พระเยซูเคยไปศึกษาพุทธศาสนาที่อินเดีย จริงหรือ (สารคดีจาก BBC)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย horasarn, 25 กรกฎาคม 2011.

  1. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    อืม พระเจ้า พระเจ้า พระเจ้า สุดท้ายก้อถึงบางอ้อ เยซุฝรั่งคนละคนกับเยซูจริงๆๆ
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    จัดให้ตามคำขอครับ

    ....................................................................................

    วันนี้, 05:58 PM #123
    แจ๊กซ์69
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Dec 2010
    ข้อความ: 1,574
    พลังการให้คะแนน: 186

    พี่ Chayutt วานพี่ช่วยดันกระทู้ ที่ พระเยซู เคยบวช ให้หน่อยสิครับ ผมเห็นมีคนใหม่ๆอยากอ่านครับ
    __________________
    ดาบซามูไรสวยๆคมๆ ดาบซามูไรสวยๆจ้า ลดราคาครับ
     
  3. kt984

    kt984 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +51
    ดันครับ รอผู้รู้มาแชต่อครับ
     
  4. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    คำว่า god แผลงมาจาก gottama หรือ โคตมะ นั่นเอง
    ส่วน Allah ก็แผลงมาจาก อรหฺ ที่ไทยออกเสียงว่า อะระหัง
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    ผมเองก็ไม่มีข้อมูลอ้างอิงเรื่องนี้หรอกนะครับ
    และผมก็เคยได้ยิน ได้อ่าน บางคนพูดทำนองนี้เหมือนกัน

    แต่ผมไม่เคยเห็นด้วยเลย

    เพราะว่ามีหลายศาสนาที่เกิดก่อนศาสนาพุทธ
    และก็นับถือ "พระเจ้า" หรือ God เป็นสิ่งสูงสุดด้วย
    แม้ว่าชื่อเรียกอาจจะเป็นภาษาพื้นถิ่นแตกต่างกันไปก็ตาม
    ดังนั้น ก่อนที่จะมีศาสนาพุทธ พวกเขาจะเอาคำว่า
    โคตมะมาแต่หนใด?

    และเพราะว่า ใครๆก็อยากจะ "สงวน" หรือ "รักษา"
    แนวความเชื่อของตัวเองเอาไว้ให้ดูดีที่สุด
    และสูงส่งที่สุดเป็นธรรมดานั่นแหละครับ

    ซึ่งพนันได้เลยว่าคนที่กล่าวคำกล่าวนี้
    จะต้องเป็นชาวพุทธอย่างแน่นอน

    ดังนั้น ขอทำใจเป็นกลางๆไว้ดีกว่านะครับ
    ฟังไว้เฉยๆ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นฐานข้อมูลส่วนหนึ่ง

    ..................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2013
  6. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    God ยิ่งใหญ่กว่าที่มนุษย์ จะเข้าใจแท้....

    มนุษย์ เพียงแค่เศษเสี้ยวธุลี...
     
  7. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    รู้ได้อย่างไร..

    ธรรมชาติที่รักษาความสมดุลให้แก่มนุษย์ได้ดำรงอยู่ได้เป็นอย่างไร

    God ก่ เป็นอย่างนั้น

    เฉพาะโลกนี้หรือไม่

    เฉพาะจักรวาลนี้หรือไม่

    ..................

    มนุษย์อยู่ที่ใด ธรรมชาติ ก่ จะดำรงรักษาถึงที่นั่น
     
  8. white sky

    white sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +118
    ศาสนาของพระเยซูก็อย่างนึง ศาสนาคริสต์ก็อย่างนึง สิ่งที่พระเยซูสอนมีน้อยมากเป็นชุดคำสอนสั้น ๆ และมีประวัติเพียงเล็กน้อย ที่ถูกบอกเล่าผ่านสาวกยุคชั้นต้นไม่กี่คน ภาพศาสนาคริสต์มากมายที่เราเห็นในปัจุบันเป็นการสร้างขึ้นมาจากสาวกพระเยซู ในชั้นหลัง ๆ

    สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ ช่วงเวลาชีิวิตในวัยหนุ่มของพระเยซูหายไป เข้าใจกันว่าเดินทางตามโหราจารย์ไปเรียนรู้ทางตะวันออก ซึ่งทางตะวันออกสมัยนั้นก็มีลัทธิใหญ่ ๆ อยู่สองอย่างคือ เทพปกรนัมของพวกเปอร์เซียอารเบีย กับ พุทธมหายานกึ่งพราหมณ์ที่ำกำลังเจริญรุ่งเรืองมากในแถบอัฟกานิสถาน ก็ไปเดากันเอาเองว่าช่วงเวลาที่หายไปของพระเยซูไปเรียนอะไรระหว่าง 2 ความเชื่อที่ว่ามา

    มีข้อสังเกตุอีกอย่างคือ โหราจารย์ 3 คนที่ไปหาพระเยซูตอนท่านเกิด สาวกยิวมีข้อมูลกับพวกท่านน้อยมาก หรืออาจไม่มีเลยก็ได้ รู้แต่เดินทางตามดาวมาจากแดนตะวันออก เราจะเห็นได้ว่าการดูดวงดาวฤกษ์ยาม มันเป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันออกคือของพวกพราหมณ์นั่นเอง และหากดูให้ดีอีก การเดินทางตามหาเด็กเกิดใหม่โดยดูหมายอัศจรรย์ต่าง ๆ ของโหราจารย์มันเป็นลักษณะวัฒนธรรมเดียวกับพวกลามะวัชรยานนั่นเอง และการเดินทางไปโหราจารย์ก็ได้นำบางสิ่งติดตัวไปมอบแก่พระเยซูอีกด้วยนั่น คือ มดยอบ กำยาน ทองคำ ดูไปแล้วมันคือสิ่งที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ก็เหมือนกับพวกวัชรยานที่จะนำอุปกรณ์ทางพิธีกรรมที่อาจารย์ของตนเคยใช้ไปให้ เด็กเกิดใหม่ เพื่อทำการพิสูจน์อะไรหลาย ๆ อย่างว่า เด็กคนนั้นจะเป็นอาจารย์กลับชาติมาเกิดหรือไม่ สรุปก็คือมันเป็นการเดินทางไปหาเด็กกลับชาติมาเกิดที่คาดว่าจะเป็นอาจารย์ ของตนเองมาก่อนโดยการตามหมายอัศจรรย์ต่าง ๆ ไป พฤติกรรมของโหราจารย์นั้น น่าจะเป็นลักษณะต้นแบบของวัชรยานนั่นเอง ที่ก่อตัวขึ้นในสมัยที่ยังเป็นมหายาน แต่เป็นมหายานสมัยที่กึ่ง ๆ พราหมณ์ไปแล้ว แต่นิกายนี้อาจจะสูญหายไปและก่อตัวใหม่เมื่อพุทธมหายานเข้าไปสู่ธิเบตและ กลายเป็นวัชรยาน

     
  9. โพธิภูมิ

    โพธิภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +112
    พระเยซูท่านเปนพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ประวัติและคำสอนซึ่งผ่านกาลเวลามายาวนานได้ถูกแต่งเติมและบิดเบือน ทั้งจากลูกศิษย์ยุคหลังๆและกษัตริ์หรือผู้มีอำนาจในยุคต่างๆเพื่อสร้างความมั่นคงในอำนาจของตนเองโดยอาศัยพลังจากศรัทธาของศาสนาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเราจะเห็นได้จากประวัติศาตร์ของทางชนชาติชาวยุโรปที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งศาสนจักรและการเมืองการปรกครองที่ยุ่งเหยิงวุ่นวาย ทำให้อ่อนด้อยในปัญญาเรื่องของหลักธรรมที่ศาสดานำมาสั่งสอน ธรรมจากพระพุทธเจ้าจึงกลายเปนพระเจ้าสร้างโลกก็ฉะนี้เอง
     
  10. kt984

    kt984 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +51
  11. white sky

    white sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +118
    ข้อสังเกตอีกอย่างพระเยซู ไม่เคยสอนอะไรตามประวัติศาสตร์พวกยิวเลย เช่น สวนอีเดน โนอาห์ โมเสส พงศ์พันธุ์ทั้งหลายของพวกยิว พระเยซูไม่เคยสอนเลย คือท่านสอนอะไรที่มันใหม่มาก ท่านสอนเรื่องทางใจ เรื่องศีลธรรม เรื่องความรักความเมตตาแค่นั้น สำหรับพวกยิว พวกยิวไม่รู้จัก แต่คนก็ชอบกันมากมีคนติดตามท่านมากมายเพื่อเรียนความรู้ใหม่ ๆ จากตะวันออกนี้ ซึ่งนั่นก็ทำให้มีพวกยิวบางส่วนไม่พึงพอใจ โดยเฉพาะนักบวชยิวที่ถือคำสอนดั้งเดิม และนั่นจะกลายเป็นประเด็นแห่งโศกนาฏกรรมในภายหลัง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าคนนับถือยูดาย ไม่นับถือพระเยซู เพราะท่านไม่สอนคำสอนของพวกยิว

    แต่สุดท้ายเมื่อท่านตายไป พวกยิวก็กลับนำท่านไปโยงกับคำสอนพวกยิวอีกครั้ง คือเอาโอลด์เทสต้าเมนต์กลับมาเพื่อเชื่อมต่อไปว่าเป็นสิ่งเดียวกับที่พระเยซูสอน ทั้ง ๆ ที่พระเยซูไม่เคยสั่งเสียใด ๆ ไว้เลย ว่าให้ทำอะไรแบบนั้น จะว่าไปแล้ว พระเยซูตายก็เพราะ ถูกคนที่เชื่อโอลด์เทสต้าเมนต์นั่นเองเป็นคนจับท่านไปให้พวกโรม การที่โอลด์เทสต้าเมนต์ถูกดึงกลับมาโยงถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า และทำให้ในภายหลังคำสอนของพระเยซูผิดเพี้ยนไปมากเมื่อกลายไปสู่ศาสนาคริสต์ ศาสนาที่สอนหลักเมตตา กรุณา ขอพระเยซู ถูกบิดเบือนกลายเป็นลัทธิวันสิ้นโลก เป็นจิตวิทยาข่มขู่ให้คนกลุ่มอื่นหวาดกลัวรวมไปถึงสร้างความฮึกเหิมให้แก่พวกตนเอง และมีวาระซ่อนเร้นมากมายในการสร้างความชอบธรรมตั้งตนเองเป็นผู้ถืออำนาจแห่งพระเป็นเจ้า และต่อมาถูกนำไปใช้ในวงกว้างทางการเมือง ของชาวตะวันตก มีการปราบปรามความเชื่ออื่นอย่างรุนแรง อย่างความเชื่อในแถบอเมริกาทั้งเหนือใต้ แทบจะสูญพันธุ์ไปเลย เช่นพวกอินเดียนแดงที่นับถือปรัชญาแห่งธรรมชาติ หรือ พวกอินคา และ มายา ซึ่งน่าเสียดายมาก

    ความบิดเบี้ยวนี้ถูกต่อยอดไปอีกเมื่อถึงศาสนาอิสลาม เรียกได้ว่ากลายเป็นลัทธิสงครามเต็มรูปแบบ คือเอาเรื่องการฝึกทางใจมาผสมกับการขยายอาณาจักร และตัดเรื่องประณีประนอมกับเพื่อนบ้านตามแนวทางของพระเยซูทิ้งไป มีวิธีการเกณฑ์คนเข้า และกันคนออกอย่างรัดกุม เป็นลัทธิครองโลกเต็มรูปแบบ แต่สุดท้ายก็กลับไปต่อสู้กับรากเหง้าความเชื่อเดียวกันคือ พวกยิวและคริสต์นั่น
    เอง วันสิ้นโลกอาจเป็นจริงก็เพราะการรบรากันของพวกเชื่อวันสิ้นโลกนั่นเอง ชนวนแรกที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ก็คือ สงครามครูเสด นับจากนั้นมาก โลกก็รอวันนับถอยหลังสู่สงครามใหญ่ในระดับวันสิ้นโลก ที่ดูแล้วไม่น่าเลี่ยงพ้น
     
  12. ~191~

    ~191~ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +19
    :cool:เห็นตามนั้น.
     
  13. kt984

    kt984 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +51
    ขยายความบางตอน ก็จะเป็นพระคุณหย่างยิงครับ
     
  14. เมตต

    เมตต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +240
    เคยได้ยินจากผู้มีญาณพูดสั้นๆว่า พระศรีอริยเมตไตยเกิดเป็นปู่ของพระเยซู ก็ฟังไว้เฉยๆไม่อยากจะคิดอะไร
     
  15. ซงแทฮา

    ซงแทฮา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +386
    ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่รู้ว่า ท่านนี้มีความเข้าใจที่ถูกทีชอบแล้วโดดเด่นกว่าคนอื่นในนี้ มองทีเดียวก็รู้แล้ว ที่ตอนนี้ชาวยิวเอาพระเยซูซึ่งเป็นยิวนอกรีตไปรวมด้วยช่วยกันอีก ต้องเข้าใจนะครับว่าชาวยิวเป็นนักธุรกิจ ไม่เคยทำการค้าขาดทุน จะเห็นว่าตำราการบริหารจัดการเดี๋ยวนี้เริ่มสนใจจะเอาแนวคิดทางการค้าการทำธุรกิจแนวยิวมาประยุกต์ใช้แล้ว อาจจะสู้กับตำราแนวปรัชญาการปกครองจีนโบราณได้ทีเดียว ทีนี้ความเป็นคริสต์นั้นเป็นธุรกิจใหญ่มาก ศาสนา ลัทธิความเชื่อในบางแง่ก็คือธุรกิจ ที่อิงความเชื่อ สาวกพอใจ พระได้รับผลตอบแทนจากการค้าความเชื่อ และความเป็นคริสต์ก็มีความเป็นองค์กรขนาดยักษ์ ซึ่งชาวยิวเริ่มเสียดายจนแทบจะหัวใจวายตายมานานแล้วเพราะได้ปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือชนชาติอื่นทั้งๆๆที่มีรากเหง้ามาจากวัฒนธรรมตน(แม้จะสวนกระแสไปบ้าง)
    นั้นแหละ คือรากเหง้า เพราะการทำการค้าที่ปล่อยให้ความเข้าใจของเยซูไปตกอยู่ในมือของต่างชาติจนถึงกับตั้งศาสนาขยายกันไปทั่วโลกนี้นั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของยิวที่ยิวขาดทุน เพราะยิวไม่ได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์อะไรเลย

    ดังนั้นชาวยิวโดยเฉพาะพวกพระจึ่งว่า เราต้องทำอะไรสักอย่าง เดี๋ยวนี้ แร็บไบ จะพูดว่าจะเป็นคริสต์ เป็นยูดาย เป็นมุสลิม ก็เป็นคนของพระเจ้าเหมือนกันทำตามไปเถอะ ไปสวรรค์หมดแหละ ทั้งเยซู และ ท่านนบี ก็เป็นคนที่พระเจ้าเลือกทั้งคู่ ก็เหมือนศาสดาพยากรณ์ของเรานั้นแหละ มาเยลูซาเล็มซิมาร่วมกัน ไม่มีการประนาณอีกต่อไป เพราะถ้ารวมศาสนิกของสองศาสนานี้ก็ได้ประชากรโลกตั้งกี่เท่าละครับ คิดดู

    ส่วนอิสลามก็เอาความคิดยิวมาปรับใช้นั้นแหละ เข้าใจว่าเอาศาสนาของอินเดีย หรือ แม้เปอร์เซียส์มายำด้วย เหมือนกัน แต่เน้นไปที่ศาสนาและรัฐเอามารวมกัน ที่ดูเหมือนโหดร้ายก้ต้องเข้าใจว่ายุคท่านบีมุหะมัด ท่านเกิดสังคมมันเถื่อนมาก มันพูดแบบปราชณ์แบบอินเดียแบบจีนแบกรีกไม่ได้ ตะวันออกกลางมันไม่เป็นแบบนั้น มันก็ต้องใช้ดาบใช้กำลังเพื่อรวบอำนาจและปฏิรูปสังคมให้มันดีขึ้นมา ในโกหร่านมันถึงมีแต่กฏแต่องค์การ แต่นั้นแหละต่อมามันเสียเพราะคนของศาสนาเอง ก็ทำให้ศาสนาอิสลาม กลายเป็นศาสนาของคนหัวรุนแรงไป ทั้งๆๆที่ถ้าไปดูในโกหร่านจะพบว่า โกหร่านเน้นความรัก เน้นสันติ แม้สงครามก็ต้องเลี่ยงแล้วเลี่ยงอีกจนถ้าไม่สำหรับก็ควรจะทำแต่ต้องทำเพราะเป็นสงครามที่เป็นการสู้เพื่อธรรม เวลารบถ้าศัตรูวางดาบ ถอดใจ ก็ห้ามทำร้ายเขาให้อภัย โกหร่านมีพูดหมดแหละ ไม่เอามาใช้เอง อิสลามก็เลยเป็นศาสนาสงคราม ศาสนาของคนคลั่งใครไม่เปลี่ยนศาสนาก็ตายซะ ใครไม่เป็นอิสลามก็ล่มสลายไปซะ รัฐอิสลามรัฐเดียว

    ส่วนเรื่องพระเยซูไปเรียนศาสนาตะวันออกตอนวัยรุ่นนั้นก็ถือว่ามีคนเชื่ออย่างงั้น ในหมู่นักวิชาการ กระแสรอง ก็น่ารับฟังเพราะพระเยซูเป็นยิวนอกรีต เช่นเขาตาต่อตาฟันต่อฟัน พระเยซูก็มาใครตบแก้มท่านข้างขวาเอาข้างซ้ายให้เขาตบด้วยใครขโมยเสื้อท่าน เอาเสื้อคลุมให้เขาไปด้วยทำนองนี้ และวิธีพูดของท่านดูเหมือนจะแหกคอกจากวัฒนธรรมยิวมาคล้ายตะวันออก เช่นการใช้นิทานเปรียบในคำสอน ในเชิงอุปมา ซึ่งเป็นวิธีที่ศาสนาของอินเดีย และ เปอร์เซียส์ใช้ อย่างพระพุทธเจ้าท่านก็มักเล่าชาดก สอนธรรมะ สอนศีลธรรม นี่ก็น่ารับฟัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  16. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    God พระเยซู กล่าวถึงพระนามของพระเจ้า

    ผมพอได้เคยศึกษามาบ้าง คำเต็มของ God ก็คือ Godhama (โคตะมะ หรือ โคดม )

    จากการค้นคว้า การศึกษาอีกมุมมองหนึ่งนะครับ

    พระเจ้าของพระเยซูก็คือ God

    คำเต็มของGod ก็คือ Godhama อ่านว่า โกตะมะ

    ( Go dha ma = โก ดะ มะ)

    หรืิอ โคตมะ(โคดะมะ) หรือ โคดม

    Buddha บุดด้า บุดดะ หรือ พุท ธะ

    Buddha ก็คือ พระพุทธเจ้า

    โคตมะ โคดม

    ก็คือ ชื่อหรือพระนามของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

    หรือ สมณะโคดมนั่นเอง


    อนุโมทนาครับ

    --------------------------------------------------------------------------------
     
  17. VR144

    VR144 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +31
    ถึงผมเป็นคริสเตียนก็เปิดใจรับข้อมูลนี้นะ เพราะมีความเป็นไปได้หลายอย่าง เช่น Apocrypha ต่างๆ ส่วนพระเยซูนั้นที่จริงคริสเตียนไม่ได้เชื่อว่าพระองค์เป็นพระเจ้านะ แต่เป็นบุตรพระเจ้า ส่วนพระเยซูเดินทางไปอินเดียไปศึกษา- Vedic Knowledge (Hindu ancient scripture) ครับ
     
  18. เอื้อมบุญ

    เอื้อมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    385
    ค่าพลัง:
    +617
    ขอบคุณข้อมูลดีๆที่ได้อ่านจากท่านๆ

    ที่ทุกท่านเอามาให้อ่าน ตามความเชื่อกันไป ส่วนตัวเคารพทุกศาสนาไม่ก้าวล่วงคำสอนเพราะล้วนให้ทำดี จากเรื่องนี้ทำให้ได้อะไรเพิ่มขึ้นมาในส่วนตัวอีก..ขอบคุณจิงๆ

    แต่เคยสงสัยเองอยู่บ้างเหมือนกัน(ไม่รู้ถูกมั้ย?) อย่างศาสนาพุทธนั้นมีพระพุทธเจ้ามาหลายพระองค์แล้วมีชื่อปรากฎไว้หลายๆพระองค์ พระสมนโคดมท่านมาเป็นองค์ปัจจุบัน(ประกาศศาสนาไว้5พันปี) ถ้าไล่ขึ้นไปเรื่อยๆก่อนพระองค์ท่านจนถึงสมเด็จองค์ปฐม ก้อน่าจะยาวนานมาก ไล่เรียงไปแต่ละกัปโอย..เกินปัญญา..

    ถ้างั้นแนวคำสอนแห่งพุทธะ ก้ออาจมีมานาน..นาน..เกินกว่าคำว่า พ.ศ.ที่คนในยุคนี้เอามากำหนดกันใหม่

    ภูมิปัญญาดั้งเดิมของทุกศาสนาก้อคงมีกันมานานมากๆ แต่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เรารับรู้ อาจเกิดจากการพบหลักฐาน วิเคราะห์วิจารณ์กันในบั้นปลายเท่านั้น ไม่อาจเข้าถึงแก่นแท้ได้ นอกจากการค้นพบแสงแห่งสัจจะธรรมอันแท้จริงด้วยตัวเอง ในกายในจิตตนเองเหมือนที่พระอรหันตสาวกหรือพระอริยเจ้าท่านค้นพบตามองค์พระศาสดา
     
  19. MonkeyAstro

    MonkeyAstro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +202
    จะเดินไหวเหรอครับ
     
  20. neomagic

    neomagic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +217
    คนสมัยโบราณ เขาเดินไปยังอเมริกา กันเลย แล้วกลายเป็นอินเดียแดง,
    บางพวกเดินเท้าไปยังออสเตรเลีย แล้วกลายเป็นชนเผ่าอะบอริจิน ซึ่งเมื่อล้านปีก่อน ทวีปยังไม่แยกจากกัน รวมเรียกว่า แพนเกีย.

    ฝรั่งบุกเบิก ไปประเทศจีน ซึ่งไกลกว่า อินเดีย ยังทำได้
    ศาสนาพุทธ เผยแพร่มายังภาคใต้ของไทย รวมทั้งมาเลเซียด้วย ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย/ทวาราวดี ก็เดินกันมา(เสียดายตรงถูก ผู้รุกรานกลืนศาสนาเป็นมุสลิม แล้วก่อความรุนแรง 3 จว.ชายแดนภาคใต้)

    แล้วทำไมจะไปอินเดียไม่ได้ล่ะ ไม่ได้มีมหาสมุทรขวางกั้นหนิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...