จิตตภาวนาเป็นสิ่งที่ต้านทานความกลัวได้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย nimmita, 20 กันยายน 2007.

  1. nimmita

    nimmita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +409
    จิตตภาวนาเป็นสิ่งที่ต้านทานความกลัวได้

    ...​

    [​IMG]


    คำว่าปัจจยการก็คือสิ่งที่หนุนให้เกิดให้ตายมาตลอดเวลานั้นมันคืออะไร ท่านจึงได้พิจารณาถึงว่า อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขารา นี้ต้นเหตุแห่งความเกิดตายของสัตว์อยู่ตรงนี้ อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขาราจนกระทั่งสุดท้ายของอวิชชานี้ว่า เอวเมตสฺสเกวลสฺสทุกฺขกฺขนฺธสฺส, สมุทโยโหติ พาให้เกิดให้ตายนี้คือสมุทัย ได้แก่อวิชชานี้แลพาให้สัตว์เกิดสัตว์ตาย พระองค์ทรงพิจารณาย้อนหน้าย้อนหลังแห่งสาเหตุความเกิดของพระองค์โดยลำดับ จนกระทั่งทะลุเข้าไปถึงแดนเกิดแห่งภพชาติทั้งหลาย คืออวิชชา แล้วได้ตรัสรู้ธรรมได้แก่ถอนรากแก้ว คืออวิชชาอันเป็นรากเหง้าใหญ่หลวงที่พาให้สัตว์ทั้งหลายเกิดตายออกได้โดยสิ้นเชิง ในปัจฉิมยาของวันเพ็ญเดือนหก ได้ตรัสรู้ธรรมขึ้นมาเพราะการพิจารณาเข้าถึงสาเหตุแห่งความเกิดตายของพระองค์และสัตว์ทั้งหลาย ลงที่ดวงใจ ซึ่งบรรจุอวิชชาพาให้เกิดให้ตายในเวลานั้นได้ถอนพรวดขึ้นมาโดยสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเหลือ

    นั้นแลเป็นเวลาที่ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม คือรื้อภพรื้อชาติแห่งความเกิดตายของพระองค์ที่เกิดมากี่กัปกี่กัลป์ออกหมดโดยสิ้นเชิง ความรู้แจ้งแทงทะลุของจิตที่หลุดพ้นไปแล้วจากอวิชชานั้นเรียกว่าตรัสรู้ในคืนวันเดือนหกเพ็ญ จิตใจมีความสว่างไสวครอบโลกธาตุ เรียกว่าโลกวิทูรู้แจ้งโลก โลกนอกโลกใน โลกนรกอเวจี สวรรค์ชั้นพรหมถึงพระนิพพาน รู้รอบขอบชิดไปหมด ในสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรปิดบังลี้ลับพระญาณหยั่งทราบของพระองค์เลย นี่เรียกว่าตรัสรู้ คือรู้แจ้งเห็นจริงในแหล่งแห่งสัตว์เกิดตาย คืออะไร พาให้เกิดให้ตาย ก็มาแจ้งชัดที่ตรัสรู้อวิชชาถอนพรวดออกหมด จากพระทัยแล้วก็เป็นอาโลโกอุทปาทิ พระทัยสว่างจ้าครอบโลกธาตุมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง เลยไม่มีความสงสัย ถึงได้นำธรรมมาสอนโลก

    <O:p</O:p
    ธรรมที่พระองค์นำมาสอนโลกนั้นเป็นธรรมที่ออกจากความรู้แจ้งแทงทะลุ ไม่มีอะไรปิดบังลี้ลับพอที่จะให้ลูบๆคลำๆ เป็นความรู้แจ้งจากพระทัยที่บริสุทธิ์ล้วนๆ นี่ละธรรมที่พระพุทธเจ้านำมาสอนโลกจึงเป็นธรรมที่บริสุทธิ์ทุกสิ่งทุกอย่าง ในนามแห่งธรรมท่านเรียกว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้ว ไม่มีปิดบังลี้ลับ ทรงแสดงในแง่ใดมุมใดเป็นสิ่งที่มีแล้ว มีอยู่แล้ว ประจักษ์พระญาณหยั่งทราบของพระองค์แล้วนำมาสั่งสอนโลก ให้เชื่อตามความจริงที่พระญาณทรงหยั่งทราบไว้แล้วทุกแง่ทุกมุม ดังที่ว่าบาปมี ทรงหยั่งทราบด้วยพระทัยถนัดชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ว่าบาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี เปรตผีประเภทต่างๆ ทั่วแดนโลกธาตุนี้มี พรหมโลกมี นิพพานมี

    <O:p</O:p
    คำที่ว่ามีๆ เหล่านี้เป็นหลักความจริงล้วนๆ จากพระทัยที่ทรงพิจารณารู้แจ้งเห็นจริงหมดแล้ว จึงมาสั่งสอนสัตว์โลก สิ่งใดที่เป็นฝ่ายต่ำ ฝ่ายเสียหายฝ่ายบาปฝ่ายกรรมมาสอนโลกให้พากันระมัดระวัง อย่าพากันขวนขวาย อย่าพากันพออกพอใจและกระทำในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเหล่านั้น สิ่งไม่ดีทั้งหลายเมื่อทำลงไปแล้วก็จะเป็นบาปเป็นกรรมขึ้นมาที่จิตใจ จิตใจจะเป็นผู้รับเคราะห์รับกรรมจากบาปทั้งหลายที่ตนทำมามากน้อยนั้นแล นี่ทรงสอนทรงแนะนำอย่าพากันทำบาป ทางแห่งบาปนี่เป็นทางต่ำเสมอไป จนกระทั่งถึงลงนรกอเวจีได้ เรียกว่าทางต่ำสุดของสัตว์โลกที่สร้างบาปสร้างกรรมมากมายก่ายกอง เพราะไม่หยุดหย่อนในการสร้างความชั่วช้าลามก ตกไปลงนรกอเวจีได้ เพราะมันมากต่อมาก นี่พระองค์ก็ทรงสอนไว้แล้วอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

    <O:p</O:p
    แล้วว่าสวรรค์มีท่านก็สอนให้บำเพ็ญคุณงามความดี อันเป็นสิ่งที่ชอบธรรม เป็นทางเดินด้วยความราบรื่นดีงามในภพต่างๆ ตั้งแต่ภพมนุษย์ ไปถึงภพเทวดา อินทร์ พรหมตลอดไป ล้วนแล้วตั้งแต่เป็นทางที่ถูกที่ดีจากการบำเพ็ญคุณงามความดี มีการให้ทานรักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา ผลที่ทำความดีทั้งหลายเหล่านี้จะไหลเข้าสู่ใจ และหนุนใจให้ไปเกิดในสถานที่ดี คติที่เหมาะสมทุกภพทุกชาติไป นี่ท่านก็สอนให้รู้อย่างชัดเจนอย่างนี้ บุญกุศลที่เราสร้างมานี้มีมากเท่าไรก็หนุนผู้บำเพ็ญนั้นแล ให้ไปสูงขึ้นโดยลำดับๆ สุดท้ายบุญกุศลพอตัวแล้วก็หนุนขึ้นให้ถึงพระนิพพาน

    <O:p</O:p
    เมื่อถึงพระนิพพานแล้วก็เรียกว่าหมดภพหมดชาติ ความเกิดแก่เจ็บตาย ความทุกข์ยากลำบากหมดโดยสิ้นเชิงไม่มีอะไรเหลือ เพราะการสร้างบุญสร้างกุศลของเราเป็นสิ่งที่ชะล้างสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นให้หมดไป นี่พระองค์ก็ทรงสอนไว้แล้วโดยถูกต้อง เราเป็นลูกชาวพุทธอย่าพากันดื้อด้านหาญทำในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามไว้แล้ว ว่าไม่ให้ทำ อย่าเข้าใจว่าเป็นของดิบของดีแล้วขวนขวายสร้างแต่สิ่งชั่วช้าลามก จะเป็นเคราะห์เป็นกรรมมาสู่ตัวเองนั้นแหละ กรรมดีเราทำแล้วผลดีเป็นของเรา กรรมชั่วเราทำลงไปแล้วผลชั่วก็เป็นของเรา

    <O:p</O:p
    จึงขอให้พากันสร้างตั้งแต่ความดีงาม ความชั่วช้าลามกนั้นอย่าพากันสร้าง อย่าพากันทำ ให้ฟังเสียงคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นคำสอนของท่านผู้สิ้นกิเลสบริสุทธิ์พุทโธทั้งดวง มาสอนโลกไม่ผิดพลาด ใครมีความเชื่อความเลื่อมใสประพฤติปฏิบัติตนไปตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้น ก็ชื่อว่าสร้างความราบรื่นดีงามเพื่อเป็นทางเดินของตนในภพชาติต่อไป และแม้ปัจจุบันก็มีความสงบร่มเย็นภายในจิตใจจากการบุญการกุศลที่เราสร้างไว้แล้วนี้ประจำอยู่ที่ใจ ไม่เหมือนสมบัติเงินทองข้าวของ ยศถาบรรดาศักดิ์ซึ่งมีอยู่ภายนอก ระลึกถึงได้ก็ว่าสิ่งนั้นมี ระลึกไม่ได้ก็เหมือนไม่มี แต่บุญแต่กุศลที่เราสร้างไว้นี่ไหลเข้าสู่หัวใจของเราเอง ระลึกหรือไม่ระลึกบุญกุศลกับใจก็ติดพันกันอยู่ตลอดไป จนกระทั่งถึงที่สุดหลุดพ้นก็ไม่พ้นจากความดีงาม คือบุญคือกุศลที่เราสร้างไว้มากๆนี้เลย<O:p</O:p

    จึงขอให้พากันอุตส่าห์พยายามตั้งอกตั้งใจปฏิบัติตามธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เราไม่มีแล้วคำสอนใดที่จะเหมือนคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่สอนด้วยความถูกต้องดีงามทุกอย่าง ไม่ผิดไม่พลาด สอนตามหลักความจริง เช่นอย่างบาปมี นี้มีมาดั้งเดิม พระพุทธเจ้าพระองค์ใดตรัสรู้ขึ้นมาก็มายอมรับเรื่องบาปว่ามีเหมือนกัน บุญมีเหมือนกัน นรก-สวรรค์-พรหมโลก-นิพพานมีเหมือนกันหมด เพราะสภาพเหล่านี้มีมาดั้งเดิม ไม่ใช่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา แล้วอุตรินำสิ่งไม่มีทั้งหลายมาสอนโลก คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีคำสอนที่โกหกพกลมเหมือนคำสอนของกิเลส ซึ่งมันกระซิบกระซาบผลักดันอยู่ภายในจิตใจของตน อยากให้ทำสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อธรรม สิ่งที่เป็นข้าศึกต่อความดีงาม แล้วก็ทำกับมัน ตามมันไปๆ เราก็สร้างตั้งแต่ความชั่วช้าลามก เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ตัวเองตลอดไป นี่คือคำสอนของกิเลส

    <O:p</O:p
    ส่วนคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นฉุดลากขึ้นสู่ทางสูงเสมอ ผู้ใดเชื่อตามคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้นั้นจะมีความสงบร่มเย็นภายในจิตใจ แม้ในภพในชาตินี้ก็อบอุ่นภายในใจ ความตายไม่มีสัตว์ตัวใดที่จะกล้าหาญชาญชัยกับมัน สัตว์โลกกลัวกันทั้งนั้น แต่ถ้ากลัวความตายเหมือนอย่างกลัวบาปกลัวกรรม กลัวบาปกรรมนี้กลัวเหมือนเรากลัวตายแล้วใครจะไม่ทำบาป เพราะเหตุไร เพราะเรากลัวตายแล้วมันไม่ตาย แต่สุดท้ายมันก็ตายจนได้ ส่วนกลัวบาปไม่ทำบาปนี้ไม่เป็นบาป เวลาระลึกถึงความตายนี้สะดุ้งไม่ว่าจะเป็นชาติชั้นวรรณะใดก็ตาม แม้ที่สุดสัตว์ก็ไม่อยากตาย เรื่องความตายไม่มีใครโลกสัตว์ทั้งหลายไปหาเรียนที่ไหนว่าวิชากลัวตายมีอยู่ที่นั่นที่นี่ แต่มันมีอยู่กับทุกคนทุกสัตว์ ใครจึงกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น แล้วก็ไม่พ้นตายทั้งๆที่กลัว

    <O:p</O:p
    นี่ละควากลัว เรื่องความชั่วถ้าเรากลัวตกนรกหมกไหม้ พอได้รับความทุกข์ความทรมานจากการสร้างบาปสร้างกรรมของตนแล้ว เราจะได้ห่างเหินจากสิ่งชั่วช้าลามก สิ่งที่เป็นฟืนเป็นไฟต่อจิตใจของเราทั้งภพนี้และภพหน้าตลอดไป แล้วสร้างแต่ความดีงามเข้าสู่ตน ผลจะเป็นความสุขความเจริญเย็นใจไปตลอดสาย ในภพนี้ก็ชุ่มเย็นภายในจิตใจ พอระลึกถึงความตายธรรมที่เราบำเพ็ญมานี้จะเข้ารับกันทันที ความกลัวตายนั้นถูกความดีงามของเราที่บำเพ็ญมานี้ลบล้างออกหมด ไม่กลัวตาย ผู้ที่สร้างบุญสร้างกุศลมากๆไม่กลัวตาย เพราะอำนาจแห่งความดีทั้งหลายลบล้างได้ในขณะเดียวกันที่ความกลัวตายเกิดขึ้นมา

    <O:p</O:p
    นี่ละบุญกุศลเป็นสิ่งลบล้างความกลัวตาย จากนั้นไปก็มีความกล้าหาญชาญชัย ต่อความตาย เอาจะตายเมื่อไรก็ตายเถอะ หัวใจนี้ไม่ตาย เต็มไปด้วยบุญด้วยกุศล คุณธรรมเต็มหัวใจ ได้ที่ไหนไปดีทั้งนั้น เพราะอยู่นี้ก็ดี เป็นใจที่ดี ใจที่สงบร่มเย็น เป็นใจบุญใจกุศล ใจศีลใจธรรม ตายไปแล้วจะไปเมืองเปรตเมืองผีที่ไหนเป็นไปไม่ได้ ตายแล้วต้องไปสู่สถานที่ดี คติที่สมหวังของผู้สร้างคุณงามความดีนั้นแล ความตายก็ไม่กลัว เวลาสร้างบุญสร้างกุศลให้มากๆ ขึ้นภายในจิตใจแล้วจะไม่กลัวตาย ถ้าท่านทั้งหลายอยากสร้าง เวลานี้กำลังกลัวตายด้วยกันทุกคน ให้สร้างความดีงามรวมเข้ามาสู่จิตตภาวนา


    <O:p</O:p
    จิตตาภาวนานี่เป็นสิ่งที่ต้านทานความกลัวได้โดยไม่ต้องสงสัย
    <O:p</O:p


    http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3905</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2007
  2. ทรายสวย

    ทรายสวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +231
    รู้ตัวว่าโง่ ไม่รู้ทันกิเลส เวลาจะนั่งสมาธิ หรือเวลานั่งสมาธิอยู่ ใจมันชอบกลัว มันหวิว กลัวเห็นอะไร กลัวอะไรมันมา แบบเนี้ย รู้ก็รู้นะว่ามันโง่ แต่ก็แพ้มันทุกที พอนั่งมือเริ่มร้อน ๆ ก็เริ่มระแวง เฮ้อ!
     
  3. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    จะหมั่นทำแต่ความดี..ค่ะ
     
  4. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เอายันต์เกราะเพชรติดรอบด้านเลยไม๊
     
  5. fnpws

    fnpws สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +7
    ท่านหลวงตาพระมหาบัว ได้สอนหลักธรรมตามที่พระพุทธเจ้า บรมศาสดาได้ตรัสสอนไว้ โดยไม่ผิดเพี้ยน ฟัง หรือ อ่าน ก็ทำให้ได้ถึงใจจริงๆ ครับ ตอนนี้ก็พยายามสู้กับกิเลส ที่มีกับตัวอยู่ตลอดเวลา มีทุกแห่ง ทุกหน ก็ต้องอาศัยความอดทนและความเพียร ขออนุโมทนากับคำสอนของท่านครับ
     
  6. fnpws

    fnpws สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +7
    ท่านหลวงตาพระมหาบัว ได้สอนหลักธรรมตามที่พระพุทธเจ้า บรมศาสดาได้ตรัสสอนไว้ โดยไม่ผิดเพี้ยน ฟัง หรือ อ่าน ก็ทำให้ได้ถึงใจจริงๆ ครับ ตอนนี้ก็พยายามสู้กับกิเลส ที่มีกับตัวอยู่ตลอดเวลา มีทุกแห่ง ทุกหน ก็ต้องอาศัยความอดทนและความเพียร ผมเชื่อว่าการทำดีสร้างกุศล ผลบุญที่ได้รับอย่างหนึ่งก็คือความสบายใจ ใจเย็นขึ้น และสงบมากขึ้นด้วย ในความเป็นจริงผมค่อนข้างเชื่อว่าทุกคนย่อมที่จะกลัวตายเมื่อมันใกล้จะมาถึงตัวเอง ดังนั้น ก็คงต้องอาศัยสติ ทุกวันนี้ก็ต้องพยายามเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาเหมือนกันครับ อย่างไรก็เราก็หนีไม่พ้นซึ่งความตาย
    ขออนุโมทนากับคำสอนของท่านครับ
    <!-- / message -->
     
  7. ปลา เจนจิรา

    ปลา เจนจิรา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +15
    การเวียนไหว้ตายเกิด

    เชื่อว่าในทุกวันคนเรามีการกระทำชั่วอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม สำหรับเรืองทางพุทธศาสนาตัวดิฉันเชื่อเรื่องการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วและการนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบ แลวเกิดปัญญา อนุโมทนา สาธุ
     
  8. ต้าชลธิชา

    ต้าชลธิชา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    ถ้าคนเรารู้จักควบคุมจิตใจ มีสติ มีสมาธิ ศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทำแต่ความดีละเว้นความชั่ว ไม่ประพฤติตนไปในทางเสื่อม เราก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร เพราะเราทำดีอย่แล้ว ความดีก็ย่อมชนะทุกสิ่งทุกอย่าง นี่แหละบุญกุศลเป็นสิ่งที่ลบล้างความกลัวได้ เราก็จะมีแต่จิตใจที่กล้าหาญ เพราะมีจิตใจดี จิตใจเป็นบุญกุศล :d :d :d :d
     
  9. mochi35

    mochi35 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +16
    จิตตภาวนาเป็นสิ่งที่ต้านความกลัวได้

    เมื่อเรามีจิตใจที่ตั้งหมั้นอยู่ในความดี ทำแต่ความดี ไม่ทำความชั่ว และมีจิตใจที่สงบและเข้มแข็ง เมื่อมีกิเลศหรือความกลัวต่างเราก็จะไม่กลัวกับสิ่งที่มารบกวนกับจิตใจของเราได้ ดังนั้นเราก็ควรสระสมสร้างบุญกุศลให้มากๆและทำความดีมีความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่นด้วย เพื่อบุญกุศลที่เราสระสมมาจะตอบสนองเราภายในโลกนี้และโลกหน้าด้วย จิตภาวนาเป็นที่ต้านความกลัวได้ อนุโมทนา สาธุ...(555) (ping)
     
  10. HALUA11

    HALUA11 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +13
    ระงับ...ความกลัว

    (555) ถ้าคนทุกคนในโลกนี้รู้จักควบคุมจิตใจ สติ อารมณ์ให้ไม่หวั่นไหวปัญหาต่างๆคงไม่มี ไม่เกิดขึ้น ควรมุ่งทำแต่ความดี ละความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ ปัญหาต่างๆคงดีขึ้น ประเทศชาติคงเจริญมากกว่านี้ (ping) (b-glass)
     
  11. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างและจินตนาการขึ้นมาเอง ฉะนั้น เมื่อเราสร้างขึ้นมาได้ เรานั่นแหละต้องระงับมันให้ได้เช่นเดียวกัน
     
  12. freedom

    freedom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +301
    พระผู้บริสุทธิ์ สมกับเป็นศิษเอกองค์หลวงปู่มั่นยุคบ้านหนองผือจริงๆครับ สาธุ
     
  13. _na mo_

    _na mo_ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +26
    อนุโมทนาด้วยนะครับ

    ทำดีไว้นะครับ อย่าประมาท
     
  14. pisamai_3727

    pisamai_3727 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +119
    จิตภาวนาเป็นสิ่งที่ต้านทานความกลัวได้

    การที่เรากลัวนั้นเราจะต้องมีสติและคิดให้ดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ไม่ใช่ว่ากลัวแล้วไม่ควบคุมสติก้จะทำให้เรากลัวจนควบคุมสติไม่ได้
     
  15. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขออนุโมทนาด้วยครับ


    คุณทรายสวยครับ เป็นธรรมดานะครับ ก่อนที่จะหายกลัวก็ต้องมีความกลัวก่อน และการที่ความกลัวจะหายไปได้ ก็ต้องมีการฝึกฝนจนกระทั่งสามารถก้าวข้ามความกลัวไปได้น่ะครับ ยังไงก็สู้ๆนะครับ ผมจะเอาใจช่วยนะ ^ ^
     
  16. marry5000

    marry5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +293
    ร่างกายเรานี้เป็นของไม่จีรัง พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่พระเพลิง พระแม่พระพายให้ร่างกายเรามาเพื่อสร้างคุณความดี และเมื่อวันหนึ่งร่างกายนี้ครบตามกำหนดอายุวันแล้ว พระแม่ทั้งหลายก็จะนำร่างนี้กลับคืนไป เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าหลงยึดติดเลยว่าร่างนี้เป็นตัวตนที่แท้จริงของเรา คุณความดี ความเลวที่เราสร้างสะสมมาต่างหากคือ ตัวตนที่แท้จริงของเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...