พุทธโอวาทองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา

กล่าวถูกต้องแล้วครับ ขออภัยทานเถิดท่านแม่

 

จริงสิคุณบำรุง คุณเข้าใจความหมายของที่ประดิษฐานของ เศวตฉัตร หรือเปล่า

ถ้าที่ใดปรากฏ เศวตฉัตร หมายถึงที่นั้นเป็น พระราชฐานชั้นเอก เป็นที่ประทับ
ของพระมหากษัตริย์ เศวตฉัตร มิได้หมายความว่า เป็นสัญลักษณ์ให้เคารพ
เหมือน ธงชัยเฉลิมพล หรือ พระบรมสาทิสลักษณ์ เท่านั้น แต่เป็นการรับ
รองพระราชฐาน

คุณกดข้อความขัดแย้งผมในการยกคำกล่าวถึง เศวตฉัตร คือ คุณเห็นอย่างไร

ผมไม่ควรเอามากล่าว ไม่ควรชี้ -- แน่นอนสมควรประการหนึ่ง

หรือ

ผมไม่รู้เรื่องรู้ราว -- แน่นอนสมควรประการหนึ่ง

หรือ

คุณเห็นว่าผมลบหลู่ผู้ที่พำนักในสถานที่นั้น ซึ่งเป็นแค่คุณนายเกษร -- !!

 

คนมีกำกึด ถ้ายังอ่านอยู่ ก็ให้ลบกระทู้นี้ทิ้งซะ

ก่อนที่ผมจะวกกลับไปในเรื่อง ที่ล่วงละเมิดมิได้ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

 

อนุโมทนา หนุ่มกำกึด ไว้ดัวย ครับ

คุณมีเจตนาดี ต้องการเอาบทความมาแนะนำกัน
ก็ช่วยๆกันสอดส่อง ตรวจทาน พิจารณา ท้วงติง
สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด
สิ่งใดเป็นอวิชา มอมเมา เป็นเหตุให้พุทธศาสนาเสื่อม

ถ้าเห็นความเชื่อ หรือ คำสอนแปลกๆ ก็ยึดหลักกาลามสูตรไว้ก่อน
ก็ให้เอาออกมาชี้แจงให้รับรู้กันในที่นี้ เป็นการสร้างกุศล สร้างสัมมาทิฏฐิ
ลบความเชื่อผิดๆ ลบสีลพรตปรามาส ช่วยกันทำให้แจ้ง
จะได้ไม่ไปหลง ไม่มืดบอดกัน


เป็นการต่ออายุพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง ครับ

 

เรื่องนี้ ก็บอกว่าเป็นเรื่อง อจิณไตย ถ้าเป็นพวกบริวารที่อธิษฐานตาม แม่เกษรมา จะรู้ได้ด้วยตนเองครับ...นานาจิตตังนะครับ

 

พระนิพพานแท้จริงเป็นความไม่ยึดติด

การเข้าพระนิพพานได้ ต้องเป็นผู้ไม่ยึดถือ ไม่ติดแล้วในโลกนี้ สละออกหมดทุกอย่าง แม้ร่างของเราเอง เมื่อสละได้ทุกอย่างไม่ว่ากายหยาบ หรือกายละเอียด ก็ไม่สามารถที่จะมีวิญญาณรอรับดวงจิตได้อีกต่อไป เป็นอันว่าเข้านิพพาน ไม่มีการเกิดอีกในที่ไหน ดับสูญ สูญสิ้นทุกอย่าง ไม่รับแม้สุข หรือทุกข์ อีกต่อไป เหมือนเทียนที่ดับไป หาร่องรอยไม่มี

แต่ที่กระทู้นี้กล่าวมา เป็นการบอกว่าการเข้านิพพาน เสมือนไปในอีกโลกหนึ่งความจริงต้องไม่ใช่อย่างนี้

ส่วนสมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีได้สร้างสามโลกนี้ขึ้นมา ท่านลองวิเคราะห์ดีๆสิครับ ถ้าสร้างขึ้นมาได้ ทำไมต้องเอาคนไปนิพพานด้วย สร้างแล้วไม่สนใจใยดีหรือ? ไม่น่าจะใช่วิสัยของผู้ละกิเลส ผู้ไม่มีอาสวะแล้ว ย่อมไม่ขวนขวายไปในทางที่ก่อให้เกิดตัวตนอีก

ส่วนการให้ผู้อื่นได้เลื่อนชั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์เร็วๆ นั้น ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะหมดพระศาสนาของท่านไปแล้ว(พ้นพุทธันดร) ก็ไม่สามารถนำผู้อื่นไปสู่พระนิพพานได้อีก ต้องเป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเท่านั้น หรือไม่ก็ผู้อื่นได้สร้างบุญกุศลสะสมกันจนได้พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเอง อันนี้สามารถทำได้

ในเรื่องการฝึกมโนมยิทธิ ต้องฝึกถึงขั้นพิจารณาเหตุผลด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกประการ ไม่เช่นนั้นภาพในมโนมยิทธิอาจจะหลอกให้ไขว้เขวได้ แต่เมื่อไรที่เกิดภาพการเกิด การแก่ การตาย การเน่าเปื่อยผุพังของร่างกาย จนเหลือแต่กระดูกแล้วกระจัดกระจายหมด และองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสอนเราในสมาธิให้สละ ให้ละเสีย นั้นล่ะ จึงจะได้สำเร็จเนื่องจากการละกิเลส เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์

และสุดท้ายพลังแสงทิพย์ที่กล่าวมาในกระทู้นี้ ไม่อาจบริการให้ไปไหนได้นอกจากกรรมของเราเองเท่านั้น เรามีกรรมเป็นที่อาศัย ทำดีย่อมได้ไปที่ดี ทำชั่วย่อมได้ไปที่ชั่ว ไม่อาจหลึกเลี่ยงได้

จากคำตอบนี้ ขอให้ทุกท่านจงมีสัมมาทิษฐิ เห็นสิ่งที่เป็นจริง ไตร่ตรองและใคร่ครวญให้รอบคอบด้วยความไม่ประมาท ท่านจะทราบคำตอบของท่านเอง

 

อ่านไปอ่านมาปวดหัวตึ๊บ สรุปแล้วขอยึดแนวพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นดีกว่าแม้รู้ว่าไม่มีตัวช่วยให้ไปทางลัด แต่มั่นใจในเหตผลด้วยปัญญา ทุกอย่างอยู่ที่ใจดวงนี้ นรก สวรรค์ นิพพานอยู่ที่ใจดวงนี้เท่านั้น จึงควรฝึกรักษาใจให้บริสุทธ์ด้วยสติ เมื่อสติกล้าขึ้นจนเป็นมหาสติ เป็นมหาปัญญาขจัดตัณหาอุปทานลงได้ ความพ้นทุกข์จักบังเกิดตรงนั้น ผมเรียนรู้จากหลวงปู่อย่างนี้ครับ

 

กลุ่มเป้าหมายคือศาสนิกไดครับ ควรภาวนาสาธุ เอเมน หรืออามีนดีครับ โลภมากลาภหายนะครับ

อัสลามูอาลัยกุมวาเราะห์มาตุ้ลลอฮฺอิวาบารอกาตุฮฺ
ขอให้อัลลอฮคุ้มครองชาวพี่น้องมุสลิมปาเลสไตน์ดว้ย ameen

 

นั่งอ่านมา..มีเรื่องแบบนี้ด้วย

 

อันตรายมากมาก

 

เหมือนอนุตตรธรรมเลย

เหมือนลัทธิที่มาจากไต้หวันเลย จะนำคำสอนของทุกสายมารวมกัน ไม่มีแก่นสารในตัว พวกนี้จะมีหลายสำนัก แต่ละสำนักดูเหมือนจะมีรูปแบบคล้ายกันแต่คำสอนจะแตกต่างกันออกไป จากคำสอนที่แสงทิพย์สอนมานี่ มีความเหมือนกับอนุตตรธรรมมาก ที่ต้องมีการรับธรรมะก่อนจึงจะหลุดพ้น

 

ขออนุโมทนากับทุกข้อความที่ไม่เห็นด้วยกับข้อความของ จขกท เพราะอ่านแล้วมีเหตุผลสนับสนุนมากกว่า ในเมื่อองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดาสามารถสร้างทั้ง3โลกมา แล้วมาบอกว่าอย่าลืมลูกรักพ่อขอย้ำ อย่าเอาจิตนิพพานของเรา ตัวจริงเราไปหลงรัก กายคน กายเทพ กายพรหม เป็นของมายาสมมุติทั้งนั้น ถ้าหลงรัก จิตเจ้า จะเศร้าหมองรู้ไม่เท่าทันกิเลส ตัณหา อุปาทาน บาปกรรม ทำให้จิตลูก เป็นทุกข์ แล้วเสด็จพ่อจะทรงสร้าง3โลกามาทำสวรรค์วิมานอันใดลือ แบบนี้เข้าอีรอบพ่อแม่รังแกฉันหรือป่าว
พระเจ้าคงรู้เท่าไม่ถึงการตอนสร้างจักรวาลมั๊ง เหมือนไอน์สไตน์ที่สร้างระเบิดปรมาณู พอสร้างแล้วก็รู้สึกผิดแต่แก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่เตือนว่าห้ามใช้นะมันอันตราย ห้ามทำชั่วนะจะตกนรก แต่ไอ้คนใช้ระเบิด มันก็ไม่เชื่อ ครั้นจะเก็บวิธีการคิดค้นระเบิดมันก็ไม่ได้แล้วเพราะว่ามีคนรู้วิธีการนี้แล้ว ก็ได้แต่ห้ามๆๆ พระเจ้าก็คงเช่นกันสร้างมาแล้วจะลบทิ้งก็ไม่ได้ซะแล้ว ก็คงได้แต่ห้ามๆๆ แล้วแต่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ประมาณนี้หรือป่าว
ข้อสังเกต เวลามีข้อความหรือสารใดๆๆที่มันไม่เข้ากับหลักพุทธ มันจะมีข้อให้ดูขัดแย้งเวลาอ่านแล้วมันจะขัดใจประมาณว่ามันม่ายช่ายๆๆ แต่เวลาอ่านข้อธรรมะนั้นเหตุผลมันจะเป็นประมาณว่า ช่ายๆๆเลย ไม่มีจุดไหนขัดแย้งได้เลย แค่ตามปัญญาปุถุชนธรรมดา ก็คิดเองได้ว่ามันกลมกล่อมเข้ากันได้ดีทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลเป็นที่สุด แค่ได้ฟังธรรม ธรรมดาก็น้ำตาไหลได้เลย

 

แล้วปัญหาแบบนี้จะแก้อย่างไรล่ะคะ
คิดว่าทางคุณแม่ก็คงมีเจตนาดี ปรารถนาให้คนได้พ้นทุกข์กัน
มีทางไหนที่จะพิสูจน์ให้คุณแม่ได้ทราบความจริงไหมคะ (กรณีเป็นมิจฉาทิฏฐิ)
ที่บอกว่ามารหลอก นี่จะช่วยอย่างไรได้บ้างหรอคะ in case เป็นอย่างที่คุณขันธ์ว่า

 

เป็นปัจจัตตัง :boo:พระวิสุทธิพุทธรังสีบรมบิดา สมเด็จพ่อองค์ปฐมบรมบิดา
พระบรมบิดา เป็นองค์เดียวกัน

 

ผมตามอ่านมาหลายที่ พยายามหาคำตอบให้ได้

เรื่องนี้เป็นอจินไตยครับ อาจจะเป็นใบไม้นอกกำมือ สติปัญญามนุษย์ธรรมดาอาจจะไม่อาจรู้ได้ รวมทั้งตัวผมเอง

ผมเคยไปถามอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่เมื่อก่อนท่านเป็นลูกศิษย์คุณแม่เกษรว่า "พระธรรมบิดาคือใคร"
ท่านเลยตอบกลับมาว่า "คุณคิดว่ามีใครในนิพพานที่ใหญ่กว่าสมเด็จองค์ปฐมอีกหรือเปล่าหล่ะ"

คำตอบนี้แจ่มแจ้งครับ ผู้ที่เป็นใหญ่ในแดนนิพพาน คือ สมเด็จองค์ปฐมนั่นเองครับ

การจับรูปภาพพระธรรมบิดาให้เกิดสมาธิ น่าจะเรียกได้ว่าหนึ่งในกรรมฐาน 40 คือ เทวตานุสติกรรมฐานครับ

โดยส่วนตัวไม่อยากปรามาสอะไร ดูผ่าน ๆ นานาจิตตังครับ ศึกษาหลาย ๆ ทางเพื่อยกระดับสติปัญญาให้สูงขึ้นครับ

 

ผมก็ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำคนนึง ผมเชื่อเรื่องกรรมมากกว่า เรื่องมโนมยิทธินี่ผมเข้าใจดี แต่ผมก็มองว่าถ้าเราตายก่อน หรือเข้านิพพานไม่ทัน แสดงว่าเรายังมีความเลวอยู่มาก ผมก็ยอมรับจุดนั้นมากกว่า เท่าที่ผมฟังหลวงพ่อฤาษีมา ยังไม่เคยได้ยินเรื่องแสงที่ทำให้เข้านิพพานได้ ท่านสอนแต่ว่าให้พยายามตัดกิเลสในใจ เกิดปุ๊บ ตัดปั๊บ ส่วนเรื่องการเสกวัตถุมงคลนั้นผมว่าก็ไม่น่าจะผิดอะไร การบวงสรวงเทวดาของพุทธก็มีนะ ไม่ใช่พราหมณ์มีอย่างเดียว หลวงพ่อฤาษีสอนว่าการที่เราไหว้เทวดา ให้เราไหว้ที่ความดีท่าน ว่าท่านเป็นบุคคลตัวอย่างที่ทำดี ไม่ได้ให้ไหว้แบบงมงาย เรื่องบวงสรวงก็เหมือนกัน ก็ไหว้ที่ความดีท่าน จะใช้งานท่านก็ต้องมีเครื่องตอบแทน ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่มีลูกน้องอีกเท่าไหร่ ท่านเหล่านั้นเป็นกำลังหลักที่ช่วยพุทธศาสนา แล้วแบบนี้ท่านไม่น่าเคารพตรงไหนครับ

 

เนื้อแท้อันตรธาน

เมื่อพระธรรม คำสอน มาจาก นิมิต แทนพระไตรปิฎก

 

ดูบิดเบือนมาก ๆ
แล้วดูเสมือนวัดรอยเท้าครูบาอาจารย์อีกต่างหาก
หากแน่จริงลองเข้าไปกราบถามครูบาอาจารย์ทางนี้ (ลูกศิษย์หลวงพ่อทั้งที่วัดท่าซุง หรือวัดสาขาต่าง ๆ จะไม่มีเลย การสอน การปฏิบัติแบบนี้ ไม่ใช่ท่านไม่ถึง แต่ท่านดีแล้วต่างหาก) ผมเชื่อว่าสู้ไม่ได้ ดูแล้วหลงนิมิตมาก

คนเราแม้ให้ทานสม่ำเสมอ มีศีล 5 ครบ มีการปฏิบัติภาวนา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปฏิบัติได้ถูกต้อง ได้เข้าถึงกระแสธรรม ได้หลุดพ้น ถึงพระนิพพาน
จบสำหรับเรื่องแสงทิพย์ฯ ไม่มีทาง ออกจะพร่ำเพ้อ หลงเสียมากกว่า

ที่นี้อีกเรื่อง
ผมนับถือปฏิปทาแนวทางการปฏิบัติของพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ เชื่อว่าทำแล้วถึงที่สุด หลุดพ้นได้จริง
ใครที่ยังไม่เคยปฏิบัติ ไม่รู้จริงว่าหลวงพ่อท่านสอนอย่างไร อย่าเอาความโง่ตัวเองมาอวดดีเลย ผมไม่ได้บอกว่าท่านอื่นผิด ท่านอื่นก็ถูก พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านอื่นก็สอนถูก หลุดพ้นเหมือนกัน แต่เดินคนละแบบ ไม่ได้แปลว่าต่างแบบแล้วจะผิด กรรมฐานมี 40 กอง มหาสติฯอีก 1 แต่ละอย่างล้วนให้เข้าถึงมรรคผลได้ทั้งสิ้น อยู่ที่ทำจริงแล้วหรือยัง

อีกอย่างคนเราที่เคยปฏิบัติมาแบบเดียวแล้วเหมาว่าแบบอื่นผิดอันนี้ก็ไม่ใช่ ต้องรู้จริงเข้าใจจริง หากปฏิบัติแล้วลงเหมือนกัน ก็เข้าถึงเหมือนกัน จริตก็ตั้ง 6 ท่านพระสารีบุตรท่านยังเคยแนะนำกรรมฐานไม่ตรงจริตศิษย์ ก็ไม่ก้าวหน้ากระทั่งสมเด็จพระบรมศาสดาโปรดเอง ทางตรัสวิธีการเองเพราะพระองค์ทรงทราบจริตของพระท่านรูปนั้น แล้วท่านก็บำเพ็ญหลุดพ้น ดูจากตรงนี้ก็เห็นว่าการปฏิบัติมีหลายแบบแต่ลงท้ายถ้ามีการระงับนิวรณ์ พิจารณาละสังโยชน์ ตัดขันธ์ 5 ว่าง่าย ๆ อย่างไรก็ถึง
แต่ถ้าไม่มีอย่างไรก็ไม่มีทางหลุดพ้น

แค่นี้ก็ไม่รู้ ใจตัวเองทำไมไม่ดู ดูอยู่ได้คนอื่นนี่
*นาน ๆ จะบ่นเรื่องประเภทนี้

 

อันตรธาน เป็นไปตามกาลเวลา
เหล่าบัณฑิตชน ทำหน้าที่ได้ตามกำลังความสามารถของตนเท่านั้น

เนื้อแท้คงนาน หากคำสอนจากนิมิต รวมลงสู่พระไตรปิฎก!!

 

หากผู้ฝึก ปฏิบัติด้วยเหตุ-ผล พิจารณารอบครอบ

ก็จะนำเอา คำสอนที่อ้างว่า มาจากนิมิต จะเป็น ใครก็ช่าง

หากตรวจทานดู ก็พอสะกิดใจได้มั่ง

คำว่า ติดตำรา เถรใบ ลาน
กลับกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางในการเรียนรู้
เพราะกลัว คนอื่นจะหาว่า ติดตำรา เป็นเถรใบลาน


บางอย่างดูเนียน แนบเนียนนะ คำสอนจากนิมิตนี่
ขาดสติเมื่อไร หลงไปไกล กู่กลับยากมาก

คำตอบที่จะได้จากการเตือน คือ เอ็งปรามาส ตกนรก เป็นต้นฯ