาชัย สมุทรสาคร ทำงานอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ มีครอบครับเล็ก ๆ ผมเป็นหัวหน้าครอบครับ ลูกเล็ก 1 1/2 กับ 5 ขวบ แม่ยายอีกคน ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เตรียมการ สำรองอาหาร ยารักษาโรค และปัจจัยต่าง ๆ ตามแต่กำลังทรัพย์ จะอำนวย ส่วนตัวมองว่า เกิดหรือไม่เกิดไม่เป็นไร อะไรก็ได้ เพราะ ไม่สามารถเลือกได้ **แต่ปัญหามันอยู่ที่ ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริง คนที่ไม่ได้เตรียมการอะไรเลย ก็จะได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่ตนเองปฏิเสธมาตลอด ในวันเวลาที่สายไป*** ถ้าคูณยังรอดชีวิตอยู่ได้ มันจะเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก ๆ ที่คุณคุณจะเอาชีวิตรอดได้ เนื่องจากขาดแคลนอาหาร (สิ่งมีชีวิตทุกอย่างดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร สิ่งนี้เรียกว่า 1 ) คุณจะหวังให้ใคร ผู้ใดมาช่วยครับ /ผมบอกภรรยา เสมอว่า ของต่าง ๆ ที่ผมซื้อเตรียมไว้ เป็นสิ่งที่เราสามารถ นำมาใช้ในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งอื่นที่จำเป็น แต่ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นแล้วเราไม่รอด สิ่งที่เราเตรียมไว้ อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่รอดชีวิตในที่นั้น ๆ(เหมือนได้ทำบุญเลย) ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งที่ผมได้เตรียมการนี้ เป็นสิ่งที่หัวหน้าครอบครับ ทุกๆ คน ควรเตรียมตัว ยามวิกฤติ มาถึง ทุกคนในครอบครัว ก็จะฝากความหวังไว้ที่คุณๆๆๆ คนที่เป็นพ่อ คนที่เป็นแม่ คนที่เป็นสามี คนที่เป็นพี่ เป็นลูกที่มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล คนที่เป็นที่พึ่ง/////ถึงแม้ว่าในสายตาของคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน อาจมองเราในทางที่ไม่ดี เราอาจถูเหยียดหยาม ถูกมาว่าไม่มีสมอง เชื่อเรื่องงมงายแต่พวกเรารู้ว่า สิ่งที่เราทำกันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พวกเราไม่ใช่พวกที่ครั่งลัทธิ ต่างๆ พวกเรารับฟังข้อมูล อย่างมีสติ พวกเราไม่ประมาทในชีวิต ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่พวกเราเป็นผู้ศึกษาธรรม บางคนเข้าถึงธรรมด้วยซ้ำ //ผมรู้ว่าพวกคุณไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว คุณทำเพื่อส่วนรวมครับพวกคุณเป็นคนที่มองการไกล คุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบครับ พวกคุณคือฮีโร่ ครับ *เหตุเกิดแล้วไม่รอด ก่อนตาย ตนเป็นที่พึงแห่งตน ถ้ารอดเราจะเป็น พึ่งของของคนรอบข้างครับ// ผมขอให้กำลังใจกับผู้ที่เตรียมการรับสถานการฉุกเฉินทุกๆ คนครับ ผมขอสรรเสริญ ผู้ที่ให้มูลที่เป็นประโยชน์ ทุก ๆท่าน ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

บางครั้ง เรื่องทางวิทยาศาสตร์ ก็ไม่สามารถอธิบายกับเรื่องไสยศาสตร์ หรือจิตวิญญาณได้ ทุกเรื่อง เพราะมันมีเรื่องของทาง มิติ และศาสตร์ที่ยังต้องค้นคว้า
วิทยาศาตร์ เป้นเรื่องการตั้งสมมุติฐาน พิสูจน์และหาข้อสรูป ...ตายตัว(ข้อสำคัญคือสรูปถูกหรือผิด) แล้วรอจนกว่าจะมีข้อโต้แย้งใหม่มาหักล้าง...จึงมีแนวทางใหม่เกิดอีก
ส่วนไสยศาตร์หรือจิตวิญญาณ เป็นเรื่องการไหล วนไปเรื่อยๆ เหมือนสายน้ำ กระแสน้ำกระทบตรงไหน ก็เกิดผลหรือปรากฎการณ์กับจุดนั้น ชนบ้านก้บ้านพัง ชนถนน ถนนก็อาจจะพัง ไม่มีจุดสิ้นสุด แต่จะแปรเปลี่ยนเอง ตามยุคสมัย ของมัน ....เป็นความคิดส่วนบุคลครับ

 

วิเคราะห์แล้ว..พบว่ากระทู้นี้มีแต่พวกนั่งพื้น..นาน.น...น

 

โชคดีที่วันนี้ขับรถออกจากบ้านมาออกกำลังกายผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

เลยไม่ได้เป็นเหน็บ!


.

 

อันนี้ผมลองคิดแบบนิยาย วิทยาศาสตร์ดูนะครับ อาการที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลจาก

1 การเปลียนแปลงของแรงดึงดูด ซึ่งอาจเนื่องจาก
1.1 การที่เราตกไปอยู่ แนวระนาบเีีดียวกับ 3 กาแล็กซี่
1.2 การเคลื่อนที่ของระบบสุริยะ ที่เขาไปในแนวระนาบของทางช้างเผือก
ซึ่ง อาจทำให้แรงดึงดูดเราเปลี่ยนไป เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ผมไม่แน่ใจ (ระบบสุริยะอาจเคลื่อนที่โดยความเร่ง เมื่อผ่านแนวระนาบของทางช้างเผือก เนื่องจากตรงกับเส้นแนวแรงดึงดูด ของหลุมดำ ที่อยู่กลางกาแล็กซี่ทางช้างเผือก)

2. ผลจากการเปลี่ยนแปลงของแรงดึงดูด หรือ ความหนาแน่นของอากาศ อาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของ
สัดส่วน องค์ประกอบของอากาศ ปกติอากาศประกอบด้วย ไนโตรเจน 70
ออกซิเจน 20 กว่าๆ และ คาร์บอนไดออกไซด์และอื่นๆ อีก 3 เมื่อมีการเปลียนแปลงแรงดึงดูด หรือ ความหนาแน่นของอากาศ สัดส่วนของอากาศที่บริเวณพื้นผิวโลกอาจจะมีการเปลียนไป ไม่เหมือนเดิม (ปกติบริเวณผิวโลก จะมีออกซิเจน มากกว่าที่บนยอดเขา เนื่องจาก ออกซิเจนมีน้ำหนัก เมื่อมีการเปลียนแปลง จากแรงดึงดูดหรือการเคลื่อนที่ ก็อาจจะมีผลต่อออกซิเจน)
เมื่อปริมาณออกซิเจนไม่พอ ร่างกายก็คงมึน ชา เพราะขาดออกซิเจน ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่นอนหอบแฮกๆ

3 อันนี้ขอมั่วแบบสุดๆ ว่า อาจจะเนื่องจากรังสี คลื่น หรือ อะไรก็ตาม อาจมีผลโดยตรงต่อสมอง ทำให้ ระบบการทำงานของสมองและร่างกายเพี้ยนไป....

ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เชื่อนะครับ แต่แค่คิดในแนวที่ พอจ.บอกและลองคิดว่า มีอะไรที่จะเป็นไปได้บ้าง

ซึ่งถ้าถามว่าโดยส่วนตัว คิดว่าโลกจะแตกหรือไม่ ..... เป็นไปไม่ได้ครับ ... ต้องรอจนกว่าระบบสุริยาเราสูญสลายนู้น แต่ถ้าคิดว่า สิ่งมีชีวิตเรา มีโอกาส สูญสิ้นกันได้ไม๊ ก็มีความเป็นไปได้ อย่างที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าเื่มื่อไหร่ อย่างไร

แต่ด้วยวิทยาการณ์ที่มีในปัจจุบัน เราสามารถประเมิน ประมาณ คาดการณ์ได้ และเตรียมการป้องกันได้ อย่างที่เซ็นได แผ่นดินไหว เกือบๆ 9 ริกเตอร์ คนที่เซนได ก็ยังมีชีวิตอยู่ สึนามิไม่ได้กวาดไปทั้งหมดครับ
ยังไง โลกก็คงต้องยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ แค่จะเป็นใคร หรืออะไร ก็เท่านั้น

 

แต่ผมว่าอันนี้มีความเป็นไปได้มากสุดครับ
อย่างพวกปลาโลมา + ปลาวาฬหลงทิศมาเกยตื้นตายเป็นร้อยๆตัว คงเป็นเพราะสนามแม่เหล็กผิดเพี้ยนไป ทำให้เรดาร์ตามธรรมชาติของปลาอ่านค่าผิดปกติ

สัตว์แต่ละชนิดอาจได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าคลื่นแบบไหนจะทำให้สัตว์ชนิดไหนเสียศูนย์ ซึ่งอาจจะมีผลกับสัตว์ชนิดเดียว หรือแบ่งจำพวกเป็น สัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์เลือดเย็น สัตว์เลือดอุ่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน ฯลฯ

ถ้ามีคลื่นพลังงานอะไรบางอย่างที่จะมีผลต่อมนุษย์จริง ผมว่าไม่ได้เกิดจากแรงดึงดูดหรือกดทับอะไรทั้งนั้น แต่มีผลต่อสมองในส่วนของการทรงตัวมากกว่าที่จะทำให้เราลุกไม่ขึ้น ในขณะที่พวกปลาและสัตว์เลื้อยคลานอาจไม่ได้รับผลกระทบ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากกาแลคซี่อื่น ผมว่ามันยังดูเหมือนจะไกลตัวเกินไปหน่อย และไม่น่าจะใช่ช่วงนี้ เพราะดาวบนฟ้ายังดูปกติดีอยู่

ความเห็นส่วนตัวครับ


.

 

จริงๆ กระทู้นี้ น่าจะเป็นกระทู้แนะนำนะครับ มีประโยชน์กว่ากระทู้อื่นๆอีก