บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

คุยถึงเรื่องสัมภาระต่าง ๆ ผมว่านำไปพร้อมกับการเดินทางนั้นเสี่ยงมาก
น่าจะเตรียมการขนย้ายไปเก็บไว้ก่อนให้เป็นที่เรียบร้อย
ส่วนวันที่ต้องเดินทางจริง ๆ คงต้องรถกระบะที่เตรียมมอเตอร์ไซด์ไว้พร้อมด้วยเป้สะพายหลัง พร้อมที่จะสละรถยนต์ แล้วใช้มอเตอร์ไซด์
ครอบครัวผม 4 คน มอไซด์ดรีมสองคัน เป้ยังชีพ 1 เดือน/1คน
ขาดไม่ได้คือ วิทยุมือถือ2 ตัว ชุดปะยาง เลื่อยมือ ลุย...
ที่หมายสามแห่งคือ เข้าค้อ ภูหินร่องกล้า และภูขัด

 

สวัสดีทุกท่าน เราจะจับสัญญาณเหตุการณ์อะไรเป็นหลักครับ (เตรียมหนี)

 

สวัสดีครับท่าน เรื่องของการจับเหตุการณ์เพื่อยืนยันภัยพิบัติกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเรา
ผมจะจับพฤติกรรมของสัตว์เป็นตัวบอกเหตุครับ และโดยส่วนตัวได้จากการเจริญสมาธิ
บอกว่าเมื่อใดก็ตามหากไก่ที่เลี้ยงไว้ในเล้าเกิดอาการตกใจร้อง "กะต๊าก ๆ"ทั่งวันทั้งคืนติดต่อกัน ก็จงเตรียมตัวได้เลย เพราะสัตว์เขามีสันชาตญาณการระวังภัยมากกว่าเราครับ ขอบคุณแต่อย่าเชื่อสิ่งที่ผมพูด มันเป็นความรู้ส่วนตัวครับผิดถูกไม่รู้ ถ้าอยากรู้อยู่รอพิสูตรด้วยกันครับ ({)ระหว่างนี้ก็รอความเห็นท่านอื่นมาพูดคุยกัน

 

--



อือม์ ก็เป็นวิธีคิดแบบหนึ่งนะครับ

ขอลองคุยกันนะครับ อย่าถือว่าถกเถียงนะครับ

หากเรามีเสาล่อฟ้า ยื่นสูงกว่าตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นไป เมื่อมีไฟฟ้ามามากๆ เมื่อมันตัดสินใจจะลงดิน มันก็จะลง
[ลองกดเม้าส์ที่ชื่อ undersea12000 ของผม แล้วเลือกดูรายละเอียด จะเห็นภาพดังว่า จะเห็นว่า บางครั้งประจุมากเสียจน มันผ่าลงมาทีเดียวหลายสายฟ้า]

ทางรับทางหนึ่งคือ จากเสาล่อฟ้า เราเดินสายโดยพยายามให้ไฟฟ้าวิ่งลงดินได้โดยตรงที่สุด ลงดินลึกไปเลย แถมใช้ฉนวนอย่างดี กัน-ยันไว้ไม่ให้เสาล่อฟ้าก็ดี สายไฟก็ดี ไปแตะกับโลหะตัวตู้เลย และใช้สายไฟที่ใหญ่พอที่จะให้ไฟไหลได้โดยสดวก

อีกทางหนึ่งคือการกราวนด์ตัวถังตู้ อันนี้แสดงว่า เรายินยอมให้ฟ้าผ่ามาลงตู้โลหะได้ (ซึ่งก็คือการใช้ตัวถังภายนอกของคอนเทนเนอร์ทั้งตู้เป็นเสาล่อฟ้านั่นเอง)
จากนั้นเราก็นำกระแสไฟนั้นลงดินผ่านสายกราวนด์
วิธีนี้ หากมีไฟลัดวงจรบ้าง ก็ไม่มีปัญหาที่ไฟฟ้าจากตัวถังจะลงดินไปได้ หรือฟ้าผ่าไม่แรงก็คงรับได้สบายๆ
แต่ในความรู้ทั่วไป ปัจจุบันเชื่อกันว่า ฟ้าผ่ามีแรงดันขนาด พันล้าน volt และอาจหลายแสน amp. ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงไม่ใช่เล่น
นี่เป็นฟ้าผ่าที่เป็นปัจจุบัน แต่ในอนาคต หากมีเหตุเพทภัยแปลกๆ เรายังไม่รู้ว่าฟ้าผ่าจะมีกี่ volt และกี่ amp. อาจมากกว่าที่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันรู้จักเป็นมากมายก็ไม่แน่

จริงอยู่ ตัวถังทั้งตู้เป็นโลหะหมด เราก็หวังว่ามันจะแบ่งกระจายไฟฟ้าที่ฟาดลงมาไปตามตู้ได้ดีก็ได้

แต่โดยนัยกลับกัน หากมีใครบังเอิญจับต้องส่วนของตู้อยู่พอดี (เช่นกำลังเปิดประตูเหล็กเพื่อเข้าข้างในตู้ ฯลฯ) และหากเท้าเปียกหรือเท้าเปล่า(เช่นระหว่างฝนตกหนัก) จะทำให้ร่างกายนั้นเป็นอีกทางเลือกของไฟฟ้าให้วิ่งลงดินได้! จะเกิดอันตรายกับคนๆนั้นหรือไม่ก็จะเดายาก

สรุปคือ การยอมให้ฟ้าผ่าลงบนตู้แล้วกราวนด์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิตในบางโอกาสก็เป็นได้
ก็ลองคิดพิจารณาดูนะครับ สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของตู้

แต่ผมชอบความคิดของท่านที่มีสายถี่ๆ เพื่อให้ไฟได้ลงดินโดยเร็ว แทนที่จะต้องกระจายไปตามผิวตู้เป็นระยะทางหนึ่งก่อนจะได้ลงดิน

-------

 

ตอนนี้ที่กทม.มีพระจันทร์ทรงกลดครับ แหงนดูซิครับ แถมมีเมฆสวยๆให้ดูด้วยครับ
ผมเห็นด้วยกับท่านแล้วครับจะไปเอาชุดล่อฟ้าที่เคยซื้อมาแต่ไม่กล้าติดมาติดเพิ่มดีกว่าครับ ขอขอบพระคุณที่ช่วยแนะนำครับ

 

ขอบคุณครับคุณหมอออกไปดูหน้าบ้าน นอกชายคาพร้อมเกล็ดเมฆสวยจริงๆครับ

 

เพิ่งเป็นสมาชิกค่ะ หลังจากซุ่มอ่านมา สักระยะ ท่านใด
อยู่พิษณุโลก เตรียมตัวและระบุเป้าหมายกันอย่างไรบ้างคะ

 

Good morning and Merry Christmas คร็าบ

 

สวัสดีค่ะ อยากเรียนถามท่านสมาชิกท่านผู้รู้ ถึงข้อเปรียบเทียบระหว่างบ้านตู้คอนเทนเนอร์ กับบ้านนาโน ขอข้อแนะนำด้วยค่ะ

 

หวัดดียามเย็นทุกท่าน และคนพิดโลกด้วยกันครับ
เตรียมของยังไม่พร้อมร้อยเปอร์เซนต์ครับ
ตอนนี้กำลังปรับปรุงระบบไฟฟ้า น้ำ อาหาร และยา
ก็ได้ไอเดียจากคุณหมอแหละครับ
แต่อยากถามว่า..ซ้อม ๆ การเดินทางไว้บ้างหรือยังครับ

คุณ...พลังโลก อยู๋แถว ๆ ไหนที่พิโลกอะครับ
แล้วเตรียมการ หรือมีแผนอย่างไรบ้างครับ

 

ผมกำลังต่อGrid tieอยู่ครับ ม่วนแต้

 

ขอเสนอความเห็นเรื่องสายดินสำหรับล่อฟ้าหน่อยครับ ง่ายที่สุดและสิ้นเปลืองน้อยที่สุดคือเดินเทปทองแดงขนาด1"x1/8"รอบตู้ด้านบน เอาให้ชัวร์ด้านล่างอีกลูปนึงแล้วเชื่อมลูปบนกับลูปล่างทั้งสี่มุมด้วยสายทองแดงเปลือยขนาด70ตรางมิลฯ ปลายสายทั้ง4มุมเชื่อมเข้ากับหลักทองแดงขนาด3/4"x3เมตรฝังดินให้มิด แค่นี้เหลือเฟือแล้วครับไม่ต้องขึ้นสายล่อฟ้า หากไม่ชัวร์เนื่องจากดินบนเขาแห้งให้ขุดหลุมรอบหลักทองแดงกว้างซัก60x60x60เซนต์ใส่ถ่านหุงข้าวป่นพอประมาณผสมเกลือเอาน้ำราดให้ท่วมแล้วกลบดิน เท่านี้ต่อให้ฟ้าลงมาเท่าไหร่ก็ไม่ยั่นแล้วครับ

 

เมื่อวานได้แท่งเรืองแสงมาเพิ่ม พิษณุโลกเนี่ยหาซื้อยากจริงๆค่ะ สำรองไว้เผื่อไฟฉายเจ๊ง

 

ไปตระเวณหาซื้อของในพิดโลก แต่ไม่เจอเหมือนคุณพลังโลกเลยครับ
ร้านชุมพล ราชาฯ ริมน้ำ "ถานีรถไฟ ไม่เจอครับ
กำลังทำเครื่องสำรองไฟแบบจิ๋ว ๆ ใช้เอง ช่วยแนะนำร้านด้วยครับ

รบกวนถามเพื่อน ๆ เรื่องการสำรองน้ำมันเบนซิน 91 ครับ
เก็บอย่างไรจึงจะมีการสูญเสียน้อย ปลอดภัยต่อสุขภาพ และไฟ
คือสถานที่เก็บไม่เอื้อเลย ตอนนี้เก็บไว้ในห้องน้ำ รวมกับพวกน้ำดื่มเท่านั้น
เลิกใช้ห้องน้ำห้องส้วมห้องนี้ แปรสภาพเป็นห้องเก็บของ เป็นห้องที่ติดกับห้องนอน
ภาชนะใช้ถังพลาสติก 30 ลิตร และ 20 ลิตร ครับ

 

......ในการเก็บสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง...ผมขอแนะนำเสนอให้เก็บไว้ด้วยถ้งเก็บน้ำมันสำรองตามภาพที่โพส เป็นของมาตรฐานUSA มีขายตาม ห้างฯโฮมโปร ขนาดบรรจุได้ 18.9ลิตร ผมซื้อมาในราคา 579บาท ครับ.....ในเก็บถังน้ำมันเชื้อเพลิงนี้ควรเก็บไว้ในที่โล่งแจ้งและมีหลังคากันแดด ที่อากาศถ่ายเทได้ดี จะได้ไม่มีปัญหากับไอระเหยของน้ำมัน...........ในกรณีที่เก็บไว้ในห้องขนาดเล็ก(เช่นห้องเก็บของหรือห้องน้ำ)..... ถ้าหากมีไอระเหยของน้ำมันรั่วออกมาจากถังเก็บและฟุ้งกระจายอยู่เต็มห้องดังกล่าวนั้น อาจอันตรายมาก.....เพราะ ทันทีที่เราเปิดสวิตไฟ ไอระเหยของน้ำมันนั้น จะจุดติดประกายไฟและอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้.....โปรดใช้ความระมัดระวังด้วยครับ....
..........ส่วนแท่งเรืองแสง มีขายอยู่ที่ ร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ซึ่งมีอยู่ตามสาขาประจำจังหวัดต่างๆ ขายในราคาแท่งละ 39 บาท ผมเคยซื้อที่เหมาหมดร้าน ที่สาขาเชียงใหม่ เพราะทั้งร้านมีทั้งหมดแค่ 40กว่าแท่ง...ผมจึงต้องขอให้ร้านเขาสั่งสินค้าให้ผมเพิ่มอีก....ครับ/สกายนาย

 

......แท่งเรืองแสง ที่ผมพูดถึงนั้น ปรากฏตามภาพที่โพสให้ดูนี้ ผมซื้อมาราคา 39บาท และสามารถ เรืองแสงได้นานประมาณ 5-6 ชม......ครับ/สกายนาย

 

ที่เชียงใหม่ร้อนครับ วันนี้ตระเวณเก็บและหาของเพิ่มเล็กน้อย ตอนนี้ผมรู้สึกว่าในเชียงใหม่รถติดมากๆครับและไปไหนๆก็ยากขึ้น คนเยาะมากเมื่อเย็น ดูเขาไม่สนใจเรื่องที่เราบ้ากันเลยครับ มีคนรู้จักบางคนมาทักทายแล้วแสดงความยินดีที่21ธ.ค.ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีบางท่านก็ออกอาการเย้ยหยัน ผมก็ปลงในใจว่า ผมมิได้บบอกเลยว่าในวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ แต่ได้เตือนให้ระวังจงอย่าประมาท แต่ก็ดีครับไปร้านอาเชอรี่ที่สนามกอล์ฟพิมานทิพย์ไปซัดของมา2-3ชิ้น เลยถามถึงจำนวนลูกค้า เขาบอกว่าช่วงนี้เงียบไปบ้างแต่ของก็เพิ่งจะลงมาไม่มากนักเช่นกัน ร้านนี้เขาขายของราคาไม่แพงมากนักบางอย่างถูกกว่าที่USAครับ ผมมิได้โฆษณาให้เขานะครับเพราะไม่ได้รู้จักกันมากนักครับ

 

การเตรียมของแต่ละคนช่างน่าชื่นชมจริงๆค่ะ

โดยส่วนตัวไม่สามารถเตรียมอะไรให้เอริกเกริกได้เลย

ตอนนี้อ้าปากก็โดนแซวแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะเตรียมพร้อมต่อไป

น่าเศร้าตรงที่ ถ้าเกิดภัยเนี่ยจะมืดแปดด้าน ไม่รู้จะไปไหนดีค่ะ

หัวหน้าครอบครัวบอกว่าเกิดเมื่อไหร่ ล้อหมุนเมื่อนั้น

ได้แต่ภาวนาให้พระคุ้มครอง

 

ไม่ต้องแคร์ เพราะถึงเวลา น้ำท่วม แผ่นดินไหว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น ประสบการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี54 เป็นเครื่องพิสูจน์มาแล้ว ทำเพื่อตนเองและครอบครัว ไม่ต้องไปแคร์อะไรมาก หรือจะเรียกได้ว่า อยู่แบบมีสติ ไม่ประมาท ใครที่ไม่เชื่อ ก็ไม่ผิดนะ แต่อย่ามาให้เดินแจก พายเรือแจกอีกเลย เหนื่อย อะไรหาได้เองก็หาเตรียมไว้บ้างก็จะดี ไม่ต้องไปเป็นภาระให้คนอื่นเขา ผมชื่นชมหลายๆท่าน ที่เตรียมตัว เพราะคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่ พยายามช่วยเหลือตนเอง มากกว่า ให้ผู้อื่นมาช่วยเหลือ

 

.....ฤดูหนาวปีนี้ อากาศที่จ.เชียงใหม่ ค่อนข้างร้อนเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ...ครับ...แต่เวลาขับรถไปไหนมาไหนในเชียงใหม่ ก็ยิ่งร้อนมากขึ้น(ร้อนใจ) เพราะรถติด...การจราจรหนาแน่น..คนต่างจังหวัดมาเที่ยวเชียงใหม่ ในช่วงปีใหม่นี้กันมาก มันก็เลยเป็นเช่นนี้แหละ.......ส่วนการเตรียมตัวรับภัยพิบัตินั้น..ตอนนี้มันยังไม่เกิดอะไรขึ้น...ผมก็ถูกเพื่อนๆ พูดแซว พูดต่อว่าเอา เหมือนๆท่านนั้นแหละ.....แต่ผมไม่ถือสา เขาพูดมา ผมก็นิ่งเสีย พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา เท่านี้เรื่องก็จบ (เรื่องความคิด ใครก็คงห้ามใครกันไม่ได้)....เพราะตราบใดภัยพิบัติยังไม่เกิด ผมถือว่าเป็นโชคดีของผมและของคนทุกๆคนแล้ว.....แต่ถ้าเรื่องมันเกิดขึ้น...แม้ถ้าหากว่าผมและครอบครัวไม่เป็นอะไร เพราะมีการเตรียมพร้อมมาบ้างแล้ว .....ผมก็คงเสียใจอยู่ดี เพราะผมเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น คงมีผู้คนอีกจำนวนมาก ที่จะต้องเดือดร้อนตกทุกข์ได้ยากกันมากมาย โดยที่ผมคงไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรแก่ใครได้มากนัก.....ดังนั้น ไม่เกิดภัยพิบัติ หรือ เกิดแต่ช้าเลื่อนออกไปนานๆ จึงเป็นการดีที่สุด.....ส่วนความจริงต่อไปจะเป็นอย่างไร....ก็คงต้องรอดูกันต่อไป.....ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่หยุดเตรียมการ ผมยังทะยอยเอาของที่เตรียมไว้แล้ว เช็คเขียนรายการ จัดเก็บลงกล่อง โดยแยกตามประเภท และตรวจเช็ควันหมดอายุ....และจัดหาเพิ่มเติม(คิดว่าเราขาดอะไรก็หาเพิ่มเติม อันไหนหมดอายุก็หามาทดแทนกันไป)....ส่วนที่เชียงใหม่นี้ หาของอุปกรณ์เดินป่า เพื่อนำมาใช้รองรับภัยพิบัติได้ค่อนข้างยาก เพราะมีขายไม่กี่ร้าน ถึงมีก็มีไม่ครบ และยังขายค่อนข้างราคาแพง ....ผมก็อาศัยแชร์ข้อมูลจากเพื่อนๆที่เขียนข้อมูลเข้ามาในกระทู้ต่างๆนี้แหละ เพื่อหาแหล่งของถูก...แล้วผมจึงไปจัดซื้อจัดหามา ........ครับ/สกายนาย