พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมนำบทสวดพระแม่ธรณีมาฝากกันครับ

    <TABLE style="WIDTH: 417pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=556 border=0 x:str><COLGROUP><COL style="WIDTH: 60pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 2925" span=5 width=80><COL style="WIDTH: 39pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1901" span=3 width=52><TBODY><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl30 style="BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; WIDTH: 300pt; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-RIGHT-COLOR: #e0dfe3" width=400 colSpan=5 height=31>พระคาถาบูชาพระแม่ธรณี</TD><TD class=xl32 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-TOP: windowtext 1pt solid; BORDER-LEFT-COLOR: #e0dfe3; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; WIDTH: 117pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" width=156 colSpan=3>หลวงปู่เรือง ลพบุรี</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ตั้ง นะโม 3 จบ ทำจิตให้สงบแล้วระลึกถึงพระคุณของพระแม่ที่มี</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>พระเมตตาค้ำจุนโลกนี้ให้อยู่ได้ ขอบารมีแห่งเมตตาธรรมของท่าน</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>จงดลบันดาลให้สิ่งที่เราปรารถนาจงเสร็จพลันด้วยเถิด แล้วภาวนา</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>พระคาถาบูชาดังนี้ 3 - 5 - 7 - 9 จบ ตามกำลังศรัทราเทอญ ฯ</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl34 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ตัสสาเกษีสะโต ยะถาคังคา โสตังปะวัตตันติ มาระเสนาปะติฎฐาตุง</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl34 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>อะสักโกนโต ปะลายิงสุ ปาระมิตานุภาเวนะ มาระเสนาปะราชิตา</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl34 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ทิโสทิสังปะลายันติ วิทังเสนติ อะเสสะโต</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ศัตรูหมู่ปัจจามิตรจะแพ้พ่าย อธิษฐานถามถึงแม่ถึงที่อยู่หรือที่ทำมาหากิน</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl24 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-BOTTOM-COLOR: #e0dfe3; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>ก่อนจะไปอยู่หรือก่อนจะไปทำมาหากิน ได้ฉมังนัก ถ้าเชื่อตามที่แม่บอก</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl27 style="BORDER-RIGHT: black 1pt solid; BORDER-LEFT: windowtext 1pt solid; BORDER-TOP-COLOR: #e0dfe3; BORDER-BOTTOM: windowtext 1pt solid; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: transparent" colSpan=8 height=31>จะมีความสุขความเจริญแล ฯ</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำไหว้งานศพ
    <O:p</O:p
    เวลาไปเยี่ยมศพ<O:p</O:p

    อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง<O:p</O:p



    เวลารดน้ำศพ<O:p</O:p

    แบบที่ ๑ กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง อะโหสิกัมมัง สัมพะปาปัง วินัสสะตุ<O:p</O:p
    แบบที่ ๒ อิทัง มะตะกะสะรีรัง อุทะกัง วิยะ สิญจิตัง อะโหสิกัมมัง<O:p</O:p
    คำแปล กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ ขอให้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ทั้งต่อหน้าและลับหลังด้วยเทอญ
    <O:p</O:p
    คำถวายผ้าไตรอุทิศแก่ผู้ตาย<O:p</O:p

    อิมานิ มังยัง ภันเต ติจีวะรานิ อัยยัสสะ เทมะ สาธุ โน ภันเต อะยัง ติจีวะระปูชาวิปาโก อัมหากัง มาตาปิตุอาทีนัง ญาตีนัง กาละกะตานัง สังวัตตะตุ อัมหากัง มาตาปิตุอาทะโย ญาตะกา ทานะ ปัตติง ละภันตุ อัมหากัง เจตะสา ฯ<O:p</O:p
    คำแปล ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายไตรจีวรนี้ แก่พระผู้เป็นเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้เจริญ อันว่าผลวิบากของการบูชาด้วยไตรจีวรนี้ จงเป็นไปเพื่อญาติทั้งหลาย มีมารดาบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นต้น จงได้ส่วนแห่งทานนี้ ตามความประสงค์ ของพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย เทอญ ฯ<O:p</O:p


    คำภาวนาเวลาทอดผ้าหน้าศพ<O:p</O:p

    นามะรูปัง อะนิจจัง นามะรูปัง ทุกขัง นามะรูปัง อะนัตตา<O:p</O:p



    คำภาวนาเวลาจุดเผาศพ<O:p</O:p

    แบบที่ ๑ อะสุจิ อะสุภัง กัมมัฏฐานัง ภาเวติ<O:p</O:p

    แบบที่ ๒ จุติ จุตัง อะระหัง จุติ<O:p</O:p
    แบบที่ ๓ อะยัมปิ โข เม กาโย เอวัง ภาวี เอวัง ธัมโม เอวัง อะนะตีโต<O:p</O:p
    คำแปล กายของเรานี้ ต้องเป็นอย่างนี้เหมือนกัน มีอย่างนี้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเป็นอย่างนี้ไปได้<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post369977 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">07-11-2006, 10:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2101 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ใช้ธูปเท่าไร ไหว้พระไหว้เจ้า (ผู้เขียน ซินแสน้อย) <O:p</O:p

    ธูป 1 ดอก นิยมใช้ไหว้ศพ เจ้าที่ เจ้าทาง ภูมิ ผี ต่างๆ กล่าวคือวิญญาณธรรมดาที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นชั้นเทพ<O:p</O:p
    ธูป 2 ดอก ไม่ปรากฏนิยมใช้<O:p</O:p
    ธูป 3 ดอก นิยมไหว้พระพุทธ อันมีความหมายถึง พระรัตนตรัย หรือแม้แต่การไหว้เทพก็มีผู้ไหว้ 3 ดอก เช่นกัน อันมีความหมายถึงพระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม<O:p</O:p
    ธูป 4 ดอก ไม่ปรากฏนิยมใช้<O:p</O:p
    ธูป 5 ดอก มีผู้นิยมใช้ไหว้ตี่จูเอี้ย โดยปักที่กระถางธูป 3 ดอกและข้างประตู ข้างละ 1 ดอก นอกจากนี้ก็มีผู้นิยมไหว้พระรูปรัชการที่ ๕ คงมีคติมาจากรัชการที่ ๕ ก็ใช้ 5 ดอก การไหว้ท้าวจตุโลกบาลก็นิยมใช้ธูป 5 ดอก เพราะหมายถึงทิศใหญ่ทั้ง 5 อันมี ตะวันตก ตะวันออก เหนือ ใต้ และทิศกลาง ตามความเชื่อของชาวจีน รวมทั้งเทพอื่นๆ ก็เห็นมีปรากฏ<O:p</O:p
    ธูป 6 ดอก ไม่นิยมใช้<O:p</O:p
    ธูป 7 ดอก นิยมไหว้พระภูมิไชยศรี นอกจากนี้ก็มีผู้ที่เคารพบูชาพระอาทิตย์ก็นิยมไหว้ ซึ่งความหมายของธูป 7 ดอก ก็หมายถึงความคุ้มครองวันทั้ง 7 ในหนึ่งสัปดาห์<O:p</O:p
    ธูป 8 ดอก ชาวฮินดูนิยมใช้ธูป 8 ดอก ในการไหว้เทพแทบจะทุกองค์ ที่เป็นเทพชั้นสูง อันได้แก่ พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม พระแม่อุมา พระลักษมี พระสุรัสวดี พระพิฆเนศ พระขันธกุมาร ร่วมไปถึง พระราม พระกฤษณะ ด้วยจะพบว่า กล่องธูปที่ใช้บรรจุธูปหอมของอินเดียกล่องหนึ่งจะมีธูป 8 ดอก ให้บูชาครั้งละ 1 กล่องเล็ก นอกจากนี้ก็มีความเชื่อว่า การไหว้พระราหู ก็นิยมใช้ธูป 8 ดอกเช่นกัน<O:p</O:p
    ธูป 9 ดอก นับเป็นจำนวนธูปที่นิยม ใช้ในการไหว้ทั้งพระทั้งเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ด้วยคนไทยถือว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล หมายถึงความเจริญก้าวหน้า หากแต่ในประเทศอื่นเขาไม่ได้นิยมเช่นคนไทย<O:p</O:p
    ธูป 10 ดอก สำหรับชาวจีนดั้งเดิมแล้วนิยมใช้เลขนี้ในการจุดธูปเช่นเดียวกันคนไทยนิยมเลข 9 เลขสิบนับเป็นเลขเต็ม และความหมายของสิบ (ภาษาจีนคือจั๊บ)นั้นหากจะประดุจนิ้วมือก็หมายถึงการจับได้เต็มไม้เต็มมือ ได้อะไรที่เต็มมือ ได้อะไรที่เต็มสิบก็คือความสมบูรณ์เต็มที่<O:p</O:p
    ธูป 11 ดอก ไม่ปรากฏความนิยม<O:p</O:p
    ธูป 12 ดอก ชาวจีนนิยมไหว้เจ้าแม่กวนอิม บางคนใช้ 13 ดอก แต่จะไหว้เฉพาะในช่วงเดือน 12 เท่านั้น<O:p</O:p
    ธูป 14, 15 ดอก ไม่ปรากฏความนิยม<O:p</O:p
    ธูป 16 ดอก นิยมใช้ในพิธีบวงสรวงบูชาเทพ บูชาครู หรือพิธีกลางแจ้ง ที่มีการอัญเชิญเทวดาที่สำคัญต่างๆ 16 ดอก หมายถึง สวรรค์ 16 ชั้น<O:p</O:p
    นอกจากนี้ที่ได้สืบเสาะมาก็มี 31 ดอก และ 32 ดอก<O:p</O:p
    ที่นิยมใช้ในการบวงสรวง เช่นเดียวกันกับ 16 ดอก <O:p</O:p
    โดย ธูป 31 ดอก หมายถึงการเชิญเทพทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ต้องเป็นการบวงสรวงเครื่องบัดพลีใหญ่<O:p</O:p
    หรือ ธูป 32 ดอก หมายถึง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และบนโลกมนุษย์ อีก 1 จะนิยมใช้ในการบวงสรวงใหญ่เท่านั้น เพราะเครื่องบวงสรวงต้องมากเพียงพอกับการอัญเชิญด้วย<O:p</O:p
    เจ้าคุณอมร วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ ท่านให้ข้อคิดที่น่าสนใจมากคือ จำนวนเท่าไร มันอยู่ที่ใจ มนุษย์ตั้งกันขึ้นมาเอง ตามความพอใจ ซึ่งที่จริงแล้วหากใจเป็นสมาธิศรัทธาจริง มือเปล่า ใจเปล่า ก็ศักดิ์สิทธิ์ ได้<O:p</O:p
    ผู้เขียนเองก็มีความเห็นตรงกันเพราะเวลาเราฟังเทศน์ ฟังธรรม หรือจบมือขึ้น สาธุ อนุโมทนากุศลนั้น ท่านเชื่อไหมว่า อานิสงส์แรงนักแล แค่เอามือเปล่าจบขึ้นเหนือหัวตั้งจิตให้มั่น กล่าวคำว่า สาธุ


    หมายเหตุ ผมเองจำไม่ได้ว่านำมาจากหนังสือ ชื่อหนังสืออะไรครับ

    ขอขอบคุณ คุณซินแสน้อย ผู้เขียนครับ

    ***************************************************

    พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาต่อบรรดาศิษย์อย่างยิ่ง แม้อายุสังขารท่านจะร่วงโรยเพียงใด ท่านก็ยังเมตตาอบรมสั่งสอนศิษย์ ตลอดจนผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายที่มากราบนมัสการ จวบจนกระทั่งท่านอาพาธด้วยโรคหัวใจ ท่านก็ยิ่งให้ความเมตตาแก่ศิษย์โดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ในยามดึกที่ควรจะได้พักผ่อน ท่านก็ยังแสดงธรรมแก่ผู้มากราบนมัสการตลอดมา ธรรมโอวาท ที่ท่านให้เป็นคติเตือนใจแก่ศิษย์ทั้งหลายคือ…….เวลาเหลืออีกไม่มากแล้วให้รีบพากันปฏิบัติ<O:p</O:p
    หลังจากท่านมรณภาพ คณะศิษยานุศิษย์ได้รวบรวมคำสอนของท่านมาจัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อเป็นเครื่องบูชาพระคุณ คำสั่งสอนของหลวงปู่ฟังง่าย เข้าใจง่าย แม้บางครั้งจะมีผู้นำเรื่องไม่น่าถาม มาเรียนถาม ท่านก็ได้เมตตาตอบจนกระจ่างแจ้ง ให้ผู้ถามหมดข้อสงสัย ดังได้คัดลอกมาฝากท่านผู้อ่าน ดังนี้
    <O:p</O:p
    ผู้ถาม<O:p</O:p
    หลวงปู่ครับ การจุดธูปเทียนบูชาพระในพิธีกรรมต่างๆ มักจะไม่เหมือนกัน ที่ถูกต้องเหมาะสมนั้น ควรจุดธูปกี่ดอก<O:p</O:p
    หลวงปู่<O:p</O:p
    จุดกี่ดอกก็ได้ ส่วนใหญ่มักจุด ๓ ดอก บูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กี่ดอกก็มีความหมายทั้งสิ้น
    <O:p</O:p
    ผู้ถาม<O:p</O:p
    ถ้าเช่นนั้นจุดดอกเดียว ก็ถือว่าไหว้ผี ไหว้ศพใช่ไหมครับ<O:p</O:p
    หลวงปู่<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงจิตหนึ่ง<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงกายกับจิตหรือโลกกับธรรม<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงพระรัตนตรัยคืออนิจจังทุกขังอนัตตา<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงอริยสัจ๔<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงพระเจ้าพระองค์นะโมพุทธายะ<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงสิริประการ<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงโพชฌงค์<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงมรรค<O:p</O:p
    จุดดอกหมายถึงนวโลกุตรธรรม<O:p</O:p
    จุด๑๐ดอกหมายถึงบารมี๑๐ประการ
    <O:p</O:p
    ผู้ถาม<O:p</O:p
    ถ้าจุด ๑๑ ดอกล่ะครับหลวงปู่ หมายถึง<O:p</O:p
    หลวงปู่<O:p</O:p
    ก็บารมี ๑๐ ประการ กับจิต ๑<O:p</O:p
    ผู้ถาม<O:p</O:p
    ถ้าไม่มีธูปเทียน<O:p</O:p
    หลวงปู่<O:p</O:p
    ก็ใช้วิธีจิตใจบูชาไม่เห็นต้องมีอะไรพุทธังธัมมังสังฆังชีวิตังเมปูเชมิ - ทุกอย่างอยู่ที่ใจ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มีเรื่องเล่ากันว่า โยมท่านหนึ่งไปกราบนมัสการพระเถระผู้ใหญ่องค์หนึ่งเป็นประจำ วันหนึ่งได้ถามปัญหาธรรมว่า หลักของพระพุทธศาสนาคืออะไร พระเถระตอบว่า ละความชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว โยมท่านนั้นได้ฟังแล้วก็พูดว่า อย่างนี้เด็ก ๗ ขวบก็รู้ พระเถระองค์นั้นยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบว่า จริงของโยม เด็ก ๗ ขวบก็รู้ แต่ผู้ใหญ่อายุ ๘๐ ก็ยังปฏิบัติไม่ได้ ซึ้งไหมละท่าน นึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า
    <O:p</O:p


    สากัจฉายปุญญเวทิตพพาปัญญารู้ได้ด้วยการสนธนา
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post370874 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">08-11-2006, 10:17 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2106 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ศาสนกิจ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผู้เขียน สมบูรณ์ จอจันทร์ <O:p</O:p
    บทความ ชาวพุทธควรรู้ นิตยสารโลกลี้ลับ
    <O:p</O:p
    พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งนิยมใช้กันปฏิบัติกันในปัจจุบันนี้ ส่วนมากเจือด้วยลัทธิพราหมณ์ คือ พุทธ กับ พราหมณ์ ปะปนคละกันไป จะแยกออกจาก กันได้ยาก เนื่องจากพุทธศาสนิกชนนิยมปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายร้อยปีแล้ว ถึงแม้จะมีลัทธิพราหมณ์แทรกอยู่ก็ตาม เมื่อไม่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง หรือวัฒนธรรมศีลธรรมแล้ว ก็เป็นอันใช้ได้ตลอดมา<O:p</O:p
    ศาสนกิจของชาวพุทธหมายถึงการปฏิบัติตนเกี่ยวกับระเบียบประเพณีทางพุทธศาสนา ที่นิยมปฏิบัติกันเป็นประจำ <O:p</O:p
    ระเบียบประเพณีนี้ เราเป็นชาวพุทธควรจะรู้และจดจำไว้ปฏิบัติสืบต่อไป เมื่อได้ไปพบงานศาสนกิจที่จำเป็น จะได้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามระเบียบประเพณีของชาวพุทธ เพื่อยึดเป็นหลักปฏิบัติต่อไป
    <O:p</O:p
    การนิมนต์พระ<O:p</O:p

    ผู้ประสงค์จะทำบุญควรนิมนต์พระไว้ก่อนวันงาน ยิ่งเนิ่นๆ ได้เป็นดี เผื่อพระจะไม่ว่างถ้านิมนต์เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยจะดีมาก<O:p</O:p
    งานพิธีเกี่ยวกับฤกษ์ ต้องบอกเวลาฤกษ์ให้พระท่านทราบ จะได้ไม่ขลุกขลักเรื่องเวลา ซึ่งทำให้เสียฤกษ์ได้ อาจทำให้เจ้าภาพเองต้องเสียใจหรือกังวลใจภายหลังอย่างใดอย่างหนึ่งได้<O:p</O:p
    การนิมนต์พระ ห้ามระบุชื่อภัตตาหารที่จะถวายพระเป็นอันขาด เพราะผิดวินัย
    <O:p</O:p
    ทานที่จะให้มี ๒ อย่าง<O:p</O:p

    . บุคลิกทาน ให้เจาะจงผู้รับ<O:p</O:p
    . สังฆทาน ให้โดยไม่เจาะจงผู้รับ
    <O:p</O:p
    การจัดอาสนะ<O:p</O:p

    อาสนะสำหรับพระที่นั่งนั้น จะใช้เสื่อ พรม หรือผ้าขาวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แล้วแต่จะสะดวก แต่ต้องจัดให้สูงกว่าฆารวาส ที่พระสงฆ์นั่งต้องอยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูปเสมอไป<O:p</O:p
    นอกจากอาสนะแล้ว ยังมีพานหมาก พลู บุหรี่ ขันน้ำ กระโถน (ปัจจุบันไม่นิยมหมาก พลู บุหรี่)<O:p</O:p
    ที่เห็นมาส่วนมากแล้วจะเป็นลูกอมต่างๆ ถวายแทนหมาก พลู บุหรี่ ของเหล่านี้ ควรตั้งไว้ด้านขวามือของพระสงฆ์ ส่วนกระโถนพระท่านจะยกไว้ข้างหลังเอง ไม่ต้องประเคน
    <O:p</O:p
    การจัดโต๊ะบูชา<O:p</O:p

    โต๊ะบูชานั้น ใช้โต๊ะหมู่ ๕ หมู่ ๗ หรือหมู่ ๙ ถ้าไม่มีโต๊ะหมู่จะใช้โต๊ะอย่างอื่นที่เหมาะสมแทนก็ได้ <O:p</O:p
    เมื่อไม่สามารถจะหาโต๊ะหมู่และเครื่องตั้งบูชาได้ครบ ก็พึงจัดหาเท่าที่หาได้ คือ พระพุทธรูป ๑ องค์ ตั้งไว้ที่โต๊ะตัวสูง ผินหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ถ้าสถานที่ไม่อำนวย ก็ให้ตั้งผินหน้าไปทางที่เหมาะสม <O:p</O:p
    การที่นิยมตั้งพระพุทธรูปผินหน้าไปทางทิศตะวันออกนั้น นิยมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เพราะพระองค์ผินหน้าไปทางทิศตะวันออก รวมไปถึงตั้งหิ้งพระบูชาที่บ้าน หรือตามสถานที่ราชการทั่วไป ก็นิยมปฏิบัติตามในทิศดังกล่าวนี้ ถือกันว่าผินหน้าไปทางทิศอื่นหรือทิศตรงกันข้าม จะไม่เป็นมงคลทำนองนี้
    <O:p</O:p
    ด้ายสายสิญจน์<O:p</O:p

    ด้ายสายสิญจน์ไม่ควรใช้ด้ายหลอด ควรใช้ด้ายดิบจับเก้าเส้น จึงจะน่าดูและถูกต้อง และด้ายสายสิญจน์ควรใช้เฉพาะงานมงคล<O:p</O:p
    บ้านที่ทำงานมงคล จะต้องโยงด้ายสายสิญจน์ไว้บริเวณรอบบ้าน ควรจัดหาด้ายสายสิญจน์ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง อย่ายืมของผู้อื่น การยืมของผู้อื่นมาโยงไว้รอบบ้านตน พองานเสร็จไม่รื้อออกส่งเขาน่ากระไรอยู่
    <O:p</O:p
    วิธีโยงด้ายสายสิญจน์<O:p</O:p

    ให้ตั้งต้นที่พระพุทธรูป เวียนมาทางขวามือ (แบบเลข ๑ ไทย) โยงออกไปรอบบ้านหรือรั้วบ้านแล้ววนกลับเข้ามาตรงเสาเรือนเข้าสู่ที่บูชา แล้ววงรอบฐานพระพุทธรูป โยงรอบบาตรหรือขันน้ำมนต์กลุ่มด้ายสายสิญจน์ที่เหลือวางไว้บนพาน ตั้งไว้ในที่อันควร<O:p</O:p
    เวลาวางด้ายสายสิญจน์ พึงพยายามสำรวมจิตรำลึกถึง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ขออำนาจช่วยปกปักรักษาปัดเป่าสรรพภยันตราย และให้เกิดความสุข ความเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตลอดกาล
    <O:p</O:p
    อย่าข้ามด้ายสายสิญจน์<O:p</O:p

    สายสิญจน์ที่โยงมาจากพระพุทธรูปแล้วถือว่าเป็นของสูง ไม่ควรเดินข้ามหรือยกสิ่งหนึ่งสิ่งใดข้าม ถ้าข้ามถือว่าเป็นการดูถูกพระพุทธเจ้า คือ เท่ากับเดินข้ามหรือยกข้ามพระเศียรของพระองค์
    <O:p</O:p
    บาตรน้ำมนต์<O:p</O:p

    บาตรน้ำมนต์ใช้บาตรดินหรือขันสัมฤทธิ์ ถ้าไม่มีจะใช้ขันทองเหลืองก็ได้แล้วแต่จะหาได้ใส่น้ำพอควร และของใส่บาตรน้ำมนต์ตั้งไว้ด้านขวามือของพระสงฆ์ที่เป็นหัวหน้าในพิธี แต่อย่าให้ห่างนัก เพราะพระจะจับเทียนไม่ถึงเวลาทำน้ำมนต์ และขันน้ำมนต์ต้อง ประเคนพระด้วย
    <O:p</O:p
    เทียนสำหรับทำน้ำมนต์<O:p</O:p

    เทียนที่จะทำน้ำมนต์ ควรใช้เทียนขี้ผึ้งแท้อย่างดี หนัก ๑ บาท ติดไว้ที่ปากบาตรหรือที่ปากขันที่จะทำน้ำมนต์ เพื่อสะดวกแก่พระท่านเวลาจะจับทำน้ำมนต์
    <O:p</O:p
    ของใส่บาตรน้ำมนต์<O:p</O:p

    สิ่งของที่นำมาใส่บาตรน้ำมนต์ คือ ๑. ผิวมะกรูด ๒. ฝักส้มป่อย
    <O:p</O:p
    ของที่ใช้มัดประพรมน้ำมนต์<O:p</O:p

    ๑. ใบมะตูม ๒. ใบสันพร้าหอม<O:p</O:p
    ๓. ใบเงิน ๔. ใบทอง<O:p</O:p
    ๕. ใบนาก ๖. หญ้าแพรก<O:p</O:p
    ๗. แฝก ๘. หญ้าคา<O:p</O:p
    ใน ๘ อย่างนี้ ถ้าหาได้ครบเป็นการดียิ่ง ถ้าหาไม่ได้หรือไม่ครบก็ใช้เท่าที่หาได้<O:p</O:p

    การจุดธูปเทียนที่บูชา<O:p</O:p

    คนจุดธูปเทียนกับคนอาราธนาศีลต้องเป็นคนละคนกัน ไม่ใช่คนคนเดียวกันกับที่จุดธูปเทียนแล้วมาอาราธนาศีล พึงปฏิบัติดังนี้<O:p</O:p
    ผู้ถือเทียนชนวนให้เชิญผู้เป็นประธานในพิธีมาจุดธูปเทียน เมื่อถึงที่บูชาแล้ว ผู้ถือเทียนชนวนพึงยืนหรือนั่งอยู่ทางด้านขวามือของผู้จุด หรือแล้วแต่สถานที่
    <O:p</O:p
    การส่งเทียนชนวน<O:p</O:p

    เมื่อส่งเทียนชนวนแล้วต้องรอรับเทียนก่อน อย่าเพิ่งกลับ ในเมื่อจุดธูปเทียนยังไม่เสร็จ และเวลากลับอย่าเดินผ่านหน้าผู้จุดธูปเทียน เว้นแต่สถานที่จำกัด เดินทางอื่นไม่ได้
    <O:p</O:p
    ผู้จุดเทียน<O:p</O:p

    ผู้จุดเทียนเมื่อจุดเสร็จแล้วพึงกราบพระ ๓ ครั้ง ตรงที่จัดไว้สำหรับกราบ และควรกราบด้วยแบบเบญจางคประดิษฐ์ ทั้ง ๕ คือ ๑. เข่าทั้งสองจรดพื้นดิน ๒. ฝ่ามือทั้งสองราบอยู่ที่พื้น ๓. หน้าผากจรดพื้นเวลากราบลง รวมเป็น ๕ ( เข่า ๒ ฝ่ามือ ๒ หน้าผาก ๑) และ เวลากราบระวังอย่าให้ส่วนตะโพกสูงโด่งขึ้น ดูน่าเกลียดและไม่ทอดตัวลงไปเหมือนจะนอน กราบให้เป็นจังหวะพอดูงาม อย่าให้ช้าหรือเร็วเกินไป เมื่อกราบเสร็จแล้วพึงกลับมานั่งที่เดิม
    <O:p</O:p
    อาราธนาศีล<O:p</O:p
    เมื่อจุดธูปเทียนและมานั่งที่เดิมแล้ว ผู้มีหน้าที่อาราธนาศีลเริ่มอาราธนาทันที เมื่อพระให้ศีลจบ ก็ให้อาราธนาพระปริตรต่อไป<O:p</O:p
    จุดเทียนบาตรน้ำมนต์<O:p</O:p
    ตอนพระกำลังสวดมนต์ ให้ผู้ที่เป็นประธานนั่งอยู่ใกล้ๆ บาตรน้ำมนต์ พอพระสวดถึงบท
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post378627 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-11-2006, 10:21 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2170</TD></TR></TBODY></TABLE>
    จากหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    ลิขสิทธิ์ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    ผมนำเรื่องราวบางส่วนมาลงให้อ่านกันครับ


    กายทิพย์ - กายธรรม



    กายทิพย์สามารถมองเห็นได้ด้วยตาใน กล้องถ่ายภาพซึ่งใช้เลนส์ชนิดมีความไวเป็นพิเศษ บางครั้งสามารถถ่ายภาพกายทิพย์ได้ แต่ภาพนั้นจะเบลอไม่ชัดแบบมองเห็นด้วยตาใน ผู้ปฏิบัติทางจิตบางท่านสามารถถอดกายทิพย์ออกท่องเที่ยวหรือไปพบปะสนทนากันได้ กายทิพย์ของเทพพรหมหรือโอปปาติกะย่อมเป็นอัตโนมัติในตัวเอง เมื่ออินทรีย์พละแก่กล้าถึงระดับสามารถรวมพลังคลื่นรังสีจนเข้มข้นปรากฏในสภาพกายมนุษย์หยาบสูงกว่ากายทิพย์ เรียกว่า “อภิรูปวิญญาณ” ยังมีระดับชั้น คือ รับผัสสะได้กับรับไม่ได้ การรับผัสสะไม่ได้เป็นการถอดกายทิพย์หรือกายธรรมจากบุคคลที่ยังมีชีวิต เมื่อถอดกายออกจากร่างจะเกิดสายใยเส้นละเอียดมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โยงติดต่อกันหากมีผู้ไปสัมผัสเข้าสายใยจะขาดกายทิพย์จะไม่กลับคืนสู่ร่างเดิม จึงเป็นการเสี่ยงอยู่บ้าง ส่วนกายธรรมแบบพระโลกอุดรนั้น ท่านเป็นเพียงอทิสมานกาย ไม่มีตัวตน และที่พิสดารคือสามารถผัสสะจับต้องได้เช่นบุคคลธรรมดา หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็สามารถปรากฏกายธรรมได้เช่นกัน ฤาษี มุนี ดาบส ฌานลาภีบุคคล กระทำได้แต่ต้องตัวไม่ได้ โยคีในประเทศอินเดียบางรูปสามารถถอดกายธรรมไปสนทนากับโปรเฟสเซ่อร์ที่กรุงลอนดอนได้ พระคุณเจ้าธัมมะวิตตักโก สามารถถอดกายธรรมไปเยี่ยมสถานพยาบาลในประเทศยุโรปบางแห่งได้ ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาทางนี้มักจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าบรมครูพระเทพโลกอุดรยังมีชีวิตอยู่ เคยมีผู้เรียนถามท่าน ท่านบอกว่า “ทำไมโตปานนี้แล้วจึงโง่นัก หลวงปู่มีสภาพคล้ายฟองอากาศ แต่สามารถปรากฏกายธรรมได้ในคราวที่เห็นว่าจำเป็น ถ้าหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ มิเก่งไปกว่าพระพุทธองค์หรือ” ขอได้โปรดเข้าใจโดยทั่วกัน<O:p</O:p
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post383090 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">19-11-2006, 12:04 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2211 </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระปิดตาวังหน้า เนื้อผงคลุกรัก "ของดี" ที่มีค่าควรแสวงหา
    <O:p</O:p
    พระปิดตาวังหน้า เป็นพระปิดตาที่มีที่มาแน่นอน มีอายุประมาณ
    176 ปีคือสร้างเมื่อปีพ.ศ.2369 นับว่าเก่าพอสมควร เป็นพระปิดตายอดนิยมที่รู้จักกันแพร่หลายโดยทั่วไปในหมู่นักสะสมพระเครื่องรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อีกทั้งพระเครื่องก็มีจำนวนมากพอสมควรให้เช่าหากันได้อย่างทั่วถึงในงานประกวดพระฯก็ได้รับการบรรจุไว้ในรายการเสมอ บางงานถึงกับแยกพิมพ์ออกถึง 4 รายการ คือ พระปิดตาวังหน้า พิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก-พิมพ์ 2 หน้า-พิมพ์หน้าเดียว <O:p</O:p

    การพบพระกรุวังหน้าในปีพ.ศ.2477 ได้มีการผาติกรรมวัดบวรสถานสุทธาวาส หรือ วัดพระแก้ววังหน้า (คือบริเวณโรงละครแห่งชาติเชิงสะพานพระปิ่นเกล้าฯ ในปัจจุบัน) ภายใน วัดพระแก้ววังหน้ามีพระเจดีย์อยู่หลายองค์ เมื่อรื้อองค์พระเจดีย์ออกมาแล้วก็ได้พบพระเครื่องเนื้อดินเผา เนื้อชิน พระพุทธรูปบูชา และ พระปิดตา จำนวนมาก <O:p</O:p
    พระที่พบนี้เป็นพระเนื้อดินเผา แต่ละองค์มีขนาดใหญ่ ประมาณครึ่งฝ่ามือทำเป็นพิมพ์ครึ่งซีก เป็นพระพิมพ์ประจำวันต่าง ๆ มีพุทธลักษณะที่งดงามศิลปะทรงเครื่อง ยุคต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อได้ขนพระออกมาพระภิกษุบางวัดได้ขอไปติดตามผนังโบสถ์ หรือไม่ก็ได้นำไปแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหาที่วัดส่วนที่เหลือก็กองไว้ที่ โคนต้นสมอ ซึ่งปลูกเรียงรายตั้งแต่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า "พระโคนสมอ"ที่มีทั้งเนื้อชินและเนื้อดิน มีทั้งพิมพ์หน้าเดียวและ 2 หน้า <O:p</O:p
    กล่าวสำหรับ พระพิมพ์ปิดตา มีพิมพ์นิยมอยู่ 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ กับ พิมพ์เล็กมีทั้งพิมพ์หน้าเดียว และ 2 หน้า องค์พระจะมีสีน้ำตาลแก่จนถึงสีดำบางองค์จะมีทองเก่าปิดไว้ที่หน้าอกขององค์พระด้วย บางองค์ทาชาด (สีแดง)บางองค์มีคราบน้ำหมาก <O:p</O:p
    นอกจากนี้ยังมี พระปิดตา พิมพ์พิเศษ มีขนาดเล็กอยู่ในกรุอีกจำนวนเล็กน้อย เป็นพระปิดตาพิมพ์ลอยองค์ ขนาดเล็ก และพิมพ์กลีบบัวหลังยันต์นะ พระปิดตา กรุวัดพระแก้ววังหน้า เป็นเนื้อผงว่าน ผสมยางรักเพื่อให้มีความเหนียวแน่น น้ำหนักเบา และอาจจะมีผงใบลาน ที่แน่นอนต้องมี "ผงพุทธคุณ" ผสมอยู่ด้วย

    [​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระปิดตาวังหน้า เนื้อผงคลุกรัก "ของดี" ที่มีค่าควรแสวงหา (จบ)

    พระลักษณะ สร้างเป็น พิมพ์รูปไข่ หรือ พิมพ์เล็บมือ แม่พิมพ์แกะมาจากไม้สังเกตดูองค์ที่ชัด ๆ จะมีลายไม้ปรากฏอยู่ พระปิดตานี้จะมีอยู่ 3-4 พิมพ์แต่ก็มีเอกลักษณ์อย่างเดียวกันคือ เป็นรูป พระสังกัจจายนะ พุงป่องกลมบางองค์มีสะดือบุ๋ม ถ้าหากพิจารณาให้ดีๆจะเห็น"พุง"เป็นรูปหยดน้ำ หรือใบโพธิ์คว่ำพระเศียรกลม ไหล่ตั้งได้ฉาก มือทั้ง 2 ยกขึ้นปิดตา บางองค์ที่พิมพ์ได้ชัดเจนจะเห็นมือทั้ง 2 ข้าง นูนออกมาเหลื่อมกัน มือขวาสั้นกว่ามือซ้ายช่วงต้นแขนต่อจากไหล่อวบอ้วนดูล่ำสัน ช่วงลำแขนเรียว แขนทั้ง 2 บางพิมพ์บางองค์ก็จรดกันที่ปลายคาง คล้ายพนมมือแล้วเลยขึ้นปิดตา
    <O:p</O:p
    พระบางพิมพ์แขนทั้ง 2 จะห่างกันคล้ายเส้นขนานตั้งแต่ปลายคาง แล้วมาจรดกันเป็นรูป 3 เหลี่ยม ลักษณะกางศอกช่วงตัก ดูคล้ายนั่งโย่ง หรือนั่งด้วยหัวเข่าขาขัดไหว้เป็นสมาธิเพชร อยู่บนอาสนะฐานขีด 2 ชั้น องค์ที่เห็นชัด ๆจะปรากฏเป็นครอบแก้วชิดกับองค์พระ หรือจะตีความว่าเป็นซุ้มรัศมี หรือกำแพงแก้วก็ได้เป็นลักษณะของเกราะกำบังองค์พระอยู่ 1 ชั้น ขอบองค์พระด้านข้างจะมน ไม่มีรอยตัด <O:p</O:p
    ด้านหลัง บางองค์ทำเป็น 2 หน้าคล้ายกันบางองค์เป็นรอยมือกดเว้าเป็นแอ่งไม่เท่ากัน <O:p</O:p

    ผิวพรรณ ขององค์พระที่ลอยนูนเด่นขึ้นมาเมื่อถูกสัมผัสจะเป็นมันวาวตามซอกแขนขาจะปรากฏรอยย่นยุบตัวของว่าน คล้ายกับหนังช้าง บางองค์จะมีทองหรือชาด (สีแดง) ติดอยู่ประปราย องค์ที่ไม่ถูกสัมผัสจะมีฝ้ากรุคราบหินปูนคลุมอยู่บาง ๆและบางองค์จะมีคราบน้ำหมากอันเกิดมาจากการนำพระอมไว้ในปากของคนสมัยก่อนซึ่งนิยมกันมาก <O:p</O:p
    ขนาดองค์พระ พิมพ์ใหญ่ กว้าง 2.8 ซม. สูง 4 ซม. พิมพ์เล็ก กว้าง 2 ซม.สูง 3 ซม.พิมพ์เล็กจะหาได้ยากกว่าพิมพ์ใหญ่ เพราะมีขนาดกะทัดรัดน่ารักน่าใช้มาก <O:p</O:p
    จำนวนสร้าง ตอนสร้างไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนแต่ตอนที่แตกกรุออกมามีจำนวนหลายพันองค์นอกจากนี้ยังมีการพบพระบนเพดานพระอุโบสถวัดพระแก้ววังหน้าอีกจำนวนหลายพันองค์ <O:p</O:p
    พระพุทธคุณเป็นที่เชื่อถือกันในวงการพระเครื่องว่า พระปิดตา กรุวังหน้ามีความโดดเด่นทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลายและมีจำนวนเหมือนกันที่บอกว่า ดีทางโชคลาภ เพราะเอกลักษณ์ของพระปิดตา หรือพระสังกัจจายนะ (ซึ่งเป็นพระสาวกองค์เดียวกัน) คือความเป็นเลิศทางลาภสักการะและโชคลาภในทุกด้าน <O:p</O:p
    สนนราคาเช่าหา อยู่ในหลักพันต้น ๆ จนถึงพันปลาย ๆ ทั้งนี้แล้วแต่ความสวยงามคมชัดและความยากง่ายในการ พิจารณาองค์พระแท้พระปลอม...และโปรดอย่าลืม...พระทุกพิมพ์ทุกกรุเมื่อเป็นพระยอดนิยม มีคนสนใจเช่าหากันมาก ย่อมต้องมี "พระปลอม"ออกมาด้วย ผู้สนใจเช่าหาจึงต้องใคร่ครวญให้ดีถ้าไม่รู้จริงก็ต้องปรึกษาผู้ชำนาญการไว้ก่อน ...จะเป็นการปลอดภัยทั้งปวง <O:p</O:p
    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  9. Pichet-m

    Pichet-m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +393
    คุณ Sithiphong ครับ

    วันนี้ผมโอนเงินร่วมทำบุญแล้วนะครับ 9009 บาท
    วันจันทร์ ถ้าไม่ลืมจะ Scan สลิปมาโพสต์ให้ครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมจะส่งพระพิมพ์ให้ ก็ยังไม่ได้ส่งสักที อาทิตย์หน้าต้องส่งให้แน่นอน และต้องส่งให้ท่านอื่นด้วย อดใจรอนะครับ

    ต้องขอโทษเป็นอย่างสูงที่ส่งพระพิมพ์ให้ช้าครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อานิสงส์ที่เราเจริญพระกัมมัฏฐาน


    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->http://www.dhammathai.org/store/talk/view.php?No=289

    [​IMG]

    อานิสงส์ที่เราเจริญพระกัมมัฏฐาน
    หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

    อานิสงส์ที่เราเจริญพระกัมมัฏฐาน
    เราได้ของเราเองไม่ใช่คนอื่นได้
    กัมมัฏฐานทำคนให้ฉลาด ให้หลักความจริงใจ
    รู้จักชีวิตประจำวันว่า ควรทำอะไร
    ไม่ใช่ไปนั่งเพียงสวรรค์นิพพาน นั่งให้ญาณ ๑๖ เกิด
    กัมมัฏฐานทำให้คนรู้จักปรมัตธรรม
    ไม่หลงติดอยู่ในบัญญัติธรรม บัญญัติอารมณ์
    เพราะฉะนั้นอารมณ์ดี อารมณ์ร้ายสำคัญมาก
    ทำคนให้มีศีลธรรมและวัฒนธรรม อันดีงาม
    ทำคนให้รักใคร่กันสนิทสนมกลมเกลียวกัน
    เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
    เราทำกัมมัฏฐานนี้ แผ่เมตตาให้ศัตรูกลายเป็นมิตร
    ทำคนให้เมตตากรุณากัน และยินดีเมื่อคนอื่นเขาได้ดี
    ทำคนให้เป็นคน ให้ดีกว่าคน ให้เป็นพระใจประเสริฐ
    ทำคนไม่ให้เบียดเบียนกัน
    เว้นจากการเอารัดเอาเปรียบกัน
    ทำคนให้รู้จักตนเอง และรู้จักปกครองตนเอง
    ปกครองครอบครัวด้วย
    และทำให้เราเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย ไม่มีมานะ ทิฏฐิถือตัว
    ใครจะตักเตือนว่ากล่าว ก็จะไม่โกรธ
    ทำคนให้เป็นผู้หนักแน่น มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม
    ทำคนให้มีกายวาจาใจบริสุทธิ์
    เหมือนทองคำธรรมชาติที่หล่อหลอม
    ทำคนให้ได้รับความสุข
    กัมมัฏฐาน ทำให้เดินทางถูกต้อง
    ทำคนให้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นประโยสาร
    สามารถป้องกันภัยทางอบายภูมิได้
    คือ เปรตนรก อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน
    ไม่ต้องไปในภูมินั้นอีกต่อไป
    เป็นปัจจัยให้ได้พบมรรคผลนิพพานในชาติต่อไป
    ทำกิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง
    ทำให้มีใจสุขุมเยือกเย็น ทำให้เป็นผู้มีสติรอบคอบ
    ทำให้ความจำดีขึ้น ทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หายไป
    ทำให้ความเชื่อความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยดียิ่งขึ้น

    ความดีนั้นไม่ใช่จะได้มาอย่างง่ายดาย
    จะเอาเงินทองไปซื้อก็ไม่ได้ และทำแทนให้กันก็ไม่ได้
    ความดีนั้นกว่าจะได้มาแสนจะยาก
    ต้องทำด้วยความลำบากยากเย็นเข็ญใจ
    ชีวิตมนุษย์ มันขื่นขมไปหมด
    ไม่มีอะไรหวาน เป็นของดีที่หาได้ยาก
    ต่างคนต่างหามา เพราะฉะนั้นบุญบารมีของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน

    ที่มา : http://www.jarun.org

    ลูกโป่ง [DT02577] [ วันพุธ ที่ 26 กันยายน 2550 เวลา 11:52 น. ]

    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jaral.jpg
      jaral.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.9 KB
      เปิดดู:
      62
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    <TABLE class=tborder id=post726873 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>maiyasan<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_726873", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 06:29 PM
    วันที่สมัคร: Oct 2006
    ข้อความ: 118 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 342 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 1,388 ครั้ง ใน 112 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 162 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_726873 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->มัยสันต์
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มหาหิน [​IMG]
    ......................................................

    เอ.. หลวงปู่ฯ ท่าน เพียงพูดกับลูกศิษย์ ว่า....
    ท่านเป็น "วังหน้า องค์สุดท้าย"

    อย่างนี้ หมอฯ ว่า อย่างไร ครับ.

    ......................................................
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พี่มหาหิน ครับ
    ขออนุญาติ ตอบไปเลยนะครับ ว่าใช่แน่นอนครับ เป็นอดีตของหลวงปู่ฯท่าน พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ ต่อมา คือ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ซึ่งมีศักดิ์ เป็นพี่ชายของพระปิยมหาราช
    (หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า หลวงปู่วงศ์เป็นพี่ชายท่านไงครับ)

    ส่วนตัวผมเองนั้น เมื่อเกิดมีปัญหาใดๆ ก็ตามที่คิดไม่ตก ส่วนมากผมจะเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ(วังหน้า) และเดินภาวนาและไปเรื่อยๆๆ หลายครั้งมากครับ ซึ่งก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ ซึ่งบางครั้งเกิดปีติน้ำตาไหล บอกไม่ถูกครับ ที่นั่น
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง สัพพันตัง นิโรธธัมมันติ
    "สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงย่อมดับไปเป็นธรรมดา"
    <!-- / sig --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย maiyasan : 27-09-2007 เมื่อ 09:46 AM. เหตุผล: (เพิ่มเติม)
    <!-- / edit note --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("726873")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack -->[​IMG] <!-- End Post Groan Hack --></TD><TD><!-- Start Post Thank You Hack -->[​IMG] <!-- End Post Thank You Hack -->[​IMG] [​IMG] [​IMG] <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post 726873 popup menu -->
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>maiyasan</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ maiyasan</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ maiyasan</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>เพิ่ม maiyasan ในรายชื่อคู่หูของคุณ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / post 726873 popup menu --><!-- / close content container --><!-- / post #726873 --><!-- Start Post Thank You Hack --><SCRIPT type=text/javascript><!--function post_thanks_give_726873(){ fetch_object('post_thanks_button_726873').style.display = 'none' fetch_object('post_groan_button_726873').style.display = 'none' do_thanks_add = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_add.onreadystatechange(thanks_add_Done_726873) do_thanks_add.send('showthread.php?do=post_thanks_add_ajax&p=726873')}function thanks_add_Done_726873(){ if (do_thanks_add.handler.readyState == 4 && do_thanks_add.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_726873').innerHTML = do_thanks_add.handler.responseText }}function post_thanks_remove_all_726873(){ do_thanks_remove_all = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_remove_all.onreadystatechange(thanks_remove_all_Done_726873) do_thanks_remove_all.send('showthread.php?do=post_thanks_remove_all_ajax&p=726873') fetch_object('post_thanks_button_726873').style.display = '' fetch_object('post_groan_button_726873').style.display = '' }function thanks_remove_all_Done_726873(){ if (do_thanks_remove_all.handler.readyState == 4 && do_thanks_remove_all.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_726873').innerHTML = do_thanks_remove_all.handler.responseText }}function post_thanks_remove_user_726873(){ do_thanks_remove_user = new vB_AJAX_Handler(true) do_thanks_remove_user.onreadystatechange(thanks_remove_user_Done_726873) do_thanks_remove_user.send('showthread.php?do=post_thanks_remove_user_ajax&p=726873') fetch_object('post_thanks_button_726873').style.display = '' fetch_object('post_groan_button_726873').style.display = '' }function thanks_remove_user_Done_726873(){ if (do_thanks_remove_user.handler.readyState == 4 && do_thanks_remove_user.handler.status == 200) { fetch_object('post_thanks_box_726873').innerHTML = do_thanks_remove_user.handler.responseText }}//--></SCRIPT><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>สมาชิก 5 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ maiyasan ในข้อความที่เขียนด้านบน </TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>[​IMG] มหาหิน (วันนี้), Hma (วันนี้), Oldone (27-09-2007), pya (เมื่อวานนี้), soonram (เมื่อวานนี้) </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ข้อมูลจาหโพส ที่ 209 ของ....
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86093&page=11

    ...................................................................................
     
  16. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ในอดีต....

    ...................................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  17. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    [​IMG]

    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ในอดีต....

    .................................................................................................................​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2007
  18. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ maiyasan [​IMG]
    พี่มหาหิน ครับ
    ขออนุญาติ ตอบไปเลยนะครับ ว่าใช่แน่นอนครับ เป็นอดีตของหลวงปู่ฯท่าน พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ ต่อมา คือ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ซึ่งมีศักดิ์ เป็นพี่ชายของพระปิยมหาราช
    (หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า หลวงปู่วงศ์เป็นพี่ชายท่านไงครับ)

    ส่วนตัวผมเองนั้น เมื่อเกิดมีปัญหาใดๆ ก็ตามที่คิดไม่ตก ส่วนมากผมจะเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ(วังหน้า) และเดินภาวนาและไปเรื่อยๆๆ หลายครั้งมากครับ ซึ่งก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ ซึ่งบางครั้งเกิดปีติน้ำตาไหล บอกไม่ถูกครับ ที่นั่น
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ..................................................................................

    จากโพส ที่ 10219

    พี่มหาหิน ครับ
    ขออนุญาติ ตอบไปเลยนะครับ ว่าใช่แน่นอนครับ เป็นอดีตของหลวงปู่ฯท่าน พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ ต่อมา คือ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ซึ่งมีศักดิ์ เป็นพี่ชายของพระปิยมหาราช
    (หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า หลวงปู่วงศ์เป็นพี่ชายท่านไงครับ)

    .....................................................................................

    เอ.. แล้วยังนี้ วังหน้าวิชัยชาญ ก็ คือ หลวงปู่ฯ....
    แล้ว พระปิยะมหาราช อยู่ที่ไหน ครับ นี่....

    ...................................................................................
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, chaipat, narongwate </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เช้านี้มีแต่สมาชิกรุ่นเล็ก อายุต่ำกว่า 25ปีทั้งนั้นเลยผมก็ด้วยครับ(b-deejai)
    nongnooo...
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ noi [​IMG]
    ใช่หลวงปู่หรือเปล่าครับ <TABLE width="20%" align=right border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ วังหน้าในรัชกาลที่ ๕ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มหาหิน [​IMG]
    ......................................................

    เอ.. หลวงปู่ฯ ท่าน เพียงพูดกับลูกศิษย์ ว่า....
    ท่านเป็น "วังหน้า องค์สุดท้าย"

    อย่างนี้ หมอฯ ว่า อย่างไร ครับ.

    ......................................................
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post726873 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>maiyasan<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_726873", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 06:29 PM
    วันที่สมัคร: Oct 2006
    ข้อความ: 118 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 342 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 1,388 ครั้ง ใน 112 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 162 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_726873 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->มัยสันต์
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มหาหิน [​IMG]
    ......................................................

    เอ.. หลวงปู่ฯ ท่าน เพียงพูดกับลูกศิษย์ ว่า....
    ท่านเป็น "วังหน้า องค์สุดท้าย"

    อย่างนี้ หมอฯ ว่า อย่างไร ครับ.

    ......................................................
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พี่มหาหิน ครับ
    ขออนุญาติ ตอบไปเลยนะครับ ว่าใช่แน่นอนครับ เป็นอดีตของหลวงปู่ฯท่าน พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ ต่อมา คือ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ซึ่งมีศักดิ์ เป็นพี่ชายของพระปิยมหาราช
    (หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า หลวงปู่วงศ์เป็นพี่ชายท่านไงครับ)

    ส่วนตัวผมเองนั้น เมื่อเกิดมีปัญหาใดๆ ก็ตามที่คิดไม่ตก ส่วนมากผมจะเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ(วังหน้า) และเดินภาวนาและไปเรื่อยๆๆ หลายครั้งมากครับ ซึ่งก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ ซึ่งบางครั้งเกิดปีติน้ำตาไหล บอกไม่ถูกครับ ที่นั่น
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เรียนคุณมหาหิน ,พี่ๆ ,เพื่อนๆ และน้องๆทุกท่าน

    รูปที่วาดนั้น น่าจะเป็นน้องชายของรัชกาลที่ 5 (เป็นองค์ที่รัชกาลที่ 5 ท่านรักและห่วงใยมากที่สุด)

    องค์กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ปัจจุบันพระองค์ท่านเป็นครูฝึกของคณะพระโลกอุดร พระองค์ท่านยังไม่มรณภาพจริง อายุของพระองค์ท่าน ประมาณ 150 ปีแล้วครับ เป็นองค์ที่ผมได้พบ ได้เห็นด้วยตาเนื้อ และมีพระกับฆารวาส รับรองการที่ผมได้พบ ได้เห็น ได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ

    ในเรื่องนี้จะเชื่อหรือไม่ ก็แล้วแต่นะครับ แต่ขอยืนยันข้อมูลนี้ครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...