โยนก ไม่ใช่เปอร์เซียอย่างที่ฝรั่งบอก แต่อยู่ภาคเหนือของไทย

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย เอกอิสโร, 1 มกราคม 2013.

  1. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    เมื่อนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษย้ายชมพูทวีป ที่บรรพบุรุษของเราแต่โบราณหมายเอาว่าคือดินแดนแถบพม่า ไทย และลาว มาโดยตลอด ไปอยู่ที่อินเดียเมื่อประมาณ ๑๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เมื่อ ๒๕๐ ปีก่อนนี้ มองสิเออร์ ลาลูแบร์ ซึ่งเป็นราชฑูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งกรุงฝรั่งเศส ที่เดินทางเข้ามาเจริญพระราชไมตรีในกรุงสยามตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อราวพุทธศักราช ๒๒๐๐ เศษ ก็ได้บันทึกเรียกขานว่าชาวสยามคือชนชาวชมพูทวีป จึงสงสัยว่าชาวอังกฤษ ที่ออกล่าเมืองขึ้นตามหลังโปรตุเกส และฝรั่งเศส จะเข้าใจผิดคิดว่าเมืองอินเดียปัจจุบันเป็นเมืองโอเดีย (Iudia) ตามบันทึกที่โปรตุเกสหรือฝรั่งเศสบันทึกไว้ก่อน จนนำมาซึ่งการบิดเบือนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของพระพุทธศาสนาและพระพุทธเจ้าของเรา หรือไม่

    ดังนั้น เมื่อย้ายชมพูทวีปไปอยู่ที่ประเทศอินเดีย ย้ายลังกาทวีปไปอยู่ที่ศรีลังกา เรื่องราวในตำนาน พงศาวดารไทย ลาว และพม่า จึงพลอยกลายเป็นเหมือนนิทานประโลมโลกอันหาความจริงไม่มี

    ดังจะได้กล่าวถึงแคว้นสำคัญอีกแคว้นหนึ่งที่ต้องถูกย้ายตามชมพูทวีปไปก็คือ “แคว้นโยนก” ทั้งที่บรรพบุรุษโคตรเหง้าของเราก็รู้กันดีมาตลอดว่า “โยนก คือเขตพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทยในปัจจบัน” แต่ก็ถูกนักประวัติศาสตร์ย้ายให้ไปเป็นแขกเปอร์เซีย ทั้งๆ ที่พงศาวดาร ตำนานทั้งของฝ่ายไทยและพม่า มีบันทึกกันอย่างชัดเจน จนเป็นเหตุให้แทนที่พระมหารักขิต ที่เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังแคว้นโยนก หลังจากการสังคายนาพระไตรปิฎกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๕ จะมาที่เชียงใหม่ ก็ถูกย้ายให้ไปเปอร์เซียโดยฝรั่งไม่กี่คน และเป็นเหตุให้พระยามิลินท์ ผู้สร้างเจดีย์ซาว ถวายแก่พระนาคเสน ที่เมืองลำปาง เมื่อ พุทธศักราช ๕๐๐ ต้องกลายเป็นกษัตริย์กรีกแถมเปลี่ยนชื่อให้เป็น พระเจ้าเมนันเดอร์ ทั้งๆ ที่พระเจ้าเมนันเดอร์ของฝรั่งเขาตายตั้งแต่ พ.ศ. ยังไม่ถึง ๕๐๐ แล้วจะมาสนทนาโต้ตอบกับพระนาคเสนได้อย่างไร จึงจะขอยกเอาความใน “คัมภีร์ศาสนวังสะ” ซึ่งแต่งเป็นภาษาบาลีโดย พระภิกษุชาวพม่า ผู้มีนามว่า พระปัญญาสามี เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๐๕ ในเวลาไล่เลี่ยกับที่นักประวัติศาสตร์ชาวตะวันตกประกาศย้าย แคว้นโยนกไปอยู่เปอร์เซีย เพื่อนำมาสำแดงให้ประจักษ์ ดังได้แปลเป็นภาษาไทยแล้ว ดังนี้

    ประวัติเชียงใหม่

    ครั้งนั้นมีหัวหน้าพวกลั๊วะอยู่ริมแม่น้ำปิงในรัฐโยนกมอบบุตรของตนอายุ ๗ ขวบแด่พระผู้มีพระภาคให้บรรพชา สามเณรนั้นเพียรทำกรรมฐานเนืองๆ ไม่นานก็ได้สำเร็จพระอรหันต์ จึงเรียกสถานที่นั้นตามภาษาโยนก ว่า เจียงใหม่ ครั้นนานเข้าก็กลายเป็นเชียงใหม่ ตั้งแต่นั้นมา ศาสนาก็ประดิษฐานในรัฐโยนก นี่คือการประดิษฐานศาสนาในรัฐโยนกครั้งที่ ๑
    ลุศาสนา ๒๓๕ พระมหารักขิตเถระไปรัฐโยนก ได้ประดิษฐานศาสนาในรัฐต่างๆ หลายแห่งเช่น กัมโพชะ เชียงตุง หริภุญชะ และอยุธยา เป็นต้น
    แต่พระอรรถกถาจารย์ท่านรวมรัฐเหล่านั้นทั้งหมด กล่าวโดยคำทั่วๆ ไปหมายถึงสถานที่ว่า ประเทศโยนก เป็นธรรมดาอยู่นั่นเอง ผู้แต่งคัมภีร์จะบัญญัตติความหมายอย่างไรก็ได้

    พระมหารักขิตเถระพร้อมด้วยพระภิกษุ ๕ องค์ ออกจากเมืองปาฏลิบุตร มายังประเทศโยนกทางอากาศ ทำให้ชนชาวโยนกทั้งหลายเลื่อมใสด้วยเทศนากาฬการามสูตร พระเถระได้ให้เครื่องประดับ คือ มรรคผลแก่ชาวโยนกประมาณ ๑๗๐,๐๐๐ คน และได้บวชในสำนักของท่านประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน ท่านได้ประดิษฐานศาสนาในรัฐโยนกด้วยประการฉะนี้
    ตั้งแต่นั้นมา พระเถระทั้งหลายที่เป็นศิษย์ปรัมปราของท่านเหล่านั้นมีจำนวนมากขึ้นเหลือที่จะนับคณนา นี่คือการประดิษฐานในรัฐโยนกครั้งที่ ๒ โดยอาศัย พระมหารักขิตเถระ เป็นต้น


    จากข้อความที่ ท่านพระปัญญาสามี แต่งประวัติศาสนาเรื่องการประดิษฐานในรัฐโยนก ซึ่งผมคัดลอกมาข้างต้นนี้เอง ที่แสดงให้เห็น "ความจริงที่คนแต่โบราณสืบทอดกันมา" จนกระทั่ง "ฝรั่ง" มาล้มล้างความจริง และเราทั้งหลายก็เชื่อตาม ดังความเห็นที่ทาง "กรมศิลปากร" ได้มีเชิงอรรถ เป็นการอธิบายความหมายของ “รัฐโยนก” ในการจัดพิมพ์ฉบับแปลเป็นไทยนี้ ว่า

    รัฐโยนกที่พระนาคเสนอยู่นั้น คือ เปอร์เซียในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ลำปาง ผู้ประพันธ์เข้าใจว่าโยนกเป็นไทยภาคพายัพ เรื่องที่จะกล่าวต่อไปก็ไขว้เขวกันหมด พระนาคเสนเถระและพระเจ้ามิลินทพลอยเป็นชาวลำปาง, เชียงใหม่ไปหมด ซึ่งที่แท้ท่านเป็นชาวอินเดียภาคเหนือ ไม่ใช่ไทยภาคพายัพ อนึ่งนครลำปางนั้น ชาวลำพูนเรียกแต่คำนำหน้าคือนคร ไม่เรียกเต็มว่านครลำปาง แต่เขาออกเสียงเรียกนครเป็นละกุน คำนี้ จึงหมายถึงนครลำปาง

    ซึ่งแม้ว่าผมอยากจะตะโกนให้ดังก้องไปทั่วโลกว่า โยนก ไม่ใช่เปอร์เซียอย่างที่ฝรั่งบอก แต่อยู่ภาคเหนือของไทย แต่ก็คงทำไม่ได้นอกจากบันทึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบค้นหา เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ จะได้เป็นการปิดกรรมที่เหยีบย่ำโคตรเหง้าบรรพบุรุษ และบิดเบือนประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาที่ผ่านมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    เอช. ซี. เรย์เชาธุรี (H.C. Raychaudhuri) กล่าวว่า พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ในศตวรรษที่ 1 ก่อน ค.ศ. ในมิลินท-ปัญหา กล่าวว่าพระเจ้ามิลินท์ทรงพระชนม์อยู่หลังพุทธปรินิพพาน 500 ปี ฉะนั้น จึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะกล่าวว่า กษัตริย์กรีกพระองค์นี้ ทรงครองราชย์ในศตวรรษที่ 1 ก่อน ค.ศ. ในมิลินทปัญหาฉบับภาษาบาลีกล่าวว่า พระเจ้าเมนันเดอร์ เป็นพระราชาแห่งพวกโยนก “โยนกานํ ราชา มิลินฺโท” คำบาลีว่า โยนก หรือ โยน (สันสกฤตว่า ยวน) เป็นคำเดียวกับภาษาเปอร์เซียโบราณว่า “เยานะ” ซึ่งแต่เดิมหมายถึงพวกไอโอเนียนกรีก (Ionian Greeks) แต่ต่อมาเลือนไป หมายถึงพวกกรีกทั้งหมด อาณาจักรของพวกโยนะ (Yonas) และพวกกัมโพชะ (Kambojas) เป็นที่รู้จักแก่ชาวอินเดียในศตวรรษที่ 6 ก่อน ค.ศ. ดังมีหลักฐานอยู่ใน อัสสลายนสูตร มัชฌิมนิกาย ซึ่งแสดงว่า ประชาชนของอาณาจักรเหล่านี้มีเพียง 2 วรรณะ คือ พวกนาย (Arya) และพวกทาส (Dasa) แทนที่จะมี 4 วรรณะ เหมือนในสังคมอินเดีย หลังสังคายนาครั้งที่ 3 ซึ่งทำที่กรุงปาฏลีบุตร ได้มีการส่งพระธรรมทูตไปเผยแพร่พระพุทธศาสนายังประเทศโยนะอันห่างไกล อันประกอบไปด้วยอาณาจักรของพระเจ้าอันติโอคอสที่ 2 แห่งซีเรีย (Antiochos II of Syria) อาณาจักรของพระเจ้าอันตีโกนอส โกนาตอส แห่งเมซิโดเนีย (Antigonos Gonatos of Macedonia) เป็นต้น ในศิลาจารึกหลักที่ 2 และหลักที่ 13 ของพระเจ้าอโศก มีคำกล่าวต่อไปอีกว่า พระภิกษุชาวกรีกชื่อ ธรรมรักขิต (Yona Dhammrakkhita) ถูกส่งไปประกาศพระศาสนาในอปรานตกประเทศ ฉะนั้น จึงเห็นได้ชัดเจนว่า พระพุทธศาสนาได้เข้าถึงจิตใจของชาวกรีกก่อนสมัยของพระเจ้าเมนันเดอร์ แต่เป็นที่ทราบกันว่า กษัตริย์พระองค์นี้เป็นพระองค์แรกที่ทรงสนพระทัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยทรงตั้งข้อสงสัยขึ้นหลายประการ เมื่อพระองค์ทรงได้สดับคำวิสัชนาของพระนาคเสนจนหมดความสงสัยแล้ว พระองค์ก็ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนิกชน ทรงสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

    ในมิลินทปัญหากล่าวว่า พระเจ้ามิลินท์ประสูติที่ตำบลกลสิคาม ในเกาะอลสันทะ คือ เมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) หรือกันทหาร (Kandahar) ประเทศอาฟกานิสถานในปัจจุบัน นครหลวงของพระองค์ คือ เมืองสาคละ ซึ่งเป็นเมืองเดียวกันกับเมืองสังคาล (Sangal) หรือยูธูเมเดีย (Euthumedeia) ของปโตเลมี (Ptolemy) เมืองนี้อยู่ในบริเวณเมืองไสอัลกอต (Sialkot) ในมณฑลปัญจาบ อาณาจักรของพระเจ้าเมนันเดอร์ประกอบด้วยมณฑลเปษวาร์ (Peshawar) ลุ่มน้ำกาบุลตอนบน (Kathiawar) และมณฑลอุตตรประเทศตะวันตก เมื่อพระเจ้ามิลินท์ทรงนับถือพระพุทธศาสนาแล้ว พระองค์ก็ทรงสร้างวิหารชื่อ มิลินทวิหาร ถวายพระนาคเสน นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ทรงขยายอาณาจักรแห่งพระพุทธศาสนาออกไปอีกเป็นอันมาก ก่อนที่ทรงนับถือพระพุทธศาสนานั้น พระเจ้ามิลินท์โปรดการโต้วาทะกับนักปราชญ์คฤหบดี เจ้าลัทธิศาสนาต่าง ๆ อยู่เสมอ และนักปราชญ์และเจ้าลัทธิต่าง ๆ พ่ายแพ้ต่อพระยามิลินท์ และหวาดกลัวเกรงต่อพระเจ้ามิลินท์ ทำให้ชมพูทวีปว่างเว้นจากนักปราชญ์ที่ต่อกรโต้วาทะกับพระเจ้ามิลินท์ได้เป็นเวลา 12 ปี จนกระทั่งเมื่อพระเจ้ามิลินท์ได้สดับฟังชื่อพระนาคเสนแล้วทรงเกิดความรู้สึกสะดุ้งพระทัยพิกล แต่ก็แข็งพระทัยแสดงพระประสงค์จะโต้วาทะกับพระนาคเสนเถระให้จงได้
    ผมก็งงอยู่ดีหากพระเจ้ามิลนท์เป็นลำปางแต่ทำไมพระพุทธรูปยุคแรกเป็นกรีกครับ หากไทยคือชมพูทวีป แล้วเจ้าลัทธิทั้ง6ลัทธิทั้ง6ไปไหน แล้วทำไมศาสนาเชนที่ร่วมสมัยกับพระพุทธศาสนา ศาสดามหาวีระ ที่มีคนนับถือมาก ก้ต้องเป็นคนไทยสิ ลูกศิษย์ศาสดามหาวีระที่ชื่อสัจจกก็ต้องเป็นคนไทยเพราะโต้ตอบกับพระพุทธเจ้ารู้เรื่อง แต่ในเมืองไทยกลับไม่มีร่องรอยของศาสนาเชนเลย แต่ศาสนาเชนยังคงอยู่ในอินเดียลัทธิทั้ง6ดังมากก่อนพระพุทธเจ้าแพร่พระธรรม และขณะทรงแพร่พระธรรมก็โต้กับคนเหล่านี้ไม่น้อยอยากทราบว่าทำไมศาสนาเชนไม่มีร่องรอยในเมืองไทยในเมื่อเกิดร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ทุกคนล้วนอ้างอิงกันมาโดยสมเหตุและผล ทุกอย่างมีถูกมันก็มีผิดอยู่ในนั้น ทั้งถูกและผิด จะถูกมาก ถูกน้อย นั่นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก สิ่งใดคุณรู้แต่ผมไม่รู้ แต่สิ่งที่ผมรู้ คุณไม่รู้นั้นมีอยู่ คนส่วนใหญจะเชื่อฝรั่งตาน้ำข้าว เพียงไม่กี่คน คนไทยด้วยกันไม่ค่อยเชื่อ ครูบาอาจารย์ ที่ท่านเขียนร้อยกรอง ที่เป็นพระอริย หรือพระอรหันต์ ท่านทำไว้ดีแล้ว กับไม่เชื่อ

    ในประเทศไทย ที่ศพของพระองค์ท่านเหล่านั้น ยังไม่เผา อีกมาก มาย ที่ไม่เน่าเปื่อย กระดูกของท่านเป็นพระธาตุ กว่าท่านเหล่านั้น จะฟอกจิตของท่าน หมดจากอาสวะได้ ท่านต้องเอาชีวิตเข้าแรก กว่าจะได้ธรรมะเหล่านี้มาโปรด ลูกศิษย์ลูกหา ท่านเจริญรอยตาม สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในประเทศไทยเรามี หลักฐานอ้างอิง และพระบาทพระพุทธองค์ ไว้กราบไหว้มากมาย แต่ละที่และถิ่นต่างๆ ไว้ให้เรา ได้ศึกษาค้นคว้า และเมืองเก่าๆพวกฝรั่ง รับจ้างซื้อของโขมย วัตถุโบราณ ข่าวออกมาให้เห็นทุกวี่วัน จนคนไทยเราลืมไปหมดครับ กายเป็นของพวกฝรั่งมังค่าไร้ยางอายสิ้นดี

    โยนกนคร ผมเคยไปดูที่ตั้งอยู่ เมืองเชียงแสน พระธาตุจอมกิตติ บรรจุพระเกศาธาตุ พระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยสุเทพ พระบาท ๔ รอย พระบาท สระบุรี พระพุทบาท ตากผ้า ลำพูน พระบาทพระธาตุในไทย ที่เห็นไม่รู้กี่ร้อย สถานที่ มากมายก่ายกอง มีทุกภาคของประเทศไทย ในสมัยพุทธกาล ชื่อมีชื่อหนึ่ง เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป นานเข้า ก็ตั้งชื่อใหม่ สมัยเชียงแสน ทำไมเหลือแต่เนินอิฐ สมัยสุโขทัย ทำไมมีสิ่งหักปรักพัง สมัยอยุธยา ก็เช่นกัน เมื่อก่อนเคยเจริญรุ่งเรือง แต่เดี๋ยวนี้ กลายเป็นป่าบ้าง ตึกบ้างสลับกันไป สิ่งที่เคยสวยสดงดงาน กลายเป็น ผงธุลี

    ไม่มีอะไรเหลือ เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ตามกาล ตามสมัย เหตุและปัจจัย ไม่ให้พวกเราเห็น สิ่งสวยงาน เหลือซากกับชื่อเท่านั้น บางที ชื่อกับ ไม่เหลือเปลี่ยนเป้นชื่ออื่นก็มี ดังปรากฎหลักฐานมาให้เราท่านได้สึกษา กัน แต่คนไทยส่วนใหญ่ กับไม่เชื่อปู่ย่า ตายาย บรรพบุรุษของเรา กับไปเชื่อฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งไม่ใช่เจ้าของประเทศไทย บางคนพูดแทบจะไม่ชัดด้วยซ้ำไป คนไทยกความดี ให้ฝรั่งดอง คนไทยเรานั้น มีคนเก่งมากมาย ทำไม่ไม่ช่วยสนับสนุน ชั่วที่สุดก็อยู่ในประเทยเรา ดีที่สุดก็อยู่ในไทยเรา คนเรามีปัญญา จะเอามันออกมาใช้หรือเปล่า เท่านั้นเองครับ
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ในสมัยครั้ง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระชนชีพอยู่ ครั้งนั้นหมอชีวกโกมารภัท ได้ไปเที่ยวเมือง สุวัณภูมิ หรือ เมืองทวาราวดี เมื่อกับมา พระพุทธองค์ถามว่า ชีวก เธอไปเที่ยว เมืองสุวัณภูมิมาหรือ ภันเตภควา ข้าพระองค์ไปไปมาพระเจ้าข้า พระพุทธองค์ทรงถามต่อว่า เมือง ทวาราวดี เขาพูดกันอย่างไร เขาพูดกันอย่างนี้ พระเจ้าข้า กินก็กิน นอนก็นอน ไปไหนมาไหน พูดแบบมึงๆกู ๆ เป็นภาษาคำโดดๆ พูดง่ายไพเราะ เสนาะโสต พระพุทธองค์ กับหมอชีวกสนธนา กันอย่างสนุกสนาน กันพอสมควรแล้ว

    หมอชีวกสงสัย จึงได้ถาม องค์สมเด็จพุทธองค์ว่า ภันเตภควา ข้าแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เจริญพระเจ้าข้า การที่พระองค์ พูดตอบ กับข้าพุทธเจ้าได้นี้ เป็นความรู้ ที่พระองค์ เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว หรือเรียนมาพระเจ้าข้า องค์สมเด็นท่านตรัสตอบว่า ชีวก เราสนธนากับเธอได้ ไม่ใช่เพราะเป็พระพุทธเจ้าแล้ว หรือมิได้เรียนมาเลย เราพูดได้ด้วย เหตุที่ว่า มันเป็นโคตร เง่า ตระกูล ของตถาคตเอง ดังนี้แล ภาษานี้เป็นภาษา ที่พูดกันไพเราะ ที่สุดในโลกเลย

    ฉนั้น ขอให้ท่านทั้งหลาย จงพิจรณาเอาเถิด นี่คำพูดขององค์สมเด้จ ท่านเป็นคนไทยอาหม ซึ่งอยู่ในประเทศอินเดีย หรือเนปาล ในสมัยก่อน คนมันน้อย พาพวกพ้อง มุขอำมารตย์ ไปตั้งประเทศ เล็ก เทศน้อย มากมาย ทั่วไป คนไทยอยู่ไปทั่ว แล้วแต่ไปตั้ง รกราก เมืองชื่ออะไร เลยไม่ขออธิบายอีก มันใช้เวลามาก เดี๋ยวคงมีผู้รู้มาขยายความเองแหละครับ
     
  5. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ใช่คราบ

    อดีตผ่านพ้นมาแล้ว ทวงคืนไม่ได้

    ชีวติก็เหมือนสายน้ำ ไม่มีวันใหลย้อนกลับ

    อนาคตคือความฝัน

    ปัจจุบัน นี่สิครับ ของจริง ชีวิตกำลังดำเนินอยู่ เป็นอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2013
  6. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    แต่ก็นั่นละนะ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม

    แต่ก็อย่าไปแบกมันมากละ มันหนัก
     
  7. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    ขอเรียนเชิญ เพื่อนสมาชิก ไปอ่านรวมกระทู้ที่เกี่ยวข้อง กับงาน "ฟื้นฟูประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในถิ่นไทย-พม่า" และร่วมให้ข้อมูล ในภารกิจพลิกประวัติศาสตร์โลก เพื่อ "คืนความจริง" ให้แผ่นดิน ครับ....ช่วงจากนี้ไป คงจะเข้าสู่ Mode ปรกติ คือ งานประจำยุ่งอีกเช่นเดิม อาศัยช่วงวันหยุด จึงได้ ตั้งกระทู้ ไว้ เพื่อรอคอย เพื่อสมาชิกมาเติมเต็ม ขอบคุณ ทั้งผู้ที่มาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะ “ผู้ที่เห็นค้าน” เพราะความเห็นของท่าน ทำให้เกิด การต่อยอด ในการค้นคว้า และค้นหา นี่คือ ประโยชน์ที่ได้จากถกเถียงกัน ครับ
    หากคำถามใด หรือข้อสงสัยใด ยังไม่ได้เข้ามาตอบ หรือมาตอบไม่ทันใจ ต้องขออภัย แต่จะพยายามมาติดตาม และ Update ทุกกระทู้ ก่อน นอน ในแต่ละวันนะครับ

    เบาะแส ที่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่าชมพูทวีปคือ "แผ่นดินพม่าและไทย"
    http://palungjit.org/threads/เบาะแส-ที่อาจนำไปสู่ข้อพิสูจน์ว่าชมพูทวีปคือ-แผ่นดินพม่าและไทย.400180/
    "เมืองราชคฤห์" ในอุรังคธาตุนิทาน อยู่ที่อินเดียจริงหรือ?
    http://palungjit.org/threads/เมืองราชคฤห์-ในอุรังคธาตุนิทาน-อยู่ที่อินเดียจริงหรือ.409690/
    ชาวเมืองจำปานาคบุรี ในอดีต ไปอัญเชิญธาตุพระโมคคัลลาน์ มาจากที่ไหน?
    http://palungjit.org/threads/ชาวเมื...ปอัญเชิญธาตุพระโมคคัลลาน์-มาจากที่ไหน.409676/
    เมืองราชคฤห์ที่พระเจ้าตากสิน ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมา อยู่ที่ไหน?
    http://palungjit.org/threads/เมืองร...อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมา-อยู่ที่ไหน.409670/
    เมือง "เทวทหะ" ที่พระชาวเวียงจันทน์ ได้ส่วนแบ่งธาตุพระอานนท์มา อยู่ที่ไหน?
    http://palungjit.org/threads/เมือง-...ได้ส่วนแบ่งธาตุพระอานนท์มา-อยู่ที่ไหน.409672/
    พระพุทธศาสนาดั้งเดิม แบบเถรวาท ไม่เคยมีอยู่ในแผ่นดินอินเดีย
    http://palungjit.org/threads/พระพุทธศาสนาดั้งเดิม-แบบเถรวาท-ไม่เคยมีอยู่ในแผ่นดินอินเดีย.409966/
    "เมืองสาวัตถี" ในสมัยพุทธกาลอยู่ที่อินเดียจริงหรือ?
    http://palungjit.org/threads/เมืองสาวัตถี-ในสมัยพุทธกาลอยู่ที่อินเดียจริงหรือ.410147/
    เมืองอาฬวี สมัยพุทธกาล อยู่ที่นี่ อำเภอแจ้ห่ม ลำปาง
    http://palungjit.org/threads/เมืองอาฬาวี-สมัยพุทธกาล-อยู่ที่นี่-อำเภอแจ้ห่ม-ลำปาง.410336/
    โยนก ไม่ใช่เปอร์เซียอย่างที่ฝรั่งบอก แต่อยู่ภาคเหนือของไทย
    http://palungjit.org/threads/โยนก-ไม่ใช่เปอร์เซียอย่างที่ฝรั่งบอก-แต่อยู่ภาคเหนือของไทย.410395/
    ปริศนาจาก "วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์" ที่ปราจีนบุรี
    http://palungjit.org/threads/ปริศนาจาก-วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์-ที่ปราจีนบุรี.409680/
    "ศรีลังกา" ในอดีต ไม่เคยรู้จัก พระบาง พระแก้วมรกต และพระพุทธสิหิงค์
    http://palungjit.org/threads/ศรีลัง...-พระบาง-พระแก้วมรกต-และพระพุทธสิหิงค์.410391/
    "วิชัยกุมาร" ที่ไปสร้างเมืองที่ลังกาทวีป ไปจากสิงห์บุรี ประเทศไทย
    http://palungjit.org/threads/วิชัยกุมาร-ที่ไปสร้างเมืองที่ลังกาทวีป-ไปจากสิงห์บุรี-ประเทศไทย.410900/
    พระนางเหมชาลา-พระทันทกุมาร ไปลังกา จากภาคกลางของไทย
    http://palungjit.org/threads/พระนางเหมชาลา-พระทันทกุมาร-ไปลังกา-จากภาคกลางของไทย.410915/
    พระโมคคัลลาน์ เหาะจากอินเดีย มาที่ เขาพระพุทธฉายจริงหรือ?
    http://palungjit.org/threads/พระโมคคัลลาน์-เหาะจากอินเดีย-มาที่-เขาพระพุทธฉายจริงหรือ.410870/
    สถานที่ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาปรินิพพานที่อินเดีย เคยจมอยู่ใต้มหาสมุทร!!!
    http://palungjit.org/threads/สถานที...นิพพานที่อินเดีย-เคยจมอยู่ใต้มหาสมุทร.395119/
    ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ที่อาจนำไปค้นพบหลักฐานว่า "สังกัสสะอยู่ที่พุกาม"
    http://palungjit.org/threads/ประเพณ...ปค้นพบหลักฐานว่า-สังกัสสะอยู่ที่พุกาม.368462/
     
  8. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    ความจริง ต้องปรากฏได้สักวัน เมื่อทุกสิ่งพิสูจน์ด้วยหลักฐาน ทำใจให้กว้างเข้าไว้ อ่านอะไรที่นอกกรอบไม่ตายหรอก แย้งข้อมูลดีกว่าขัดแย้งตามอารมณ์ เพราะเชื่อว่า เจตนาดีของผู้เขียน คงไม่ทำเล่น ๆ แต่ด้วยเห็นประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือน คนจริงย่อมทนได้ยาก ขอให้กำลังใจนะครับ
     
  9. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    แคว้น หนึ่ง ที่ ไปมาหาสู่ ระหว่างแคว้นโยนก ก็คือ แคว้น กัมโพชะ
    ซึ่ง หาก "โยนกอยู่บริเวณภาคเหนือของไทย คือ เชียงใหม่-ลำปาง"
    แคว้นกัมโพชะ ก็ ควรจะต้อง อยู่ในบริเวณรัศมี รอบๆ เชียงใหม่-ลำปาง

    ซึ่ง เวลานี้ มีเบาะแส ที่น่าสนใจ นั่นคือ "เมืองกัมโภชะ ในตำนานเมืองฝาง
    หรือ ตำนานพระธาตุสบฝาง ประวัติหนองแปดหาบ ที่ว่า..

    ประวัติหนองแปดหาบ

    หนองแปดหาบ ซึ่งเป็นปากน้ำกก กับแม่น้ำฝางมาบรรจบกัน ณ ที่นี้เรียกว่าสบฝาง ซึ่งมีหนองแปดหาบ ทอดยาวไปตามตีนเขา ดอยพระธาตุสบฝาง เป็นระยะทางยาว ๘๐๐ วา กว้าว ๖๐๐ วา นับว่ากว้างใหญ่พอสมควร ในสมัยโบราณ ณ ที่ปากแม่น้ำกก กับแม่น้ำฝางมาบรรจบกันนี้ ที่เรียกว่า สบฝางนี้ มีถ้ำหนึ่ง ภายในหน้าถ้ำ เป็นวังน้ำวน ภายในถ้ำเป็นที่ ประดิษฐานพระพุทธรูป บนหลังถ้ำสบฝางนี้ ได้มีปู่ผ้าขาวตนหนึ่ง มาจากเมืองกัมโภชะ ได้มาก่อเจดีย์ไว้เป็นที่สักการะบูชา ของคนทั้งหลายแล
    ในขณะที่มีการก่อสร้าง พระธาตุสบฝางนั้น ได้มีพ่อค้าสองคนพี่น้องเป็นชาวเมืองกัมโพชะ มาทำมาค้าขาย ระหว่างเมืองชัยปราการ กับเมืองกัมโพชะ (เมืองกัมโภชะ อยู่ในเขตเมืองต่องกีของแคว้นไทยใหญ่ ในเขตพม่า ในปัจจุบัน) พ่อค้าสองคนพี่น้อง ได้นำสินค้าไปขายในเมืองเชียงแสน ขากลับ ได้มาพบการสร้าง พระธาตุสบฝาง จึงได้หยุดขบวนวัวต่าง ได้ขึ้นไปร่วมทำบุญ เสร็จแล้ว ได้จ้างคนให้ทำแพเพื่อนำขบวนวัวต่างและลูกน้อง ข้ามจากหนองแปดหาบ ไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อเดินทางไปเมืองกัมโภชะ บังเอิญแพที่นำคณะพ่อค้า สองพี่น้องได้เกิดล่มกลางหนอง น้องชายของพ่อค้าได้เสียชีวิต พร้อมกับทองคำที่ได้จากการค้าขาย จากเมืองเชียงแสน มีจำนวน 8 หลังม้า ส่วนพี่ชายของพ่อค้า ก็ได้ไปสร้างเจดีย์ที่ดอยหมอก ระหว่างดอยสองลูก เรียกว่าพระธาตุสองพี่น้อง ซึ่งปรากฏอยู่จนปัจจุบันนี้ เรียกดอยพระธาตุน้ำค้าง (อยู่ในตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย) เหตุที่พ่อค้าเมืองกัมโภชะได้สร้างเจดีย์ไว้บนดอยน้ำค้างนี้ ก็เพื่ออุทิศส่วนกุศล ให้พ่อค้าผู้เป็นน้องชาย ที่เสียชีวิตจากแพล่ม ในกลางหนองแปดหาบ ตั้งแต่นั้นมา หนองสบฝาง ก็ได้ชื่อว่า หนองแปดหาบมาจนถึงปัจจุบันนี้ เหตุที่แพล่มกลางหนองนั้น ตำนานได้กล่าวไว้ว่า น้องชายของพ่อค้าได้ให้บริวารของเขา ยิงลูกของพญานาค (งู) แล้วเอามาเผาไฟสู่กันกิน พญานาคจึงโกรธ ออกจากถ้ำ มาปั่นน้ำในหนอง ให้เกิดฟองใหญ่ ในขณะที่แพของพวกพ่อค้า กำลังข้าม แพของพวกพ่อค้าก็แตกออกแล้วล่มจมลงในหนองนั้น
     
  10. อภิญญา๘

    อภิญญา๘ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +10

แชร์หน้านี้

Loading...